ผู้เขียน หัวข้อ: มือของอัลเลาะฮ์ตามหลักอากีดะฮ์ของวะฮาบีย์  (อ่าน 24214 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
เขาบอกว่าให้ดู ที่ ซุเราะ นี้ ด้วยครับ

"พระองค์คือผู้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่เจ้า โดยที่ส่วนหนึ่งจากนั้นมีบรรดาโองการที่มีข้อความรัดกุมชัดเจน ซึ่งโองการเหล่านั้นคือรากฐานของคัมภีร์ และมีโองการอื่นอีกที่มีข้อความเป็นนัย ส่วนบรรดาผู้ที่หัวใจของเขามีการเอนเอียงออกจากความจริงนั้น เขาจะติดตามโองการที่มีข้อความเป็นนัยจากคัมภีร์ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาความวุ่นวาย และเพื่อแสวงหาการตีความในโองการนั้น และไม่มีใครรู้ในการตีความโองการนั้นได้นอกจากอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่มั่นคงในความรู้เท่านั้น โดยที่พวกเขาจะกล่าวว่าพวกเราศรัทธาต่อโองการนั้น ทั้งหมดนั้นมาจากที่ที่พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งสิ้น และไม่มีใครที่จะรับคำตักเตือนนอกจากบรรดาผู้ที่มีสติปัญญาเท่านั้น"

3 : 7


เพิ่มเติม ของ ครูต่วน อธิบายไว้ดังนี้

ในหลายโองการในอัลกรุอาน มีหลายที่ที่ไม่เข้าใจ โดยต้องอาศัยหลักวิชา ดังนี้
1. วิชาบะยาน
2. วิชาอุซูลุดดีน
3. วิชาบะดีฮฺ

และยังบอกถึงคุณสมัติ ผมมีความรู้ 4 คุณสมบัติ คือ
1. มีความยำเกรงอัลลอฮฺ
2. ผู้มีความถ่อมตนในระหว่างมวลมนุษย์
3. ผู้ไม่โลภโมโทสันในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ในวันอาคิเราะห์
4. ผู้ที่พยายามต่อสู้กับตนเอง และกิเลส



วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 18, 2007, 06:55 AM โดย Goddut »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ลิงค์ที่คุณ Goddut  อ้างอิงมานั้น  ผมเพิ่งไปเห็นเมื่อวาน  ซึ่งเป็นการนำเสนอของบังอะสัน  ทั้ง ๆ ที่เราคุยกันหลายรอบแล้ว  แม้กระทู้หะดิษที่ผมชี้แจงไปแล้วว่า ฏออีฟ  บังอะสันเขาก็ยังเอามาอ้างสนับสนุนอะกีดะฮ์วะฮาบีย์ของตนเอง  แม้กระทั่งคำกล่าวของสะลัฟที่ถูกรายงานมา  โดยนักหะดิษบอกแล้วว่ามันเป็นการเพิ่มเติมจากผู้รายงาน  แต่บังอะสันก็ยังนำมาอ้างอิงโดยพาดพิงไปยังสะลัฟ   ดังนั้น  ผมจึงไม่ทราบว่าบังอะสันเขาไปตักลีดใครมา  และทำไมไม่แยกแยะว่าอะไรคือสิ่งที่ซอฮิหฺ  และคือสิ่งที่ฏออีฟ  อะไรคือสิ่งที่กุถ้อยคำขึ้น  บังอะสันเขาจะเอาเพียงแค่สิ่งที่ตรงกับตนเองเท่านั้น  แม้กระทั่งกุขึ้นมา  เขาก็เอา 

อีกอย่าง  บังอะสันเขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในแนวทางสะลัฟแบบใหน?  สะลัฟแบบที่วะฮาบีย์อ้าง  หรือว่าสะลัฟแบบที่อุมมะฮ์อิสลามยึดถือกันอยู่  แต่กระนั้น  เขาก็พยายามนำการอ้างอิงคำกล่าวของอุลามาอ์มา  เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจว่า  บรรดานักปราชญ์เหล่านั้น  มีทัศนะเดียวกันตน  ทั้งที่ความจริงไม่เลยครับ 

สิ่งที่บังอะสันพยายามอ้างคำพูดของสะลัฟมานั้น  ไม่ได้มาสนับสนุนอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์  ที่บอกว่าให้เข้าใจซีฟัตของอัลเลาะฮ์ตามหลักภาษาอาหรับที่คนทั่วไปเขาเข้าใจกัน   แต่บังเขาพยายามอ้างอิงเพื่อให้ผู้อ่านทั่วไปเข้าใจไปว่า  บรรดานักปราชญ์เหล่านั้นมีอะกีดะฮ์เหมือนที่วะฮาบีย์ยึด  ทั้งที่นักปราชญ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องด้วยกับอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์  นอกจากอุลามาอ์ที่วะฮาบีย์ยึดถือมาเป็นบรรทัดฐานในอะกีดะฮ์ของตน เช่นท่านอิบนุตัยมียะฮ์

