ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)  (อ่าน 25216 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ม.ค. 22, 2010, 10:56 PM »
0
 salam

นำเสนออายะฮฺที่ 26-27 ต่อครับ

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 26-27


 
คำอ่าน
26. อิน..นัลลอฮะ ลายัสตะหฺยี อัย..ยัฎริบะ มะสะลัม..มาบะอูเฎาะตัน..ฟะมาเฟาเกาะฮา,
ฟะอัม..มัลละซีนะอามะนู ฟะยะอฺละมูนะ อัน..นะฮุลหักกุมิรฺร็อบบิฮิม,
วะอัม..มัลละซีนะกะฟะรู ฟะยะกูลูนะมาซาอะรอดัลลอฮุบิฮาซามะษะลา,
ยุฎิลลุบิฮีกะษีร็อวฺ วะยะฮฺดีบิฮี กะษีรอ, วะมายุฎิลลุบิฮี อิลลัลฟาสิกีน.


คำแปล R1.
26. Verily, Allah is not ashamed to set forth a parable even of a mosquito or so much more when it is bigger (or less when it is smaller) than it. And as for those who believe, they know that it is the truth from their Lord, but as for those who disbelieve, they say: "What did Allah intend by this parable?" by it He misleads many, and many He guides thereby. And He misleads thereby only those who are Al-Fasiqun (the rebellious, disobedient to Allah).

คำแปล R2.
26. แท้จริงอัลเลาะฮฺไม่ละอายต่อการที่จะยกอุทาหรณ์ใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพียง (อุทาหรณ์ที่เล็กขนาด) ยุงหรือที่ (เล็ก) เหนือกว่ามันก็ตาม อันผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเขาต่างรู้ดีว่าอุทาหรณ์นั้น เป็นสัจธรรมแห่งองค์อภิบาลของพวกเขา และส่วนมวลผู้ปฏิเสธ พวกเขาต่างพากันพูดว่า อันใดหนอที่อัลเลาะฮฺประสงค์ (จะให้บังเกิดเป็นมรรคผล) กับอุทาหรณ์นี้ โดยอุทาหรณ์ดังกล่าว พระองค์ทำให้คนส่วนมากหลงผิด และทรงชี้นำแก่คนส่วนมาก (ให้เข้าใจถูกต้องตามพระประสงค์ของพระองค์) และพระองค์ไม่ทรงให้สิ่งนั้นทำความหลงผิด (แก่กลุ่มชนอื่นใดทั้งสิ้น) นอกจากบรรดาผู้ชั่วร้ายเท่านั้น

คำแปล R3.
26. แท้จริงอัลลอฮฺมิทรงละอายที่จะยกการเปรียบเทียบของตัวริ้นหรือบางสิ่งที่ด้อยความสำคัญยิ่งกว่านั้น สำหรับบรรดาผู้ศรัทธา พวกเขารู้จากการเปรียบเทียบเดียวกันนี้ว่ามันเป็นสัจธรรมจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา แต่บรรดาผู้ปฏิเสธกล่าวว่า “อัลลอฮฺหมายความว่าอย่างไรโดยการเปรียบเทียบนี้?” อัลลอฮฺทรงปล่อยให้หลายคนหลงทางและทรงนำทางหลายคนสู่หนทางที่ถูกต้องโดยสิ่งเดียวกันนี้ แต่พระองค์มิได้ทรงปล่อยให้ผู้ใดหลงนอกจากผู้ฝ่าฝืน

คำแปล R4.
26. แท้จริงอัลลอฮฺไม่ทรง ละอาย ในการที่ระองค์จะทรงยกอุทาหรณ์ใด ๆ ขึ้นเปรียบเทียบไม่ว่าจะเป็นริ้นสักตัวหนึ่งแล้วก็สิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นก็ ตาม ส่วนบรรดาผู้ที่ศรัทธานั้นพวกเขาย่อมรู้ว่าแท้จริงมันคือ ความจริงที่มาจากพระเจ้าของพวกเขา และส่วนบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธานั้นพวกเขาจะพูดว่า อัลลอฮฺทรงประสงค์สิ่งใดในการยกอุทาหรณ์ด้วยสิ่งนี้ ? พระองค์ทรงให้คนมากมายหลงผิดด้วยอุทาหรณ์นั้น และทรงแนะนำทางที่ถูกต้องแก่คนมากมายด้วยอุทาหรณ์นั้น และพระองค์จะไม่ทรงให้ใครหลงผิดด้วยอุทาหรณ์นั้นนอกจากผู้ที่ฝ่าฝืนเท่านั้น

คำแปล R5.
๒๖. แท้จริงอัลเลาะห์ไม่ทรงละอายที่จะยกเอาสัตว์ซึ่งเล็กที่สุด เช่น ริ้น และสัตว์ที่โตกว่านั้นให้เป็นข้อเปรียบเทียบ อัลเลาะห์ทรงมีเคล็ดลับเฉพาะพระองค์ในเรื่องนี้
อันว่าพวกที่ศรัทธาว่า อัล-กุรอานมาแต่อัลเลาะห์นั้น ย่อมจะทราบดีว่าข้อเปรียบเทียบนั้นเป็นความรู้, ความลับและคุณประโยชน์ที่สูงส่ง มาจากองค์อภิบาลแห่งพวกเขา ส่วนพวกที่ไม่ศรัทธาว่าอัล-กุรอานมาจากอัลเลาะห์ ก็จะกล่าวว่าอัลเลาะห์ไม่ทรงปรารถนาข้อเปรียบเทียบนี้หรอก เพราะมันไม่มีประโยชน์อันใด
พระองค์ยังความผิดพลาดจากอัล-กุรอานแก่มนุษย์ส่วนมากด้วยข้อเปรียบเทียบนั้น เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าข้อเปรียบเทียบนั้นเป็นคำดำรัสของอัลเลาะห์ และทรงให้ความเที่ยงอยู่กับอัล-กุรอานแก่มนุษย์ส่วนมากด้วยข้อเปรียบเทียบนั้น เพราะพวกเขายอมรับว่า ข้อเปรียบเทียบนั้นเป็นคำดำรัสของพระองค์ แต่พระองค์จะไม่ทรงให้ความผิดพลาดดังกล่าวด้วยข้อเปรียบเทียบนั้นแก่ใคร เว้นไว้เฉพาะพวกกาฟิรเท่านั้น

 


คำอ่าน
27. อัลละซีนะยัน..กุฎูนะอะฮฺดัลลอฮฺ มิม..บะอฺดิมีษากิฮฺ , วะยักเฏาะอูนะมาอะมะร็อลลอฮุบิฮี อัย..ยูเศาะละ วะยุฟสิดูนะฟิรอัรฎฺ , อุลา..อิกะฮุมมุลคอสิรูน

คำแปล R1.
27. Those who break Allah's Covenant after ratifying it, and sever what Allah has ordered to be joined (as regards Allah's Religion of Islamic Monotheism, and to practice its legal laws on the earth and also as regards keeping good relations with kith and kin ), and do mischief on earth, it is they who are the losers.

คำแปล R2.
27. บรรดาผู้ละเมิดสัญญาของอัลเลาะฮฺภายหลังจากได้ทำสัญญาขึ้น (แก่พวกเขาแล้ว) และพวกเขาทำการตัดขาดกรณีที่อัลเลาะฮฺ ได้มีบัญชาให้เชื่อมสัมพันธ์ไว้ และพวกเขาบ่อนทำลายในพื้นปฐพี พวกเขาเหล่านั้นจึงเป็นผู้ขาดทุนโดยแท้จริง

คำแปล R3.
27. ผู้ทำลายสัญญาของอัลลอฮฺหลังจากที่รับรองมันแล้วและผู้ตัดขาดสิ่งที่อัลลอฮฺได้บัญชาให้สัมพันธ์และผู้ก่อการเสียหายบนหน้าแผ่นดิน เหล่านี้คือบรรดาผู้ที่ขาดทุน

คำแปล R4.
27. คือบรรดาผู้ที่ทำลายสัญญาของอัลลอฮฺหลังจากที่ได้มีสัญญาไว้แก่พระองค์ และตัดสิ่งที่อัลลอฮฺทรงใช้ให้ต่อ และบ่อนทำลายในผืนแผ่นดิน ชนเหล่านี้แหละคือพวกที่ขาดทุน

คำแปล R5.
๒๗. ซึ่งพวก(ไม่ศรัทธา)นั้นละเมิดสัญญาของอัลเลาะห์ หลังจากที่ทรงให้สัญญาไว้ในคัมภีร์เตารอตอย่างมั่นคงว่าจะต้องเชื่อมูฮำมัดเป็นผู้มีรูปร่างสันทัด เป็นต้นว่า ผมหยักศก, ผิวขาวแดง ครั้นเมื่อมูฮำมัดปรากฏขึ้นมาจริงตามลักษณะนั้น พวกนั้นก็ละเมิดสัญญาไม่เชื่อว่าคน ๆ นี้คือมูฮำมัด ทั้งนี้เนื่องจากพวกนั้นแก้คัมภีร์เตารอดให้ลักษณะของมูฮำมัดพิกลไปจากที่ทรงบ่งไว้ในเตารอค คือ แก้เป็นว่า ร่างสูง ผิวขาวจัดและผมเหยียดตรง เป็นต้น และพวกนั้นตัดขาดจากสิ่งที่อัลลห์ได้บัญชาใช้ให้สัมพันธ์ ดังนี้
๑. ทรงบัญชาใช้ให้พวกนั้นศรัทธาต่อบรรดาศาสนทูต(ร่อซูล) ๒๖ ท่านของพระองค์ พวกนั้นก็เลือกศรัทธาต่อมูซาเพียงท่านเดียวเท่านั้น
๒. ทรงบัญชาใช้ให้พวกนั้น ศรัทธาต่อพระคัมภีร์ของพระองค์ ๑๐๔ เล่ม พวกนั้นก็ศรัทธากันเฉพาะเตารอดเล่มเดียว
๓. ทรงบัญชาใช้ให้พวกนั้นผูกสัมพันธ์วงศ์ญาติ พวกนั้นก็ตัดสัมพันธ์เสีย
๔. ทรงบัญชาใช้ให้พวกนั้นศรัทธาต่อมูฮำมัด พวกนั้นกลับปฏิเสธ
พฤติกรรมดังกล่าวของพวกนั้น ถือได้ว่าเป็นการตัดสัมพันธ์ระหว่างอัลเลาะห์กับพวกนั้น และพวกนั้นทำความเสียหาบในหน้าแผ่นดิน ด้วยการทำบาปหนักและห่างเหจากความศรัทธา พวกที่มีลักษณะ ๓ ประการ คือ ผิดสัญญา ตัดสัมพันธ์ และทำความเสียหาย เหล่านี้แหละเป็นพวกที่ขาดทุน ฐานที่ไม่ใช้สติปัญญาใฝ่ตรอง เพราะจะต้องสู่นรกชั่วนิรันดร ไม่ออกและไม่ตาย


วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:19 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ม.ค. 23, 2010, 12:03 AM »
0
 salam

อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 28-29



คำอ่าน
28. กัยฟะตักฟุรูนะบิลลาฮิ วะกุน..ตุมอัมวาตัน..ฟะอะหฺยากุม, ษุม..มะยุมีตุกุม ษุม..มะยุหฺยีกุม ษุม..มะอิลัยฮิตุรฺญะอูน

คำแปล R1.
28. How can you disbelieve In Allah? Seeing that You were dead and He gave You life. Then He will give you death, Then again will bring you to life (on the Day of Resurrection) and then unto Him You will return.

