ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 81 สูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ)  (อ่าน 3937 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ – การม้วนตัว (R4.)

เป็นบัญญัติมักกียะฮฺ มี 29 อายะฮฺ
ความหมายโดยสรุปของซูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ
ซูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ เป็นซูเราะฮฺมักกียะฮฺที่เยียวยาข้อเท็จจริงที่สำคัญสองประการ คือ “ข้อเท็จจริงแห่งวันกิยามะฮฺ” และ “ข้อเท็จจริงแห่งอัลวะฮียฺ และสาสน์” ซึ่งทั้งสองนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอีมาน
ซูเราะฮฺได้เริ่มด้วยการชี้แจงถึงวันกิยามะฮฺ และสิ่งที่ติดตามมา คือ การเปลี่ยนแปลงของจักรวาลครั้งใหญ่ รวมทั้ง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ภูเขา ทะเล แผ่นดิน ชั้นฟ้า ปศุสัตว์ และมนุษย์ จักรวาลจะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเป็นเวลานาน ทุก ๆ สิ่งที่อยู่ในโลกนี้จะกระจัดกระจาย ไม่มีสิ่งจะคงเหลืออยู่เว้นแต่จะต้องเปลี่ยนแปลงและผันแปรอันเนื่องมาจากความกลัวต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในวันนั้น “เมื่อดวงอาทิตย์ถูกม้วนดับแสงลง และเมื่อบรรดาดวงดาวร่วงหล่นลงมากระจัดกระจาย และเมื่อบรรดาภูเขาถูกเคลื่อนย้าย  และเมื่ออูฐท้องสิบเดือนถูกทอดทิ้ง และเมื่อสัตว์ถูกนำมารวมกัน และเมื่อทะเลลุกเป็นไฟ”
ต่อมาซูเราะฮฺได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงแห่งอัลวะฮีย์ และคุณลักษณะของท่านนะบี ซึ่งจะพบกับอัลวะฮีย์ และหมู่ชนผู้ถูกสนทนาด้วยอัลวะฮีย์ ซึ่งถูกประทานลงมาเพื่อจะเปลี่ยนแปลงพวกเขาจากความมืดมนแห่งการตั้งภาคี และการหลงทาง ไปสู่แสงสว่างแห่งวิชาการและการอีมาน “ขอสาบานอย่างหนักแน่นต่อดวงดาวที่ซ่อนตัวในเวลากลางวันที่โคจรลับดวง ข้าสาบานด้วยกลางคืนที่มันเหือดหายไปและด้วยเวลาเช้าตรู่เมื่อมันทอแสง แท้จริงอัลกุรอานคือคำพูดของรอซูล(ญิบรีล)ผู้ทรงเกียรติ”
ซูเราะฮฺได้จบลงด้วยการชี้แจงความผิดในจ้อกล่าวอ้างของพวกมุชริกีนเกี่ยวกับอัลกุรฺอาน และกล่าวว่าอัลกุรฺอานนั้นเป็นข้อตักเตือนจากอัลลอฮฺตะอาลาแก่ปวงบ่าวของพระองค์ “แล้วพวกเจ้าจะไปทางไหนเล่า อัลกุรฺอานนั้นมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นข้อตักเตือนแก่ประชาชาติทั้งมวล สำหรับบุคคลในหมู่พวกเจ้าที่ประสงค์จะอยู่ในทางอันเที่ยงตรง และพวกเจ้าจะไม่สมประสงค์สิ่งใด เว้นแต่อัลลอฮฺพระเจ้าแห่งสากลโลกจะทรงประสงค์”


เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ อายะฮฺที่ 1 – 7



คำอ่าน
1. อิซัชชัมสุกูวิร็อต
2. วะอิซันนุญูมุน..กะดะร็อต
3. วะอิซัลญิบาลุสุยยิร็อต
4. วะอิซัลอิชารุอุฏฏิลัต
5. วะอิซัลวุหูชุหุชิร็อต
6. วะอิซัลบิหารุสุจญิร็อต
7. วะอิซัน..นุฟุสุซูวิญัต


