ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 75 สูเราะฮฺ อัลกิยามะฮฺ  (อ่าน 3506 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 :salam:

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลกิยามะฮฺ – วันแห่งการฟื้นคืนชีพ

เป็นสูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มี 40 อายะฮฺ

บทนำ(R3.)
ชื่อ : ซูเราะฮฺนี้ได้ชื่อมาจากคำว่า “อัลกิยามะฮฺ” ( القيامة) ในอายะฮฺแรกเลย และไม่เพียงแต่เป็นชื่อเท่านั้นแต่ยังเป็นชื่อบอกเนื้อหาของซูเราะฮฺนี้ด้วย เพราะซูเราะฮฺนี้ทั้งหมดจะพูดถึงเรื่องการฟื้นคืนชีพ
ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ : ถึงแม้จะไม่มีหะดีษชี้ว่าซูเราะฮฺนี้ถูกประทานลงมาเมื่อใด แต่ในเนื้อหาของซูเราะฮฺนี้ก็มีหลักฐานภายในที่แสดงให้เห็นว่ามันเป็นหนึ่งในบรรดาซูเราะฮฺแรก ๆ ที่ได้ถูกประทานลงมาที่มักกะฮฺ หลังจากอายะฮฺที่ 15 ก็ได้มีคำพูดถูกแทรกขึ้นมาบอกท่านรอซูลุลลอฮฺว่า : จงอย่ากระดิกลิ้นของเจ้าอย่างรีบเร่งเพื่อจำกุรอานนี้ มันเป็นความรับผิดชอบของเราเองที่จะให้มันถูกจำและถูกอ่าน ดังนั้น เมื่อเรากำลังอ่านมัน จงฟังการอ่านให้ดี จำไว้ มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะอธิบายความหมายของมัน” ดังนั้น จากอายะฮฺที่ 20 เป็นต้นไปหัวข้อที่ถูกนำมาแทรกที่อายะฮฺ 15 ก็มีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ตามเนื้อเรื่องของซูเราะฮฺและฮะดีษ การที่มีคำพูดแทรกขึ้นมาตรงข้อความนี้ก็เพราะเมื่อญิบรีลกำลังอ่านซูเราะฮฺนี้ให้ท่านรอซูลฟัง ด้วยความเกรงว่าตัวเองจะลืมถ้อยคำดังกล่าว ท่านจึงได้อ่านทวนถ้อยคำเหล่านั้นทันที ความจริงแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ท่านเริ่มได้รับวะฮีย์ซึ่งท่านยังมีประสบการณ์ในเรื่องนี้น้อยอยู่ ในกุรอานมีตัวอย่างเช่นนี้อยู่อีกสองแห่ง นั่นคือในซูเราะฮฺฎอฮา : 114 ซึ่งท่านรอซูลุลลอฮฺได้ถูกบอกว่า : “และจงดูว่าเจ้าไม่รีบเร่งในการอ่านกุรอานก่อนที่การประทานมันลงมาจะสิ้นสุดลง” หลังจากนั้นในซูเราะฮฺ อัล-ลอฺลา : 6 ก็ได้มีการกล่าวว่า : “เราจะทำให้เจ้าสามารถอ่าน หลังจากนั้นเจ้าก็จะไม่ลืม” ต่อมา เมื่อท่านรอซูลุลลอฮฺคุ้นเคยกับการรับกุรอานอย่างดีแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องสั่งท่านเช่นนี้อีก นี่คือเหตุผลที่ว่านอกเหนือจากตัวอย่างทั้งสามดังที่กล่าวมาแล้วก็ไม่มีตัวอย่างเช่นนี้อีกในกุรอาน
เนื้อหาสาระ : เนื้อหาและลีลาของซูเราะฮฺส่วนใหญ่ในกุรอานตั้งแต่นี้ไปจนกระทั่งจบดูเหมือนว่าจะถูกประทานลงมาในช่วงเวลาหลังจาก 7 อายะฮฺแรกของซูเราะฮฺ อัล-มุดดัซซิรฺ ซึ่งกุรอานได้ถูกประทานลงมาเหมือนกับสายฝน ดังนั้นในซูเราะฮฺต่าง ๆ ที่ถูกประทานลงมาอย่างต่อเนื่อง อิสลามและแนวความคิดของมันตลอดจนคำสอนทางด้านศีลธรรมได้ถูกประทานลงมาอย่างมีแก่นสารด้วยประโยคที่กระชับ และชาวมักกะฮฺได้ถูกเตือนอย่างรุนแรงถึงความผิดจนพวกหัวหน้าชาวกุเรชต้องตะลึงงัน ดังนั้นก่อนฤดูกาลทำฮัจญ์ครั้งต่อไปจะมาถึง พวกเขาจึงได้จัดประชุมกันเพื่อคิดแผนการทำลายท่านรอซูลุลลอฮฺ ดังที่ได้อธิบายไว้ในบทนำของซูเราะฮฺ อัลมุดดัซซิรฺก่อนหน้านี้
   ในซูเราะฮฺนี้ได้มีการให้คำตอบต่อข้อสงสัยและข้อโต้แย้งทุกอย่างของพวกกุเรชที่ปฏิเสธโลกหน้า มีการให้เหตุผลที่แข็งแรงเพื่อพิสูจน์ความเป็นไปได้ การเกิดขึ้นและการจำเป็นต้องมีการฟื้นคืนชีพและโลกหน้า นอกจากนี้แล้วก็ยังชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยว่า เหตุผลที่แท้จริงที่ผู้คนปฏิเสธโลกหน้านั้นมิใช่เพราะพวกเขาถือว่ามันเป็นไปไม่ได้ทางเหตุผล แต่เพราะว่าแรงจูงใจส่วนตัวของพวกเขาไม่ยอมให้พวกเขายืนยันเช่นนั้น ในขณะเดียวกันผู้คนก็ได้ถูกตักเตือนเหมือนกับจะกล่าวว่า : “เหตุการณ์ที่สูเจ้าปฏิเสธนั้นจะต้องเกิดขึ้นกับสูเจ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การกระทำของสูเจ้าทุกอย่างจะถูกนำมาวางต่อหน้าสูเจ้า ความจริงแล้ว แม้แต่ก่อนที่สูเจ้าคนใดจะเห็นบันทึกของเขา เขาจะรู้ดีว่าเขาได้ทำอะไรไปในโลกนี้ เพราะไม่มีมนุษย์คนใดไม่รู้เรื่องของตัวเอง ไม่ว่าเขาจะแก้ตัวและเสแสร้งเพื่อหลอกลวงโลกและหลอกลวงตัวเองเกี่ยวกับการทำผิดของเขาอย่างไรก็ตาม”


เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺอานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัลกิยามะฮฺ อายะฮฺที่ 1-6



คำอ่าน
1.   ลา..อุกสิมุบิเยามิลกิยามะฮฺ
2.   วะลา..อุกสิมุบิน..นัฟสิลเลาวามะฮฺ
3.   อะยะหฺสะบุลอินสานุ อัลลัย..ยัจญมะอะอิซอมะฮฺ
4.   บะลากอดิรีนะ อะลา..อันนุเสาวิยะบะนานะฮฺ
5.   บัลยุรีดุลอิน..สานุลิยัฟญุเราะอะมามะฮฺ
6.   ยัสอะลุอัยยานะเยามุลกิยามะฮฺ

คำแปล R1.
1. I swear by the Day of Resurrection;
2. And I swear by the self-reproaching person (a believer).
3. Does man (a disbeliever) think that we shall not assemble his bones?
4. Yes, we are able to put together in perfect order the tips of his fingers.
5. Nay! (Man denies Resurrection and reckoning. so) he desires to continue committing sins.
6. He asks: "When will be this Day of Resurrection?"


คำแปล R2.
1.   ข้าขอยืนยันกับวันกิยามะฮฺ
2.   และข้าขอยืนยันกับอารมณ์ที่ตำหนิตัวเอง
3.   มนุษย์คิดหรือว่าเราจะไม่รวบรวมกระดูกของเขา (ขึ้นมาอีก)
4.   ทว่าเรามีความสามารถที่จะเรียงปลายนิ้วมือของเขา (ให้กลับคืนสภาพเดิม ทั้ง ๆ ที่มันเป็นกระดูกชิ้นที่เล็กที่สุด)
5.   ทว่า มนุษย์มีความประสงค์ที่จะยืนยงอยู่ในความเนรคุณของเขา ณ เบื้องหน้าของเขา (ไปจนตลอดชีวิต)
6.   เขาถามว่า “เมื่อใดจะถึงวันกิยามะฮฺ?”


คำแปล R3.
1. ไม่ ฉันขอสาบานด้วยวันแห่งการฟื้นคืนชีพ
2. และไม่ ฉันขอสาบานด้วยชีวิตที่ประณามตนเอง
3. มนุษย์คิดหรือว่า เราไม่สามารถที่จะนำกระดูกของเขามารวมเข้าด้วยกัน ?
4. ทำไมจะไม่ได้ ? เรามีแม้แต่อำนาจที่จะทำให้ปลายนิ้วมือของเขากลับเป็นรูปร่างขึ้นมาอีก
5. แต่มนุษย์นั้นต้องการที่จะทำความชั่วต่อไป
6. เขาถามว่า “เมื่อใดวันฟื้นคืนชีพจะเกิดขึ้น ?”