คำแปล R2.
28. ไฉนเล่า พวกเขาทั้งหลายจึงปฏิเสธอัลเลาะฮฺ ทั้งที่ (แต่เดิม) พวกเจ้าอยู่ในสภาพไร้ชีวิต (ยังไม่เกิด) ต่อมาพระองค์?รงประทานชีวิตแก่พกวเจ้า (ให้เกิดมาในสากลโลก) ต่อมาพระองค์ทรงประทานความตายแก่พวกเจ้า แล้วทรงประทานชีวิตแก่พวกเจ้าอีก (ให้ฟื้นขึ้นจากความตาย) หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับคืนสู่พระองค์

คำแปล R3.
28. สูเจ้าปฏิเสธอัลลอฮฺได้อย่างไรในเมื่อความจริงแล้วสูเจ้าไม่มีชีวิตมาก่อนแล้วพระองค์ได้ทรงให้ชีวิตแก่สูเจ้าหลังจากนั้นพระองค์จะทรงทำให้สูเจ้าตาย แล้วทำให้สูเจ้ามีชีวิตอีก แล้วสูเจ้าจะถูกนำกลับไปยังพระองค์

คำแปล R4.
28. พวกเจ้าจะปฏิเสธการ ศรัทธาต่ออัลลอฮฺได้อย่างไร? ทั้ง ๆ ที่พวกจ้านั้นเคยปราศจากชีวิตมาก่อนแล้วพระองค์ก็ทรงให้เจ้ามีชีวิตขึ้น ภายหลังก็จะทรงให้พวกเจ้าตาย แล้วก็จะทรงให้พวกเจ้ามีชีวิตขึ้นอีก และพวกเจ้าก็จะถูกนำกลับไปสู่พระองค์

คำแปล R5.
๒๘. โอ้ชาวมักกะฮฺ ไม่สมควรหรอกที่พวกเจ้าจะมีอาการต่าง ๆ อันเป็นเหตุให้พวกเจ้าไม่ศรัทธาต่ออัลเลาะห์ เช่น ความจน ความรวยเป็นต้น ฉะนั้นความไม่เชื่อของพวกเจ้าต่ออัลเลาะห์เพราะเหตุดังนั้น จึงไม่ควรที่จะแสดงออกมาจากพวกเจ้าเลย แต่ทว่ามีอาการหลายอย่างที่เป็นเหตุให้พวกเจ้าต้องเชื่อพระองค์ดังนี้ ทั้ง ๆ ที่แต่เดิมพวกเจ้ายังเป็นน้ำอสุจิ เป็นก้อนเลือด และก้อนเนื้อ จากนั้นพระองค์ให้เจ้ามีชีวิตขึ้นในครรภ์มารดา และให้กำเนิดมาในโลกนี้
ครั้นแล้วพระองค์ให้พวกเจ้าตาย ด้วยสิ้นอายุขัย ต่อจากนั้นพระองค์ให้เจ้าคืนชีพออกจากสุสาน ต่อไปพวกเจ้าจะถูกกลับไปยังที่พิจารณาไต่สวนบุญบาป ที่สุดพระองค์จะตอบแทนให้พวกเจ้าเข้าสู่นรก
ก็ในเมื่อได้มีกลักฐานออกกระจ่างแจ้งอย่างนี้แล้ว พวกเจ้าจะยังดื้อไม่เชื่อกันอยู่อีกนั้นย่อมไม่เป็นการเหมาะสมเลย ดูเป็นเรื่องน่าตำหนิและประหลาดนัก




คำอ่าน
29. ฮุวัลละซี เคาะละเกาะละกุม..มาฟิลอัรฎิญะมีอา, ษุม..มัสตะวาอิลัสสะมา..อิ ฟะเสาวาฮุน..นะสับอะสะมาวาต, วะฮุวะบิกุลลิชัยอินอะลีม

คำแปล R1.
29. He it is Who created for you all that is on earth. Then He Istawa (rose over) towards the heaven and made them seven heavens and He is the All-Knower of everything.

คำแปล R2.

29. พระองค์ทรงบันดาลสรรพสิ่งขึ้นในพิภพทั้งสิ้นเพื่อ (เป็นประโยชน์แก่) พวกเจ้าทั้งมวล หลังจากนั้นพระองค์ทรงมุ่งสู่ (การสร้าง) ฟากฟ้า แล้วพระองค์ก็บันดาลให้มันเป็นเจ็ดชั้นฟ้า และพระองค์ทรงรอบรู้ในทุก ๆ สิ่ง (เพราะทรงเป็นผู้บันดาลมาเอง)

คำแปล R3.
29. พระองค์คือผู้ทรงสร้างทุกสิ่งที่อยู่บนโลกเพื่อสูเจ้า แล้วพระองค์ได้ทรงหันไปยังท้องฟ้าและทรงจัดลำดับมันเป็นเจ็ดชั้นฟ้า และพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ทุกสรรพสิ่ง

คำแปล R4.
29. พระองค์คือผู้ได้ทรง สร้างสิ่งทั้งมวลในโลกไว้สำหรับพวกเจ้า ภายหลังได้ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า และได้ทำให้มันสมบูรณ์ขึ้นเป็นเจ็ดชั้นฟ้า และพระองค์นั้นได้ทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง

คำแปล R5.

๒๙. อัลเลาะห์ได้ตรัสเพื่อเป็นการแสดงหลักฐานยืนยันว่า พระองค์นั้นทรงพลังที่จะให้เกิดภายหลังจากตายแล้วได้ดังนี้ พระองค์คือผู้สร้างแผ่นดิน และทุก ๆ สิ่งที่มีอยู่ ณ หน้าแผ่นดินสำหรับพวกเจ้า เพื่อจะได้รับประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นทั้งทางตรงบ้าง เช่น แพะ แกะ วัว ควาย เป็นต้น ทางอ้อมบ้าง เช่น งู เป็นต้น และเพื่อพวกเจ้าจะได้พิจารณาไว้เป็นคติทางศาสนา หลังจากสร้างแผ่นดิน แล้วพระองค์ก็มุ่งไปสู่ฟ้าทรงสร้างเป็น ๗ ชั้น เจ้าไม่พิเคราะห์ดูหรือว่า แท้จริงพระองค์ทรงมีพลังสร้างฟ้าและแผ่นดิน ทรงมีความสามารถให้คนตาย เน่าเปื่อยเป็นดิน แล้วเกิดใหม่ได้อย่างง่ายดาย และพระองค์ทรงรอบรู้ในทุก ๆ สิ่ง ทั้งโดยย่อและรายละเอียด

ยังมีต่อ

วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:19 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ม.ค. 26, 2010, 07:05 PM »
0
 salam

สูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 30


 
คำอ่าน
30. วะอิซกอละร็อบบุกะลิลมะลา...อิกะติ อิน...นี ญาอิลุน..ฟิลอัรฎิเคาะลีฟะฮฺ, กอลู...อะตัจญอะลุฟีฮา มัย..ยุฟสิดุฟีฮา วะยัสฟิกุดดิมาอุ์, วะนะหฺนุนุสับบิหุบิหัมดิกะ วะนุก็อดดิสุลัก, กอละอิน..นีอะอฺละมุมาลาตะอฺละมูน

คำแปล R1.
30. And (remember) when your Lord said to the angels: "Verily, I am going to place (mankind) generations after generations on earth." They said: "Will You place therein those who will make mischief therein and shed blood, while we glorify You with praises and thanks and sanctify You." He (Allah) said: "I know that which you do not know."

คำแปล R2.
30. และเมื่อครั้งที่องค์อภิบาลของเจ้าได้ตรัสแก่มวลมลาอิกะฮฺว่า ข้าปรารถนาที่จะสร้างผู้สืบทอดขึ้นในพื้นพิภพ (พวกเจ้าจะว่าอย่างไร) พวกเหล่านั้นทูลว่า พระองค์จะสร้างผู้ที่บ่อนทำลายในนั้น และหลั่งโลหิต (ด้วยการรบราฆ่าฟันกันเอง) กระนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่ (ความเป็นจริง) พวกเราก็ทำการถวายสดุดีในพระบพิตรธิคุณพร้อมกับสรรเสริญแด่พระองค์ และถวายสดุดีในพระบริสุทธิคุณแด่พระองค์ อัลเลาะฮฺทรงตรัส (แก่พวกนั้น) ว่า อันที่จริงข้ารู้ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้

คำแปล R3.
30. จงรำลึกถึงเวลาที่พระผู้อภิบาลของเจ้าได้กล่าวกับมลาอิกะฮฺว่า “ฉันจะแต่งตัวแทนคนหนึ่งขึ้นบนหน้าแผ่นดิน” บรรดามลาอิกะฮฺทูลว่า “พระองค์จะทรงตั้งผู้ที่จะก่อการเสียหายและหลั่งเลือดกันในแผ่นดินกระนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรากล่าวสดุดีด้วยการแซ่ซ้องสรรเสริญพระองค์ (และปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์) และเทิดทูนความบริสุทธิ์ของพระองค์” พระองค์ได้ทรงตอบว่า “แท้จริงฉันรู้ในสิ่งที่สูเจ้าไม่รู้”

คำแปล R4.
30. และจงรำลึกถึงขณะที่ พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่มลาอิกะฮฺว่า แท้จริงข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่งในพิภพ มลาอิกะฮฺได้ทูลขึ้นว่า พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลาย และก่อการนองเลือด ในพิภพกระนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์ และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์ พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้

คำแปลและคำอธิบาย  R5.
๓๐. และโอ้มูฮำมัด เจ้าจงระลึกถึงประวัติของอาดัมเพื่อจะได้ระงับใจต่อความยุ่งยากที่เจ้าได้รับจากประชากรชาวมักกะห์ว่า ในเวลาที่องค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้าได้กล่าวแก่มวลมลาอีกะห์ซึ่งถูกพระองค์แต่งตั้งให้เป็นทูตมาพำนักอาศัยอยู่ที่หน้าแผ่นดิน ให้ทำหน้าที่ขับไล่พวกยินออกไปจากแผ่นดินไปพักอยู่ตามเทือกเขาและหมู่เกาะ ว่าแท้จริงข้าเป็นผู้สร้างอาดัมให้เป็นผู้สำเร็จการแทนข้าไว้ ณ แผ่นดิน ทั้งทำหน้าที่รักษาบัญญัติการใช้ การห้ามของข้าในหมู่มวลมนุษย์ และให้เป็นผู้แทนจากพวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้า(มลาอีกะห์)จะได้กลับไปอยู่ยังฟากฟ้าดังเดิม มวลมลาอีกะห์ต่างทูลถามพระองค์ด้วยอยากทราบเหตุผลกลนัยว่า “พระองค์จะทรงสร้างอาดัมผู้เป็นต้นตระกูลมนุษย์ที่มักจะทำการชั่วและประหัตประหารกันมาเป็นผู้สำเร็จการแทนพระองค์ไว้ ณ หน้าแผ่นดินเหมือนกับที่พวกยินเคยถูกขับไล่จากแผ่นดินให้ไปพักอาศัยอยู่ที่เทือกเขาและหมู่เกาะอีกหรือ? ทั้งนี้ก็เพราะพวกยินกระทำแต่การชั่วและชอบประหัตประหารกันที่หน้าแผ่นดิน ทั้ง ๆ ที่พวกเรา(มลาอีกะห์)ต่างก็ทำแต่การดีต่อพระองค์ โดยวาจาพวกเราก็กล่าวสรรเสริญพระองค์ และโดยจิตใจพวกเราก็ถือแน่วว่าพระองค์ทรงความบริสุทธิ์สะอาดปราศจากคุณลักษณะอันไม่เหมาะกับพระองค์ พวกเราจึงเหมาะสมแล้วที่จะเป็นผู้สำเร็จการแทนพระองค์ที่หน้าแผ่นดินยิ่งกว่าอาดัม” พระองค์ตรัสว่า “ข้ารู้ว่าที่ข้าสร้างอาดัมมาเป็นผู้สำเร็จการแทนอยู่ที่หน้าแผ่นดินนั้น แผ่นดินจะมีความเจริญและก็รู้ว่าแท้จริงในหมู่มนุษยโลกนั้นจะมีพวกหนึ่งทำตามใช้และตามห้ามของข้า และจะมีอีกพวกหนึ่งทรยศข้า ส่วนอาดัมนั้นจะยังความยุติธรรมของข้าให้ปรากฏเด่นขึ้นระหว่างพวกทั้งสองที่ว่านั้น พวกใดปฏิบัติตามห้ามตามใช้ของข้า ข้าก็จะสนองให้เขาได้เข้าสู่สวรรค์ พวกใดทรยศต่อข้า ข้าก็จะสนองให้พวกเขาผู้นั้นได้เข้าสู่นรก พวก(มลาอีกะห์)เจ้าไม่รู้อย่างที่ข้ารู้หรอก ฉะนั้นมวลมลาอีกะห์จึงกระซิบกันว่า “พระเจ้าของเราคงไม่สร้างอาดัมเป็นผู้มีเกียรติและคุณวุฒิเหนือกว่าพวกเราหรอก เพราะว่าพวกเรามีอาวุโสกว่าอาดัม ยิ่งกว่านั้น พวกเรายังได้รู้ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่อาดัมไม่เคยรู้เคยเห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นอีกด้วย”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:20 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ม.ค. 26, 2010, 10:54 PM »
0
 salam

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 31-32


คำอ่าน
31. วะอัลละมะอาดะมัลอัสมา...อะกุลละฮา, ษุม..มะอะเราะเฎาะฮุมอะลัลมะลา...อิกะฮฺ ฟะกอละอัม..บิอูนีบิอัสมา...อิฮาอุลา...อิ อินกุนตุมศอดิกีน.

