ผู้เขียน หัวข้อ: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ  (อ่าน 14283 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tholib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 75
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ม.ค. 10, 2010, 11:28 PM »
0

กรณีที่  2  คือข้อชี้ขาดว่าด้วยการนำเอาหะดีษฎ่ออีฟมาปฏิบัติ  (حكم العمل به)  กรณีนี้นักวิชาการมีความเห็นต่างกัน  ตามทัศนะปวงปราชญ์ถือว่า  ส่งเสริม  (มุสตะฮับ)  ให้นำหะดีษฎ่ออีฟมาปฏิบัติในเรื่องความประเสริฐหรือกุศลกิจต่าง ๆ (فَضَاﺋﻞ الأَعمَال)  แต่มีเงื่อนไขอยู่  3  ประการตามที่อิบนุ  ฮะญัร  (ร.ฮ.)  ได้ระบุเอาไว้  คือ

1. ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง
2. หะดีษนั้นเข้าอยู่ภายใต้หลักมูลฐานที่มีการปฏิบัติกันอยู่แล้ว
3. ในขณะที่นำมาปฏิบัติ  จะต้องไม่ปักใจเชื่อ  (อิอฺติกอด)  ว่าหะดีษนั้นถูกต้องแข็งแรงและเป็นสิ่งที่แน่นอนเด็ดขาด  หากแต่เผื่อเอาไว้เท่านั้น


http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=552.0

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 12:00 AM »
0
ข้อมูลนักรายงานหะดีษ
1.   ดาวูด อัล-มุหับบัรฺ (เสียชีวิตฮ.ศ. 206)
      อับดุลลอฮฺ อิบนุ อะหฺมัดกล่าวว่า: "ฉันได้ถามพ่อของฉัน (นั่นคืออิมามอะหฺมัด) เกี่ยวกับดาวูด อิบนุ อัล-มุหับบัรฺ แล้วท่านก็หัวเราะและกล่าวว่า เขาประหนึ่งไม่มีอะไรเลย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหะดีษนั้นคืออะไร".
      อิมามอะหฺมัดและอิมามอัล-บุคอรีย์กล่าวว่า: เขาเป็นคนโกหก
      อบูดาวูดกล่าวว่า: "ษิเกาะฮฺ ประหนึ่งว่าเฎาะอีฟ"
      อบูซุรฺอะฮฺกล่าวว่า: "เฎาะอีฟุลหะดีษ"
      อิบนุมะอีนกล่าวว่า: "เฎาะอีฟ" และในอีกตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า "ษิเกาะฮฺ"
      อัล-ษัยซะมีย์กล่าวว่า: "เฎาะอีฟ" และอีกตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า: "เฎาะอีฟมาก"
      อัด-ดาเราะกุฏนีย์และอิบนุหะญัรฺกล่าวว่า: "มัตรูก"

อาบิร ซะบีล  ได้ยืนยันว่า  อิมามอัลบุคอรีย์  ตัดสินว่า  ดาวูด อัลมุฮับบัร  "เขาเป็นคนโกหก"  แต่เมื่อกลับไปดูหนังสือ  กิตาบอัตตารีค อัลกะบีร และกิตาบอัฏฏู่อะฟาอฺ อัศศ่อฆีร ของอิมามบุคอรีย์ทั้งสองเล่ม  ปรากฏว่า อิมามอัลบุคอรีย์ระบุว่า "ดาวูด บิน อัลมุหับบัรนั้น มุงกัรฮะดีษ" เท่านั้นเอง!

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวว่าหลักการใช้ฮะดีษฏ่ออีฟความว่า

وَإِنَّمَا أَبَاحَ الْعُلَمَاءُ العَمَلَ بِالضَّعِيْفِ فِي القِصَصِ وَفَضَائِلِ الأَعْمَالِ اَلَّتِي لَيْسَتْ فِيْهَا مُخَالِفَةً لِمَا تَقَرَّرَ فِي أُصُوْلِ الشَّرْعِ مِثْلُ : فَضْلِ التَّسْبِيْحِ ، وَسَائِرِ الأَذْكَارِ

"แท้จริงบรรดาอุลามาอฺได้ให้อนุญาตให้ปฏิบัติฮะดีษฎ่ออีฟเกี่ยวกับเรื่องเล่าและคุณความดีทั้งหลายที่ไม่ขัดกับหลักกำหนดของศาสนา  เช่น  คุณความดีเกี่ยวกับการกล่าวตัศบีห์ และบรรดาการซิกิรอื่น ๆ"  หนังสือ คุลาศ่อตุลอะห์กาม เล่ม 1 หน้า 59-60

