โพลล์

0

1
0 (0%)
2
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 0

ปิดการโหวต: เม.ย. 04, 2010, 12:35 AM

ผู้เขียน หัวข้อ: การท้าทายของกะบ๊าบ (shabab) ต่อพี่น้องsunahstudent ในเว็&  (อ่าน 10680 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
ถกไปถกมาได้ความคิดดีนะครับ  mycool:
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
กอลบุลญาเฮล กับ ชาบาป ตัวเดียวกันหรือเปล่านั้น
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
ใครอยากดู คลิปวะฮาบีรีดอ ด่าวะฮาบีด้วยกันแต่คนละแนวทาง ว่า ตอแหลบนเวที ด้วยลีลาตาเหลือกตาหลุน ดั่งยักษ์ขมูขี ดูแล้วน่าอดสูสมเพส

พวกวะฮาบีเคยเอามาลงในเวปมูรีด เพราะคิดว่าโก้  แต่คงมานึกได้ทีหลังว่าทุเรศสิ้นดีเลยลบออก myGreat:

อย่าใช้คำหยาบคายเลยนะครับ  ถ้าไม่ดีเดี่ยวเขาแตกกันเอง และผมเคยจับมือ อ ริดอด้วย ท่านยิ้มแย้มมาก  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 03, 2010, 03:30 PM โดย anti-bid'ah »
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ abu-khulus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 76
  • Respect: -3
    • ดูรายละเอียด
 salam
อัสลามูอะลัยกุ้ม ว่ะเราะห์มาตุ้ลลอฮ์ วะบะร่อกาตุฮ์..พี่น้องทุกท่าน


บอกตามตรง ไม่ชอบกระทู้ลักษณะนี้เลยจริงๆ ..อัสตัฆฟิรุลลอฮ์
เข้าใจนะ..แต่ละคนอาจารย์ใครๆ ก็รัก ..อาจารย์เราๆก็รัก อาจารย์เขาๆก็รัก..
ทิฐิที่มีต่ออีกฝ่าย..ลดลงเสียบ้าง ทั้งเขาและเรา..เพราะพวกเราก็ไม่ใช่ใครที่ไหน..แต่เราคือ พี่น้องกัน !!

หากโดนคนอื่นเค้าทำให้เราต้องช้ำหัวใจด้วยกับเรื่องบางเรื่อง..จำเป็นที่เราต้องทำเค้าให้ช้ำกว่า เจ็บกว่า เชียวหรือ ?


อ้างจาก: ท่านอาจารย์อัซฮะรีย์..
....กระทู้แบบผ่อนคลายเบาสมอง  เสวนาอย่างฉันท์พี่น้องนั้น  โพสต์กันตามสบายเลยครับ  เต็มที่ ๆ  แต่การโพสต์ที่อยู่ในเชิงรังเกียจหรือมีความเกลียดชังแต่แนวทางอื่นนั้น  ไม่สมควรมีเป็นอย่างยิ่งครับ  หากเราจะโพสต์เสวนากันก็ต้องด้วยวิชาการ  ไม่สมควรนำอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง  เพราะอย่างน้อยอีกแนวทางหนึ่งเขาก็คือมุสลิมที่เป็นพี่น้องร่วมศาสนาของเรา......

ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮูอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า::' ใครก็ตามที่ศรัทธาในอัลลอฮฺและวันปรโลก ดังนั้นเขาก็จงพูดแต่ในสิ่งที่ดีหรือไม่ก็จงนิ่งเงียบเสีย' [หะดีษบันทึกโดยมุสลิม]

เรื่องการชี้แจงเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงโดยอยู่บนพื้นฐานของหลักวิชาการ อันนี้ส่งเสริม

แต่หากเป็นเรื่องการทะเลาะ..โต้เถียงที่ไม่ได้อยู่บนหลักพื้นฐานของวิชาการ..
ใช่ว่าเฉพาะแต่ต้องเป็นการพูดสนทนากันเท่านั้น ที่ไชฏอนจะเข้าร่วมวงสนทนานั้นด้วย..
แต่หมายถึงทั้งการพูดในทุกๆที่ รวมถึง การเขียน การพิมพ์ ทกๆอย่างที่เราแสดงออกและส่งสารออกไป..
แท้จริง..ทุกๆอย่าง ไม่เคยเล็ดลอดจากการบันทึกของพระองค์  หรือพวกเราอาจลืมกันไปแล้ว ?