บังอะสันก็พ่ายในเรื่องการอะกีดะฮ์แนวทางของสะลัฟ  เนื่องจากอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์  ไม่ได้อยู่ในแนวทางของสะลัฟที่อุมมะฮ์อิสลามเขายึดถึงกัน

แล้วบังก็อะสันก็พยายามเบี่ยงประเด็น  โดยเอาหลักการของสะลัฟมาหักล้างแนวทางค่อลัฟ  เพื่อเบี่ยงประเด็นอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่ขัดแย้งกับสะละฟุศศอลิหฺ

ดังนั้น ประเด็นในกระทู้นี้นั้น  ไม่มีวะฮาบีย์ใหนมาหักล้างหรือแก้ต่างหลักการของตนเองได้  นอกจากเลี่ยงประเด็นเท่านั้นเอง   ซึ่งผมจะนำมาชี้แจงทั้งหมดที่บังอะสันไปก๊อบตัดลีดวะฮาบีย์มาในโอกาสต่อไปครับ  อินชาอัลเลาะฮ์   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
ทีนี้ ผมเข้าใจว่า
คนไทยเราในสมัยนี้ แปลได้ และอ่านเป็น มือ หรือ พระหัต อยู่นะครับ
แล้วแบบนี้ แสดงว่า คนในสมัยก่อนหรือคนสมัยนี้แปลผิด ?
หรือว่า คนในสมัยนี้ กับ สมัย ก่อนเข้าใจต่างกัน
หรือจากที่เวป (ลิ้ง) ที่ผมให้ดู
แปลว่า มือ ตรงๆ ตัว โดยให้มีความหมายเป็น ฮะกีกัต ได้หรือไม่ ?
หรือ แปลว่ามือตรงตัว แต่ไม่ให้ความหมายเป็น ฮะกีกัต จะได้หรือไม่ ?

ตรวจสอบ แบบเก่า และ ปัจจุบัน จากความแตกต่าง ซึ่งคงไว้ด้วยความเหมือน...

قُلِ اللَّهُمَّ مَالِكَ الْمُلْكِ تُؤْتِي الْمُلْكَ مَن تَشَاء وَتَنزِعُ الْمُلْكَ مِمَّن تَشَاء وَتُعِزُّ مَن تَشَاء وَتُذِلُّ مَن تَشَاء بِيَدِكَ الْخَيْرُ إِنَّكَ عَلَىَ كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ
3 : 26

จากอัลกรุอาน (สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ) แปล
" จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าข้าแต่อัลลอฮ์ผู้ทรงอภิสิทธิ์แห่งอำนาจทั้งปวง! พระองค์นั้นจะทรงประทานอำนาจแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงถอดถอนอำนาจจากผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงให้เกียรติแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงยังความต่ำต้อยแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ ความดีทั้งหลายนั้นอยู่ที่พระหัตถ์ ของพระองค์ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง "

หมายถึงว่าความดีทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นด้วยอำนาจ และเดชานุภาพของพระองค์ทั้งสิ้น
คำว่า " بِيَدِكَ " มีความหมายว่าพระหัต ตามแนวทางของสลัฟถือว่าเป็นคุณลักษณะของอัลลอฮฺที่มุมินทุกคนต้องศรัทธาโดยไม่ตีความและนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งอื่น

จากอัลกรุอาน (ครูต่วน) แปล
"โอ้มุฮัมมัด เจ้าจงกล่าวเถิดว่า ข้าแต่พระองค์อัลลอฮ์  องค์ทรงสิทธิ์ทางการปกครอง พระองค์นั้นจะทรงมอบอำนาจปกครองแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงถอดถอนอำนาจปกครองจากผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ก็ได้ จะทรงให้อิทธิพลแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์กลับตกต่ำก็ได้ อันความดี และความชั่ว มีได้ด้วยอำนาจของพระองค์เท่านั้น เพราะแท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ในเมื่ออัลลอฮฺทรงมีพลังในอันจะบริหารงานตามความใจโองการที่ 27 ซึ่งเป็นงานอันยิ่งใหญ่ ทั้งทำให้ปัญญาและความเข้าใจงุนงงในผลงานอย่างนีได้ อำนาจของพระองค์ในอันที่จะถอดถอนอำนาจปกครองจากชนมิใช่ชาวอาหรับ (ชนอะยัม) แล้วลดอำนาจปกครองของพวกนี้ให้ตกต่ำลง และในอันที่จะมอบอำนาจปกครองนั้นแก่ชาวอาหรับ แล้วยกฐานะปกครองของพวกนี้ให้สูงเด่นขึ้น เหล่านี้ล้วนเป็นงานง่ายสำหรับอัลลอฮฺยิ่งกว่างานในด้านอื่นๆ ที่เป็นของง่าย"

