^
เยอะเลย แต่ก็เห็นโดนลบไปหลายอันแล้ว
คนที่เอามาลงก็ขยันนะคะ แต่เราขยันกว่า

พี่เคยโดนหรือเปล่า
หากหมายถึงการหลอกลวงทางเนต หรือ ฟิชชิ่ง
ไม่เคยโดนจ้าาาาา...เพราะว่าพี่ไม่ใช้บัตรเครดิต (เพราะกลัวว่าจะรูดเพลิน) 55555
และก็ไม่เคยจ่ายเงินผ่านเนต ถ้าต้องซื้อของผ่านเนต ก็จะจ่ายผ่าน
คอมพินีหรือ ที่เซเว่น หรือไม่ก็ผ่่านบัญชีของที่ทำการไปรษณีย์ แทน
ส่วนใหญ่ถ้าเป็นของเล็กๆน้อยๆ ไม่ต้องหอบเงินไปเยอะ ก็จ่ายด้วยเงินสดทั้งนั้น
ส่วนที่ต้องชำระหรือต้องจ่ายด้วยเงินจำนวนมากหน่อย
ก็ใช้วิธีโอนผ่านธนาคารเอา เช่น ตั๋วเดินทาง ซึ่งปกติก็มีให้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้
แต่ว่า ไม่มีบัตรเครดิต ด้วยเหตุผล กลัวรูดเพลิน
บัตรเครดิตมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันอยู่ที่คนใช้ว่าจะระวังสักแค่ไหน
ใช้พลาดเมื่อไหร่ จากรวยอยู่ก็จนได้เหมือนกัน
ขนาดบัตรนักศึกษาของมหาลัยพี่ก็อยู่ในรูปแบบของบัตรเครดิต
ตามวงเงินที่มหาลัยจำกัดเอาไว้ แต่ว่าโดนคำสั่งมาว่าห้ามทำ
เลยได้บัตรนักศึกษาแบบธรรมดามาแทน เพื่อนพี่เวลามีปัญหาเรื่องเงิน
ก็รูดเงินจากบัตรนักศึกษาไปก่อนประจำ เรามันทำไม่ได้
แต่คำสั่งห้ามนั้นมันก็มีเคล็ดลับในตัวของมันน่ะ...พี่เข้าใจและน้อมรับ
เพราะว่าเป็นผลดีต่อตัวเรา...

อีกอย่าง เดี๋ยวนี้มีอีกรูปแบบหนึ่งที่เนื่องมาจากโลกไซเบอร์นี่แหล่ะ
คือมีคนเคยโทรมาหาเพื่อนพี่ บอกว่าเพื่อนพี่สั่งของทางเนต
แต่ยังไม่จ่าย เพื่อนพี่มันก็มึนๆเพราะรู้สึกว่ายังไม่ได้สั่งอะไร
แต่เขายืนยันมา และเขาก็เลยถามที่อยู่เพื่อนพี่
เพื่อนเราก็บ้าจี้บอกไป สักพักนึงก็มีคนมาเคาะห้องเพื่อนพี่
เพื่อนพี่ก็ออกไปเปิด เขาก็บอกเพื่อนพี่ว่า เพื่อนพี่ติดหนี้เขาเท่าน้ันเท่านี้
ให้จ่ายมา เพื่อนพี่มันก็ยิ่งงงว่าไปก่อหนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่
เห็นไม่ชอบมาพากล ก็เลยรีบปิดประตู แต่คนๆนั้นไม่ยอมไปไหน
เฝ้าอยู่ และโทรจิกตลอดไม่เป็นอันทำอะไร
เพื่อนพี่ก็เลยโทรให้ทางการรับรู้ ตำรวจเลยมาที่ที่ แต่ว่าคนนั้นหนีไปเสียก่อน
และยังมีเรื่องประมาณนี้ กรณีแบบนี้เกิดขึ้นในญี่ปุ่นเยอะมากเลยนะ
คือมีหลายรูปแบบที่จะเอาเงินเราหรือหลายรูปแบบที่จะหลอกลวง
และมีคนแปลกๆมาเคาะห้องเหมือนกัน อันนี้โดนกันทั้งนั้น
ส่วนใหญ่มาในรูปแบบเซลล์แมน ติดต่อเรื่องเครื่องใช้ภายในบ้าน
ซึ่งปกติไม่จำเป็นต้องมี เพราะว่าเรื่องพวกนี้มีองค์กรให้เรา
ติดต่อกลับไปได้ หากว่ามันมีปัญหาขึ้นมา
แต่ที่เป็นเซลล์ตัวจริงก็มี แต่ไอที่ไม่จริงนี่สิน่ากลัว ดีที่ประตูมีตาแมว
พี่เองถ้าไม่ใช่ไปรษณีย์มาส่งของ กดเรียกให้ตายพี่ก็ไม่เปิดงิ
บางทีไปรษณีย์มาส่ง หากว่าเริ่มมืดค่ำแล้ว พี่ก็ไม่เปิดห้องนะ
เพราะถึงเราไม่เปิด เขาก็จะทิ้งใบแจ้งเอาไว้ให้เราโทรไปให้เขาเอามาให้
อีกทีในเวลาที่เราต้องการให้เขาเอามาให้ได้น่ะ...สะดวกและปลอดภัยกว่า
เรื่องจ่ายเงิน ก็จ่ายด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่จ่ายผ่านใคร
ก็เลยคิดว่ารอดไปได้หลายเรื่องเหมือนกัน แม้จะยุ่งยากกว่า
จ่ายผ่านเนตหรือใช้บัตรเครดิตรูดก็ตามอ่ะนะ

เพราะถ้าจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตจริงๆ พี่คงต้องเพิ่มความระวังมากขึ้นกว่าเดิมน่ะ
เร่ืองเงินทอง เรื่องใหญ่เหมือนกัน ใช้เองน่ะไม่เท่าไหร่
แต่โดนหลอกใช้ไปนี่สิ....

เล่าสู่กันฟัง
วัสลามค่ะ