คำแปล R1.
1. When the sun Kuwwirat (wound round and lost its light and is overthrown).
2. And when the stars shall fall;
3. And when the mountains shall make to pass away;
4. And when the pregnant she-camels shall be neglected;
5. And when the wild beasts shall be gathered together;
6. And when the seas shall become as blazing Fire or shall overflow;
7. And when the souls shall be joined with their bodies;


คำแปล R2.
1.   เมื่อดวงอาทิตย์ถูกม้วนจนดับแสง
2.   และเมื่อดวงดาวร่วงหล่นอย่างกระจัดกระจาย
3.   และเมื่อขุนเขาทั้งหลายถูกเคลื่อนย้าย (จากที่เดิมในสภาพผงฝุ่นที่ปลิวว่อน)
4.   และเมื่ออูฐท้องสิบเดือนถูกทอดทิ้ง (อย่างไม่สนใจทั้ง ๆ ที่เคยเป็นสัตว์ที่มีค่าราคาสูงน่าทนุถนอม)
5.   และเมื่อสัตว์ป่าทั้งหลายถูกต้อนให้มารวมกัน
6.   และเมื่อท้องทะเลถูกให้ลุกเป็นไฟ
7.   และเมื่อบรรดาชีวิตทั้งหลายถูกรวมเป็นคู่


คำแปล R3.
1. เมื่อดวงอาทิตย์ถูกม้วน
2. และเมื่อดวงดาวต่าง ๆ แตกกระจาย
3. และเมื่อภูเขาถูกทำให้เคลื่อนย้าย
4. และเมื่ออูฐท้องสิบเดือนถูกทิ้งโดยไม่มีใครสนใจ
5. และเมื่อสัตว์ได้ถูกนำมารวมกัน
6. และเมื่อทะเลถูกทำให้ลุกเป็นไฟ
7. และเมื่อวิญญาณทั้งหลายได้ถูกนำมารวมกันอีกครั้งหนึ่ง (กับร่างกาย)


คำแปล R4.
1. เมื่อดวงอาทิตย์ถูกม้วนดับแสงลง
2. และเมื่อบรรดาดวงดาวร่วงหล่นลงมากระจัดกระจาย
3. และเมื่อบรรดาภูเขาถูกเคลื่อนย้าย
4. และเมื่ออูฐท้องสิบเดือนถูกทอดทิ้ง
5. และเมื่อสัตว์ถูกนำมารวมกัน
6. และเมื่อทะเลลุกเป็นไฟ
7. และเมื่อชีวิตทั้งหลายถูกจัดเป็นคู่


คำแปล R5.
๑. เมื่อดวงตะวันถูกม้วนจนสิ้นแสง
๒. และเมื่อมวลหมู่ดวงดาวต้องร่วงหล่น อย่างกระจัดกระจายลงบนพื้นดิน
๓. และเมื่อภูเขาทั้งหลายถูกเคลื่อนที่ออกไปจากที่เดิมในสภาพละลายเป็นฝุ่นคลุ้งตลบลอยไปในอากาศ
๔. และเมื่ออูฐกำลังท้องสิบเดือน อันเป็นอูฐที่มีราคาสูงที่สุดถูกทอดทิ้งไว้อย่างไม่มีใครแยแส
๕. และบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลาย ถูกรวมกันเป็นฝูงทั้ง ๆ โดยปกติแล้วยากที่จะเรียกมารวมกัน
๖. และเมื่อท้องทะเลถูกทำให้ลุกเป็นไฟ
๗. และเมื่อบรรดาชีวิตทั้งหลายถูกจัดให้อยู่เป็นคู่ ๆ กล่าวคือ คนดีอยู่คู่กับคนดี คนเลวก็อยู่คู่กับคนเลว จัดออกเป็นกลุ่มเป็นประเภทอย่างชัดเจน



