ผู้เขียน หัวข้อ: คุฏบะฮฺวันศุกร์ มัสญิดอัรฺ-ริฎวาน(นานา) 24 ตุลาคม 2551 (24 เชาวาล 1429)  (อ่าน 2288 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด


การใช้ชีวิตคู่

พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮฺด้วยการปฏิบัติความดีและละเว้นความชั่วอย่างจริงจัง และท่านทั้งหลายจงอย่าได้ตายจนกว่าท่านจะยอมจำนนต่ออัลอิสลามโดยสิ้นเชิง
   พี่น้องครับ อัลลอฮฺตะอาลาดำรัสว่า

   
   “บรรดาชายนั้นคือผู้ที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูบรรดาหญิงเนื่องด้วยการที่อัลลอฮฺได้ทรงให้บางคนของพวกเขาเหนือกว่าอีกบางคน และด้วยการที่พวกเขาได้จ่ายไปจากทรัพย์ของพวกเขา บรรดากุลสตรีนั้นคือผู้จงรักภักดี ผู้รักษาทุกสิ่งทุกอย่างเมื่ออยู่ลับหลังสามีเนื่องด้วยสิ่งที่อัลลอฮฺทรงรักษาไว้”                        อันนิสาอ์ 4 : 34
   และอีกอายะฮฺหนึ่งอัลลอฮฺดำรัสว่า
   “และจงอยู่ร่วมกับพวกนางด้วยดี หากพวกเจ้าเกลียดพวกนาง ก็อาจเป็นไปได้ว่าการที่พวกเจ้าเกลียดสิ่งหนึ่งขณะเดียวกันอัลลอฮฺก็ทรงให้มีความดีอันมากมายในสิ่งนั้น”       อันนิสาอ์ 4 : 19
   จากอายะฮฺกุรฺอานทั้งสองนี้ เป็นคำสั่งที่อัลลอฮฺทรงบัญชาแก่บรรดาสามีทั้งหลายให้ปฏิบัติตัวต่อภรรยาอย่างผู้มีศรัทธา ข้อแรกเลยก็คือ สามีต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นผู้ปกครองดูแลภรรยา เพราะอัลลอฮฺได้ประทานความสามารถทางด้านร่างกายและสติปัญญา ความกล้าหาญ ให้แก่ผู้ชายที่เป็นสามี ตลอดจนสามีเป็นผู้จ่ายค่าเลี้ยงดูแก่ภรรยา สามีจึงต้องทำตัวให้สมกับเป็นผู้นำของครอบครัว ดูแลสั่งสอนภรรยาและบุตรให้เป็นผู้ศรัทธา ฏออะฮฺต่ออัลลอฮฺและเราะสูล ไม่ใช่ตรงกันข้าม สามีอยู่ในโอวาทของภรรยา ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ภรรยาพูดคำไหนเป็นคำนั้น และไม่ใช่เกาะภรรยากินทั้งที่ตนเองไม่ใช่คนไร้ความสามารถ
   ส่วนหน้าที่ของภรรยานั้นก็คือรักษาทุกสิ่งทุกอย่างของสามี ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง ชื่อเสียงเกียรติยศ รวมทั้งรักษาตนเองไม่ประพฤตินอกลู่นอกทาง
   สามีบางคนหลังจากการแต่งงานแล้วพบว่า ภรรยาไม่ได้เป็นอย่างที่ตนคาดคิด มีข้อบกพร่องบางประการทำให้สามีเกิดความเกลียดชัง เบื่อหน่าย ก็ขอให้มีความอดทนอยู่กับเธอไปเถิด เพราะในตัวของเธอยังมีสิ่งอื่นที่ดี ๆ อีกมากมายที่อัลลอฮฺประทานให้โดยที่สามีไม่อาจรู้ เช่น อาจให้กำเนิดบุตรที่ศอลิหฺแก่เขา กี่มากน้อยแล้วที่เรารักเราชอบสิ่งหนึ่งแต่สิ่งนั้นก่อผลเสียให้แก่เรา และกี่มากน้อยแล้วที่เราไม่ชอบสิ่งหนึ่ง แต่สิ่งนั้นก่อให้เกิดคุณประโยชน์อันมหาศาลแก่เรา ขอให้ได้นึกถึงตอนที่ไปสู่ขอ สามีได้ให้คำมั่นสัญญาอันหนักแน่นแก่ผู้ปกครองของภรรยาว่าจะรักเธอ เลี้ยงดูเธออย่างดี จนผู้ปกครองของเธอยกเธอให้แก่เขาด้วยความสมัครใจของเธอ ยอมทิ้งครอบครัวไปอยู่กับคนแปลกหน้า ขอให้ยึดคำสัญญานั้นเอาไว้ให้มั่น
   และการที่อัลลอฮฺให้สิทธิ์แก่สามีเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้สามีลุแก่อำนาจ ทารุณโหดร้ายกับภรรยา บางคนเลี้ยงดูภรรยาแบบต้องการให้ภรรยาอยู่ในโอวาทเพียงอย่างเดียว ห้ามเถียงห้ามชี้แจง บางคนรักภรรยาเหมือนกับลูกฟุตบอล เตะเช้าเตะเย็น การกระทำเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าสามีเป็นผู้เก่งกล้าสามารถ แต่แสดงออกถึงความเอาเปรียบด้วยพละกำลังที่เหนือกว่า ถ้าภรรยาแข็งแรงเท่ากันจะกล้าทำเช่นนี้หรือไม่
   มีบันทึกจากอะบูฮุร็อยเราะฮฺว่าท่านนะบียฺศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า

   “ความแข็งแรงนั้นไม่ได้หมายความถึงการทำให้คู่ต่อสู้แพ้ แท้จริงคนที่แข็งแรง คือคนที่สามารถเอาชนะอารมณ์โกรธ”
   บรรดาสามีทั้งหลายขอให้ระลึกถึงว่า ภรรยาของท่านนั้นไม่ใช่ศัตรูของท่าน แต่เป็นคนที่ท่านรัก เป็นคนที่ท่านไปสู่ขอเธอมาจากผู้ปกครองของเธอ ตราบใดที่เธอประพฤติตัวเป็นคนดี ไม่ฝ่าฝืนบัญญัติของอัลลอฮฺ จะต้องดูแลเธอด้วยความรักและทะนุถนอม ไม่ทอดทิ้งเธอ อารมณ์โกรธของสามีบางคนนั้น น่าสงสารอย่างยิ่ง เพราะโกรธเนื่องจากภรรยาเตือนในสิ่งที่ถูกต้อง ภรรยาบางคนเตือนสามีให้ละหมาด ภรรยาบางคนเตือนสามีไม่ให้เล่นการพนัน สามีกลับเกิดความละอาย และแปลงความละอายเป็นความโกรธ ลงไม้ลงมือ ถืออำนาจบาตรใหญ่ ทำเช่นนั้นนอกจากจะเป็นการน่ารังเกียจในสังคมโลกแล้ว ยังเป็นความผิดในอิสลาม เพราะภรรยาได้ทำหน้าที่ของเธออย่างถูกต้อง คือ เตือนในทางที่ถูกที่ควร ถ้ามองในแง่หนึ่ง ภรรยาเป็นอะมานะฮฺที่อัลลอฮฺทรงมอบหมายให้เราดูแล เราต้องดูแลตามแนวทางของอิสลาม  ไม่ใช่มีภรรยาเอาไว้ระบายอารมณ์ มีอารมณ์โกรธก็ซ้อม ทุบตี ด่าว่า เตะต่อย แต่พอมีอารมณ์ใคร่ก็เอาภรรยาเป็นที่สนองอารมณ์ มีบันทึกจากอิมามบุคอรีและติรฺมิซียฺจากอับดุลลอฮฺ บุตรซัมอะฮฺว่า ท่านเราะสูลกล่าวว่า

 
   “คนหนึ่งคนใดของพวกท่านจะต้องไม่เฆี่ยนตีภรรยาของตนประหนึ่งเฆี่ยนตีทาส แต่เมื่อถึงช่วงท้ายของวันก็ร่วมหลับนอนกับนาง”
   ครอบครัวที่มีความสุขนั้น คือครอบครัวที่มีสามีเป็นผู้นำและทำตัวเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ให้การเลี้ยงดู ปกครองดูแล ภรรยาอย่างสมศักดิ์ศรี มีสุขก็สุขร่วมกัน มีทุกข์ก็ทุกข์ร่วมกัน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาหารือกัน ความในของครอบครัวจะต้องไม่นำออก เรื่องยุ่งยากภายนอกจะต้องไม่นำเข้า โปรดนึกถึงดำรัสของอัลลอฮฺที่ว่า

   “นางทั้งหลายคือเครื่องนุ่งห่มของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็คือเครื่องนุ่งห่มของพวกนาง”                 อัลบะเกาะเราะฮฺ 2 : 187
   ในเวลาเดินทาง ถ้าไม่มีอุปสรรคก็ควรนำภรรยาไปด้วย เป็นการให้เกียรติกันและกัน โดยเฉพาะถ้าเดินทางแล้วภรรยาต้องอยู่บ้านคนเดียว การทิ้งให้ภรรยาอยู่บ้านคนเดียวตามลำพังนั้น ท่านนะบียฺศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมได้ห้ามไว้  มุอาวิยะฮฺ อัลกุชัยรียฺได้สอบถามท่านนะบียฺศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมว่า
   “สิทธิที่ภรรยาจะได้รับจากพวกเรามีอะไรบ้าง” ท่านตอบว่า
    “ท่านจะต้องให้อาหารเธอ เมื่อท่านได้อาหาร ท่านจะต้องให้เสื้อผ้าแก่เธอ เมื่อท่านได้สวมใส่เสื้อผ้า ห้ามท่านตีเธอที่หน้า ห้ามพูดจาหยาบคาย ท่านอย่าปล่อยทิ้งเธอไว้ที่บ้านตามลำพัง”                     อะบูดาวูดและนะสาอียฺ
   บางคนตนเองกินอาหารดี ๆ  แต่ให้ภรรยากินข้าวคลุกเกลือ หรือบางคนให้กินข้าวคลุกน้ำตา สามีสวมเสื้อแบรนด์เนมดัง ๆ ส่วนของภรรยาหาซื้อของมือสองที่ตลาดโรงเกลือมาให้ ที่จริงถ้าจำเป็นต้องกินข้าวคลุกน้ำบูดูก็ต้องน้ำบูดูด้วยกัน กินสเต็กก็สเต็กด้วยกัน ถ้าจะสวมเสื้อ แบรนด์เนม ก็แบรนด์เนมด้วยกัน ถ้าจะใส่เสื้อผ้ามือสองก็ต้องมือสองด้วยกันทั้งสามีภรรยา
    อีกประการที่สำคัญก็คือ สามีภรรยาจะต้องไม่นำเรื่องบนเตียงไปวิพากษ์วิจารณ์เล่าขานสู่คนอื่น ท่านเราะสูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมห้ามเอาไว้ว่า

   “แท้จริงมนุษย์ที่มีตำแหน่งชั่ว ในวันกิยามะฮฺ ณ อัลลอฮฺนั้นคือชายคนหนึ่งที่ร่วมกับภรรยาและภรรยาก็ร่วมตอบสนอง แล้วเขาได้นำความลับของภรรยาออกกระจาย ในถ้อยคำของเจ้าของสุนันกล่าวว่า ข้อเปรียบเทียบในเรื่องนี้ก็เหมือนกับชัยฏอนตัวเมียกับชัยฏอนตัวผู้พบกันในทางสัญจรแล้วได้ร่วมกัน โดยมีผู้คนมองดูอยู่”          มุสลิม อะหฺมัดและบรรดาเจ้าของสุนัน
   พี่น้องทั้งหลายชีวิตคู่ระหว่างสามีภรรยา เป็นเรื่องที่ควรเอาใจใส่ อัลลอฮฺมอบหมายให้สามีเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นผู้รักษาสิ่งของที่พระองค์ฝากไว้ให้ดูแล ต้องดูแลให้ดี อย่าใช้อำนาจบาตรใหญ่ เลี้ยงดูเธอให้สมแก่ฐานะ ไม่เอาชนะคะคานในสิ่งไม่ถูกไม่ควร อดทนต่อนิสัยบางอย่างที่ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบ มองหาในสิ่งที่แต่ละฝ่ายชอบจะดีกว่าอยู่กันอย่างร่วมทุกข์ร่วมสุข รวยก็รวยด้วยกัน จนก็จนด้วยกัน ให้เกียรติกันและกัน เรื่องของสามีภรรยานั้น ความในต้องไม่นำออก ความนอกจะต้องไม่นำเข้า อิสลามไม่ใช่เน้นแต่เรื่องพิธีกรรม แต่เป็นความเพียบพร้อมสมบูรณ์ เรื่องชีวิตคู่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เราจะต้องจดจำคำสอนและการปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างของท่านนะบียฺศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แล้วชีวิตคู่ของเราก็จะมีความสุข อินชาอัลลอฮฺ



คัดลอกจากเอกสารเผยแพร่ของมัสญิดอัร-ริฎวาน(นานา) นครราชสีมา โดย Bangmud เมื่อ 15 กพ 2553

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
เนื้อหาเข้ากับกระทู้หลายๆ กระทู้ที่มักออกทะเลอยู่บ่อยๆ

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
ญะซากัลลอฮ์ค็อยรอนมากๆค่ะ mycool:
เป็นคุฎบะฮ์วันศุกร์ที่อ่านแล้วเยี่ยมมากค่ะ

ออฟไลน์ AUZULODEEN

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 625
  • เพศ: ชาย
  • ทุกๆชีวิตต้องได้ลิ้มรสแห่งความตาย
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
 salam
เห็นด้วยครับบัง  แต่ผู้หญิงบางเวลาไม่ค่อยมีเหตุผล(ซ่อบัรจนเต็มที่)
แท้จริงเราเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และเราจะต้องกลับคืนไปสู่พระองค์

 

GoogleTagged