ผู้เขียน หัวข้อ: ของเล่นเปิดเทอม ยังจำได้ไหม ถึงใครคนหนึ่ง...  (อ่าน 2301 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด

salam

ใกล้เปิดเทอมกันแล้ว
ของเล่นเปิดเทอม ยังจำได้ไหม ถึงใครคนหนึ่ง...  
มาย้อนเวลากันนะคะ
ที่ลืมไม่ได้อีกอย่างคือ...
การบ้านปิดเทอม แล้วชอบนั่งทำกันอาทิตย์สุดท้ายก่อนเปิดเรียน ไม่รู้ทำไม natural:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 09, 2010, 11:28 AM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ admin

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนสนิท (._.")
  • *****
  • กระทู้: 464
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • ..
คนแก่ชอบพูดถึงเรื่องยามเด็ก

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
บัง admin ก็คงเคยอยากได้ของเล่นเปิดเทอมแบบนี้แน่ๆ  
เผลอๆ เคยเล่นมาหมดแระ   เชื่อ al-firdaus~* เต๊อะ hehe

































« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 09, 2010, 10:46 AM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
ของเล่นเปิดเทอม ยังจำได้ไหม ถึงใครคนหนึ่ง...  
 
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 6 พฤษภาคม 2553 21:26 น.



ผ่านพ้นไปไม่ทันไร ฤดูกาลเปิดเทอมก็หมุนเวียนมาถึงอีกรอบ ซึ่งเมื่อพูดถึงการเปิดเทอมสิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ของผู้ปกครองทุกคนก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของลูกๆ หัวแก้วหัวแหวน ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าหนังสือ เครื่องเขียน เสื้อผ้ารองเท้าและอีกจิปาถะ ซึ่งต่างกับเด็กๆ อาจจะไม่ต้องกังวลอะไร นอกจากเรื่องของเพื่อนใหม่ ห้องใหม่ ครูใหม่ 
     
แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสัก 10 – 20 ปีก่อน คำว่า ‘เปิดเทอม’ ในพจนานุกรมของเด็กๆ นั้น มีความหมายรวมไปถึงการได้ของเล่นใหม่อีกด้วย
       
ในช่วงนั้น รองเท้าบาจา, แพน, เอสซีเอส, เอเอ ถุงเท้าคาร์สัน คือแบรนด์ยอดนิยมของเด็กๆ ในวันวาน และแบรนด์ที่ว่ามานั้น ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องสวยเท่ หรือใส่สบายหรอก หากแต่เป็นแบรนด์ที่มีของเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจแถมมาต่างหาก

       
ไม่ว่าจะเป็น ไดโนเอ็กซ์, รถซิ่งมหาสนุก, คอปเตอร์สายฟ้า, ตัวต่อแพน, ชู๊ตชิงแชมป์, คาร์สันเมจิกจัมโบ้ ฯลฯหากคุณๆ เกิดทันรับรองว่าจะต้องเคยเห็นหรือเคยได้ยินกับชื่อเหล่านี้ และบางคนของเหล่านี้ก็เคยเป็นของรักของหวงที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็มาแตะต้องไม่ได้
       
           
อดีตเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ ย้อนนึกไปถึงทีไรก็มีความสุขทุกที แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นสิ่งที่น่าเศร้าควบคู่กันไปด้วย เพราะไม่ว่าอย่างไรสิ่งที่เราคิดถึงมันก็ไม่มีทางจะหวนคืนกลับมาอีกแล้ว...

       
       
ของเล่นเปิดเทอมในวัยฝันวันเยาว์


      “ผมจำได้ว่า รองเท้าแพนจะเน้นแถมของเล่นสำหรับเด็กผู้ชาย มีหุ่นยนต์ มีหุ่นประกอบ แต่ถ้าเป็นรองเท้าบาจาก็จะเน้นของแถมที่เด็กผู้หญิงก็เล่นได้ ”
       
กมลรัตน์ เสราดี ชายหนุ่มผู้เคยผ่านยุคสมัยที่ 'เด็กๆ ทุกคนต้องมีของเล่นแถมรองเท้า' บอกเล่าถึงบรรยากาศวันวานอันแสนหวาน ก่อนเพิ่มรายละเอียดถึงกระแสความฮิตที่เหล่าวัยซนยุคนั้นต่างต้องไขว่คว้าหาของแถมจากรองเท้า-ถุงเท้ามาไว้ในครอบครองให้ได้