โปรดสังเกต ในอายะฮฺที่ 7. มีคำแปลแตกต่างกันเป็น 2 ความหมาย ความหมายแรก ใจความว่า "เมื่อชีวิตทั้งหลายกลับมารวมกันเป็นคู่" (R2., R4 และ R5.) และ ความหมายที่ 2 ใจความว่า "เมื่อร่างกายได้กลับมารวมกับวิญญาณ" (R1. และ R3.) อัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงรู้ความหมายที่แท้จริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 04, 2010, 04:58 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ อายะฮฺที่ 8 – 14

คำอ่าน
8. วะอิซัลเมาอูดะตุสุอิลัต
9. บิอัยยิซัม..บิน..กุติลัต
10. วะอิซัศศุหุฟุนุชิร็อต
11. วะอิซัสสะมา...อุกุชิฏ็อต
12. วะอิซัลญะหีมุสุอฺอิร็อต
13. วะอิซัลญัน..นะตุอุซลิฟัต
14. อะลิมัตนัฟสุม..มา..อะหฺเฎาะร็อต


คำแปล R1.
8. And when the female (infant) buried alive (as the pagan Arabs used to do) shall be questioned.
9. For what sin she was killed?
10. And when the written Pages of deeds (good and bad) of every person shall be laid open;
11. And when the heaven shall be stripped off and taken away from its place;
12. And when Hell-fire shall be kindled to fierce ablaze.
13. And when Paradise shall be brought near,
14. (Then) Every person will know what He has brought (of good and evil).


คำแปล R2.

8.   และเมื่อบรรดาทารกหญิงที่ถูกฝัง(ได้ฟื้นคืนชีพ)และถูกถามว่า
9.   เพราะความผิดอันใดหรือที่เธอถูกฆ่า
10.   และเมื่อบรรดาบันทึกผลกรรม(ของแต่ละคน)ถูกเปิดออก
11.   และเมื่อฟากฟ้าถูกลอกออก
12.   และเมื่อนรกอัลญะฮีมถูกจุดไฟ
13.   และเมื่อสวรรค์ถูกนำเข้ามาใกล้
14.   แต่ละชีวิตย่อมรู้ถึงสิ่งที่เขาได้นำมา(ประพฤติแต่อดีต)


คำแปล R3.
8.   และเมื่อทารกหญิงที่ถูกฝังทั้งเป็นถูกถาม
9.   ว่าด้วยความผิดอะไรที่เธอถึงได้ถูกฆ่า
10.   และเมื่อบันทึกทั้งหลายได้ถูกเปิดออก
11.   และเมื่อม่านแห่งชั้นฟ้าถูกเลิกออก
12.   และเมื่อนรกถูกจุดให้ลุกโชน
13.   และเมื่อสวรรค์ได้ถูกนำมาใกล้
14.   แล้วแต่ละชีวิตจะได้รู้ว่าเขานำอะไรมา


คำแปล R4.
8. และเมื่อทารกหญิงที่ถูกฝังทั้งเป็นถูกถาม
 9. ด้วยความผิดอันใดเขาจงถูกฆ่า
10. และเมื่อบันทึกทั้งหลายถูกกางแผ่
11. และเมื่อชั้นฟ้าถูกเลิกออก
12. และเมื่อนรกถูกจุดให้ลุกสว่างจ้า
13. และเมื่อสวรรค์ถูกนำมาใกล้
14. ทุกชีวิตย่อมรู้สิ่งที่ตนได้นำมา


คำแปล R5.
๘. และเมื่อเด็กหญิงที่ถูกฝังทั้งเป็นได้ถูกสอบถามว่า
๙. เพราะความผิดใดหรือ ที่เธอถูกฆ่าตาย ความจริงแล้วทารกเหล่านั้น ไม่ได้ทำความผิดเลย แต่เพราะความเชื่อจนงมงายของของพวกอาหรับยุคโง่เขลาที่กดขี่เพศหญิง ถ้าเขาจะเลี้ยงไว้ อย่างดีก็ให้เป็นคนเลี้ยงแกะ หรือมิฉะนั้นจะรอจนอายุ ๖ ขวบ พวกเขาจึงจับตัวไปฝังดินทั้งเป็น
๑๐. และเมื่อบันทึกการงานของแต่ละคน ถูกเปิดกางออกให้เห็น
๑๑. และเมื่อท้องฟ้าถูกลอกออก จากที่เดิมของมัน
๑๒. และเมื่อนรกอัลยะฮีมถูกจุดให้ลุกโชน
๑๓. และเมื่อสวรรค์ถูกให้เข้าใกล้
๑๔. แต่ละชีวิตก็รู้ถึงสิ่งที่ตัวเองได้นำมาในปรภพ จะเป็นความดีหรือชั่วก็ตาม




