ผู้เขียน หัวข้อ: มือของอัลเลาะฮ์ตามหลักอากีดะฮ์ของวะฮาบีย์  (อ่าน 23884 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ del_dangerous

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 178
  • เพศ: ชาย
  • ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
ผมว่า เรารู้แค่ความหมายของมันก็พอแล้ว

22.3]  และในหมู่มนุษย์บางคนมีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์โดยปราศจากความรู้ และเขาจะปฏิบัติตามชัยตอนทุกตัวที่ดื้อรั้น

เพราะมันเกินสติปัญญาของมนุษย์ แค่ศรัทธาตามที่พระองค์บอกไว้ก็พอแล้ว

วัสลาม
ชีวิตคือการเดินทาง สิ่งที่ดีใจคือไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่สิ่งที่น่าเสียใจ คือ ย้อมกลับไปไม่ได้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ผมว่า เรารู้แค่ความหมายของมันก็พอแล้ว

22.3]  และในหมู่มนุษย์บางคนมีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์โดยปราศจากความรู้ และเขาจะปฏิบัติตามชัยตอนทุกตัวที่ดื้อรั้น

เพราะมันเกินสติปัญญาของมนุษย์ แค่ศรัทธาตามที่พระองค์บอกไว้ก็พอแล้ว

วัสลาม

เราทุกคนศรัทธาตามที่พระองค์ทรงบอกไว้  แต่การรู้ความหมาย (ตีฟซีร) กับ กับการรู้คำแปล มันต่างกันนะครับ   ซึ่งหากรู้ความหมาย  แล้วมันหมายถึงอะไรครับ?   แล้วรู้ความหมายที่มันเหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ตาอาลาหรือไม่ ?  นี่คือสิ่งที่เรากำลังคุยกัน

ดังนั้น  หากท่านรู้ซีฟัตของอัลเลาะฮ์ในความหมายที่ไม่เหมาะสม  เราคงไม่นิ่งดูดายและต้องทำการโต้เสวนา แต่หากรู้ความหมายในหนทางที่เหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ต่อคุณลักษณะของพระองค์  เราย่อมไม่มีปัญหาใด ๆ และเราก็ยังให้การยอมรับอีกด้วย นะครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ mujaddid

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 2
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผมว่า เรารู้แค่ความหมายของมันก็พอแล้ว

22.3]  และในหมู่มนุษย์บางคนมีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์โดยปราศจากความรู้ และเขาจะปฏิบัติตามชัยตอนทุกตัวที่ดื้อรั้น

เพราะมันเกินสติปัญญาของมนุษย์ แค่ศรัทธาตามที่พระองค์บอกไว้ก็พอแล้ว

วัสลาม


จากอายัตนี้ก็ชัดเจนแล้วน่ะครับว่าเป็นอย่างไร  มันมีวิทยปัญญาซ่อนอยู่
ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียนจากสถาบันที่ถูกเรียกว่าวะฮาบีย์
ผมไม่เคยฟังแม้แต่ครั้งเดียวที่อุสตาซบอกว่ามือของพระองค์นั้น  เหมือนมือของมัคลูก
แต่อุสตาซสอนว่าเราจะเชื่อตามความหมายของอัลกุรอ่านโดยไม่โต้เถียง
และจากการที่ผมสังเกตการสนทนาพบว่า  ทางกลุ่มที่ตรงข้ามกับวะฮาบีย์จะพยายามลากประเด็นให้เราคิดว่ากลุ่มวะฮาบีย์นี้เชื่อว่าพระองค์มีมือเหมือนเรา  ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยจะมีมุสลิมผู้ใดที่คิดเช่นนี้
ผมก็ถูกเรียกว่าวะฮาบีย์ และผมก็ไม่เคยเชื่อว่าพระองค์มีมือเหมือนมัคลูก  แต่ผมจะไม่โต้เถียงในความหมายของอัลกุรอ่านในประเด็นดังกล่าวโดยถือว่าพระองค์เท่านั้นที่ทรงรู้และจะไม่ทิ้งหรือเปลี่ยน ความหมายที่อัลกุรอ่านให้มา
โดยกลัวว่าเราจะไปทำสิ่งที่ขัดกับอัลกุรอ่านข้างต้น  แต่เขาก็เรียกผมว่า วะฮาบีย์