ฝากถึงตัวเอง สมาชิกทุกท่านที่นี่ และท่านผู้อ่านคนอื่นๆ
ขอแนะนำว่า หากมีอะไรอยากเคลียร์กับพี่น้องท่านใด ก็น่าจะถามหรือติดต่อที่คนนั้นโดยตรงจะดีกว่าไหม ?
ยกตัวอย่าง หากท่านใดมีอะไรอยากถาม , อยากเคลียร์กับท่านชะบ๊าบ (ว่าไปตามกระทู้เลยล่ะกัน) ถ้าจำไม่ผิดเค้าก็ทิ้งเมลล์หรือช่องทางที่สามารถติดต่อถึงเค้าไว้ (อันนี้แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ แต่อาจเห็นภาพชัดเจนไปบ้าง - -' (ไม่ถูกไม่ควร..นะซีฮัตกันได้ค่ะ)) น่าจะใช้วิธีที่เข้าถึง แล้วความเข้าใจก็จะตามมา..อินชาอัลลอฮฺ

ถึงท่านพี่น้องคนอื่นๆ ที่ชอบตั้งกระทู้แนวๆ นี้ทั้งในเวบไซต์แห่งนี้และเวบไซต์อื่นๆ หากท่านกำลังอ่านอยู่ รบกวนทบทวน ผลที่จะตามมาหลายๆรอบ และให้หลายๆด้านนะค่ะ ว่าคุ้มไม๊ ? ที่จะเริ่มกระทู้อะไรสักอย่าง ? เราคาดหวังอะไรจากการเสวนาในกระทู้นั้นๆ ? สิ่งที่เราจะเริ่มทำเนี๊ยะมันดีต่อศาสนาของเรา พี่น้องของเราและตัวเราแล้วใช่ไหม ? ( เก้าลอเก้า )

ผิดพลาดตรงไหนน้อมรับคำนะซีฮัตเสมอค่ะ ยินดีๆ ^^




เห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างต้น

ผมอยากฝากบทความเรื่องหนึ่งจากเวปฟิตยะฮฺดอทคอม ที่เขียนโดยอัลอัค อาจจะยาวสักหน่อยแต่หวังว่าพี่น้องสุนนะฮฺสดิวเด้นท์ทุกท่านจะช่วยอ่านจนจบนะครับ

ออฟไลน์ abu-khulus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 76
  • Respect: -3
    • ดูรายละเอียด
ความขัดแย้งระหว่างพวกเรา
จะเผชิญหน้าหรือสานเสวนา

โดย อัล อัค


            "ผมท้วงติงพี่น้องนักเผยแผ่ที่เน้นการตีแผ่บิดอะฮฺไปหลายท่านแล้วว่า ปัญหาความขัดแย้งจะหยุดไม่ได้และจะขยายตัวไม่สิ้นสุด หากยังไม่ยุติการเรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่า พวกบิดอะฮฺ(พวกอุตริกรรม) ...

มีบางคนย้อนถามผมกลับว่า ทำไมจะเรียกไม่ได้ ในเมื่อพวกนี้มีกิจกรรมทางศาสนาที่เป็นบิดอะฮฺ ผมบอกพวกเขาว่า ไม่มีใครชอบคำศัพท์แบบนี้ แม้เราจะปักใจว่าเขาจะเป็นเช่นนั้นจริง แต่เราก็ไม่สมควรใช้คำศัพท์นี้ เพราะอย่างน้อยกิจกรรมอีกจำนวนมากหรือส่วนมากของพวกเขาก็เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นซุนนะฮฺ น่าแปลกใจว่าทำไมเราไม่เรียกในสิ่งที่ส่วนใหญ่ของเขาเป็นเล่า ...   

ประการต่อมา สิ่งที่อีกฝ่ายเรียกว่ามันเป็นบิดอะฮฺนั้น มันเป็นบิดอะฮฺจริง ๆ หรือว่ามันยังเป็นประเด็นที่มีข้อกังขาในบริบทของการอิจญติฮาด หรือเพียงแค่เราคิดว่าเป็นบิดอะฮฺ หรือเพียงเพราะมันไปอยู่กับคนที่เราประทับตราเสียแล้วว่า อะหฺลุล บิดอะฮฺ (ชาวอุตริกรรม) ...  แล้วทำไมเราไม่อีกฝ่ายที่มีทัศนะเป็นอย่างอื่นได้อธิบายมันออกมาว่าถึงตัวบทหลักฐานและเหตุผลต่าง ๆ อย่างเต็มที่เล่า !!!

ผมนำเรื่องนี้มาคุย เพราะมีพี่น้องจำนวนหลายท่านที่เข้าใจไปเองว่า การที่ผมปฏิเสธการไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่งในประเด็นปัญหาเรื่องซุนนะฮฺ-บิดอะฮฺ หรือในเรื่องฟัตวาที่แตกต่างกันคนละขั้ว เป็นการหนีปัญหาหรือลอยตัวเหนือปัญหา ... มิได้เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน แต่ผมกำลังเสนอการเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้อีกแบบหนึ่งต่างหาก

           ข้อเสนอของผม เริ่มด้วยการยุติการประณามและการตั้งฉายาให้กันและกันต่าง ๆ นานา แล้วขอให้เรากลั้นใจหยุดตัดสินว่าใครผิดใครถูกเสียก่อน ... เพื่อเราจะได้เริ่มต้นให้แต่ละฝ่ายที่ขัดแย้งกันได้อธิบายสิ่งที่ตัวเองคิดและสิ่งที่ถูกเองทำว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร?
 
ครับสิ่งที่ผมเรียกร้องเรียกกันตามศัพท์ยอดฮิตว่า สานเสวนา ... ซึ่งแตกต่างกับการโจมตี ... การโจมตีนั้นจะใช้กับแนวคิดที่เป็นอันตรายโดยแน่แล้ว และไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องก้าวออกมาตีแผ่ เปิดโปง และชี้ให้สังคมตระหนักถึงอันตรายของมัน .. และต้องทำใจว่า การโจมตีก็จะต้องได้รับการโจมตีกลับ เพราะการโจมตีเป็นธรรมชาติแบบสงคราม ซึ่งควรนำมาใช้กับกรณีระหว่างแนวคิดบ่อนทำลายที่โจ่งแจ้งและหมดหนทางบำบัดแล้วเท่านั้น 

สานเสวนา ในความเห็นของผมจึงมิใช่การโต้วาที ความแตกต่างระหว่างการสานเสวนากับการโต้วาทีก็คือ โต้วาทีมีการตั้งญัตติแห่งการแพ้ชนะตั้งแต่ต้น แต่ละฝ่ายมีธงคำตอบเป็นของตัวเองแล้วว่า ของฉันถูก และของแกผิด ... แน่นอนการเสวนานั้น แต่ละฝ่ายก็ย่อมคิดว่า ของตัวเองนั้นถูกเหมือนกัน แต่สานเสวนาจะมุ่งไปสู่ความพยายามจะอธิบายว่าทำไมสิ่งที่ตัวเองคิดมันถึงถูก โดยหลีกเลี่ยงการไปรุกไล่อีกฝ่ายว่า ทำไมสิ่งที่อีกฝ่ายคิดมันต้องผิด …สานเสวนาจึงไม่เน้นธงคำตอบล่วงหน้า แต่ให้แต่ละคนไปหาคำตอบกันเอาเอง

   
แม้แต่การสานเสวนาระหว่างอิสลามกับศาสนาต่าง ๆ ก็สามารถใช้แนวคิดนี้ได้ ยกตัวอย่าง หากมุสลิมคุยกับชาวพุทธ เราก็ควรเน้นว่า ทำไมเราถึงเชื่อว่าอิสลามคือสัจธรรม? และทำไมเตาฮีดคือแก่นคำสอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด? มิใช่การไปไล่ซักถามว่า ทำไมพุทธศาสนาถึงเป็นสัจธรรม? หรือนิพพานมีตัวตนแบบไหน? 

