ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)  (อ่าน 11695 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

1. อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87 อัลอะอฺลา)

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลอะอฺลา (الأعلى  - ผู้ทรงสูงส่ง - R4.)

   ซูเราะฮฺ อัลอะอฺลา เป็นสูเราะฮฺมักกียะฮฺ มี 19 อายะฮฺ ที่เยียวยาเรื่องต่าง ๆ โดยย่อดังต่อไปนี้
   1. ซาตอันสูงส่งและคุณลักษณะบางประการของอัลลอฮฺ ญัลละวะอะอฺลา และหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเดชานุภาพและความเป็นเอกภาพ
   2. อัลวะฮฺยุและอัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาแก่รอซูลคนสุดท้าย ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และการให้ง่ายในการท่องจำแก่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
   3. คำแนะนำที่ดีอันจะเป็นประโยชน์แก่บรรดาผู้มีหัวใจกระฉับกระเฉง และผู้ที่มีความสุข มีศรัทธา จะได้รับประโยชน์จากมัน
   ซูเราะฮฺได้เริ่มต้นด้วยการให้ความบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺ ญัลละวะอะอฺลา ซึ่งทรงสร้าง แล้วทำให้มันดีขึ้น ทรงสร้างแล้วทรงทำให้สวยงาม ทรงให้หญ้าและพืชผักงอกเงยออกมา เพื่อเป็นความเมตตาแก่ปวงบ่าว “จงแซ่ซ้องสดุดีพระนามแห่งพระเจ้าของเจ้า ผู้ทรงสูงส่งยิ่ง ผู้ทรงสร้างแล้วทรงทำให้สมบูรณ์ แล้วผู้ทรงกำหนดสภาวะแล้วทรงชี้แนะทาง”
   และได้กล่าวถึงอัลวะฮฺยุและอัลกุรอาน และทำความพอใจให้แก่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ด้วยการแจ้งข่าวดีในการคุ้มครองรักษาคัมภีร์อันทรงเกียรติ โดยจะให้เป็นการง่ายดายที่จะท่องจำ ไม่มีวันลืมเลย “เราจะสอนให้เจ้าอ่านแล้วเจ้าจะไม่ลืม เว้นแต่สิ่งที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ แท้จริงพระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่เปิดเผยและสิ่งที่ซ่อนเร้น”
   ซูเราะฮฺได้ใช้ให้ตักเตือนกันด้วยอัลกุรอานนี้ซึ่งบรรดามุอ์มินผู้ศรัทธาจะได้รับประโยชน์จากแสงสว่างของอัลกุรอาน และบรรดาผู้ยำเกรงจะได้รับบทเรียนจากการชี้นำของอัลกุรอาน “ดังนั้นจงตักเตือนกันเถิด เพราะการตักเตือนนั้นจะยังคุณประโยชน์ ผู้หวั่นกลัวจะได้รำลึก และผู้ที่ชั่วช้ายิ่ง จะหลีกเลี่ยงการตักเตือนนั้น”
   ซุเราะฮฺได้จบลงด้วยการชี้แจงถึงชัยชนะของผู้ที่ขัดเกลาตัวเองจากความผิดและโทษต่าง ๆ และขัดเกลาตัวเองด้วยผลงานที่ดี “แน่นอน ผู้ที่ขัดเกลาตนเองย่อมบรรลุความสำเร็จ และเขารำลึกถึงพระนามของพระเจ้าของเขา แล้วเขาทำละหมาด”


เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an. (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิ.ย. 09, 2010, 04:26 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลอะอฺลา อายะฮฺที่ 1 – 8


   
คำอ่าน
1. สับบิหิสมะร็อบบิกัลอะอฺลา
2. อัลละซีเคาะละเกาะ ฟะเสาวา
3. วัลละซี ก็อดดะเราะ ฟะฮะดา
4. วัลละซี..อัคเราะญัลมัรฺอา
5. ฟะญะอะละฮู ฆุษา..อันอะหฺวา
6. สะนุกริอุกะ ฟะลาตันสา
7. อิลลา..มาชา...อัลลอฮฺ อิน..นะฮู ยะอฺละมุลญะฮฺเราะ วะมายัคฟา
8. วะนุยัสสิรุกะลิลยุสรอ


