ผู้เขียน หัวข้อ: คุฏบะฮฺมัสญิดอัร-ริฎวาน(นานา)วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2552 / 21 เราะบีอุษษานี 1430  (อ่าน 2337 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สวรรค์หรือนรก
17 เมษายน 2552 / 21 เราะบีอุษษานี 1430

   
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮฺด้วยการปฏิบัติความดีและละเว้นความชั่วอย่างจริงจัง และท่านทั้งหลายจงอย่าได้ตายจนกว่าท่านจะยอมจำนนต่ออัลอิสลามโดยสิ้นเชิง
   พี่น้องครับ เมื่อสัปดาห์ก่อนผมขับรถผ่านแผ่นภาพโฆษณาประชาสัมพันธ์ของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง นำเสนอว่า สถานบันเทิงของเขานั้นเปรียบเสมือนสวรรค์ลอยฟ้า มีสาว ๆ ขาวสวยหมวยอึ๋ม เซ็กซี่ขี้เล่นหรืออะไรทำนองนี้ไว้คอยให้บริการ เห็นโฆษณานี้แล้วทำให้นึกถึงคำสอนของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่ว่า


   
“โลกดุนยาเป็นคุกของผู้ศรัทธา(มุอฺมิน)และเป็นสวรรค์ของผู้ปฏิเสธศรัทธา(กาฟิรฺ)”
                        มุสลิมจากอะบูฮุร็อยเราะฮฺ
   มุสลิมนั้นศรัทธาว่า โลกนี้ที่เรียกว่าโลกดุนยาคือโลกแห่งการทดสอบเพื่อให้รู้ว่าเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงหรือไม่ มีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮฺเจ้าหรือไม่ ดำรงตนอยู่ในหนทางอันถูกต้องเที่ยงธรรมของอัลลอฮฺหรือไม่หรือเป็นเพียงมุสลิมแต่ชื่อ ไม่ได้มีศรัทธาแท้จริงหนักแน่นมั่นคง ถูกชัยฏอนชักชวนไปในหนทางที่ผิด เมื่อเสียชีวิตลง สิ่งต่าง ๆ ที่เขาพากเพียรประพฤติปฏิบัติไว้ในโลกดุนยานี้จะต้องนำไปพิจารณาเพื่อการตอบแทนในอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกที่ยั่งยืนถาวร เรียกว่า โลกอาคิเราะฮฺ
   การที่ท่านนะบียฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เปรียบเทียบว่าโลกนี้เป็นคุกสำหรับผู้ศรัทธาก็เพราะ มุสลิมอยู่ในโลกนี้เหมือนเป็นเพียงทางผ่าน มีข้อจำกัดทางศาสนา มีขอบเขตในการประพฤติปฏิบัติที่กำหนดโดยอัลลอฮฺเจ้าอย่างแน่นอน เป็นระเบียบที่จะต้องทำ ทั้งข้อที่ใช้ให้ปฏิบัติและข้อที่ห้ามปฏิบัติ ถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดใช้หรือฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามก็ต้องถูกลงโทษเช่นเดียวกับนักโทษที่อยู่ในคุกหรือที่คุมขัง จะแตกต่างกันก็เพียงว่า คนที่เป็นนักโทษถูกคุมขังอยู่ในคุกนั้นร่างกายถูกจำกัดด้วยสถานที่และยังอยู่อย่างคับแค้นใจ ในขณะที่มุอ์มินผู้ศรัทธานั้น แม้จะมีข้อจำกัดทางศาสนา แต่ก็เป็นข้อกำหนดที่ไม่ได้ขัดขวางความสุขของมนุษย์ เพียงแต่ป้องกันไม่ให้ทำอะไรเกินขอบเขต ไม่ให้หาความสุขสำราญตามใจตัวเองโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น หรือจนลืมการภักดีต่ออัลลอฮฺ การอยู่ในระเบียบของศาสนาจึงเป็นการถูกควบคุมด้วยความสุขใจ ดีใจที่ได้ทำตามระเบียบของอัลลอฮฺ ผู้ที่บังเกิดมนุษย์มา ระเบียบที่กำหนดขึ้นเพื่อภาคผลในภายหน้า ในโลกแห่งการตอบแทน โลกอันถาวร สถิตสถาพร คือโลกอาคิเราะฮฺ
   ในขณะเดียวกัน ผู้ปฏิเสธศรัทธาหรือกาฟิรฺที่ไม่เชื่อในโลกแห่งการตอบแทน มองแต่เพียงสิ่งใกล้ตัว มองแต่เพียงจะไขว่คว้าสิ่งที่คิดเอาเองว่าเป็นความสุข เป็นสวรรค์ที่กำหนดเอง คิดเอาเองว่าสวรรค์มีลักษณะอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่แท้จริงแล้ว เป็นความสุขจอมปลอม สวรรค์จอมปลอม ในโลกนี้
   โลกของสวรรค์จอมปลอมนั้นมักจะประกอบด้วยความบันเทิงสนุกสนานที่เกินขอบเขต ความสุขที่เกิดจากการดื่มสุรายาเมา ความสุขจากการสะสมเงินทอง ความสุขที่เกิดจากกามารมณ์ ความสุขจากการปรนเปรอของหญิงหรือชายที่มิได้มีสิทธิ์ครอบครอง เพียงซื้อหาเอาด้วยเงินตรา ความสุขจากการมีครอบครัวยิ่งใหญ่ มีที่พักอาศัย มียานพาหนะ มีสิ่งอำนวยความสะดวก โดยไม่ได้พิจารณาว่า สิ่งนั้นได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ อัลลอฮฺดำรัสว่า


   
“ได้ถูกทำให้สวยงาม(ลุ่มหลง)แก่มนุษย์ซึ่งความรักในบรรดาสิ่งที่เป็นเสน่ห์อันได้แก่ ผู้หญิง ลูกชายทองและเงินอันมากมาย ม้าดี ๆ และปศุสัตว์อื่น ๆ ไร่นา นั่นเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกประโยชน์ชั่วคราวในชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้เท่านั้น และอัลลอฮฺนั้น ณ พระองค์คือที่กลับอันสวยงาม”                              
อาละอิมรอน 3 : 14

   จากอายะฮฺนี้จะเห็นว่า สิ่งอำนวยความสะดวกตลอดจนสิ่งที่เป็นที่ลุ่มหลงแก่มนุษย์นั้น ไม่ใช่สิ่งต้องห้ามสำหรับมุสลิม แต่มุสลิมจะต้องสำนึกว่า เป็นเพียงความสะดวกสบายชั่วคราวที่อัลลอฮฺทรงบันดาลมาให้เท่านั้น
    เขาสามารถที่จะมีคู่ครองได้ ถ้าเป็นการสมรสอย่างถูกต้อง มิได้ไปแสวงหาคู่นอนชั่วคราวตามแหล่งบันเทิงหรือหาบริการจากหญิงอาชีพพิเศษ
    เขาจะมีลูกหลานมากมายเท่าใดก็ได้ ถ้าเขารับผิดชอบต่อลูกของเขาด้วยการสอนให้เป็นคนดีอยู่ในหนทางของอัลลอฮฺและหาทางคุ้มครองให้พ้นจากการลงโทษในนรก
   เขาจะแสวงหาทรัพย์สินเงินทอง เรือกสวนไร่นามาเป็นส่วนตัวเท่าใดก็ย่อมได้ ถ้าเขาได้มาแล้ว ใช้จ่ายไปในหนทางของอัลลอฮฺ จ่ายซะกาฮฺตามข้อกำหนดของอัลลอฮฺ แบ่งปันให้แก่ผู้ยากไร้ทั้งที่ร้องขอและไม่ได้ร้องขอ
   เขาสามารถมียานพาหนะอันช่วยอำนวยความสะดวกตามความจำเป็นของเขา ตราบใดที่ไม่เป็นการฟุ่มเฟือย
   ที่สำคัญที่สุด เขาจะต้องระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสมบัติชั่วคราว สมบัติเหล่านี้ตายแล้วเอาไปไม่ได้ และไม่ได้ช่วยอะไรเลยในโลกแห่งการตอบแทน อัลลอฮฺจึงทรงดำรัสในตอนท้ายของอายะฮฺนี้ว่า

  
และอัลลอฮฺนั้น ณ พระองค์คือที่กลับอันสวยงาม
   นั่นคือเมื่อเขาสำนึกว่า อัลลอฮฺเป็นที่กลับที่ดีที่สุด เขาจะทำอะไรในโลกดุนยานี้เพื่อแสวงหาความสุขความสะดวกสบาย เขาจะต้องไม่ลืมข้อกำหนดหรือระเบียบของอัลลอฮฺ จะต้องทำให้อยู่ในหนทางของอัลลอฮฺ จะต้องรักษาสิ่งที่อัลลอฮฺทรงใช้และเว้นในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้าม อัลลอฮฺทรงรับรองว่า พระองค์ประทานสิ่งต่าง ๆ ให้แก่มนุษย์เพื่อความสุขทั้งในโลกดุนยาและอาคิเราะฮฺ ดังที่พระองค์ดำรัสว่า


   
“และจงแสวงหาสิ่งที่อัลลอฮฺประทานแก่เจ้าเพื่อวันอาคิเราะฮฺ(คือแสวงหาทรัพย์สมบัติโดยหวังความโปรดปรานจากอัลลอฮฺทั้งนี้ด้วยการทำความดีต่าง ๆ และการบริจาคด้วยความจงรักภักดีต่อพระองค์) และอย่าลืมส่วนของเจ้าแห่งโลกนี้(คืออย่าให้ส่วนได้ของเจ้าสูญเสียไปจากดุนยาของเจ้าในการแสวงหาประโยชน์ในหนทางที่อนุมัติ) และจงทำความดี(ต่อบ่าวของอัลลอฮฺ)เหมือนกับที่อัลลอฮฺได้ทรงทำความดีแก่เจ้า และอย่าแสวงหาความเสียหายในแผ่นดิน(ด้วยการใช้สมบัติในทางที่ผิดหรือทำลายเพื่อนมนุษย์หรือก่อความเสียหายแก่แผ่นดิน) แท้จริงอัลลอฮฺไม่ทรงรักผู้บ่อนทำลาย”         
อัลเกาะศ็อศ 28 : 77
   การที่สถานบันเทิงประชาสัมพันธ์ว่า แหล่งบันเทิงของเขานั้นเป็นสวรรค์ลอยฟ้า พี่น้องคงจะพิจารณาได้ว่า สิ่งนั้นเป็นความจริงหรือไม่ การแสวงหาความสุขด้วยการดื่มสุรายาเมา ทำให้ไม่รับรู้สภาพความเป็นจริง ทำลายสติ ทำให้ควบคุมตนเองไม่ได้ เป็นการเสียทรัพย์ เป็นการทำลายสุขภาพ อาจก่อคดีต่าง ๆ หรืออาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุเป็นสวรรค์หรือ การแสวงหาความสุขจากหญิงหรือชายที่ไม่ใช่คู่ครองอย่างถูกต้องอาจก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่บางโรคก็รักษาหายแต่บางโรคก็ยังไม่มีหนทางในการรักษาและยังอาจนำไปแพร่โรคแก่คู่ครองที่ถูกต้อง เสียทรัพย์ที่ควรใช้ไปในการเลี้ยงดูครอบครัว เป็นการข่มเหงทางเพศ ก่อให้เกิดการล่อลวง การซื้อขายมนุษย์เพื่อนำมาเป็นผู้ให้บริการ สิ่งนี้ถูกต้องหรือไม่ และสำหรับมุสลิม สิ่งนี้เป็นการละเมิดคำสั่งของอัลลอฮฺผู้สร้างอย่างชัดแจ้ง สิ่งตอบแทนคงไม่ใช่สวรรค์อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นพี่น้องคงจะบอกได้ว่า ที่เรียกว่าสวรรค์ลอยฟ้านั้น ที่จริงเป็นอะไรกันแน่



คัดลอกจากเอกสารเผยแพร่ของมัสญิดอัรฺ-ริฎวาน(นานา) นครราชสีมา เมื่อ 4 มิถุนายน 2553 โดย Bangmud

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 04, 2010, 09:15 PM โดย Bangmud »

 

GoogleTagged