คำแปล R1.
31. And He taught Adam All the names (of everything), then He showed them to the angels and said, "Tell Me the names of these if you are truthful."


คำแปล R2.
31. และพระองค์ทรงสอนอาดัมให้รู้จักบรรดาชื่อทั้งหมด (ของสรรพสิ่งทั้งหลาย) หลังจากนั้นทรงเสนอสิ่งเหล่านั้นแก่เหล่ามลาอิกะฮฺแล้วตรัสว่า พวกเจ้าจงแจ้งแก่ข้าเถิดถึงบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านี้ หากพวกเจ้าเป็นผู้สัจจริง

คำแปล R3.
31. แล้วพระองค์ได้ทรงสอนอาดัมถึงนามของทุกสรรพสิ่ง หลังจากนั้นพระองค์ได้ทรงนำมันมาเสนอต่อมลาอิกะฮฺแล้วถามว่า “จงบอกแก่ฉันถึงชื่อของสิ่งของเหล่านี้ ถ้าสูเจ้าแน่ใจ (ในการคิดว่าการแต่งตั้งตัวแทนจะก่อให้เกิดความวุ่นวายเสียหาย)

คำแปล R4.
31.   และพระองค์ได้ทรงสอน บรรดานามของทั้งปวงให้แก่อาดัม ภายหลังได้ทรงแสดงสิ่งเหล่านั้นแก่มะลาอิกะฮฺ แล้วตรัสว่า จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่ข้า หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง

คำแปล R5.
๓๑. และพระองค์ทรงดลใจให้อาดัมได้รู้นามของสิ่งต่าง ๆ ทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งไม่ดี ทั้งที่เป็นวัตถุและไม่ใช่วัตถุ
จากนั้นพระองค์ทรงเสนอสิ่งเหล่านั้นให้บรรดามลาอิกะห์ดู แล้วตรัสเป็นเชิงตำหนิว่า “เจ้าจงบอกชื่อของสิ่งเหล่านี้ให้แก่ข้าซิ ถ้าเจ้าพูดจริง ว่าข้าจะไม่สร้างคนใดที่มีความรู้ยิ่งกว่าพวกเจ้า และที่ว่าพวกเจ้ามีสิทธิควรเป็นผู้สำเร็จการแทนยิ่งกว่าอาดัม




คำอ่าน

32. กอลูสุบหานะกะลาอิลมะละนาอิลลามาอัลลัมตะนา อิน..นะกะอันตัลอะลีมมุลหะกีม

คำแปล R1.
32. They (angels) said: "Glorified are You, we have no knowledge except what You have taught us. Verily, it is you, the All-Knower, the All-Wise."

คำแปล R2.
32.   พวกเขาทูลตอบว่า มหาบพิตรแห่งพระองค์ เราไม่มีความรู้ (ในชื่อเหล่านั้นเลย) ยกเว้นสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนเราให้รู้ไว้เท่านั้น แท้จริงพระองค์ทรงรอบรู้ยิ่ง อีกทั้งทรงปรีชาญาณนัก

คำแปล R3.
32. บรรดามลาอิกะฮฺตอบว่า “มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระองค์ เราไม่มีความรู้อันใดนอกจากที่พระองค์ได้ทรงสอนเรา แท้จริง พระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ”

คำแปล R4.
32.   พวกเขา(บรรดามลาอิกะฮฺ)ทูลว่า มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่านไม่มีความรู้ใด ๆ แก่พวกข้าพระองค์นอกจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกข้าพระองค์เท่านั้น แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ[/size]

คำแปล R5.
๓๒. พวกนั้นได้ทูลตอบว่า พระองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์จากคำคัดค้าน
พวกเราไม่มีความรู้อันใดเลย นอกจากสิ่งที่พระองค์ทรงดลใจให้แก่พวกเราเท่านั้น
แท้จริงพระองค์ทรงรอบรู้ ทรงประณีต
เรียบร้อยในการงานของพระองค์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:20 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ม.ค. 27, 2010, 04:25 AM »
0
 salam

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อาะฮฺที่ 33-34



คำอ่าน

33. กอละ ยาอาดะมุ อัม..บิอุ์ฮุม..บิอัสมา...อิฮิม ฟะลัม..มา...อัม..บะอะฮุม..บิอัสมา...อิฮิม กอละอะลัมอะกุลละกุม อิน..นีอะอฺละมุฆ็อยบัสสะมาวาติวัลอัรฎฺ, วะอะอฺละมุมาตุบดูนะวะมากุน..ตุมตักตุมูน.

คำแปล R1.
33. He said: "O Adam! Inform them of their names," and when he had informed them of their names, He said: "Did I not tell you that I know the Ghaib (Unseen) In the heavens and the earth, and I know what you reveal and what you have been concealing?"

คำแปล R2.
33.   พระองค์ทรงตรัสว่า “โอ้อาดัม! จงแจ้งชื่อของสิ่งเหล่านั้นให้พวกเขาทราบเถิด และแล้วเมื่ออาดัมได้แจ้งแก่พวกเขาถึงรายชื่อของสิ่งของเหล่านั้น พระองค์ก็ทรงตรัสว่า ข้ามิได้บอกพวกเจ้ามาก่อนดอกหรือว่า อันที่จริงข้านี้หยั่งรู้ในความลี้ลับของชั้นฟ้าและแผ่นดิน และข้าหยั่งรู้ในสิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผย และสิ่งที่พวกเจ้าปิดบังไว้

คำแปล R3.
33.   พระองค์จึงกล่าวว่า “อาดัมเอ๋ย จงบอกนามของสิ่งเหล่านี้แก่พวกเขา” (เมื่ออาดัมได้บอกพวกเขาถึงนามของสิ่งเหล่านั้นแล้ว) พระองค์ได้ทรงประกาศว่า “ฉันมิได้บอกสูเจ้าหรือว่า ฉันรู้ดียิ่งถึงสิ่งเร้นลับแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน? และฉันรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่สูเจ้าเปิดเผยและที่สูเจ้าปิดบัง”

คำแปล R4.
33.   พระองค์ตรัสว่า โอ้อาดัม! จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาที (บรดามะลาอิกะฮฺ) ครั้นเมื่ออาดัมได้บอกชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาแล้ว พระองค์จึงตรัสว่า ข้ามิได้บอกแก่พวกเจ้าดอกหรือว่า แท้จริงข้าเป็นผู้รู้ยิ่งซึ่งความเร้นลับแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและ เป็นผู้รู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผยและสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด

คำแปล R5.
๓๓. พระองค์ตรัสว่า “โอ้อาดัม เจ้าจงบอกชื่อของสิ่งของต่าง ๆ แก่พวกนั้นซิ”
ครั้นเมื่ออาดัมได้บอกชื่อของสิ่งต่าง ๆ แก่พวกนั้น
พร้อมทั้งบรรยายถึงคุณประโยชน์ของมันแล้ว พระองค์จึงทรงตรัสตำหนิพวกนั้นว่า ข้ามิได้บอกแก่พวกเจ้าหรือว่า แท้จริงข้าตระหนักดีถึงความเร้นลับใน ๗ ชั้นฟ้าและแผ่นดิน
และข้ารู้ซึ้งถึงคำที่พวกเจ้าเปิดเผยว่า “พวกเจ้าเหมาะสมที่จะเป็นผู้สำเร็จการแทนพระองค์ยิ่งกว่าอาดัม” และรู้ซึ้งถึงคำกระซิบของพวกเจ้าที่ว่า “ข้าคงไม่สร้างอาดัมให้เป็นผู้มีเกียรติและคุณวุฒิยิ่งกว่าพวกเจ้า”




คำอ่าน
34. วะอิซกุลนาลิลมะลา...อิกะติสญุดูลิอาดะมะ ฟะสะญะดูอิลลาอิบลีส อะบาวัสตักบะเราะ วะกานะมินัลกาฟิรีน.

คำแปล R1.
34. And (remember) when We said to the angels: "Prostrate yourselves before Adam.” And they prostrated except Iblis (Satan), He refused and was proud and was one of the disbelievers (disobedient to Allah).

คำแปล R2.
34.   และเมื่อเราได้ตรัสแก่มวลมลาอิกะฮฺว่า พวเจ้าจงน้อมคารวะ ต่ออาดัมเถิด พลันพวกเหล่านั้นก็น้อมคารวะ (โดยดุษณียภาพ) ยกเว้นอิบลีส (เพียงผู้เดียว) เขาขัดขืนและทระนงตน และเขาเป็นผู้หนึ่งในกลุ่มผู้เนรคุณ

คำแปล R3.
34.   แล้วพระองค์ก็ได้กล่าวแก่มลาอิกะฮฺว่า “จงคำนับอาดัม” มลาอิกะฮฺทั้งหมดได้คำนับนอกจาก อิบลีส ที่ปฏิเสธไม่ยอมทำ มันยโสโอหังและเป็นผู้ปฏิเสธ

คำแปล R4.
34.   และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มะลาอิกะฮฺว่า พวกเจ้าจงสุยูด แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุยูดกัน นอกจากอิบลีส โดยที่มันไม่ยอมสุยูด และแสดงโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา (กาฟิรฺ)

คำแปล R5.
๓๔. และโอ้มูฮำมัด เจ้าจงระลึกถึงประวัติของอาดัม เพื่อจะได้ระงับใจต่อความยุ่งยากที่เจ้าได้รับจากประชากรชาวมักกะห์ คือ ในเวลาที่เราได้มีคำสั่งไปยังมวลมลาอิกะห์ว่า “พวกเจ้าจงแสดงคารวะอาดัมด้วยการก้มศีรษะ” พวกนั้นก็แสดงการคารวะกันเว้นไว้แต่อิบลีส (ชื่อมารร้ายตนหนึ่ง) เท่านั้นที่ไม่ยอม มันแสดงความหยิ่งยโส แท้จริงพระองค์ทรงรู้อยู่แล้วว่า อิบลีสเป็นกาฟิรฺ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:21 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ม.ค. 27, 2010, 04:52 AM »
0
สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 35-36


คำอ่าน
35. วะกุลนายาอาดะมุสกุนอัน..ตะวะเซาญุกัลญัน..นะฮฺ วะกุลามินฮาเราะเฆาะดันหัยษุชิอุ์ตุมา วะลาตักเราะบาฮาซิฮิชชะญะเราะตะ ฟะตะกูนามินัซซอลิมีน.

คำแปล R1.
35. And we said: "O Adam! Dwell you and your wife in Paradise and eat both of you freely with pleasure and delight of things therein as wherever you will, but come not near this tree or you both will be of the Zalimin (wrong-doers)."

คำแปล R2.
35.   และเราได้ตรัสว่า โอ้ อาดัม! เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวรรค์เถิด และเจ้าทั้งสองจงรับประทานจากสวรรค์โดยความอุดมสมบูรณ์เถิดเท่าที่เจ้าทั้งสองปรารถนา และเจ้าทั้งสองอย่าเข้าใกล้ต้นไม้นี้ มิฉะนั้นเจ้าทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งจากกลุ่มผู้ฉ้อฉล

คำแปล R3.
35.   และเราได้กล่าวว่า “อาดัมเอ๋ย เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์และจงกินตามความพอใจของเจ้าทั้งสองจากสิ่งที่มีอยู่ในนั้น แต่จงอย่าเข้าใกล้ต้นไม้นี้ มิเช่นนั้น เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้ละเมิด


คำแปล R4.
35.   และเราได้กล่าว่า โอ้ อาดัม ! เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์นั้นเถิดและเจ้าทั้งสองจง บริโภคจากสวนนั้นอย่างกว้างขวาง ณ ที่ที่เจ้าทั้งสองปรารถนา และอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้ (มิเช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเอง

คำแปล R5.
๓๕. และในเวลาที่เราได้บอกว่า โอ้อาดัม เจ้าและภรรยาของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวรรค์และเจ้าทั้งสองจงกินของในนั้นได้อย่างอุดมสมบูรณ์และไม่หวงห้าม ตามที่เจ้าทั้งสองต้องการ และจงอย่าเข้าใกล้ต้นไม้นี้ เพื่อเจ้าทั้งสองจะได้ไม่เป็นพวกทรยศ


คำอ่าน
36. ฟะอะซัลละฮุมัชชัยฏอนุอันฮา ฟะอัคเราะญะฮุมา มิม..มากานาฟีฮฺ, วะกุลนะฮฺบิฏูบะอฺฎุกุม ลิบะอฺฎินอะดูว์, วะละกุมฟิลอัรฎิมุสตะก็อรรู..วะมะตาอุนอิลาหีน.

คำแปล R1.
36. Then the Shaitan (Satan) made them slip therefrom (Paradise), and got them out from that in which they were. We said: "Get you down, all, with enmity between yourselves. On earth will be a dwelling place for you and an enjoyment for a time."

คำแปล R2.

36.   แต่แล้วมารร้ายก็ได้ (ใช้อุบายหลอกลวง) ทำให้ทั้งสองต้องคลาดคลาจากสวรรค์ แล้วมันก็(เป็นเหตุ) ทำให้ทั้งสองออกพ้นไปจาก (ความสุข) ที่ทั้งสองเคยมีและเราตรัส (แก่บรรดาผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมด)ว่า พวกเจ้าจงไปเถิด (จากสวรรค์) โดยต่างก็เป็นศัตรูแก่กันและกัน และพวกเจ้าจะมีที่อยู่อาศัยในพื้นพิภพ และมีสิ่งเสพสุขอยู่จนถึงชั่วกาละหนึ่งเท่านั้น (หาได้ถาวรแต่ประการใดไม่)

คำแปล R3.
36.   แต่ต่อมา มารร้ายได้หลอกลวงทั้งสองด้วยต้นไม้นั้น (เพื่อมิให้เชื่อฟังคำบัญชาของเรา) และได้นำเขาทั้งสองออกจากสภาพที่เคยอยู่ และเราได้ประกาศว่า “เจ้าทั้งหมดจงออกไปจากที่นี่ เจ้าต่างเป็นศัตรูกัน และเจ้าจะมีที่พักและปัจจัยยังชีพบนโลกชั่วระยะเวลาหนึ่ง”

คำแปล R4.
36.   ภายหลังจากชัยฎอนได้ ทำให้ทั้งสองนั้นพลั้งพลาดไป เนื่องจากต้นไม้ต้นนั้น แล้วได้ทำให้ทั้งสองออกจากที่ที่เคยพำนักอยู่ และเราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงออกไป โดยที่บางส่วนของพวกเจ้าต่างเป็นศัตรูต่อกัน และ(สำหรับพวกเจ้าในผืนแผ่นดินนั้น) มีที่พำนัก และมีสิ่งอำนวยประโยชน์จนถึงระยะเวลาหนึ่ง

คำแปล R5.

๓๖. ไซตอน(มารร้าย)ทำให้ทั้งสองคลาดพ้นจากสวรรค์
ฉะนั้น(ไซตอน)มันจึงทำให้ทั้งสองพ้นจากความสุขที่เคยได้รับอยู่
และเราก็สั่งว่า “เจ้าทั้งสอง จงลงไปอยู่หน้าแผ่นดิน พร้อมทั้งมีน้ำอสุจิในตัวเองของเจ้าทั้งสอง เพื่อจะได้สืบพันธุ์กันต่อไปโดยที่ส่วนหนึ่งจากบรรดาลูกหลานของเจ้าทั้งสอง กับอีกส่วนหนึ่งจะเป็นศัตรูกัน โดยที่เจ้าทั้งสองพร้อมด้วยลูกหลาน ณ หน้าแผ่นดินนี้จักได้ที่อาศัยและความผาสุกด้วยพืชพันธุ์ต่าง ๆ จนสิ้นอายุขัยของแต่ละคน ๆ ไป”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:21 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ม.ค. 27, 2010, 07:18 AM »
0
 salam

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 37-39


คำอ่าน
37. ฟะตะลักกออาดะมุมิรฺร็อบบิฮีกะลิมาติน..ฟะตาบะอะลัยฮฺ, อิน..นะฮูฮุวัตเตาวาบุรเราะหีม.

คำแปล R1.

37. Then Adam received from his Lord Words. And his Lord pardoned Him (accepted his repentance). Verily, He is the One who accepts repentance, the Most Merciful.

คำแปล R2.

37.   อันที่จริงอาดัมได้รับถ่ายทอดบรรดาถ้อยคำจากองค์อภิบาลของเขา (เพื่อขอสารภาพในความผิดที่ได้กระทำลงไป) แล้วพระองค์ก็ทรงรับคำสารภาพของเขาเพราะแท้จริงพระองค์ทรงรับคำสารภาพยิ่ง อีกทั้งทรงเมตตายิ่งนัก

คำแปล R3.

37.   ในเวลานั้น อาดัมได้เรียนถ้อยคำที่เหมาะสมจากพระผู้อภิบาลของเขาและสำนึกผิด ดังนั้น พระองค์จึงได้รับการสำนึกผิดของเขา แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงนิรโทษโดยปราณีและผู้ทรงเมตตาเสมอ

คำแปล R4.

37.   ภายหลังดาอัมได้เรียนรู้คำวิงวอนจากพระเจ้าของเขา แล้วพระองค์อภัยโทษแก่เขา แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

คำแปล R5.
๓๗. อาดัมได้รับการดลใจจากองค์พระผู้อภิบาลของเขาด้วยถ้อยคำต่าง ๆ ดังนี้ “โอ้พระเจ้าแห่งข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้ฉ้อตัวเอง ก็ถ้าพระองค์ไม่ทรงโปรดยกโทษ และไม่ทรงเมตตาแก่ข้าพระองค์แล้ว แน่นอนข้าพระองค์จะต้องเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ขาดทุน เหตุที่ไม่ใช้ปัญญาพิจารณาดูเสียก่อนที่จะทำการใดลงไป” อาดัมได้เฝ้าวิงวอนอยู่อย่างนั้น แล้วพระองค์ก็ทรงรับซึ่งความสำนึกผิดจากอาดัม เพราะแน่แท้พระองค์คือพระผู้รับความสำนึกผิด แปลว่าทรงเพิกถอนจากที่จะลงโทษมาทรงโปรดต่อข้าของพระองค์ ผู้ชอบที่จะกลับใจจากการกระทำชั่วมาประพฤติชอบ ทั้งทรงโปรดปรานเสมอ


คำอ่าน
38. กุลนะฮฺบิฏูมินฮาญะมีอา, ฟะอิม..มายะอุ์ติญัน..นะกุม..มินนีฮุดา, ฟะมัน..ตะบิอะฮุดายะฟะลาค็อวฟุนอะลัยฮิม วะลาฮุมยะหฺซะนูน.

คำแปล R1.
38. We said: "Get down all of you from this place (Paradise), Then whenever there comes to you guidance from Me, and whoever follows My Guidance, there shall be no fear on them, nor shall they grieve.

คำแปล R2.
38.   เราตรัสว่า “พวกเจ้าจงลงไปจากสวรรค์ทั้งหมด ต่อไปหากมีสิ่งชี้นำจากข้ามายังพวกเจ้า แล้วผู้ใดได้ (เจริญรอย) สิ่งชี้นำของข้า แน่นอนพวกเขาจะไม่ประสบความหวาดกลัว และพวกเขาจะไม่มีการเศร้าโศกแต่ประการใด

คำแปล R3.
38.   (ก่อนที่อาดัมจะออกมาจากสวนสวรรค์) เราได้กล่าวว่า “เจ้าทั้งหมดจงออกไปจากที่นี่ และถ้ามีทางนำจากฉันมายังเจ้า แล้วผู้ใดปฏิบัติตามทางนำของฉัน พวกเขาก็จะไม่มีความหวาดกลัวและพวกเขาจะไม่ระทม

คำแปล R4.
38.   เราได้กล่าว่า พวกเจ้าจงออกไปทั้งหมด จากสวนนั้น แล้วหากมีคำแนะนำจากข้ามายังพวกเจ้าแล้ว ผู้ใดที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้า ก็ไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ

คำแปล R5.
๓๘. และเราได้สั่งว่าเจ้าทั้งสองจงลงไปจากสวรรค์ให้หมด
ถ้าแม้นความสว่าง
(คัมภีร์และรอซูล)จากข้ามีมายังพวกเจ้า ผู้ใดตามความสว่างของข้า กล่าวคือ เขาเชื่อและกระทำตามใช้ตามห้าม เขาเหล่านั้นจะไม่มีความกลัว ขณะที่มีการเป่าสังข์ครั้งแรก(วันสิ้นโลก) และในวันกิยามะห์เขาเหล่านั้น จะไม่ต้องเศร้าใจ เสียดายความดีบางอย่างที่มิได้กระทำไว้ในภพนี้



คำอ่าน
39. วัลละซีนะกะฟะรู วะกัซซะบูบิอายาตินา, อุลา...อิกะอัศหาบุน..นาริ ฮุมฟีฮาคอลิดูน.

คำแปล R1.
39. But those who disbelieve and deny Our Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) such are the dwellers of the Fire, they shall abide therein forever.

คำแปล R2.
39.   และบรรดาผู้ปฏิเสธ และว่าบรรดาโองการต่าง ๆ ของเราเป็นเท็จ พวกเหล่านั้นเป็นชาวนรก พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นโดยนิรันดรกาล

คำแปล R3.
39.   และผู้ใดก็ตามที่ปฏิเสธและกล่าวเท็จต่ออายะฮฺทั้งหลายของเรา พวกเขาก็คือสหายของไฟที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้น

คำแปล R4.
39.   และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และไม่เชื่อบรรดาโองการของเรานั้น ชนเหล่านี้คือชาวนรก โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล

คำแปล R5.
๓๙. บรรดาผู้ไม่เชื่อและกล่าวปฏิเสธคัมภีร์ต่าง ๆ ว่าไม่ได้มาจากเรา (อัลเลาะห์)พวกนั้นแหละเป็นชาวนรก พำนักอยู่ในนั้นอย่างถาวร ไม่ออก ไม่ตาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:22 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ม.ค. 29, 2010, 10:28 PM »
0
 salam

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 40-41



คำอ่าน
40. ยาบะนี..อิสรอ...อีลัซกุรูนิอฺมะติยัลละตีอันอัมตุอะลัยกุม, วะเอาฟูบิอะฮฺดี..อูฟิบิอะฮฺดิกุม วะอียายะฟัรฺฮะบูน
 
คำแปล R1.
40. O Children of Israel! Remember My Favour which I bestowed upon you, and fulfill (your obligations to) My Covenant (with you) so that I fulfill (My obligations to) your covenant (with Me), and fear none but Me.

