salam
ผมค่อนข้างจะสับสนการการแปลอัล-กุรอาน 7 อายะฮฺข้างต้นนี้
1. ในR5.(ฉบับครูต่วน)อายะฮฺที่ 13 ระบุว่า......นบีมูซาได้ส่งทูตมา ๒ คน เพื่อเชิญชวนชาวเมืองดังกล่าวให้เลิกกราบไหว้บูชาเจว็ด........
แต่ในอายะฮฺที่ 19 ระบุว่า..........พวกทูตของนบีอีซา เขากล่าวโต้ตอบพวกชาวเมืองนั้นว่า
ตกลงเป็นนบีมูซา หรือ นบีอีซา กันแน่ เผอิญ ฉบับครูต่วนที่อยู่ในมือผมเป็นฉบับเก่า ตีพิมพ์ พ.ศ. 2530
ไม่รู้ว่า Edition ล่าสุดได้มีการตรวจสอบแก้ไขให้ตรงกันหรือยัง
แต่ถ้าดูตามเจตนารมณ์ โดยเทียบกับตัฟซีรฺอื่น ๆ น่าจะเป็น นบีอีซา
2. ใน R3. (ตัฟฮีมุลกุรอาน)มีคำอธิบายที่แตกต่างออกไปสำหรับอายะฮฺที่ 13 คำว่า อัลก็อรฺยะฮฺ - เมืองนั้น ดังนี้
"นักอรรถาธิบายกุรฺอานในยุคต้นได้ให้ความเห็นว่า "เมืองนั้น" หมายถึงเมืองอันติออคของซีเรีย และบรรดาทูตที่ถูกเอ่ยถึงในที่นี่
คือคนที่นบีอีซาได้ส่งไปเผยแผ่สาส์นของท่าน อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกกล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ ในตอนนั้น อันติโอคุส (Antiochus)
เป็นกษัตริย์ของเมืองนั้น แต่โดยทางประวัติศาสตร์แล้ว เรื่องที่อิบนุอับบาส, เกาะตาดะฮฺ, อิคริมะฮฺ, กะอับ, อะฮฺบารและวะฮับ บินมุนับบิฮฺ
และคนอื่น ๆ ที่รายงานสืบทอดจากคำบอกเล่าที่ไม่มีหลักฐานของชาวคริสเตียนนั้นเป็นสิ่งที่ไร้เหตุผล ในราชวงศ์เซลูซิด(Seleucid) มีกษัตริย์
13 คนที่ชื่อ อันติโอคุส ปกครองเมืองอันติออกและการปกครองของกษัตริย์คนสุดท้ายที่ชื่อเดียวกันนี้ สิ้นสุดลงเมื่อ 65 ปีก่อนคริสตกาล
ในสมัยของนบีอีซา แผ่นดินซีเรียและปาเลสไตน์ทั้งหมดรวมทั้งเมืองอันติออกได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของพวกโรมัน ดังนั้นจึงไม่มีหลักฐาน
จากบันทึกที่เชื่อถือได้ของพวกคริสเตียน มายืนยันว่า นบีอีซาเองได้ส่งสานุศิษย์ ของท่านคนใดไปยังเมืองอันติออก เพื่อเผยแผ่คำสอนของท่าน
ในทางตรงข้าม คัมภีร์ไบเบิ้ล ถาคพันธสัญญาใหม่ ฉบับกิจการของอัครทูตก็แสดงให้เห็นว่า นักเผยแพร่ชาวคริสเตียน ได้ไปถึงเมืองอันติออก
เป็นครั้งแรก หลังจากเหตุการณ์ตรึงไม้กางเขน ตอนนี้จึงเห็นได้ชัดเจนว่า คนที่มิใช่ศาสนทูตที่อัลลอฮฺทรงแต่งตั้ง และคนที่เราะสูลของพระองค์
ได้ส่งไปนั้น ไม่อาจถูกถือว่าเป็นเป็นรอซูลของอัลลอฮฺได้โดยการตีความใด ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้น อาจเดินทางไปเพื่อเผยแผ่ศาสนาด้วยความ
สมัครใจของตนเองก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น ตามคัมภีร์ไบเบิล เมืองอันติออกก็เป็นเมืองแรกที่คนที่มิใช่ชาวอิสราเอลเข้ารับนับถือศาสนาคริสต์
เป็นจำนวนมาก และเป็นเมืองที่ศาสนาคริสต์ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ในขณะที่เมืองที่กุรอานเอ่ยถึงนั้น เป็นเมืองที่ปฏิเสธการ
เชิญชวนของบรรดาศาสนทูต และถูกอัลลอฮฺลงโทษในที่สุด ประวัติศาสตร์ก็มิได้มีหลักฐานอะไรที่ได้แสดงว่า เมืองอันติออก เคย
ได้รับความเสียหายจากการถูกทำลายเพราะการปฏิเสธนบี
จากเหตุผลข้างต้นดังกล่าวนี้ จึงไม่อาจจะยอมรับได้ว่า "เมืองนั้น" หมายถึงเมืองอันติออก คัมภีร์กุรอานและหะดีสที่เชื่อถือได้ ก็มิได้
กล่าวถึงเมืองนั้นไว้อย่างชัดเจน ใครเป็นศาสนทูตเหล่านั้น และทูตเหล่านั้นถูกแต่งตั้งเมื่อใด ก็ไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ยืนยัน
การที่จะเข้าใจวัตถุประสงค์ที่อัลกุรอานเล่าเรื่องนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปรู้ชื่อเมืองและชื่อของทูตเหล่านั้น วัตถุประสงค์ของกุรอานที่เล่า
เรื่องนี้ก็เพื่อจะเตือนพวกกุเรช เหมือนกับจะกล่าวว่า "พวกเจ้ากำลังเดินทางตามเส้นทางแห่งการดื้อรั้น ดันทุรัง ความอคติ และ
ปฏิเสธสัจธรรมเช่นเดียวกับที่คนเมืองนี้ได้เคยเดินมาก่อน และพวกเจ้าก็กำลังจะพบกับความหายนะ เช่นเดียวกับพวกเขาที่เคยพบมาแล้ว"
ผู้นำเสนอ ให้น้ำหนักไปทางข้อเขียนของ เมาลานา ซัยยิด อะบุลอะลา เมาดูดี ใน ตัฟฮีมุลกุรฺอานที่ยกมาข้างต้นนี้มากที่สุด
วัสสลาม