อัสลามุอะลัยกุ้มครับท่านพี่น้อง
เป็นที่ทราบกันดีว่า
มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ เกิดที่เมืองนัจด์ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของนครมะดีนะฮ์และเป็นแห่งเกิดเนิดของแนวทางวะฮาบีปัจจุบันที่ยึดครองมักกะฮ์และมะดีนะฮ์อยู่ในขณะนี้ ด้วยการฟิตนะฮ์ฮุกุ่มพี่น้องมุสลิมแล้วทำการสงครามรบราฆ่าฟันพี่น้องมุสลิมในยุคนั้นดังที่ประวัติศาสตร์ได้ยืนยันเอาไว้ แต่ฟิตนะฮ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือ วะฮาบีจะฮุกุ่มแนวทางอื่นเป็นกาเฟรบ้าง ฮุกุ่มพี่น้องมุสลิมเป็นพวกลุ่มหลงบ้าง ผมคิดว่าเป็นผลสืบเนื่องจากมาแห่งกำเนิดที่ฟิตนะฮ์ แล้วหลักการจึงเป็นฟิตนะฮ์ต่อพี่น้องมุสลิมด้วย ซึ่งแห่งกำเนิดฟิตนะฮ์ของวะฮาบีนี้ ท่านนบี(ซ.ล.)ได้ยืนยันรับรองไว้อย่างมิต้องสงสัย ซึ่งผมจะนำเสนอรายละเอียดดังต่อไปนี้
บังอัซฮะรีกล่าวว่า
ตราบใดที่ชีอะฮ์ยึดประวัติศาสตร์มาอ้างโดยลักษณะที่ขัดแย้งกับตัวบทของอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ผมไม่ขอเชื่ออย่างเด็ดเขาฉันท์ใด แน่นอนจากบทนำประวัติกำเนิดวะฮาบีย์นี้ผมก็ไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดฉันท์นั้น เพราะประวัติบทนำกำเนิดวะฮาบีย์นี้ มันขัดแย้งกับซุนนะฮ์นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และเป็นการกล่าวมุสาต่อซุนนะฮ์นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ดังนั้นหากเราเชื่อต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เราก็ห้ามเชื่อบทนำประวัติกำเหนิดวะฮาบีย์อันนี้ เพราะท่านร่อซูลุลลอฮ์ได้สาบานต่ออัลเลาะฮ์ในการปฏิเสธเนื้อหาประวัติอันนี้ไว้ตั้งแต่ 1400 ปีมาแล้ว
รายงานจากอุกบะฮ์ บิน อามีร เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
وَإِنِّي قَدْ أُعْطِيتُ خَزَائِنَ مَفَاتِيحِ الْأَرْضِ وَإِنِّي وَاللَّهِ مَا أَخَافُ بَعْدِي أَنْ تُشْرِكُوا وَلَكِنْ أَخَافُ أَنْ تَنَافَسُوا فِيهَا
"แท้จริงบรรดาคลังกุญแจแห่งแผ่นดินได้ถูกมอบให้แก่ฉัน และแท้จริง
ฉันขอสาบานต่ออัลเลาะฮ์ว่า หลังจากที่ฉันเสียชีวิตไปแล้ว
ฉันไม่กลัวว่าพวกท่านจะทำชิริก แต่ทว่าฉันกลัวว่าพวกท่านจะแข่งขันกันชิงดีชิงเด่นบนผืนแผ่นดิน" รายงานโดยบุคอรีย์ (3329)
รายงานจากท่านญาบิร เขากล่าวว่า
سَمِعْتُ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ إِنَّ الشَّيْطَانَ قَدْ أَيِسَ أَنْ يَعْبُدَهُ الْمُصَلُّونَ فِي جَزِيرَةِ الْعَرَبِ وَلَكِنْ فِي التَّحْرِيشِ بَيْنَهُمْ
"ฉันได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า แท้จริง
ชัยฏอนนั้นได้สิ้นหวังให้บรรดาผู้ทำการละหมาด(คือบรรดามุสลิมีน) ทำการกราบไหว้มัน(คือทำชิริก)ในคาบสมุทรอาหรับ แต่มันพยายามสร้างความแตกแยกระหว่างพวกเขา" รายงานโดยมุสลิม (5030)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์อธิบายว่า
وَمَعْنَاهُ : أَيِس أَنْ يَعْبُدهُ أَهْل جَزِيرَة الْعَرَب , وَلَكِنَّهُ سَعَى فِي التَّحْرِيش بَيْنهمْ بِالْخُصُومَاتِ وَالشَّحْنَاء وَالْحُرُوب وَالْفِتَن وَنَحْوهَا
"ความหมายของฮะดิษ คือ ชัยฏอนสิ้นหวังแล้วที่ชาวคาบสมุทรอาหรับจากทำการกราบไว้(หมายถึงทำชิริก)ต่อชัยฏอน แต่ทว่ามันทำยุยงให้เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาให้มีการถกเถียงขัดแย้งกัน มีความรังเกียจ มีการรบฆ่าฟัน มีการสร้างฟิตนะฮ์กล่าวหาผู้อื่น เป็นต้น" หนังสือชัรห์ซอฮิห์มุสลิม
อ้างอิงจาก
อีกมุมมองจุดกำเหนิดวะฮาบีย์ตามนัยยะซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) ดังนั้นท่านนบี(ซ.ล.)ได้ยืนยันไว้แล้วว่าในคาบสมุทอาหรับไม่มีชิริกใหญ่ ชัยฏอนมันจะยุยงให้คาบสมุทรอาหรับ รบราฆ่าฟัน และสร้างฟิตนะฮ์ต่อกัน
ซึ่งเมืองนัจด์แหล่งกำเนิดของวะฮาบีย์ ก็อยู่ในกลุ่มฟิตนะฮ์ที่ซุนนะฮ์ได้รับรองไว้ ดังหลักฐานซุนนะฮ์ที่ซอเฮี๊ยะห์ดังต่อไปนี้
ท่านอิบนุอุมัร รอฏิยัลลอฮุอันฮุ รายงานว่า
ذكر النبي صلى الله عليه وسلم " اللهم بارك لنا في شأمنا اللهم بارك لنا في يمننا " قالوا يا رسول الله وفي نجدنا؟. قال : "اللهم بارك لنا في شأمنا اللهم بارك لنا في يمننا". قالوا " يا رسول الله وفي نجدنا ؟ فأظنه قال في الثالثة " هناك الزلازل والفتن وبها يطلع قرن الشيطان
"ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า "โอ้ข้าแด่อัลเลาะฮ์ โปรดทรงประทานความจำเริญแก่เราในเมืองชามของเราด้วยเถิด โอ้ข้าแด่อัลเลาะฮ์ โปรดทรงประทานความจำเริญแก่เราในเมืองเยเมนของเราด้วยเถิด" เหล่าซอฮาบะฮ์ถามว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮ์ แล้วในเมืองนัจด์ของเราล่ะ? ท่านร่อซูลจึงกล่าวว่า "โอ้ข้าแด่อัลเลาะฮ์ โปรดทรงประทานความจำเริญแก่เราในเมืองชามของเราด้วยเถิด โอ้ข้าแด่อัลเลาะฮ์ โปรดทรงประทานความจำเริญแก่เราในเมืองเยเมนของเราด้วยเถิด"
เหล่าซอฮาบะฮ์ถามว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮ์ แล้วในเมืองนัจด์ของเราล่ะ? ดังนั้นฉันคิดว่าในครั้งที่สาม
ท่านร่อซูลุลลอฮ์จึงกล่าวว่า "ที่นั่น(คือที่เมืองนัจด์)มีแผ่นดินไหว มีบรรดาฟิตนะฮ์ และเขาของชัยฏอนได้ขึ้นที่นั่น" รายงานโดยท่านอิมามบุคอรี
เป็นที่ทราบกันดีว่า เมืองนัจด์นั้น คืออยู่ในคาบสมุทอาหรับ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของกลุ่มวะฮาบีย์และมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ
คณะกรรมการฟัตวาถาวรแห่งซาอุ ได้ยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าอย่างไม่รู้ตัว คณะกรรมการฟัตวาแห่งซาอุฯกล่าวว่า
قيل يعني نجد مسكن ربيعة ومضر وهي مشرق لقوله في حديث إبن عمر حين قال صلي الله عليه وسلم قال : "اللهم بارك لنا في شأمنا اللهم بارك لنا في يمننا". قالوا وفي نجدنا ؟ يا رسول الله قال هناك الزلازل والفتن وبها يطلع قرن الشيطان
"บ้างกล่าวว่า
ความหมายของฮะดิษนั้นหมายถึง เมืองนัจด์ที่เป็นสถานที่อยู่ของเผ่ารอบีอะฮ์และมุฎร์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออก เพราะท่านร่อซูลุลอฮ์ได้กล่าวไว้ในฮะดิษของท่านอิบนุอุมัร ในขณะที่ท่านร่อซูลุลลอฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า "โอ้ข้าแด่อัลเลาะฮ์ โปรดทรงประทานความจำเริญแก่เราในเมืองชามของเราด้วยเถิด โอ้ข้าแด่อัลเลาะฮ์ โปรดทรงประทานความจำเริญแก่เราในเมืองเยเมนของเราด้วยเถิด"
เหล่าซอฮาบะฮ์ถามว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮ์ แล้วในเมืองนัจด์ของเราล่ะ? ท่านร่อซูลจึงกล่าวว่า "ที่นั่น(คือที่เมืองนัจด์มีแผ่นดินไหว มีบรรดาฟิตนะฮ์ และเขาของชัยฏอนได้ขึ้นที่นั่น"
แล้วคณะกรรมการฟัตตาได้กล่าวสรุปว่า
والظاهر أن الحديث يعم جميع المشرق الأدني والأقصي والأوسط ومن ذلك فتنة مسيلمة وفتنة المرتدين من ربيعة ومضر وغيرهما من جزيرة العرب
"ที่ปรากฏให้เห็นคือ
แท้จริงฮะดิษนี้ได้ครอบคลุมทั้งหมดทิศตะวันออกที่ใกล้สุด ไกลสุด หรือกลาง(คือเมืองนัจด์ด้วย) และส่วนหนึ่งสิ่งดังกล่าวคือ ฟิตนะฮ์ของมุซัยละมะฮ์(ที่อ้างตนเป็นนบี) และฟิตนะฮ์ของพวกตกมัรตัดจากเผ่ารอบีอะฮ์ มุฎร์ และ
อื่น ๆ จากทั้งสอง ที่มาจากแถบคาบสมุทรอาหรับ" จากหนังสือฟะตาวา อัลลัจญฺนะฮ์อัดดาอิมะฮ์ ลิลบุฮูษิลอิลมียะฮ์ วัลอิฟตาอฺ เล่มที่ 3 หน้าที่ 93 - 94 ในหมวดอะกีดะฮ์ ตีพิมพ์ที่ดารุอุลินนุฮา
ดังนั้นในปัจจุบัน ปรากฏให้เห็นชัดเจนว่า วะฮาบีคือกลุ่มที่ชอบฟิตนะฮ์ต่อผู้อื่นที่สุด และพวกเขากำเนิดจากเมืองนัจด์ จากคราบสมุทรอาหรับ ตามที่ท่านนบี(ซ.ล.) ได้ยืนยันเอาไว้
วัลลอฮุอะลัมบิสศ่อว๊าบ