ผู้เขียน หัวข้อ: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด  (อ่าน 17128 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป

อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะร่อกาตุฮ์

لا إله إلا الله

ถ้อยคำอันงดงามนี้  มีความหมาย  มีคุณค่า  ทั้งโลกนี้และโลกหน้า  ขอเชิญชวนพี่น้องที่มีความรู้เกี่ยวกับถ้อยคำอันงดงามนี้  เสวนาอธิบายได้ทั้งในเชิงตัฟซีร  เชิงเตาฮีด  เชิงตะเซาวุฟ  และเชิงไวยากรณ์  กันได้เลยครับ  มีให้พี่น้องเล็งเห็นของความสำคัญของถ้อยคำนี้ 


นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า

"ผู้ใดที่สุดท้ายคำพูดของเขา ด้วยคำว่า  "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"  เขาจะได้เข้าสวรรค์"  หะดิษซอฮิห์




ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ฉันจะยึดมั่นอยู่กับ ลาอิลา ฮะ อิลลัลลอฮ ตลอดอายุขัยของฉัน

ฉันจะใช้เวลาว่างของฉันไปกับ ลาอิลา ฮะ อิลลัลลอฮ

ฉันจะนำเอา ลาอิลา ฮะ อิลลัลลอฮ ไปกับฉันด้วยในหลุมฝังศพ

ฉันจะพบกับพระผู้อภิบาลของฉันด้วย ลาอิลา ฮะ อิลลัลลอฮ

อามีน...

ออฟไลน์ บุคคลธรรมดา

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 433
  • live&learn in Islam
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
เกิดมาเพื่อคำๆ นี้  ;D
ถ้าหากว่าเราจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยแอ่งปลักโคลน
แน่นอนที่สุด เราจะถึงฝั่งนั้นในสภาพที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลน...
โคลนที่อยู่ในแอ่งนั้น มันจะทิ้งร่องรอยที่เท้าของเรา
และในที่ที่ เราได้เหยียบย่างไป

                        "อัลชะฮีด ซัยยิด กุฏุบ"

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์........ที่ในชีวิตนี้ได้เกิดมาเป็นบ่าวของพระองค์อัลเลาะฮ์และเป็นส่วนหนึ่งของประชาชาติมุสลิม........ลาอิลาฮะอิลลั้ลลอฮ์
ตอบตรงประเด็นหรือเปล่าคะนี่.........
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^

ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ
แปลว่าไม่มีพระเจ้าใด ๆ เว้นแต่อัลลอฮฺ
แต่ความหมายว่ากัน 3 ปีก็ไม่จบ  ;D
หมายความว่า
ที่พระอาทิตย์ขึ้นก็อัลลอฮฺ
ที่พระจันทร์ทำหน้าที่ก็เพราะพระองค์
ที่โลกยังคงโคจรถูกทิศก็ด้วยพระเมตตา
ที่ ฯลฯ
และสุดท้ายที่หัวยังคงเต้นอยุ่ ก็เพราะพระองค์ เพื่อพระองค์ อินชาอัลลอฮฺ



 
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
;) ;) ;)

คนต่างศาสนาเค้าก็มีพระเจ้าของเขา

แต่พระเจ้าที่จะเสมอเหมือนกับพระเจ้าของเรานั้นไม่มี

และพระเจ้าที่แท้จริงมีเพียงหนึ่งเดียว

ขออนุญาตปู่อัลพรีเซ้นส์สโลแกนของปู่หน่อยนะคะ

อัลลอฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง

  ::) ::) ::)


หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ isma-il

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 232
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อยากให้ท่านผู้ช่วยอธิบาย

ในกาลีเมาะห์ "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์" ที่มีผู้กล่าวว่า มี ปฏิเสธ (นาฟี) และยอมรับ (อิสบาบ)

คืออย่างไร

ออฟไลน์ isma-il

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 232
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
หลักการซิกร์ (การกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ)
         

     การกล่าวซิกร์ จัดเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการสวมคิรเกาะฮฺ (สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่มีรอยปะ) ในอัลกุรอานชี้ชัดแล้วว่า การรำลึกถึงอัลลอฮฺเป็นรัศมีโดยแท้และประเสริฐสุด ซึ่งโองการต่าง ๆ ของอัลกุรอานได้กล่าวไว้ว่า

