อิมามทั้งสี่ของมัซฮับวะฮาบีย์

[al-azhary]

Tweet

 salam

ผมไปอ่านเจอเว็บหนึ่งครับ  ที่ชื่อว่า  http://imams4.com/vb/ เว็บอิมามทั้งสี่  พอเวลาไปอ่าน  ปรากฏว่า  เป็นอิมามทั้งสี่ของวะฮาบีย์  มีดังนี้

1. อัลอัลบานีย์

2. บินบาซฺ

3. มุกบิล

4. อิบนุ อัลอุษัยมีน

ดังนั้นวะฮาบีก็ชอบจะพูดว่า อิมามทั้งสี่ของเรานั้น เช่น อิมามชาฟิอีย์  รับฮะดิษไม่หมดบ้าง  เป็นต้น  แต่เวลาเราไปวิจารณ์ว่าอิมามทั้งสี่ของวะฮาบี เช่น บินบาซฺ  ศึกษาฮะดีษยังไม่หมด  หรือ อัลอัลบานีย์ไม่รอบคอบในวิชาฮะดีษชอบตัดสินแบบค้านกันเอง  วะฮาบีก็จะไม่พอใจทันที  เพราะไปวิจารณ์อิมามของพวกเขานั่นเองครับ 

[As-Zaleek]

 salam



อีกไม่ช้า คุณสับสน มาเเวะกระทู้นี้เเน่นนอน

[wahaba]

วะฮาบี ก๊อปตลอด บิดอะชัดๆfouet:

[มาลิกกุ๊กกิ๊ก]

บิดอะฮฺ บิดอะฮฺ

[บาชีร]

เชคมุกบิลก็อยู่เยเมน

เคยเขียนหนังสือด่าศาสตราจารดอกเตอร์ยูซุฟ กอรฎอวี

ความไร้มารยาทของเชคมุกบิล ถึงขนาดตั้งชื่อหนังสือโดยใช้คำว่ากิลาบكلاب  ที่แปลว่า หมา อ้างอิงไปยังดอกเตอร์ยูซุฟ

แต่พอหนังสือถูกนำเข้าไปซูดาน ก็ตัดคำว่า หมาออก (เพราะมันแรงไป)


ผมจำชื่อหนังสือเต็มๆไม่ได้แล้ว  ขนาดนักเรียนคณะใหม่ที่ซูดานยังรับไม่ได้เลย(ผมรู้มาจากนักเรียนคณะใหม่ตอนยืนดูหนังสือนี้อยู่)

[subson]

พรุ่งนี้ หน้าที่ และชีวิต


“…ไม่มีชีวิตใดรู้ถึงสิ่งที่มันจะหามาได้ในวันรุ่งขึ้น
และไม่มีชีวิตใดรู้ว่า ณ แผ่นดินใดที่มันจะตาย
แท้จริงอัลลอฮนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน”
(ลุกมาน 31:34)

ในท่ามกลางความวิตกกังวลถึงอนาคตข้างหน้า,ขั้นตอนของชีวิตที่ต้องดำเนินไป และงานใหญ่ที่ตั้งเป็นเป้าหมาย มีความรู้สึกอ่อนละมุนเกิดขึ้นในหัวใจ เมื่อคิดว่า…ขณะที่เรากำลังวางแผนชีวิตอย่างนู้นอย่างนี้ คิดจะทำนู่นทำนี่…อัลลอฮฺก็วางแผนไว้ให้เรา พระองค์จัดวางไว้หมดแล้วว่าจะให้เราไปอยู่ตรงไหน พบเจอใคร มีชีวิตอยู่บนแผ่นดินและจากไปในสภาพเช่นไร
ท้ายที่สุด…ทุกชีวิตก็ดำเนินไปตามแผนของอัลลอฮฺ ไม่ใช่ของเราเองเลย
อบอุ่นก็ตรงที่รู้ว่า…ผู้ที่ทุกชีวิตต้องดำเนินไปตามประสงค์ของพระองค์นั้นเป็นผู้เดียวกับที่เราได้รัก ได้วอนขอ และได้มอบหมายอย่างสุดหัวใจ

มันเป็นความอบอุ่นละมุนละไมที่มาพร้อมกับความหนักแน่น และตระหนักดีว่า…ชีวิตที่ได้รับความเมตตาถึงขนาดนี้ของพวกเรา…
ชีวิตที่ได้รู้จักอิสลาม
ได้เอาหน้าผากวางลงต่อหน้าผู้สร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน
ได้อ่านคัมภีร์ที่ภูเขายังต้องสะท้านสะเทือน
…มันเป็นชีวิตที่หมดทาง…หมดแล้วซึ่งหนทางที่จะอกตัญญูต่อผู้สร้างมัน

โลกนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นสถานพักผ่อนสำหรับผู้ศรัทธา ทว่าเป็นคุก…ในความร่มเย็นของหัวใจ เราจึงมีงานหนักต้องทำ มีบททดสอบมากมายให้ต้องอดทนและฟันฝ่า โดยต้องไม่ลืมว่า…ในความเป็นมุสลิม เราไม่ได้มีหน้าที่ต่อตัวเองเท่านั้น แต่ทั้งสังคมที่เราอยู่ และโลกนี้ทั้งใบล้วนอยู่ในอมานะฮของประชาคมเรา
มีหนังสือและงานเขียนมากมายที่บอกให้เราได้สำนึกว่า…โลกต้องสูญเสียมากมายแค่ไหนกับความอ่อนแอของมุสลิม และก็ชัดเจนแล้วว่า…ทางรอดเดียวของโลกใบนี้คืออะไร?

