salam
ขอแจมด้วยคนนะคะ...
หากเราสังเกตดีๆ หัวของเราจะอยู่ตรงกลางระหว่างหูทั้งสองข้าง
ไม่ว่าสิ่งที่เราได้ยินมานั้น สมองจะแปลความว่าอย่างไร และใจเราต้องการอยากจะเอียงไปด้านใด
แต่คำว่ามโนธรรมจะคอยตะโกนบอกเราค่ะว่า อะไรควรและอะไรไม่ควร
คนที่มีมโนธรรมมากกว่าอธรรม ก็จะไม่ต้องเหนื่อยกับการต่อสู้ระหว่างมโนธรรมกับอธรรมในใจเรามากนัก
และหากคนในสังคมมีมโนธรรมมากกว่าอธรรม เหตุใดกันที่เราจะต้องเหนื่อยกับการต่อสู้กับอธรรม
บางครั้งเราก็ต้องย้อนมาหาตัวเราว่าระหว่างมโนธรรมกับอธรรม ในตัวเราและคนในสังคมที่เราอยู่อะไรมันมีมากกว่ากัน
เคยคิดเสมอค่ะว่า โลกมีแค่สองด้าน หรือมีแค่สองฝั่ง ดำขาว ดีชั่ว
ส่วนสีเทานั้น เกิดจากความปะปนของดำกับขาว หรือดีกับชั่ว
มนุษย์ธรรมดาอย่างเราคงหนีไม่พ้น เพราะในตัวเรามีทั้งดีและชั่ว หรือเรียกเป็นสีก็คือ มีทั้งดำและขาว
มันอยู่ที่ว่า เมื่อคนอื่นมองมาที่เรา เขาจะเห็นเราเป็นสีอะไร เห็นเป็นสีดำหรือสีขาว
หรือเห็นเราเป็นคนดีหรือคนเลว ไม่ข้างใดก็ข้างนึง แต่การที่ความดีกับความชั่ว
หรือสีดำกับสีขาวมันผสมกัน เราก็เลยเรียกว่าสีเทา แต่สีเทาเองก็มีระดับความเข้มเหมือนกันค่ะ
หากว่าเราผสมสีขาวลงไปมากกว่าสีดำ เราก็จะเห็นสีเทามีแนวโน้มไปทางขาว
หากว่ามีสีดำมากกว่าขาว เราก็จะเห็นสีเทาดังหล่าวมีแนวโน้มไปทางดำ
สายตาเราไม่ได้เอียงหรอกค่ะ เพราะอย่างน้อยๆเราก็ยังบอกได้ว่า สีเทาที่เราเห็นนั้น
สีดำกับสีขาว อะไรมีปริมาณมากกว่า...
การเป็นมนุษย์สีขาวมันยากค่ะ เพราะว่า เราย่อมต้องเปื้อนฝุ่นเปื้อนโคลน
และการที่จะเป็นสีดำสนิทก็ไม่ง่ายเช่นกันค่ะ เพราะว่า เราย่อมต้องเปื้อนชอล์กเปื้อนฝุ่นอยู่ดี
แต่เราสามารถเติมสีขาวหรือสีดำลงไปในจิตใจเราได้ค่ะ
แม้วันนี้มันจะมีสีดำมากว่าสีขาว แต่หากเราหมั่นเติมสีขาวลงไปเยอะๆและบ่อยๆ
วันนึงสีเทาที่ว่าก็จะขาวขึ้นได้ แม้จะไม่ได้ขาวบริสุทธิ์ด้วยเพราะเราไม่สามารถเอาสีดำที่เราหรือใครที่เราเคยพบเจอเติมให้เราออกไปได้
แต่สีดำมันจะจางลงได้ด้วยสีขาวที่เราคอยหมั่นเอามาเติมลงไป
ตรงกันข้าม สีขาวก็สามารถค่อยๆจางหายไปได้ด้วยหากเราหมั่นเติมสีดำลงไปบ่อยๆเช่นกันค่ะ
มันยากจะตอบได้ว่าจุดจบของคนๆหนึ่งจะดีหรือเลว ตราบเท่าที่เขายังไม่ตาย
วัลลอฮุอะลัม
ความคิดแตกแยก อาจเกิดจากใจที่สับสน หากเรามั่นใจว่าสีเทาที่เราเห็นนั้นมันมีแนวโน้มไปทางดำหรือขาว
บวกกับมโนธรรมและอธรรมในใจของเราที่มีอยู่แต่เดิมจะเป็นตัวกระซิบให้เราโน้มเอียงไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งจนได้ค่ะ
เราจึงต้องหมั่นตรวจสีในใจเราเสมอว่า ตอนนี้ดำกับขาวอะไรมีปริมาณมากกว่ากัน
เพราะสีในใจของเราจะคอยกระซิบให้เราโน้มเอียงไปหาฝั่งของมัน
หากเรามีมโนธรรมในใจมากกว่าอธรรม เราจะไม่เหนื่อยกับการจะตัดสินว่าอะไรดีอะไรชั่ว อะไรดำอะไรขาวมากนัก
และเราก็จะมองคนอื่นออกว่าเป็นสีอะไร เพราะเป็นคุณสมบัติของสีขาวค่ะ ที่ไม่ว่าสีอะไรป้ายลงไปก็แยกแยะได้
ต่างจากสีดำที่ไม่ว่าสีอะไรผสมลงไปก็ยากจะแยกแยะได้ และสีขาวเท่านั้นค่ะที่สามารถทำให้สีดำเจือจางได้ดี
ดังนั้น ทุกครั้งที่มีข้อขัดแย้งกัน เราจึงมักหาคนผิดคนถูก ฝั่งที่ผิดฝั่งที่ถูกอยู่เสมอ
จนอาจลืมมองไปว่า ทั้งสองฝั่งก็มีทั้งผิดทั้งถูกอยู่ด้วยกันก็ได้ อย่างน้อยๆ หูของเรายังมีสองข้าง
เราสามารถฟังหูไว้หูได้ การฟังกันและกันอาจช่วยให้เราเข้าใจกันมากขึ้นได้ก็ป็นได้ค่ะ
ขอแค่เราอย่าปิดหูปิดตา เข้าข้างหูข้างใดข้างนึงเสียจนลืมฟังเสียงของหูอีกข้างนึง
มโนธรรมจะช่วยเราไม่ให้สับสนและช่วยเราแยกแยะถูกผิดได้ค่ะ
แค่เราหมั่นเติมมันลงในหัวใจ เราอาจไม่ต้องเหนื่อยและสับสนในการอยู่กับความวุ่นวายของดุนยามากนัก อินชาอัลลอฮฺ
ยาวประจำ ยาวสม่ำเสมอ ขอมาอัฟคนอ่านด้วยนะคะ

ขอความสันติสุขจงมีแค่พี่น้องทุกๆคน
วัสลามค่ะ