ผู้เขียน หัวข้อ: คุฏบะฮฺมัสญิดอัรฺ-ริฎวาน(นานา) วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๒  (อ่าน 1886 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

เลี้ยงชีพด้วยปัจจัยที่หะลาล


พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮฺด้วยการปฏิบัติความดีและละเว้นความชั่วอย่างจริงจัง และท่านทั้งหลายจงอย่าได้ตายจนกว่าท่าน

จะยอมจำนนต่ออัลอิสลามโดยสิ้นเชิง

   พี่น้องครับ อัลลอฮฺตะอาลาดำรัสในอัลกุรฺอานสูเราะฮฺอัลอิสรออ์ อายะฮฺที่ 70 ว่า

   
    “และแน่นอนเราได้ให้เกียรติแก่ลูกหลานของอาดัม และเราได้บรรทุกพวกเขาทั้งทางบกและทางทะเล และได้ให้ปัจจัยยังชีพที่ดี

ทั้งหลายแก่พวกเขา และเราได้ให้พวกเขาดีเด่นอย่างมีเกียรติเหนือกว่าผู้ที่เราได้ให้บังเกิดมาเป็นส่วนใหญ่”

                                  อัลอิสรออ์ 17 : 70[/center]
      
   
    จากอายะฮฺนี้ อัลลอฮฺได้ทรงแจ้งว่า ในบรรดาสิ่งต่าง ๆ (ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต)ที่พระองค์ ทรงให้บังเกิดมาในโลกนี้ ลูกหลานของอาดัม

 (คือ มนุษยชาติทั้งหลาย)ได้รับเกียรติจากอัลลอฮฺตะอาลามากที่สุด พระองค์ทรงประทานสติปัญญาวิชาความรู้ความสามารถในการสื่อสารระหว่าง

กัน ความสามารถในการใช้สมองที่จะคิดค้นสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่เผ่าพันธุ์ของตน ไม่ว่าจะเป็นการหาอาหาร การผลิตอาหารเครื่องนุ่งห่ม

เครื่องอำนวยความสะดวก ยานพาหนะทั้งที่เป็นสัตว์ และที่เป็นสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเดินทาง ทางบกและทางน้ำ แม้กระทั่งทางอากาศ ในขณะที่

สิ่งมีชีวิตอื่นทำไม่ได้
 
   ประการหนึ่งที่พระองค์ทรงดำรัสไว้ในอายะฮฺนี้ก็คือ พระองค์ได้ให้ความสามารถในการแสวงหาปัจจัยยังชีพที่ดีแก่มนุษย์ หน้าที่ของมนุษย์ก็

คือ เมื่ออัลลอฮฺให้เรามีเกียรติเหนือสิ่งมีชีวิตอื่น เราก็ต้องทำตัวให้สมเกียรติที่เราได้รับ ต้องใช้ความสามารถของตัวเองหาปัจจัยยังชีพที่ดี ที่ถูกต้อง

ไม่เบียดเบียนผู้อื่น แสวงหาอาชีพที่สุจริต เช่นการทำเกษตรกรรม การปลูกพืช ทำนา ทำสวน ทำไร่ การเลี้ยงสัตว์ การประมง รวมทั้งการงานที่เป็น

วิชาชีพอื่น ๆ ถ้าทำงานรับจ้าง ก็เป็นลูกจ้างที่ซื่อสัตย์ต่อนายจ้าง ในขณะที่ถ้าเป็นนายจ้างก็ต้องซื่อตรงต่อลูกจ้าง จ่ายค่าจ้างทันที ครบถ้วนและตรง

เวลาตามที่ตกลงกันไว้ ถ้าทำการค้าขายก็ต้องแสวงหากำไรอย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ขูดรีดเพื่อนมนุษย์ด้วยการค้ากำไรเกินควร ค้าขายแบบ

หลอกลวง เอาของเสียมาขายเป็นของดี หรือเอาของมีตำหนิ มาขายเป็นของที่บอกว่าคุณภาพเยี่ยม หรือใช้ระบบดอกเบี้ยในการเพิ่มเงินของ

ตนเอง เพื่อนำมาเลี้ยงชีพ ในรูปแบบของการทำนาบนหลังคน
 
    ที่จริงแล้วปัจจัยยังชีพต่าง ๆ ของแต่ละบุคคลนั้น อัลลอฮฺได้ทรงกำหนดไว้แล้วพระองค์จะประทานมาให้เหมาะสมกับความพยายามในการ

แสวงหาของมนุษย์ในแต่ละช่วงเวลา บางคนได้มาแล้วใช้อย่างเหมาะสม มีความพอใจในริซกีที่ได้รับ รู้จักพอเพียงจิตใจก็สงบ ไม่หงุดหงิดงุ่นง่าน

 เกิดความอยากได้อะไรต่ออะไรที่เกินความจำเป็นแก่ฐานะของตน บางคนได้มาแล้วใช้ไม่บันยะบันยัง หรือเกิดความต้องการริซกีเร่งด่วน ก็

อาจทำให้ไม่พอเพียง จึงแสวงหาริซกีหรือปัจจัยยังชีพด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง

   ประมาณ 1 สัปดาห์นี้ มีข่าวปรากฏทั้งทางหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ว่า มีคนหาริซกีด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสมและมีผลกระทบต่อคนอื่น

 หลายข่าวติด ๆ กัน จึงนำมาเสนอให้กับพี่น้องได้รับทราบ และพิจารณาว่า สิ่งเหล่านี้ อิสลามไม่ยอมรับ และถือเป็นความผิด

   ข่าวแรก เกิดที่จังหวัดอุดรธานี ตำรวจบุกจับแก๊งปล่อยกู้ 4 แก๊ง มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ตามที่กฎหมาย

อนุญาต มีสัญญาถูกต้อง แต่มีการเรียกเก็บค่าบริการต่าง ๆ นอกสัญญา เช่น ค่าเปิดปากถุง ค่าน้ำมันรถที่ตามเก็บหรือตามทวงหนี้ เฉลี่ยแล้วคิดเป็น

ดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยตามเก็บเป็นรายวัน ถ้าเงินลูกหนี้ขาดมือ ก็จะใช้ความรุนแรงจัดการและเพิ่มยอดเงินต้นทันที  กรณีเช่นนี้สำหรับ

อิสลาม เจ้าหนี้ผิดทุกกรณี คือ ปล่อยกู้เอาดอกเบี้ยทบทวีคูณ และไม่ผ่อนผันแก่ลูกหนี้ที่มีอุปสรรคในการชำระเงิน ส่วนลูกหนี้อาจผิดหรือไม่ผิดก็ได้

ถ้ากู้เงินเพราะความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีพ หาแหล่งเงินกู้ที่ไม่คิดดอกเบี้ยไม่ได้ การกู้ ก็ถือเป็นความจำเป็นแต่ถ้ากู้ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น

ลูกหนี้ก็ผิดด้วย

   อีกข่าวหนึ่ง นักธุรกิจหญิง นำเงิน 4 ล้านบาทไปฝากธนาคารซึ่งเป็นแหล่งรับฝากเงินที่คนทั่วไปเชื่อว่าไว้ใจได้ เมื่อจำเป็นต้องใช้เงินจึงไปขอ

ถอน ปรากฏว่าถอนไม่ได้เพราะพนักงานธนาคารยักยอกเงินออกจากบัญชีนักธุรกิจคนนั้นไปเข้าบัญชีตัวเอง ธนาคารอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการทาง

คดี จึงไม่ยอมจ่ายเงินที่ลูกค้าถอน ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของลูกค้า ความผิดเป็นของพนักงานธนาคารในการโกงเงินลูกค้า และเป็นความผิดของ

ธนาคารที่ไม่รักษาสัญญาในการรับฝากเงิน

   ข่าวสุดท้ายเพิ่งได้ดูทางโทรทัศน์เมื่อ 2 วันก่อนนี้เอง นักบวชในศาสนาติดการพนันฟุตบอล หาทรัพย์ด้วยการเล่นพนันแต่เสียทรัพย์ ยักยอก

เงินของศาสนสถานไปกว่า3 ล้านบาท จนถูกปลดให้พ้นสภาพการเป็นนักบวช พิจารณาตามหลักการอิสลามก็คือผิดในแง่ของการเล่นพนันและผิดใน

แง่นำเอาทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของตนมาใช้ สิ่งที่ได้รับผลกระทบก็คือ ศาสนสถานขาดเงินในการดำเนินงานส่งผลเสียแก่สมาชิกของศาสนสถานนั้น ๆ

กรณีนี้ไม่ได้พิจารณาว่าเป็นเรื่องของศาสนาใด แต่พิจารณาว่า ในการหาปัจจัยยังชีพของนักบวชผู้นี้ ผิดหลักการของศาสนาทุกศาสนาอย่างแน่นอน

   เล่าเรื่องเหล่านี้ให้พี่น้องฟังเพราะได้อ่านพบคำสอนของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่า


يَاأَيُّهَاالنَّاسُ اتَّقُوااللهَ وَاجْمِلُوْافِى اطَّلَبِ فَإِنَّ نَفْسًا لَنْ تَمُوْتَ حَتَّى تَسْتَوْ فْيَ  رِزْقَهَا

وَإِنْ أَبْظَأَ عَنْهَا فَأتَّقُوااللهَ وَاجْمِلُوْافِى الطَّلَبِ خُذُوْامَاحَلَّ وَدَعُوْامَاحَرَّمَ
   
    “มนุษย์ทั้งหลาย พวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และจงทำให้สวยงามในการแสวงหาเถิด แท้จริงแต่ละชีวิตจะยังไม่ตาย จนกว่าชีวิต