(อันนี้ผมคิดเอาเองน่ะครับ) คำว่าอำนาจในภาษาอาหรับนี้มีรึเปล่าครับ  ถ้ามีแล้วทำไมพระองค์ไม่ใช้คำว่าอำนาจแทนคำว่ามือในอัลกุรอ่าน ถ้าพระองค์จะให้ความหมายมันว่าอำนาจ

ผมเป็นคนไม่มีความรู้ทางศาสนามากมายนัก แต่สิ่งที่ผมมีคืออิสลาม และจะพยายามคนหาอิสลามตามแบบฉบับของศาสดาให้มากที่สุด
อัสตัฆฟีรุลลอฮฮัลอาซีม(กับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากความไม่รู้ของผม)
 

ข้อสังเกต(ทำไมบอร์ดนี้ถึงไมการยกหะดิษมาคุยกันครับ  หรือประเด็นเหล่านี้ไม่มีแบบอย่างครับ  ผมว่าน่าจะมีแบบอย่างจากสอหาบัตน่ะครับ  แล้วเราพยายามหาแนวทางที่ตรงกับแบบอย่างมากที่สุด)

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
จากอายัตนี้ก็ชัดเจนแล้วน่ะครับว่าเป็นอย่างไร  มันมีวิทยปัญญาซ่อนอยู่
ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียนจากสถาบันที่ถูกเรียกว่าวะฮาบีย์
ผมไม่เคยฟังแม้แต่ครั้งเดียวที่อุสตาซบอกว่ามือของพระองค์นั้น  เหมือนมือของมัคลูก
แต่อุสตาซสอนว่าเราจะเชื่อตามความหมายของอัลกุรอ่านโดยไม่โต้เถียง
และจากการที่ผมสังเกตการสนทนาพบว่า  ทางกลุ่มที่ตรงข้ามกับวะฮาบีย์จะพยายามลากประเด็นให้เราคิดว่ากลุ่มวะฮาบีย์นี้เชื่อว่าพระองค์มีมือเหมือนเรา  ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยจะมีมุสลิมผู้ใดที่คิดเช่นนี้
ผมก็ถูกเรียกว่าวะฮาบีย์ และผมก็ไม่เคยเชื่อว่าพระองค์มีมือเหมือนมัคลูก  แต่ผมจะไม่โต้เถียงในความหมายของอัลกุรอ่านในประเด็นดังกล่าวโดยถือว่าพระองค์เท่านั้นที่ทรงรู้และจะไม่ทิ้งหรือเปลี่ยน ความหมายที่อัลกุรอ่านให้มา
โดยกลัวว่าเราจะไปทำสิ่งที่ขัดกับอัลกุรอ่านข้างต้น  แต่เขาก็เรียกผมว่า วะฮาบีย์