فَاذْكُرُونِى أَذْكُرْكُمْ واشْكُرُوا لِى وَلاَ تَكْفُرُوْنِ

ความว่า: ?เจ้าทั้งหลายจงรำลึกถึงฉัน ฉันจะรำลึกถึงพวกเจ้า? (2 : 152)

الَّذِيْنَ ءَامَنُوا وَتَطْمَئِنُّ قُلُوبُهُمْ بِذِكْرِ اللهِ أَلاَ بِذِكْرِ اللهِ تَطْمَئِنُّ القُلُوبُ

ความว่า: ?บรรดาผู้ศรัทธา และบรรดาผู้ที่จิตใจของพวกเขาสงบนิ่งด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ มิใช่ด้วยรำลึกถึงอัลลอฮฺดอกหรือที่ทำให้จิตใจสงบได้? (13 : 28)

          ในหะดีษอัล-กุดซีย์ มีรายงานมาโดยท่านอีหม่ามบุคอรีย์และอีหม่ามมุสลิมว่า... ?อัลลอฮฺทรงตรัสว่า ?ขณะที่บ่าวรำลึกถึงฉันต่อหน้าสาธารณชน ฉันจะรำลึกถึงเขาต่อหน้าสาธารณชนที่ดีกว่ากลุ่มนั้นอีก หากเขาเข้าหาฉันหนึ่งคืบฉันจะเข้าหาเขาหนึ่งศอก หากเขาเข้าหาฉันหนึ่งศอกฉันจะเข้าหาเขาหนึ่งวา หากเขาเดินมาหาฉันฉันจักเร่งฝีเท้าไปหาเขา? (บุคอรีย์และมุสลิมและฮาซันบันนา 1975 :  7)

          ท่านฮากีมได้คัดจากหะดีษที่รายงานโดยท่านบัรร๊ออฺ ซึ่งเป็นหะดีษมัรฟุฮฺ (โดยรายงานมาว่า) ?ผู้ใดที่กล่าวว่า ?ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ ไม่มีการตั้งภาคีใด ๆ ต่อพระองค์ พระองค์ทรงอำนาจ พระองค์ทรงครอบครองการสรรเสริญและพระองค์ทรงปรีชาเหนือทุกสิ่ง? โดยกล่าวสิบครั้ง เขาเสมือนได้ปลดปล่อยทาสหนึ่งคน? (ยะลาลุดดีนซุยูตีย์ ม.ป.ป. :  10 ? 11)

          ท่านอิบนุญารีรได้อ้างคำกล่าวของท่านเกาะตาดะฮฺในหนังสืออธิบาย (ตัฟซีฟ) อัลกุรอานของท่านว่า ?อัลลอฮฺทรงกำหนดให้ซิกร์ (รำลึก) ถึงพระองค์ขณะที่พวกท่านทั้งหลายกำลังวุ่นวายที่สุด แม้ขณะกำลังรบประดาบกันอยู่ก็ตาม? และท่านก็ยกโองการที่ว่า ?โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายเมื่อพวกท่านพบปะคนกลุ่มหนึ่ง พวกท่านพึงตั้งมั่นและจงรำลึกถึงอัลลอฮฺให้มาก ๆ เพื่อพวกเจ้าจักได้รับชัยชนะ? (ยะลาลุดดียซุยูตีย์ อะมาลุ้ลฟิกริฟีฟัดลิดซิกร์ ม.ป.ป. :  10 ? 11)

ที่มาของหลักฐานการกล่าวซิกร์ (กล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ)