       “ที่ฮิตมากๆ เลยก็มีหุ่น ZOIDS (หรือในอีกชื่อหนึ่งคือไดโนเอ๊กซ์) เป็นหุ่นไดโนเสาร์ ที่แถมมากับรองเท้าแพน อันนี้ฮิตมากๆ เลยครับ จำได้ว่าเด็กผู้ชายยุคนั้นต้องมีเจ้าหุ่นตัวนี้ให้ได้ ส่วนของแถมอื่นๆ ที่ฮิตไม่แพ้กัน ก็มีเครื่องบินกามิกาเซ่ มีจิงโจ้ต่อยมวยของบาจา มีถังโจรสลัด ความรู้สึกที่จำได้แม่นเลยก็คือ ตลอดทั้งเทอมหรือทั้งปี เด็กๆ ทุกคน จะแทบไม่ซื้อรองเท้าใหม่เลย แต่จะรอจนเปิดเทอมครั้งใหม่นั่นแหละ ถึงจะขอพ่อกับแม่ให้ซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้ แล้วที่ซื้อก็ไม่ใช่เพราะอยากได้รองเท้า แต่เพราะอยากได้ของแถม”
       
โดยกมลรัตน์สังเกตว่า ของเล่นที่แถมมากับรองเท้าในยุคนั้น มักจะจะมีความหลากหลาย มีไอเดียสร้างสรรค์ที่น่าประทับใจ และไม่เน้นคาแรกเตอร์จากอนิเมชันหรือการ์ตูนยอดนิยมอย่างในสมัยนี้

       “ของเล่นทุกวันนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เห็นแต่การ์ตูนเบ็นเท็นเต็มไปหมด แล้วของแถมเมื่อก่อนมันก็จะเน้นเด็กผู้ชายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ต่างจากทุกวันนี้ที่มีแอคเซสซอรีสำหรับเด็กผู้หญิงมากขึ้น อย่างเช่น กระดุมหรือกิ๊บติดรองเท้า

       “เสน่ห์ที่น่าจดจำที่สุดเกี่ยวกับของแถมเหล่านี้ก็คือ มันเป็นของเล่นที่มีความแมส มีความเป็น 'มหาชน' ไม่ว่าคนรวยหรือคนจนก็มีไว้ในครอบครองได้ทั้งนั้น เด็กๆ ทุกคนเป็นเจ้าของได้ มันเป็นของเล่นที่เสมอภาค เปิดเทอมเมื่อไหร่ เด็กๆ ทุกคนก็ได้มีได้เล่นเหมือนๆ กัน”



พลาสติกที่เปี่ยมไปด้วยความทรงจำ

       “จริงๆ แล้วต้องออกตัวไว้ก่อนนะ ว่าผมไม่ได้เป็นคนเก็บของเก่า แต่ว่าผมสนใจแล้วก็ชอบเขียนเรื่องเหล่านี้เท่านั้นเอง เอาเข้าจริงๆ แล้วข้อมูลที่ผมมีก็จะมาจากความทรงจำของเด็กที่วันนี้วัยใกล้จะ 40 ทั่วๆ ไป”
       
นักเขียนอย่าง สืบสกุล แสงสุวรรณ ที่สนอกสนใจเรื่องเก่าๆ เป็นพิเศษพยายามย้อนนึกถึงความผูกพันที่มีต่อของเล่นเปิดเทอมในวัยเด็กของเขา
       
            “ตอนช่วงใกล้เปิดเทอม ในช่วงก่อนปี 2520 นี่จะไม่ค่อยมีของแถมที่แถมมากับพวกรองเท้าถุงเท้า จะมีก็แต่พวกของแถมจากธนาคารออมสิน แต่พอเข้าปี 2523 – 2524 เป็นต้นมา ของเหล่านี้ก็มีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แถมมากับรองเท้าบาจา รองเท้าแพน ถุงเท้าคาร์สัน รองเท้าเอสซีเอส แต่พวกเสื้อนักเรียนนี่จะไม่มีของแถม ช่วงแรกๆ มันจะไม่ค่อยมีของเล่นนะ แต่จะเป็นของที่เกี่ยวกับการเรียน เช่น ไม้บรรทัดคาร์สัน และอื่นๆ แต่พอในช่วงหลังปี 24 มาจนถึงปี 30 กว่านี่จะกลายเป็นของเล่นทั้งหมดเลย
       
            “ตอนผมเด็กๆ มันไม่ค่อยมีโฆษณาโทรทัศน์เท่าไหร่ เต่เราก็ต้องตั้งตารอดูนะว่า ตอนเปิดเทอมเขาจะขายอะไร แล้วก็ไปบอกพ่อกับแม่ว่าอยากได้อะไร ส่วนมากพ่อกับแม่ก็จะซื้อยี่ห้อที่มีของแถมเป็นพวกอุปกรณ์การศึกษา สันนิษฐานว่าตอนนั้นเศรษฐกิจนี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พอผ่านช่วงนั้นมาเศรษฐกิจดีขึ้น ของแถมเปิดเทอม ก็เลยกลายเป็นของเล่นที่ดูฟุ่มเฟือยขึ้นมา แต่ทุกวันนี้ของแถมมันไม่ได้รับความนิยมแล้ว เพราะผมคิดว่าของเล่นต่างๆ ที่เด็กนิยมเล่นกันนี้มันพัฒนาไปมาก มันมีการละเล่นใหม่ๆ ของเล่นแถมมันก็ไม่สนุกอีกต่อไป มันเป็นไปตามยุคสมัย”
       
           
ซึ่งอีกสาเหตุการหายไปของบรรดาของเล่นเปิดเทอมนั้น ณัฐพล โกวิทานนท์ นักสะสมของเล่นเก่า วัย 35 ปี จากจังหวัดพังงา บอกกับเราว่า เหมือนมันจะมีกฎหมายออกมาควบคุมการแถมของแถมที่มาตอนเปิดเทอมพวกนี้ ซึ่งน่าจะเป็นตอนต้นๆ ทศวรรษที่ 30 แต่ของเก่าๆ ที่เคยออกมานั้นก็มีมากมาย และเขาก็ได้ตามหามาเก็บเอาไว้เพื่อเป็นคอลเลกชั่นความทรงจำของตนแล้ว
       
            “ผมเก็บของพวกนี้มาได้ไม่นานนะ แต่ใจน่ะอยากเก็บมานานแล้ว คือของที่เราตอนเด็กๆ มีเราก็ทำพังไปหมด เลยต้องมาตามเก็บใหม่ตอนโต อย่างของรองเท้าแพนนี่ผมว่าผมมีครบทุกชิ้นนะครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลื่อน เกมกระดาษ จานบิน ฯลฯ ของคาร์สันก็จะเยอะหน่อยครับ แต่ของเอสซีเอสนี่ ผมมีน้อยกว่าอย่างอื่น และถ้านับของที่มีซ้ำๆ กันที่ผมมีอยู่มากกว่าร้อยชิ้นครับ”
       
           
ซึ่งของที่ดูไม่มีราคาค่างวดใดๆ เหล่านี้ ได้กลับกลายเป็นของมีค่าขึ้นมาก็ด้วยความทรงจำที่มีอยู่ในนั้นนั่นเอง
       
            “ของเล่นพวกนี้มันออกมาในช่วงที่ผมอายุ 5 – 6 ขวบ อยู่เลย เสน่ห์ของมันอยู่ที่ความทรงจำที่เรามีกับของชิ้นนั้นๆ สมัยเด็กๆ กว่าเราจะได้มาแต่ละชิ้นก็ต้องรอนานกันเป็นเทอม ตอนนี้เอามาตั้งโชว์ก็ยังสวยอยู่นะ ส่วนของที่ผลิตใหม่นี่ถึงแม้จะหาได้แต่ก็ไม่เหมือนของเดิม อย่างโจรสลัดถัง ที่ตอนนี้มีขายอยู่มันเป็นของทำใหม่ ขนาดมันจะไม่เท่ากับของแถมรองเท้านะ เพราะของที่แถมมากับรองเท้านั้นมันจะถังใหญ่กว่า สูงสัก 5 นิ้วได้ กว้างก็เกือบ 4 นิ้วได้
       
            “ส่วนของที่หายากแล้วก็เป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่นักสะสม น่าจะเป็นตัวเลื่อนแพน กับหุ่นไดโนเสาร์ที่ชื่อว่า 'ไดโนเอ็กซ์' แต่ตัวเลื่อนนี่ต้องมีครบทั้งชุดนะ ถ้ามีแค่ชิ้นสองชิ้นก็จะไม่ค่อยเท่าไหร่”

       
       
           
การตลาดมีอยู่ทุกที่
     
            “คนแต่ละคนมันมีเหตุผลในการซื้อของต่างๆ กันไป สำหรับสินค้าที่เอาของเล่นมาเป็นตัวล่อนั้นก็เป็นพราะว่าตัวเด็กมีอิทธิพลในการเลือกซื้อสูง สินค้าเหล่านี้ เด็กไม่ได้ควักเงินจ่ายเอง แต่เป็นเรื่องของพ่อแม่ แต่ถ้าของแต่ละยี่ห้อนั้นมีลักษณะเดียวกันและราคาไล่เลี่ยกัน ก็ต้องมาวัดกันที่ของแถม เพราะนั่นเป็นของที่เด็กอยากได้และเป็นคนเลือก”
       
           
อาทิตย์ โกวิทวรางกูร นักการตลาดและอดีตหัวหน้ากองบรรณาธิการนิตยสารไทคูน ซึ่งเติบโตมาจากยุคที่ของเล่นครองเมืองมองย้อนไปถึงที่มาของของเล่นเหล่านั้น ซึ่งแน่นนอนว่า การตลาดเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญ
       
            “ลักษณะพฤติกรรมการซื้อแบบนี้ เป็นลักษณะของเด็กโดยเฉพาะ คนที่ทำการตลาดสินค้าเหล่านี้จึงคิดเรื่องของแถมขึ้นมา มันจะคล้ายๆ กับแฮปปี้มีลของ แมคโดนัลด์ที่แถมของเล่น กล่าวคือเอาของเล่นมาเป็นสิ่งที่โดดเด่นกว่าผลิตภัณฑ์”
       
           
และปัจจัยสำคัญที่ทำให้การตลาดแบบของแถมหายไปก็คือพฤติกรรมเกี่ยวกับความสนุกสนานของเด็กที่เปลี่ยนไปนั่นเอง
       
            “ไม่ว่าของเหล่านี้จะหายไปเพราะโดนห้าม หรืออย่างอื่นก็ตาม ทุกวันนี้พฤติกรรมของเด็กเปลี่ยนไป เรื่องของความสนุกของเด็กมันอาจจะซับซ้อนมากขึ้น ผู้ผลิตก็อาจจะคิดว่า ของที่เด็กอยากได้นั้นมันไม่เหมือนกัน ไม่แมสอีกต่อไป สาเหตุใหญ่ๆ อีกอย่าง สิ่งบันเทิงของเด็กมันมีอย่างอื่นเข้ามา อย่างเช่น ช่องเคเบิลการ์ตูน หรือเกมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
       
            “และข้อสังเกตอีกข้อคือเด็กสมัยนี้นั้นโตเร็ว อาจจะชอบของแฟชั่นเร็วมากขึ้น ผู้ผลิตเลยต้องไปพัฒนาที่ตัวโปรดักท์ให้เป็นของที่ใส่แล้วสวยใส่แล้วเท่แทน”


       
แต่แล้วมันก็ผ่านพ้นไป     
 
           
เรื่องของของเล่นเปิดเทอมมันอาจจะเป็นเรื่องของคนอีกรุ่นไปแล้ว เพราะเมื่อถามไถ่เรื่องนี้เอากับวัยรุ่นยุคปัจจุบัน เธอคนนั้นถึงกับอุทานออกมาว่า
       
            “โอ้โฮ! มันมีด้วยเหรอคะพี่ แบบนั้นน่ะ”
       
มายด์-พลอยไพลิน สมธนกิจ สาวน้อยหน้าใสวัยมัธยมยอมรับว่า เธอไม่เคยแม้แต่จะได้ยินเรื่องพรรค์นี้เลย
       
