ผู้เขียน หัวข้อ: มือของอัลเลาะฮ์ตามหลักอากีดะฮ์ของวะฮาบีย์  (อ่าน 22895 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ปัจจุบันนี้  เรามีความจำเป็นที่จะต้องทำการเปิดเผยหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์  เพื่อให้พี่น้องได้ทราบถึงแก่นแท้ของพวกเขา  ซึ่งวะฮาบีย์นี้มักจะอ้างกับพี่น้องมุสลิมว่า พวกเขามีอะกีดะฮ์สะลัฟ  และแอบอ้างว่าตนเองเป็น "สะละฟีย์"  ดังนั้น  ผู้ที่ไม่สันทัดเรื่องของศาสนา  ก็จะหลงเชื่อคำแอบอ้างดังกล่าวของวะฮาบีย์ผู้มีอะกีดะฮ์บิดอะฮ์

ออฟไลน์ al-um

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 154
  • الأم
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ปัจจุบันนี้  เรามีความจำเป็นที่จะต้องทำการเปิดเผยหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์  เพื่อให้พี่น้องได้ทราบถึงแก่นแท้ของพวกเขา  ซึ่งวะฮาบีย์นี้มักจะอ้างกับพี่น้องมุสลิมว่า พวกเขามีอะกีดะฮ์สะลัฟ  และแอบอ้างว่าตนเองเป็น "สะละฟีย์"  ดังนั้น  ผู้ที่ไม่สันทัดเรื่องของศาสนา  ก็จะหลงเชื่อคำแอบอ้างดังกล่าวของวะฮาบีย์ผู้มีอะกีดะฮ์บิดอะฮ์

ทั้งยังบอกว่าเปนอะห์ลิซซุนนะห์วัลญามาอะห์ ที่แท้จิงนี่สิฮะ ทั้งๆที่หลักอากีดะห์ บางเรื่องนี่จะออกเปนแนวมุตาซีละเลยทีเดียว ใช่มั้ยครับ บังนูรุ้ลอิสลาม ช่วยขยายความหน่อยสิครับ
*للزكريا    الأنصاري*
      อุลามะในทัศนะวะฮาบีย์บางคนได้ทิ้งขวางความรู้ความคิดเห็นหรือผลงานของอุลามะฮ์ผู้นำมัซฮับทั้ง 4   แบบไม่ใยดี แต่กลับมาชื่นชอบทัศนะใหม่ที่มาทีหลัง ว่า ถูกต้องที่สุด..จนมันได้กลายเป็น...บิดอะดอลาละที่ลุ่มหลง.แบบตะอัศศุบ..ในทัศนะตนเองแบบสุดโต่ง แบบไม่น่าให้อภัย  และคิดว่า  ทัศนะใหม่ของตนเท่านั้นที่ถูกต้อง ....นะอูซุบิ้ลลา

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ปัจจุบันนี้  เรามีความจำเป็นที่จะต้องทำการเปิดเผยหลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์  เพื่อให้พี่น้องได้ทราบถึงแก่นแท้ของพวกเขา  ซึ่งวะฮาบีย์นี้มักจะอ้างกับพี่น้องมุสลิมว่า พวกเขามีอะกีดะฮ์สะลัฟ  และแอบอ้างว่าตนเองเป็น "สะละฟีย์"  ดังนั้น  ผู้ที่ไม่สันทัดเรื่องของศาสนา  ก็จะหลงเชื่อคำแอบอ้างดังกล่าวของวะฮาบีย์ผู้มีอะกีดะฮ์บิดอะฮ์

ทั้งยังบอกว่าเปนอะห์ลิซซุนนะห์วัลญามาอะห์ ที่แท้จิงนี่สิฮะ ทั้งๆที่หลักอากีดะห์ บางเรื่องนี่จะออกเปนแนวมุตาซีละเลยทีเดียว ใช่มั้ยครับ บังนูรุ้ลอิสลาม ช่วยขยายความหน่อยสิครับ

เอาแต่เรื่องมือก็พอน่ะ น้อง อัล-อุม  แค่เรื่องมือของอัลเลาะฮ์ วะฮาบีย์ ก็แตกแถวแล้วครับ

