แค่ได้คุยกับแม่...ความเครียดก็ทุเลาเบาบาง~*

[al-firdaus~*]

Tweet

salam

เอเจนซี  - พบวิธีการง่ายดายที่สุดในการสยบความเครียด ไม่ใช่การกินช็อกโกแลต หรือเล่นโยคะ แต่เพียงแค่คุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแม่เท่านั้น

นักวิจัยพบว่าการได้ยินเสียงแม่ช่วยบรรเทาความเครียด และการโทรศัพท์มีผลเท่ากับอ้อมกอด   การค้นพบนี้อาจช่วยอธิบายว่า เหตุใดแม่จึงมักเป็นคนแรกที่เราเลือกเป็นที่พึ่งในยามที่มีปัญหา แม้ว่าเราจะโตแล้วก็ตาม    ทีมนักวิจัยอเมริกันพยายามศึกษาบทบาทของออกซิโตซิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ แรงดึงดูดทางเพศ ความไว้ใจและความเชื่อมั่น

      
ออกซิโตซิน หรือที่หลายคนเรียกว่าฮอร์โมนการสวมกอด จะหลั่งออกมาเข้าสู่กระแสเลือดระหว่างการคลอดบุตร ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม และระหว่างการให้นม ช่วยให้แม่ลูกผูกพันกันยิ่งขึ้น   นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าฮอร์โมนชนิดนี้มีบทบาทสำคัญต่อความสามารถของแม่ในการปลอบโยนลูก และทำให้ทารกหายเครียดเมื่อร่างกายผลิตออกซิโตซิน

      
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เมดิสันขอให้เด็กหญิงอายุ 7-12 ปีกว่า 60 คนออกไปพูดหน้าห้องโดยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน และแก้โจทย์เลขต่อหน้าคณะกรรมการที่เป็นคนแปลกหน้า  คำสั่งเหล่านี้ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดของเด็กพุ่งขึ้น   หลังจากนั้น เด็กหญิง 1 ใน 3 จะได้รับอนุญาตให้แม่เข้ามาปลอบเป็นการส่วนตัว  อีก 1 ใน 3 ได้โทรหาแม่ และที่เหลือดูหนังเรื่องมาร์ช ออฟ เดอะ เพนกวินส์ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มหนังที่มีความเป็นกลางด้านอารมณ์  รายงานที่อยู่ในวารสารโปรซีดดิงส์ ออฟ เดอะ รอยัล โซไซตี้ บี ระบุว่าระดับออกซิโตซินในเด็กที่ได้พบหรือคุยโทรศัพท์กับแม่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว  ขณะที่ระดับฮอร์โมนชนิดนี้ในเด็กกลุ่มที่ 3 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด  ที่น่าประหลาดใจก็คือ ภายในชั่วโมงเดียว เด็กที่ได้โทรหาแม่สงบลงพอๆ กับเด็กที่ได้พบแม่

      
ดร.เลสลี เซลเซอร์ ผู้นำการวิจัยนี้ กล่าวว่าเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่ออกซิโตซินจะหลั่งออกมาขณะที่มีความผูกพันทางสังคมที่ต้องมีการสัมผัสทางร่างกายเกิดขึ้น   แต่จากผลการศึกษานี้ชี้ชัดว่า เพียงเสียงของแม่ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับการกอด  การศึกษาในอดีตบ่งชี้ว่า การสัมผัสทางร่างกายจำเป็นต่อการผลิตออกซิโตซินในสถานการณ์ตึงเครียด  ทว่าเป็นการทดลองกับหนูจึงไม่สามารถนำผลจากการใช้ภาษาที่มีบทบาทสำคัญสำหรับคนเรามาพิจารณาประกอบด้วย
      
อย่างไรก็ดี นักวิจัยชี้ว่าแม้แต่ตัวอ่อนในครรภ์มารดาอย่างน้อยในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ สามารถจดจำเสียงของแม่ได้
ทว่า ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเสียงของแม่มีผลทางอารมณ์ต่อตัวอ่อนหรือไม่

[little cat]

คิดถึง 

[Bangmud]

 salam

ธรรมดา ฮอร์โมนตัวนี้ เท่าที่ผมเคยรู้จัก หมอเขาไว้ฉีดเร่งคลอดให้แม่ที่ไม่มีลมเบ่ง

หลังคลอด ถ้าแม่ถูกดูดนม ก็จะหลั่งฮอรฺโมนนี้เช่นกัน ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว และทำให้น้ำนมมาเร็ว

ถือเป็นข้อมูลใหม่สำหรับผม ที่ออกซีโตซิน ทำให้หายเครียด เหมือนได้สัมผัสความรักจากแม่

ขอบคุณผู้นำเสนอครับ ทำให้รักแม่มากขึ้น และคิดถึงท่าน แม้ท่านจะไม่อยู่ด้วยแล้ว

[al-firdaus~*]

แม่มักแก้ปัญหาด้านความรู้สึกให้เราได้บ่อยครั้ง...
อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ  
แม้ว่าใครๆ จะทำให้เราบอบช้ำ  ยังมีแม่อยู่ข้างเราเสมอ
เพราะแม่มีความอ่อนโยน อ่อนหวานมากกว่าพ่อ  สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้ลูกมีกำลังใจในยามเผชิญสิ่งกดดัน
อาจเป็นเพราะแม่คอยดูแลเราตั้งแต่เล็กๆ  เราร้อง เราหิว เราหงุดหงิด แม่จะรู้ตลอด
เวลาใดบ้างที่เราต้องการกำลังใจ  แม่มองตาเรา จะเข้าใจได้ทันที   เหมือนว่าจิตใจเราเชื่อมโยงกับแม่เสมอ
ในยามที่พ่อทำโทษลูก จะมีแม่คอยห้าม คอยดึงตัวลูกมากอดไว้ก่อน
ถึงลูกจะผิด แต่คนเป็นแม่คงทนเห็นลูกเจ็บปวดไม่ได้  ขอกอดไว้ก่อน แล้วตักเตือนในภายหลัง
สิ่งเล็กๆเหล่านี้ ทำให้ลูกซึมซับความอบอุ่นทางใจทีละเล็กละน้อยจากแม่
ในขณะที่พ่อต้องทำงานนอกบ้านซึ่งอาจมีเวลาไม่มากนัก  ความรักอาจแสดงออกมาแตกต่างจากแม่
แต่ทั้งพ่อและแม่ก็คือ กำลังใจของลูกๆ และคอยเป็นห่วงลูกเสมอไม่ว่าพวกเขาจะเติบใหญ่มีครอบครัวไปแล้วก็ตาม
เป็นอามานะฮ์ที่คนเป็นพ่อและแม่ต้องรักษาไว้ตลอดไป  

 

[กูปีเยาะฮฺสะอื้น]

จริงๆครับ

[JawhaR]

ญาซากิลลาฮ์ ก๊ะอัล-ฟิรดาวส์ สำหรับบทความนะครับ

ผมขอเข้ามาคอนเฟิร์ม โช๊ะเดะ กับงานวิจัยชิ้นนี้คับ ว่าการได้คุยกับคุณแม่เรานั้นทำให้เราหายเครียดจริงๆ
เพราะทุกครั้งที่ผมรู้สึกเครียด ไม่สบายใจ หรือหงุดหงิด ผมก็จะโทรคุยกับท่าน แต่ไม่ใช่ว่าโทรไประบายความเครียดนะคับ
โทรไปคุยเรื่องทั่วไป คุยเรื่องที่บ้าน เรื่องพี่น้อง คุยเรื่องท่าน วันนี้ท่านทำอะไรบ้าง ทำอะไรทาน ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เวลาที่คุยกับท่านแล้วหายเครียด เพียงแค่รู้สึกว่าคุยกับท่านนั้นไม่ต้องมาพะวง
ไม่ต้องมากั๊ก หรือกลัวว่าคำพูดเรานั้นจะทำให้ตัวเองรู้สึกตะกัรโบรแต่อย่างใด เพราะไม่คิดที่จะโอ้อวดกับท่านอยู่แล้ว
และเพิ่งจะมาประจักษ์กับเหตุผลทางวิชาการก็วันนี้แระคับ  

[XO5--->>>SuNsHinE +_____+]

  

ชอบบทความนี้จัง  อ่านแล้ว ใช่เลย   

[al-firdaus~*]

สิ้นเดือนแล้ว...
หากได้คุยกับแม่  ความเครียด(ของใครบางคนในนี้)คงทุเลาเบาบาง
มะห์จ๋า  ตังค์นู๋หมดแล้ววววววววววว โอนให้ทีนะมะห์จ๋า   

[Beechern]

คือ "ความเมตตา" จากพระผู้อภิบาลที่มอบให้แก่มนุษย์อย่างแท้จริง

[Al Fatoni]

ทำไมนะ เวลาห่างแม่ไกลๆ นานๆ เมื่อได้เสียงแม่ทีไร น้ำตาคลอเบ้าทุกที  มันหลายอารมณ์ ทั้งเป็นห่วงแม่ คิดถึงแม่ อยากเจอแม่ อยากกอดแม่ และอีกหลายความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และคิดว่าหลายคนก็ต้องเคยรู้สึกแบบนี้ - วัลลอฮุอะอ์ลัม - วัสสลามุอลัยกุม

[al-firdaus~*]

ทำไมนะ เวลาห่างแม่ไกลๆ นานๆ เมื่อได้เสียงแม่ทีไร น้ำตาคลอเบ้าทุกที  มันหลายอารมณ์ ทั้งเป็นห่วงแม่ คิดถึงแม่ อยากเจอแม่ อยากกอดแม่ และอีกหลายความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และคิดว่าหลายคนก็ต้องเคยรู้สึกแบบนี้ - วัลลอฮุอะอ์ลัม - วัสสลามุอลัยกุม

ถ้ามีคนรัก ไม่รู้จะคิดถึงแม่มากเหมือนเดิมหรือป่าวเนอะ...
แม่นั้นมีแค่คนเดียว...
แต่...
ที่เหลือต่อเอาเองนะ  กลัวหูยาน 

[Napat]

 salam


  ร้องไห้ดีกว่า คิดถึงมะจังเลย อยากหลบบ้านแล้ว ฮือๆๆๆๆๆ
อยากไปกอดมะ   

[muzaheh]

...T^T...

[tatcha_jah ~♪]

เราไม่มีแม่

[tholeeb]

 salam

แต่ทั้งพ่อและแม่ก็คือ กำลังใจของลูกๆ และคอยเป็นห่วงลูกเสมอไม่ว่าพวกเขาจะเติบใหญ่มีครอบครัวไปแล้วก็ตาม
เป็นอามานะฮ์ที่คนเป็นพ่อและแม่ต้องรักษาไว้ตลอดไป  เป็นอามานะฮ์ที่คนเป็นพ่อและแม่ต้องรักษาไว้ตลอดไป 

 

ทำไมหรือในขณะที่ เมื่อก่อนลูกๆหลายคนพ่อแม่อุตส่าห์เลี้ยงจนเติบใหญ่ โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย  แต่พอท่านแก่เฒ่ากลับไม่มีลูกคนไหนเหลียวแล   
        คิดถึง แม่ เหลือเกิน เดี๋ยวจะรีบโทรกลับไปนะครับ
اللهم اغفرلنا دنوبنا ولوالدينا وارحمهماكماربيانا صغا را