          ท่านอีหม่ามฮาฟิซญะลาลุดดีน อัซซะยูตีย์ ได้รายงานด้วยสายรายงานต่าง ๆ ว่า ?แท้จริงท่านอีหม่ามอาลีได้กล่าวว่า ฉันได้ตามท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) โดยที่ฉันได้กล่าวแก่ท่านร่อซู้ลว่า ?โอ้ท่านศาสนทูต จงบอกฉันถึงวิธีการเข้าใกล้อัลลอฮฺที่ง่ายดายต่อบ่าวที่จะปฏิบัติ และเป็นแนวทางที่ประเสริฐสุด ณ ที่พระองค์อัลลอฮฺ และท่านร่อซู้ลก็ได้กล่าวว่า ?โอ้อาลีเอ๋ย ท่านจงดำรงไว้ซึ่งการรำลึกถึงพระองค์ทั้งโดยลับและโดยเปิดเผย? อาลีก็ได้กล่าวว่า ?ทุกคนก้ต้องทำแบบนี้ทั้งสิ้น แต่ว่าฉันต้องการให้ท่านนั้นเจาะจงแนะวิธีการอย่างหนึ่งให้กับฉันเป็นพิเศษ ท่านร่อซู้ลกล่าวว่า ?สิ่งที่ฉันและบรรดานบีต่าง ๆ ที่อยู่ก่อนฉันกล่าวคือ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)?  ถ้าแม้ว่าเอาฟากฟ้าทั้งเจ็ดชั้นและผืนแผ่นดินทั้งเจ็ดเอามาวางไว้บนตาชั่งข้างหนึ่ง และนำเอาคำว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? มาวางไว้บนตาชั่งอีกข้างหนึ่ง ทั้งฟากฟ้าและผืนแผ่นดินก็ไม่อาจหนักเทียบเท่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? หลังจากนั้นท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า ?โอ้อาลี ! วันกิยามะฮฺ (วันสิ้นโลก) นั้นจะไม่เกิดขึ้นบนหน้าพื้นพิภพ ตราบใดที่ยังมีผู้กล่าว?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? และท่านอาลีก็กล่าวว่า ?ฉันจะทำการรำลึกถึงพระองค์อย่างไร? ท่านร่อซู้ลได้กล่าว لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) 3 ครั้ง โดยที่ท่านปิดตาทั้งสองข้างและกล่าวเสียงดัง ท่านอาลีก็คอยฟังและหลังจากนั้นท่านอาลีก็ได้กล่าวตาม

          ท่านอัซซัดดาด บิน เอาฟฺ ได้กล่าวว่า ?พวกเราเคยอยู่ร่วมกับท่านร่อซู้ล ในขณะที่ท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า ?ในหมู่พวกท่านมีคนแปลกหน้าหรือไม่ (หมายถึงชาวคัมภีร์จากชาวยิวและชาวคริสต์) พวกเราได้กล่าวว่า ?ไม่มีหรอกท่านร่อซู้ล? ดังนั้นท่านร่อซู้ลจึงใช้ให้เปิดประตู และท่านได้กล่าวว่า ?จงยกมือของพวกท่านและจงกล่าว لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? และพวกเราก็ได้กล่าวว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺได้ส่งฉันมาด้วยกับคำ ๆ นี้ และพระองค์นั้นมิได้เป็นผู้ผิดสัญญา? พวกซูฟีได้ยึดถือว่าหลักฐานดังกล่าว เป็นหลักในการสอน لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) ของท่านรอซู้ลต่ออัครสาวกของท่าน

          ท่านอามีร นัรยาร ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการซิกร์จากหะดีษดังกล่าวว่า ?เราสามารถที่จะเข้าใจดังเช่นที่ กุซัยรี่ ได้อธิบายว่า การซิกร์เป็นซัยฟุ้ลมุรีด (ดาบของศิษย์) ด้วยดาบนั้นศิษย์สามารถที่จะสู้รบกับศัตรูได้ และด้วยกับดาบนั้น ศิษย์สามารถที่จะป้องกันเภทภัยที่จะมาประสบกับเขา และการทดสอบได้ประสบกับจิตใจของเขานั้นจะวิตกกังวลและหวาดกลัว และการหันหน้าเข้าสู่องค์อัลลอฮฺ จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารังเกียจจะถูกขจัดไปในทันทีทันใด? (อามีร นัรยาร ตุรุกซูฟียะฮฺ ม.ป.ป.46)

          ท่านซุลนูนมิซรี่ ได้กล่าวว่า ?ผู้ใดก็ตามที่รำลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ อย่างจริงจัง จนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์จะทรงรักษาสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นไว้ให้กับเขา และพระองค์จะให้สิ่งทดแทนแก่เขา (ริซาละฮฺกุซัยรียะฮฺ 466)

          ท่าน ซะอฺรอนีย์ ได้กล่าวว่า ?ชาวอะฮฺลิลเฏาะรีก ((ที่สังกัดอยู่ในกลุ่มเฏาะรีเกาะฮฺ) ได้มีทัศนะร่วมกันว่า แน่แท้การซิกร์ (รำลึกถึงอัลลอฮฺ) นั้นเมื่อได้เกิดขึ้นและฝังแน่นในจิตใจ เมื่อมารร้าย (ชัยตอน) เข้าใกล้พวกมารร้ายก็จะถูกผลักดันออกไป พวกมารร้าย (ชัยตอน) ก็จะมารวมตัวกันและถามว่า ?เกิดอะไรขึ้น? และมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า ?แน่แท้มารร้าย (ชัยตอน) นั้น เมื่อเข้าใกล้ผู้ที่กล่าวซิกร์ มันจะถูกผลักดันออกมา? (ซะฮฺรอนีย์ อัล-อันวารกุดซียะฮฺ ฟีอะดาบิลอุบูดียะฮฺ ม.ป.ป.125)

          ฟัคครุซรอซีร์ ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการซิกร์ว่า ?การซิกร์คือการชำระความมืดมนของหมู่มวลมนุษยชาติ และ ณ พระองค์เท่านั้น คือ จุดกำเนิดแห่งแสงสว่าง และไม่มีความผิดใด ๆ ที่เกิดขึ้นต่อพระองค์ ท่านผู้ทรงสูงสงยิ่งที่จะทำให้แสงสว่างแห่งพระผู้เป็นเจ้าเข้าถึงส่วนลึกแห่งหัวใจ ดังนั้นความืดมิดจะถูกการซิกร์นั้นกำจัดให้พ้นจากหัวใจ และวิญญาณ? (ฟัครุรรอซีย์ ละวาเมียะ ลากอเอี้ยอัล-บายานาต ม.ป.ป.2)

          ท่านอีหม่าม กุซัยรี่ ได้กล่าวว่า ?การทำซิกร์นั้นเป็นด้านที่แข็งแรงที่สุดในหนทางที่จะบรรลุถึงพระองค์อัลลอฮฺ? (ริซาละฮฺกุซัยรียะฮฺ 212)

          ท่านตุซตารีย์ ได้ถือหลักว่า ?การซิกร์นั้นเป็นการรำลึกอยู่เสมอว่าพระองค์อัลลอฮฺทรงเห็นท่าน ดังนั้นท่านก็จะเห็นพระองค์อยู่ใกล้ชิดกับตัวและหัวใจของท่าน และท่านจะต้องทำดีต่อพระองค์ทั้งด้านจิตใจและทุก ๆ อิริยาบทของท่าน? ท่านตุซตารีย์ได้แบ่ง ซิกร์เป็น 3 แบบคือ
1. การซิกร์ด้วยลิ้น
2. การซิกร์ด้วยหัวใจ
3. การซิกร์เฉพาะ เรียกว่า มูซิ้ล คือการซิกร์แบบติดต่อกันจะต้องมาร่วมกันทำเป็นหมู่คณะ

          ซิกร์สองแบบแรกนั้น นับว่าเป็นแบบที่ขาดตอน หมายถึง ซิกร์ที่มิได้ทำติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน ส่วนซิกร์แบบที่สาม ถือเป็นชนิดพิเศษ กล่าวคือ มีการตั้งใจทำกันอย่างจริงจังภายใต้จิตใจที่มอบแด่พระองค์อัลลอฮฺอยู่ตลอดเวลา ซิกร์ที่มีต่ออัลลอฮฺอย่างจริงจังนั้น จะทำให้ทุกอณูของผู้กระทำแน่วแน่อยู่ ณ พระองค์อัลลอฮฺ เมื่อซูฟีอยู่ต่อหน้าพระองค์อัลลอฮฺ ทุกอณูของเขาจะอยู่ ณ พระองค์อัลลอฮฺทั้งหมด เขาจะไม่คิดถึงสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์ และเขาจะไม่หยุดทำการซิกร์จนกว่าพระองค์จะครอบครองจิตใจของเขา หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นจากการทำซิกร์ ฉะนั้นความจริงก็จะประจักษ์แก่เขา ความผิดพลาดก็จะมลายสิ้นไป ลบล้างข้อบกพร่องต่าง ๆ และร่องรอยแห่งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสิ่งอื่นให้ออกไปจากจิตใจของพวกเขา เพราะว่าจิตใจของเขาผูกพันอยู่กับอัลลอฮฺ จิตใจของเขาจึงว่างเปล่าจากทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากพระองค์ และการทำซิกร์นั้นเป็นสื่อที่ทำให้จิตใจหลุดพ้นจากความมืดมน หรือด้วยสำนวนของนักปราชญ์ที่ว่า การซิกร์นั้นเป็นสื่อทำให้บุคคลหลุดพ้นจากเรื่องราวภายนอก หรือหลุดพ้นจากสิ่งที่เขาปรารถนา

          อัซซิกร์ (การรำลึกถึงอัลลอฮฺ) มีสองด้าน คือ ด้านบวก คือการเข้าถึงสิ่งที่สำคัญยิ่งสูงสุดเพียงสิ่งเดียวคือพระองค์อัลลอฮฺ ด้านลบ คือ จิตใจนั้นจะว่างเปล่าจากทุกสิ่งที่มืดมน คือ ความอยาก ความต้องการ และอารมณ์ (อะฮฺหมัด มะฮฺมูด ซุบฮิ อัล-ฟัลซะฟะฮฺ อัล-อัคลากียะอฺฟีอัล-อิสลาม 1969 : 253)


โดย..อ.อุมาร  มาดะมัน จากวิทยานิพนธ์เรื่องการศึกษาเปรียบเทียบความเชื่อและการปฏิบัติของกลุ่มเฏาะรีเกาะฮฺซูฟีในประเทศไทย
refer..---> http://www.ridwanclub.com/subindex.php?page=content&id=123 (ออนไลน์) เว็บ ridwanclub.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 15, 2007, 10:44 AM โดย isma-il »

ออฟไลน์ isma-il

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 232
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
ท่านอัซซัดดาด บิน เอาฟฺ ได้กล่าวว่า ?พวกเราเคยอยู่ร่วมกับท่านร่อซู้ล ในขณะที่ท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า ?ในหมู่พวกท่านมีคนแปลกหน้าหรือไม่ (หมายถึงชาวคัมภีร์จากชาวยิวและชาวคริสต์) พวกเราได้กล่าวว่า ?ไม่มีหรอกท่านร่อซู้ล? ดังนั้นท่านร่อซู้ลจึงใช้ให้เปิดประตู และท่านได้กล่าวว่า ?จงยกมือของพวกท่านและจงกล่าว لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? และพวกเราก็ได้กล่าวว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺได้ส่งฉันมาด้วยกับคำ ๆ นี้ และพระองค์นั้นมิได้เป็นผู้ผิดสัญญา? พวกซูฟีได้ยึดถือว่าหลักฐานดังกล่าว เป็นหลักในการสอน لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) ของท่านรอซู้ลต่ออัครสาวกของท่าน

อยากเรียนถามผู้รู้ครับ สามารถอธิบายได้ใหมว่า ทำไมท่านรอซู้ล ซ๊อลอลลอฮุอลัยฮิวซัลลัม ถึงได้ถามอย่างนั้นและทำไมถึงให้เปิดประตูหรือปิดประตู

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
لا إله إلا الله

โปรดพิจารณากันครับ  คำว่า  ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์  เป็นที่ภาษาอาหรับนั้น  จะไม่มีพยัญชนะใดที่มี "จุด" เลยครับ  นั่นแสดงให้เห็นว่า  ลาอิลาฮิอิลลัลลอฮ์นั้น   บริสุทธิ์ไม่มีชิริกใดมาเจอปนเลยครับ

ลาอิลาฮะอิลลัลลฮ์  หมายถึง  ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์   พอเวลาเราทำการซิกรุลลอฮ์ด้วยลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์นั้น   ก็พยายามกล่าวลาอิลาฮะอิลลัลลฮ์  โดยขจัดสิ่งอื่นในจิตใจออกไปให้หมด "นอกอัลเลาะฮ์"  เท่านั้นที่นำมาอยู่ในหัวใจ นั่นแหละเขาเรียกว่า  ไม่มีพระเจ้าอื่นใด(ที่เป็นมัคโลคอยู่ในหัวใจ)นอกจากอัลเลาะฮ์(เท่านั้น)

วัลลอฮุอะลัม

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
ไม่มีประโยคไหนที่ทำให้รู้สึกสบายใจเท่าประโยคนี้อีกแล้ว
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
เป็นถ้อยคำที่กล่าวแล้วได้บุญอันมหาศาลแต่ช่วงเวลาของวันหนึ่งๆนั้นอารมณ์นัฟซูของเราไม่ต้องการให้กล่าว

ออฟไลน์ tatcha_jah ~♪

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 341
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
ตอนนี้ละหมาดไม่ได้

รู้สึกไม่มีความสุขเลย

แต่พอได้ซิเกรแล้วก็รู้สึกดี

อบอุ่นหัวใจ

^^
ผู้ศรัทธาต่ออัลลอห์...ท้ายสุดจะได้ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในวันอาคิเราะห์

 

GoogleTagged