ผู้เขียน หัวข้อ: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ  (อ่าน 3756 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ dolmabahce

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 15
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 03:15 PM »
0

 salam

พี่น้องมุสลิมทุกท่าน ทุกมัสฮับ และเว็ปมาสเตอร์

ผมได้ยินมาจากคุณอัลฟาตอนีว่ามีการถกเถียงรุนแรงมากเกี่ยวกับเรื่อง 3 จังหวัด

ที่
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=5979.0

อยากเรียนเวปมาสเตอช่วยปิดกระทู้ไม่สร้างสรรค์นี้ดีกว่าครับเพราะดูแต่ละคนคุยกันใช่ความรู้สึกกันมาก

ไม่มีใครผิด ใครถูก แต่ละคนนำเสนอความเห้นที่ตามตนรู้มา

ปัญหาสามจังหวัดนับวันรังแต่จะเป็นสงครามกลางเมืองแล้ว

มุสลิมถูกฆ่าทั้งตากใบ มัสยิดไอปาแย ถูกอุ้มมากมาย ก่อเกิดความต้องการตอบโต้ปลดแอก

ถ้าจะญิฮาด ก็เอาให้ถูกต้องเลยครับ  แต่ขอให้การญิฮาดผ่านการรับรองของอุลามาอ์และมีแม่ทัพมุสลิมที่รู้หลักการศาสนาด้วยครับ ญิฮาดด้วยความรอบคอบสุขุม เฉพาะแต่กับคนที่ฆ่ามุสลิมเท่านั้น ให้เป็นพื้นที่ต่อสู้เป็นสัดส่วน ไมเอาสงครามกลางเมืองที่เข่นฆ่าพลเรือนโหดร้ายตัดคอประจาน สลัดทิ้งลัทธิชาตินิยมเชื้อชาตินิยมที่อิสลามไม่ยอมรับไปซะ ถ้ามีคนเชื้อสายสยามเคร่งครัดอิสลามก็ขอให้รักเขาดุจที่รักพี่น้องมลายู
เห็นใจพี่น้องมลายูมุสลิมครับ และผมก้มลายูไม่ลืมกำพืดแน่นอน แต่อิสลามคือกำพืดที่ยิ่งใหญ่กว่ามลายูครับ

ส่วนการฆ่าคนพุทธด้วยนำมือของคนมลายูบางคนที่ไม่เข้าใจหลักการ บ้าคลั่งชาตนิยมเราก็ต้องประนามต่อต้านครับ และต้องยอมรับครับว่ามันมีจริงๆ เป็นธรรมด้วยครับ การฆ่าพระปาดคอพระ ที่ผมเห็นจะๆที่วัดหน้าถำ ยะลา ตะโกนตักบีรด้วยความสะใจที่ฆ่าพระได้ ต้องยอมรับและประนามด้วยว่ามีมลายูเราทำแบบนี้จริงๆ

ขอเถิดพี่น้อง อย่าแตกแยกกันกว่านี้เลย ทุกคนที่อยู่ที่น้อาจมองว่าตนรู้ดีที่สุดแล้วว่าใครผิดใครถูก แต่ขอให้คิดว่าว่ายังมีปมอีกมากที่คุนและผมก็ไม่รุ้

การทะเลาะกันด้วยปันหานี้ผ่านเวปไซต์ไม่มีอะไรดีขึ้นรังแต่จะทำลายกันเอง

พี่น้องมลายูที่เจ้บปวดกับรัฐบาล ส่งเสริมครับที่ให้รวมกลุ่มกดดันรัฐบาลเดินไปหน้ารับสภาบอกอภิสิทให้รื้อคดีตากใบ สมชาย และอุ้มหายสมัยทักสินเหลี่ยมด้วย ไปสถานทูตมุสลิมบอกว่าทักสินคือคนชั่ว บีบอภิสิทให้รับผิดชอบปันหาตากใบ ดีกว่าเยอะครับที่มานั่งพูดในนี้ไม่ได้อะไร

