เปิดรับสั่งซื้อ หนังสือ อัตเตาบะฮ์ก้าวแรกของผู้ศรัทธา ได้แล้ว
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
กรรมการกลางเป็นวัฮบีหรือบัง
จุฬาท่านใหม่ผู้นี้ ว่ากันตรงๆ ก็คือ สายเดียวกับ ฯลฯ ซึ่่งคนละขั่วกับ สายเลขากรรมการกลาง
ศึกชิงผู้นำมุสลิมวุ่น โวยตัดสิทธิ กก. กทม. 26 คน หวังสกัดคู่แข่ง "พิเชษฐ"ยันยื่นถอดตามขั้นตอน"พิเชษฐ" ยันยื่นถอดถอน กก.อิสลาม กทม. 26 คนขาดคุณสมบัติขัดมติจุฬาราชมนตรีทำตามขั้นตอน ปัดสกัดคู่แข่งชิง "ผู้นำมุสลิม" กรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ แฉพยายามตัดสิทธิ์ กก.มาแล้ว 1 ปี หวังตัดโอกาส "อรุณ-ทองคำ" ชิงตำแหน่งนายพิเชษฐ สถิรชวาล กรรมการอิสลาม จ.เพชรบุรี เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) ยืนยันว่ายื่นถอดถอนคณะกรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร (กทม.) 26 คน เพราะขาดคุณสมบัติ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มท.) นั้นทำตามขั้นตอนทุกอย่าง โดยสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ว่า ขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 และนายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรียังไม่อนิจกรรม โดยสืบเนื่องมาจากมีผู้อุทิศที่ดินย่านสะพานสูง กรุงเทพฯ ให้กับคณะกรรมการอิสลาม กทม. เพื่อให้สร้างเป็นโรงเรียน ซึ่งคณะกรรมการอิสลาม กทม. มีมติจัดสร้างโรงเรียนบนที่ดินผืนดังกล่าว ต่อมาคณะกรรมการชุดดังกล่าวก็กลับมติใหม่ เปลี่ยนจากโรงเรียนมาสร้างมัสยิดแทน ดังนั้น เมื่อมีมติดังกล่าวทางผู้อุทิศไม่ยอม เพราะผิดเจตนารมณ์จึงได้ทำหนังสือมาถึงสำนักจุฬาราชมนตรีและทำหนังสือฟ้อง ร้อง"นายสวาสดิ์ ในฐานะจุฬาราชมนตรี ขณะนั้นให้คณะกรรมการทรงคุณวุฒิพิจารณา เพื่อสอบสวนรายละเอียดตามหลักศาสนา โดย กอท. จึงมีมติ 22 ต่อ 7 ยืนตามมติเดิมคือสร้างโรงเรียน แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการอิสลาม กทม.ทั้ง 26 คนไม่ปฏิบัติตามมติ จึงได้นำเข้าหารือในประชุม กอท. ประมาณ 12 ครั้งทุกครั้งที่มีวาระเรื่องนี้จะอภิปรายกันและหาข้อสรุปไม่ได้" นายพิเชษฐกล่าว และว่า จึงขอมติที่ประชุมให้มอบอำนาจให้ตนไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะกระทำของคณะกรรมการอิสลาม กทม.ทั้ง 26 คนถือว่าขาดคุณสมบัติ เพราะไม่ปฏิบัติตามมติจุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาเลขาธิการ กอท.กล่าวว่า หลังจากมีมติ กอท.มอบหมายให้ตนดำเนินการแจ้งให้คณะกรรมการอิสลาม กทม.รับทราบ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่ยอมจบ และยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน ส่วนที่กรมการปกครอง (ปค.) ระบุว่าตนไม่ได้ส่งรายงานการประชุม และสถานที่ประชุมและคะแนนเสียง ประกอบการถอดถอนไปนั้น คงไม่ใช่เพราะหลังจากที่ กอท.มีมติได้แจ้งให้ ปค.รับทราบแล้ว แต่เพื่อให้เรื่องชัดเจนวันที่ 13 พฤษภาคม จะนำรายละเอียดทั้งหมดไปส่งมอบให้กับ ปค. รวมทั้งชี้แจงข้อสงสัยทั้งหมดเพื่อให้เรื่องได้ยุติ"รู้สึกแปลกใจว่าประเด็นนี้ถูกหยิบยกมาช่วงที่กำลังคัดเลือกจุฬา ราชมนตรีคนใหม่ ดังนั้น มองว่าน่าจะมีอะไรแอบแฝงหรือไม่ อาจจะเป็นได้ว่าต้องการให้ทุกฝ่ายมองว่าผมไปรังแกคณะกรรมการชุดดังกล่าว และหวังลดความน่าเชื่อถือในตัวผมเพราะออกมาประกาศสนับสนุนนายทวี (ซาฟีอี) นภากร อิหม่ามมัสยิดมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นพี่ภรรยา รวมทั้งที่ระบุว่าการที่ผมยื่นถอดถอนคณะกรรมการอิสลาม กทม. เพื่อต้องการตัดคะแนนเสียงนายอรุณ บุญชม ประธานกรรมการอิสลามประจำ กทม.