แสดงว่าคุณเองยังไม่ลึกซึ้งในอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์  คุณบอกว่าคุณเรียนจากสถาบันวะฮาบีย์  โดยอุสตาซไม่เคยบอกว่ามือของอัลเลาะฮ์นั้นเหมือนกับมัคโลค  ตรงนี้ไม่ใช่ประเด็นที่เราพาดพิงถึงแนวทางของวะฮาบีย์ที่คุณนับถืออยู่นะครับ   แต่ประเด็นมันอยู่ที่การให้ความหมายของคำว่า "ยะดุน" ตามแนวทางของวะฮาบีย์  ซึ่งวะฮาบีย์นั้นได้ทำการอธิบายความหมาย(ไม่ใช่แปล)ของคำว่า "ยะดุน" ในเชิงภาษาาอาหรับคำแท้ ๆ (ฮะกีกัต) ที่ผู้คนทั่วไปฟังแล้วเข้าใจกันเลย   ผมอยากถามคุณ   mujaddid  หน่อยว่า  "ยะดุน"  ในเชิงความหมายคำแท้ตามแบบฉบับภาษาอาหรับที่ผู้คนทั่วไปรู้กันดีนั้นหมายถึงอะไร??  อย่าลืมไปถามอุสตาซของคุณด้วย  เพราะหลักการของวะฮาบีย์นั้น  เขาเชื่อซีฟัต "ยะดุน" ที่อยู่ในการอธิบายความหมายของคำแท้ตามหลักภาษาอาหรับที่คนทั่วไปเข้ากันใจ  ซึ่งคำถามนี้ยังไม่มีวะฮาบีย์คนใดกล้าตอบผ่านทางเวปไซท์?

ผมจะนำเสนอให้คุณทราบให้ชัดอีกครั้งดังนี้นะครับ

ตัวอย่าง

คำว่า يد الله  (ภาษาไทยแปลว่าพระหัตถ์ของอัลเลาะฮ์)  แต่ตามหลักการแล้วซีฟัตของอัลเลาะฮ์นั้นพระองค์ทรงตรัสไว้ในอัลกุรอานเป็นภาษาอาหรับ  ดังนั้น  ผมจึงขอใช้เรียกคำว่า "ยะดุน" يَدٌ  แล้วกันนะครับ  เพราะอัลเลาะฮ์ทรงเรียกอย่างนี้

คำว่า يد الله  "ยะดุลลอฮ์"  (ยะดุน) นั้น
 
แนวทางที่หนึ่ง : คือ  เชื่อในซีฟัต "ยะดุน"  แต่ขอมอบความหมาย , จุดมุ่งหมายที่แท้จริง และรูปแบบวิธีการไปยังอัลเลาะฮ์ตาอาลา 

แนวทางที่สอง : คือ  เชื่อในซีฟัต "ยะดุน"   แต่ทำการตีความ (ตะวีล)เพื่อให้มีความเข้าใจง่ายโดยสอดคล้องกับหลักภาษาอัลกุรอาน(ภาษาอาหรับ) , ตรงกับหลักของศาสนา(ไม่คัดค้านกับตัวบทที่ชัดเจนเด็ดขาดและแน่นอน) , และสอดคล้องตามหลักของสติปัญญาไปพร้อม ๆ กัน  คือตีความว่า  มันคือ "อำนาจ"  แล้วทำการมอบหมายต่ออัลเลาะฮ์สำทับอีกครั้งหนึ่ง

แนวทางที่สาม : คือ  เชื่อในซีฟัต "ยะดุน"  แต่ทำการอธิบายความหมาย (ตัฟซีร) ของมันให้อยู่ในเชิงภาษาของคำแท้ตามที่มนุษย์เข้าใจกัน  คือหมายถึงซีฟัตของอัลเลาะฮ์ที่เป็นส่วนอวัยวะที่เป็นฝ่ามือที่เป็นส่วนหนึ่งจากตัวตนของพระองค์! ที่เหมาะสมกับเกียรติของพระองค์!??

ทำให้เห็นง่าย ๆ คือ   

แนวทางที่หนึ่ง : เชื่อในซีฟัตยะดุน >-------------------->> แต่มอบหมายกับความหมายและรูปแบบวิธีการ

แนวทางที่สอง  :  เชื่อในซีฟัตยะดุน >-------------------->>  แต่ทำการตีความอยู่ในความหมายของอำนาจ

แนวทางที่สาม  : เชื่อในซีฟัตยะดุน  >-------------------->> แต่อธิบายให้อยู่ในความหมายของอวัยวะส่วนของร่างกายที่เป็นฝ่ามือให้กับอัลเลาะฮ์

สรุป : แนวทางที่หนึ่งและสองคือแนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์  ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ  ศรัทธาในความบริสุทธิ์ในซีฟัตอัลเลาะฮ์จากการไปคล้ายและเหมือนกับมัคโลคในทุกรูปแบบ   

ส่วนแนวทางที่สามนั้นเป็นแนวทางของวะฮาบีย์  ถึงแม้ว่าพวกเขาปฏิเสธการเหมือนระหว่างมัคโลคกับอัลเลาะฮ์  แต่พวกเขายืนยันความคล้ายคลึง(ตัชบีฮ์)ระหว่างซีฟัตของอัลเลาะฮ์และมัคโลค  กล่าวคือ  มนุษย์มีส่วนอวัยวะที่เป็นฝ่ามืออยู่ที่ร่างกายและอัลเลาะฮ์ก็มีส่วนอวัยวะที่เป็นฝ่ามือที่อยู่ตัวตนของพระองค์!  แต่ไม่เหมือนกับมัคโลค!? ซึ่งเป็นแนวทางของวะฮาบีย์ปัจจุบัน

วัลลอฮุอะลัม

คุณ mujaddid ครับ ผมได้นำเสนอหลักการของวะฮาบีย์ถูกต้องใหมครับ? หากผิดตรงใหนช่วยติติงมาด้วย  เอาตามแนวทางของวะฮาบีย์นะครับ  ไม่ใช่เอามาจากอุสตาซ  เพราะบางทีอุสตาซเองก็ไม่เห็นด้วยแบบลึก ๆ กับหนทางของวะฮาบีย์เกี่ยวกับการอธิบายซีฟัตของอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ mujaddid

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 2
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ขอโทษนะครับคุณ al-azhary คือผมต้องการความชัดเจนน่ะครับ
ไม่ทราบว่าไอ้ที่คุณเรียกว่ากลุ่มวะฮาบีย์ 
ถ้าในสามจังหวัดนี้ใช่กลุ่มของ ดร.อิสมาแอลลุฎฟี   ดร.อับดุลฮาลิมไซซิง   รึเปล่าครับ
เพื่อความชัดเจนครับผมจะได้หาข้อมูลถูก
แต่ถ้าเป็นสถาบันของผมน่ะครับ  เขาไม่เคยเอาหนังสือของ  มูฮัมหมัดบินอับดุลวาฮับ  มาสอนเลยน่ะครับ
แต่เขาก็ยังเรียกว่าวะฮาบีย์



ผมเป็นคนไม่มีความรู้ทางศาสนามากมายนัก แต่สิ่งที่ผมมีคืออิสลาม และจะพยายามคนหาอิสลามตามแบบฉบับของศาสดาให้มากที่สุด
อัสตัฆฟีรุลลอฮฮัลอาซีม(กับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากความไม่รู้ของผม)
 

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
السلام عليكم ورحمة الله بركاته

คุณ mujaddid  ครับ  หลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์นั้น  ผมได้ศึกษาอ้างอิงจากตำราของวะฮาบีย์เองและจากตำราของผู้รู้วะฮาบีย์ที่ซาอุฯ เป็นสำคัญ   ส่วนกลุ่มของ ดร. อิสมาอีล ลุฏฟี  และกลุ่มของ ดร.อับดุลฮาลิม ไซซิง นั้น  ผมไม่เคยนำมาเป็นบรรทัดฐานอ้างอิงเกี่ยวกับอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์เลยครับ   เนื่องจากผมต้องการนำตำราของซาอุฯมาเป็นบรรทัดฐานในการอ้างอิงอะกีดะฮ์ซีฟาตของอัลเลาะฮ์ตามทัศนะของวะฮาบีย์ดีกว่า  จะได้ชัดเจนยิ่งกว่านะครับ 

และสิ่งที่ผมได้นำเสนอชี้แจงไปเกี่ยวกับอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์นั้น  ผมได้ศึกษาจากตำราต้นขั่วของวะฮาบีย์เรียบร้อยแล้ว  ซึ่งคุณคิดเห็นว่ามันเป็นอย่างไรครับ  ช่วยตอบหน่อยครับ

والسلام
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ นายส้มปาก

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 11
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ขอโทษนะครับคุณ al-azhary คือผมต้องการความชัดเจนน่ะครับ
ไม่ทราบว่าไอ้ที่คุณเรียกว่ากลุ่มวะฮาบีย์ 
ถ้าในสามจังหวัดนี้ใช่กลุ่มของ ดร.อิสมาแอลลุฎฟี   ดร.อับดุลฮาลิมไซซิง    รึเปล่าครับ
เพื่อความชัดเจนครับผมจะได้หาข้อมูลถูก.......
....แต่ถ้าเป็นสถาบันของผมน่ะครับ  เขาไม่เคยเอาหนังสือของ มูฮัมหมัดบินอับดุลวาฮับ  มาสอนเลยน่ะครับ
แต่เขาก็ยังเรียกว่าวะฮาบีย์...

...............ขอเสริมนิดครับ...ผมกาเป็นคนใต้ครับ อยู่แถวๆนั้นแหละ...

ดร.ที่คุณ อ้างถึงนั้นใครๆเขาก้รุ้ว่า เขาอยู่ในผู้เดินตามทัศนะของเชค ที่อยู่ในซาอุ และเชคเหล่านั้นปฏิเสธการมีมัสหับและทัศนะของอุลามะทั้ง4 ซึ่งตรงนี้แหละที่มีแนวคิดแบบเดียวกับท่านมุฮำมัด บินอับดุลวะฮาบ   แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขา จะตามหลักฐานที่ผู้รู้ที่อยู่ในทัศนะ ..
 ในเรื่อง  ปัญหาต่างๆที่เป็นคีลาฟระหว่างทัศนะของอุลามะทั้ง4นั้นเป็นที่รู้ว่า เชคหรือครูที่ซาอุฯรวมทั้งบุคคลที่คุณกล่าวถึงนั้นล้วเป็นผู้ที่อยู่ในเเนวคิดของ ท่านมุฮำมัดทั้งนั้น  คือจะไม่ยอมรับทัศนะของอุลามะ แต่จะตามในสิ่งที่ผู้รู้ในแนวงทางของตนชี้นำไว้  ...

....อีกอย่างเพื่อให้คุณเองได้รู้และไหวตัวทัน ...โดยเฉพาะเรื่อง อะกีดะนั้น พวกเขาจะมีความเชื่อในเรื่องนี้ไม่เหมือนกับคนยุคก่อนในอดีต(สลัฟ) .วาฮาบีย์จะไม่ตีความใดๆในเรื่องตัวอักษร แต่จะปล่อยในเรื่องรูบแบบความเข้าใจ ทั้งๆที่สลัฟยุคก่อนไม่ได้เป็นเช่นนี้ และเป็นที่รู้ว่า ข้อความอัลกรุอ่านนั้นมีทั้งแบบตรง และแบบนัยยะ   ดังนั้นความหมายนั้นย่อมต้องอาศัยผู้รู้   แต่วาฮาบีย์อ้างว่า ใครที่ตะวีลความหมายนั้นจะตกมุรตัด   ..