พี่น้องมุสลิมที่เหนใจคนพุทธที่ถูกฆ่าก้ไปช่วยเหลือเขาครับ บอกกับเขาเท่าที่ทำได้ว่าเรื่องนี้อิสลามไม่เกี่ยว
เป้นเรื่องของคนบางพวกที่บ้าเชื้อชาติ


วัสสลาม

ออฟไลน์ ฮุ้นปวยเอี๊ยง

  • رَبِّ زدْنِيْ عِلْماً
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 994
  • เพศ: ชาย
  • وَارْزُقْنِيْ فَهْماً
  • Respect: +116
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 03:46 PM »
0
วอนขอ webmater และ admin อีกคนครับ

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 04:16 PM »
0
สนับสนุน
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 05:14 PM »
0
 oh:

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 05:25 PM »
0
สนับสนุนครับ
ปิดไปเลยบัง เฮ้อ เสียใจ
พี่น้องถูกรังแกว่าเศร้าแล้ว นี่พี่น้องกลับไม่สำนึกในความเป็นอิสลามนี่สิเศร้ากว่า
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 05:46 PM »
0
 salam

จริง ๆ แล้ว นาย Hantu เขาถูกแบนและถูกลบชื่อออกไปจากสาระบบแล้ว...แต่ก็โผล่มาอีกด้วยการเปลี่ยนนิค...

เขาสมควรถูกลบออกจากเว็บนี้นานแล้ว...เพราะหากจะนำเสนอก็ไปทำเว็บขึ้นมาเอง...อย่ามาโพสต์เกะกะแถวนี้...!!!




ออฟไลน์ itoursab

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 06:23 PM »
0
ขออนุญาตแสดงความเห็นนะครับ
...
ผมเป็นคนพุทธ แล้วก็เป็นคน กทม.
กระทู้นั้นผมก็อ่านอยู่เหมือนกัน
โดยความเห็นส่วนตัว
ผมว่าดีครับที่เขาได้เสนอความรู้สึกและแนวคิด
เพราะคนเรามีความอัดอั้นแล้ว ยิ่งปิด ก็ยิ่งปูด
พอเจ็ปมากก็กลายเป็นแค้น แล้วไประบายในทางไม่ควรได้
เพียงแต่อาจจะต้องมีคนควบคุมการเสวนา
ไมให้เกิดความรุนแรง และเกินเลย

โดยความรู้สึกผม พี่น้องไทยภาคใต้ก็คนเหมือนผม เเหมือนเพื่อนๆชาวมุสลิม
เมื่อเขามีปัญหา เริ่มจากปล้นปืน มาตากใบไปกรือเซะ เราก็น่าจะรับฟังครับ
เพราะบางเรืองของคุณ Hantu  เช่นข้อเสนอสันติภาพ10 ข้อ
ผมอ่านแล้วยังว่าเข้าท่า เพียงแต่ส่วนมากในข้อเสนอนั้น
เป็นเรื่องที่จัดการได้ในท้องถิ่นเอง
ไม่เห็นความจำเป็นต้องใช้อำนาจรัฐฯ
และก็ยังเชื่อว่าต่อให้ทำครบ 10 ข้อนั้น สันติภาพก็ยังไม่คืนมา
ก็แค่นั้นเองครับ

สุดแต่จะพิจารณาครับ
และขออภัยที่อาจจะก้าวก่าย

Hantu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 09:59 PM »
0
อัสสลามูอาลัยกม วาเราะมาตุลลอฮีตะอาลาฮีวาบารอกาตุฮ
ฉันอยากขอให้ทุกท่านมาอัฟให้ฉันด้วย
กรุณาลบชื่อฉันออกจากเวปนี้ได้เลยครับ
วัสสลามมูอาลัยกม
[/size

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 10:42 PM »
0
อัสสลามูอาลัยกม วาเราะมาตุลลอฮีตะอาลาฮีวาบารอกาตุฮ
ฉันอยากขอให้ทุกท่านมาอัฟให้ฉันด้วย
กรุณาลบชื่อฉันออกจากเวปนี้ได้เลยครับ
วัสสลามมูอาลัยกม
[/size

           บางครั้งก็รู้สึกผิดนะ หากจะลบคุณไป ยังก็อยากให้คุณฮันตูทบทวนใหม่อีกครั้งนะครับ เรายังต้อนรับคุณเสมอ ตราบใดที่การนำเสนอนั้นอยู่ในขอบสร้างสรรค์ และนำเสนอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งเรื่อง ๓จ.ฯ นั้น ผมขอบอกจากใจจริงว่า ผมเองในฐานะคน ๓จ. แท้ๆ ก็ยากที่จะเข้าใจปัญหาที่เกิด ว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ เพราะต่างฝ่ายต่างมองกันละมุม แล้วต่างก็โทษอีกฝ่ายว่าผิด มันเหมือนจับเชือกเส้นเดียวกัน แต่ดึงไปคนละทิศ ผลเป็นอย่างไรหรือครับ ถ้าเชือกไม่ขาด ก็ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มระเนระนาดแน่ครับ แม้อีกฝ่ายจะหยุดดึงก็ตาม ฉะนั้น ต่างฝ่ายต่างจะต้องค่อยปล่อยเชือก แล้วเอามาประสานกัน แต่ก็คิดอยู่เสมอว่า เรื่องเช่นนี้คงเป็นไปได้ยาก และอาจเป็นไปไม่ได้ แต่กระนั้น ผมเชื่อว่าทุกคนก็อยากให้มันเกิดขึ้นอยู่ดี - วัลลอฮุอะอ์ลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2010, 11:55 PM »
0
อัสสลามูอาลัยกม วาเราะมาตุลลอฮีตะอาลาฮีวาบารอกาตุฮ
ฉันอยากขอให้ทุกท่านมาอัฟให้ฉันด้วย
กรุณาลบชื่อฉันออกจากเวปนี้ได้เลยครับ
วัสสลามมูอาลัยกม


มุสลิมที่นี่เป็นพี่น้องร่วมสายเชือกเดียวกันนะคะ
ยังมีเรื่องให้พวกเราได้คุยอีกตั้งมากมาย
ตักเตือนซึ่งกันและกัน แชร์ความเห็นกัน แม้จะไม่ทุกเรื่องก็ตาม
ไม่มีเขาไม่มีเรา  ไม่มีกระจก จะรู้ได้งัยว่า งดงามเพียงใด 
บางทีก็อัปลักษณ์ไปบ้าง อย่างน้อยก็ได้รู้  ::)



little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิ.ย. 05, 2010, 02:27 AM »
0
แอบรู้สึกผิด ว่ามันเป็นผลมาจากการที่เราเข้าไปบ่นในกระทู้นั้นด้วยหรือเปล่า

ไงก็มาอัฟด้วยละกันนะคะ  :-[

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิ.ย. 18, 2010, 03:17 PM »
0
การญีฮาดที่ยิ่งใหญ่้คือการญีฮาดกับนัฟซูตัวเอง
แต่ว่า ขนาดญีฮาดเล็กๆ ยังทำกันไม่ได้เลย อย่าว่าแต่ทำเถอะ แค่พูด คิด หรือยอมรับ ก็ยังทำไม่ได้ และไม่อยากทำ พวกคุณอย่าหวังจะไปญีฮาดยิ่งใหญ่อะไรนั่นเลย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิ.ย. 19, 2010, 09:42 AM »
0
การญีฮาดที่ยิ่งใหญ่้คือการญีฮาดกับนัฟซูตัวเอง
แต่ว่า ขนาดญีฮาดเล็กๆ ยังทำกันไม่ได้เลย อย่าว่าแต่ทำเถอะ แค่พูด คิด หรือยอมรับ ก็ยังทำไม่ได้ และไม่อยากทำ พวกคุณอย่าหวังจะไปญีฮาดยิ่งใหญ่อะไรนั่นเลย

 myGreat: เยี่ยม !
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิ.ย. 19, 2010, 12:58 PM »
0
งั้น เราไปญีฮาดที่ไม่ยิ่งใหญ่กันก่อนเถอะ 555
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Asadullah

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 49
  • Once Dawah... Forever Dawah...
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอนะศีฮัตหน่อยนะ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิ.ย. 19, 2010, 03:02 PM »
0
 salam...


