ส่วนเรื่องวิญญาณของญาติ ๆ มาวนเวียนเพื่อมาดูแลความทุกข์สุขของญาติ ๆ พี่น้องที่มีชีวิตอยู่นั้น ไม่พบหลักฐานแน่ชัด แต่การอ่านอัลกุรอานและซิกรุลลอฮ์แล้วขอดุอาอ์ให้แก่มัยยิดนั้น ให้กระทำได้ โดยไม่ได้วางเงื่อนไขว่าต้องทำวันศุกร์หรือไม่ใช่วันอื่น ๆ จากวันศุกร์ แต่หากจะทำวันศุกร์ก็ไม่ผิดอันใด
ท่านอิมามมาลิก บิน อะนัส กล่าวว่า "ได้ทราบมาถึงฉันว่า แท้จริงวิญญาณของบรรดามุอ์มินนั้น จะถูกปล่อย(ให้เป็นอิสระ) ซึ่งวิญญาณจะไปสถานที่ใดก็ได้ตามต้องการ" ซึ่งอิมามอัศศะยูฏีย์ ได้กล่าวบันทึกไว้ในหนังสือ ฟัตวาของท่าน ที่ชื่อ อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา และหนังสือ อัรรั๊วะห์ ของท่านอิบนุก๊อยยิม ท่านอิมามชาฟีอีย์(ร.ฏ.) ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลอุม ว่า "ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืนอีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คืนแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน" ดู 2 /264
ขอคุณ คุณ Hakeem มากครับ ที่ได้นำเสนอเกร็ดความรู้ในเรื่องนี้ ในตำราของ อิมามซูยูตีย์ เองท่านก็ไม่ได้กล่าวว่า "วิญญาณจะกลับมาวนเวียนที่บ้านของตนเอง" อย่างแน่ชัด เป็นเพียงแค่การอ้างคำกล่าวของ อิมามมาลิก เท่านั้น...และท่าน อิมามมาลิก เองก็แค่รายงานเรื่องนี้ต่อมาจากคนที่ท่านเคยได้ยินมาแค่นั้นเอง ซึ่งในเรื่องนี้ไม่มีใครย้ำอย่างแน่ชัดว่า วิญญาณจะกลับมาวนเวียนที่บ้านของตนเอง อย่างแน่นอน แม้แต่คนเดียว...
ดังนั้น ในเรื่องอะกีดะฮฺ หรือในเรื่องโลกแห่งความเร้นลับ เมื่อไม่มีหลักฐานที่เศาะเฮี๊ยะฮฺยืนยันในเรื่องนั้นๆ อย่างแน่ชัด เราก็ไม่ควรปักใจเชื่ออย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่เราก็ไม่ปฏิเสธได้สะทีเดียวว่ามันจะเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะหากว่าอัลลอฮฺทรงประสงค์ที่จะให้วิญญาณกลับมาแล้ว แน่นอนสิ่งนั้นก็ย่อมเป็นไปได้ ดังนั้น จึงต้องรักษาชารีอะฮฺเอาไว้ก่อน .. ส่วนในกรณีนี้นั้น ต้องบอกได้แค่ว่าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดที่มายืนยันในเรื่องนี้ ดังนั้น เราจึงไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายในกิจการงานของพระองค์....วัลลอฮุ ตะอาลา อะอฺลา วะอะอฺลัม 
วิญญาณจะไปอยู่ในโลกบัรซัคจนกระทั่งวันกิยามะฮฺและจะไม่กลับออกไปไหนทั้งนั้น นอกจากด้วยกับการยินยอมจากพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น
หากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ยินยอมให้วิญญาณออกมาได้ ก็ไม่มีผู้ใดห้ามพระองค์ได้เลย เพราะวิญญาณอยู่ในคำบัญชาของอัลลอฮ์และเป็นการงานของพระองค์เท่านั้น ส่วนวิญญาณจะออกมาวันนั้นวันนี้ คืนนั้นคืนนี้ ก็ต้องมีหลักฐานมาเจาะจงจ่ะ ดังนั้นวิญญาณจะมาหรือไม่มาก็ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่มีผลต่อลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ แต่ที่สำคัญคืออัลลอฮ์จะให้วิญญาณรู้พฤติกรรมของลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ , วิญญาณผู้ตายจะรู้สึกปีติยินดีหากลูกหลานมีพฤติกรรมที่ดี และผู้ตายก็จะขอดุอาให้แก่คนเป็นและ , และถ้าหากลูกหลานประพฤติไม่ดี พวกเขาก็จะเศร้าใจและผู้ตายก็ขอดุอาให้แก่คนเป็น , วัลลอฮุอะลัม
อ่านตรงข้างบนแล้วคงพอจะให้คำตอบอยู่ได้บ้างนะคะ...
หรือจะลองกดอ่านในหน้าแรกๆหรือหน้าที่ 1
ของหัวข้อกระทู้นี้ดูก็ได้นะคะ...
เพราะนอกจาก 2 ความเห็นจากด้านบนแล้ว ยังมีความเห็นอื่นๆ
จากผู้ร่วมเสวนาในหัวข้อนี้อีกหลายท่านค่ะ....
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวค่ะ...
วัสลามค่ะ