ผู้เขียน หัวข้อ: สง่า วังทอง สร้างสุขให้ชีวิตด้วยภูมิปัญญาไทย  (อ่าน 1053 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ suksara

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 56
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด

    สง่า วังทอง สร้างสุขให้ชีวิตด้วยภูมิปัญญาไทย

   

                    โดยหลักๆแล้ว อ.สง่า วังทองนับได้ว่ามีอาชีพเป็นอาจารย์ โดยเริ่มจับชอล์คครั้งแรกที่โรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์ ก่อนจะวนเวียนไปช่วยสอนและบริหารที่หลายโรงเรียน ล่าสุดเข้าไปช่วยบริหารที่โรงเรียนกุรรอ์วิทยา พอโรงเรียนกุรรออฺวิทยาอยู่ตัว ก็ตัดสินใจ ออกมาทำโรงเรียนของตัวเองในปีหน้าที่จังหวัดชุมพร

                    แต่ที่จะมาคุยกันในวันนี้คือบทบาทของอ.สง่าในฐานะครูภูมิปัญญาไทย สาขาแพทย์แผนไทย ซึ่งที่มาของความรู้ที่สั่งสมนั้นได้มาจากพ่อของอ.สง่าเอง

                    “ผมมันคนขี้โรค คุณพ่อก็เป็นคนที่รู้อะไรมากหน่อย ตั้งแต่เรื่องกวาดยา ตั้งแต่เกิดยัน 5 ขวบ คุณพ่อผมก็กวาด ไม่ต้องไปหาหมอที่ไหน พ่อเขาก็ทำเรื่อยมา ผมก็รู้ว่าคุณพ่อใช้ยาอะไร ก็เก็บๆไว้เป็นตำราเรื่อยมา พอตอนผมอายุยี่สิบห้า ผมเป็นหวัดเป็นๆหายๆ ก็ไปหาหมอ แล้วมีโอกาสได้เจอกับคนอีสานที่มารับจ้างทำงานที่บ้านพ่อ คนอีสานก็บอกว่า อาการแบบนี้รักษาได้ด้วยหญ้าหมอน้อย ซึ่งหาได้ง่ายเยอะแยะทั่วไป พอผมกินก็หาย ผมก็บอกต่อทั่วๆไป แก้ไข้ได้ มาลาเรียนี่หายแน่นอน แก้ไข้หัวลมได้”

                    พอรู้จักยาสมุนไพรใกล้บ้านตัวแรกจากพี่น้องชาวอีสาน อ.สง่า ก็เริ่มค้นหายาตัวต่อๆมาจากคำแนะนำ จากหนังสือ จนเรียกได้ว่าเป็นผู้ทรงความรู้ด้านสมุนไพรไทยคนหนึ่ง และทุกครั้งที่ชุมชนหรือองค์กรที่รู้จักกันจะไปทำกิจกรรมที่ไหนก็มักจะชวนอ.สง่าไปช่วยดูแลเรื่องพยาบาล แต่พยาบาลคนนี้ก็ไปแบบมือเปล่าทุกที 'ผมไปหายาเอาข้างหน้า' ตามรั้ว สองข้างทางเดิน นั่นคือตู้ยาของ อ.สง่า

                    ยกตัวอย่างยาตามข้างทางของ อ.สง่าสักเล็กน้อยก็เช่น รางจืด

                    “ตัวนี้ใช้กับพวกเลิกยาเสพติด เพราะกินแล้วมันเบื่อ กินยาด้วยแล้วเบื่อไปเมาไป ก็ไม่อยาก สูบบุหรี่ก็เบื่อ ผสมเหล้าก็จืด”

                    ตัวที่อ.สง่าแนะนำอย่างมากก็คือ มะรุม

                    “ถ้าไม่สบาย มะรุมช่วยได้เกือบทุกโรค มะเร็งก็ได้ กินแล้วจะดีวันดีคืน แต่อย่ากินเกิน 8 แคปซูลต่อวัน กินได้แค่ตอนเช้ากับตอนเที่ยงเท่านั้น ตอนเย็นกับกลางคืนกินไม่ได้”

                    อีกตัวคือ น้ำลูกยอ

                    “หากคุณเป็นไซนัส เป็นภูมิแพ้ มันไม่ใช่เรื่องยาก กินน้ำลูกยอเดี๋ยวก็หาย”

                    ด้วย องค์ความรู้ที่มีเมื่อขยับมาเป็นครูภูมิปัญญาไทย รวมทั้งการที่ได้ไปเข้าร่วมอบรมในโรงเรียนผู้นำสุขภาวะมุสลิมของแผนงานสร้าง เสริมสุขภาวะมุสลิมไทย ซึ่ง อ.สง่าบอกว่าได้รับมา เต็มๆคือความรู้ในเรื่องการบริหาร ซึ่งตัวอาจารย์เองบอกว่า คนที่เข้ารับการอบรมส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่มีความรู้ ดังนั้นสิ่งที่ได้รับหลังจากการอบรมก็คือ การสามารถบริหารจัดการองค์ความรู้ที่มีอยู่ติดตัวให้เผยแพร่ไป

                    “ผมเริ่มทำออฟฟิศ ใครอยากได้ความรู้ก็มานั่งคุยกัน จะคุยเป็นการส่วนตัว หรือนั่งตีวงคุยกันก็ได้ หรืออย่างวันอาทิตย์ที่คลอง 20 กับคลอง 15 เขาจัดอบรมจริยธรรม เขาก็ให้ผมไปพูดเรื่องสุขภาพ เพราะมุสลิมเป็นมะเร็งเป็นเบาหวานกันเยอะ”

                    ความรู้ด้านการบริหารจัดการอีกข้อที่อ.สง่า ได้จากโรงเรียนผู้นำสุขภาวะมุสลิมก็คือการบริหารด้วยคุณธรรมนำความรู้ ซึ่งเขาตั้งใจจะนำไปใช้บริหารในโรงเรียนอนุบาลของตัวเองที่ชุมพรซึ่งกำลังจะ เปิดในปีหน้า

                    “ใน โรงเรียนนี้ผมจะใช้คุณธรรมนำความรู้ ผมจะสอนเรื่องชีวิต อาจารย์อาจอง ชุมสายบอกว่า เด็กนี่เติมความดีให้เขาเยอะๆเขาก็เรียนเก่งเอง และโรงเรียนเราจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม เราจะไปช่วยสังคม อบต. อบจ.”

                    ไม่ ว่าจะบทบาทการเป็นครู บทบาทหมอแผนไทยหรือบทบาทใหม่ในฐานะเจ้าของโรงเรียน ทุกบทบาทของชายที่ชื่อสง่า วังทอง ไม่เคยห่างหายจากการใช้ภูมิปัญญาไทยๆมาสร้างชีวิตที่เป็นสุขให้กับทุกผู้คน

                    เพราะคนอย่างเขาชมชอบกับการเป็นผู้ให้มากกว่าการแบมือรับอยู่แล้


ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
อย่างนี้ต้อง myGreat:
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ falook

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 25
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • My Twitter

น่าสนับสนุนอย่างยิ่ง  wink:

 

GoogleTagged