คำแปล R2.
40. โอ้บุตรหลานแห่งอิสรออีล (อิสรออีลเป็นชื่อหนึ่งของนบียะกู๊บ และบุตรหลานของเขาก็หมายถึงพวกยิวนั่นเอง) พวกเจ้าจงระลึกถึงความโปรดปรานของข้าที่ข้าได้โปรดแก่พวกเจ้า และจงทำตามสัญญาของข้าโดยครบถ้วนเถิด แน่นอนข้าก็จะประทานผล ตามสัญญาของพวกเจ้าโดยครบถ้วนเช่นเดียวกัน และพวกเจ้าจงยำเกรงข้า

คำแปล R3.
40. โอ้วงศ์วานของอิสรออีลเอ๋ย จงรำลึกถึงความโปรดปรานที่ฉันได้ประทานให้แก่พวกสูเจ้า และจงปฏิบัติตามสัญญาของฉันให้ครบ ส่วนฉันจะปฏิบัติตามสัญญาของฉันที่ทำกับพวกสูเจ้าให้ครบด้วย และเฉพาะฉันเท่านั้นที่พวกสูเจ้าต้องเกรงกลัว

คำแปล R4.
40. วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย ! จงรำลึกถึงความโปรดปรานของข้า ที่ข้าได้โปรดปานแก่พวกเจ้า และจงรักษาข้อสัญญาของข้าให้ครบถ้วน ข้าก็จะรักษาสัญญาของพวกเจ้าให้ครบถ้วน และเฉพาะข้าเท่านั้น พวกเจ้าจงเกรงกลัว

คำแปล R5.

๔๐. โอ้ลูกหลานของยะก๊บ(ชื่อนบีท่านหนึ่ง)ในสมัยมูฮำมัด พวกเจ้าจงรำลึกถึงมหากรุณาธิคุณ(เนียะมัต)ของข้า สิบประการและความดีล้นที่ข้าได้อำนวยแก่บรรพบุรุษของพวกเจ้าสมัยมูซาเพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณ โดยกระทำตามห้ามตามใช้ของข้าในอัล-กุรอานและคัมภีร์เตารอต และพวกเจ้าจงปฏิบัติตามสัญญาของข้าให้ครบถ้วน โดยเชื่อมูฮำมัด ข้าก็จะปฏิบัติให้บริบูรณ์ตามที่ได้สัญญาแก่พวกเจ้า โดยจะให้สวรรค์เป็นของสนองแก่พวกเจ้า
และพวกเจ้าจงยำเกรงเฉพาะข้าเท่านั้น เพื่อพวกเจ้าจะได้ไม่ผิดสัญญา




คำอ่าน
41. วะอามินูบิมา..อันซัลตุมุศ็อดดิก็อลลิมามะอะกุม วะลาตะกูนูเอาวะละกาฟิริม..บิฮฺ, วะลาตัชตะรูบิอายาตี ษะมะนัน..เกาะลีเลา..วะอียายะฟัตตะกูน

คำแปล R1.
41. And believe in what I have sent down (this Qur'an), confirming that which is with you, [the Taurat (Torah) and the Injeel (Gospel)], and be not the first to disbelieve therein, and buy (get) not with My Verses [the Taurat (Torah) and the Injeel (Gospel)] a small price (i.e. getting a small gain by selling My Verses), and fear Me and Me Alone.

คำแปล R2.
41. และเจ้าทั้งหลายจงศรัทธาในสิ่งที่ข้าได้ประทานลงมา (คืออัลกุรอาน) เพื่อยืนยันถึงสิ่งที่มีอยู่กับพวกเจ้าทั้งหลาย (นั้นคือคัมภีร์เตารอฮฺของนบีมูซา) และพวกเจ้าจงอย่าได้เป็นชนกลุ่มแรกที่ปฏิเสธสิ่งนั้นและพวกเจ้าทั้งหลายอย่านำโองการของข้าไปแลกเปลี่ยนกับ (ผลประโยชน์ที่มี) ราคาเพียงเล็กน้อย และพวกเจ้าจงยำเกรงข้าเถิด

คำแปล R3.
41. และจงศรัทธา(ในกุรอาน)ที่ฉันได้ประทานลงมา เพราะมันยืนยันคัมภีร์ที่สูเจ้ามีอยู่ และจงอย่าเป็นคนแรกที่ปฏิเสธมัน และจงอย่าแลกเปลี่ยนอายะฮฺทั้งหลายของฉันด้วยราคาเพียงเล็กน้อย และเฉพาะฉันเท่านั้นที่สูเจ้าจะต้องสำรวมตน

คำแปล R4.
41. และพวกเจ้าจงศรัทธาต่อสิ่งที่ข้าได้ให้ลงมาเพื่อยืนยันสิ่งทีมีอยู่กับพวกเจ้า และพวกเจ้าจงอย่าเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งนั้นเป็นคนแรก และจงอย่าได้นำโองการของข้าไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อยและเฉพาะข้าเท่านั้น พวกเจ้าจงยำเกรง

คำแปล R5.
๔๑. และพวกเจ้าจงศรัทธาต่ออัล-กุรอานที่ข้าได้ประทานลงมาเป็นพยานว่า อัล-กุรอานนั้นมีความตรงกับคัมภีร์เตารอตในเรื่องการนับถือพระเจ้าองค์เดียวและเรื่องการแต่งตั้งนบี พวกเจ้าอย่าเป็นพวกแรกที่ไม่ศรัทธาต่ออัล-กุรอาน ด้วยเกรงว่าชนรุ่นหลังจะประพฤติตามพวกเจ้า แล้วบาปของชนรุ่นหลังจะสะท้อนกลับไปสู่พวกเจ้า และพวกเจ้าอย่านำเอาการเชื่อมูฮำมัดซึ่งมีกล่าวไว้ในเตารอตมาแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย ซึ่งพวกเจ้าเคยได้เป็นประจำจากพวกโง่เขลาในหมู่ของพวกเจ้า คือพวกเจ้าอย่าปกปิดการเชื่อมูฮำมัดเพราะกลัวจะขาดรายได้ประจำที่เคยได้รับอยู่
และพวกเจ้าพึงยำเกรงเฉพาะข้าเท่านั้น ในอันที่พวกเจ้าจะปิดบังการเชื่อมูฮำมัด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:22 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ม.ค. 29, 2010, 10:41 PM »
0
สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 42-43



คำอ่าน
42. วะลาตัลบิสุลหักเกาะบิลบาฏิลิ วะตักตุมูนัลหักเกาะ วะอันตุมตะอฺละมูน

คำแปล R1.
42. And mix not truth with falsehood, nor conceal the truth [i.e. Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam is Allah's Messenger and his qualities are written In your Scriptures, the Taurat (Torah) and the Injeel (Gospel)] while You know (the truth) .

คำแปล R2.
42. และเจ้าทั้งหลายอย่าได้นำสิ่งโมฆะผสานกับสัจจะ(เป็นอันขาด)และพวกเจ้าอย่าปิดบังความจริง(อันเกี่ยวเนื่องด้วยคุณลักษณะของนบีมุฮำมัดที่ปรากฏในคัมภีร์เตารอฮฺ ซึ่งทำนายว่าจะอุบัติขึ้นในอนาคต)ทั้ง ๆ ที่พวกเจ้าก็รู้ดี

คำแปล R3.

42. และจงอย่าเคล้าความจริงด้วยความเท็จ และจงอย่าปิดบังความจริง ทั้ง ๆ ที่เจ้ารู้อยู่

คำแปล R4.

42. และพวกเจ้าจงอย่าปะปน สิ่งจริงด้วยสิ่งเท็จ และจงอย่าปกปิดสิ่งที่เป็นจริง ทั้ง ๆ ที่พวกเจ้ารู้กันอยู่

คำแปล R5.
๔๒. และพวกเจ้าอย่าเอาความจริงแท้ที่อัลเลาะห์ทรงให้ไว้แก่พวกเจ้าไปปะปนกับความเท็จที่พวกเจ้าได้กระทำขึ้น
และพวกเจ้าอย่าปิดบังลักษณะของมูฮำมัดโดยที่พวกเจ้าก็ตระหนักดีถึงลักษณะอันแท้จริงของมูฮำมัดว่าเป็นอย่างไร




คำอ่าน
43. วะอะกีมุศเศาะลาตะวะอาตุซซะกาตะ วัรฺกะอูมะอัรฺรอกิอีน

คำแปล R1.
43. And perform As-Salat (Iqamat-as-Salat), and give Zakat, and bow down (or submit yourselves with obedience to Allah) along with Ar-Raki'un.
 
คำแปล R2.
43. และพวกเจ้าทั้งหลายจงดำรงการละหมาด จงบริจาคซากาต และจงร่วมทำการก้ม(ละหมาด)พร้อมกับมวลผู้ก้ม(ละหมาด)ทั้งหลาย

คำแปล R3.
43. และจงดำรงนมาซและจ่ายซะกาตและจงโค้งคำนับต่อฉันร่วมกับบรรดาผู้ที่โค้งคำนับ

คำแปล R4.
43. และพวกเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและจงชำระซะกาต และจงรุกัวะร่วมกับผู้รุกัวะทั้งหลาย

คำแปล R5.
๔๓. และพวกเจ้าจงดำรงละหมาด(นมัสการแด่พระเจ้า ๕ เวลา
และพวกเจ้าจงเสียสละส่วนหนึ่งจากทรัพย์ของพวกเจ้าเป็นซะกาต(พลีทาน)และจงละหมาด(ก้มหลัง)ร่วมกับมูฮำมัดและสาวก ซึ่งเรียกว่าละหมาดยะมาอะห์(ละหมาดหมู่)ซึ่งต่างกันกับละหมาดของบรรพบุรุษของพวกเจ้าที่ไม่มีรอเกาะอ์
[/color]

วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:23 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ก.พ. 01, 2010, 10:10 PM »
0

 salam

ขุดเพื่อรอแชมาต่อ... ;D
เดี๋ยวหนูจะกลับมาทบทวนก่อนนอนค่ะ อินชาอัลลอฮฺ

 loveit: loveit:

วัสลามค่ะ
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ก.พ. 01, 2010, 10:51 PM »
0
 salam

สูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 44-46
 


คำอ่าน
44. อะตะอุ์มุรูนัน..นาสะบิลบิรฺริ วะตัน..เสานะอัน..ฟุสะกุม วะอัน..ตุมตัตลูนัลกิตาบะ อะฟะลาตะอฺกิลูน

คำแปล R1.
44. Enjoin You Al-Birr (piety and righteousness and each and every act of obedience to Allah) on the people and you forget (to practice it) yourselves, while you recite the scripture [the Taurat (Torah)]! have you then no sense?

คำแปล R2.
44.  พวกเจ้าทั้งหลายจะใช้ให้มนุษย์ทำดีแต่พวกเจ้ากลับลืม(ใช้)ตัวเอง(ให้ทำดีด้วย)กระนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่เจ้าทั้งหลายก็อ่านคัมภีร์(เตารอฮฺ) แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่ใช้ปัญญา(ตรึกตรองให้ดี)

คำแปล R3.
44. สูเจ้ากำชับคนอื่นให้ปฏิบัติตามคุณธรรม แต่สูเจ้ากลับลืมตัวเองกระนั้นหรือทั้งที่สูเจ้าอ่านคัมภีร์ ? แล้วสูเจ้ายังไม่ใช้ปัญญาอีกหรือ ?

คำแปล R4.
44. พวกเจ้าใช้ให้ผู้คน กระทำความดี โดยที่พวกเจ้าลืมตัวของพวกเจ้าเองกระนั้นหรือ ? และทั้ง ๆ ที่พวกเจ้าอ่านคัมภีร์กันอยู่ แล้วพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญากระนั้นหรือ ?