ดังนั้น  บรรดาฮะดีษการลูบหน้าพร้อมซิกิรนั้น  จึงเป็นหลักปฏิบัติที่อยู่บนรากฐานของศาสนาอย่างมิต้องสงสัย


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 11, 2010, 12:41 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 12:12 AM »
0
  พวกวะฮาบีนี้สับขาหลอกเก่งจริงไปพลิ้วเลย หากไม่มีผู้รู้คอยชี้แจงคนเอาวามลำบากครับ party:

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 12:47 AM »
0

กรณีที่  2  คือข้อชี้ขาดว่าด้วยการนำเอาหะดีษฎ่ออีฟมาปฏิบัติ  (حكم العمل به)  กรณีนี้นักวิชาการมีความเห็นต่างกัน  ตามทัศนะปวงปราชญ์ถือว่า  ส่งเสริม  (มุสตะฮับ)  ให้นำหะดีษฎ่ออีฟมาปฏิบัติในเรื่องความประเสริฐหรือกุศลกิจต่าง ๆ (فَضَاﺋﻞ الأَعمَال)  แต่มีเงื่อนไขอยู่  3  ประการตามที่อิบนุ  ฮะญัร  (ร.ฮ.)  ได้ระบุเอาไว้  คือ

1. ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง
2. หะดีษนั้นเข้าอยู่ภายใต้หลักมูลฐานที่มีการปฏิบัติกันอยู่แล้ว
3. ในขณะที่นำมาปฏิบัติ  จะต้องไม่ปักใจเชื่อ  (อิอฺติกอด)  ว่าหะดีษนั้นถูกต้องแข็งแรงและเป็นสิ่งที่แน่นอนเด็ดขาด  หากแต่เผื่อเอาไว้เท่านั้น

http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=552.0

คำว่า "ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง"  หมายถึง  "ต้องไม่เป็นฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ" ตามที่เป้าหมายที่ปราชญ์ฮะดีษได้ระบุไว้   ส่วนบรรดาฮะดีษเรื่องการลูบหน้าพร้อมดุอานั้น  ประมวลแล้วไม่ใช่ฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ!  
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

subson

  • บุคคลทั่วไป
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 07:26 AM »
0

คำว่า "ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง"  หมายถึง  "ต้องไม่เป็นฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ" ตามที่เป้าหมายที่ปราชญ์ฮะดีษได้ระบุไว้   ส่วนบรรดาฮะดีษเรื่องการลูบหน้าพร้อมดุอานั้น  ประมวลแล้วไม่ใช่ฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ!  


 หากความอ่อนของฮาดิษนั้นรุนแรง หมายถึง ฮาดีษเมาฏั๊วะอฺ ตามที่ ท่าน al-azhary เข้าใจแล้วล่ะก็

 เงื่อนไขอยู่  3  ประการตามที่อิบนุ  ฮะญัร  (ร.ฮ.)  ได้ระบุเอาไว้  ขยายความได้ดังนี้คือ

1. ต้องไม่เป็นฮาดิษเมาฏั๊วะอฺ                           (แต่ทำไมเขาเลือกใช้คำว่า ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง)

2.หะดีษนั้นเข้าอยู่ภายใต้หลักมูลฐานที่มีการปฏิบัติกันอยู่แล้ว                 (ข้อนี้ไม่ได้หมายถึงฮาดิษเมาฏั๊วะอฺแน่นอนเพราะไม่เป็นไปตามเงื่อนไข แล้วเขาหมายถึงอะไร ถ้าไม่ใช่ฮาดิษอ่อนรุนแรง)

3 ในขณะที่นำมาปฏิบัติ  จะต้องไม่ปักใจเชื่อ  (อิอฺติกอด)  ว่าหะดีษนั้นถูกต้องแข็งแรงและเป็นสิ่งที่แน่นอนเด็ดขาด  หากแต่เผื่อเอาไว้เท่านั้น (เขายังไม่แน่ใจ ที่ทำก็เป็นการเผื่อ(ว่าจะได้บุญ)  แต่บางคนกลับฟันธงว่าเป็นซุนนะ และเรียกคนที่ไม่ทำว่า วาฮาบี)


เข้าใจว่า  อาจารย์ กลัวเสียฟอร์ม ก็เลยแถไปเรื่อย ลึกๆในจิตใจก็ยอมรับ แต่ทำไง ลูกศิษเชียร์อยู่