การเสวนา เป็นการเปิดให้แต่ละฝ่ายอธิบายสิ่งที่ตัวเองเป็น อธิบายสิ่งที่ตัวเองคิด ตัวเองเชื่อ และให้ความสำคัญน้อยกับการซักถามสิ่งที่คนอื่นเป็น สิ่งที่คนอื่นคิด ... ทั้งนี้มิได้หมายความว่าจะปิดโอกาสการซักถามฝ่ายอื่นบ้าง ตรงกันข้ามมันสามารถกระทำได้ เพียงแต่ไม่ใช่การโจมตี แต่เป็นการถามเพื่อความชัดเจน เพื่อให้หายสงสัย  แต่ลำดับความสำคัญของมันอยู่ที่การอธิบายสิ่งที่ตัวเองเชื่อมากกว่าการไปอธิบายสิ่งที่คนอื่นเชื่อ ... จะมีประโยชน์อันใดเล่าที่เราตั้งหน้าตั้งตาจะวิจารณ์คนอื่น แต่เรื่องของเรา ความคิดที่เราเป็นอยู่ ยังไม่อาจทำให้คนอื่นรับรู้และเข้าใจได้ 

นอกจากนี้ จะต้องไม่คิดว่าการสานเสวนานั้นต้องอยู่บน “เวที” ใหญ่ๆ ที่มีคนเข้าร่วมเป็นร้อยเป็นพัน บางครั้งเวทีใหญ่ที่มีแต่ละฝ่ายเข้าร่วมกันมากมาย ได้ทำให้การสานเสวนาล้มเหลวลง และชักนำทั้งสองฝ่ายไปสู่การโต้วาทีที่เผ็ดร้อน ... การสานเสวนาสามารถกระทำได้ทั้งในระดับคุยกันสองคน หรือคุยกับในงานวิชาการ หรือแม้กระทั่งการเขียนบทความ ... การสานเสวนาที่ดีจึงต้องกระทำผ่านสื่อที่ง่ายต่อการรักษาไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของการสานเสวนา"

เดี๋ยวมีต่อครับ




ออฟไลน์ abu-khulus

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 76
  • Respect: -3
    • ดูรายละเอียด
บทความจากอัลอัคต่อครับ

"คำถามต่อมาก็คือ เราได้อะไรจากการสานเสวนา? มันมิทำให้ความถูกต้องที่เรายึดถืออยู่มัวหมองดอกหรือ? ผมตอบว่าคนถามวิตกเกินเหตุ เราต้องเชื่อว่า สัจธรรมคือ สิ่งที่ได้รับการพิทักษ์จากพระเจ้า ชัยชนะในท้ายที่สุดย่อมเป็นของสัจธรรม  อย่าไปวิตกในเรื่องเหล่านี้ หากสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นสัจธรรม เราก็ควรหาทางเปิดให้อีกฝ่ายได้รับรู้ … โดยมิต้องไปหวั่นไหวกับสิ่งที่อีกฝ่ายเสนอมา 

จริง ๆ แล้ว การสานเสวนาเป็นการทำให้ความขัดแย้งเข้าสู่องค์ความรู้ และตัวความรู้นี้จะช่วยปรับและแก้ปัญหาของมันได้ ประสบการณ์การสังเกตของผมพบว่า หลังจากการสานเสวนาระหว่างแนวคิด “เก่า-ใหม่” ในหมู่ซุนนียีนด้วยกัน ทำให้ฝ่ายหนึ่งสามารถยอมรับในทัศนะทางฟิกฮฺอีกฝ่ายหนึ่งว่ามีน้ำหนักเช่นกัน เช่น ยอมรับว่าละหมาดตะรอวิหฺ 20 รอกาอัตก็เป็นการปฏิบัติของคนยุคแรกเหมือนกัน  เช่นเดียวกันอีกฝ่ายหนึ่งก็อาจยอมรับว่า ตัวนักวิชาการที่อย่างเชค มุฮัมมัด บิน อับดุล วะฮาบ ที่เขาเคยคิดว่าเป็นแผนการสร้างของยิว ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ท่านก็เป็นเหมือนอุละมาอ์คนอื่นที่มีทั้งถูกและผิด ... บทสรุปเช่นนี้มันหาไม่ได้ในการเปิดการโจมตีใส่กันและกัน 

การสานเสวนาเป็นกระบวนการเรียนรู้สภาพปัญหาความขัดแย้ง เป็นการเปิดเผยให้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ในบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่ต้องตะโกนสั่งทหารเลว ๆ ให้บุกหรือให้ถอย ... แต่ละฝ่ายจะได้เห็นข้อเด่น-ข้อด้อยของอีกฝ่าย โดยปราศจากอคติ และมันจะช่วยเปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายเปิดรับข้อเด่นของอีกฝ่ายได้ง่าย และง่ายที่ให้แต่ละฝ่ายปรับข้อด้อยของตนเอง ... ก็พวกเราไม่มีใครมะอฺศูม(คนที่ปลอดจากบาป)กันเลยสักคนเดียว

            การสานเสวนา เป็นการทำตัวเป็นนักเรียน มิได้ทำตัวเป็นผู้รอบรู้ไล่ตัดสินคน ปัญหาที่หมักหมมอยู่ในสังคมเราทุกวันนี้ มันต้องการระบอบการเรียนรู้ร่วมกันนำต่างหาก ...
 
ผมมั่นใจว่า คนยุคแรก ๆ นั้น พวกเขาเลือกที่จะสานเสวนา แม้แต่อยู่ในสภาพวิกฤติ  ดังเหตุการณ์รุนแรงในการสังหารเคาะลีฟะฮฺ อุษมาน แม้ฟิตนะฮฺจะกระพืออย่างรุนแรงแค่ไหน แต่ผู้นำทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายท่านอลี และฝ่ายท่านหญิงอาอิชะฮฺ เลือกที่จะใช้การพูดคุยกัน  …

           แต่แล้ว ... มุนาฟิกีนที่ซ่อนตัวอยู่ในกองทัพของทั้งสองฝ่ายได้เปิดการโจมตีในค่ำคืนที่มืดมิดนั้นเอง ...."


http://www.fityah.com/index.php?option=com_content&task=view&id=332&Itemid=30

   

ออฟไลน์ Innovative_Student

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 25
  • เพศ: ชาย
  • Former Bid'ah Student in Dunya
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

 salam

อืม...

เห็นด้วยกับคอมเม้นท์ของ abu-khulus นะ (ที่อ้างอิง จากบทความของอัล-อัค)

คือบางทีเรามัวแต่เรียกชื่อที่เขาไม่ชอบ แล้วก็ด่าเชา ว่าเขา วิพากษ์วิจารย์เขา แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่พวกเราจะมานั่งพบเจอกัน พูดคุยกัน แล้วชี้แจงว่า "ที่ฉันเชื่อแบบนี้นั้น ก็เพราะว่า....."