ตัวหนาคือแปล ส่วนตัวบางคืออธิบายเพิ่ม
โดยมิได้ให้ความหมาย " بِيَدِكَ " ว่ามือแต่อย่างใด แต่เป็น อำนาจ


وَقَالَتِ الْيَهُودُ يَدُ اللّهِ مَغْلُولَةٌ غُلَّتْ أَيْدِيهِمْ وَلُعِنُواْ بِمَا قَالُواْ بَلْ يَدَاهُ مَبْسُوطَتَانِ
5 : 64

จากอัลกรุอาน (สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ) แปล อัลมาอิดะ มี 120 อายะ ตามการนับของชาวกุฟะฮฺ
" และชาวยิวนั้นได้กล่าวว่า พระหัตถ์ของอัลลอฮ์นั้นถูกล่ามตรวน(1) มือของพวกเขาต่างหากที่ถูกล่ามตรวน(2) และพวกเขาได้รับละอฺนัต(3) เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาพูด หามิได้(4) พระหัตถ์ทั้งสองของพระองค์ถูกแบออกต่างหาก "

1. คือเป็นสำนวนเปรียบเทียบในการกล่าวหาว่า อัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงตระหนี่ เพราะเมื่อมือถูกล่ามตรวนเสียแล้วก็ไม่สามารถจะหยิบอะไรให้แก่ใครได้
2. เป็นการโต้ตอบจากอัลลอฮฺว่า คนที่ตระหนี่นั้นหาใช่ใครที่ไหนไม่ คือพวกยิวนั้นเอง
3. คือถูกขับไล่ให้ออกจากการเอ็นดูเมตตาจากพระองค์
4. คือพระองค์ก็มิได้เป็นผู้ตระหนี่อย่างที่พวกยิวกล่าวหา

จากอัลกรุอาน (ครูต่วน) แปล อัลมาอิดะ มี 123 อายะ ตามการนับของชาวบัศเราะ หมายถึงจะอยู่ อายะที่ 67
" พวกยะฮูดียังได้กล่าวอีก ในคราวที่พวกเขาตกยากเพราะหาว่านบีมูฮัมหมัดเป็นคนเท็จ หลังจากที่ได้เคยร่ำรวยกันมาแล้ว ว่ามือของอัลลอฮ์นั้นกำแน่นอยู่ มีแต่ความตระหนี่เหนี่ยวแน่นไม่อำนวยลาภให้แก่พวกเราเสียเลย พระองค์จึงตรัสสาปแช่งพวกนั้นว่า มือของพวกนั้นต่างหากที่ถูกยับยั้งไว้ มิให้ประกอบความดีงาม อีกทั้งยังถูกหักเมตตา จิตใจ ให้ห่างพ้นจากพระกรุณา ในฐานะที่พวกนั้นได้กล่าวคำ ก้าวร้าวอัลลอฮฺ ไว้ แต่ทว่ามือทั้งสองของพระองค์นั้นแผ่กว้างอยู่แล้ว คือพระองค์ทรงมีการอำนวยลาภให้อย่างกว้างขวาง"

ณ ตรงนี้ ใช้คำว่า "มือ"



ในความเข้าใจ(ของผม) เองนั้น ทั้งสองเล่มแม้จะแปลไม่เหมือนกัน แต่ความหมายที่อ่านแล้วได้ทำการใคร่ทวนนั้น ได้ความหมายที่เหมือนกันในตัวบทอธิบายด้วยกันทั้งสิ้น
แต่หากแตกต่างกันตรงที่ การนำเสนอของ 2 อายะที่แตกต่างกัน และคำที่สื่อที่แตกต่างกัน

ด้วยในที่นี้ ในส่วนแรก สามารถใช้คำต่าง เป็นอำนาจ ได้
และในส่วนที่สอง ไม่สามารถใช้คำต่างได้ เพียงแต่เป็นการเปรียบเปรยด้วยกับตัวมนุษย์เท่านั้นเอง

ดังนั้นสรุปได้ว่า

คำว่า " يد " ในที่นี้บางส่วน ครูต่วน เองได้แปลตามตัวบทอัลกรุอาน และให้ความหมายแตกต่างกันออกไป โดยไม่ชี้เฉพาะในทุกๆ ส่วน แต่ใช้ในส่วนที่พระองค์ทรงเปรียบเทียบเท่านั้น