คำแปล R1.
1. Glorify the Name of your Lord, the Most High,
2. Who has created (everything), and then proportioned it;
3. And who has measured (preordainments for each and everything even to be blessed or wretched); then guided (i.e. showed mankind the right as well as wrong paths, and guided the animals to pasture);
4. And who brings out the pasturage,
5. And then makes it dark stubble.
6. We shall make you to recite (the Qur'an), so you (O Muhammad) shall not forget (it),
7. Except what Allah, may will, He knows what is apparent and what is hidden.
8. And we shall make easy for you (O Muhammad) the easy way (i.e. the doing of righteous deeds).


คำแปล R2.
1. (โอ้ มุฮำมัด) เจ้าจงสดุดีพระบพิตร์ธิคุณแห่งองค์อภิบาลของเจ้าผู้ทรงสูงส่ง
2. พระผู้ทรงบันดาลและผู้ทำให้สมดุล
3. และพระผู้ทรงกำหนดแล้วทรงชี้นำ
4. และทรงบันดาลให้ทุ่งหญ้างอกเงยเป็นอาหารของสัตว์
5. แล้วทรงบันดาลมัน (หญ้าที่เคยเขียวขจีให้กลายเป็นหญ้าแห้งประดุจดัง)ขยะในฟองน้ำซึ่งมีสีดำคล้ำ
6. เราได้ให้เจ้าอ่าน(อัลกุรอานจนจดจำขึ้นใจ)แล้วเจ้าก็ไม่ลืม(อีกตลอดไป)
7. นอกจากสิ่งที่อัลเลาะฮฺทรงประสงค์(ให้เจ้าลืม) แท้จริงพระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่เปิดเผยและสิ่งที่ซ่อนเร้น
8. และเราจักให้สัมฤทธิ์ผลแก่เจ้า(ในการงานทั้งหลาย)


คำแปล R3.
1. (โอ้ นบี) จงสดุดีพระนามของพระผู้อภิบาลของเจ้าผู้ทรงสูงสุด
2. ผู้ทรงสร้างและผู้ทรงกำหนดสัดส่วน
3. ผู้ทรงกำหนดชะตากรรมและทรงชี้ให้เห็นหนทาง
4. ผู้ทรงทำให้พืชพันธุ์งอกเงยออกมา
5. หลังจากนั้นก็ทรงทำให้มันเหี่ยวลงมาเป็นขยะสีคล้ำ
6. เราจะทำให้เจ้าสามารถอ่านได้ หลังจากนั้นเจ้าก็จะไม่ลืม
7. เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงประสงค์ พระองค์ทรงรู้ถึงสิ่งที่เปิดเผยและสิ่งที่ถูกซ่อนเร้น
8. และเราจะให้หนทางแห่งความสะดวกง่ายดายแก่เจ้า


คำแปล R4.
1. จงแซ่ซ้องสดุดี พระนามแห่งพระเจ้าของเจ้า ผู้ทรงสูงสุดยิ่ง
2. ผู้ทรงสร้างแล้วทรงทำให้สมบูรณ์
3. และผู้ทรงกำหนดสภาวะ แล้วทรงชี้แนะทาง
4. และผู้ทรงนำทุ่งหญ้า ออกมา (ให้งอกเงยเป็นอาหารของปศุสัตว์)
5. แล้วทรงทำให้มันเป็นซังแห้งสีคล้ำมอซอ
6. เราจะสอนให้เจ้าอ่าน แล้วเจ้าจะไม่ลืม
7. เว้นแต่สิ่งที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ แท้จริงพระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่เปิดเผยและสิ่งที่ซ่อนเร้น
8. และเราจะทำให้เป็นการ ง่ายดายแก่ เจ้าซึ่งบัญญัติศาสนาอันง่ายดาย


คำแปล R5.
๑. โอ้มุฮำมัด เจ้าจงถวายสดุดีพระบริสุทธิคุณ พระนามแห่งผู้ทรงอภิบาลของเจ้าผู้ทรงสูงส่งเถิด
๒. พระผู้ทรงบันดาลและทรงทำให้สมบูรณ์ ในโครงสร้างและส่วนประกอบอื่น ๆ ของพวกเจ้า
๓. และพระผู้ทรงกำหนดสภาวะ ในการดำเนินชีวิต แล้วพระองค์ก็ทรงชี้นำสู่ข้อกำหนดของพระองค์
๔. และพระผู้ทรงให้มีทุ่งหญ้างอกงามออกมาเป็นอาหารของสัตว์ทั้งหลาย
๕. ครั้นต่อมาพระองค์ก็บันดาลให้มันเหี่ยวเฉากลายไปเป็นพืชแห้งอันไร้ค่า ประดุจดังขยะในฟองน้ำสีดำคล้ำที่ถูกซัดเกยแห้ง
๖. ต่อไปเราจะอ่านให้เจ้า จดจำอัลกุรอานที่นำมาโดยยิบรีล แล้วเจ้าก็จะไม่ลืมอีก
๗. ยกเว้นสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ จะให้ลืมเพื่อยกเลิกโองการนั้น ๆ พระองค์ก็ทรงทำให้นบีมุฮำมัดลืมข้อความ โดยปกติเมื่อยิบรีลนำโองการมา ท่านนบีก็จะอ่านตามอย่างรีบร้อน เพราะกลัวจะจำไม่ได้ ยิบรีลก็เตือนว่าไม่ต้องรีบร้อน ท่านจะจำข้อความนั้นเป็นอย่างดีไม่มีวันลืม แท้จริงพระองค์ทรงรอบรู้ สิ่งที่เปิดเผยและสิ่งที่ซ่อนเร้น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ หรือความคิดก็ตาม
๘. และเราจักให้ความสัมฤทธิ์แก่เจ้า สำหรับสิ่งที่ง่ายดาย ในบรรดาการงานทั้งหลายแหล่




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิ.ย. 10, 2010, 04:45 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลอะอฺลา อายะฮฺที่ 9 – 13
     

คำอ่าน
9. ฟะซักกิร อิน..นะฟะอะติซซิกรอ
10. สะยัซซักกะรุมัย..ยัคชา
11. วะยะตะญัน..นะบุฮัลอัชกอ
12. อัลละซียัศลัน..นาร็อลกุบรอ
13. ษุม..มะลายะมูตุฟีฮา วะลายะหฺยา


คำแปล R1.
9. Therefore remind (men) in case the reminder profits (them).
10. The reminder will be received by him, who fears (Allah),
11. But it will be avoided by the wretched,
12. Who will enter the great Fire and made to taste its burning,
13. Wherein he will neither die (to be in rest) nor live (a good living).


คำแปล R2.
9. ดังนั้นเจ้าจงตักเตือนเถิด เพราะแท้จริงการตักเตือนย่อมยังประโยชน์(อันอเนกอนันต์)
10. ผู้ที่เกรงกลัว(อัลเลาะฮฺ)จะได้มีความสำนึก
11. และผู้ที่อับโชค จะห่างไกลต่อมัน (คำเตือนนั้น)
12. (เขาเป็น)ผู้ซึ่งจะต้องเข้านรกอันยิ่งใหญ่
13. หลังจากนั้นเขาก็ไม่ตาย และไม่เป็นในนั้น


คำแปล R3.
9. ดังนั้น จงตักเตือนพวกเขาเถิด ถ้าหากการเตือนนั้นเป็นประโยชน์
10. ผู้ที่กลัวจะยอมรับคำตักเตือน
11. ส่วนผู้ชั่วก็จะหลีกเลี่ยงการตักเตือน
12. ผู้ที่จะเข้านรกขุมใหญ่
13. ซึ่งในนั้นเขาจะไม่ตายและไม่มีชีวิต