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ ยะฮฺ ที่ 15 - 18

คำอ่าน
 15. ฟะลา..อุกสิมุ บิลคุน..นัส
16. อัลญะวาริลกุน..นัส
17. วัลลัยลิอิซาอัสอัส
18. วัศศุบหิอิซาตะนัฟฟัส


คำแปล R1.
15. So Verily, I swear by the planets that recede (i.e. disappear during the day and appear during the night).
16. And by the planets that move swiftly and hide themselves,
17. And by the night as it departs;
18. And by the dawn as it brightens;


คำแปล R2.
15.   แท้จริงขอยืนยันกับดวงดาวอันแฝงซ่อนตัวในยามกลางวัน(จนมองไม่เห็น)
16.   ที่มันโคจรอยู่ ซึ่งประจำกับที่(ราศีของมัน)
17.   ขอยืนยันกลางคืนเมื่อความมืดได้ย่างกราย
18.   และเวลาเช้าตรู่เมื่อมันมีความสว่าง


คำแปล R3.
15.   แต่ไม่ใช่เช่นนั้น ฉันขอสาบานต่อดวงดาวทั้งหลายที่หายรับไป
16.   และดวงดาวที่กำลังซ่อนเร้น
17.   และกลางคืนเมื่อมันจากไป
18.   และตอนเช้าเมื่อมันมีชีวิตขึ้น

คำแปล R4.
15. ข้าสาบานต่อดวงดาวที่ซ่อนตัวในเวลากลางวัน
16. ที่โคจรลับดวง
17. ข้าสาบานด้วยกลางคืนเมื่อมันเหือดหายไป
18. และด้วยเวลาเช้าตรู่เมื่อมันทอแสง

คำแปล R5.
๑๕. ข้าขอยืนยันด้วยบรรดาดวงดาวที่ซ่อนตัวในยามกลางวัน
๑๖. ซึ่งมันโคจรอยู่ อีกทั้งประจำอยู่กับราศีของมัน มันจะปรากฏให้เห็นในยามกลางคืน แต่มองไม่เห็นในเวลากลางวัน เพราะแสงตะวันปกคลุมไว้ ทั้ง ๆ ที่มันโคจรอยู่ในราศีของมันเป็นปกติ ไม่ได้หายไปไหน
๑๗. และยืนยันด้วยกับเวลากลางคืนเมื่อมันใกล้สว่าง
๑๘. และด้วยเวลาเช้าตรู่เมื่อมันเริ่มทอแสง


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ อายะฮฺที่ 19 - 21

     
คำอ่าน
19. อิน..นะฮู ละก็อวลุเราะสูลิน..กะรีม
20. ซีกุวะติน อิน..ดะซิลอัรชิมะกีน
21. มุฏออิน..ษัม..มะอะมีน

 
คำแปล R1.
19. Verily, This is the word (this Qur'an brought by) a most honourable Messenger [Jibrael (Gabriel), from Allah to the Prophet Muhammad].
20. Owner of power, and high rank with (Allah) the Lord of the Throne,
21. Obeyed (by the angels), trustworthy there (in the heavens).

 
คำแปล R2.
19.   แท้จริงมันเป็นคำพูดของทูต(ยิบรีล)ผู้ทรงเกียรติ
20.   ผู้มีพลัง ณ พระผู้เป็นเจ้าแห่งบัลลังก์ ผู้มียศศักดิ์อันสูงส่ง
21.   เป็นที่ถูกเชื่อฟัง ณ ที่นั้น(ในกลุ่มมลาอิกะฮฺด้วยกัน)อีกทั้งมีความซื่อสัตย์เป็นที่สุด


คำแปล R3.

19.   นี่คือถ้อยคำของรอซูลผู้ทรงเกียรติ
20.   ผู้ทรงมีพลังอันยิ่งใหญ่ และมีตำแหน่งอันสูงส่งด้วยความเป็นเจ้าของบัลลังก์
21.   เป็นผู้ได้รับการเชื่อฟัง และผู้ที่ไว้วางใจได้

คำแปล R4.
19. แท้จริง อัลกุรอานคือคำพูดของร่อซูล (ญิบรีล) ผู้ทรงเกียรติ
20. ผู้ทรงพลัง ผู้ทรงตำแหน่งสูง ณ พระเจ้าแห่งบัลลังก์
21. ผู้ใดรับการจงรักภักดี ผู้ซื่อสัตย์ ณ ที่โน้น

 
คำแปล R5.
๑๙. แท้จริงอัลกุรอาน เป็นถ้อยคำของทูตผู้ทรงเกียรติ คือ ยิบรีล ซึ่งรับมาจากอัลเลาะห์
๒๐. ผู้มีพลัง อีกทั้งมีเกียรติ ณ พระผู้ทรงอภิบาล ผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งบัลลังก์
๒๑. เป็นผู้ได้รับการเชื่อฟัง ทั้งได้รับไว้วางใจ โดยมลาอิกะห์อื่น ๆ เป็นอย่างดี เปรียบดังในโลกมนุษย์ นบีมุฮำมัดก็เป็นผู้ได้รับการเชื่อฟังโดยมนุษย์ทั่วไป




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัตตักวีรฺ อายะฮฺที่ 22 - 29
   
คำอ่าน
22. วะมาศอหิบุกุม..บิมัจญนูน
23. วะละก็อดเราะอาฮุ บิลอุฟุกิลมุบีน
24. วะมาฮุวะอะลัยฆ็อยบิ บิเฎาะนีน
25. วะมาฮุวะบิก็อวลิชัยฏอนิรฺเราะญีม
26. ฟะอัยนะตัซฮะบูน
27. อินฮุวะอิลลาซิกรุลลิลอาละมีน
28. ลิมัน..ชา...อะมิน..กุม อัย..ยัสตะกีม
29. วะมาตะชา...อูนะอิลลาอัย..ยะชา...อัลลอฮุ ร็อบบุลอาละมีน


คำแปล R1.
22. And (O people) your companion (Muhammad) is not a madman;
23. And indeed he (Muhammad) saw him [Jibrael (Gabriel)] in the clear horizon (towards the east).
24. And he (Muhammad) withholds not  a knowledge of the unseen.
25. And it (the Qur'an) is not the word of the outcast Shaitan (Satan).
26. Then where are you going?
27. Verily, this (the Qur'an) is no less than a reminder to (all) the 'Alamin (mankind and jinns).
28. To whomsoever among you who wills to walk straight,
29. And you will not, unless (it be) that Allah wills, the Lord of the 'Alamin (mankind, jinns and All that exists).


คำแปล R2.
22.   และมิตรของพวกเจ้า(คือนบีมุฮำมัดนั้น) เขาหาใช่ผู้วิกลจริต(ดั่งพวกเจ้าใส่ไคล้)ไม่
23.   ขอยืนยัน แท้จริงเขาได้เห็นยิบรีล ณ ขอบฟ้าอันแจ่มชัด
24.   และเขามิใช่ผู้ที่ตระหนี่ (เก็บงำ) บนความเร้นลับ(ที่ได้รับมาจนไม่ยอเผยแพร่)
25.   และสิ่งนั้นหาใช่คำพูดของมารร้ายที่ถูกอัปเปหิไม่
26.   แล้วพวกเจ้าจะ(หลบเลี่ยง)ไปทางไหน
27.   ที่จริงแล้วอัลกุรอานมิใช่อื่นใดเลย นอกจากเป็นข้อตักเตือน(จากอัลเลาะฮฺ)สำหรับชาวโลกทั้งมวล
28.   เฉพาะแก่บุคคลที่ประสงค์ดี จากพวกเจ้าที่จะยึดทางเที่ยงตรงไว้
29.   และพวกเจ้ามิ (สัมฤทธิ์ผลในสิ่ง) ปรารถนานอกจากโดย (สอดคล้องกับ)ที่อัลเลาะฮฺผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย ทรงประสงค์เท่านั้น