คำแปล R5.
มูลเหตุของการลงโองการต่อไปนี้ นักปราชญ์ยะฮูดีพูดแก่วงศ์ญาติของเขาที่นับถือศาสนาอิสลามไว้ไห้เข้มแข็ง แท้จริงศษสนาที่มูฮำมัดนำมาเผยแพร่นั้นเป็นศาสนาที่เที่ยงแท้
๔๔. โอ้ปวงปราชญ์ยะฮูดี พวกเจ้าได้ใช้ให้วงศ์ญาติของพวกเจ้าเชื่อมูฮำมัดใช่ไหม? แต่ทำไมพวกเจ้าละทิ้งไม่เชื่อมูฮำมัดเล่า โดยที่พวกเจ้าก็อ่านเตารอต ซึ่งในนั้นมีสัญญาลงโทษในการพูดที่ไม่ตรงกับการกระทำไว้ด้วย พวกเจ้าไม่พิเคราะห์หรอกหรือว่า พฤติกรรมของพวกเจ้านั้น เป็นการสมควรที่พวกเจ้าจะต้องปรับปรุงตัวของเจ้าเสียใหม่

 

คำอ่าน

๔๕. วัสตะอีนูบิศศ็อบริ วัศเสาะลาฮฺ วะอินนะฮาละกะบีเราะตุน อิลลาอะลัลคอชิอีน

คำแปล R1.
45. And seek help in patience and As-Salat (the prayer) and truly it is extremely heavy and hard except for Al-Khashi'un [i.e. the true believers in Allah - those who obey Allah with full submission, fear much from His punishment, and believe in His promise (Paradise) and in His warnings (Hell)].

คำแปล R2.
45. และเจ้าทั้งหลายจงขอความช่วยเหลือ(จากอัลเลาะฮฺให้ประสบผลสำเร็จในการงานต่าง ๆ )ด้วยความขันติ และการทำละหมาด และแท้จริงการละหมาดนั้นเป็นเรื่องใหญ่(อันลำบากหนักหนาสำหรับผู้ขาดศรัทธา) ยกเว้นแก่บรรดาผู้มีความนอบน้อม(ต่ออัลเลาะฮฺ)เท่านั้น(ที่จะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายดาย)

คำแปล R3.
45. และจงขอความช่วยเหลือด้วยความอดทนและการนมาซ แน่นอนการนมาซนั้นเป็นงานหนักแต่ไม่ใช่กับบรรดาผู้ถ่อมตน

คำแปล R4.
45. และพวกเจ้าจงอาศัยความอดทน และการละหมาดเถิด และแท้จริงการละหมาดนั้นเป็นสิ่งใหญ่โต นอกจากบรรดาผู้ที่นอบน้อมถ่อมตน เท่านั้น

คำแปล R5.
๔๕. และโอ้พวกยะฮูดี พวกเจ้าจงขอช่วยให้กิจการของพวกเจ้าสำเร็จลงด้วยการอดใจต่อสิ่งไม่ชอบที่จะมาประสบพวกเจ้า และการทำละหมาด เพราะการถือศีลอดนั้นระงับกิเลส โลภะ โมหะและความใฝ่สูง ส่วนการละหมาดนั้น จะช่วยบั่นทอนการหยิ่งยโส จองหอง สิ่งชั่วเหล่านี้แหละเป็นสิ่งชักนำและขัดขวางมิให้เชื่อมูฮำมัด
และแท้จริงการละหมาดนั้นเป็นสิ่งที่ลำบาก เว้นไว้แต่บรรดาผู้ที่รักสงบกระทำเฉพาะการภักดีเท่านั้น

 
   

คำอ่าน

๔๖. อัลละซีนะยะซุนนูนะอัน..นะฮุม..มุลากูร็อบบิฮิม วะอัน..นะฮุม อิลัยฮิรอญิอูน

คำแปล R1.
46. (They are those) who are certain that they are going to meet their Lord, and that to Him they are going to return.

คำแปล R2.
46. ซึ่งพวกเขาเป็นผู้ที่คิด(อยู่เสมอ)ว่า พวกเขานั้นต้องได้พบกับองค์อภิบาลของพวกเขาอย่างแน่นอน และแท้จริงพวกเขาจะต้องกลับคืนไปสู่พระองค์

คำแปล R3.
46. ผู้ที่ตระหนักว่าในที่สุด พวกเขาจะได้พบกับพระผู้อภิบาลของพวกเขาและพวกเขาจะกลับไปยังพระองค์

คำแปล R4.
46. คือ บรรดาผู้ที่คาดคิดว่า แน่นอนพวกเขาจะพบกับพระเจ้าของพวกเขา และแน่นอนพวกเขาจะเป็นผู้กลับไปสู่พระองค์

คำแปล R5.
๔๖. ซึ่งพวกที่ชอบทำความดีนั้น เชื่อแน่ว่า แท้จริงพวกเขาจะต้องพบองค์พระผู้อภิบาลของตนหลังจากเกิดใหม่จากสุสาน และเชื่อว่าพวกเขาจะต้องกลับไปสู่พระองค์(อัลเลาะห์)ในภพหน้า และพระองค์ก็จะสนองกรรมแก่พวกเขาด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:23 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ก.พ. 01, 2010, 11:40 PM »
0
 salam

สูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 47-48

   

คำอ่าน
๔๗. ยาบะนี..อิสรอ..อีลลัซกุรู นิอฺมะติยัลละตีอันอัมตุอะลัยกุม วะอัน..นัฟัฎฎ็อลตุกุม อะลัลอาละมีน

คำแปล R1.
47. O children of Israel! Remember My Favour which I bestowed upon you and that I preferred you to the 'Alamin (mankind and jinns) (of your time period, in the past).

คำแปล R2.
47. โอ้บุตรหลานแห่งอิสรออีล พวกเจ้าจงระลึกถึงความโปรดปรานของข้าที่เคยได้โปรดแก่พวกเจ้า(มาก่อนแล้วในยุคก่อน)และแท้จริงข้าได้ประทานความเลอเลิศแก่พวกเจ้าให้เหนือชาวโลกทั้งหลาย

คำแปล R3.
47. วงศ์วานของอิสรออีลเอ๋ย จงรำลึกถึงความโปรดปรานของฉันที่ฉันได้ให้แก่สูเจ้า และจงจำไว้ว่าฉันได้ยกย่องสูเจ้าเหนือประชาชาติทั้งหลาย

คำแปล R4.

47. วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย ! จงรำลึกถึงความโปรดปรานของข้า ที่ข้าได้โปรดปรานแก่พวกเจ้า และแท้จริงนั้น ข้าได้เทิดพวกเจ้าไว้เหนือประชาชาติทั้งหลาย

คำแปล R5.
๔๗. โอ้ลูกหลานยะก๊บในสมัยมูฮำมัด พวกเจ้าจงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ(เนียะมีต)ของข้า ๑๐ ประการ และความดีล้นซึ่งข้าได้อำนวยแก่บรรพบุรุษพวกเจ้าสมัยมูซา เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณโดยประพฤติตนตามใช้ตามห้ามของข้าในอัล-กุรอานและเตารอต และพวกเจ้าจงระลึกถึงที่ข้าได้ให้บรรพบุรุษของพวกเจ้ามีเกียรติเหนือประชาชาติอื่น ๆ ในยุคนั้น

 

คำอ่าน
๔๘. วัตตะกูเยามัลลาตัจญซี นัฟสุน อัน..นัฟสิน..ชัยอา, วะลายุกบะลุมินฮาชะฟาอะตูวฺ..วะลายุอฺเคาะซุมินฮา อัดลูว..วะลาฮุม ยุน..เศาะรูน

คำแปล R1.
48. And fear a Day (of Judgment) when a person shall not avail another, nor will intercession

คำแปล R2.
48. และพวกเจ้าจงระวังวันหนึ่ง(ที่จะต้องอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน)ซึ่งชีวิตหนึ่งไม่อาจทดแทนอีกชีวิตหนึ่งได้สักกรณีเดียว การสงเคราะห์ใด ๆ ก็ไม่ถูกรับรองจากเขา และไม่มีการเอาค่าไถ่ตัวของเขา และพวกเหล่านั้นไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น

คำแปล R3.
48. และจงสำรวมตนต่อวันหนึ่งเมื่อชีวิตหนึ่งไม่สามารถที่จะช่วยแทนอีกชีวิตหนึ่งได้ และการขอไถ่แทนจากใครก็จะไม่เป็นที่ยอมรับ และก็จะไม่มีใครถูกไถ่แทน และคนผิดก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใครด้วย

คำแปล R4.
48. และจงกลัวเกรงวันหนึ่ง ซึ่งไม่มีชีวิตใดจะตอบแทนสิ่งใดแทนอีกชีวิตได้ และการขอให้มีความช่วยเหลือใด ๆ ก็จะไม่ถูกรับจากชีวิตนั้น และค่าไถ่ถอนใด ๆ ก็จะไม่ถูกรับเอาจากชีวิตนั้นด้วย และทั้งพวกเขาก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ

คำแปล R5.
๔๘. และพวกเจ้าจงหวั่นเกรงการลงโทษทรมานในวันหนึ่ง (วันกิยามะห์) ซึ่งวันนั้นพวกมุอุ์มินไม่มีอันใดพอที่จะทำให้พวกกาฟิรได้รอดพ้นจากการลงโทษ และพวกกาฟิรก็ไม่มีหน้าที่ช่วยเหลือนักโทษคนใดให้รอดพ้นจากการลงโทษได้ ทั้ง(พวกกาฟิร)ยังถูกห้ามนำอันใดมาเป็นตัวแทนรับการลงโทษแทนตนอีก โดยที่พวกกาฟิรนั้นหาได้รับความช่วยเหลือให้พ้นจากการลงโทษของอัลเลาะห์ไม่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:24 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ก.พ. 02, 2010, 12:05 AM »
0
 salam

สูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 49

 

คำอ่าน
49. วะอิซนัจญัยนากุม..มินอาลิฟิรฺเอานะ ยะศูมูนะกุมสู..อัลอะซาบิ ยุซับบิหูนะอับนา...อะกุม วะยัสตะหฺยูนะนิสา...อะกุม วะฟีซาลิกุม..บะลา..อุม..มิรฺร็อบบิกุมอะซีม

คำแปล R1.
49. And (remember) when we delivered you from Fir'aun's (Pharaoh) people, who were afflicting you with a horrible torment, killing your sons and sparing your women, and therein was a mighty trial from Your Lord.

คำแปล R2.
49. และเมื่อครั้งที่เราได้ดลบันดาลให้พวกเจ้ารอดพ้นไปจาก(การตามล่าของ)วงศ์วานแห่งฟิรเอาน์ ซึ่งพวกเหล่านั้นได้กดขี่พวกเจ้าด้วยการทำโทษอันเลวทรามยิ่ง พวกเขาเชือดลูก ๆ ผู้ชายของพวกเจ้า(ทั้งเป็นเพื่อให้สูญพันธุ์)และไว้ชีวิตลูกผู้หญิงของพวกเจ้า และในการนั้นย่อมเป็นข้อทดสอบอันใหญ่หลวง จากองค์อภิบาลของพวกเจ้า

คำแปล R3.
49. และจงนึกถึงตอนที่เราได้ช่วยสูเจ้าให้รอดพ้นจากการเป็นทาสของคนฟิรฺเอาน์ ผู้กดขี่สูเจ้าด้วยการทรมานอันแสนสาหัส พวกเขาฆ่าลูกชายของสูเจ้าและไว้ชีวิตลูกหญิงของสูเจ้า และในนี้คือการทดสอบอันใหญ่หลวงสำหรับสูเจ้าจากพระผู้อภิบาลของสูเจ้า

คำแปล R4.
49. และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้ช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากพวกพ้องของฟิรอาวน์ โดยที่พวกเขาบังคับขู่เข็ญพวกเจ้า ซึ่งการทรมานอันร้ายแรง พวกเขาเชือดบรรดาลูกผู้ชายของพวกเจ้า  และไว้ชีวิตบรรดาลูกผู้หญิงของพวกเจ้า และในเรื่องนั้น คือการทดสอบอันสำคัญจากพระเจ้าของพวกเจ้า

คำแปล R5.
๔๙. และโอ้ลูกหลานยะก๊บในสมัยมูฮำมัด พวกเจ้าจงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ(เนียะมีต)ของข้า ๑๐ ประการ และความดีล้นที่ข้าได้อำนวยแก่บรรพบุรุษพวกเจ้าสมัยมูซา เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณโดยประพฤติตนตามใช้ตามห้ามของข้าในอัล-กุรอานและเตารอต ในเวลาที่เราได้ให้บรรพบุรุษของพวกเจ้าพ้นภัยจากฟิรอูน(ฟาโรห์)และพลพรรค โดยที่พวกนั้นทำให้บรรพบุรุษของพวกเจ้าลิ้มรสทรมานที่ชั่วร้ายจากพวกเขา พวกนั้นเชือดคอเด็กชายของบรรพบุรุษของพวกเจ้าและไว้ชีวิตเด็กหญิงที่เกิดจากบรรพบุรุษของพวกเจ้า ทั้งนี้ก็เพราะพวกโหราจารย์ของฟิรอูนบางคนได้ทำนายว่า เด็กชายที่เกิดในหมู่พวกบนีอิสรออีลนั้น จะเป็นผู้ทำลายบัลลังก์ของฟิรอูน และการลงโทษทรมานก็ดี การพ้นภัยจากฟิรอูนก็ดี นั่นแหละนับเป็นภัยหรือเป็นความโปรดปรานอย่างใหญ่หลวงจากองค์พระผู้อภิบาลของพวกเจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:24 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ก.พ. 02, 2010, 12:35 AM »
0
 salam

สูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 50-53

   

คำอ่าน
50. วะอิซฟะร็อกนาบิกุมุลบะหฺเราะ ฟะอัน..ญัยนากุม วะอัฆร็อกนา..อาละฟิรฺเอานะ วะอัน..ตุมตัน..ซุรูน

คำแปล R1.
50. And (remember) when we separated the sea for you and saved you and drowned Fir'aun's (Pharaoh) people while you were looking (at them, when the sea-water covered them).