มันเป็นเรื่องแปลก…ที่เวลามีมุสลิมบางส่วนเสียสละลุกขึ้นทำหน้าที่ของเขา อย่างบรรดามุญาฮิดีน หรืออุละมาอที่ซื่อสัตย์ต่อสัจธรรม พวกเรากันเองนี่แหละที่จะรีบลุกขึ้นแล้วบอกว่าพวกเขารุนแรงและใจร้าย ทั้งที่จริง ๆ แล้ว มุสลิมที่นั่งอยู่เฉย ๆ น่ะใจร้ายที่สุดเลย…ใจร้ายทั้งต่อตัวเองและต่อโลกใบนี้ ในฐานะที่ตัวเองได้รินรสสัจธรรมอยู่ แต่กลับไม่ยอมแบ่งปัน

มุสลิมต้องไม่ลืมว่าพวกเราเป็นใครคนที่กำลังแบกรับสาสน์ซึ่งมีคุณค่ายิ่งกว่าชีวิตของพวกเราเอง เราจึงต้องมีชีวิตอยู่เพื่อสาสน์นี้มากกว่าเพื่อชีวิตของตัวเอง (แม้ท้ายที่สุดแล้ว การมีชีวิตอยู่เพื่อสาสน์อันนี้ก็เป็นวิถีทางเดียวจะทำให้ชีวิตของพวกเรารอด)

โลกนี้ก็เท่านี้…จะเอาอะไรกับปีกยุง จะเอาอะไรกับหยดน้ำ คู่เดียวเอง แป้บเดียวเอง…ทำหน้าที่ของเราแล้วก็กลับบ้านเดิมที่รออยู่…หลังงานหนักย่อมมีการพักผ่อน หลังหยาดเหงื่อย่อมมีรอยยิ้ม…อินชาอัลลอฮฺ

“แท้จริงอัลลอฮได้แต่งตั้งพวกท่านให้เป็นตัวแทนบนแผ่นดิน
แล้วพระองค์ก็จะคอยมองดูว่าพวกท่านทำอะไร”
(มุสลิม)

[บาชีร]

สบสนลบเถอะ หรือไม่ก็ย้ายไปวางใที่อื่น

วางผิดกระทู้แล้วล่ะ

ทีมงานเอาบทความของสับสนอันนี้ไปไว้ที่กระทู้อื่นก็ได้ เช่นกระทู้ตะวักกัลต่ออัลลอฮฺ อะไรประมาณนี้

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า...

[ILHAM]

ว่า... สับสน

[Axiom]

คุณสับสน สับสนจิงๆ

แต่ก้อน่าอ่านดีน่ะ ให้ข้อคิดดี

[wahaba]

คนที่ถูกพ่อแม่ตัวเองสาปแช่ง ก็มักจะสับสน อย่างนี่แล

[มัยซูน]

คนที่ถูกพ่อแม่ตัวเองสาปแช่ง ก็มักจะสับสน อย่างนี่แล

รู้ได้ไงละคะว่า ถูกพ่อแม่เขาสาปแช่ง

[ILHAM]

เขาแค่พูดลอยๆ
จะบอกว่า พ่อแม่สาปแช่งอยู่ในสับเซตของอาการแบบนี้

[Al Fatoni]

เชคมุกบิลก็อยู่เยเมน

เคยเขียนหนังสือด่าศาสตราจารดอกเตอร์ยูซุฟ กอรฎอวี

ความไร้มารยาทของเชคมุกบิล ถึงขนาดตั้งชื่อหนังสือโดยใช้คำว่ากิลาบكلاب  ที่แปลว่า หมา อ้างอิงไปยังดอกเตอร์ยูซุฟ

แต่พอหนังสือถูกนำเข้าไปซูดาน ก็ตัดคำว่า หมาออก (เพราะมันแรงไป)


ผมจำชื่อหนังสือเต็มๆไม่ได้แล้ว  ขนาดนักเรียนคณะใหม่ที่ซูดานยังรับไม่ได้เลย(ผมรู้มาจากนักเรียนคณะใหม่ตอนยืนดูหนังสือนี้อยู่)

               เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่าน ผมได้มีโอกาสยืมหนังสือเล่มหนึ่งจากหอสมุดมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่ ซึ่งเป็นหนังสือของเชคยูสุฟ ก็อรฏอวีย์ ชื่อว่า "มกอศิด อัชชรีอะฮ์" (หากจะแปลให้เข้ากับบริบทการใช้ก็น่าจะไม่ผิดหากจะเรียกว่า "ปรัชญากฎหมายอิสลาม") ภาคภาษาอินโดเนเซีย เนื้อหาเกินครึ่งของหนังสือเล่มนี้ จะวิจารณ์ถึงบางกลุ่มที่ไม่ค่อยจะใส่ใจต่อมกอศิดุชชรีอะฮ์สักเท่าไร ในหนังสือเล่มนี้ ท่านได้บัญญัติศัพท์ขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วท่านก็ให้คำนิยามของมันเองด้วย คำนั้นก็คือ "กลุ่มซอฮิรียะฮ์ใหม่"

                กลุ่มนี้ ท่านจะหมายถึงบุคคล หรือกลุ่มไหนก็ตามที่มีลักษณะแนวเอียง หรือสุดโต่งในการตีความตัวบท (นัศศ์) ทางกฎหมาย โดยเฉพาะจากอัลกุรฺอานและอัสสุนนะฮ์ว่า จำเป็นต้องตีความตามตัวอักษร และถือว่าการตีความโดยอาศัยเจตนารมณ์ แล้วนำเจตนารมณ์นั้นเข้าสู่กระบวนนิติบัญญัติ ถือเป็นการก้าวข่ายและกระทำการอันไม่บังควรในศาสนาและพระคัมภีร์ รวมทั้งแบบฉบับของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ

            ส่วนหนึ่งจากกลุ่มที่ท่านเห็นว่าอยู่ในกรอบคำนิยามของคำว่า "ซอฮิรีย์" ก็คือ กลุ่มฮิซบุตตะห์รีร, กลุ่มสะละฟีย์ (วะฮาบีย์) และอีกหลายกลุ่ม ท่านได้วิจารณ์คนพวกนี้ว่า เป็นพวกที่พยายามจะสร้างความเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้นภายในประชาชาติอิสลาม เรื่องนี้เมื่อดูประหนึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ทว่า พวกเขากลับเรียกผู้คนให้เป็นหนึ่งภายใต้อุดมการณ์ หรือแนวคิดของตนเท่านั้น พูดง่ายๆ ก็คือ มีความพยายามอย่างเหลือเกิน เพื่อให้แนวคิดของตนทะยานสู่ความเป็นสากลของโลกอิสลาม พร้อมทั้งแสดงพฤติกรรมการไม่ยอมรับแนวคิดอื่นๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย - วัลลอฮุอะอ์ลัม - วัสสลามุอลัยกุม

[al-azhary]

เชคมุกบิลก็อยู่เยเมน

เคยเขียนหนังสือด่าศาสตราจารดอกเตอร์ยูซุฟ กอรฎอวี

ความไร้มารยาทของเชคมุกบิล ถึงขนาดตั้งชื่อหนังสือโดยใช้คำว่ากิลาบكلاب  ที่แปลว่า หมา อ้างอิงไปยังดอกเตอร์ยูซุฟ

แต่พอหนังสือถูกนำเข้าไปซูดาน ก็ตัดคำว่า หมาออก (เพราะมันแรงไป)


ผมจำชื่อหนังสือเต็มๆไม่ได้แล้ว  ขนาดนักเรียนคณะใหม่ที่ซูดานยังรับไม่ได้เลย(ผมรู้มาจากนักเรียนคณะใหม่ตอนยืนดูหนังสือนี้อยู่)

หนังสือของอิมามของวะฮาบีที่มีนามว่า  ชัยค์มุกบิล บิน ฮาดี  อัลวาดิอีย์นั้น  ได้แต่งหนังสือเกี่ยวกับท่านด็อกเตอร์ ชัยค์ อัลก็อรฏอวีย์  ที่ชื่อว่า

إسكات الكلب العاوي يوسف القرضاوي

"การทำให้นิ่งกับหมาที่เห่าหอน(ที่มีนามว่า)ยูซุฟอัลก็อรฏอวีย์"

[As-Zaleek]

หนังสือของอิมามของวะฮาบีที่มีนามว่า  ชัยค์มุกบิล บิน ฮาดี  อัลวาดิอีย์นั้น  ได้แต่งหนังสือเกี่ยวกับท่านด็อกเตอร์ ชัยค์ อัลก็อรฏอวีย์  ที่ชื่อว่า

إسكات الكلب العاوي يوسف القرضاوي

"การทำให้นิ่งกับหมาที่เห่าหอน(ที่มีนามว่า)ยูซุฟอัลก็อรฏอวีย์"

หรือตามหลักความเชื่อวะฮาบีย์นั้น  ผู้ที่ขัดกับทัศนะของตนเองหรือไม่ได้อยู่ในแนวทางวะฮาบีย์ที่ตนเองยึดอยู่  เปรียบเสมือนกับหมาตัวหนึ่ง?.?