ออฟไลน์ Sunnah so

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 56
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
โห แต่ละคน ช่วยตอบหน่อยสิว่านบีพูดเรื่องนี้ว่าอย่างไร (เมื่อมีความขัดแย้งให้กลับไปหาอัลลอฮและรอซูลของพระองค์)ช่วยพาผมกลับไปด้วยผมไปไม่ถูกครับ แล้วคนเอาวามเรียนมาน้อยจะทำยังไงละเนี๊ยะ ต่างคนต่างก็อ้างอะห์ลุสซุนนะห์ อ้างสลัฟ  ขอถามหน่อยไอ้กลุ่มเดียวที่เข้าสวรรค์ในบรรดา73กลุ่มน่ะกลุ่มไหนครับจะได้ตามถูก ::)
จงเข้มข้นกับความฝัน และเข้มแข็งกับผลลัพท์ (แอบเอามาจากรถเมล์)

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
มือของอัลเลาะฮ์ตามหลักอากีดะฮ์ของวะฮาบีย์
« ตอบกลับ #94 เมื่อ: มี.ค. 31, 2007, 06:06 AM »
0
โห แต่ละคน ช่วยตอบหน่อยสิว่านบีพูดเรื่องนี้ว่าอย่างไร (เมื่อมีความขัดแย้งให้กลับไปหาอัลลอฮและรอซูลของพระองค์)ช่วยพาผมกลับไปด้วยผมไปไม่ถูกครับ แล้วคนเอาวามเรียนมาน้อยจะทำยังไงละเนี๊ยะ ต่างคนต่างก็อ้างอะห์ลุสซุนนะห์ อ้างสลัฟ  ขอถามหน่อยไอ้กลุ่มเดียวที่เข้าสวรรค์ในบรรดา73กลุ่มน่ะกลุ่มไหนครับจะได้ตามถูก ::)

ต่างฝ่ายก็กลับไปหาอัลกุรอานและซุนนะฮ์ทั้งนั้นแหละครับ  แต่ประเด็นขัดแย้งคือ  ความเข้าใจ  ความเข้าใจ  และความเข้าใจ  ในตัวบทต่างหากล่ะครับ  ซึ่งแต่ละฝ่ายก็มีความเข้าใจที่ชัดเจนอันเป็นแนวทางเฉพาะของตน  และใน 73 พวกนั้น  แนวทางใดจะได้เข้าสวรรค์  อันนี้ผมตอบไม่ได้อย่างเด็ดขาดหรอกครับ  แต่ที่แน่ ๆ นั้น  คือชาวสวรรค์คือชนส่วนใหญ่  ตามอัลเลาะฮ์ ตะอาลา ทรงตรัสรับรองไว้ว่า

"(ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้วเกี่ยวกับสิ่งที่ได้รับในสรวงสวรรค์นั้น) สำหรับชนชาวขวา  ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่จากยุคแรกและเป็นชนกลุ่มใหญ่จากยุคหลัง"  อัลวากิอะฮ์ 38 - 39 - 40
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผมก็ว่า วาฮาบีย์ เขาก็ว่าตามกุรอานและฮะดิษ มันขวาหรือแปลกแยกตรงไหน ?

แต่กลุ่มที่ตะวีล แล้วก็ตะวีล แล้วก็ตะวีล นี่สิครับมันน่าจะขวาสุดหรือซ้ายสุด  :)
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ผมก็ว่า วาฮาบีย์ เขาก็ว่าตามกุรอานและฮะดิษ มันขวาหรือแปลกแยกตรงไหน ?

     ว่าตามอัลกุรอานน่ะดี แต่พออัลเลาะฮ์และหะดิษบอกไว้ แล้วอธิบายกันอร่อยว่า มันคืออวัยวะที่เป็นส่วน ๆ ของตัวตนอัลเลาะฮ์ น่ะ มันแปลกประหลาด!!

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
อ้างอิงจากบังอะสัน

แล้วมาส่งเสริมชาวบ้านหมกหมุนอยู่ในบิดอะฮ ที่นี้ลองแปลหะดิษข้างล่างหน่อยซิไอ้โอหัง แปลเป็นไทย ดูซิว่า เองจะเปลี่ยนแปลงหะดิษนบีหรือเปล่า

"يطوي الله عَزَّ وجَلَّ السماوات يوم القيامة، ثم يأخذهن بيده اليمنى، ثم يقول: أنا الملك! أين الجبارون؟أين المتكبرون؟ثم يطوي الأرضين بشماله

حديث أبي هريرة - رضي الله عنه - مرفوعاً: "لما خلق الله آدم، ونفخ فيه من روحه؛ قال بيده وهما مقبوضتان: خذ أيها شئت يا آدم، فقال: اخترت يَمِين ربي، وكلتا يداه يَمِين مباركة، ثم بسطها...".