คำแปล R4.
1. ข้าสาบานต่อวันกิยามะฮฺ
2. และข้าขอสาบานต่อชีวิตที่ประณามตนเอง
3. มนุษย์คิดหรือว่า เราจะไม่รวบรวมกระดูกของเขากระนั้นหรือ ?
4. แน่นอนทีเดียวเราสามารถที่จะทำให้ปลายนิ้วมือของเขาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
5. แต่ว่ามนุษย์นั้นประสงค์ที่จะทำความชั่ว
6. เขาถามว่า เมื่อใดเถ่าวันแห่งการฟื้นคืนชีพ (จะเกิดขึ้น)


คำแปล R5.
๑. ขอสาบานกับวันปรภพ
๒. และข้าขอสาบานกับชีวิตที่ตำหนิตัวเอง
๓. มนุษย์คิดหรือว่าเราจะไม่รวบรวมบรรดากระดูกของเขาที่กระจัดกระจายออกจากกันเพราะความเน่าเปื่อยของร่างกายให้กลับคืนมาประกอบเป็นร่างเดียวกันดังเดิมอีก
๔. ทว่าเรามีอำนาจที่จะนำกระดูกปลายนิ้วของเขามาเรียงไว้ดังเดิมมีสภาพเหมือนเดิมทุกประการ จนกระทั่งเส้นลายนิ้วมือของเขา
๕. ทว่า มนุษย์มีความปรารถนาที่จะดื้อรั้นด้วยการกระทำความผิดต่าง ๆ ณ เบื้องหน้าของเขา โดยอ้างโกหกวันปรภพและการฟื้นคืนชีพว่าเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้และเหลวไหล
๖. เขาถามว่า เมื่อใดเล่าวันปรภพจึงจะมาถึงด้วยความรู้สึกดูถูกและเย้ยหยันล้อเลียน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 17, 2012, 09:16 AM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัลกิยามะฮฺ อายะฮฺที่ 7 – 15


คำอ่าน
7.   ฟะอิซาบะริก็อลบะศ็อรฺ
8.   วะเคาะสะฟัลเกาะมัรฺ
9.   วะญุมิอัชชัมสุ วัลเกาะมัรฺ
10.   ยะกูลุลอิน..สานุเยามะอิซินอัยนัลมะฟัรฺ
11.   กัลลาลาวะซัรฺ
12.   อิลาร็อบบิกะ เยามะอิซินิลมุสตะก็อรฺ
13.   ยุนับบะอุลอิน..สานุเยามะอิซิม..บิมาก็อดดะมะวะอัคค็อรฺ
14.   บะลิลอิน..สานุอะลานัฟสิฮีบะศีเราะฮฺ
15.   วะเลาอัลกอมะอาซีเราะฮฺ

คำแปล R1.
7. So, when the sight shall be dazed,
8. And the moon will be eclipsed,
9. And the sun and moon will be joined together (by going one into the other or folded up or deprived of their light, etc.)
10. On that Day man will say: "Where (is the refuge) to flee?"
11. No! There is no refuge!
12. Unto your Lord (alone) will be the place of rest that Day.
13. On that Day man will be informed of what he sent forward (of his evil or good deeds), and what he left behind (of his good or evil traditions).
14. Nay! Man will be a witness against himself [as his body parts (skin, hands, legs, etc.) will speak about his deeds].
15. Though he may put forth his excuses (to cover his evil deeds).


คำแปล R2.
7.   (คำตอบคือ) แท้จริงเมื่อดวงตาชงักงัน
8.   และดวงจันทร์สูญแสง
9.   และดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ถูกรวมกัน
10.   มนุษย์ก็พูดขึ้นในวันนั้นว่า “ใหนที่หลบหนี(ของเรา)?”
11.   เป็นไปไม่ได้( ที่จะหลบหนี) ไม่มีที่พึ่งพิงใด ๆ (อีกแล้ว)
12.   ในวันนั้นที่พักพิง (ของทุก ๆ สิ่ง) สู่องค์อภิบาลของเจ้า
13.   มนุษย์ได้รับการชี้แจงในวันนั้น เกี่ยวกับสิ่งที่เขากระทำไว้ก่อน และสิ่งที่เขาเว้นไว้
14.   ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์ยังเป็นพยานหลักฐานให้แก่ตัวเอง (โดยมีอวัยวะทุกส่วนเป็นพยาน)
15.   และแม้เขาจะอ้างข้อแก้ตัวต่าง ๆ ของเขา (ขึ้นมาเพื่อให้พ้นผิด ก็ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น)


