มัสยิดครบวงจรที่ศรีสะเกษกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่เพียงความสะอาด
ขึ้นชื่อว่าโครงการมัสยิดครบวงจรของแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทยแล้ว มีคำถามเกิดขึ้นมาจากคนรอบข้างว่า โครงการนี้ทำแล้วได้อะไรบ้าง นอกจากไปติดป้ายให้เกลื่อนมัสยิดว่าห้ามสูบบุหรี่ แล้วก็ตัดหญ้า ทำความสะอาดบริเวณมัสยิด ชื่อโครงการเสียใหญ่โตทำได้เพียงแค่นี้หรือ
ครั้นจะมานั่งอธิบายจากใบโครงการคงมองไม่เห็นภาพ เลยขออาสาพาไปดูที่มัสยิดวะดานียะห์ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ มัสยิดนี้นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงในแง่ความสะอาดสะอ้านของพื้นที่แล้ว การบริหารจัดการมัสยิดของที่นี่ก็เปลี่ยนไปด้วย
เพราะด้วยความเชื่อที่ว่า กรรมการมัสยิดเป็นผู้มีบทบาทหน้าที่ทางสังคมโดยตรง และใกล้ชิดกับประชาชนในระดับท้องถิ่นมากที่สุด ดังนั้นหากได้มีการพัฒนาบทบาทของคณะกรรมการมัสยิดจนถึงระดับมาตรฐาน มัสยิดจะสามารถปฏิบัติหน้าที่พัฒนาชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยเหตุนี้แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย ศูนย์ประสานงานภาคอีสาน ในฐานะโต้โผหลักจึงดำเนินการผลักดันมัสยิดวะดานียะห์ให้เป็นมัสยิดครบวงจร โดยการทำให้มัสยิดมีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งฉายออกมาในส่วนของการทำงานทั้งหมด 9 ด้าน
1). มีการการประชุมคณะกรรมการมัสยิดประจำเดือนๆละ 2 ครั้ง ซึ่งจะมีระเบียบวาระและการบันทึกรายงานการประชุมทุกครั้ง
2). มัสยิดจะมีระบบในการบริหารจัดการเอกสารที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดเก็บเอกสารทั้งที่เป็นรายงานการประชุม หนังสือเข้า-ออกทั่วไป เอกสารการเงินและค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินกิจกรรมของมัสยิดอย่างมีระบบ โดยมีผู้รับผิดในการดำเนินงานกิจกรรมด้านดังกล่าวอย่างชัดเจน
3). มัสยิดวะดานียะห์มีการมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบงานจัดการทรัพย์สินของมัสยิดอย่างชัดเจน ทั้งรายได้ รายรับ รายจ่ายและตลอดจนการเก็บรักษาสมบัติ ด้วยการทำบัญชีศาสนสมบัติของมัสยิด ตั้งแต่อาคาร สิ่งของ เครื่องใช้ ที่ดินและอื่นๆ มีการประชุมปรึกษาหาหรือและบันทึกรับรองรายงานทางด้านการเงินทุกครั้งที่มีการประชุม
4). คณะกรรมการมัสยิดมีอำนาจในการกำหนดระเบียบเพื่อบังคับใช้แก่สัปบุรุษตามขอบข่ายที่มีอยู่ โดยจะปิดประกาศให้คนในชุมชนทราบโดยทั่วกันด้วย และเปิดโอกาสให้ทุกคนมีการท้วงติงหรือวิพากษ์วิจารณ์ และจะมีการกำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษรและแจกจ่ายให้ทุกครอบครัว
5). มัสยิดวะดานียะห์ดำเนินการจัดสร้างห้องสมุด โดยเตรียมหนังสือทางด้านวิชาการต่างๆ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้แก่สัปบุรุษ ซึ่งจะมีผู้รับผิดชอบโดยตรงเพื่อดูแลความเป็นระเบียบ และจัดหมวดหมู่หนังสือต่างๆ
6). มัสยิดจะมีการประสานความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ อนามัยชุม องค์การบริหารส่วนตำบล ที่ทำการไปรษณีย์ และหน่วยงานอื่นๆตามความเหมาะสม
7). มัสยิดมีระบบการบริหารจัดการนำเสนอคุตบะห์ทางด้านศาสนาและด้านสุขภาวะเข้าด้วยกันมากขึ้น ซึ่งจะมีการจัดตารางเรื่องที่นำเสนอเป็นประจำเดือน และผู้ที่รับผิดชอบนำเสนอ

. ปรับปรุงห้องที่มีอยู่แล้วมาเป็นห้องสำนักงานให้กับคณะกรรมการมัสยิด มีโต๊ะทำงานอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่นและหัวหน้าฝ่าย
9). มอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบโดยตรงในการเขียนหนังสือโต้ตอบกับหน่วยงานของรัฐและองค์การเอกชนต่างๆ
จากการพัฒนาในด้านการบริหารของมัสยิดที่ประสบความสำเร็จทั้ง 9 ข้อ มีผลให้คณะกรรมการมัสยิดแต่ละคนเกิดความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นในการบริหารงาน จนมีผลต่อเนื่องไปยังการพัฒนาชุมชนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย