กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
สารบัญถามตอบปัญหาศาสนา
ฟอรั่ม
หน้าแรก
ค้นหา
ปฏิทิน
Contact
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
GoogleTagged
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
มุมนักศึกษาอะห์ลิสซุนนะห์วัลญะมาอะห์
»
นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
»
คุฏบะฮฺวันศุกร์
»
คุฏบะฮฺวันศุกร์ เรื่อง ความสามัคคีคือพลังของสังคม
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: คุฏบะฮฺวันศุกร์ เรื่อง ความสามัคคีคือพลังของสังคม (อ่าน 4672 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bangmud
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
คุฏบะฮฺวันศุกร์ เรื่อง ความสามัคคีคือพลังของสังคม
«
เมื่อ:
ก.พ. 12, 2010, 11:21 PM »
0
Tweet
ความสามัคคีคือพลังของสังคม
อาจารย์ อัสมัน แตอาลี
พี่น้องผู้ร่วมละหมาดญุมอัตที่เคารพรักทั้งหลาย ถ้าหากเราติดตามข่าวสารไม่ว่าตามหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรืออินเทอร์เน็ต จะสังเกตเห็นได้ว่าสังคมของเรา ณ วันนี้มีความวุ่นวาย ความไม่เข้าใจกัน ความแตกแยกเกิดขึ้น อันส่งผลให้สังคมของเรามีความอ่อนแอลง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่พวกเราจะต้องมีความรัก ความสมัครสมานสามัคคี หากจะแตกต่างกันในด้านความคิดเห็น แต่ก็ต้องไม่นำไปสู่ความแตกแยก ต้องหันหน้าเข้าหากันเพื่อปรับปรุงแก้ไขและหาทางออกที่ดี ทั้งนี้ก็เพราะอิสลามได้ห้ามและไม่อนุญาตให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
“และพวกเจ้าจงยึดสายเชือก(ศาสนา)ของอัลลอฮฺโดยพร้อมเพรียงกันและจงอย่าแตกแยก และจงรำลึกถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อพวกเจ้าในขณะที่พวกเจ้าเป็นศัตรูกัน แล้วพระองค์ได้ทรงทำให้หัวใจของพวกเจ้ามีความสนิทสนมกัน และพวกเจ้าก็กลายเป็นพี่น้องกันด้วยความโปรดปรานของพระองค์ และพวกเจ้าเคยอยู่บนปากหลุมของไฟนรก และพระองค์ก็ทรงช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากปากหลุมแห่งไฟนรกนั้น ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮฺจะทรงชี้แจงแก่พวกเจ้าซึ่งโองการต่าง ๆของพระองค์ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับแนวทางอันถูกต้อง”
อาละอิมรอน 3 : 103
จากอายะฮฺข้างต้น อิบนุกะษีรฺ (2/85)ได้อธิบายว่า อัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลาทรงรับสั่งให้มีความสามัคคีในญะมาอะฮฺและทรงห้ามความแตกแยก และอายะฮฺนี้ยังได้กล่าวถึงเผ่าเอาส์และค็อสร็อจญ์แห่งมะดีนะฮฺในอดีต ซึ่งเป็นการเตือนสติว่า ในสมัยญาฮิลียะฮฺ(ก่อนอิสลาม)นั้น ทั้งสองเผ่าเป็นศัตรูกัน มีการรบราฆ่าฟันกันอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งการใช้ชีวิตของพวกเขาก็เป็นการใช้ชีวิตตามความใคร่ ความรู้สึกของตนอย่างไร้ขอบเขต และยังมีการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺอีกด้วย เสมือนหนึ่งว่าพวกเขากำลังอยู่บนปากเหวแห่งไฟนรกซึ่งเกือบจะตกลงไปอยู่แล้ว แต่ด้วยความโปรดปรานของอัลลอฮฺ พระองค์ก็ทรงประทานอิสลามและอีมานมายังพวกเขา ทำให้พวกเขารอดพ้นจากการตกลงไปในนรก และพวกขาก็กลายเป็นพี่น้องกัน มีความรัก ความสามัคคีต่อกัน และให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นับจากนั้นเป็นต้นมา
พี่น้องผู้มีเกียรติทุกท่าน ความสามัคคีในสังคมนั้น เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน เราจะต้องช่วยกันทำให้สังคมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
