เขา(วะฮาบีย์)บอกว่า อย่าไปก้าวก่ายเรื่องคุณลักษณะของอัลลอฮ์ นั่นเพราะวะฮาบีย์เอาวามถูกสั่งสอนมาไม่ให้รับรู้หรือป่าว
ว่าแท้จริงแล้วอะกีดะฮ์ดั้งเดิมของตนนั้นสอดคล้องกับอะกีดะฮ์กลุ่มบิดอะฮ์นามกลุ่มมั๊วะตะซิละฮ์
หากเป็นเช่นนี้วะฮาบีย์ผู้อ้างว่าตนเองเท่านั้นคือแนวทางอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ คงเป็นแค่ลมปาก ปะปนอากีดะฮ์บิดเบือน
วะฮาบีย์ชอบพูดอย่างนั้น เพื่อปกปิดไม่ให้คนเอาวามทั่วไปได้รับรู้ถึงธาตุแท้อะกีดะฮ์ของพวกวะฮาบีย์เท่านั้นเอง
วะฮาบีย์มักชอบโจมตีอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ว่า เชื่ออัลกุรอานเป็นมัคโลคเพราะเข้าใจเอาเอง ชงเอง สรุปเองว่า
เป็นมัคโลค เพราะไม่มีอุลามาอฺอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์คนใหนบอกว่าอัลกุรอานเป็นมัคโลคสักคน
แล้วยังอ้างว่า อุลามาอฺซูฟีบางคนเยี่ยมในมัสยิด โดยไม่มีความซอเฮี๊ยะห์อย่างใด
แต่มาวันนี้ ทางเราได้อ้างอิงจากตำรามที่วะฮาบีย์ตีพิมพ์เผยแพร่อย่างชัดเจนไร้ข้อสงสัย ได้ระบุว่า
พระเจ้าของพวกเขามีรูปเป็นชายหนุ่มผมดกหยักศก แล้วอุลามาอฺของวะฮาบีย์ก็บอกว่ามันมีสายรานยงานที่ซอเฮี๊ยะห์ยืนยันตามทัศนะของพวกเขา
วะฮาบีย์เอาวามบางคนรับไม่ได้ เลยโวยวายกันใหญ่เมื่อธาติแท้อะกีดะฮ์ของตนถูกตีแผ่
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่มีบางคนบอกว่าละหมาดตามวะฮาบีย์ไม่ได้ แต่บางคนบอกว่าละหมาดตามได้แต่มักโระฮ์ เพื่อมีอะกีดะฮ์ที่บิดอะฮ์ลุ่มหลงนั่นเอง