ที่เป็นตัวเต็งได้รับคัดเลือกเป็นจุฬาราชมนตรีคนใหม่ ขอบอกว่าไม่ใช่ เพราะความจริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเลย ทุกอย่างดำเนินการตามอำนาจและขั้นตอน และตามมติของ กอท. ไม่ใช่การรังแกแน่นอน ตรงกันข้ามมองว่าคนบางกลุ่มอาจจะถือโอกาสนี้ทำหนังสือเวียนกระจายข่าวเรื่อง ยื่นถอดถอนคณะกรรมการชุดดังกล่าวไปยังมัสยิดทั่วประเทศ เพื่อให้มองว่าผมรังแกกลุ่มบุคคลดังกล่าว" นายพิเชษฐกล่าวนายพิเชษฐกล่าวว่า วันนี้ (11 พฤษภาคม) มีการประชุม กอท.ประจำเดือนพฤษภาคม ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้ตนทำหนังสือชี้แจงกรณีข้อเท็จจริงการยื่นถอดถอนคณะ กรรมการอิสลาม กทม.ทั้ง 26 คนไปยังมัสยิด โต๊ะอิหม่าม และผู้นำศาสนา ได้รับทราบข้อเท็จจริงเนื่องจากทราบว่าตอนนี้มีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จ จริงด้าน นายอาหมัด ขามเทศทอง กรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ กล่าวถึงการยื่นถอดถอนคณะกรรมการอิสลาม กทม. 26 คน ว่า ถือเป็นการกระทำโดยลุแก่อำนาจของนายพิเชษฐ หนังสือที่มีถึง รมว.มท.ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบ กอท.ว่าด้วยการสอบสวน พิจารณา การยื่นคำร้องคัดค้าน และการวินิจฉัยคำร้องคัดค้านกรณีให้พ้นจากตำแหน่ง ถือเป็นการกระทำที่ขัดกับบทบัญญัติศาสนาอิสลามและกฎหมาย มีพฤติการณ์ที่ไม่สุจริต ไม่โปร่งใส และไม่ชอบมาพากล ยิ่งกว่านั้น หนังสือของนายพิเชษฐ อ้างมติ กอท.ครั้งที่ 10/2552 และ 12/2552 มีมติให้กรรมการอิสลาม กทม. พ้นตำแหน่งนั้น ความจริงแล้ว กอท.ไม่เคยมีคำวินิจฉัย และมติเรื่องขาดคุณสมบัติและให้พ้นตำแหน่งแต่อย่างใด หากแต่เป็นการดำเนินการของนายพิเชษฐเพียงคนเดียว อีกทั้งเป็นการกล่าวข้อความอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นายอาหมัดกล่าวว่า สาเหตุที่นายพิเชษฐ และ กอท.บางคนรวบรัดตัดตอนการวินิจฉัยให้กรรมการอิสลาม กทม.พ้นตำแหน่ง โดยไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของบทบัญญัติทางศาสนาและกฎหมาย เนื่องจากหวังผลประโยชน์ในการคัดเลือกจุฬาราชมนตรี ทั้งนี้ เนื่องจากหากพิจารณาตามรายงานการประชุม กอท.ครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2553 หน้า 5 และ 6 มีคำพูดตอนหนึ่งของนายพิเชษฐต่อที่ประชุมว่า "ผมได้ร่างหนังสือไว้เรียบร้อยเหมือนกันในการที่กรรมการอิสลามกรุงเทพฯขาด คุณสมบัติ ผมไม่ต้องการเอาประเด็นนี้มาหาว่ารังแกในการตัดสิทธิ ยิ่งมีการเตรียมการเลือกตั้งจุฬาฯด้วย ซึ่งที่จริงแล้วไม่เกี่ยวข้องเลย เอาเป็นว่าขอมติที่ประชุมวันนี้ให้กรรมการอิสลามกรุงเทพฯ ปฏิบัติตามมติ กอท.ภายในเวลาเท่าไร และถ้าไม่ปฏิบัติตาม...ผมก็มีหนังสือขาดคุณสมบัติแจ้งไปยังกรรมการประจำ กรุงเทพฯและแจ้งกระทรวงมหาดไทย ถ้าอย่างนั้นมันไม่จบ...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าท่านจุฬาฯจะตายเมื่อไร ผมเห็นว่าต้องรีบดำเนินการในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าท่านเสียชีวิตไปแล้วเรื่องจะเป็นหนังยาว"นายอาหมัดกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ มท.มีหนังสือไปยังประธาน กอท.ถึง 2 ครั้งในเดือนมีนาคม และเมษายน 2553 ขอให้ส่งเอกสารรายงานการประชุมพิจารณาวินิจฉัยความผิดและลงมติถอดถอนกรรมการ อิสลาม กทม.แล้ว แต่ กอท.โดยนายพิเชษฐไม่ดำเนินการอะไรเลย การกระทำของนายพิเชษฐจึงเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อไม่ให้กรรมการ กทม.มีสิทธิคัดเลือกจุฬาราชมนตรี"มีความพยายามมา 1 ปีแล้วที่จะตัดสิทธิกรรมการ กทม. วางแผนว่าจะทำอย่างไรถึงจะถอดถอนให้ได้ หากถอดถอนได้ จะทำให้นายอรุณ บุญชม ประธานกรรมการ นายทองคำ มะหะหมัด กรรมการ ซึ่งเป็นผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อได้รับผลกระทบโดยตรง นอกจากนี้ เขายังออกข่าวทีวีช่อง 9 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่าพวกเราถูกถอดถอนแล้ว สร้างความสับสนให้โหวตเตอร์ทั่วประเทศ" กรรมการอิสลามกรุงเทพฯกล่าว