ออฟไลน์ มาลิกกุ๊กกิ๊ก

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 451
  • เพศ: ชาย
  • คนความรู้น้อย
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 08:04 AM »
0
มันก็งัดแต่เรื่องเดิมๆมาเนอะ


ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 10:10 AM »
0
^
เห็นชอบด้วยประการทั้งปวง
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ tholib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 75
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 10:21 AM »
0
อ้างถึง
คำว่า "ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง"  หมายถึง  "ต้องไม่เป็นฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ"

เดี๋ยวจะลองถามอาจารย์อาลีดูครับ ว่าความหมายของ "ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง"
หมายถึง หะดิษเมาฎัวะอฺ หรือ หะดิษอะไร

เพราะอาจารย์เขาจบด้านหาดิษมาโดยตรง ท่านน่าจะให้คำอธิบายได้ดีกว่า

ออฟไลน์ tholib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 75
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 10:37 AM »
0
โดยเฉพาะในสายรายงาน ของหะดีษที่  2  นั้น  มีดาวุด  อิบนุ  อัลมิฮฺบัรฺ  ปรากฏอยู่ซึ่งบุคคลผู้นี้  ท่านอิบนุ  ฮิบบาน  ระบุว่า  กุหะดีษโดยอ้างสายรายงานถึงผู้ที่ไว้ใจได้  (ซิกอตฺ)  -(ดูตัฟซีฮุชชะรีอะฮฺ  อัลมัรฟูอะฮฺ ; อิบนุ  อิร๊อก  อัลกินานีย์  เล่มที่  1  หน้า  59)


http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=370.0

-------

الضعفاء للأصبهاني - (1 / 78)
داود بن المحبر بن قحذم أبو سليمان حدث بمناكير في العقل وغيره حدثونا عن الحارث بن أبي أسامة عنه كذبه أحمد بن حنبل والبخاري رحمهما الله

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 10:42 AM »
0
อ้างถึง
คำว่า "ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง"  หมายถึง  "ต้องไม่เป็นฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ"

เดี๋ยวจะลองถามอาจารย์อาลีดูครับ ว่าความหมายของ "ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง"
หมายถึง หะดิษเมาฎัวะอฺ หรือ หะดิษอะไร

เพราะอาจารย์เขาจบด้านหาดิษมาโดยตรง ท่านน่าจะให้คำอธิบายได้ดีกว่า

ผมจบคณะอัชชะรีอะฮ์(ฟิกห์ครับ) ไม่ได้จบคณะฮะดีษตามมหาลัยที่มีตำราเรียนและต้องสอบ  แต่ผมก็มีโอกาสได้เรียนฮะดีษครับ  แต่ในมัสยิดอัลอัซฮัรสายตรง(ไม่ใช่ในมหาลัยฯ) เรียนเจ็ดโมงครึ่งจนถึงเก้าโมงเช้าโดยไม่ต้องเรียนเป็นคาบครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 10:59 AM »
0
โดยเฉพาะในสายรายงาน ของหะดีษที่  2  นั้น  มีดาวุด  อิบนุ  อัลมิฮฺบัรฺ  ปรากฏอยู่ซึ่งบุคคลผู้นี้  ท่านอิบนุ  ฮิบบาน  ระบุว่า  กุหะดีษโดยอ้างสายรายงานถึงผู้ที่ไว้ใจได้  (ซิกอตฺ)  -(ดูตัฟซีฮุชชะรีอะฮฺ  อัลมัรฟูอะฮฺ ; อิบนุ  อิร๊อก  อัลกินานีย์  เล่มที่  1  หน้า  59)


http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=370.0

-------

الضعفاء للأصبهاني - (1 / 78)
داود بن المحبر بن قحذم أبو سليمان حدث بمناكير في العقل وغيره حدثونا عن الحارث بن أبي أسامة عنه كذبه أحمد بن حنبل والبخاري رحمهما الله