ส่วนเรื่องหนังสือตำราเรียนนั้น  คุณเองสังเกตุได้เลยว่า...วาฮาบีย์นั้นแบ่งเตาฮีดิออกเป็น 3ประเภท  และมีความเชื่อมั่นว่าอัลลอฮ์ อาศัยบนฟากฟ้า....ของ

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ขอโทษนะครับคุณ al-azhary คือผมต้องการความชัดเจนน่ะครับ
ไม่ทราบว่าไอ้ที่คุณเรียกว่ากลุ่มวะฮาบีย์ 
ถ้าในสามจังหวัดนี้ใช่กลุ่มของ ดร.อิสมาแอลลุฎฟี   ดร.อับดุลฮาลิมไซซิง   รึเปล่าครับ
เพื่อความชัดเจนครับผมจะได้หาข้อมูลถูก

     คุณ mujaddid ครับ  จงละทิ้งการตักลีดที่ผู้รู้คุณบอกให้ออกไปแล้วมาเปิดใจศึกษาหาความจริง  บทสรุปอะกีดะฮ์วะฮาบีย์ที่พวกเราได้นำเสนอนี้  มิได้เป็นการกล่าวหาให้ร้าย  แต่เราได้ทำการอ้างอิงจากตำราของแท้ที่วะฮาบีย์ให้การยอมรับ  ซึ่งบทสรุปอะกีดะฮ์วะฮาบีที่ออกมาทำให้วะฮาบีเองก็ชักจะรับแก่นแท้ของอะกีดะฮ์ตนเองกันไม่ค่อยได้เสียแล้ว  ดังนั้นสิ่งสุดท้ายที่นักศึกษาวะฮาบีย์ได้รับการชี้แจงจากอาจารย์ของพวกเขาคือ ห้ามอ่านการนำเสนอของแนวทางอื่น นอกจากแนวทางของตนเองเท่านั้น  แบบนี้เขาเรียกว่าแช่แข็งหลักอีหม่านและส่งเสริมการตักลีดตาบอดปิดหูปิดตาไม่แสวงหาความจริง  นั่นคือสิ่งที่คุณจะได้รับคำตอบจากอุสตาซฺวะฮาบีของคุณ  lahaolawalaqu

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
การเสวนาระหว่างอะชาอิเราะฮ์กับวะฮาบีย์ :

อะชาอิเราะฮ์ :  คุณเชื่อใช่ไหมว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีซีฟัตมือ اليد 

วะฮาบีย์ :  ใช่ครับ ผมเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีมือ แต่มีรูปแบบอย่างไรนั้นผมไม่รู้

อะชาอิเราะฮ์ : คุณเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีมือตามหลักฮะกีกัตคำแท้ในเชิงภาษาอาหรับที่มนุษย์ทั่วไปเข้าใจกันใช่ไหม?

วะฮาบีย์ :   ใช่ครับ ผมเชื่อตามนั้น  แต่ไม่รู้ว่ามือมีรูปแบบอย่างไร?

อะชาอิเราะฮ์ :   งั้น  คุณลองบอกความหมายของคำว่า اليد  ตามหลักภาษาอาหรับตามหลักฮะกีกัตแบบคำแท้ที่มนุษย์ทั่วไปเข้ากันมาให้ผมทราบหน่อยครับ?

วะฮาบีย์ :  :-X

อัลอะชาอิเราะฮ์ : กรุณาบอกมาให้ผมทราบเถอะครับว่ามันหมายความว่าอย่างไรที่ มือ  اليد  แบบเชิงภาษาอาหรับคำแท้ที่คนทั่วไปเขารู้กัน?

วะฮาบีย์ :   :-X

อัลอะชาอิเราะฮ์ : ทำไมคุณไม่ตอบผมล่ะครับ ทั้งที่มันเป็นหลักการยึดมั่นของคุณเอง  ดังนั้นคุณอย่าละอายในหลักอะกีดะฮ์ของตนเอง

วะฮาบีย์ :   แล้วคุณล่ะทำไมถึงตีความตะวีล

อัลอะชาอิเราะฮ์ : อย่างเพิ่งเลี่ยงประเด็นซิครับ  ตอบคำถามเกี่ยวกับหลักอะกีดะฮ์ของคุณก่อนซิครับ

วะฮาบีย์ : ซีฟัตของอัลเลาะฮ์เราไม่สมควรนำมาพูดกัน

อัลอะชาอิเราะฮ์ : หากคุณเชื่อว่าอะกีดะฮ์ของคุณสัจจริงก็ไม่สมควรละอายที่จะชี้แจงให้กระจ่างและเข้าใจ

วะฮาบีย์ :  ครับๆ

อัลอะชาอิเราะฮ์ :   มือ اليد  ตามหลักภาษาแบบคำแท้(ฮะกีกัต)ที่คนทั่วไปเข้าใจตามหลักภาษาอาหรับนั้นคือ อวัยวะส่วนของร่างกายที่มีนิ้วมีฝ่ามือนั้น ถูกต้องไหมครับ?

วะฮาบีย์ :   ใช่ครับ

อัลอะชาอิเราะฮ์ :   งั้นแสดงว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีมือที่มีความหมายว่า พระองค์ทรงมีซีฟัตหนึ่งที่เป็นมือซึ่งเป็นส่วนจากร่างของพระองค์ที่มีฝ่ามือและนิ้วใช่ไหมครับ?

วะฮาบีย์ :   :-X

อัลอะชาอิเราะฮ์ :   งั้นผมขอเสวนาเพียงเท่านี้นะครับ  วัสลาม

 cool2:

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณบังนูรที่นำเสนอสัจธรรมครับ
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณบังนูรที่นำเสนอสัจธรรมครับ

อัลฮัมดุลิลลาฮ์  วัลลอฮุอะลัม  :ameen:

ออฟไลน์ yala

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 50
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam
คุณ นูร รู้หรือว่า มือ اليد  ของพระองค์นั้น เป็นแบบใหนหรือครับ หรือว่าไม่มี่ครับ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam
คุณ นูร รู้หรือว่า มือ اليد  ของพระองค์นั้น เป็นแบบใหนหรือครับ หรือว่าไม่มี่ครับ

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์  ได้อธิบายชี้แจงหะดิษนี้ว่า

 اليد  هنا المذهبان السابقان في كتاب الإيمان ومواضع في أحاديث الصفات : أحدهما الإيمان بها , ولا يتعرض لتأويلها , مع أن ظاهرها غير مراد . والثاني تأويلها على القدرة

"คำว่า( อัลยะดุ้)اليد  ณ ที่นี้  มีสองมัซฮับที่กล่าวผ่านมาแล้วในบทเรื่องอัลอีมาน และในสถานที่ต่าง ๆ ในบรรดาหะดิษเกี่ยวกับซีฟาต  คือ มัซฮับที่หนึ่ง :  ให้ทำการศรัทธาด้วยกับมัน(ซีฟัตอัลยะดุ้) โดยไม่ต้องนำเสนอตีความกับมันพร้อมกับความหมายผิวเผินของมันไม่ใช่จุดมุ่งหมาย   และมัซฮับที่สอง : ให้ทำการตีความมันให้อยู่ในความหมายของเดชานุภาพ"

ซึ่งทั้งสองมัซฮับนั้น  คือแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ อัลอะชาอิเราะฮ์  ตามที่ผมได้นำเสนอไปแล้วข้างต้นครับ

เชื่อในซีฟัตยะดุน >-------------------->> แต่มอบหมายกับความหมายและรูปแบบวิธีการ

เชื่อในซีฟัตยะดุน >-------------------->>  แต่ทำการตีความอยู่ในความหมายของอำนาจ

ท่านอิบนุญะรีร อัฏฏ๊อบรีย์ ซึ่งเป็นนักปราชญ์สะลัฟ  ได้ทำการตีความ ตะวีล

ท่านอิบนุ ญะรีร ได้ทำการอธิบาย อายะฮ์ ที่ 10 ของซูเราะฮ์ อัลฟัตหฺ ว่า

وفي قوله ( يَدُ اللَّهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ ) وجهان من التأويل: أحدهما: يد الله فوق أيديهم عند البيعة, لأنهم كانوا يبايعون الله ببيعتهم نبيه صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّم ; والآخر: قوّة الله فوق قوّتهم في نصرة رسوله صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّم, لأنهم إنما بايعوا رسول الله صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّم على نُصرته على العدو