คำแปล R4.
9. ดังนั้นจงตักเตือนกัน เถิด เพราะการตักเตือนกันนั้นจะยังคุณประโยชน์
10. ผู้ที่หวั่นกลัวจะได้รำลึก
11. และผู้ที่ชั่วช้ายิ่ง จะหลีกเลี่ยงการตักเตือนนั้น
12. ซึ่งเขาจะเข้าไปเผาไหม้ในไฟกองใหญ่
13. แล้วเขาจะไม่ตายในนั้นและจะไม่เป็นด้วย


คำแปล R5.
๙. ดังนั้นเจ้าจงสอนเถิด แท้จริงคำสอนย่อมอำนวยประโยชน์เสมอแก่คนทั่วไป
๑๐. ต่อไปผู้ที่เกรงกลัวอัลเลาะห์ จะได้สำนึกถึงคำสอนนั้น
๑๑. และผู้ที่ชั่วช้าจะหลีกห่างจากมัน ไม่ยอมสนใจคำสอนนั้น ๆ แต่ประการใด
๑๒. เขาต้องเข้าไปในกองเพลิงอันยิ่งใหญ่ คือนรกในปรภพ
๑๓. หลังจากนั้นเขาจะไม่ตายและไม่เป็นในนั้น แต่จะอยู่อย่างก้ำกึ่งระหว่างสองภาวะนั้นด้วยความทุกข์ทรมานเป็นที่สุด




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิ.ย. 11, 2010, 04:16 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลอะอฺลา อายะฮฺที่ 14 – 19

คำอ่าน
14. ก็อดอัฟละหะมันตะซักกา
15. วะซะกะร็อสมะร็อบบิฮี ฟะศ็อลลา
16. บัลตุอ์ษิรูนัลหะยาตัดดุนยา
17. วัลอาคิเราะตุค็อยรู..วะอับกอ
18. อิน..นะฮาซาละฟิศศุหุฟิลอูลา
19. ศุหุฟิอิบรอฮีมะวะมูสา


คำแปล R1.
14. Indeed whosoever purifies himself (by avoiding polytheism and accepting Islamic Monotheism) shall achieve success,
15. And remembers (glorifies) the name of his Lord (worships none but Allah), and prays (five compulsory prayers and Nawafil additional prayers).
16. Nay, you prefer the life of this world;
17. Although the hereafter is better and more lasting.
18. Verily! This is in the former Scriptures,
19. The Scriptures of Ibrahim (Abraham) and Musa (Moses).


คำแปล R2.
14. แน่แท้ ผู้ชำระมลทินตนเอง ย่อมประสบความสมหวัง
15. และเขาได้กล่าวรำลึกถึงพระนามแห่งองค์อภิบาลของเขาแล้วเขาก็ทำละหมาด
16. ทว่าพวกเขาเห็นชีวิตทางโลกนี้สำคัญกว่า
17. ทั้ง ๆ ที่ (ความเป็นจริง) โลกหน้านั้นประเสริฐกว่าและจีรังกว่า
18. แท้จริงสิ่งนี้ มีปรากฏในบรรดาคัมภีร์บรรพกาล
19. นั่นคือคัมภีร์ของอิบรอฮีมและของมูซา


คำแปล R3.
14. แท้จริง ผู้ประสบความสำเร็จคือผู้ที่ขัดเกลาตนเองให้บริสุทธิ์
15. และผู้ระลึกถึงพระนามของพระผู้อภิบาลของเขา แล้วนมาซ
16. แต่สูเจ้า (โอ้มนุษย์) กลับชอบชีวิตแห่งโลกนี้
17. ทั้ง ๆ ที่โลกหน้าดีกว่าและถาวรกว่า
18. สิ่งเดียวกันนี้ได้ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ก่อนหน้านี้แล้ว
19. นั่นคือคัมภีร์ของอิบรอฮีมและมูซา