คำแปล R2.
50. และเมื่อครั้งเราได้แยกทะเล(ออกเป็นช่วง)ให้พวกเจ้า(ได้เดินผ่านพวกนั้น ข้ามฟากหลบหนีพวกฟิรเอาน์)แล้วเราก็ยังความปลอดภัยแก่พวกเจ้า และให้พวกวงศ์วานของฟิรเอาน์จมทะเล(ตาย)โดยขณะนั้นพวกเจ้าก็เฝ้าดู(ทะเลประกบพวกเขาตายต่อหน้าต่อตา)

คำแปล R3.
50.และจงนึกถึงเมื่อตอนที่เราได้แยกน้ำทะเลเพื่อทำทางให้สูเจ้าและให้พวกสูเจ้าผ่านทางนั้นไปได้โดยปลอดภัยและเราได้ทำให้บริวารของฟิรฺเอาน์จมน้ำไปต่อหน้าต่อตาของสูเจ้า

คำแปล R4.
50. และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้แยกทะเลออก เพราะพวกเจ้าแล้วเราได้ช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้น และได้ให้พวกฟิรอาวน์จมน้ำตาย ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่

คำแปล R5.
๕๐. และโอ้ลูกหลานยะก๊บในสมัยมูฮำมัด พวกเจ้าจงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ(เนียะมีต)ของข้า ๑๐ ประการ และความดีล้นที่ข้าได้อำนวยแก่บรรพบุรุษพวกเจ้าสมัยมูซา เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณโดยประพฤติตนตามใช้ตามห้ามของข้าในอัล-กุรอานและเตารอต ในเวลาที่เราได้ให้น้ำทะเลแยกจากกันเพื่อให้บรรพบุรุษของพวกเจ้าลี้ภัยจากฟิรอูน และเราได้ช่วยให้บรรพบุรุษของพวกเจ้าพ้นภัยจากการจมน้ำตาย และเราได้ให้ฟิรอูนกับพลพรรคจมน้ำตายเพื่อเป็นการลงโทษทรมาน โดยบรรพบุรุษของพวกเจ้าต่างก็คอยประสบเหตุการณ์ประสานกลับของน้ำทะเลให้บรรพบุรุษของพวกเจ้าถึงตาย


   
คำอ่าน
๕๑. วะอิซวาอัดนามูสา..อัรฺบะอีนะลัยละตัน..ษุม..มัตตะค็อซตุมุลอิจญละ มิม..บะอฺดิฮี วะอัน..ตุมซอลิมูน

คำแปล R1.
51. And (remember) when we appointed for Musa (Moses) forty nights, and (in his absence) you took the calf (for worship), and you were Zalimun (polytheists and wrong-doers).

คำแปล R2.
51. และเมื่อครั้งที่เราได้ให้สัญญาแก่มูซา(ว่าจะประทานคัมภีร์เตารอฮฺให้เมื่อครบ)สี่สิบคืน แต่แล้วพวกเจ้ากลับหลอมรูปลูกวัวขึ้น(บูชา)ภายหลังจากเขา(ได้ขึ้นไปบนภูเขาซีนายเพื่อรอรับคัมภีร์ตามกำหนดนั้น)และพวกเจ้าทั้งมวลเป็นผู้ฉ้อฉลอย่างแน่นอน

คำแปล R3.
51. และจงนึกถึงเมื่อตอนที่เราได้เชิญมูซาเป็นเวลา 40 คืน หลังจากที่มูซาไม่อยู่ พวกสูเจ้าก็ได้เอาลูกวัวขึ้นบูชา ดังนั้นพวกสูเจ้าจึงเป็นผู้อธรรม

คำแปล R4.
51. และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้สัญญาแก่มูซาไว้สี่สิบคืน แล้วพวกเจ้าได้ยึดถือลูกวัวตัวนั้นหลักจากเขา และพวกเจ้านั้นคือผู้อธรรม

คำแปล R5.
๕๑.และโอ้ลูกหลานยะก๊บในสมัยมูฮำมัด พวกเจ้าจงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ(เนียะมีต)ของข้า ๑๐ ประการ และความดีล้นที่ข้าได้อำนวยแก่บรรพบุรุษพวกเจ้าสมัยมูซา เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณโดยประพฤติตนตามใช้ตามห้ามของข้าในอัล-กุรอานและเตารอต ในเวลาที่เราได้สัญญากับมูซา ว่าเราจะมอบเตารอต(ชื่อคัมภีร์)ให้เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติเมื่อครบ ๔๐ คืนแล้ว ต่อมาบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้นำเอารูปลูกโคทองมาเป็นเจ้า หลังจากมูซาไปเข้าเฝ้าอัลเลาะห์ตามสัญญาที่ภูเขาตูริซีนา โดยที่บรรพบุรุษของพวกเจ้ามิซื่อสัตย์ด้วยการบูชารูปโคทองเป็นเจ้า



คำอ่าน
52. ษุม..มะอะเฟานาอัน..กุม..มิม..บะอฺดิ ซาลิกะ ละอัลละกุม ตัชกุรูน

คำแปล R1.
52. Then after that We forgave you so that you might be grateful.

คำแปล R2.
52. ครั้นแล้วเราได้ให้อภัยแก่พวกเจ้าภายหลังจากนั้น ทั้งนี้เพื่อพวกเจ้าจะได้สำนึกในพระคุณ(ของเรา)

คำแปล R3.
52. แต่ถึงกระนั้น เราก็ได้ยกโทษให้สูเจ้า หลังจากนั้น เพื่อที่ว่าสูเจ้าจะได้ขอบคุณ

คำแปล R4.

52. แล้วเราก็ได้ให้อภัยแก่พวกเจ้า หลังจากนั้น เพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ

คำแปล R5.

๕๒. ครั้นแล้วเราได้นิรโทษให้บรรพบุรุษของพวกเจ้า หลังจากได้บูชารูปโคทองนั้น เพื่อว่าพวกเจ้าจักได้ขอบพระคุณต่อบุญคุณของเรา(อัลเลาะห์)ที่ให้แก่พวกเขา

   

คำอ่าน
53. วะอิซอาตัยนามูสัลกิตาบะ วัลฟุรฺกอนะ ละอัลละกุมตะฮฺตะดูน

คำแปล R1.
53. And (remember) when we gave Musa (Moses) the Scripture [the Taurat (Torah)] and the criterion (of right and wrong) so that you may be guided aright.

คำแปล R2.
53. และเมื่อครั้งที่เราได้ประทาน(เตารอฮฺ)แก่มูซา(ซึ่งเป็นทั้ง)คัมภีร์และข้อจำแนก(ให้รู้ผิดรู้ถูก)เพื่อพวกเจ้าทั้งหลายจะได้รับการชี้นำ

คำแปล R3.

53. และจงนึกถึงเมื่อตอนที่(สูเจ้ากำลังสร้างความอธรรม)เราก็ได้ประทานคัมภีร์และเกณฑ์ตัดสินสิ่งถูกและสิ่งผิดแก่มูซา เพื่อที่ว่าสูเจ้าจะได้อยู่ในทางนำ

คำแปล R4.
53. และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้ให้คัมภีร์และ อัล-ฟุรฺกอน แก่ มูซา หวังว่าพวกเจ้าจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง

คำแปล R5.
๕๓.และโอ้ลูกหลานยะก๊บในสมัยมูฮำมัด พวกเจ้าจงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ(เนียะมีต)ของข้า ๑๐ ประการ และความดีล้นที่ข้าได้อำนวยแก่บรรพบุรุษพวกเจ้าสมัยมูซา เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณโดยประพฤติตนตามใช้ตามห้ามของข้าในอัล-กุรอานและเตารอต ในเวลาที่เรามอบเตารอต คือคัมภีร์ที่แจกแจงให้รู้จักสิ่งที่ดีและสิ่งที่ชั่ว, ข้ออนุญาตและข้อห้ามมายังมูซา เพื่อว่าบรรพบุรุษของพวกเจ้าจะได้รับความสว่าง พ้นจากความมืด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:25 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ก.พ. 02, 2010, 09:48 PM »
0
สูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 54-57

 

คำอ่าน
54. วะอิซกอละมูสาลิก็อวฺมิฮี..ยาก็อวฺมิอิน..นะกุม เซาะลัมตุม อัน..ฟุสะกุม บิตติคอซิกุมุลอิจญละ ฟะตูบูอิลาบาริอิกุม ฟักตุลูอัน..ฟุสะกุม  ซาลิกุม ค็อยรุลละกุม อิน..ดะบาริอิกุม ฟะตาบะอะลัยกุม,  อิน..นะฮู ฮุวัตเตาวาบุรฺเราะหีม

คำแปล R1.
54. And (remember) when Musa (Moses) said to his people: "O my people! Verily, you have wronged yourselves by worshipping the calf. So turn in repentance to your Creator and kill yourselves (the innocent kill the wrongdoers among you), that will be better for you with Your Lord." Then He accepted your repentance. Truly, He is the one who accepts repentance, the Most Merciful.