หากเรากลับไปดูคำพูดของท่านอิมามอัลบุคอรีย์จริง ๆ นั้น มีระบุดังนี้ครับ

ท่านอิมามอัลบุคอรีย์กล่าวว่า       

 داود بن المحبر، منكر الحديث

"ดาวูด บิน อัลมุหับบัรนั้น มุงกัรฮะดีษ" หนังสืออัตตารีค อัลกะบีร 1/45

ท่านอิมามอัลบุคอรีย์ได้กล่าวในหนังสือ กิตาบอัฏฏุ่อะฟาอฺ อัศศ่อฆีร เช่นกันว่า

داود بن المحبر منكر الحديث

"ดาวูด บิน อัลมุหับบัรนั้น มุงกัรฮะดีษ" หนังสืออัตตารีค อัลกะบีร 3/244

เมื่อไปตรวจสอบคำพูดของอิมามอัลบุคอรีย์ จากตำราของท่านสองเล่มจริง ๆ ท่านอับบุคอรีย์ไม่ได้กล่าวว่า ดาวูด บิน อัลมุหับบัร เป็นคนโกหกนี่ครับ  แค่มุงกัรฮะดีษเท่านั้น   ดังนั้นท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ ฮะญัร  ได้สรุปทัศนะต่าง ๆ ที่ขัดแย้งกัน ของอุลามาอฺฮะดีษที่มีต่อ อาวูด บิน อัลมุหับบัร ว่า  เขานั้น  "มัตรูก"  ซึ่งเป็นฮะดีษฏ่ออีฟที่ไม่ได้อยู่ในระดับเมาฏั๊วะแต่อย่างใด

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 11:12 AM »
0

เข้าใจว่า  อาจารย์ กลัวเสียฟอร์ม ก็เลยแถไปเรื่อย ลึกๆในจิตใจก็ยอมรับ แต่ทำไง ลูกศิษเชียร์อยู่


การเข้าใจของคุณสับสนถือว่าอยู่ในแง่ร้าย ถือเป็นบาปตามที่อัลกุรอานได้บอกไว้ครับคุณสับสน  ผมเห็นคุณชอบยกอัลกุรอาน แต่อัลกุรอานไม่ได้ให้ประโยชน์แก่คุณเลย  นั่นคงเป็นเพราะคุณชอบอ่านศึกษาอัลกุรอานแต่ไม่ชอบปฏิบัติหรืออย่างไรกัน?!  แบบนี้พี่น้องคนอื่นก็รู้กันหมดซิว่า คุณเป็นคนชอบศึกษาอัลกุรอานประเภทใหน?!


คำว่า "ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง"  หมายถึง  "ต้องไม่เป็นฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ" ตามที่เป้าหมายที่ปราชญ์ฮะดีษได้ระบุไว้   ส่วนบรรดาฮะดีษเรื่องการลูบหน้าพร้อมดุอานั้น  ประมวลแล้วไม่ใช่ฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ!  

หากความอ่อนของฮาดิษนั้นรุนแรง หมายถึง ฮาดีษเมาฏั๊วะอฺ ตามที่ ท่าน al-azhary เข้าใจแล้วล่ะก็

เงื่อนไขอยู่  3  ประการตามที่อิบนุ  ฮะญัร  (ร.ฮ.)  ได้ระบุเอาไว้  ขยายความได้ดังนี้คือ

1. ต้องไม่เป็นฮาดิษเมาฏั๊วะอฺ                           (แต่ทำไมเขาเลือกใช้คำว่า ความอ่อนของหะดีษนั้น ๆ ต้องไม่รุนแรง)


หากไปดูตำราเล่มอื่น ๆ ของท่านอิบนุฮะญัร  ท่านจะบอกชัดเจนเลยว่า  ต้องไม่เป็นฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ  นี่คือเป้าหมายคำว่า "ฮะดีษต้องไม่ฏ่ออีฟอย่างรุนแรง"

ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ ฮะญัร ได้กล่าวไว้ในหนังสือ ตับยีน อัลอะญับ บิมา วะร่อด่า ฟี ฟัฏลิร่อญับความว่า

 اُشْتُهِرَ أَنَّ أَهْلَ العِلْمِ يَتَسَامَحُوْنَ فِيْ إِيْرَادِ الأَحَادِيْثِ فِي الفَضَائِلِ وَإِنْ كَانَ فِيْهَا ضَعْفٌ، مَا لَمْ تَكُنْ مَوْضُوْعَةً

"เป็นที่เลื่องลือว่า  แท้จริงบรรดาอุลามาอฺต่างผ่อนปรนในการนำเสนอรายงานบรรดาฮะดีษในเรื่องคุณค่าอะมัล  ถึงแม้ในฮะดีษเหล่านั้นจะมีฏ่ออีฟก็ตาม  ตราบใดที่มันไม่เมาฏั๊วะอฺ"  หนังสือ ตับยีน อัลอะญับ หน้า 25