คำแปล R3.
7. เมื่อดวงตาพร่ามัว
8. และดวงจันทร์ถูกทำให้มืดมิด
9. และดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ถูกนำมารวมกัน
10. หลังจากนั้นคนเดียวกันนี้ก็จะกล่าวว่า “ไหนเล่าทางหนี?”
11. ไม่มีเลย ไม่มีที่พึ่งพิงใด ๆ ด้วย
12. ต่อหน้าพระผู้อภิบาลของสูเจ้า วันนั้นจะเป็นที่พักอันสงบสุข
13. วันนั้น มนุษย์จะถูกแจ้งให้ทราบถึงการกระทำของเขาทั้งก่อนหน้าและภายหลัง
14. ไม่เลย มนุษย์รู้จักตัวเขาเองดีที่สุด
15. ถึงแม้เขาจะมีข้อแก้ตัวมากมายมาอ้างก็ตาม


คำแปล R4.
7. แต่เมื่อสายตามืดมัว
8. และเมื่อดวงจันทร์ถูกบดบังอยู่ในความมืด
9. และเมื่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ถูกนำมารวมกัน
10. วันนั้นมนุษย์จะกล่าวขึ้นว่าไหนเล่าทางหนี ?
11. เปล่าเลย ! ไม่มีที่พึ่งพิงดอก
12. ในวันนั้น ยังพระเจ้าของเจ้าเท่านั้น คือที่พักอันสงบสุข
13. วันนั้นมนุษย์จะถูกแจ้งให้ทราบถึงสิ่งที่ได้กระทำไว้ล่วงหน้าและภายหลัง
14. เปล่าเลย ! มนุษย์นั้นเป็นพยานต่อตัวของเขาเอง
15. ถึงแม้ว่าเขาจะเสนอข้อแก้ตัวของเขาก็ตาม


คำแปล R5.
๗. ครั้นเมื่อดวงตาของผู้ปฏิเสธวันปรภพได้เหลือกค้างเพราะความตกใจในเหตุการณ์อันร้ายแรงของวันปรภพ
๘. และดวงเดือนได้ดับแสงสิ้นเชิง
๙. และดวงตะวันกับดวงเดือนถูกนำมารวมกัน โดยทั้งสองไร้แสงเหมือน ๆ กัน
๑๐. ในวันนั้น มนุษย์จะพูดว่า ไหนเล่าที่หลบหนีจากเราเพื่อให้พ้นอันตรายในวันนี้
๑๑. หามิได้ พวกเขาไม่มีที่หลบหนีและไม่มีที่อารักขาแก่พวกเขาได้เลย
๑๒. เฉพาะพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้าเท่านั้นที่เป็นที่พักพิงในวันนั้นสำหรับคนทุกคน แล้วพระองค์ก็จะทรงสอบสวนอย่างยุติธรรมที่สุด
๑๓. ในวันนั้นมนุษย์จะถูกแจ้งข่าวทั้งสิ่งที่เขากระทำล่วงไว้ก่อนและที่กระทำไว้ในช่วงหลังแห่งชีวิตของเขา เช่น เมื่อตอนเป็นกาฟิร ต่อมาเป็นมุสลิม เป็นต้น
๑๔. ยิ่งไปกว่านั้น มนุษย์ก็ได้มองเห็นตัวเขาเองอย่างกระจ่างชัดว่าเขาเป็นคนดีหรือเป็นคนเลว
๑๕. และถึงแม้เขาได้เสนอข้ออุทธรณ์ต่าง ๆ เพื่อแก้ความผิดของเขาก็ไม่ถูกรับพิจารณาแต่ประการใด ๆ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 17, 2012, 09:16 AM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัลกิยามะฮฺ อายะฮฺที่ 16 – 19


คำอ่าน
16.   ลาตุหัรฺริกบิฮี ลิสานะกะลิตะอฺญะละบิฮฺ
17.   อิน..นะอะลัยนาญัมอะฮูวะกุรฺอานะฮฺ
18.   ฟะอิซาเกาะเราะนาฮุ ฟัตตะบิอฺกุรฺอานะฮฺ
19.   ษุม..มะอิน..นะอะลัยนาบะยานะฮฺ

คำแปล R1.
16. Move not your tongue concerning (the Qur'an, O Muhammad) to make haste therewith.
17. It is for us to collect it and to give you (O Muhammad) the ability to recite it (the Qur'an),
18. And when we have recited it to you [O Muhammad through Jibrael (Gabriel)], then follow you its (the Qur'an's) recital.
19. Then it is for us (Allah) to make it clear to you,


คำแปล R2.
16.   เจ้าอย่ากระดกลิ้นของเจ้าในการท่องกุรอาน เพื่อเจ้าเร่งรัดด้วยกับมัน (แต่จงรอให้โองการนั้นถูกถ่ายทอดให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์เสียก่อน)
17.   แท้จริงการรวบรวมกุรอาน (ไว้ในจิตใจของเจ้าให้จดจำ) และการ (ที่เจ้าสามารถ) อ่านมัน (อย่างชัดเจนและมั่นคงนั้น) เป็นหน้าที่ของเรา (ที่จะบันดาลให้)
18.   ดังนั้นเมื่อเราได้สื่อคำอ่านของกุรอาน (แก่เจ้าโดยมียิบรออีลเป็นผู้สื่อ) เจ้าก็จงตามระเบียบการอ่านนั้น (ทุกประการเถิด)
19.   หลังจากนั้น เป็นหน้าที่ของเราที่จักแจกแจงมันให้ชัดเจน