رواه: ابن أبي عاصم في السنة (206)، وابن حبان (6167)، والحاكم (1/64) وصحَّحَه، وعنه البيهقي في "الأسماء والصفات" (2/56

ตอบ

พอสนทนาลึกเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะตีแผ่ เบื้องหลังอากิดะฮ์สะลัฟของวะฮาบีย์ บังอะสันก็ตะคอกใส่ผมอย่างเสียงดังว่า "ไอ้โอหัง" แล้วบังอะสันก็มาสไตย์เดิมครับ คือยกหลักฐานมาเพื่อที่จะกลบเกลื่อนประเด็นเฉพาะที่เรากำลังคุยกัน แล้วมาให้เราแปลฮะดิษ(ซอฮิหฺหรือเปล่าก็ไม่รู้)เพื่อยืนยันในหลักอากิดะฮ์ของวะฮาบีย์ งั้นผมจะแปลสั้นๆ ที่บังอะสันจะเอานะครับ และผมขอแปลแบบวะฮาบีย์ชอบแปลนะครับ เพื่อท่านผู้อ่านจะได้รับรู้อากิดะฮ์ของวะฮาบีย์ไปด้วยนะครับ

บังอะสันได้ยกตัวบทมา 2 ตัวบท เพื่อที่จะให้เราแปลเรื่องมือของอัลเลาะฮ์

ตัวบทที่ 1 . มีความว่า يطوي الأرضين بشماله "อัลเลาะฮ์จะทรงพับบรรดาแผ่นดิน(ทั้ง 7 ) ด้วยมือซ้ายของพระองค์"

ตัวบทที่ 2 . มีความว่า وكلتا يداه يَمِين "และสองมือของพระองค์นั้น เป็นมือขวา"

สรุปอากิดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่บังอะสันนำเสนอมา เกี่ยวกับซีฟัตมือของอัลเลาะฮ์ มีดังนี้ครับ " คืออัลเลาะฮ์ทรงมีมือ 3 ข้าง (ที่ไม่เหมือนกับมัคโลค) หมายถึง มือขวา 2 ข้าง และมือซ้าย 1 ข้างครับ" นี่แหละครับ อากิดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่บังอะสันอยากจะให้ผมแปลให้ฟัง เมื่อผมแปลให้ฟังแล้ว ท่านพี่น้องวะฮาบีย์ที่อ่านอยู่ อย่าไปจินตนาการเหมือนมัคโลคนะครับ เพราะมันจะดูแปลกพิกล เพราะมัคโลคเนี่ย หากมีมือขวา 2 ข้าง และมือซ้าย 1 ข้าง เนี่ย มันจะดูพิลึกครับ วะฮาบีย์มักจะกล่าวว่า

" ซีฟัตของมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้น อัลเลาะฮ์ทรงสมบูรณ์ยิ่งกว่า และซีฟัตของมนุษย์ที่บกพร่องนั้น อัลเลาะฮ์ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งดังกล่าว"

บังอะสันครับ มนุษย์นั้น มี 3 มือ นั้น มันบกพร่องนะครับ แล้วทำไมบังอะสันยังคงยืนยัน มือ 3 ข้างให้กับอัลเลาะฮ์(ซ.บ.)ล่ะครับ !! ซุบหานัลลอฮ์!!! อัลลอฮุอักบัร!!!

อ้างอิงจากบังอะสัน

บังอะสันครับ มนุษย์นั้น มี 3 มือ นั้น มันบกพร่องนะครับ แล้วทำไมบังอะสันยังคงยืนยัน มือ 3 ข้างให้กับอัลเลาะฮ์(ซ.บ.)ล่ะครับ !! ซุบหานัลลอฮ์!!! อัลลอฮุอักบัร!!!
ผู้ส่ง: al-azhary -- sunnahstudent : IP : 82.201.233.
...........
ตอบ
เอ้า..เขาให้แปล ดันมาเฉไฉ เล่นเชือกจนได้ แปลจ้ะ แปล ..ฮิฮิ


ตอบ

บังอะสันได้ยกตัวบทมา 2 ตัวบท เพื่อที่จะให้เราแปลเรื่องมือของอัลเลาะฮ์

ตัวบทที่ 1 . มีความว่า يطوي الأرضين بشماله "อัลเลาะฮ์จะทรงพับบรรดาแผ่นดิน(ทั้ง 7 ) ด้วยมือซ้ายของพระองค์"

ตัวบทที่ 2 . มีความว่า وكلتا يداه يَمِين "และสองมือของพระองค์นั้น เป็นมือขวา"

สรุปอากิดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่บังอะสันนำเสนอมา เกี่ยวกับซีฟัตมือของอัลเลาะฮ์ มีดังนี้ครับ " คืออัลเลาะฮ์ทรงมีมือ 3 ข้าง (ที่ไม่เหมือนกับมัคโลค) หมายถึง มือขวา 2 ข้าง และมือซ้าย 1 ข้างครับ" นี่แหละครับ อากิดะฮ์ของวะฮาบีย์ที่บังอะสันอยากจะให้ผมแปลให้ฟัง เมื่อผมแปลให้ฟังแล้ว ท่านพี่น้องวะฮาบีย์ที่อ่านอยู่ อย่าไปจินตนาการเหมือนมัคโลคนะครับ เพราะมันจะดูแปลกพิกล เพราะมัคโลคเนี่ย หากมีมือขวา 2 ข้าง และมือซ้าย 1 ข้าง เนี่ย มันจะดูพิลึกครับ

     นั่นแหละครับมือของอัลเลาะฮ์ตามทัศนะของวะฮาบีเขาแหละครับ  มันเป็นจุดอ่อนของวะฮาบีในยึดหะดิษที่นำมาเป็นเรื่องอะกีดะฮ์นะครับ คือหะดิษฏออีฟของวะฮาบีนั้นห้ามนำปฏิบัติในด้านคุณงามความดี  แต่หะดิษฏออีฟของวะฮาบีย์นั้นนำมายึดถือเป็นเรื่องอะกีดะฮ์ได้ นั่นคือสิ่งที่เราได้เห็นภาพจริงๆของหลักการพวกเขาน่ะ  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 13, 2007, 03:07 AM โดย นูรุ้ลอิสลาม »

ออฟไลน์ philosophy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 94
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
السلام عليكم
ขอแสดงความเห็นนิดนึง...ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาพูดถึงสิ่งที่เราไม่มีความรู้ที่ดีในเรื่องนั้นๆด้วย...
มีหะดีษหนึ่งที่พูดเกี่ยวกับชัยฏอน...ซึ่งมันจะถามคำถามเราจนกระทั่งมันได้ถามว่า...ใครสร้างอัลลอฮฺ?...
ท่านนบีบอกกับพวกเราว่า...ถ้าหากมันถามแบบนี้ก็ให้เราเลิกต่อล้อต่อเถียงกับมันและให้ขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ..
ปล.ฝากสลามเด็ก مجلس لديني ที่อยู่ที่ الأزهر ด้วยนะครับคุณ al-azhary
والسلام

ออฟไลน์ philosophy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 94
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
السلام علسكم
وَمِنَ النَّاسِ مَن يُجَادِلُ فِي اللَّهِ بِغَيْرِ عِلْمٍ وَيَتَّبِعُ كُلَّ شَيْطَانٍ مَّرِيدٍ
[22.3]  และในหมู่มนุษย์บางคนมีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์โดยปราศจากความรู้ และเขาจะปฏิบัติตามชัยตอนทุกตัวที่ดื้อรั้น
وَمِنَ النَّاسِ مَن يُجَادِلُ فِي اللَّهِ بِغَيْرِ عِلْمٍ وَلَا هُدًى وَلَا كِتَابٍ مُّنِيرٍ
[22.8]  และในหมู่มนุษย์บางคนมีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์ โดยปราศจากความรู้และโดยปราศจากแนวทางที่ถูกต้อง และปราศจากคัมภีร์ที่มีหลักฐานชัดแจ้ง
أَلَمْ تَرَوْا أَنَّ اللَّهَ سَخَّرَ لَكُم مَّا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ وَأَسْبَغَ عَلَيْكُمْ نِعَمَهُ ظَاهِرَةً وَبَاطِنَةً وَمِنَ النَّاسِ مَن يُجَادِلُ فِي اللَّهِ بِغَيْرِ عِلْمٍ وَلَا هُدًى وَلَا كِتَابٍ مُّنِيرٍ 
[31.20]  พวกเจ้ามิเห็นดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงอำนวยความสะดวกให้แก่พวกเจ้าสิ่งที่มีอยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและสิ่งที่มีอยู่ในแผ่นดิน และพระองค์ได้ทรงประทานความ โปรดปรานมากมายของพระองค์อย่างครบครันแก่พวกเจ้า ทั้งที่เปิดเผยและที่ซ่อนเร้นและในหมู่มนุษย์มีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์โดยปราศจากความรู้และปราศจากแนวทางที่ถูกต้องและปราศจากคัมภีร์ที่ให้ความสว่าง (แก่พวกเขา)
ข้าพระองค์ขอความค้มครองจากท่านโอ้ อัลลอฮฺ ให้พ้นจากสิ่งดังกล่าว
وَتَعَاوَنُواْ عَلَى الْبرِّ وَالتَّقْوَى وَلاَ تَعَاوَنُواْ عَلَى الإِثْمِ وَالْعُدْوَانِ
และพวกเจ้าจงช่วยเหลือกันในสิ่งที่เป็นคุณธรรม และความยำเกรง และจงอย่าช่วยกันในสิ่งที่เป็นบาป และเป็นศัตรูกัน
 والسلام

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
السلام علسكم
وَمِنَ النَّاسِ مَن يُجَادِلُ فِي اللَّهِ بِغَيْرِ عِلْمٍ وَيَتَّبِعُ كُلَّ شَيْطَانٍ مَّرِيدٍ
[22.3]  และในหมู่มนุษย์บางคนมีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์โดยปราศจากความรู้ และเขาจะปฏิบัติตามชัยตอนทุกตัวที่ดื้อรั้น
وَمِنَ النَّاسِ مَن يُجَادِلُ فِي اللَّهِ بِغَيْرِ عِلْمٍ وَلَا هُدًى وَلَا كِتَابٍ مُّنِيرٍ
[22.8]  และในหมู่มนุษย์บางคนมีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์ โดยปราศจากความรู้และโดยปราศจากแนวทางที่ถูกต้อง และปราศจากคัมภีร์ที่มีหลักฐานชัดแจ้ง
أَلَمْ تَرَوْا أَنَّ اللَّهَ سَخَّرَ لَكُم مَّا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ وَأَسْبَغَ عَلَيْكُمْ نِعَمَهُ ظَاهِرَةً وَبَاطِنَةً وَمِنَ النَّاسِ مَن يُجَادِلُ فِي اللَّهِ بِغَيْرِ عِلْمٍ وَلَا هُدًى وَلَا كِتَابٍ مُّنِيرٍ 
[31.20]  พวกเจ้ามิเห็นดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงอำนวยความสะดวกให้แก่พวกเจ้าสิ่งที่มีอยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและสิ่งที่มีอยู่ในแผ่นดิน และพระองค์ได้ทรงประทานความ โปรดปรานมากมายของพระองค์อย่างครบครันแก่พวกเจ้า ทั้งที่เปิดเผยและที่ซ่อนเร้นและในหมู่มนุษย์มีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์โดยปราศจากความรู้และปราศจากแนวทางที่ถูกต้องและปราศจากคัมภีร์ที่ให้ความสว่าง (แก่พวกเขา)
 والسلام

      ถ้าคุณ philosophy  อ่านกระทู้นี้ทั้งหมดนั้น คุณก็จะรู้เลยใช่ไหมครับว่า  อะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์นั้น อ้างอิงหะดิษฏออีฟ  ตัดทอนคำพูดของอุลามาอ์  เสริมแต่งคำเพิ่มเติมคำพูดของนักปราชญ์

      จึงถือว่าถูกต้องแล้ว  ที่คุณยกอายะฮ์ที่ว่า

وَمِنَ النَّاسِ مَن يُجَادِلُ فِي اللَّهِ بِغَيْرِ عِلْمٍ وَيَتَّبِعُ كُلَّ شَيْطَانٍ مَّرِيدٍ

[22.3]  และในหมู่มนุษย์บางคนมีผู้โต้เถียงในเรื่องของอัลลอฮ์โดยปราศจากความรู้ และเขาจะปฏิบัติตามชัยตอนทุกตัวที่ดื้อรั้น

ออฟไลน์ sunnah 50

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด


  แต่ที่แน่ ๆ นั้น  คือชาวสวรรค์คือชนส่วนใหญ่  ตามอัลเลาะฮ์ ตะอาลา ทรงตรัสรับรองไว้ว่า

"(ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้วเกี่ยวกับสิ่งที่ได้รับในสรวงสวรรค์นั้น) สำหรับชนชาวขวา  ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่จากยุคแรกและเป็นชนกลุ่มใหญ่จากยุคหลัง"  อัลวากิอะฮ์ 38 - 39 - 40
[/quote]
............................
แต่ อาจารย์ครับ ผมว่าคนส่วนใหญ่ ตกนรกนะครับ
وَلَقَدْ ذَرَأْنَا لِجَهَنَّمَ كَثِيراً مِّنَ الْجِنِّ وَالإِنسِ لَهُمْ قُلُوبٌ لاَّ يَفْقَهُونَ بِهَا وَلَهُمْ أَعْيُنٌ لاَّ يُبْصِرُونَ بِهَا وَلَهُمْ آذَانٌ لاَّ يَسْمَعُونَ بِهَا أُوْلَـئِكَ كَالأَنْعَامِ بَلْ هُمْ أَضَلُّ أُوْلَـئِكَ هُمُ الْغَافِلُونَ 
[7.179]  และแน่นอนเราได้บังเกิดสำหรับญฮันนัม ซึ่งส่วนมากจากญิน และมนุษย์ โดยที่พวกเขามีหัวใจซึ่งพวกเขาไม่ใช้มันทำความเข้าใจและพวกเขามีตา ซึ่งพวกเขาไม่ใช่มันมอง และพวกเขามีหู ซึ่งพวกเขาไม่ใช้มันฟังชนเหล่านี้แหละประหนึ่งปศุสัตว์ ใช่แต่เท่านั้น พวกเขาเป็นผู้หลงผิดยิ่งกว่า ชนเหล่านี้แหละ พวกเขาคือผู้ทีเผลอเรอ
และอัลลอฮแก่นบีอาดัม อะลัยฮิสสลามว่า
أخرج بعث النار، قال: وما بعث النار؟ قال: من كل ألف تسعمائة وتسعة وتسعين،
เจ้าจงนำชาวนรกออกมา  ,แล้วเขา(อาดัม) กล่าวว่า "ชาวนรกนั้นเท่าไหร่ ? พระองค์ตรัสว่า "จากทุกๆหนึ่งพันคนนั้น มี เก้าร้อยเก้าสิบเก้า
.........
ผมกล่าวถูกหรือเปล่าครับอาจารย์ al-azhary 


ออฟไลน์ sunnah 50

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ตอบก่อนนะครับ แล้วค่อยลบที่หลัง ;D

ออฟไลน์ namsu

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 2
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
มาอัฟครับ อ่านที่โต้ๆกันมา รู้สึกยิ่งงงๆ แล้วตกลงซีฟาตของอัลลอฮฺตามความหมายของสะลาฟ เราต้องอ่านผ่านอย่างเดียวหมดเลยหรอครับ ไม่สามารถเข้าใจความหมายและแปลความหมายเป็นภาษาอื่นได้ หรือแม้แต่การให้ความหมายแบบภาษาอาหรับ-อาหรับ ก็ไม่ได้
แล้วแบบนี้ ซีฟาตของอัลลอฮฺ อย่างเช่น ซัมอุน บาซอรน กะลามุน กุดเราะห์ อิรอดะห์ ฯลฯ เหล่านี้ เราก็ไม่สามารถแปลได้นะสิครับ แล้วแบบนี้เราจะเข้าใจซีฟาตของอัลลอฮฺได้อย่างไรกันละครับ
เป็นไปได้ไหมครับว่า พอเราแปลแล้ว เช่น ซัมอุน แปลว่าได้ยิน เราก็จะเข้าใจว่า การได้ยินจำเป็นต้องมี ใบหู มีประสาทหู มีรูหู อะไรประมาณนี้ เพราะมัคลูกจะได้ยินได้ก็ต้องมีอวัยวะเหล่านี้ประกอบแต่ถ้าเราไม่แปล ก็จะไม่ทำให้เราสามารถจินตนาการแบบนั้น เพราะว่า เราไม่เข้าใจภาษาอาหรับด้วย (อิอิ)
ถามแบบนี้จะโดนดุมั้นเนี้ยะ  :'(
ญะซากัลลอฮฺ ล่วงหน้าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 27, 2007, 10:24 PM โดย namsu »

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ไม่เคยอ่านกระทู้อื่นดูหรือครับว่า.....บังอัลอัซฮะรีได้กล่าวไว้ว่า....แปลนั้นแปลได้...แต่ให้เหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์....การแปลนั้นอยู่ในหนทางผ่อนปรนยอมให้....ส่วนการแปลว่าได้ยิน...เห็น...รู้...ของอัลเลาะฮ์นั้น....บังอัลอัซฮะรี่เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่ครับ...น่าจะดูคำชี้แจงอีกกระทู้หนึ่งก่อนก็จะเป็นการดีน่ะ...

 

GoogleTagged