คำแปล R3.
22.   และ (โอ้ชาวมักกะฮฺ) สหายของสูเจ้ามิใช่คนบ้า
23.   เขาได้เห็นรอซูลนั้นบนขอบฟ้าอันชัดแจ้ง
24.   และเขาไม่ได้เป็นคนขี้เหนียวในเรื่องการนำสิ่งที่มองไม่เห็น (ไปยังผู้คน)
25.   และนี่มิใช่ถ้อยคำของมารร้ายที่ถูกสาปแช่ง
26.   แล้วสูเจ้าจะไปไหนเล่า?
27.   แท้จริง นี่เป็นการตักเตือนยังชาวโลกทุกคน
28.   สำหรับทุกคนในหมู่สูเจ้าที่ต้องการจะปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง
29.   แต่ความประสงค์ของเจ้าไม่มีประโยชน์อันใดเลยเว้นเสียแต่ว่าพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาลจะประสงค์


คำแปล R4.
22. และสหาย (มุฮัมมัด) ของพวกเจ้านั้นมิใช่เป็นคนวิกลจริตแต่ประการใด
23. และโดยแน่นอนเขา (มุฮัมมัด) ได้เห็นเขา (ญิบริล) ณ ขอบฟ้าอย่างชัดแจ้ง
24. และเขา (มุฮัมมัด) มิใช่เป็นผู้ตระหนี่ในเรื่องเร้นลับ
25. และอัลกุรอานนี้มิใช่คำกล่าวของชัยฏอนที่ถูกสาปแช่ง
26. แล้วพวกเจ้าจะไปทางไหนเล่า
27. อัลกุรอานนั้นมิใช่อื่นใด นอกจากเป็นข้อตักเตือนแก่ประชาชาติทั้งมวล
28. สำหรับบุคคลในหมู่พวกเจ้าที่ประสงค์อยู่ในทางอันเที่ยงตรง
29. และพวกเจ้าจะไม่สมประสงค์สิ่งใดเว้นแต่อัลลอฮฺพระเจ้าแห่งสากลโลกจะทรงประสงค์


คำแปล R5.
๒๒. และสหายของพวกเจ้า คือ นบีมุฮำมัดนั้น หาใช่ผู้วิกลจริตไม่
๒๓. ขอสาบานว่าแท้จริงเขาได้เห็นทูตยิบรีลนั้น ณ ขอบฟ้าอันชัดแจ้ง
๒๔. และเขานั้นมิได้ตระหนี่ ในการเผยแพร่สิ่งลี้ลับที่ได้รับการดลมาจากอัลเลาะห์เลย
๒๕. และสิ่งนั้นไม่ใช่คำพูดของมารร้ายที่ถูกอัปเปหิ
๒๖. แล้วพวกเจ้าจะไปทางไหนกันเล่า เมื่อทางชี้นำจากอัลกุรอาน เป็นทางเที่ยงตรงที่สุด พวกเจ้ายังไม่ยอมรับมาเชื่อถือ
๒๗. อัลกุรอานมิใช่อื่นใดเลย นอกจากเป็นคำเตือนแก่ชาวโลกทั้งมวล
๒๘. สำหรับผู้ประสงค์จากพวกเจ้า ที่จะมีความเที่ยงตรง อยู่ในหนทางของศาสนาโดยเที่ยงแท้
๒๙. และพวกเจ้าจะไม่สำเร็จผลใด ๆ ตามที่ประสงค์ นอกจากเป็นไปโดยอัลเลาะห์ พระผู้ทรงอภิบาลแห่งโลกทั้งหลายทรงประสงค์เท่านั้น



صدق الله العظيم  ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ

(จบสูเราะฮฺ อัตตักวีร)

 

GoogleTagged