            “หนูไม่รู้จักค่ะ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าเขามีแบบนี้ด้วย คงมีไว้เป็นกลยุทธ์ล่อเด็กๆ ให้มาซื้อรองเท้ามั้ง ตอนนี้หนูก็ไม่เห็นมีเลยนะ ของเล่นแถมรองเท้าน่ะ มีแต่แม่เหล็กติดแป๊บรองเท้าเป็นรูปเจ้าหญิง โรงเรียนหนูฮิตกันมาก พี่เชื่อไหม เพื่อนหนูติดแป๊บแบบนี้กันเกือบทั้งห้อง”
       
น้องมายด์ขยายความเพิ่มเติมว่า เจ้า 'ตัวติดแป๊บ' หรือตัวติดกระดุมแม่เหล็กที่ว่านี้ กำลังเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะรูปเจ้าหญิงแสนสวยของรองเท้ายี่ห้อหนึ่ง
       
            “ถ้าซื้อรองเท้าคู่ใหม่เขาก็จะมีรูปเจ้าหญิงมาให้ 5 แบบเลย สวยๆ ทั้งนั้น เอาไว้ใส่ผลัดเปลี่ยนกัน ซื้อรองเท้าคู่ใหม่ครั้งหนึ่งก็ได้มาทั้ง 5 แบบเลยค่ะ หนูเองที่ผ่านมาก็ซื้อรองเท้าใหม่ทุกปีเลยนะ เพราะอยากได้ตัวติดแป๊บนี่แหละ มันสวยดีค่ะ”
       
           
มายด์เล่าแบบเขินๆ เพราะกลัวผู้ใหญ่จะหาว่าสิ้นเปลือง แต่เธอก็ปฏิเสธความรู้สึกตัวเองไม่ได้ที่ต้องยอมใจอ่อนให้กับแอคเซสซอรีเก๋ๆ นี้ร่ำไป
       
            “นอกจากเจ้าหญิงติดแป๊บรองเท้าแล้ว ตอนนี้ที่กำลังเริ่มฮิตกันก็มีแผ่นยางรูปแมวเหมียวหลายสี เอาไว้ติดที่ส้นรองเท้า เหมือนเป็นสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่า วันนี้ฉันอารมณ์ดีนะก็ใช้สีสดใส ถ้าวันนี้หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดีก็ใช้สีเข้มๆ”
       
           
ดูท่าว่ากลุ่มเป้าหมายของบริษัทรองเท้า พ.ศ. นี้ จะเบนเข็มจากเด็กผู้ชายจอมเฮี้ยวมาเป็นสาวน้อยรุ่นกระเตาะอย่างเต็มรูปแบบแล้ว  และเมื่อไปสอบถามเอากับร้านขายรองเท้าและอุปกรณ์การศึกษาเก่าแก่ย่านบางลำพูก็ได้คำตอบว่า พวกของเล่น ของแถมที่มักจะมากับรองเท้า ถุงเท้า มันหายไปประมาณ 5-6 ปีแล้ว

       
           
คุณป้า สุนีย์ ลีลาสัจจานุรักษ์ จากร้านทรงสิริที่ขายเสื้อผ้า-รองเท้านักเรียนมา 30 กว่าปี บอกกับเราว่า
       
            “เมื่อก่อนเศรษฐกิจดี ของแถมก็เลยมี แล้วสมัยก่อนเด็กๆ ก็ชอบ ต้องขอให้พ่อแม่ซื้อให้ แต่เดี๋ยวนี้เด็กไม่เอาของแถมแล้วเพราะต้องเพิ่มเงิน”
       
ป้าสุนีย์จำได้ว่าของแถมที่เป็นของเล่นชุดสุดท้ายในร้านเหลือค่อนข้างเยอะ  พอข้ามไปฝั่งตรงข้าม ร้านศรีภัณฑ์ ร้านนี้ขายมา 50 ปี คุณป้า เย็นจิตต์ อัศวปรีชาวงศ์ ยังจำบรรยากาศสมัยก่อนได้ว่า เวลาเปิดเทอมในร้านจะวุ่นวายมากมายจากจำนวนพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กๆ ที่มาซื้อของต้อนรับเปิดเทอม แล้วเด็กส่วนใหญ่ที่ซื้อรองเท้าก็ไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้รองเท้าสักไหร่ แต่อยากได้ของเล่น
       