บทเรียนจากการรบ...คิดใหม่ ทำใหม่ ด้านการเมืองเพื่อดับไฟใต้     
Written by Administrator   
Sunday, 13 December 2009 16:29

พลเอก หาญ ลีนานนท์

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2552 เป็นต้นมาจนถึงเวลาที่เขียนอยู่นี้ คือ 12 พฤศจิกายน 2552 ประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว เหตุการณ์ก่อการร้ายที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้สงบเงียบน่าแปลกใจ เมื่อสอบ ถามไปยังนายทหารที่เคยทำงานด้วยกันก็ได้รับคำตอบ ปัญหาคือน้ำท่วมโดยทั่วไป ทำให้การพบปะติดต่อประชุมหารือทำกันไม่ได้สะดวก สถานการณ์จึงดูเงียบๆ ฝ่ายเราอย่าประมาทหรือละเลยการปฏิบัติเป็นอันขาด

          ถึงเวลาของการทบทวนการปฏิบัติทั้งทางการเมืองและทางการทหาร เพราะเป็นการปฏิบัติของช่วงปีงบประมาณใหม่ 2553 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2552 ไปสิ้นสุดเอา 30 กันยายน 2553 แม้จะเริ่มมาได้เดือนเศษๆ ก็คงไม่สายเกินไปหากกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 4 จะคิดทบทวนถึงการปฏิบัติทั้งทางการเมืองและทางการทหารในการเอาชนะโจรก่อการ ร้ายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทั้งนี้หมายรวมถึงการกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธี การใช้กำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่อย่างไร

          เมื่อพูดถึงแนวทางในทางการเมืองและทางการทหารเพื่อต่อสู้กับโจรฯ และเอาชนะโจรก่อการร้าย หรือพูดในด้านหนึ่งก็คือยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการต่อสู้กับโจรฯ และเอาชนะโจรฯ ให้สำเร็จนั่นเอง

          แนวทางหรือยุทธศาสตร์ของฝ่ายเราคือ “การเมืองนำการท หาร” ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เนื้อหาสาระในการปฏิบัติทั้งทางการเมืองและทางการทหารต้องมีการเปลี่ยน แปลงและแตกต่างจากแนวทางการปฏิบัติในปีงบประมาณ 2551 และ 2552 โดยสิ้นเชิง ซึ่งมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้

 

ด้านการเมือง

          การ ปฏิบัติการด้านการเมืองของฝ่ายรัฐบาล พลเรือน ตำรวจ ทหาร  = พตท. นั้น ต้องเน้นหนักในเรื่อง “การรุกทางการเมือง” จึงจะได้รับชัยชนะและได้รับความร่วมมืออย่างจริงใจจากประชาชนผู้ถูกปกครอง ที่เป็นมุสลิม การรุกทางการเมืองของฝ่ายเราจะทำให้พลเมืองมุสลิมมีความเท่าเทียมกับพลเมือง ไทยพุทธ มีความเสมอภาคกันในด้านกฎหมาย (ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน) และอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี มุสลิมมิใช่พลเมืองชั้นสอง 

          ตัวอย่างการรุกทางการเมืองที่ควรหยิบยกขึ้นมาทำหรือปฏิบัติให้เห็นเป็น ตัวอย่างจริง  คือ ทางรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างจริงจังตามกฎหมายในเรื่องที่เกิดการตายหมู่ของ พลเมืองมุสลิม 10 คนในมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552  ที่เรียกว่า "การฆ่าใน บ้านของพระเจ้า" เรื่องนี้เพิ่งเกิดเมื่อ 5–6 เดือนที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวบ้านและตามข่าวก็ออกหมายจับผู้ต้องหาได้แล้ว น่าจะเป็นสื่อชักนำให้คลี่คลายปัญหาได้ต่อไปอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น และนำไปสู่การจับกุมกลุ่มฆาตกรได้หมด