“แท้จริงนี่คือประชาชาติของพวกเจ้า เป็นประชาชาติเดียวกัน และเราคือองค์อภิบาลของพวกเจ้า ฉะนั้น พวกเจ้าจงยำเกรงต่อเราเถิด”
อัลมุอฺมินูน 23 : 52
ท่านอะบูมูซา อัลอัชอะรียฺได้รายงานว่า ท่านนะบียฺศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า
“ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ศรัทธากับผู้ศรัทธานั้น เปรียบเสมือนกับสิ่งก่อสร้างที่ส่วนหนึ่งยึดเหนี่ยวกับอีกส่วนหนึ่ง และท่านได้ประสานนิ้วมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน”
บุคอรีและมุสลิม
จากหะดีษบทนี้ เราสามารถเข้าใจและเห็นภาพได้เลยว่า ลักษณะของสิ่งก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นตึก อาคารหรือบ้านเรือนนั้น จะต้องยึดเหนี่ยวกันในทุก ๆ ด้าน เพื่อความแข็งแรง มั่นคงและทนทานของตัวสิ่งก่อสร้างนั้น เช่นเดียวกัน การใช้ชีวิตในสังคมของบรรดามุอฺมินก็จะต้องจับมือประสานกัน ผู้ที่แข็งแรงกว่าก็ช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า ผู้ที่ร่ำรวยก็ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ยากจน ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ก็ให้ความรักความเมตตาต่อผู้เยาว์ และผู้เยาว์ก็ต้องให้เกียรติและเชื่อฟังผู้ใหญ่ นอกจากนั้น สมาชิกในสังคมก็จะต้องช่วยกันสอดส่องดูแลให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ช่วยกันขจัดภัยอันตรายต่าง ๆ ที่จะเล็ดลอดเข้ามาในสังคมของเรา และเมื่อใดก็ตามที่พี่น้องในสังคมของเราได้รับความเดือดร้อน สมาชิกที่เหลือก็ต้องยื่นมือให้ความช่วยเหลือทันที เพราะอิสลามถือว่าความเดือดร้อนของมุอฺมินแต่ละคนเป็นความเดือดร้อนที่มุอฺมินทุกคนต้องมีความรู้สึกร่วมกัน ดังที่ท่านนะบียฺศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมได้กล่าวว่า
“เปรียบบรรดาผู้ศรัทธาในด้านความรัก ความปรองดอง ความเอื้ออาทรที่มีให้แก่กันนั้น เสมือนร่างกายเดียวกัน เมื่อใดก็ตามที่อวัยวะหนึ่งเกิดความเจ็บป่วย ก็จะส่งผลให้อวัยวะอื่นได้รับความเดือดร้อนจากการอดนอนและอาการไข้ด้วยเช่นกัน”
บุคอรีและมุสลิม
พี่น้องผู้มีเกียรติทุกท่าน ความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกในสังคมมีความรักอันบริสุทธิ์ใจให้แก่กัน ให้อภัยในความผิดพลาดที่ผ่านพ้นไป ห่างไกลคำพูดและพฤติกรรมต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุของความแตกแยก เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า สังคมของเราต้องการความรัก ความสามัคคี เพื่อเป็นฐานอันมั่นคง และเป็นเกราะกำบังที่แข็งแกร่งที่จะต่อสู้และปกป้องภัยอันตรายต่าง ๆ และในที่สุด สังคมก็จะมีความเข้มแข็งและสงบสุข
“แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นพวกเจ้าจงไกล่เกลี่ยประนีประนอมกันระหว่างพี่น้องทั้งสองฝ่ายของพวกเจ้า และจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด เพื่อพวกเจ้าจะได้รับความเมตตาจากพระองค์"
อัลหุญุรอต 49 : 10
วัสสลาม
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
มุมนักศึกษาอะห์ลิสซุนนะห์วัลญะมาอะห์
»
นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
»
คุฏบะฮฺวันศุกร์
»
คุฏบะฮฺวันศุกร์ เรื่อง ความสามัคคีคือพลังของสังคม
GoogleTagged
bmk
41524429
gstatic
ฮาดิษ
53899372
56343320
63587204
56753253
44342787
c2e
metric
พุทธ
มุสลิม
ของ
54934254
อิสลาม
45512109
sunnahstudents
ความ
หัวข้อ