คำแปล R3.
16. โอ้ นบี จงอย่ากระดิกลิ้นของเจ้าเพื่อจำกุรอานนี้อย่างรีบเร่ง
17. มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำให้มันเป็นที่จดจำและถูกอ่าน
18. ดังนั้นเมื่อเราอ่านมัน เจ้าก็จงฟังการอ่านให้ดี
19. มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะอธิบายความหมายของมัน


คำแปล R4.
16. เจ้าอย่ากระดิกลิ้นของเจ้าเนื่องด้วยอัลกุรอานเพื่อเจ้าจะรีบเร่งจดจำ
17. แท้จริง หน้าที่ของเราคือการรวบรวมอัลกุรอาน (ให้อยู่ในทรวงอกของเจ้า) และการอ่านเพื่อให้จดจำ
18. ดังนั้นเมื่อเราอ่านอัลกุรอาน เจ้าก็จงติดตามการอ่านนั้น
19. แล้วแท้จริงหน้าที่ของเราคือ การอธิบายอัลกุรอาน


คำแปล R5.
๑๖. โอ้ มุฮำมัด เจ้าอย่ากระดิกลิ้นของเจ้าในการอ่านกุรอานเพื่อเจ้ารีบด่วนต่อการจดจำมันโดยที่ยิบรีลยังไม่เสร็จสิ้นในการสื่อโองการนั้น ๆ
๑๗. แท้จริงเรามีหน้าที่ประมวลมันไว้ในหัวใจของเจ้าและการอ่านมันอย่างถูกต้องแก่ลิ้นของเจ้า
๑๘. ดังนั้นเมื่อเราได้อ่านมันแก่เจ้าโดยมียิบรีลเป็นสื่อ เจ้าก็จงตามแบบการอ่านนั้น ๆ เถิด
๑๙. หลังจากนั้นที่จริงเรามีหน้าที่แจ้งถึงความมุ่งหมายของอัลกุรอานให้เจ้าได้รู้โดยชัดเจน



สูเราะฮฺ อัลกิยามะฮฺ  อายะฮฺที่ 20 – 25


คำอ่าน
20.   กัลลาบัลตุหิบบูนัลอาญิละฮฺ
21.   วะตะซะรูนัลอาคิเราะฮฺ
22.   วุญูฮุย..เนามะอิซิน..นาฎิเราะฮฺ
23.   อิลาร็อบบิฮานาซิเราะฮฺ
24.   วะวุญูฮุย..เยามะอิซิม..บาสิเราะฮฺ
25.   ตะซุน..นุอัย..ยุฟอะละบิฮาฟากิเราะฮฺ

คำแปล R1.
20. Not [as you think, that you (mankind) will not be resurrected and recompensed for your deeds], but (you men) love the present life of this world,
21. And leave (neglect) the hereafter.
22. Some faces that Day shall be Nadirah (shining and radiant).
23. Looking at their Lord (Allah);
24. And some faces, that day, will be Basirah (dark, gloomy, frowning, and sad),
25. Thinking that some calamity was about to fall on them;


คำแปล R2.
20.   เป็นไปไม่ได้ ทว่าพวกเจ้าชอบสิ่งที่ (ได้โดย) รีบด่วน (และไม่จีรัง) นั่นคือความสุขชั่วคราวในโลกนี้
21.   และเจ้าทอดทิ้งอาคิเราะฮฺ (โลกหน้า)
22.   ในวันนั้น หลายใบหน้ามีแต่ความชื่นบาน
23.   เขามองไปยังองค์อภิบาลของเขา
24.   และในวันนั้น อีกหลายใบหน้าก็มีแต่ความหมองคล้ำ
25.   เขามั่นใจว่า เขาต้องถูกทำโทษอันหายนะแก่เขาเป็นแน่


คำแปล R3.
20. ไม่เลย ความจริงแล้วสูเจ้ารักสิ่งที่จะได้อย่างรวดเร็ว (โลกนี้)
21. และละทิ้งโลกหน้า
22. ในวันนั้น บางใบหน้าจะสดใสเบิกบาน
23. มองไปยังพระผู้อภิบาลของพวกเขา
24. และในวันนั้น หลายใบหน้าจะเศร้าหมอง
25. และคิดว่าภัยพิบัติอันรุนแรงจะเกิดขึ้นแก่พวกเขา