ในส่วนของสมาคม ได้ใช้คำว่า  "يد " กับทุกส่วนหรือถ้อยคำที่กล่าวถึง "يد " ว่าแปลว่า พระหัตถ์ โดยให้คำนิยายดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น



วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 18, 2007, 06:33 AM โดย Goddut »

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
จริงๆ ผมงง อยู่ ประโยคนึง ที่ บังอะสัน นำมาเป็นหลักฐานว่า

"  (สิ่งใดหรือที่มายับยั้งไม่ให้เจ้าสุญูดแก่สิ่งที่ข้า สร้างมาด้วย สองพระหัตถ์ ของข้า)  "

อ่านได้แบบนี้ แปลมาแบบนี้

ผมเลยเข้าใจว่า อัลลอฮฺ ไม่ได้มีมือ 1 ข้าง  ( หมายความว่าอาจจะมี 2 ข้าง หรือมากกว่านั้น  เพราะจากประโยคด้านบนทรงตรัสว่า สร้างนบีอดัม จากมือ 2 ข้าง )

(และก็ยังความหมายได้ว่า พระองค์ทรงนับ มือด้วย หรือแสดงถึงมือที่สามารถนับออกมาได้)  งงครับ

ดังนั้นเราจะต้องเข้าใจว่าอย่างไร ?

เป็นเพียงอุปมา หรือเปรียบเปรย เช่น อัลมาอิดะ ที่ยกมาแล้ว

หรือเป็น ฮะกีกัต จริงๆ ที่พระองค์ทรงมี



ปล. ผมเข้าสมัครเวปเขาไม่ได้ คล้ายเนทผมไม่ดีน่ะครับ....   เลยไม่ได้เข้าไปถาม

วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 18, 2007, 07:02 AM โดย Goddut »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ดีมากเลยครับ  ที่ยกคำแปลเปรียบเทียบมาให้เราได้ศึกษากัน   แต่ก่อนอื่นผมต้องเรียนอย่างนี้นะครับ  คือ กระทู้นี้  ผมขอเสวนาถึง เรื่อง "มือของอัลเลาะฮ์" ตาม หลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์  ที่มีการอ้างอิงหลักการจากตำราและหลักการเข้าใจซีฟาตของอัลเลาะฮ์จากอุลามาอ์ของพวกเขาเท่านั้น  ไม่ใช่มาเอาคำอธิบายและความเข้าใจของคนเอาวามที่เป็นวะฮาบีย์  อย่างเช่นบังอะสัน  ซึ่งบังอะสันเองนั้น  ทำท่าจะไม่ยอมรับในหลักอะกีดะฮ์ตามที่แนวทางตนยึดอยู่ หรือไม่กล้าหาญพอที่จะอธิบายอะกีดะฮ์ตามที่แนวทางที่ตนดำเนินตาม   ดังนั้น ผมจึงขอย้ำอีกครั้งว่า  การอธิบายหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์นั้น  ต้องผ่านการอธิบายหลักการจากอุลามาอ์ของพวกเขาเท่านั้นน่ะครับ  ถึงจะทราบข้อเท็จจริงของอะกีดะฮ์วะฮาบีย์ได้
วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ทีนี้ ผมเข้าใจว่า
คนไทยเราในสมัยนี้ แปลได้ และอ่านเป็น มือ หรือ พระหัต อยู่นะครับ
แล้วแบบนี้ แสดงว่า คนในสมัยก่อนหรือคนสมัยนี้แปลผิด ?
หรือว่า คนในสมัยนี้ กับ สมัย ก่อนเข้าใจต่างกัน
หรือจากที่เวป (ลิ้ง) ที่ผมให้ดู
แปลว่า มือ ตรงๆ ตัว โดยให้มีความหมายเป็น ฮะกีกัต ได้หรือไม่ ?
หรือ แปลว่ามือตรงตัว แต่ไม่ให้ความหมายเป็น ฮะกีกัต จะได้หรือไม่ ?

เราต้องแยกแยะระหว่างคำว่า แปล กับ อธิบายความหมาย นะครับ  ซึ่งการแปลนั้น  ภาษาอาหรับพูดว่า ترجمة  (ตัรญะมาะฮ์)คือแปลภาษานึ่งไปสู่อีกภาษาหนึ่ง  ส่วน  การอธิบายความหมายนั้น  ภาษาอาหรับพูดว่า تفسير المعني 
ดังนั้น  การแปลจากอาหรับเป็นภาษาไทย  ย่อมเป็นสิ่งที่อนุโลม  และไม่มีใครนำมาเป็นประเด็น   ส่วนการอธิบายความหมาย นี่น่ะซิครับ  คือประเด็นที่เรากำลังคุยกัน  หลักการวะฮาบีย์ไม่ใช่พวกเขาแปลความหมายซีฟัตของอัลเลาะฮ์  แต่พวกเขาอธิบายความหมายซีฟัตของอัลเลาะฮ์  تفسير المعني ให้อยู่ในความหมายเชิงภาษา اللغوي แบบ الحقيقة  "คำแท้" ที่ให้ความหมายเข้าใจแบบตรงตัว(ไม่ใช่แปลแบบตรงตัว)โดยไม่อยู่ในเชิงอุปมา

ดังนั้น 

- คำว่า يد  แปลแบบตรงตัว คือ  "มือ"    นั่นไม่ใช่ประเด็น
- คำว่า يد   ที่อธิบายความหมายในเชิงภาษาแบบคำแท้ที่ไม่อยู่ในเชิงอุปมา  คือ  "ส่วนอวัยวะที่มีอยู่ที่ร่างกายโดยมีนิ้วและฝ่ามือ"  นี่คืออธิบายความหมายในเชิงภาษาของคำแท้  โดยตามหลักการของวะฮาบีย์ทุกอย่าง  แต่หากวะฮาบีย์พยายามเลี่ยงให้เป็นความหมายอื่นจากนี้  ถือว่า  ตีความ  (ตะวีล) ครับ  และคงเป็นไปไม่ได้ที่วะฮาบีย์จะตะวีล  เพราะวะฮาบีย์ถือว่าเป็นแนวทางที่บิดอะฮ์และเลวร้าย

ดังนั้น  ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ตัวบทและการแปลตัวบท แต่มันอยู่ที่การอธิบายตัวบทที่เกี่ยวข้องกับซีฟัตของอัลเลาะฮ์  ต่างหาก  ท่านผู้อ่านโปรดแยกแยะให้เข้าใจ  และเราพยายามที่เน้นจุดเปลี่ยนตรงนี้  แต่วะฮาบีย์พยายามหลีกเลี่ยงหลักการของตน  วัลลอฮุอะลัม 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ตรวจสอบ แบบเก่า และ ปัจจุบัน จากความแตกต่าง ซึ่งคงไว้ด้วยความเหมือน...

قُلِ اللَّهُمَّ مَالِكَ الْمُلْكِ تُؤْتِي الْمُلْكَ مَن تَشَاء وَتَنزِعُ الْمُلْكَ مِمَّن تَشَاء وَتُعِزُّ مَن تَشَاء وَتُذِلُّ مَن تَشَاء بِيَدِكَ الْخَيْرُ إِنَّكَ عَلَىَ كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ
3 : 26

จากอัลกรุอาน (สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ) แปล
" จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าข้าแต่อัลลอฮ์ผู้ทรงอภิสิทธิ์แห่งอำนาจทั้งปวง! พระองค์นั้นจะทรงประทานอำนาจแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงถอดถอนอำนาจจากผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงให้เกียรติแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงยังความต่ำต้อยแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ ความดีทั้งหลายนั้นอยู่ที่พระหัตถ์ ของพระองค์ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง "

หมายถึงว่าความดีทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นด้วยอำนาจ และเดชานุภาพของพระองค์ทั้งสิ้น
คำว่า " بِيَدِكَ " มีความหมายว่าพระหัต ตามแนวทางของสลัฟถือว่าเป็นคุณลักษณะของอัลลอฮฺที่มุมินทุกคนต้องศรัทธาโดยไม่ตีความและนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งอื่น

"คำ" ว่า " بِيَدِكَ " ที่อัลเลาะฮ์ทรงยืนยันระบุไว้นี้ เราชื่อและศรัทธาและเชื่อว่าเป็นคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์  ซึ่งประเด็นนี้ไม่มีใครเขาขัดแย้งกัน  แต่ที่ขัดแย้งกันนั้น  คือประเด็นของการอธิบาย (ตัฟซีร) ความหมาย  ซึ่งวะฮาบีย์อธิบาย (ตัฟซีร) ที่อยู่ในเชิงภาษาคำแท้ที่มนุษย์เข้าใจกัน ซึ่งความหมายแบบนี้เราไม่ศรัทธาเชื่ออย่างแน่นอน และไม่ใช่แนวทางของสะละฟุศศอลิหฺด้วย เนื่องจากสะละฟุศศอลิหฺไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการอธิบาย (ตัฟซีร) ความหมายเกี่ยวกับอายะฮ์และหะดิษซีฟาตของอัลเลาะฮ์  โดยพวกเขามอบหมายไปยังพระองค์  ดังนั้น ผมหวังว่าพี่น้องอะฮ์ลิสซุนนะฮ์คงแยกแยะได้ถูกต้องน่ะครับ อย่านำไปปนสับสน  วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
จริงๆ ผมงง อยู่ ประโยคนึง ที่ บังอะสัน นำมาเป็นหลักฐานว่า