"มีหลักฐาน....อย่างนั้น อย่างนี้" "ไม่ขัดกับ ตัวบทหลักฐานอย่างนั้น อย่างนี้" เป็นต้น

คือ มันเป็นการพูดคุยตักเตือนกันอย่างจริงใจ ที่อยากให้เขาได้พบกับสัจธรรมอย่างที่เราได้สัมผัส ไม่ใช่การประนามเพียงเพื่อตอบสนองชัยและชนะ พ่ายและแพ้

หรือเถียงเพราะ วางฟอร์มของตัวเองไม่ลง

แนะนำนะครับ เกลียดใคร ก็ไปเจอเขาซะ แล้วไปพูดคุยกับเขาดีๆ ว่าทำไมถึงอย่างนั้น อย่างนี้

ไม่ต้องกลัวหรอก หากเรามั่นใจว่าเราถือสัจธรรมจริงๆ

  smile:
"โอ้ อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงชี้นำทางที่ถูกต้องแก่ข้าพระองค์ และผู้ที่ข้าพระองค์เป็นห่วง เนื่องจากการกระทำบิดอะฮฺของเขา และโปรดอย่าได้ให้เรา เป็นผู้ที่ดื้อด้านต่อสัจธรรมเลย"

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
 salam

ชอบบทความที่ท่าน abu-khulus นำเสนอ ครับ ผมก็อยากพูดอย่างนี้แหละ แต่เรียบเรียงคำพูดได้ไม่ดี กลัวว่าพูด(พิมพ์)ไป แทนที่จะให้ผลดีกลับส่งผลร้าย

ผมเชื่อว่า พวกเราทุกคนที่นำเสนอความเห็นของตนในกระทู้นี้ ยังคงมีกะลีมะฮฺ ลาอิลาฮะอิลลั้ลลอฮฺ มุหัมมะดุรฺเราะสูลุลลอฮฺ ยังยึดเหนี่ยวสายเชือกเส้นเดียวกัน

ดังนั้นความคิดเห็นส่วนใหญ่ก็จะไปในทางเดียวกัน แตกต่างกันบ้างที่ข้อปลีกย่อย ทำไมจึงให้ความแตกต่างส่วนน้อยเหล่านั้นมาทำให้ความเป็นพี่น้องของเราต้องเหินห่างกัน

ทำไมต้องพูดเยาะเย้ย ถากถาง เสียดสี กันและกัน เรายังมีโอกาสพูดคุย ทักทาย ช่วยเหลือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็ในเฉพาะดุนยานี้เท่านั้น

เพราะในอีกโลกหนึ่ง ทุกคนต่างก็เห็นแต่กับตัวเอง พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อนฝูง ญาติมิตร เห็นหน้ากันยังไม่อยากจะมอง คิดแต่ว่าทำอย่างไรจะเอาตัวรอด

ผมไม่ทราบว่าใครเป็นฝ่ายเริ่ม ใครเป็นฝ่ายโต้ตอบ เคยอ่านหะดีษ(แต่จำไม่ได้หมด)ว่ามีผู้ต่อว่าท่านอะบูบักร ท่านไม่โต้ตอบ และท่านนะบียฺบอกว่า มีมะลาอิกะฮฺโต้ตอบแทน

แต่เมื่อท่านอะบูบักรฺเริ่มโต้ตอบ ท่านนะบียฺก็เดินหนี เพราะท่านบอกว่า ชัยฏอนเข้ามาแทนที่มะลาอิกะฮฺ ท่านไม่ชอบที่จะนั่งร่วมในที่ที่มีชัยฏอนอยู่

ถ้าข้อเขียนของแต่ละฝ่ายกระตุ้นให้ท่านโกรธ กล่าว อะอูซุบิลลาฮิมินัชชัยฏอนิรเราะญีม แล้วไปทำวุดูอ์ ไม่ต้องตอบโต้อะไร น่าจะช่วยได้

ผมกล่าวอะไรที่ล่วงเกินไป ขอมะอัฟด้วยครับ ไม่มีเจตนาอื่น นอกจากไม่อยากเห็นความแตกแยกของพี่น้องมุสลิมจนมองหน้ากันไม่ติด

วัสสลาม

ออฟไลน์ wahaba

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 219
  • สร้างรูปร่างให้พระเจ้าคือความเชื่อของวะฮาบีและยิว
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam  สั่งวะฮาบีให้หยุดซิครับ ถ้าสั่งได้  แล้วทุกอย่างก็จะจบ  เช็คดูซิว่าใครเริ่มก่อนทุกทีเลย  no:

 

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
อัล-อัค คือ ใครหรือครับ   

ออฟไลน์ Innovative_Student

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 25
  • เพศ: ชาย
  • Former Bid'ah Student in Dunya
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam

อืม..