คำแปล R2.
54. และเมื่อครั้งที่มูซาได้ประกาศแก่หมู่คณะของเขาว่า “โอ้ หมู่คณะของฉัน! แท้จริงท่านทั้งหลายได้ฉ้อฉลแก่ตัวของพวกท่านเอง โดยสาเหตุที่ท่านทั้งหลายได้หลอมรูปลูกวัวขึ้น(เพื่อบูชา)ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงสารภาพผิดต่อองค์ผู้สร้างของท่านเถิด แล้วพวกท่านจงประหารชีวิตระหว่างพวกท่านเอง(โดยให้คนดีประหารคนชั่ว)นั่นแหละคือความดีเยี่ยมสำหรับท่านทั้งหลาย ณ องค์ผู้สร้างของพวกท่าน แล้วอัลเลาะฮฺก็รับการสารภาพแก่พวกท่านทั้งมวล แท้จริงพระองค์ทรงรับการสารภาพยิ่ง อีกทั้งทรงเมตตายิ่ง

คำแปล R3.
54. และจงนึกถึงในตอนที่มูซา(ได้กลับมาพร้อมกับของขวัญจากพระเจ้าและเขา)ได้กล่าวแก่ประชาชนของเขาว่า “โอ้ประชาชนของฉันเอ๋ย แท้จริงพวกท่านได้กระทำผิดต่อตัวพวกท่านเองที่ไปเอาลูกวัวมาบูชา ดังนั้นพวกท่านควรจะหันไปยังพระผู้ทรงบังเกิดพวกท่านเพื่อขอลุกะโทษและจงฆ่าผู้กระทำผิดในหมู่พวกท่าน นี่เป็นการดีที่สุดสำหรับพวกท่านในสายตาของพระผู้ทรงบังเกิดพวกท่าน” แล้วพระองค์ได้ทรงนิรโทษสูเจ้า เพราะพระองค์คือผู้ทรงนิรโทษโดยปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

คำแปล R4.
54. และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า โอ้กลุ่มชนของฉัน ! แท้จริงพวกท่านได้ อยุติธรรมแก่ตัวของพวกท่านเอง โดยที่พวกท่านได้ยึดถือลูกวัวตัวนั้น (เป็นที่เคารพสักการะ) ดังนั้นจงกลับสู่พระผู้บังเกิดพวกท่านเถิด แล้วจงฆ่าตัวของพวกท่านเอง นั่นเป็นสิ่งดีแก่พวกท่าน ณ พระผู้บังเกิดพวกท่าน ภายหลังพระองค์ก็ได้ทรงอภัยโทษแก่พวกท่าน แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

คำแปล R5.
๕๔. และโอ้ลูกหลานยะก๊บในสมัยมูฮำมัด พวกเจ้าจงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ(เนียะมัต)ของข้า ๑๐ ประการ และความดีล้นที่ข้าได้อำนวยแก่บรรพบุรุษพวกเจ้าสมัยมูซา เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณโดยประพฤติตนตามใช้ตามห้ามของข้าในอัล-กุรอานและเตารอต ในเวลาที่มูซาบอกกับพรรคพวกของตนที่กราบไหว้บูชารูปโคทองว่า “โอ้พวกของข้า แท้จริงพวกเจ้าได้ฉ้อโกงตัวเอง ที่เอารูปลูกโคทองมาเป็นเจ้า เจ้าจงสำนึกผิดต่อพระผู้สร้างแห่งพวกเจ้า ว่าจะไม่บูชารูปโคทองต่อไป แล้วจงให้คนดีจากพวกเจ้าประหารคนที่ชั่ว นั่นแหละเป็นความดีแก่พวกเจ้าสำหรับพระผู้สร้างแห่งพวกเจ้า” พวกนั้นก็สมัครใจปฏิบัติตามคำสั่งของมูซา อัลเลาะห์ได้บันดาลให้เมฆดำลงปกคลุมเพื่อไม่ให้เห็นซึ่งกันและกัน ทั้งไม่ให้เกิดความสงสารแก่กัน จนกระทั่งพวกนั้นถูกฆ่าประมาณเจ็ดหมื่นคน พระองค์จึงทรงรับคำสารภาพผิด(เตาบะห์)จากบรรพบุรุษของพวกเจ้าและให้งดการฆ่าพวกที่ยังเหลืออยู่พร้อมให้พ้นจากการทารุณกรรม แท้จริงพระองค์ทรงรับคำสารภาพผิด(เตาบะห์)ทรงโปรดปรานอย่างมากแก่บรรพบุรุษของพวกเจ้า
หลังจากนั้นบรรพบุรุษขงพวกเจ้าที่ไม่ได้นับถือลูกโคทองเป็นเจ้าจำนวน ๗๐ คนได้ออกไปเฝ้าอัลเลาะห์ที่ภูเขาตูริซีนาร่วมกับมูซา เพื่อขอให้พระองค์โปรดอย่าตำหนิพวกที่กราบไหว้รูป และเชื่อฟังคำตรัสของพระองค์
[/size]

   

คำอ่าน
 55. วะอิซกุลตุม ยามูสาลัน..นุอฺมินะละกะ หัตตายะร็อลลอฮะญะฮฺเราะตัน..ฟะอะเคาะซัตฮุมุศออิเกาะตุ วะอัน..ตุมตัน..ซุรูน

คำแปล R1
.
55. And (remember) when you said: "O Musa (Moses)! We shall never believe in you till we see Allah plainly." But you were seized with a thunderbolt (lightning) while you were looking.

คำแปล R2.
55. และเมื่อครั้งที่ท่านทั้งหลายได้กล่าว(โต้นบีมูซา)ว่า โอ้มูซา! เราจะไม่ยอมศรัทธาในตัวท่าน(เป็นอันขาด)จนกว่า เราจะได้เห็นอัลเลาะฮฺอย่างกระจ่างชัด(เสียก่อน)ต่อจากนั้นอสุนีบาตก็ได้คร่า(ชีวิตของ)พวกเจ้า โดยขณะนั้นพวกเจ้าต่างเฝ้ามองดู(ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดบ้าง)

คำแปล R3.
55. และจงนึกถึงเมื่อตอนที่สูเจ้าได้กล่าวว่า “มูซาเอ๋ย เราจะไม่เชื่อท่านจนกว่าเราจะได้เห็นอัลลอฮฺ(พูดกับท่าน)ด้วยตาของเราเอง” ทันใดนั้นเองสายฟ้าก็ได้ฟาดลงมายังพวกสูเจ้าในขณะที่สูเจ้ากำลังมองอยู่จนสูเจ้าล้มสิ้นชีวิตไป

คำแปล R4.

55. และจงรำลึกถึง ขณะที่พวกเจ้ากล่าวว่า โฮ้มูซา ! เราจะไม่ศรัทธาต่อท่านเป็นอันขาด จนกว่าเราจะได้เห็นอัลลอฮฺโดยเปิดเผย แล้วสายฟ้าฝ่าก็ได้คร่าพวกเจ้า ขณะที่พวกเจ้ามองดูกันอยู่

คำแปล R5.
๕๕. และโอ้ลูกหลานยะก๊บในสมัยมูฮำมัด พวกเจ้าจงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ(เนียะมัต)ของข้า ๑๐ ประการ และความดีล้นที่ข้าได้อำนวยแก่บรรพบุรุษพวกเจ้าสมัยมูซา เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณโดยประพฤติตนตามใช้ตามห้ามของข้าในอัล-กุรอานและเตารอต ในเวลาที่บรรพบุรุษของพวกเจ้าจำนวน ๗๐ คนได้พูดแก่มูซาว่า “โอ้มูซาพวกเราจะยังไม่เชื่อตามท่านหรอก ว่าเสียงที่เราได้ยินนั้นเป็นคำตรัสของอัลเลาะห์จนกว่าพวกเราจะได้เห็นองค์อัลเลาะห์ด้วยตาของเราเองอย่างประจักษ์”
อสุนีบาตฟาดลงมาที่บรรพบุรุษของพวกเจ้าถึงกับพวกนั้นตายไป ๒๔ ชั่วโมง เพื่อเป็นการลงโทษทรมานเพราะมีความผิดฐานที่ไม่เชื่อ และไม่ออกห่างพวกที่ทำบาปโดยที่บรรพบุรุษของพวกเจ้าต่างก็มองดูกันและกันว่าพวกตนจะตายและเป็นกันอย่างไร


 

คำอ่าน
56. ษุม..มะบะอัสนากุม..มิม..บะอฺดิเมาติกุม ละอัลละกุมตัชกุรูน

คำแปล R1.
56. Then We raised you up after your death, so that you might be grateful.

คำแปล R2.
56. แต่หลังจากนั้น เราก็ได้ให้พวกเจ้าได้ฟื้นขึ้น(มาอีก)หลังจากพวกเจ้าได้(ถูกอสุนีบาตล้ม)ตายไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อพวกเจ้าจะได้สำนึกถึงพระคุณ(ของเรา)

คำแปล R3.
56. หลังจากนั้น เราก็ได้ให้สูเจ้าฟื้นขึ้นจากความตายเพื่อที่ว่าสูเจ้าจะได้ขอบคุณสำหรับความโปรดปรานอันนี้

คำแปล R4.

56. ภายหลังเราได้ให้พวกเจ้าคืนชีพ หลังจากที่พวกเจ้าได้ตายไปแล้ว เพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ

คำแปล R5.
๕๖. ต่อมาเราได้ให้บรรพบุรุษของพวกเจ้ากลับมีชีวิตอย่างเดิม หลังจากที่ได้ตายไปแล้ว ๒๔ ชั่วโมง เพราะมูซาวิงวอนต่อเราและเพื่อว่าจะแสดงอานุภาพของเราได้ประจักษ์และเพื่อให้พวกนั้นกลับมาดำรงอายุให้ครบตามที่เรากำหนดไว้แต่เดิมเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ขอบพระคุณต่อบุญคุณของเราที่ให้เกิดใหม่หลังจากตายไปแล้ว
 

   
คำอ่าน
57. วะซ็อลลัลนาอะลัยกุมุล เฆาะมามะ วะอัน..ซัลนาอะลัยกุมุลมัน..นะ วัสสัลวา, กุลูมิน..ฏ็อยยิบาติ มาเราะซักนากุม, วะมาเซาะละมูนา วะลากิน..กานู อัน..ฟุสะฮุม ยัซลิมูน

คำแปล R1.
57. And We shaded you with clouds and sent down on you Al-Manna and the quails, (saying): "Eat of the good lawful things we have provided for you," (but they rebelled). And they did not wrong Us but they wronged themselves.

คำแปล R2.
57. และเราได้ดลบันดาลให้เมฆมาปกคลุมพวกเจ้าไว้ และได้ส่ง(อาหารสองชนิดให้)ลงมาเหนือพวกเจ้า นั่นคือ อัลมันน์(น้ำตาลฟ้า)และอัซซัลวา(คล้ายนกคุ่ม) “พวกเจ้าจงรับประทานเถิดจากสิ่งดี ๆ ที่เราได้ประทานเป็นโชคผลแก่พวกเจ้า และพวกเขาไม่อาจฉ้อฉลเราได้ แต่ทว่าพวกเขาได้ทำการฉ้อฉลแก่ตัวของพวกเขาเอง

คำแปล R3.
57. (จงนึกถึงเมื่อ)เราได้ให้เมฆมายังสูเจ้าและเราได้ประทานมันนะและซัลวาเป็นอาหารสำหรับสูเจ้าและกล่าวว่า “จงกินจากสิ่งที่ดีที่เราได้ประทานให้แก่สูเจ้า” (แต่กระนั้นก็ตาม บรรดาบรรพบุรุษของสูเจ้าก็ยังละเมิดคำบัญชาของเรา) อย่างไรก็ตาม พวกเขามิได้อธรรมต่อเรา หากแต่พวกเขาอธรรมต่อตัวของพวกเขาเอง

คำแปล R4.

57. และเราได้ให้เมฆบดบังพวกเจ้าและได้ให้อัล-มันนะ และอัส-ซัลวา แก่พวกเจ้า พวกเจ้าจงบริโภคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าจากสิ่งดี ๆ เถิด และพวกเขาหาได้อธรรมแก่เราไม่ แต่ทว่าพวกเขาอธรรมแก่ตัวของพวกเขาเองต่างหาก

คำแปล R5.

๕๗. และเราได้ให้เมฆอันละเอียดลอยตามบรรพบุรุษของพวกเจ้า เพื่อบังความร้อนของดวงอาทิตย์ ณ ทะเลทรายตัยฮ์ ซึ่งอยู่ระหว่างซีเรียกับอียิปต์ และเรา(อัลเลาะห์)ได้ให้น้ำตาลฟ้า(มันนา)กับนกคุ่ม(ซัลวา)ลงมายังบรรพบุรุษของพวกเจ้าสำหรับเป็นอาหารหวานคาว และอนุญาตแก่พวกนั้นว่า “เจ้าจงกินอาหารอันโอชาที่เราให้แก่บรรพบุรุษของพวกเจ้าเถิด” และกำชับว่าอย่าเก็บเอาไว้ แต่พวกนั้นก็ฝ่าฝืน เราจึงงดเสียเพื่อเป็นการลงโทษทรมาน และพวกนั้นก็ไม่ได้ฉ้อโกงเราแต่ฉ้อโกงตัวเอง ฉะนั้นความเสียหายจึงสะท้อนกลับไปยังพวกนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:26 PM โดย webmaster »

 

GoogleTagged