          ถ้าแม้นว่าทางฝ่ายรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตามวิธีและขั้นตอนตามข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อรักษาไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรม เกาะติดคดีนี้อย่างเหนียวแน่น แจ้งความคืบหน้าของการดำเนินการทุกระยะให้ประชาชนทราบทางสื่อ โดยเฉพาะพลเมืองมุสลิมที่เป็นเครือญาติของผู้ตาย ให้เขาเหล่านั้นได้รับรู้ว่าญาติของเขามิได้ตายฟรี ความยุติธรรมกำลังหยิบ ยื่นให้เขาและเกิดขึ้นแล้วโดยรัฐบาลนี้ ก็น่าจะทำให้ความรู้สึกของคนในพื้นที่ดีขึ้น

          เมื่อเรื่องการฆ่าหมู่ในมัสยิดอัลฟุรกอนเริ่มคลี่คลาย ฝ่ายพลเรือน ตำรวจ และทหาร ซึ่งเป็นชนชั้นปกครองก็จะมีความรู้สึกว่าได้รับความร่วมมือจากพลเมืองมุสลิม ซึ่งเป็นฝ่ายถูกปกครองในระดับที่ดีขึ้น ก็จะเป็นแนวทางหรือแสงสว่างให้เดินหน้าต่อไปในการค้นหาสันติสุขอย่างถาวรให้ เกิดขึ้นอย่างจริงจัง

          หากคลี่คลายปัญหาการตายหมู่ของพลเมืองมุสลิมในมัสยิดอัลฟุรกอนได้ นั่นคือการรุกทางการเมือง และเป็นชัยชนะทางการเมืองของรัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายปกครอง ฝ่ายรัฐบาลก็ยังมีเรื่องการตายหมู่ การตายของผู้นำศาสนา ฯลฯ อีกหลายเรื่อง เรื่องสำคัญๆ ก็ได้เขียนไว้แล้วในบทเรียนจากการรบตอนก่อนๆ แม้จะไม่สามารถแก้ได้หมดในเวลาอันรวดเร็ว และบางเรื่องก็ไม่สามารถแก้ได้เลย เพราะเป็นอดีตการปกครองที่เป็นเผด็จการเต็มรูปแบบ จำเป็นต้องปล่อยให้ผ่านไป ปล่อยให้เป็นภาระของการเยียวยาที่ต้องใช้เวลา เป็นแผลใจของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตไปอีกหลายชั่วคน และจะลืมหายได้สนิทและเร็วขึ้นเพียงใดก็ต่อเมื่อฝ่ายชนชั้นปกครองได้ทำการ รุกทางการเมืองอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง และเกิดความสมานฉันท์ระหว่างพลเมืองพุทธ–มุสลิมอย่างถาวร

          เมื่อชนชั้นปกครองได้เข้าใจแก่นแท้ของปัญหาลึกลงไปถึงว่าปัญหาที่สามจังหวัด ชายแดนภาคใต้นั้นมิได้เกิดจากฝ่ายพลเมืองมุสลิมแต่เพียงฝ่ายเดียว หากแต่ชนชั้นปกครองฝ่ายไทยพุทธเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นบ่อเกิดของปัญหา เนื่องจากไม่เข้าใจพลเมืองมุสลิมที่เป็นฝ่ายถูกปกครอง ทำให้พลเมืองมุสลิมไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่มีความเท่าเทียมกันในสังคม ไม่มีความเสมอภาคในโอกาสที่จะปกครองตนเอง ความคิดรุนแรงที่ตกผลึกของนักการทหาร "สายเหยี่ยว" ของชนชั้นปกครองจึงทำให้เกิดการฆ่าหมู่ ทำให้พลเมืองมุสลิมตายหมู่หลายครั้งหลายคราวดังที่ได้กล่าวมาแล้วหลายครั้ง ความคิดเช่นนี้ต้องถูกกำจัดไปให้หมดสิ้นจากกำลังที่ถืออาวุธที่ทำหน้าที่ ปกครองพลเมืองมุสลิมที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมุสลิมพร้อมที่จะสมานฉันท์เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ และมีความเท่าเทียมกันในสังคมทุกๆ ด้าน

          ดังนั้นการรุกทางการเมืองจะประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อต้องกระทำต่อกำลังชน ชั้นปกครองพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่นิยมการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงหรือการฆ่า เพื่อมิให้เกิดเงื่อนไขสงครามดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มิฉะนั้นแล้วการรุกทางการเมืองต่อพลเมืองมุสลิมแต่เพียงฝ่ายเดียวจะไม่ บังเกิดผลเลย

          เมื่อใดที่ฝ่ายปกครองคือ รัฐบาล (พลเรือน ตำรวจ ทหาร  = พตท.) เริ่มรุกทางการเมือง จะเห็นได้ชัดจากความร่วมมือของพลเมืองมุสลิมซึ่งค่อยๆ มีปรากฏเปิดเผยขึ้นเป็นรหัสบอกให้รู้ว่าพลเมืองมุสลิมยอมรับการดำเนินการของ ฝ่ายปกครอง การปฏิบัติการที่รุนแรงของแนวร่วมและ/หรือ ทหารอาร์เคเค/คอมมานโดจะเพลาลง เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากพลเมืองมุสลิมในพื้นที่

          ดังนั้นเมื่อพิจารณาให้ถึงที่สุดแล้วจะพบว่าการรุกทางการเมืองนั้น น่าจะต้องเพ่งเล็งไปที่กลไกของรัฐ เมื่อปฏิบัติการใดๆ ที่เกี่ยวกับพลเมืองมุสลิม ต้องคำนึงอยู่เสมอ อย่าให้เกิดการแบ่งแยกหรือแตกต่างระหว่างพุทธกับมุสลิม เว้นอยู่อย่างเดียวคือศาสนา ซึ่งมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน สิ่งที่พึงระมัดระวังเป็นพิเศษคือเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเป็นธรรมหรือความเสมอภาคกันทางกฎหมาย ความเสมอภาคในโอกาสที่จะอยู่ร่วมกันในสังคม

          เคยคิดกันบ้างหรือไม่ว่า พลเมืองในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นมุสลิม 75–95% ในแต่ละจังหวัด แล้วมีข้าราชการเป็นมุสลิมไม่ถึง 50% มีแต่ไทยพุทธเป็นส่วนใหญ่ แล้วเมื่อไรมุสลิมจะได้มีส่วนปกครองพวกเขาเองบ้าง

          นี่คือการแบ่งแยกที่สั่งสมหมักหมมกันมา หาคนความคิดก้าวหน้ามาแก้ไขแสนยากลำบาก ส่วนกำลังที่ถืออาวุธมีวินัย ทั้งตำรวจและทหาร ส่วนใหญ่ถูกครอบด้วยความคิด “สายเหยี่ยว” ประเทศที่กำลังพัฒนาเช่นบ้านเรา “สีเขียว” ก็เข้ามาควบคุมความมั่นคงของรัฐบาลดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ การตายหมู่ของคนมุสลิมหลายครั้งที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กรือเซะ, ตากใบ, ไอร์ปาแย) นั่นคือผลึกที่ตกค้างอยู่ในความคิดของคนถืออาวุธ เป็นปัญหาเรื้อรังที่พูดไม่ออกของรัฐบาลตราบใดที่ยังเป็นเผด็จการอยู่
การ สร้างกำลังพลให้มุสลิมปกครองมุสลิมเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมกับพลเมืองใน พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวทางที่ขอนำเสนอดังนี้

          -  ข้าราชการพลเรือนทั่วไป เปิดรับสมัครเยาวชนมุสลิมที่สำเร็จการศึกษา ปวช., ปวส. หรือระดับปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ แล้วนำมาเข้าหลักสูตรอบรมพิเศษ 6 เดือนหรือไม่เกิน 1 ปี แล้วเข้าบรรจุเป็นข้าราชการแทนข้าราชการไทยพุทธในตำแหน่งต่างๆ ใช้เวลา 5–10 ปี อาจได้คนมุสลิมเข้ามาอยู่ในหน่วยนั้นๆ ประมาณ 50% ก็เป็นการเพียงพอก่อนในระยะต้น แล้วมาทบทวนกันอีกทีว่าได้ผลหรือมีข้อแก้ไขที่ต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยน แปลงอย่างไร

          - ข้าราชการทหาร ตำรวจ ทั้งประทวนและสัญญาบัตรดำเนินการเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนที่กล่าวข้าง ต้น และขอแนะนำเพิ่มเติม ควรนำหลักสูตรนายร้อยสำรองของกองทัพบก (ทบ.) เข้ามาประยุกต์ใช้ ต่อยอดผู้สำเร็จจาก ปวส. ปริญญาตรี ใช้เวลาเพียง 6 เดือน–1 ปี ก็เป็นการเพียงพอบรรจุเข้ารับราชการอายุราชการถึงยศพันเอก แล้วให้เกษียณราชการ

          - เพิ่มชั่วโมงเรียนศาสนาอิสลามในโรงเรียนรัฐบาล ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จากสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมงเป็นสัปดาห์ละ 12 ชั่วโมง (ปัจจุบันเด็กต้องไปเรียนศาสนาที่มัสยิดวันเสาร์ 6 ชั่วโม, อาทิตย์ 6 ชั่วโมง) และมีครูสอนศาสนาที่มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับของพลเมืองมุสลิมในสาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นเครื่องจูงใจให้ผู้ปกครองมีทางเลือกให้การศึกษาบุตรหลานของตน เพราะได้ทั้งวิชาสามัญและวิชาเกี่ยวกับศาสนาที่เข้มข้น ทำให้เยาวชนมุสลิมมีโอกาสสอบเข้ารับราชการได้มากขึ้นเมื่อถึงโอกาส

          ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องคิดและใคร่ครวญอย่างหนักในเรื่องการปกครอง (การเมือง) ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำอย่างไรและ/หรือมีแนวทางอย่างไร เพื่อทำให้พลเมืองมุสลิมมีความรู้สึกว่าเขามีส่วนในการปกครองพลเมืองมุสลิม ด้วยกันเอง และมีกฎหมายรองรับ

          กำลังพลสายกิจการพลเรือนของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ทำงานการเมืองในระดับหมู่บ้าน ซึ่งมีเป้าหมายว่าจะเอาชนะกันที่หมู่บ้านนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ในหมู่บ้านแดงซึ่งมีประมาณ 200–250 หมู่บ้านทั้งสามจังหวัดนั้น อำนาจทางการเมืองตกอยู่ในเงื้อมมือโจรฯ เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง อบต. หรือ อบจ. โจรฯจะเป็นผู้บงการ ชี้นำ หรือกำหนดว่าพลเมืองผู้มีสิทธิจะต้องไปเลือกใคร แล้วบรรดาผู้ชนะเลือกตั้งเป็นสมาชิก อบต., อบจ. เหล่านี้ก็เป็นหัวคะแนนของ ส.ส. และ ส.ว.ในการเลือกตั้งใหญ่ทั่วไป

          การรู้จักรุกทางการเมืองของกำลังพลเรือน ตำรวจ และทหาร คือเครื่องมือที่จะทำให้การเอาชนะกันที่หมู่บ้านประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นการป้องกันมิให้โจรฯ หรือตัวแทนของโจรฯ เข้าไปนั่งชูคอในรัฐสภาอันทรงเกียรติได้

          การรุกทางการเมืองซึ่งเป็นหลักในการปฏิบัติทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาลจะได้ผล เพียงใด และต้องใช้เวลาเนิ่นนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติการทางทหาร โอกาสและสถานการณ์ที่อำนวยให้การรุกทางการเมือง มิใช่ ปจว. (ปฏิบัติการทางจิตวิทยา) หรือการแจกงบประมาณไปพัฒนาพื้นที่ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

          การปฏิบัติการทางการทหารเพื่อสนับสนุนการรุกทางการเมืองจะนำเสนอในบทต่อ ไป...โปรดคอยติดตามครับ

 
กาย ใจ ชีวิต ลมหายใจและสายเลือด มอบเป็นอิสลามพลี.............Tidak Ada Ketarikan Hati Yang Harum Lebih Daripada Dibunuh Di Jalan Allah Azzawajalla...............

 

GoogleTagged