คำว่า يد الله  ใน  ณ  ที่นี้  ท่านอิบนุญะรีร  ได้ทำการตีความ ตะวีล ว่า "มันคือพลังอำนาจของอัลเลาะฮ์"

ซึ่งท่านอิบนุอัลเญาซีย์ กล่าวรายงานอธิบายคำว่า يد الله ว่า

الرابع : قوة الله ونصرته فوق قوتهم ونصرتهم دكره ابن جرير وابن كيسان

คำกล่าวที่ 4 หมายถึง " อำนาจของอัลเลาะฮ์ และความช่วยเหลือของอัลเลาะฮ์ อยู่เหนืออำนาจของพวกเขาและอยู่เหนือการช่วยเหลือของพวกเขา ซึ่งทัศนะนี้ ได้กล่าว โดยท่าน อิบนุญะรีร อัฏฏ๊อบรีย์ และท่าน อัลกัยซานีย์" ดู ตัฟซีร ซาดุลมะซีร ฟี อิลมุตตัฟซีร ของท่านอิบนุเญาซีย์ เล่ม 7 หน้า 204 ตีพิมพ์ ดารุลกะตุบ อัลอิลมียะฮ์

ดังนั้น  เมื่อการตีความได้มีมาจากส่วนหนึ่งของสะลัฟ  แล้วเป็นบาปอันใดหรือที่เราจะตีความไม่ได้   หลักอะกีดะฮ์ของอัลอะชาอิเราะฮ์  คือหลักอะกีดะฮ์ที่ให้ความเป็นธรรมกับสะลัฟทั้งหมดที่อยู่ในแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  ไม่ว่าเขาจะทำการมอบหมายหรือทำการตีความ (ตะวีล)

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ yala

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 50
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam
เชื่อในซีฟัตยะดุน >-------------------->> แต่มอบหมายกับความหมายและรูปแบบวิธีการ

เชื่อในซีฟัตยะดุน >-------------------->>  แต่ทำการตีความอยู่ในความหมายของอำนาจ
..............


ผมว่า อันที่ 1 ดีกว่า แต่ก็ไม่ปฎิเสธ ที่ 2 เพราะพระองค์ ไม่มีข้อบกพร่อง

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
salam
เชื่อในซีฟัตยะดุน >-------------------->> แต่มอบหมายกับความหมายและรูปแบบวิธีการ

เชื่อในซีฟัตยะดุน >-------------------->>  แต่ทำการตีความอยู่ในความหมายของอำนาจ
..............


ผมว่า อันที่ 1 ดีกว่า แต่ก็ไม่ปฎิเสธ ที่ 2 เพราะพระองค์ ไม่มีข้อบกพร่อง

สำหรับผมก็เช่นกันครับ  ที่ว่า  อันที่ 1 มีน้ำหนักมากกว่า  และผมก็ยึดวิธีการที่ 1 นี้  แต่สำหรับคนเอาวามบางท่านหรือทั่วไปที่ไม่ค่อยจะศึกษาวิชาการศาสนามากนัก  ซึ่งบางคนมีหัวใจชอบวิสวัส  ชัยฏอนชอบมาทำให้สงสัยคลุมเครือ  ทำให้จินตนาไปบางเวลาหรือประจำ  ลักษณะเช่นนี้เรา ๆ อาจจะไม่มี  แต่บางคนอาจจะมี เพราะสภาวะจิตใจของเรามันต่างกัน  ก็ให้เลือกอันที่ 2 ไปเป็นบรรทัดฐานก่อนครับ

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged