กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
กระทู้ที่น่าสนใจ
ฟอรั่ม
หน้าแรก
ค้นหา
ปฏิทิน
Contact
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
GoogleTagged
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
มุมนักศึกษาอะห์ลิสซุนนะห์วัลญะมาอะห์
»
นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
»
คุฏบะฮฺวันศุกร์
»
คุตบะฮฺมัสยิดฮารูณ วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2553
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: คุตบะฮฺมัสยิดฮารูณ วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2553 (อ่าน 2408 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bangmud
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
คุตบะฮฺมัสยิดฮารูณ วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2553
«
เมื่อ:
มี.ค. 04, 2010, 08:15 PM »
0
Tweet
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพ
อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เป็นผู้ประทานทั้งความดีและความร้ายทั้งหลายไว้ในพื้นพิภพ เพื่อให้มนุษย์เลือกเอา มนุษย์จะเลือกเอาความดีหรือความชั่วนั้น มีจุดกำเนิดมาจากส่วนลึกของจิตใจของคนแต่ละคน คนที่ใฝ่ดีก็ขอดุอาให้ได้รับความดี และก็พยายามทำดีจนเกิดความดีแก่ตนทั้งในดุนยานี้และในวันอาคิเราะฮฺ ส่วนคนที่มีอารมณ์โดยไม่รู้จักควบคุม มันก็จะเลือกสนองแต่สิ่งที่อารมณ์ปรารถนา และในที่สุดก็ได้ทุกอย่างมาตามอารมณ์ แต่สิ่งที่ตนแสวงหาจนพบนั้น กลับกลายเป็นความหายนะ ที่ทำลายความผาสุกที่แท้จริงทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ และจมลงสู่ความชั่วร้ายจนถอนตัวไม่ขึ้น และไม่เป็นการบังควรที่จะมองหาเหตุแห่งความผิดนั้นจากที่อื่น ๆ นอกตัว ที่ควรจะค้นหาดูนั้นคือ จากจิตใจของตนเองว่า ส่วนลึกของจิตใจนั้นปรารถนาให้เกิดความดีหรือความร้ายแก่ตนเองกันแน่ ถ้าพบแล้วก็รีบเปลี่ยนแปลงแก้ไขจากส่วนลึกของจิตใจตนเองเสียก่อน แล้วอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา จะได้ตอบสนองให้ตามความตั้งใจจริง อันเป็นแรงปรารถนาจากส่วนลึกของจิตใจตนต่อไป เพราะอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา พร้อมเสมอที่จะตอบสนองดุอา พร้อมที่จะรับการขออภัย การกลับเนื้อกลับตัว และพร้อมที่จะประทานความดีแก่บ่าวที่ซื่อสัตย์และจริงใจต่อพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ในอัลกุรอาน
“นั่นก็เพราะอัลลอฮฺมิได้ทรงเป็นผู้เปลี่ยนแปลงความกรุณาใด ๆ ที่พระองค์ทรงประทานแก่กลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใดจนกว่าเขาจะได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ในตัวของพวกเขาเอง และแท้จริง อัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
”
สูเราะฮฺ อัลอันฟาล 8:53
อัลกุรอานยืนยันอย่างชัดแจ้งแล้วว่า สิ่งที่จะเกิดเป็นความร้ายต่อมนุษย์นั้น แท้จริงมีจุดกำเนิดจากการชักนำจากจิตใจของมนุษย์นั่นเอง ไม่ใช่ว่าอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา จะทรงยัดเยียดความร้ายให้กับผู้ใดก็หาไม่ เพราะพระองค์ทรงเมตตาและกรุณายิ่งนัก ดังนั้น หน้าที่ของมนุษย์ จึงต้องชักจูงจิตใจของตนเองให้เชื่อและศรัทธาต่อบัญญัติของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ด้วยจริงใจในทุก ๆ เรื่อง เพื่อดวงวิญญาณจะได้ไม่หันเหไปแสวงหาสิ่งเลวร้ายที่จะเป็นภัยแก่ตนเองในวันข้างหน้า โปรดสังเกต ผู้ที่จมอยู่ในความริษยานั้น จะไม่ได้รับความดีใด ๆ เลย เพราะการที่เขาไม่อยากเห็นความดีเกิดขึ้นกับผู้อื่นนั้น เท่ากับเป็นการสอนใจตัวเองให้ปฏิเสธความดีนั้น ๆ ด้วย จนในที่สุดดวงวิญญาณของเขาก็เริ่มเกลียดความดีนั้น ๆ โดยไม่รู้สึกตัว อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา จึงประทานให้ความดีเหล่านั้นพ้นจากตัวของเขาไปตามแรงปรารถนาของเขาเอง เขาจึงเป็นผู้ที่ไม่มีโอกาสได้รับความสุขใจ ความสบายใด ๆ
คนจะสงบต้องรักคนสงบ คนจะดีได้ต้องรักเป็นคนที่รักชอบกับคนดีก่อน เพราะมุมิน จะรักมุมินด้วยกันเอง และพวกมุชริกก็จะรักใคร่ระหว่างพวกของเขาเอง คนที่ปฏิเสธแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็จะไม่ได้เป็นพลรรคของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ดังนั้น ผู้ที่แสวงหาความดี ต้องเป็นผู้ที่รักคนดีและรักความดี และต้องพยายามทำความดีประกอบไปกับการขอดุอาให้เกิดความดีไปพร้อม ๆ กันด้วย และต้องยอมรับว่าอำนาจสิทธิ์ขาดในการให้นั้นเป็นของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ส่วนผู้ที่ไม่พอใจที่จะเห็นคนอื่นได้ดี ก็เท่ากับไม่พอใจในการตัดสินของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เมื่อจิตใจเริ่มขัดขืนต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลาแล้ว เช่นนี้จะเป็นมุสลิมอยู่ก็แต่เพียงการแสดงฉาบฉวยเท่านั้น หัวใจนั้นเป็นปฏิปักษ์ต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลาไปแล้ว และจะขยายการเป็นปฏิปักษ์มากขึ้น เมื่อชัยตอนให้การสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น
และแน่นอนสำหรับผู้ที่ยอมรับการตัดสินของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลานั้น แม้นบางครั้งเขาจะผิดหวังในสิ่งประสงค์บ้าง เขาก็ยินดีกับอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตลอดเวลา เพราะเขารู้ซึ้งในความเมตตาของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา และวางใจในอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา
การที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ยังไม่ประทานสิ่งที่เราปรารถนาให้แก่เราในขณะนี้ เพราะสิ่งที่เราคิดว่าดีนั้นอาจจะไม่ดีสำหรับเราในช่วงเวลานี้ก็ได้ จึงต้องมอบใจให้พระองค์ผู้ทรงรอบรู้เป็นผู้ตัดสิน จะให้หรือไม่ให้ก็สุดแต่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา จะเห็นสมควร ส่วนตัวเราเองก็ต้องพยายามต่อไป ถ้าหยุดพยายาม ก็จะขัดคำสั่งของอัลลอฮฺที่สั่งไว้ว่า “อย่าสิ้นหวังในเราะหฺมะฮฺของอัลลอฮฺ” การพยายามทำดีเป็นเรื่องอยู่ในความรับผิดชอบของเราเอง ส่วนการตอบสนองผลงานเป็นเรื่องของอัลลอฮฺ และเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เท่านั้น จึงไม่ควรที่จะคิดไปมีสิทธิ์ร่วมในการตัดสินของพระองค์ ไม่ว่าจะด้วยการกระทำหรือแม้แต่สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจก็ตามที ถึงจะเรียกได้ว่า เป็นผู้มอบความไว้วางใจในอัลลอฮฺด้วยบริสุทธิ์ใจ
การที่ให้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา นั้น ต้องทำและคิดทุกอย่างตามที่อัลลอฮฺและร่อซู้ลได้บัญชาไว้ เริ่มต้นจากการกินของสะอาด จากเงินที่สะอาด แต่งตัวและรักษาร่างกายให้สะอาด ดูแลอย่าให้มีกลิ่นปาก พูดแต่เรื่องดี ๆ อยู่ในสังคมที่สะอาดและห่างไกลสังคมที่โสมม อย่าเข้าใกล้คนชั่วนอกจากจะต้องการตักเตือนเขาด้วยอัลกุรอานและแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม หลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาทและการถกเถียงในสิ่งไร้สาระที่ปราศจากหลักฐานของศาสนา หวังดีกับเพื่อนมนุษย์ด้วยจริงใจ รักษาชื่อเสียงและความปลอดภัยในร่างกายและทรัพย์สินของมุมิน
มีรายงานจากท่านอบูฮรอยเราะฮฺ บันทึกโดยซอฮีหฺบุคอรี ว่า ท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เคยพูดว่า “ผู้ที่กระทำการให้พี่น้องมุสลิมของเขาต้องเสียเกียรติหรือเสียหายในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ต้องไปขออภัยจากเขา ก่อนที่ผู้กระทำการนั้นจะไม่มีเหลือแม้แต่หนึ่งดีน่าร์ หรือหนึ่งดีรฮัม”
จากฮาดิษบทนี้ เราพอจะเข้าใจได้ว่า โชคร้ายและความอับจนที่เกิดขึ้นกับเรานั้น แท้จริงเกิดจากการอธรรมที่เราก่อไว้กับผู้อื่นก่อนนั่นเอง และถ้าหากต้องใช้กรรมนี้กันต่อไปในวันอาคิเราะฮฺ บางคนอาจจะกลายเป็นบุคคลล้มละลายอย่างน่าเสียดายที่สุด เพราะได้เอาความดีของตนเองไปใช้หนี้กรรมของคนอื่นแล้ว ถ้ายังไม่พอก็ต้องรับบาปแทนบาปของผู้นั้นต่อไปจนกว่าจะหมดกัน อัลกุร อานและอัล-ฮาดิษชัดเจนถึงเพียงนี้แล้ว จึงไม่สมควรที่คนหนึ่งคนใดจะอาสารับบาปของคนอื่นอยู่อีก
ท่านพี่น้องมุสลิมที่เคารพ ด้วยเพราะขาดการศึกษา มนุษย์จึงหลงผิด คิดว่าผิดนั้นเป็นถูก และยอมรับเอาการริษยา การกลั่นแกล้ง การเกลียด มาเป็นอารมณ์ชี้นำ จนในที่สุดเขาก็ได้สิ่งเหล่านั้นตามแรงปรารถนา และผู้ที่ขาดการนำพาจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา จึงขอพรให้เรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง ดังบัญญัติในอัลกุรอานแล้วว่า
“และมนุษยนั้นวิงวอนขอความชั่ว เยี่ยงการวิงวอนขอของเขาเพื่อความดี และมนุษย์นั้นเป็นผู้รีบร้อนเสมอ”
อัลอิสรออ์ 17:11
ดังนั้น พึงระวังอย่าให้ดวงวิญญาณวอนขอในสิ่งที่เลวร้ายเลย เพราะอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา พร้อมเสมอที่จะตอบสนองคำวิงวอนที่ปรารถนานั้น
คัดลอกจากเอกสารเผยแพร่ของมัสยิดฮารูณ โดย Bangmud เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2553[/size]
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
มุมนักศึกษาอะห์ลิสซุนนะห์วัลญะมาอะห์
»
นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
»
คุฏบะฮฺวันศุกร์
»
คุตบะฮฺมัสยิดฮารูณ วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2553
GoogleTagged
ดุอาอ์
sunnahstudents
ดุอา
ดอกไม้
google