บางท่านอาจจะไม่เข้าใจเป้าหมายจากคำพูดของท่านอิบนุฮะญัรที่มีต่อทัศนะของปวงปราชญ์ฮะดีษ  เพราะไม่ได้อ่านจากตำราของท่านอิบนุฮะญัรโดยตรง  ดังนั้นผู้ที่ร่ำเรียนฮะดีษพึงทราบเถิดว่า  ฮะดีษฏออีฟที่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้นั้น  คือฮะดีษที่ฏ่ออีฟอย่างรุนแรงที่อยู่ในความหมายเมาฏั๊วะอฺ  เพราะท่านอิบนุฮะญัรได้บอกว่า มันเป็นทัศนะของบรรดานักปราชญ์ก่อนหน้าท่าน 

ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ กล่าวว่า

وَقَدْ اتَّفَقُوْاعَلَى أَنَّهُ لَا يُعْمَلُ بِالْمَوْضُوْعِ وَإِنَّمَا يُعْمَلُ بِالضَّعِيْفِ فِى فَضَائِلِ الأَعَمَالِ

"บรรดาปวงปราชญ์(ฮะดีษและฟิกห์ก่อนหน้าท่านอิบนุฮะญัร) มีทัศนะพร้องกันว่า แท้จริงจะไม่ถูกนำมาปฏิบัติกับหะดิษเมาฏั๊วะอฺ แต่จะถูกนำมาปฏิบัติกับหะดิษฏออีฟเกี่ยวกับเรื่องคุณงามความดี" ดู หนังสือ มิชกาฮ์ อัลมะซอบีหฺ 3/306

ท่านอิบนุ อัศศ่อลาห์กล่าวว่า

فَلْنُنَبِّهْ الآنَ عَلَى أُمُوْرٍ مُهِمَّةٍ: أَحَدُهَا: إِذَا رَأَيْتَ حَدِيْثاً بِإسْنَادٍ ضَعِيْفٍ، فَلَكَأَنْ تَقُوْلَ هَذَا ضَعِيْفٌ، وَتَعْنِي أَنَّهُ بِذَلِكَ الإِسْنَادِ ضَعِيْفٌ. وَلَيْسَ لَكَ أَنْ تَقُوْلَ هَذَا ضَعِيْفٌ، وَتَعْنِي بِهِ ضَعْفَ مَتْنِ الحَدِيْثِ

"ดังนั้นเราจงควรระวัง 3 ประการสำคัญคือ

1. เมื่อท่านได้เห็นฮะดีษหนึ่งที่มีสายรายงานที่ฏ่ออีฟ  จึงเหมือนกับว่าอนุญาตให้ท่านกล่าวว่า  ฮะดีษนี้ฏออีฟ  โดยท่านหมายความว่า  สายรายงานดังกล่าวฏ่ออีฟ  แต่ไม่อนุญาตให้ท่านกล่าวว่า  ฮะดีษนี้ฏออีฟ  ที่อยู่ในความหมายที่ว่า  ตัวบทมันฏ่ออีฟ" มุก็อดดิมะฮ์ อิบนุ อัศศ่อลาห์ 1/19

ตรงนี้ผมอยากขอแนะนำวะฮาบีทั้งหลายว่า  ฮะดีษนั้นแม้สายรายงานจะฏ่ออีฟ  ก็อย่าไปฟันธงว่าตัวบทมันฏ่ออีฟ  เพราะมันอาจจะทำให้เราปฏิเสธเนื้อหาของตัวบทฮะดีษ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮะดีษที่มีการซิกิรและขอดุอา  อย่างฮะดีษลูบหน้าและขอดุอาอันนี้

ท่านอิบนุ อัศศ่อลาห์ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า

الثَّانِي: يَجُوْزُ عِنْدَ أَهْلِ الْحَدِيْثِ وَغَيْرِهِمْ التَّسَاهُلُ فِي الأَسَانِيْدِ، وَرِوَايَةُ مَا سِوَى الَمْوضُوْعِ مِنْ أَنْوَاعِ الأَحَادِيْثِ الضَّعِيْفَةِ، مِنْ غَيْرِ الحَلَالِ وَالحرَامِ وَغَيْرِهِمَا. وَذَلِكَ كَالْمَوَاعِظِ، وَالْقِصَصِ، وَفَضَائِلِ الأَعْمَالِ، وَسَائِرِ فُنُوْنِ التَّرْغَيْبِ وَالتَّرْهِيْبِ، وَسَائِرِ مَا لَا تَعَلُّقَ لَهُ بِالأَحْكَامِ وَالعَقَائِدِ

2. ตามทัศนะของนักฮะดีษและอื่น ๆ (จากนักปราชญ์ฟิกห์) อนุญาตให้มีการผ่อนปรนในเรื่องสายรายงานและเรื่องการรายงานบรรดาฮะดีษฏ่ออีฟที่ไม่ใช่เมาฏั๊วะอฺ   แต่ต้องไม่ใช่รายงานในเรื่องฮะล้าล , ฮะรอม , และอื่น ๆ , ดังกล่าว  เช่น  เรื่องเล่าที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจ , อะมัลคุณความดี , เรื่องการส่งเสริมและทำให้เกรงกลัว, และอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องฮุกุ่ม(วายิบและฮะรอม)และหลักอะกีดะฮ์" มุก็อดดิมะฮ์ อิบนุ อัศศ่อลาห์ 1/19 

ด้วยเหตุดังกล่าวทั้งหมดนี้ ท่านอิมามอันนะวาวีย์จึงกล่าวไว้ในหนังสือ อัลอัษการ ของท่านว่า

وَ ذَكَرَ الفُقَهَاءُ وَ المُحَدَّثُوْنَ أَنَّهُ يَجُوْزُ وَ يُسْتَحَبُّ الْعَمَلُ فِى الفَضَائِلِ وَالتَّرْغِيْبِ وَالتَّرْهِيْبِ بِالحَدِيْثِ الضَّعِيْفِ مَا لَمْ يَكُنْ مَوْضُوْعاً

"บรรดานักปราชญ์นิติศาสตร์อิสลามและนักปราชญ์หะดิษกล่าวว่า แท้จริง อนุญาตและสุนัตกับการปฏิบัติคุณงามความดี , ส่งเสริมให้ชอบกระทำความดี และเตือนให้เกรงกลัวด้วยกับหะดิษฏออีฟ ตราบใดที่มันไม่เมาฏั๊วะ" ดู หนังสือ อัลฟุตูฮาต อัรร๊อบบานียะฮ์ อธิบาย อัลอัษการอันนะวาวียะฮ์ ของท่าน อิบนุอะลาน เล่ม 1 หน้า 82

นั่นคือทัศนะของปวงปราชญ์ฮะดีษก่อนหน้าท่านอิบนุฮะญัรที่ท่านอิบนุฮะญัรเอ่ยถึง  ซึ่งพวกเขามีทัศนะว่าปฏิบัติฮะดีษฏ่ออีฟได้แต่ต้องตามเงื่อนไขว่า ต้องไม่เมาฏั๊วะอฺ

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 11, 2010, 12:13 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 11:18 AM »
0
ของขวัญแด่วะฮาบีทั้งหลาย

ชัยค์อิบนุตัยมียะฮ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ มัจญฺมั๊วะอฺอัลฟะตะวา 18/65-66 เช่นกันว่า(ซึ่งผมจะแปลตัวสีแดงเพื่อให้วะฮาบีรู้ถึงเป้าหมายในการปฏิบัติฮะดีษฏ่ออีฟตามทัศนะของปวงปราชญ์ตามนัยยะของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ครับ)

قَوْلُ أَحْمَدَ بْنِ حَنْبَل إِذَا جَاءَ الحَلاَلُ وَالحَرَامُ شَدَّدْنَا فِي الأَسَانِيْدِ وَإِذَا جَاءَ التَّرْغَيْبُ وَالتَّرْهِيْبُ تَسَاهَلْنَا فِي الأَسَانِيْدِ وَكَذَلِكَ مَا عَلَيْهِ العُلَمَاءُ مِنَ العَمَلَ باِلحَدِيْثِ الضَّعِيْفِ فِي فَضَائِلِ الأَعْمَالِ لَيْسَ مَعْنَاهُ إِثْبَاتُ الاِسْتِحْبَابِ بِالحَدِيْثِ الَّذِيْ لاَ يُحْتَجُّ بِهِ فَإِنَّ الاِسْتِحْبَابَ حُكْمٌ شَرْعِيٌّ فَلاَ يَثْبُتُ إِلاَّ بِدَلِيْلٍ شَرْعِيٍّ وَمَنْ أَخْبَرَ عَنِ اللهِ أَنَّهُ يَحِبُ عَمَلاً مِنَ الأَعْمَالِ مِنْ غَيْرِ دَلِيْلٍ شَرْعِيٍّ فَقَدْ شَرَعَ مِنَ الدِّيْنَ مَا لَمْ يَأْذَنْ بِهِ اللهُ كَمَا لَوْ أَثْبَتَ الإِيْجَابِ أَوِ التَّحْرِيْمِ وَلِهَذَا يَخْتَلِفُ الْعُلَمَاءُ فِي الاْسْتِحْبَابِ كَمَا يَخْتَلِفُوْنَ فِي غَيْرِهِ بَلْ هُوَ أَصْلُ الدِّيْنِ الْمَشْرُوْعِ وَإِنَّمَا مُرَادُهُمْ بِذَلِكَ أَنْ يَكُوْنَ الْعَمَلُ مِمَّا قَدْ ثَبَتَ أَنَّهُ مِمَّا يُحِبُّهُ اللهُ أَوْ مِمَّا يَكْرَهُهُ اللهُ بِنَصٍّ أَوْ إِجْمَاعٍ كَتِلاَوَةِ القُرْآنِ واَلتَّسْبِيْحِ وَالدُّعَاءِ وَالصَّدَقَةِ وَالعِتْقِ وَالإِحْسَانِ إِلىَ النَّاسِ وَكَرَاهَةِ الْكَذِبِ وَالخِيَانَةِ وَنَحْوِ ذلَكِ َفَإِذَا رُوِىَ حَدِيْثٌ فِي فَضْلِ بَعْضِ الأَعْمَالِ المُسْتَحَبَََّةِ وَثَوَابِهَا وَكَرَاهَةِ بَعْضِ الأَعْمَالِ وَعِقَابِهَا فَمَقَادِيْرُ الثَّوَابِ وَالعِقَابِ وَأَنْوَاعِهِ إِذَا رُوِىَ فِيْهَا حَدِيْثٌ لاَ نَعْلَمُ أَنَّهُ مَوْضُوْعٌ جَازَتْ رِوَايَتُهُ وَالعَمَلُ بِهِ بِمَعْنَى أَنَّ النَّفْسَ تَرْجُوْ ذَلِكَ الثَّوََابَ أَوْ تَخَافُ ذَلِكَ العِقَابَ كَرَجُلٍ يَعْلَمُ أَنَّ التِّجَارَةَ تَرْبَحُ لَكِنْ بَلَغَهُ أَنَّهَا تَرْبَحُ رِبْحاً كَثِيْراً فَهَذَا إِنْ صَدَّقَ نَفَعَهُ وَإِنْ كَذَبَ لَمْ يَضُرَّهُ وَمِثَالُ ذَلِكَ التَّرْغِيْبِ وَالتَّرْهِيْبِ بِالإِسْرَائِيْلِيَّاتِ وَالمنَامَاتِ وَكَلِمَاتِ السَّلَفِ وَالْعُلَمَاءِ وَوَقَائِعِ العُلَمَاءِ وَنَحْوِ ذَلِكَ مِمَّا لاَ يَجُوْزُ بِمُجَرَّدِهِ إِثْبَاتُ حُكْمٍ شَرْعِىٍّ لاَ اِسْتِحْبَابٍ وَلاَ غَيْرِهِ وَلَكِنْ يَجُوْزُ أَنْ يُذْكَرَ فِي التَرْغِيْبِ وَالتَّرْهِيْبِ وَالتَّرْجِيْةِ وَالتَخْوِيْفِ فَمَا عُلِمَ حُسْنُهُ أَوْ قُبْحُهُ بِأَدِلَّةِ الشَرْعِ فَإِنَّ ذَلِكَ يَنْفَعُ وَلاَيَضُرُّ