"  (สิ่งใดหรือที่มายับยั้งไม่ให้เจ้าสุญูดแก่สิ่งที่ข้า สร้างมาด้วย สองพระหัตถ์ ของข้า)  "

อ่านได้แบบนี้ แปลมาแบบนี้

ผมเลยเข้าใจว่า อัลลอฮฺ ไม่ได้มีมือ 1 ข้าง  ( หมายความว่าอาจจะมี 2 ข้าง หรือมากกว่านั้น  เพราะจากประโยคด้านบนทรงตรัสว่า สร้างนบีอดัม จากมือ 2 ข้าง )

(และก็ยังความหมายได้ว่า พระองค์ทรงนับ มือด้วย หรือแสดงถึงมือที่สามารถนับออกมาได้)  งงครับ

ดังนั้นเราจะต้องเข้าใจว่าอย่างไร ?

เป็นเพียงอุปมา หรือเปรียบเปรย เช่น อัลมาอิดะ ที่ยกมาแล้ว

หรือเป็น ฮะกีกัต จริงๆ ที่พระองค์ทรงมี

หากคุณ Goddut  ยึดตามแนวทางแรกของอัลอะชาอิเราะฮ์  คือ มอบหมาย กับ "ความหมาย"  ของตัวบทดังกล่าวไปยังผู้ที่กล่าวมัน  ก็คือ อัลเลาะฮ์ ตะอาลา  ก็หมดข้อสงสัยแล้ว และไม่งงแล้ว  ส่วนการที่เรางง  ก็เนื่องจากเราไปยึดติดกับความหมาย และเข้าใจตามหลักการของวะฮาบีย์ในเชิงภาษาที่เราเข้าใจกันนั่นเอง  แต่หากเราไม่ยึดติดกับความหมายดังกล่าว  โดยมอบหมาย กับความหมายนั้น  ไปยังอัลเลาะฮ์นั้น  เราก็ไม่ต้องมานั่งงงอย่างแน่นอนครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
وَقَالَتِ الْيَهُودُ يَدُ اللّهِ مَغْلُولَةٌ غُلَّتْ أَيْدِيهِمْ وَلُعِنُواْ بِمَا قَالُواْ بَلْ يَدَاهُ مَبْسُوطَتَانِ
5 : 64

จากอัลกรุอาน (สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ) แปล อัลมาอิดะ มี 120 อายะ ตามการนับของชาวกุฟะฮฺ
" และชาวยิวนั้นได้กล่าวว่า พระหัตถ์ของอัลลอฮ์นั้นถูกล่ามตรวน(1) มือของพวกเขาต่างหากที่ถูกล่ามตรวน(2) และพวกเขาได้รับละอฺนัต(3) เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาพูด หามิได้(4) พระหัตถ์ทั้งสองของพระองค์ถูกแบออกต่างหาก "

1. คือเป็นสำนวนเปรียบเทียบในการกล่าวหาว่า อัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงตระหนี่ เพราะเมื่อมือถูกล่ามตรวนเสียแล้วก็ไม่สามารถจะหยิบอะไรให้แก่ใครได้
2. เป็นการโต้ตอบจากอัลลอฮฺว่า คนที่ตระหนี่นั้นหาใช่ใครที่ไหนไม่ คือพวกยิวนั้นเอง
3. คือถูกขับไล่ให้ออกจากการเอ็นดูเมตตาจากพระองค์
4. คือพระองค์ก็มิได้เป็นผู้ตระหนี่อย่างที่พวกยิวกล่าวหา

นักเรียนเก่าอาหรับ บอกว่า  มือคำแรกเนี่ย  อยู่ในสำนวนเปรียบเทียบ หรือเปรียบเปรย  แล้วมือช่วงท้ายอายะฮ์ล่ะ  เปรียบเปรยด้วยหรือเปล่า?  คือยาฮูดีเปรียบเปรยมา  อัลเลาะฮ์ก็ทรงเปรียบเปรยโต้กลับไป  ดังนั้น  หากอยู่ในการเปรียบเปรย  ก็หมายความว่า  "ตีความ"  (ตะวีล)  อย่างไม่ต้องสงสัย  วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

aswar

  • บุคคลทั่วไป
ผมเพิ่งอ่านลิ้งค์ที่คุณ Goddut ให้ไว้ครับ เลยเพิ่งรู้ว่าคนที่คุณมุนีรรับข้อมูลเรื่องอะกีดะฮ์มาก็คือบังอะสันนั่นเอง ตอนแรกผมก็คิดในใจ "ทำไมคุณมุนีรถึงเชื่อในข้อมูลที่รับมาอย่างมาก ทั้งที่ข้อมูลที่ผมอ้างอิงกลับให้อ่านนั้นเป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากคนระดับนักวิชาการ" คงเพราะคุณมุนีรคิดว่าตนได้รับข้อมูลมาจากคนที่เป็นนักวิชาการ หรืออย่างน้อยก็เป็นถึงแกนหลักของเวปไซต์ที่เป็นที่รู้จักกัน

สิ่งที่สะกิดใจผมต่อมาคือคำพูดของ อัลอัซฮารีย์ที่ว่าคุณมุนีรคงจะรับข้อมูลดังกล่าวมาจากคนระดับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องข้อเท็จจริงของประเด็นนี้หรือจะเป็นคำของคุณนูรุ้ลอิสลาม ที่ว่าคุณมุนีรคงมีเพื่อนเยอะ คงไปเอามาจากเพื่อน

ผมกำลังจะบอกว่าเมื่อพวกเราเห็นข้อมูลที่คุณมุนีรได้รับมาโดยที่เราไม่รู้มาก่อนว่าเป็นข้อมูลของใคร? เราต่างพากันเข้าใจกันหมดเมื่อเห็นข้อมูลว่า "คนที่พูดนั้นเป็นคนทั่วไปที่ไม่มีความรู้" แต่การณ์กลับปรากฎว่า "คนที่ไม่มีความรู้" คนนั้นก็คือบังอะสัน บังอะสันที่ในทุกเวปถูกยกระดับให้อยู่ในฐานะผู้รู้มันทำให้นึกถึงหะดีษที่ว่า

إن الله لا يقبض العلم انتزاعا ينتزعه من صدور الرجال، ولكن يقبض العلم بقبض العلماء. فإذا لم يبق عالم اتخذ الناس رؤساء جهالا، فسئلوا فأفتوا بغير علم، فضلوا وأضلوا

แล้วคนที่พวกเขานับว่าเป็น "ผู้รู้" ของพวกเขาแต่ละคนตามกระดานเสวนาต่างๆนั้นไม่ได้เรียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกันมาเลย ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อยกตัวอย่างนะครับ คงพอทราบกัน มันสลดใจยังไงไม่รู้สิครับ เพราะว่าคนที่ร่ำเรียนมาอย่างเราๆนั้นพอฟัง หรืออ่านคำของใครก็จะรู้ทันทีว่าคนไหนมี,ไม่มีความรู้ แต่ว่าจะทำให้คนทั่วไปเข้าใจและรับรู้อย่างเราได้นั้นมันยากจริงๆ

ถ้าบางท่านยังจำได้ บังอะสันในมุสลิมไทยเคยยกบทความเกี่ยวกับอะกีดะฮ์เชค หะซัน อัลบันนา ซึ่งเป็นอะกีดะฮ์สลัฟแท้ และหักล้างคอลัฟไปด้วย โดยต้องการบอกว่าของแท้นั้นต้องอะกีดะฮ์สลัฟ ไม่ใช่อะกีดะฮ์แบบอาชาอิเราะฮ์ ตอนนั้นผมเห็นมีคุณอัลอัซฮารีย์คอยคุยด้วยอยู่แล้วจึงไม่ได้เข้าคุยอะไรด้วย ซึ่งการที่บังเขายกบทความนี้มาทำนองว่าเป็นอะกีดะฮ์เดียวกันกับตนมันก็ผิดอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่คุยกับคุณ อัลอัซฮารีย์แล้วมาตั้งนมนานก็ยังคงไม่เข้าใจอีกเช่นเดิมว่าอะกีดะฮ์สลัฟของอิมามอัลบันนา หรืออุมมะฮ์อิสลามียะฮ์ กับอะกีดะฮ์สลัฟแบบเชค บินบาซ อัลอุษัยมีน อัลเฟาซานฯ นั้นมันไม่เหมือนกัน แล้วก็ยังทำให้คนอาวามต้องไขว้เขวอีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือคุณมุนีร ลำพังเพียงแค่การที่คนแบบบังอะสันซึ่งอยู่ใน วะฮาบียะฮ์ มาอิงอะกีดะฮ์เชคอัลบันนาก็บอกได้แล้ว่ายังไม่มีความเข้าใจในมัสอะละฮ์นี้ เพราะอัลบันนานั้นตัฟวีฎ แต่วะฮาบียะฮ์บอกว่าตัฟวีฎนั้นเป็นบิดอะฮ์ ผลที่ได้คือบังอะสันมีอะกีดะฮ์ที่เป็นบิดอะฮ์ตามทัศนะตนเอง! งงมั้ย

คุณมุนีรครับอ่านอยู่หรือเปล่า ถ้าอยากทราบประเด็นนี้จริงขอแนะนำให้ถามคนอื่นนะครับ ด้วยความเคารพทั้งคุณ และบังอะสันนะครับ ที่วิจารณ์ไปก็มะอัฟด้วยนะครับ เพราะบังอะสันนำตัวเองเข้ามาอยู่ในฐานะผู้ดูแลเวปที่ให้วิชาการในศาสนาของอัลลอฮ์ คนที่เข้าใจผิดมันไม่ใช่คุณมุนีรคนเดียวหรอกครับ (ขอพูดผ่านเวปนี้ละกันนะครับเจ้าของเวป เพราะอยากพูดเท่านี้ไปพูดเวปเขาแล้วเดี๋ยวยาว เพราะขนาดยาวๆกับคุณอัลอัซฮารีย์แล้วยังไม่เข้าใจ กับผมคงไม่เข้าใจหรอกครับ)

วัสสลาม

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
เท่าที่ผมอ่านจากความเห็นของ คุณ al-azhary และ บังอะสัน ก็ตาม

ผมเห็นว่า ทั้งสองคนไม่ได้มีความเห็นแตกต่างกันเท่าใดนัก ในเรื่องเหล่านี้

เพราะหลักฐานที่ บังอะสันอ้างนั้น ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับ วะฮฺบี เลย

ดังนั้น หากเป็นเช่นนี้ อาจจะกล่าวได้ว่า บังอะสัน ก็มิใช่วะฮฺบี

วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
  คุณ กอดัร กล่าวว่า..

เท่าที่ผมอ่านจากความเห็นของ คุณ al-azhary และ บังอะสัน ก็ตาม

ผมเห็นว่า ทั้งสองคนไม่ได้มีความเห็นแตกต่างกันเท่าใดนัก ในเรื่องเหล่านี้

เพราะหลักฐานที่ บังอะสันอ้างนั้น ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับ วะฮฺบี เลย

ดังนั้น หากเป็นเช่นนี้ อาจจะกล่าวได้ว่า บังอะสัน ก็มิใช่วะฮฺบี


..แล้วถ้าเช่นนั้น น้องว่า บังฮะสันมีอะกีดะแบบไหนหรือใคร.แต่บังคิดว่าคงไม่ใช่ผู้รู้หรืออุลามะจากมัสหับทั้ง4แน่นอนครับ..

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
คุณ ก๊อดดัท  ผมเองก็พยายามจะชี้แจงถึงความแตกต่าง  ระหว่างแนวทางของวะฮาบีย์และสลัฟ  แต่ดู ๆ แล้ว  บังอะสันทำท่าจะไม่เต็มใจยอมรับในอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์สักเท่าไหร่   อย่างที่ คุณ อัสวาร บอกว่า "บังอะสันซึ่งอยู่ใน วะฮาบียะฮ์ มาอิงอะกีดะฮ์เชคอัลบันนาก็บอกได้แล้ว่ายังไม่มีความเข้าใจในมัสอะละฮ์นี้ เพราะอัลบันนานั้นตัฟวีฎ แต่วะฮาบียะฮ์บอกว่าตัฟวีฎนั้นเป็นบิดอะฮ์ ผลที่ได้คือบังอะสันมีอะกีดะฮ์ที่เป็นบิดอะฮ์ตามทัศนะตนเอง! งงมั้ย"    ดังนั้น เวลาเราจะเสวนาเชิงวิชาการในประเด็นใดประหนึ่ง  เราต้อง  ตะรีรมัสอะละฮ์  หมายถึง  ต้องจัดลำดับประเด็น  เสียก่อน   แต่นี่บังอะสันพยายามนำหลักการของสะลัฟแท้  ไปปะปนให้สับสนกับแนวทางวะฮาบีย์  จนทำให้ท่านพี่น้องเข้าใจผิดไปว่า  วะฮาบีย์มีหลักการของสะลัฟอุมมะฮ์ส่วนมากเขายึดมั่นกัน

บังอะสันนั้น  อยู่แนวทางวะฮาบีย์นั่นแหละครับ  แต่เขาไม่เข้าใจหลักการของวะฮาบีย์  หรือ เขาต้องการจะปกปิดและหลีกเลี่ยง "ตะกียะฮ์" ในการอธิบายอะกีดะฮ์แนวทางของตน  ที่ไม่กินกับหลักฐานและสติปัญญามนุษย์  วัลลอฮุอะลัม    
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
แล้วทำไม คุณ Al-azhary ถึงว่าเขา เป็น วะฮฺบี หรือครับ
เขาเคยยอมรับหรือป่าวครับ
หรือมีตรงไหน ที่ว่าเขาเป็นวะฮฺบี


ขอมะอัฟ ที่ถาม...
วัสลาม

 

GoogleTagged