ผู้เขียน หัวข้อ: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์  (อ่าน 10013 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ del_dangerous

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 178
  • เพศ: ชาย
  • ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« เมื่อ: ส.ค. 24, 2007, 08:37 PM »
0

ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
(The Umayyad Dynasty)
ครองราชย์ระหว่างปี ฮ.ศ. 41-132 / ค.ศ. 661-750
ศูนย์กลางการปกครองที่ซีเรีย

ปีครองราชย์   รายนามเคาะลีฟะฮ์
ฮิจเราะฮ์ศักราช   คริสต์ศักราช   
41-60   661-680   มุอาวิยะห์ อิบนุ อบีสุฟยาน (มุอาวิยะห์ที่ 1)
60-64   680-683   ยะซีด ที่ 1
64-64   683-684   มุอาวิยะห์ ที่ 2
64-65   684-685   มัรวาน อิบนุ อัลหากัม (มัรวานที่ 1)
65-86   685-705   อับดุลมะลีก
86-96   705-715   อัลวะลีด ที่ 1
96-99   715-717   สุไลมาน
99-101   717-720   อุมัร อิบนุ อัลอะซีซ
101-105   720-724   ยะซีด ที่ 2
105-125   724-743   ฮิซาม
125-126   743-744   อัลวะลีดที่ 2
126-126   744-744   ยะซีดที่ 3
126-127   744-744   อิบรอฮีม
127-132   744-750   มัรวาน อิลหิมาร์ (มัรวานที่ 2)
การขึ้นมาของราชวงศ์อับบาสิยะฮ์
   
   การเสียชีวิตของท่านอุษมาน อิบนุ อัฟฟาน เคาะลีฟะฮ์อัรรอชิดูนคนที่ 3 เป็นมูลเหตุของการขัดแย้งระหว่างท่านมุอาวิยะห์ข้าหลวงแห่งเมืองชาม (ซีเรีย) กับท่านอะลี อิบนุ อบีตอลิบเคาะลีฟะฮ์อัรรอชิดูนคนที่ 4 ท่านมุอาวิยะห์เป็นข้าหลวงแห่งเมืองชามตั้งแต่สมัยเคาะลีฟะฮ์ อุมัร อิบนุ อัลคอฎฎ็อบและดำรงตำแหน่งดังกล่าวเรื่อยมากว่า 20 ปี ท่านมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติอย่างใกล้ชิดกับเคาะลีฟะฮ์อุษมาน อิบนุ อัฟฟาน และทั้งสองสืบเชื้อสายจากตระกูล  อุมัยยะห์ บุตรของอับดุซซัม ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า ?ราชวงศ์อุมัยยะฮ์?  เมื่อเคาะลีฟะฮ์อุษมานถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายโดยกลุ่มกบฏ พร้อมกับการขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮ์แทนของท่านอะลีโดยการสนับสนุนจากกลุ่มกบฏ ทำให้ท่านมุอาวิยะห์ปฏิเสธการให้สัตยาบันต่อท่านอะลี โดยกล่าวหาท่านอะลีว่ามีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ฆาตกรรมเหล่านี้  ความขัดแย้งระหว่างท่านอะลีกับท่านมุอาวิยะห์เป็นมูลเหตุเกิดสงครามซิฟฟีนและมัจญ์ลิสตะห์กีมในเวลาต่อมาซึ่งมุสลิมสูญเสียเลือดเนื้อเป็นจำนวนมาก หลังจากมัจญ์ลิสตะห์กีมท่านอะลีถูกกลุ่มเคาะวาริจญ์ลอบสังหารเสียชีวิต บรรดาผู้ติดตามท่าน อะลีก็ได้แต่งตั้งท่านหะสัน บุตรของท่านอะลีขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮ์แทน     ท่านหะสันดำรงตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ได้ไม่กี่เดือนก็ยอมสละตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ให้แท่ท่านมุอาวียะห์ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกและสูญเสียเลือดระหว่างชาวมุสลิมด้วยกันมากกว่านี้

เมื่อได้ขึ้นมาเป็นเคาะลีฟะฮ์แล้วท่านมุอาวิยะฮ์ก็ได้อุทิศตนให้แก่การทำให้อาณาจักรอิสลามผนึกเข้าเป็นปึกแผ่นเรียกร้องความสามัคคีในชาติ  ซึ่งแตกสลายและไร้ความสงบสุขมาตั้งแต่ท่านเคาะลีฟะฮ์อุษมานถูกฆาตกรรม  เมื่อตั้งตัวได้สำเร็จแล้วท่านมุอาวิยะฮ์เริ่มหาทางพิชิตดินแดนอื่นๆ สานต่อจากเคาะลีฟะฮ์ในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิชิตแอฟริกาเหนือภายใต้การนำของแม่ทัพอุกบะฮ์ (Uqbah) ท่านอุกบะฮ์ได้ทำการต่อสู้กับชาวโรมันเป็นเวลานาน ในที่สุดก็เอาขณะชาวโรมันได้และได้เข้าครองแอฟริกาเหนือพร้อมกับสร้างเมืองก็อยรอวาน  (Qairawan) ขึ้นทางใต้ของตูนิสเมื่อปี  ฮ.ศ.50  นอกจากนี้ท่านมุอาวิยะฮ์ได้ขยายดินแดนไปทางทิศตะวันออกอย่างกว้างขวาง  เมืองเฮรัต (Herat)  ซึ่งแข็งข้อขึ้นก็ถูกตีได้เมื่อปี  ฮ.ศ. 41 อีกสองปีต่อมาก็พิชิตเมืองกาบูลได้ ส่วนเมืองฆอซนา (Ghasna) เมืองบัลค์ (Balkh) กอนดาฮาร (Qandahar) บุคอรอ (Bukhara) สมรขันฑ์ (Samarkand) และเมืองติรมิดก็ถูกผนวกเข้าเป็นรัฐอิสลามในสมัยของเคาะลีฟะฮ์มุอาวิยะฮ์  อาณาจักรอิสลามไม่เพียงแต่รวมกำลังอย่างมั่นคงเท่านั้น  แต่ยังขยายอาณาเขตการปกครองออกไปอย่างกว้างขวางอีกด้วย 

   ท่านมุอาวิยะฮ์เป็นผู้บริหารที่ดี  ทรงเป็นท่านแรกที่จัดตั้งกรมสารบรรณ (Diwan al-Khatam) และกรมไปรษณีย์ขึ้น  จัดตั้งกองกำลังตำรวจและกองทหารองครักษ์  ทรงแต่งตั้งเจ้าเมืองให้ทำการบริหารส่วนท้องถิ่นและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่พิเศษให้เป็นผู้บริหารเงินรายได้ของแผ่นดิน  ท่านมุอาวิยะฮ์เป็นท่านแรกที่ทรงเปลี่ยนสาธารณรัฐเป็นราชอาณาจักรอิสลามและเป็นท่านแรกที่สร้างตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์โดยการสืบสันติวงศ์ขึ้นในประวัติศาสตร์อิสลาม    ท่านทรงแต่งตั้งท่าน ยะซิดโอรสให้เป็นเคาะลีฟะฮ์  ต่อมาการแต่งตั้งแบบนี้ได้กลายเป็นตัวอย่างในการแต่งตั้งเคาะลีฟะฮ์ต่อมาตลอดราชวงศ์อุมัยะฮ์ทั้งราชวงศ์อับบาสียะฮ์และอื่นๆ อีกด้วย

   เมื่อท่านมุอาวิยะฮ์สิ้นชีพในปี ค.ศ. 680  ท่านยะซิดขึ้นมาเป็นเคาะลีฟะฮ์ การแต่งตั้งยะซิดเป็นเคาะลีฟะฮ์ย่อมมีกลุ่มที่คัดค้านและต่อต้านอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อต้านจากกลุ่มของอับดุลลอฮ์  อิบนุ  ซุบัยรและกลุ่มของท่านหุสัยน์ อิบนุ อะลี  ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมกัรบาลาอ์ (Karbala?)  ในวันที่ 10 เดือนมูหัรรอม ฮ.ศ. 61  ท่านหุสัยน์และพรรคพวกถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม  เหตุการณ์กัรบาลาอ์ไม่เพียงแต่สะเทือนขวัญชาวมุสลิมเท่านั้น  แต่ยังเป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์ระหว่างฝ่ายซุนนีย์และฝ่ายชีอะฮ์ที่ไปอาจลบความรู้นึกคิดที่เป็นปรปักษ์ต่อกันได้และดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

   หลังจากยะซิดสิ้นพระชนม์มุอาวิยะฮ์ที่ 2  โอรสของยะซิดได้ขึ้นมาเป็นเคาะลีฟะฮ์ต่อ  แต่อยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานก็สละตำแหน่งและสิ้นชีวิตไปในเวลาต่อมา  ท่านมุอาวิยะฮ์ที่  2  ไม่มีโอรสและไม่ได้แต่งตั้งใครเป็นรัชทายาท ฝ่ายราชสำนักจึงแต่งตั้งท่านมัรวาน  อิบนุ  อิลหากัม เป็นเคาะลีฟะฮ์ท่านที่ 4  แห่งราชวงศ์อุบัยยะฮ์  ท่านมัรวานครองราชย์อยู่ได้ไม่ถึงปีก็สิ้นพระชนม์และได้ทรงแต่งตั้งโอรสชื่ออับดุลมาลิกเป็นเคาะลีฟะฮ์ต่อไป

   เมื่ออับดุลมาลิก (ค.ศ. 685 ? 705) สามารถปราบปรามกลุ่มที่เป็นปรปักษ์ต่อตนเองได้เสร็จสิ้นแล้ว  ท่านได้เริ่มงานบูรณะความเป็นระเบียบภายในราชอาณาจักรอิสลาม  พระองค์ได้ทำการปฏิรูปและนำเอามาตรการการบริหารแผ่นดินใหม่ๆ มาใช้  ท่านทรงปฏิรูปเหรียญอาหรับใหม่  ทั้งเหรียญเงินและเหรียญทองแดง ซึ่งมีชื่อว่าดินาร์  ดิรฮัมและฟอล  นอกจากนี้ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีการปฏิรูปภาษาอาหรับโดยการนำเอาสระและเครื่องหมายจุดใส่ลงในตัวอักษรอย่างที่เห็นอยู่  ในปัจจุบันนี้  ในด้านสถาปัตยกรรม  พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างโดมออฟเดอะร็อค (Dome  of  the  Rock)  ซึ่งเป็นมัสยิดที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากในกรุงเยรูซาเล็ม  เคาะลีฟะฮ์อับดุลมาลิกสิ้นพระชนม์ในปี  ค.ศ. 705  หลังจากครองราชย์ได้  21  ปี 

   เมื่ออับดุลมาลิกสิ้นพระชนม์  วะลีดที่  1  ซึ่งเป็นโอรสก็ขึ้นครองราชย์ในดามัสกัส   ท่านวะลีดที่  1 นับเป็นเคาะลีฟะฮ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดท่านหนึ่งของโลกมุสลิม  ในรัชสมัยของพระองค์ (ค.ศ. 705?715) อาณาจักรอิสลามมีความเจริญรุ่งเรืองทั้งในและนอกประเทศ ท่านทรงปราบปรามการแข็งข้อของพวกชีอะฮ์และคอวาริจญ์จนราบคาบลง ราชอาณาจักรเต็มไปด้วยความสงบสันติ ทรงขยายอาณาจักรอิสลามออกไปอย่างกว้างขวาง  เมืองบุคอรอ  สมรขันฑ์  เมืองสินธ์  เอเชียกลางทั้งหมด  แอฟริกาและสเปนต่างก็ตกอยู่ภายใต้การครอบครองของอาณาจักรอิสลาม  อาณาจักรของท่านขยายจากชายแดนจีนไปจนถึงอ่าวบิสเคย (Biscay) และจากทะเลโอรอล (Oral  Sea) ไปจนถึงเขตแดนกุจญ์ราตและบอมเบย์ในอินเดีย พระองค์ทรงสร้างโรงเรียนและโรงพยาบาล  จัดหาเงินช่วยเหลือคนชราและคนพิการ  จัดให้มีโรงพยาบาลคนตาบอดโดยเฉพาะ  ในรัชสมัยของพระองค์ศิลปะและวัฒนธรรมเริ่มเจริญรุ่งเรือง  พระองค์ทรงเป็นนักสร้างที่ยิ่งใหญ่  ทรงบูรณะและขยายมัสยิดแห่งมะดีนะฮ์และมัสยิดอัลอักซอในเยรูซาเล็ม  พระองค์ทรงพัฒนาการค้าให้เจริญรุ่งเรืองและปลอดภัย  นับได้ว่ารัชสมัยของเคาะลีฟะฮ์วะลีดที่  1  ราชอาณาจักรอิสลามมีความสงบรุ่งเรืองและเจริญก้าวหน้ามากกว่าสมัยใดๆ ที่ผ่านมา  เมื่อเคาะลีฟะฮ์วะลีดพี่ชายสิ้นชีพลง  ท่านสุไลมานก็ขึ้นครองราชย์  พระองค์เป็นเคาะลีฟะฮ์ที่มีเมตตาต่อสหายแต่โหดร้ายต่อศัตรูมีชื่อเสียงในเรื่องฮาเร็มและการมีชีวิตอย่างหรูหรา  ในรัชสมัยของพระองค์ ไม่มีอะไรที่เป็นคุณประโยชน์ที่โดดเด่นต่อราชอาณาจักรอิสลามมากนัก  คุณประโยชน์อย่างเดียวที่ท่านทรงทำให้แก่รัฐอิสลามก็คือการแต่งตั้งให้ลูกพี่ลูกน้องของท่านที่ชื่อว่าอุมัร  อิบนุ  อัลอะซีซ  เป็นเคาะลีฟะฮ์  ซึ่งเป็นเคาะลีฟะฮ์ที่ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งของอาณาจักรอิสลาม  ท่านสุไลมาน  สิ้นชีพหลังจากที่เป็นเคาะลีฟะฮ์ได้  2  ปีกับอีก  5  เดือน
 
   ท่านอุมัรอิบนุ  อัลอะซีซ  ขึ้นเป็นเคาะลีฟะฮ์ในปี ค.ศ. 717  ท่านเป็นอนุชาของอับดุลมาลิก  บิดาของท่านเป็นผู้ปกครองอียิปต์มาเป็นเวลานานและมารดาของท่านเป็นหลานปู่ของเคาะลีฟะฮ์   อุมัร อิบนุ  อัลค็อฏฏอบ  ท่านเป็นเคาะลีฟะฮ์ที่เคร่งครัดในเรื่องศาสนาเป็นอย่างมาก  ทรงบริหารอาณาจักรอิสลามอย่างยุติธรรมจนได้สมญานามว่า  เคาะลีฟะฮ์อัรรอชิดูนคนที่  5  ท่านพยายามจำกัดความไม่เสมอภาคระหว่างมุสลิมชาวอาหรับกับมุสลิมที่ไม่ใช่ชาวอาหรับ  ทรงมีจิตใจเมตตาต่อผู้ที่ถูกกดขี่  มีความกรุณาปรานีต่อครอบครัวของท่านอะลี  โดยสั่งเลิกการประณามท่านอะลีในการละหมาดร่วมในวันศุกร์  นอกจากนี้ท่านอุมัรได้ทรงแต่งตั้งบุคคลสำคัญๆ ขึ้นครองตำแหน่งสูงๆ โดยเลือกเอาผู้ที่เที่ยงธรรมและซื่อตรงเป็นสำคัญ  ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขแก่เหล่าประชาราษฎร์ที่อยู่ใต้ปกครอง  พระองค์ทรงเห็นความสำคัญในการทนุบำรุงดินแดนที่ได้มาครอบครองแล้วให้เจริญรุ่งเรืองมากกว่าที่จะขยายอาณาเขตให้กว้างไกลออกไปอีก  ผลงานที่สำคัญอีกประการหนึ่งของท่านอุมัรก็คือ การรวบรวมหะดีษอย่างเป็นทางการ ตลอดการปกครองของท่านอุมัรประชาชนในราชอาณาจักรอิสลามทั้งชาวมุสลิมและผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมต่างก็มีความสุขและได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมกันทั่วหน้า

   เมื่อท่านอุมัรสิ้นชีพลงยะชีดที่  2  ก็ขึ้นครองราชย์  ในรัชสมัยของท่านยะชีดที่  2  เกิดกลุ่มกบฏต่างๆ ที่ไม่พอใจในตัวเคาะลีฟะฮ์  ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตในขณะเดียวกันเคาะลีฟะฮ์ไม่ค่อยสนใจในการบริหารประเทศมากนัก  ระหว่างนั้นพวกอับบาสียะฮ์เริ่มมีอำนาจและแข็งข้อขึ้น  ตอนแรกกระทำกันอย่างลับๆ แต่ต่อมาก็ทำอย่างเปิดเผยเพื่อโค่นล้มราชวงศ์อุมัยยะฮ์ลง  ท่านฮิชามอนุชาของยะซีดที่  2  ขึ้นครองราชย์ต่อจากท่านยะซีด  ต้องเผชิญหน้ากับความยุ่งยากลำบากทั้งภายในและภายนอกประเทศ  ในรัฐสมัยของท่าน  การต่อสู้ระหว่างพวกอุมัยยะฮ์กับพวกอับบาสียะฮ์ดำเนินไปอย่างรุนแรง มีการก่อการจลาจลวุ่นวายทั่วราชอาณาจักร  อย่างไรก็ตามท่านยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อาณาจักรมุสลิมแผ่ขยายออกไปกว้างใหญ่ไพศาล  ในทวีปยุโรป ภาคใต้ของฝรั่งเศสและเกือบทั้งหมดของสเปนก็ตกอยู่ในความครอบครองของมุสลิม  ในแอฟริกาตั้งแต่ช่องแคบยิบรอลตาไปจนถึงคอคอดสุเอซก็เป็นอาณาจักรมุสลิม  และในทวีปเอเชียก็ตั้งแต่ทะเลทรายซีนายไปจนถึงทุ่งหญ้าแห่งมองโกเลีย  เคาะลีฟะฮ์ฮิชามสิ้นชีพในปี ฮ.ศ. 743  ท่านทรงเป็นเคาะลีฟะฮ์สำคัญสุดท้ายของราชวงศ์อุมัยยะฮ์  ท่านทรงใช้จ่ายเงินรายได้ของแผนดินไปในการขุดคลองสร้างปราสาทและจัดสวน  ทรงมีขันติธรรมต่อชาวคริสเตียน  ทรงเป็นนักวิชาการและผู้อุปถัมภ์ศิลปะและวรรณกรรม  แต่ท่านทรงมีข้อเสียอยู่คือ เป็นคนขี้ระแวงและโลภมาก  จึงมีการเปลี่ยนผู้ปกครองแคว้นบ่อยครั้งเกินความจำเป็นและมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ท่านไม่เป็นที่นิยมของประชาชน

   เมื่อฮิชามสิ้นชีพ  วะลีดที่  2  ขึ้นครองราชย์  ในตอนแรกท่านพยายามเอาชนะใจประชาชน  โดยการเพิ่มเงินช่วยเหลือแก่คนยากจน คนชราและคนพิการแต่ความโหดร้ายที่พระองค์ทรงมีต่อครอบครัวท่านอะลีและบนีฮาชิมก็ทำให้ชื่อเสียงของท่านฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ  พระองค์ปกครองได้ไม่ถึงปีก็ถูกท่านยะซีดที่  3  โอรสของเคาะลีฟะฮ์วะลีดที่  1  ก่อการกบฏและถูกสังหารเสียชีวิต  เมื่อวะลีดที่ 2  สิ้นชีพท่านยะซีดที่ 3  ผู้ก่อการกบฏก็ขึ้นเป็นเคาะลีฟะฮ์ ท่านเป็นคนใจบุญและเคร่งศาสนา เมื่อครองราชย์ก็ได้สัญญาว่าจะปลดเปลื้องความเดือดร้อนของประชาชน จะลดภาษีและจะปราบปราบข้าราชการที่ทุจริตคดโกง แต่ท่านอยู่ในราชสมบัติไม่นานพอที่จะทำตามที่ทรงสัญญาไว้ได้ ท่านต้องผจญกับความยากลำบากนานาประการมาตั้งแต่ต้น มีการกบฏทั้งในปาเลสไตน์และแอฟริกา ท่านครองราชย์ได้แค่ 6 เดือนก็สิ้นพระชนม์ และท่านอิบรอฮีมอนุชาของยะซิดขึ้นเป็นเคาะลีฟะฮ์แทน แต่ได้รับการยอมรับจากคนเพียงบางส่วนเท่านั้น จนกระทั่งท่านมัรวานที่ 2  ก่อรัฐประหารยึดอำนาจ เคาะลีฟะฮ์มัรวาน ที่ 2 หรือมัรวานอัลหิมาร์ ได้ย้ายเมืองหลวงจากดามัสกัสไปอยู่ที่ฮัรรอน ซึ่งทำให้ชาวซีเรียไม่พอใจและรวบรวมกำลังขึ้นต่อต้านเคาะลีฟะฮ์  ท่านมัรวานต้องผจญกับความยากลำบากต่างๆ นานา มีการกบฏในปาเลสไตน์ พวกคอวาริจญ์ก็แข็งข้อขึ้น และพวกบานีฮาชิมก็แพร่ขยายตัวออกไปอย่างน่ากลัว เกิดความครุ่นแค้นคุกรุ่นขึ้นทั่วราชอาณาจักรอุมัยยะฮ์ กองทัพซีเรียก็อ่อนแอลง ฉะนั้นสมัยของมัรวานจึงเต็มไปด้วยการต่อสู้ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 750 อบูมุสลิมซึ่งเป็นตัวแทนการเคลื่อนไหวของกลุ่มอับบาสีย์พร้อมกับพรรคพวกได้ก่อกบฎและยึดเมืองคูราซาน (Khurasan) ได้สำเร็จ พร้อมกับขับไล่นัศร์ อิบนุ สัยยาร ซึ่งเป็นข้าหลวงของเคาะลีฟะฮ์มัรวานที่ 2 ประจำแคว้นคูราซานออกจากพื้นที่ การก่อกบฏและยึดอำนาจได้ขยายไปเรื่อยๆ ยังแคว้นอื่นๆ จนกระทั่งเคาะลีฟะฮ์มัรวานที่ 2  ซึ่งเป็นเคาะลีฟะฮ์องค์สุดท้ายของราชวงค์อุมัยยะฮ์ถูกสังหารเสียชีวิต เมื่อกลุ่มอับบาสีย์ประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจและโค่นล้มราชวงศ์อุมัยยะฮ์ พวกเขาได้พยายามประหัตประหารล้างเผ่าพันธุ์ทุกคนในตระกูลอุมัยยะฮ์ มีคนในตระกูลอะมะวีย์ไม่กี่คนที่สามารถหนีรอดจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์นี้ได้   ในบรรดาผู้ที่หนีรอดเหล่านั้นคือท่านอับดุลเราะหมาน ซึ่งเป็นหลานปู่ของเคาะลีฟะฮ์ฮิซามได้หนีเอาชีวิตรอดไปที่แอฟริกาเหนือและต่อมาได้สร้างราชวงศ์อุมัยยะฮ์ที่สเปนขึ้น
ชีวิตคือการเดินทาง สิ่งที่ดีใจคือไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่สิ่งที่น่าเสียใจ คือ ย้อมกลับไปไม่ได้

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ส.ค. 24, 2007, 10:02 PM »
0
ครั้นเมื่อ ท่านอาลี (รฎ.) ดำรงตำแหน่งคอลีฟะฮ เมื่อนั้นการขัดแย้งทางด้านความคิดระหว่างท่านอาลี (รฎ.) กับท่านมุอาวิยะฮ ได้บังเกิดขึ้น ตามที่ จขกท. ได้กล่าวไว้ข้างต้น

ฝ่ายคริสต์เห็นว่า การขัดแย้งที่เกิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การรุกรานมุสลิม เลยมีความคิดที่จะตีเมือง

ครั้นเมื่อท่านมุอาวียะฮ ทราบข่าว พี่น้องที่มีเกียรติในทรรศนะของอัลลอฮ (ซบ.) ครับ พวกท่านทราบไหมว่า ท่านมุอาวียะฮกล่าวว่าอย่างไร








..
..


.



...

..


..

ท่านมุอาวียะฮ กล่าวว่า 'มาตรแม้น ข้าศึก/กองทัพ ไหนที่จะมาสร้างความเสียหายกับชนมุสลิมในเวลานี้ พึงทราบเถิด ฉันนี้แหละพร้อมที่จะเป็นคนแรกในการทำศึกภายใต้ธงของอาลี !!!'

อ้างอิงจาก เวทีคนหนุ่มสาวมุสลิม



------------------------------

พี่น้องที่มีเกียรติในทรรศนะของอัลลอฮ (ซบ.) ครับ เรื่องข้างต้น ต้องการสื่อถึงอะไร ...

คำถามเนี่ยะ ไม่ต้องการคำตอบครับ ^^



ปล. ว่าแต่ว่าทำไม ท่านมุอาวียะฮ ถึงไม่ถูกขนานนามว่าเป็นคอลีฟะฮอัรรอชีดูนคนที่ 5 ครับ >>> คำถามนี้ต้องการคำตอบครับ ^^

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ส.ค. 30, 2007, 01:54 PM »
0
ขอบคุณครับคุณเดล
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ del_dangerous

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 178
  • เพศ: ชาย
  • ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ส.ค. 30, 2007, 02:10 PM »
0
ปล. ว่าแต่ว่าทำไม ท่านมุอาวียะฮ ถึงไม่ถูกขนานนามว่าเป็นคอลีฟะฮอัรรอชีดูนคนที่ 5 ครับ >>> คำถามนี้ต้องการคำตอบครับ

มาช่วยกันหาคำตอบกันครับ

วัสลาม
ชีวิตคือการเดินทาง สิ่งที่ดีใจคือไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่สิ่งที่น่าเสียใจ คือ ย้อมกลับไปไม่ได้

ออฟไลน์ del_dangerous

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 178
  • เพศ: ชาย
  • ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ส.ค. 30, 2007, 02:34 PM »
0
ตอบแบบง่ายๆ แล้วกัน

เพราะหะซันได้รับเลือกให้เป็นคอลีฟะห์ที่กูฟะก่อนที่จะเป็นมุอาวียะ
หะซันจึงเป็นคนที่ 5
มุอาวียะ คือคนที่ 6

ถึงแม้ว่าหะซันจะเป็นคอลีฟะหฺเพียงแค่  6  เดือนก็ตาม

ถูกผิดยังไง ช่วยแก้ไขกันให้ด้วยนะครับ

วัสลาม
ชีวิตคือการเดินทาง สิ่งที่ดีใจคือไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่สิ่งที่น่าเสียใจ คือ ย้อมกลับไปไม่ได้

ออฟไลน์ HANEE

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 63
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ก.ค. 27, 2009, 06:31 PM »
0
 salam

ใครมีประวัติของทั้ง 14 ท่าน ช่วยเอามาลงหน่อยได้ไหมคะ จะเอาไปทำรายงาน  หรือว่าถ้าลงแล้ว ช่วยเอาลิงค์มาหน่อยนะคะ  ขอบคุณมากๆๆๆๆ

ด่วนได้ยิ่งดีเลยคะ   ;D ;D ;D

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ก.ค. 28, 2009, 07:05 AM »
0
قال رسول الله ‏ ‏صلى الله عليه وسلم ‏ ‏الخلافة في أمتي ثلاثون سنة ثم ملك بعد ذلك ( الترمذي : الفتن - ما جاء في الخلافة )

ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอฺะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า "คิลาฟะฮฺในประชาชาติของฉันจะมีอยู่สามสิบปี แล้วจากนั้นก็จะเป็นระบบกษัตริย์" ( อัตติรมิซี : อัลฟิตัน )

ก็นับดูนะครับ...
อบูบักร์................ 2 ปี
อุมัร .................. 10 ปี
อุษมาน ............ 12 ปี
อฺะลี+ฮะซัน ........ 6 ปี
พอดีครับ 30 ปี

ออฟไลน์ intellectual

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 62
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เม.ย. 03, 2010, 10:28 PM »
0
ตอบแบบง่ายๆ แล้วกัน

เพราะหะซันได้รับเลือกให้เป็นคอลีฟะห์ที่กูฟะก่อนที่จะเป็นมุอาวียะ
หะซันจึงเป็นคนที่ 5
มุอาวียะ คือคนที่ 6

ถึงแม้ว่าหะซันจะเป็นคอลีฟะหฺเพียงแค่  6  เดือนก็ตาม

ถูกผิดยังไง ช่วยแก้ไขกันให้ด้วยนะครับ

วัสลาม

คอลีฟะฮเป็นได้คนเดียวจ๊ะ  ในขณะนั้นเรียกได้ว่ามี 2 อาณาจักรของมุสลิม  เมื่อมี 2 คน 2 อาณาจักรก็faultดิ

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เม.ย. 03, 2010, 10:36 PM »
0


กลับไปทบทวนใหม่ได้นะท่าน มีตรงไหนที่บอกว่ามีคอลีฟะฮฺ์มากกว่าหนึ่งคน


หลังจากมัจญ์ลิสตะห์กีมท่านอะลีถูกกลุ่มเคาะวาริจญ์ลอบสังหารเสียชีวิต บรรดาผู้ติดตามท่าน อะลีก็ได้แต่งตั้งท่านหะสัน บุตรของท่านอะลีขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮ์แทน     ท่านหะสันดำรงตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ได้ไม่กี่เดือนก็ยอมสละตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ให้แท่ท่านมุอาวียะห์ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกและสูญเสียเลือดระหว่างชาวมุสลิมด้วยกันมากกว่านี้


ออฟไลน์ intellectual

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 62
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เม.ย. 04, 2010, 12:11 AM »
0


กลับไปทบทวนใหม่ได้นะท่าน มีตรงไหนที่บอกว่ามีคอลีฟะฮฺ์มากกว่าหนึ่งคน


หลังจากมัจญ์ลิสตะห์กีมท่านอะลีถูกกลุ่มเคาะวาริจญ์ลอบสังหารเสียชีวิต บรรดาผู้ติดตามท่าน อะลีก็ได้แต่งตั้งท่านหะสัน บุตรของท่านอะลีขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นเคาะลีฟะฮ์แทน     ท่านหะสันดำรงตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ได้ไม่กี่เดือนก็ยอมสละตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ให้แท่ท่านมุอาวียะห์ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกและสูญเสียเลือดระหว่างชาวมุสลิมด้วยกันมากกว่านี้


แล้วตอนที่ฮาซันกับมุอาวียะ ปกครองในเวลาเดียวกัน  ฮาซันปกครองดินแดนบนคาบสมุทรอาหรับ  มุอาวียะปกครองซีเรีย  ในตำแหน่งสุลต่านมิใช่หรือ

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เม.ย. 05, 2010, 05:13 PM »
0
สุลต่าน==คอลีฟัฮ?intellectualชนะ:hiddenminชนะ;
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เม.ย. 05, 2010, 05:18 PM »
0
สุลต่าน==คอลีฟัฮ?intellectualชนะ:hiddenminชนะ;

มันต้องแบบนี้
winner = (สุลต่าน == คอลีฟะฮฺ)? "intellectual": "hiddenmin";

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เม.ย. 05, 2010, 05:20 PM »
0
เราไม่ได้ต้องการจะปริ๊นค่าแสดงชื่อผู้ชนะ แค่อยากให้รู้เฉยๆว่าใครชนะ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ มาลิกกุ๊กกิ๊ก

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 451
  • เพศ: ชาย
  • คนความรู้น้อย
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เม.ย. 11, 2010, 11:35 AM »
0
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ intellectual

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 62
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: เม.ย. 12, 2010, 11:57 PM »
0
coding ภาษาอะไร

 

GoogleTagged