"....เฉกเช่นเดียวกัน(ที่พวกเขาได้ผ่อนปรนในบรรดาสายรายงานที่ระบุเรื่องที่ทำให้ส่งเสริทำความดีและกลัวเกรงจากการลงโทษ)  คือบรรดาอุลามาอฺได้ดำเนินทัศนะว่าให้ปฏิบัติอะมัลด้วยฮะดีษฏ่ออีฟเกี่ยวกับคุณงามความดี...จุดมุ่งหมายของปวงปราชญ์ต่อสิ่งดังกล่าวคือ  การปฏิบัติอะมัลจากสิ่งที่ได้รับการยืนยัน(เป็นพื้นฐานแล้วว่า)ว่า  มันเป็นสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงรักหรือสิ่งที่พระองค์ทรงรังเกียจด้วยการมีตัวบทมารับรองหรือมติของปวงปราชญ์  เช่น การอ่านอัลกุรอาน(อัลเลาะฮ์ทรงรักให้มุสลิมอ่านแน่นอนแม้จะมีฮะดีษฏ่ออีฟมาระบุให้อ่าน) การกล่าวตัสบีห์, การขอดุอา (พระองค์ทรงรักให้ขอดุอาต่อพระองค์หากแม้ว่าจะมีฮะดีษฏ่ออีฟมาระบุถ้อยคำขอดุอานั้นก็ตาม)  การศ่อดะเกาะฮ์ (อัลเลาะฮ์ทรงรักให้มุสลิมศ่อดะเกาะฮ์หากแม้ว่าจะมีฮะดีษฏ่ออีฟมาระบุเจาะจง) การปล่อยทาศ , การทำความดีต่อเพื่อนมนุษย์ , รักเกียจในการโกหก, บิดพริ้ว , และอื่น ๆ , ดังนั้นเมื่อฮะดีษได้ถูกรายงานเกี่ยวกับคุณความดีงามของอุมัลที่มุสตะฮับและเกี่ยวกับผลบุญของมัน , และมีฮะดีษรายงานเกี่ยวกับการไม่สนับสนุนให้กระทำอะมัลบางส่วนและระบุการลงโทษ , ฉะนั้นขนาดของผลบุญ , การลงโทษ , และประเภทต่าง ๆ ของมันนั้น  เมื่อมีฮะดีษถูกรายงานมาโดยเราไม่ทราบมาเลยมันเป็นฮะดีษเมาฏั๊วะอฺ  ก็อนุญาตให้รายงานและปฏิบัติได้   แต่ด้วยความหมายที่ว่า จิตใจหวังในผลบุญดังกล่าวหรือกลัวต่อการลงโทษดังกล่าว  เสมือนกับชายคนหนึ่งที่รู้ว่าการค้าขายจะได้ผลกำไร  แต่ได้ทราบถึงเขาว่า  การค้า(ที่)นั้นจะได้รับผลกำไรมากมาย  ทั้งนี้  หากเขาเชื่อก็จะเป็นผลประโยชน์และดังกล่าวโกหกก็ไม่เป็นโทษใด ๆ แก่เขา(คือไม่ขาดทุน)"

ตรงนี้ท่านอิบนุตัยมียะฮ์พยายามบอกแก่เราและชาววะฮาบีว่า  ฮะดีษฏออีฟนั้นไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานด้วยตัวของมันเอง  แต่ที่นำมาปฏิบัตินั้น  เพราะเป็นสิ่งดีงามที่มีอัลเลาะฮ์ทรงรักและมีหลักฐานโดยรวมได้ระบุส่งเสริม เช่น การขอดุอา , การอ่านอัลกุรอาน , การซิกรุลลอฮ์ , และท่านอิบตุตัยมียะฮ์บอกต่อไปว่า  ที่กระทำนั้น  เพราะจิตใจมีความหวังต่ออัลเลาะฮ์ที่จะได้ผลบุญ  เช่น การขอดุอาที่มีฮะดีษฏ่ออีฟมารับรอง  หากสมมุติว่าฮะดีษนั้นไม่ได้รับการยืนยันจริง ๆ   ซึ่งอย่างน้อยเราก็ได้ขอต่ออัลเลาะฮ์เป็นต้นทุนเดิมที่อัลเลาะฮ์ทรงรักทรงโปรดแล้วซึ่งไม่เสียหายแต่ประการใด  นี่คือเป้าหมายของปวงปราชญ์ในการปฏิบัติฮะดีษฏออีฟตามความเข้าใจของท่านอิบนุตัยมียะฮ์

ดังนั้นการลูบหน้าพร้อมดุอา  อย่างน้อยก็มีดุอาเป็นพื้นฐานเดิมที่อัลเลาะฮ์ทรงโปรด  หากกระทำก็ไม่เสียหายเป็นต้นทุนเดิมอยู่แล้ว

วัลลอฮุอะลัม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 11, 2010, 11:29 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ มาลิกกุ๊กกิ๊ก

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 451
  • เพศ: ชาย
  • คนความรู้น้อย
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 01:13 PM »
0
ลงทุนครั้งนี้ไม่มีเสียหาย

พวกวะฮะบีคงไม่ชอบลงทุนกระมัง

รอแต่กำไร  รอแต่ว่าคนอื่นบิดอะฮฺ บิดอะฮฺ บิดอะฮฺ ละก็ไปลงนรก .....

เสลด!!!

ออฟไลน์ multi

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 413
  • Respect: +7
    • ดูรายละเอียด
Re: ยังจะลูบหน้าหลังสลามอีกหรือ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 03:17 PM »
0
เขาคิดไม่ออกครับ คิดได้แค่นั้นโน่นบิดอะห์ นี่บิด อะห์ นั่นก็บิดอะห์ ป้าดดดดดด คนพูดไม่รู้ดออีฟหรือปล่าว :-[

 

GoogleTagged