คำแปล R4.
20. เปล่าเลย ! แต่ว่าพวกเจ้ารักการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
21. และพวกเจ้าจะทิ้งปรโลก
22. ในวันนั้นหลาย ๆ ใบหน้าจะเบิกบาน
23. จ้องมองไปยังพระเจ้าของมัน
24. และในวันนั้นหลาย ๆ ใบหน้าจะเศร้าสลด
25. มันคิดว่าความหายนะอันใหญ่หลวงจะเกิดขึ้นแก่มัน


คำแปล R5.
๒๐. พึงทราบเถิด แต่ทว่าพวกเจ้าชอบสิ่งที่เร่งด่วนจากผลประโยชน์นานาประการในโลกนี้
๒๑. และพวกเจ้าทอดทิ้งปรภพโดยไม่ยอมประพฤติความดีงามตามคำสอนของศาสนา
๒๒. ในวันนี้นั้นมีหลายใบหน้าที่มีแต่ความเปล่งปลั่งจากรัศมีของศรัทธาและการภักดีที่เคยประพฤติ
๒๓. เป็นใบหน้าที่มองไปยังผู้อภิบาลของพวกเขาด้วยความสุขสดชื่นเป็นที่สุด
๒๔. และอีกหลายใบหน้าที่มีแต่ความหมองคล้ำในวันนั้น เนื่องจากความเนรคุณและการกระทำความผิด
๒๕. เจ้าของใบหน้านั้นมั่นใจว่าจะถูกกระทำแก่เขาซึ่งการลงโทษอันรุนแรงที่สุด



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 17, 2012, 09:15 AM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัลกิยามะฮฺ อายะฮฺที่ 26 – 35


คำอ่าน
26.   กัลลา..อิซาบะละเฆาะติตตะรอกียฺ
27.   วะกีละมัน-รอก
28.   วะซอน..นะอัน..นะฮุลฟิรอก
29.   วัตตัฟฟะติสสากุบิสสาก
30.   อิลาร็อบบิกะเยามะอิซินิลมะสาก
31.   ฟะลาศ็อดดะเกาะวะลาศ็อลลา
32.   วะลากิน..กัซซะบะวะตะวัลลา
33.   ษุม..มะอิลา..อะฮฺลิฮียะตะมัฏฏอ
34.   เอาลาละกะฟะเอาลา
35.   ษุม..มะเอาลาละกะฟะเอาลา

คำแปล R1.
26. Nay, when (the soul) reaches to the collar bone (i.e. up to the throat in its exit),
27. And it will be said: "Who can cure him and save him from death?"
28. And he (the dying person) will conclude that it was (the time) of departing (death);
29. And leg will be joined with another leg (shrouded)
30. The drive will be, on that day, to your Lord (Allah)!
31. So he (the disbeliever) neither believed (in this Qur'an, in the message of Muhammad) nor prayed!
32. But on the contrary, he belied (this Qur'an and the message of Muhammad) and turned away!
33. Then he walked in full pride to his family admiring himself!
34. Woe to you [O man (disbeliever)]! And Then (again) woe to you!
35. Again, woe to you [O man (disbeliever)]! And then (again) woe to you!


คำแปล R2.
26.   เป็นไปไม่ได้เมื่อชีวิตได้ขึ้นมาถึงยอดอก
27.   และมีผู้ (ที่แวดล้อมกับเขาได้ )พูดว่า “ใครเล่าที่จะบำบัด (ให้พ้นโทษนั้นได้)?”
28.   และเขามั่นใจว่าตัวเขาต้องจาก(โลกนี้ไปแน่)
29.   และความทุกข์ระทมได้ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง(ขณะใกล้ตาย)
30.   ในวันนั้น ยังอัลเลาะฮฺเท่านั้นเป็นที่ถูกรวมตัว (ของทุกคนเพื่อรอการสอบสวน)
31.   แท้จริงเขาไม่เลื่อมใสและเขาไม่ทำละหมาด
32.   แต่ทว่าเขากล่าวหาเท็จและหันเห(จากสัจธรรม)
33.   หลังจากนั้นเขาก็ยังครอบครัวของเขาอย่างหยิ่งผยอง
34.   สำหรับเจ้านั้น (การลงโทษ) ใกล้เข้ามาที่สุด แล้วก็ใกล้เข้ามาที่สุด
35.   หลังจากนั้น ใกล้เข้ามาที่สุดสำหรับเจ้า แล้วก็ใกล้เข้ามาที่สุด


คำแปล R3.
26. ไม่มีทาง เมื่อวิญญาณมาถึงคอหอยของพวกเขา
27. ได้มีการกล่าวว่า “มีใครที่จะคอยช่วยไหม?”
28. และมนุษย์คิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องจากโลกนี้
29. และเขาพันเข้าด้วยกัน
30. นั่นเป็นวันแห่งการไปสู่พระผู้อภิบาลของสูเจ้า
31. แต่เขาไม่ยืนยัน (สัจธรรม) และไม่นมาซ
32. แต่เขาโกหกและหันหลังให้
33. แล้วเขาก็ไปหาพวกเขาอย่างยโส
34. ความประพฤติเช่นนี้ก็มีแต่สูเจ้าและสูเจ้าเท่านั้น
35. ใช่แล้ว ความประพฤติเช่นนี้ก็มีแต่สูเจ้าและสูเจ้าเท่านั้น


คำแปล R4.
26. เปล่าเลย ! เมื่อวิญญาณขึ้นมาถึงคอหอย
27. และมีผู้กล่าวว่า ใครเล่าเป็นผู้ทำให้เขาฟื้นขึ้นเหมือนเดิม
28. และเขามั่นใจว่า แท้จริงเขาต้องจากไป
29. และขาข้างหนึ่งทับขาอีกข้างหนึ่ง (เพราะความกลัว)
30. วันนั้น จะมีการนำพาไปยังพระเจ้าของเจ้า
31. เพราะว่าเขาไม่เชื่อมั่น และไม่ละหมาด
32. แต่เขาปฏิเสธและผินหลังกลับ
33. แล้วเขาก็เดินอย่างองอาจไปหาพรรคพวกของเขาอย่างหยิ่งยะโส
34. ความวิบัติจงมีแด่เจ้าเถิด แล้วก็ความวิบัติจงมีแด่เจ้าเถิด
35. แล้วก็ความวิบัติจงมีแด่เจ้าเถิด แล้วก็ความวิบัติจงมีแด่เจ้าเถิด


คำแปล R5.
๒๖. พึงทราบเถิดเมื่อชีวิตได้ขึ้นถึงคอหอย
๒๗. และมีผู้ที่อยู่รอบ ๆ เขาพูดว่า ใครเป็นผู้บำบัดเขาให้พ้นจากสภาพนั้นได้
๒๘. และเขามั่นใจว่า แท้จริงตัวเขานั้นต้องจากโลกนี้ไปแน่
๒๙. และขากับขาของเขาก็พัลวันกันด้วยความทุกข์ทรมานในวาระใกล้ตาย
๓๐. ในวันนั้นจะถูกไล่ให้ไปรวมกันสู่การตัดสินแห่งพระองค์พระผู้ทรงอภิบาลของเจ้า
๓๑. แท้จริงเขาไม่ได้เชื่อถือต่อกุรอานและต่อนบีมุฮำมัดและเขาไม่ได้ละหมาดอีกด้วย
๓๒. และแต่ทว่าเขายังกล่าวอ้างว่าเป็นเท็จและหันหลังให้แก่อัลกุรอานและการศรัทธาในอัลเลาะห์และศาสนทูต
๓๓. หลังจากนั้นเขาก็ไปยังครอบครัวของเขาอย่างอหังการ์ ซึ่งสภาพดังกล่าวนั้นเป็นสภาพของเขาขณะใช้ชีวิตอยู่ในโลกดุนยาที่ผ่านพ้นมา
๓๔. โทษทัณฑ์ดังที่กล่าวมาแล้วนั้นเหมาะสมต่อเจ้ายิ่งนัก แล้วก็เหมาะสมเป็นที่สุด

๓๕. หลังจากนั้น เหมาะสมต่อเจ้ายิ่งนักแล้วก็เหมาะสมเป็นที่สุด

หมายเหตุของผู้นำเสนอ: อายะฮฺที่ 34-35 นี้ ให้ความหมายไม่ใกล้เคียงกันเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 17, 2012, 09:14 AM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัลกิยามะฮฺ  อายะฮฺที่ 36 – 40


คำอ่าน
36.   อะยะหฺสะบุลอิน..สานุอัย..ยุตเราะกะสุดา
37.   อะละมยะกุนุฏฟะตัม..มิม..มะนียี..ยุมนา
38.   ษุม..มะกานะอะละเกาะตัน..ฟะเคาะละเกาะฟะเสาวา
39.   ฟะญะอะละมินฮุซเซาญัยนิซซะกะเราะวัลอุน..ษา
40.   อะลัยสะซาลิกะบิกอดิริน อะลาอัย..ยุหฺยิยัลเมาตา

คำแปล R1.
36. Does man think that he will be left Suda [neglected without being punished or rewarded for the obligatory duties enjoined by his Lord (Allah) on him]?
37. Was he not a Nutfah (mixed male and female discharge of semen) poured forth?
38. Then he became an 'Alaqa (a clot); Then (Allah) shaped and fashioned (him) in due proportion.
39. And made him in two sexes, male and female.
40. Is not He (Allah who does that), able to give life to the dead? (Yes! He is able to do all things).


คำแปล R2.
36.   มนุษย์คิดหรือว่า เขาจะถูกทอดทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการเอาใจใส่?
37.   ก็เขาเองเคยเป็นเพียงหยดหนึ่งจากอสุจิที่ถูกหลั่งออกมามิใช่หรือ?
38.   หลังจากนั้นอสุจินั้นก็กลายมาเป็นก้อนเนื้อแล้วพระองค์ก็ทรงบันดาลและทรงจัดระบบการกำเนิดอย่างสมบูรณ์
39.   จากนั้นพระองค์ทรงบันดาลมาจากนั้น คู่สอง คือชายและหญิง
40.   พระองค์ผู้ทรงอานุภาพบันดาลสิ่งนั้น จะไม่ทรงอานุภาพที่จะประทานแก่คนตายให้มีชีวิตขึ้นอีกกระนั้นหรือ


คำแปล R3.
36. มนุษย์คิดหรือว่าเขาจะถูกทิ้งไว้โดยไร้จุดหมาย
37. เขาไม่เป็นแค่เพียงหยดอสุจิที่พุ่งออกมา (ในรังไข่ของแม่) กระนั้นหรือ?
38. หลังจากนั้นเขาก็เป็นก้อนเลือดแล้วพระองค์ก็ทรงสร้างเขาและทำให้เขาเป็นรูปร่างได้สัดส่วน
39. แล้วพระองค์ก็ได้ทรงทำให้เขาเป็นคู่ เพศชายและเพศหญิง
40. แล้วพระองค์ไม่ทรงมีอำนาจที่จะทำให้คนตายมีชีวิตขึ้นมาอีกกระนั้นหรือ?


คำแปล R4.
36. มนุษย์คิดหรือว่า เขาจะถูกปล่อยไว้โดยไร้จุดหมายกระนั้นหรือ ?
37. เขามิได้เป็นน้ำกามหยดหนึ่งจากน้ำอสุจิที่ถูกพุ่งออกมากระนั้นหรือ ?
38. แล้วเขาได้เป็นก้อนเลือดก้อนหนึ่งแล้วพระองค์ทรงบังเกิดแล้วก็ทรงทำให้ได้สัดส่วนสมบูรณ์
39. แล้วพระองค์ทรงทำให้เขาเป็นคู่ เป็นเพศชายและเพศหญิง
40. ดังนั้น พระองค์จะไม่สามารถที่จะให้คนตายมีชีวิตขึ้นมาอีกกระนั้นหรือ ?


คำแปล R5.
๓๖. มนุษย์คิดหรือว่า เขาจะถูกปล่อยไว้อย่างทอดทิ้ง ไม่ได้รับการเอาใจใส่ให้ต้องรับผิดชอบในหน้าที่ต่าง ๆ และถูกให้ฟื้นคืนชีพมารับการตอบสนองผลกรรม
๓๗. แต่เดิม เขานั้นมิได้เป็นหยดน้ำที่มาจากอสุจิซึ่งถูกหลั่งออกมาดอกหรือ
๓๘. หลังจากที่เคยเป็นหยดอสุจินั้นเขาก็เป็นก้อนเลือด แล้วอัลเลาะห์ก็ทรงบันดาลให้เป็นก้อนเนื้อที่มีโครงร่างมนุษย์ครบถ้วน แล้วพระองค์ก็ทรงจัดระบบอย่างสมบูรณ์
๓๙. จากนั้นพระองค์ก็ทรงบันดาลคู่สองชายและหญิงมาจากเขาด้วยการคลอดออกมา
๔๐. ที่อัลเลาะห์ได้ทรงบันดาลให้เป็นไปตามที่กล่าวมานั้น พระองค์ไม่ทรงอานุภาพที่จะให้คนตายได้มีชีวิตขึ้นอีกกระนั้นหรือ แน่นอนที่สุดพระองค์ย่อมทรงอานุภาพที่จะบันดาลให้เป็นไปเช่นนั้นโดยไม่ต้องสงสัย


พี่น้องต้องการฟังการอ่านที่ถูกต้อง ติดตามได้ที่ www.mp3quran.net/eng/
สำหรับสูเราะฮฺนี้ แนะนำให้ฟังการอ่านของอะหฺมัด นุอัยนะอฺ ครับ อ่านไม่ช้า ไม่เร็ว
http://174.36.196.142/~server5/ahmad_nu/075.mp3
ที่สำคัญ อาชีพเดียวกับผมครับ

(صدق الله العظيم) ดำรัสของอัลลอฮิผู้ยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ
จบสูเราะฮฺที่ 75 อัลกิยามะฮฺ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 17, 2012, 09:13 AM โดย webmaster »

 

GoogleTagged