และอีกอย่างผมเชื่อนะครับว่า ในชีวิตจริงๆของพวกเราเนี่ย เวลาเจอกับคนที่เราคิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม(ย้ำ..."คิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม" ซึ่งอาจไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามจริงๆก็ได้)

เราไม่ไปชี้หน้าด่าทอพวกเขาหรอก บางทีพวกเราอาจจะยื่นมือให้สลามและยิ้มให้กันด้วยซ้ำ

แต่ทำไมก็ไม่รู้ เวลาอยู่ในบอร์ดแล้ว พวกเราถึงได้เกลียดกันเหลือเกิน

อันนี้ หมายถึงตัวเองด้วยนะ ที่บางทีก็ทำตามนัฟซูมากเกินไป

"โอ้ อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงชี้นำทางที่ถูกต้องแก่ข้าพระองค์ และผู้ที่ข้าพระองค์เป็นห่วง เนื่องจากการกระทำบิดอะฮฺของเขา และโปรดอย่าได้ให้เรา เป็นผู้ที่ดื้อด้านต่อสัจธรรมเลย"

ออฟไลน์ มาลิกกุ๊กกิ๊ก

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 451
  • เพศ: ชาย
  • คนความรู้น้อย
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
salam  สั่งวะฮาบีให้หยุดซิครับ ถ้าสั่งได้  แล้วทุกอย่างก็จะจบ  เช็คดูซิว่าใครเริ่มก่อนทุกทีเลย  no:

 

ประเด็นที่แท้จริงมันอยู่ตรงนี้  เมื่อไหร่จะหยุด .....

ออฟไลน์ Andalus

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1131
  • เพศ: ชาย
  • บ่าวผู้ต่ำต้อย
  • Respect: +27
    • ดูรายละเอียด
ขิงก็รา ข่าก็แรง
"โอ้ อัลลอฮฺ ผู้ทรงทำให้จิตใจเปลี่ยนแปลงได้ ขอพระองค์ทรงให้หัวใจของฉันแน่นแฟ้นอยู่บนศาสนา(อิสลาม)ของพระองค์ด้วยเถิด "

ออฟไลน์ มาลิกกุ๊กกิ๊ก

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 451
  • เพศ: ชาย
  • คนความรู้น้อย
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
ขิงก็รา ข่าก็แรง

น้ำมาปลากินมด   น้ำลดตอผุด

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
อัล-อัค คือ ใครหรือครับ   


 salam

เคยติดตามอ่านบทความของท่านอัล-อัค มาน่ะค่ะ
ชอบแนวคิดและงานเขียน(บทความ)ของท่านเป็นการส่วนตัว
แต่ตัวจริงก็ไม่รุ้จักเหมือนกันค่ะ

อยากให้พี่ๆน้องๆลองเข้าไปอ่านบทความตามลิงก์นี้ดูนะคะ
(ตอนแรกว่าจะขุดขึ้นมา แต่คิดว่า เอามาแปะให้เข้าไปอ่านอย่างเดียว
น่าจะดีกว่า ก็เลยเอามาแปะในนี้แทนการขุดกระทู้นั้นขึ้นมาค่ะ...
กลัวจอบผูกโบว์สีชมพูหักน่ะค่ะ ;D )

v
v
v


 
อัล อัค เคยบอกว่า
" บางทีสัจธรรมมันถูกทำลายไม่ได้หรอก
เราไม่จำเป็นต้องออกไปปกป้องมัน มันปกป้องตัวมันเองได้"




วัสลามค่ะ

;D

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged