ผู้เขียน หัวข้อ: George, who Celebrates Adha Eid : จอร์จ ชายผู้ทำการเฉลิมฉลองในวันอีดิ้ลอัฎฮา  (อ่าน 1581 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ a d n a n

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 698
  • เพศ: ชาย
  • "และคำพูดที่ดี เป็นซอดาเกาะฮฺ" (บุคอรียฺ , มุสลิม)
  • Respect: +13
    • ดูรายละเอียด

ที่มา FW จากน้องโรงเรียนคนหนึ่ง (มีแง่คิด) บางท่านอาจจะอ่านกันมาบ้างแล้ว.....


ต้นฉบับของเรื่องนี้เป็นภาษาอาหรับและถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกทีหนึ่งโดยพี่น้องของเรา
George, who Celebrates Adha Eid.. Must Read..
http://www.facebook.com/notes.php?id=154407627805


จอร์จ ชายชาวอเมริกา วัย 50 อาศัยอยู่กับภรรยา ลูกชาย และลูกสาว ในเมืองวอชิงตัน ประเทศอเมริกา

เมื่อเดือนซุลฮิจญะฮฺใกล้เข้ามาถึง จอร์จก็เริ่มหาข้อมูลว่าเดือนซุลฮิจญะฮฺจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่  เขาจึงติดตามดูข่าวสารจากโทรทัศน์ ส่วนภรรยาของเขาก็ติดตามดูผลผ่านทางสถานีวิทยุ และลูกชายของเขาก็ค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตโดยตรวจสอบจากเวปไซท์อิสลามต่างๆ

เมื่อพวกเขาทราบแน่ชัดแล้วว่าเดือนซุลฮิจญะฮฺจะเริ่มเมื่อไร พวกเขาต่างก็เตรียมตัวต้อนรับกับวันอีดิ้ลอัฎฮาซึ่งเป็นวันที่สิบของเดือนซุลฮิจญะฮฺ

วันรุ่งขึ้น พวกเขาจึงออกไปตลาดหาซื้อแกะ (ตามบทบัญญัติของอิสลาม) เพื่อทำการเชือดในวันอีด

จากนั้นพวกเขาก็นำแกะขึ้นรถ และระหว่างทางกลับบ้าน ลูกสาวคนเล็กก็แสดงความดีใจที่จะได้เฉลิมฉลองในวันอีด เธอรู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นที่จะได้สวมชุดใหม่และออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ในวันนั้น  เธอปรารถนาให้ทุกๆ วันเป็นวันอีด

เมื่อพวกเขาถึงบ้าน ภรรยาของจอร์จก็บอกกับเขาว่า “ฉันเคยอ่านบทความเกี่ยวกับการทำกุรบานมาว่า เราควรที่จะเชือดสัตว์แบ่งออกเป็นสามส่วน (เพราะเป็นสุนนะฮฺของศาสนทูตมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะศัลลัม) เราต้องบริจาคส่วนหนึ่งให้กับคนยากจน และส่วนที่สองให้กับเพื่อนบ้าน (อลิซาเบท เดวิท และมาร์ค) และส่วนที่สามก็เก็บไว้ทานเอง”

เมื่อวันอีดมาถึง พวกเขาก็เกิดความสับสนเกี่ยวกับทิศของกิบลัต พวกเขาจึงคาดเดากันเองว่ามันคงจะเป็นทิศที่ตรงไปยังกะบะฮ์ จากนั้นจอร์จก็นำมีดออกมา และจับตัวแกะหันไปทางกิบลัตและทำการเชือดมัน จากนั้นภรรยาของเขาก็รีบหั่นแกะออกเป็นสามส่วนตามที่ได้ตกลงกันไว้

ทันใดนั้นเอง จอร์จก็นึกบางอย่างขึ้นได้ และตะโกนออกมาว่า “โอ้ยยย นี่เราสายกันแล้ว วันนี้เป็นวันอาทิตย์  เราจะพลาดการทำพิธีศีลมหาสนิทที่โบสถ์กันในวันอาทิตย์หรือนี่” 

จอร์จเป็นคริสเตียนที่มีความเคร่งครัดและเขามักจะพาภรรยาและลูกๆ ไปที่โบสถ์กับเขาเสมอ
----------------------------------------------------------------------------

เมื่ออะหมัดเล่าเรื่องของจอร์จจบ

ผู้ชายคนหนึ่งจากกลุ่มผู้ฟังก็ร้องตะโกนขึ้นมาว่า “อะหมัด คุณทำให้เราสับสน สรุปแล้วจอร์จเป็นมุสลิม หรือคริสเตียนกันแน่”

อะหมัดจึงตอบว่า “จอร์จเป็นคริสเตียน เขามีความเชื่อว่าพระเจ้านั้นมีสามภาค และเขาไม่ได้มีความเชื่อต่อศาสนทูตมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะศัลลัม ว่าท่านเป็นศาสนทูตคนสุดท้าย"