            “วุ่นวายมาก ต้องมีที่เก็บของเล่นด้วย แล้วสมัยก่อนเขาก็ไม่ได้แถมให้ฟรีๆ ต้องเพิ่มเงิน แต่ก็ไม่แพง แต่พอช่วงห้าหกปีนี่ก็หายไป ไม่มีของแถม ทางโรงงานเขาก็ไม่บอกว่าทำไม แต่ได้ยินว่าเขาโคกันว่าจะหยุด
       
            “เดี๋ยวนี้ เด็กๆ ก็ไม่เอาของเล่นแล้ว ไม่มีของแถม แล้วเด็กก็มีเงินซื้อของเล่นแพงๆ มาเล่นกันแทน”
       
ตอนนี้ สินค้าที่มีของแถมอยู่ในร้านศรีภัณฑ์คือถุงเท้ายี่ห้อหนึ่ง ไม่ใช่ของเล่น แต่แถมไม้บรรทัด โดยต้องเพิ่มเงิน 10 บาท ถ้าเพิ่มเงิน 69 บาท ถึงจะได้เสื้อ แต่ป้าเย็นจิตต์ก็บอกว่า ไม่ค่อยมีใครเอา
       
                            ……….
       
           
สุดท้ายแล้ว อดีตก็เป็นสิ่งที่มีเอาไว้จดจำและหวนนึกย้อนไปถึงวันชื่นคืนสุข จะว่าไปชีวิตคนเราก็เหมือนการขับรถที่ต้องเคลื่อนไปข้างหน้า บางครั้งก็อาจจะเหลือบไปมองกระจกหลังบ้างเพื่อมองหาความทรงจำดีๆ แต่ถ้ามัวมองกระจกหลังบ่อยๆ โดยที่ไม่สนใจทางข้างหน้า รถก็อาจจะตกไหล่ทางและเกิดอุบัติเหตุได้
       
                             ..........
       
             เรื่อง : ทีมข่าว CLICK


ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
ตอนเรียนประถมเคยเอาขนมมาขายในห้อง
เอาของเล่นที่เป็นแผ่นกระดาษ 1 แผง เปิดออกมาจะได้เงินหรือขนมนี่แหละ
รายได้ช่วงนั้นเป็นกอบเป็นกำ จนคุณครูประจำชั้น ต้องเรียกไปคุย
ฐานข้ามหน้าข้ามตา รายได้เสริมคุณครูหดหาย
เพราะนักเรียนในห้องไม่มีตังค์ซื้อวุ้นมะพร้าวที่คุณครูแอบเอามาขายเหมือนกัน

กระทู้ดักอายุ... fouet:

ออฟไลน์ falook

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 25
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • My Twitter
โห.. นี่เก็บไว้หมดเลยเหรอคะ ของเล่นทั้งหมดนั่น  :o
ของเรา...หายไปเกือบหมดแล้ว  sad:

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
โห.. นี่เก็บไว้หมดเลยเหรอคะ ของเล่นทั้งหมดนั่น  :o
ของเรา...หายไปเกือบหมดแล้ว  sad:



ขอเล่นของเพื่อนข้างบ้านทั้งนั้น
รองเท้าใหม่ ถุงเท้าใหม่ไม่มีกับเขาหรอก
รับทอดจากพี่ๆทั้งนั้น
ตอนนั้นนะ อยากได้มากๆ ตื่นตาตื่นใจ แต่ก็อดทุกที

ออฟไลน์ falook

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 25
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • My Twitter

ถือว่า ใช้ของได้อย่างคุ้มค่าค่ะ  wink:

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
คิดถึงของเล่นพวกนี้จังคับ  party:
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
คิดถึงของเล่นพวกนี้จังคับ  party:

คิดถึงเหมือนกัน
รู้สึกผมจะเป็นรุ่นแทบจะสุดท้ายแล้วมั้งที่มีของเล่นพวกนี้อะ
ประมาณว่า D2B กำลังมา แต่ก็ยังได้ฟังเพลงของ ทัช,ฝันดีฝันเด่นอยู่ อิอิ  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 10, 2010, 07:34 PM โดย beechern_ »
hidayah seeker . . .

 

GoogleTagged