นั้นจะได้รับปัจจัยยังชีพ(ริซกี)อย่างครบถ้วน และถ้าหากปัจจัยยังชีพมาถึงล่าช้า พวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และจงทำให้สวยงามใน

การแสวงหาเถิด พวกท่านจงเอาแต่สิ่งที่หะลาลและจงทิ้งสิ่งที่หะรอม”            อิบนุมาญะฮฺจากญาบิรฺ

   คำสอนนี้ของท่านนะบียฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กำชับไว้อย่างชัดเจนว่าการแสวงหาปัจจัยยังชีพของมุสลิมนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐาน

ของความยำเกรงต่ออัลลอฮฺตะอาลา คือต้องทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามหลักการของอิสลาม เพราะมุสลิมต้อง-อิอฺติกอต-ยึดมั่น

ศรัทธาในกฎสภาวการณ์ของอัลลอฮฺว่า ริซกีต่าง ๆ ของเขานั้นถูกกำหนดทั้งจำนวนและวาระมาแล้วจากอัลลอฮฺ ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีใดในการแสวงหา

จะถูกหรือผิดหลักการ ริซกีก็เท่าเดิมตามที่กำหนดไว้ ซึ่งไม่มีโอกาสรู้ว่าเป็นจำนวนเท่าไร หรือ จะได้รับเมื่อใด ดังนั้น ต้องใช้ความถูกต้องสวยงาม

ในการดำเนินชีวิต เพราะถึงจะใช้วิธีที่ผิดหลักศาสนา ริซกีก็จะไม่งอกเงยมากไปกว่าที่อัลลอฮฺทรงกำหนดไว้ ถ้าใช้วิธีที่ผิดหลักศาสนา แม้จะได้

ริซกีมามากหรือมาเร็ว แต่จะต้องได้รับการสอบสวนและลงโทษในอาคิเราะฮฺ

   ในบางช่วงของชีวิตที่ปัจจัยยังชีพขาดแคลนจากการที่อัลลอฮฺทรงทดสอบความอดทนและความมานะพยายามของเรา เราต้องใช้ความ

พยายามในการแสวงหาให้มากขึ้นตามกำลังความสามารถ อย่าไปมองหาวิธีที่ขัดหลักศาสนา

   บางคนยอมทำผิดด้วยการปล่อยเงินกู้หาผลประโยชน์จากดอกเบี้ย

   บางคนยอมขายของหะรอม ขายเครื่องดื่มมึนเมา ขายยาเสพติดให้โทษ

   บางคนคิดร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยการตีชิงวิ่งราว คดโกง ขโมย หรือปล้นสะดมจากผู้อื่น

   จริงอยู่ วิธีการเหล่านี้อาจได้ทรัพย์สินมาโดยง่ายหรือรวดเร็ว แต่ไม่มีความจำเริญไม่มีบะเราะกะฮฺ นำไปบริโภคก็ก่อให้เกิดเนื้อหนังมังสาที่

กลายเป็นเชื้อเพลิงของไฟนรก

   คำสอนนี้ไม่ได้สอนให้มุสลิมเฉื่อยชาในการดำเนินชีวิต แต่เป็นคำสอนที่ให้มุสลิมได้รู้จักมีความพอเพียงในการแสวงหา คือให้เชื่อมั่นในริซกี

ที่ได้รับจากอัลลอฮฺทำมาหากินด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เหมาะสม ไม่คำนึงเฉพาะประโยชน์ในดุนยาเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึงผลประโยชน์ในอาคิ

เราะฮฺ การงานใดที่ทำให้มีรายได้สูง แต่ก่อให้เกิดเฉพาะความสุขในดุนยา ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติศาสนกิจเพื่ออาคิเราะฮฺ การงานนั้นก็ไม่

เหมาะสมกับมุสลิม

   ท่านเราะสูลจึงกำชับไว้ในหะดีษนี้ว่า
 
    “และถ้าหากปัจจัยยังชีพมาถึงล่าช้า พวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และจงทำให้สวยงามในการแสวงหาเถิด พวกท่านจงเอาแต่สิ่งที่หะลาลและ

จงทิ้งสิ่งที่หะรอม”

   พี่น้องดูตัวอย่างจากข่าวที่นำมาฝาก ก็จะเห็นว่า ถ้าเรารีบร้อนที่จะแสวงหาปัจจัยยังชีพโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง นอกจากแน่ใจได้ว่า จะถูก

ลงโทษในอาคิเราะฮฺ ในโลกนี้ก็มีโอกาสจะประสบกับหายนะ ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนชั่ว คนเลว คนโกงและต้องได้รับโทษในโลกดุนยาอีกกระทง

หนึ่งด้วย




คัดลอกจากเอกสารเผยแพร่ของมัสญิด อัรฺ-ริฎวาน(นานา) โดย Bangmud เมื่อ 2 มกราคม 2553
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 12, 2010, 10:57 PM โดย Bangmud »

 

GoogleTagged