จากนั้นก็มีเสียงโต้ตอบจากกลุ่มผู้ฟังกล่าวว่า “อะหมัด คุณอย่ามาโกหกเราหน่อยเลย ใครจะเชื่อว่าจอร์จและครอบครัวเขาจะทำแบบนั้น คริสเตียนจะมาทำพิธีกรรมของมุสลิมได้ยังไง อีกอย่างคริสเตียนก็คงจะไม่มาตั้งตารอเดือนซุลฮิจจะฮฺ หรือซื้อแกะเพื่อนำไปเชือดหรอกนะ…”

อะหมัดยิ้มที่มุมปากอย่างประชดประชัน และกล่าวว่า “พี่น้องที่รักทั้งหลาย ทำไมพวกคุณจึงไม่เชื่อในเรื่องที่ผมเล่าไปหละ ทำไมคุณไม่เชื่อว่าจะมีครอบครัวคริสเตียนที่ทำอะไรแบบนั้น ในชุมชมมุสลิมของเราเอง เช่นอับดุลลอฮฺ มูฮัมมัด คอลิด คอดิญะฮฺ หรือฟาติมา พวกเขาต่างก็ทำการเฉลิมฉลองในวันเทศกาลของคริสเตียนและของยิว แล้วพวกเราไม่ได้เฉลิมฉลองวันปีใหม่ วันคริสมาสต์ วันวาเลนท์ไทน์ วันฮาโลวีน วันอีสเตอร์ อย่างนั้นเหรอ?”

“จอร์จเขาก็เป็นคริสเตียนคนหนึ่งที่เฉลิมฉลองวันอีดของเรา ทำไมพวกคุณถึงไม่เชื่อหละ ทำไมพวกคุณถึงไม่ยอมรับและปฏิเสธการกระทำของจอร์จ แล้วทำไมเราถึงไม่ปฏิเสธการกระทำของเราบ้าง??”

จากนั้น อะหมัดจึงกล่าวว่า “ผม ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามานานกว่าสิบปีแล้ว และผมขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺว่า ผมไม่เคยเห็นคริสเตียนหรือยิวคนไหนที่ทำการเฉลิมฉลองใดๆ ในวันอีดของเรา ผมไม่เคยได้ยินใครสักคนถามเราเกี่ยวกับวันเหล่านั้น หรือแม้แต่เวลาที่ผมชวนพวกเขาให้มาเฉลิมฉลองวันอีดิ้ลฟิฎรี่ที่อพาร์ทเม้นท์ ผม ก็ไม่เห็นมีใครสักคนมาเข้าร่วม เพราะเขารู้ว่ามันเป็นวันเฉลิมฉลองของมุสลิม” 

“ผมได้เห็นสิ่งเหล่านี้ในประเทศตะวันตก และเมื่อผมกลับไปที่ประเทศมุสลิมอันเป็นบ้านเกิดของผม ผมกลับพบว่าพี่น้องมุสลิมของผมต่างทำการเฉลิมฉลองวันเทศกาลของชาวคริสและชาวยิว”

“แล้วผมควรทำอย่างไร นอกไปจากการกล่าวว่า ไม่มีอำนาจใดและไม่มีสิ่งอื่นใดที่ยิ่งใหญ่มากไปกว่าอัลลอฮฺ”

لا حولَ ولا قوَّة إلاَّ بالله
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 24, 2009, 01:20 PM โดย a d n a n »
หากมาอย่าง " ผึ้ง " ก็จะได้ ~o น้ำหวาน o~ กลับไป oOo หากมาอย่าง " แมลงวัน " ก็จะไม่ได้อะไร นอกจาก

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
 salam

เมื่อเช้านี้มาทำงานสาย เพราะเทศบาลปิดถนนที่เคยเป็นหนทางสัญจรประจำบางสาย นำเอาอาคารสีขาว ๆ ตัวอาคารเป็นไวนิล รูปโดม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เมตร มาตั้ง

มีป้ายประกาศว่า ปีใหม่นี้ หิมะจะตกที่นี่ โดยกำหนดจะจัดงานตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ไปจนถึง 2 มกราคม มีการตั้งต้นคริสต์มาสไว้และจะมีการ count down ในวันที่ 31 ค่ำลงด้วย

ตั้งใจจะเข้าไปชมเสียหน่อยว่า หิมะนี่หน้าตามันเป็นยังไง พออ่านบทความนี้เลยเปลี่ยนใจซะแล้ว อดดูหิมะเลยเรา ไว้ไปดูที่อียิปต์แล้วกัน เห็นเขาเล่าว่า มีหิมะตกด้วยเหมียนกัน

والسلام

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
มาโพสต์ ไวจริงแท้   ;D

ญาซากัลลอฮ คับ
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
น่าจะรอโพสหลังปีใหม่นะ ขัดใจจริง
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ผมเเองก็ยังงงๆว่าร้านค้าในอียิปหลายๆร้านมี สีแดง เซนตาคลอสเต็มไปหมด

นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

 

GoogleTagged