คำแปล R4.
14. แน่นอนผู้ที่ขัดเกลาตนเอง ย่อมบรรลุความสำเร็จ
15. และเขารำลึกถึงพระนามแห่งพระเจ้าของเขา แล้วเขาทำละหมาด
16. หามิได้ แต่พวกเจ้าเลือกเอาการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่างหาก
17. ทั้ง ๆ ที่ปรโลกนั้นดีกว่าและจีรังกว่า
18. แท้จริง (ข้อตักเตือนสติ) นี้มีอยู่ในคัมภีร์ก่อน ๆ มาแล้ว
19. คือคัมภีร์ของอิบรอฮีมและมูซา


คำแปล R5.
๑๔. แท้จริงผู้ขจัดมลทินตัวเองจนสะอาดย่อมประสบชัยชนะ
๑๕. และเขากล่าวรำลึกถึงพระนามแห่งพระผู้อภิบาลของเขา แล้วเขาทำละหมาด โดยสม่ำเสมอไม่เคยขาด
๑๖. หากทว่าพวกเจ้าเห็นชีวิตทางโลกนี้สำคัญกว่าชีวิตในโลกหน้า
๑๗. ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง วันโลกหน้านั้นประเสริฐกว่า และจีรังกว่ายิ่งนัก
๑๘. แท้จริงสิ่งนี้ย่อมมีปรากฏอยู่แล้วในบรรดาคัมภีร์แห่งอดีต
๑๙. นั้นคือคัมภีร์ของนบีอิบรอฮีมและของนบีมูซา



صدق الله العظيم   (ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่สัจจริงเสมอ)
จบสูเราะฮฺที่ 87 อัลอะอฺลา


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิ.ย. 12, 2010, 03:53 AM »
0

 salam

2. อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 88 สูเราะฮฺอัลฆอชิยะฮฺ)

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺอัลฆอชิยะฮฺ ( الغاشية - วันกิยามะฮฺที่ครอบคลุม – R4.)
เป็นซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มี 26 อายะฮฺ
ความหมายโดยสรุปของซูเราะฮฺ อัลฆอชิยะฮฺ
   ซูเราะฮฺ อัลฆอชิยะฮฺ เป็นซูเราะฮฺมักกียะฮฺ ได้กล่าวถึงเรื่องสำคัญสองเรื่อง คือ
   1. วันกิยามะฮฺ สภาพและความน่ากลัวของวันนั้น และสิ่งที่ผู้ปฏิเสธศรัทธาจะได้พบในวันนั้น ถึงความเหนื่อยยากและเคราะห์กรรม และสิ่งที่ผู้ศรัทธาจะได้พบกับความสุขและความเบิกบานในวันนั้น
   2. หลักฐานและข้อพิสูจน์ต่าง ๆ ถึงความเป็นเอกภาพของพระเจ้าแห่งสากลโลกและเดชานุภาพอย่างน่างงงันของพระองค์ ในการสร้างอูฐอันน่าประหลาด ท้องฟ้าอันน่าบรรเจิด ภูเขาอันสูงตระหง่าน และแผ่นดินที่ปูลาดอย่างกว้างขวาง ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานยืนยันถึงความเป็นเอกภาพของอัลลอฮฺ และความรุ่งโรจน์แห่งอำนาจของพระองค์
   ซูเราะฮฺ จบด้วยการเตือนถึงการกลับไปของมนุษย์ทั้งปวงไปยังอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพื่อการชำระและการตอบแทน




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิ.ย. 13, 2010, 03:51 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลฆอชิยะฮฺ อายะฮฺที่ 1 – 7


   
คำอ่าน
1. ฮัลอะตากะหะดีษุลฆอชิยะฮฺ
2. วุญูฮุย..เยามะอิซิน คอชิอะฮฺ
3. อามิละตุน..นาศิบะฮฺ
4. ตัศลานาร็อนหามิยะฮฺ
5. ตุสกอมินอัยนินอานิยะฮฺ
6. ลัยสะละฮุมเฏาะอามุน อิลลามิน..เฎาะรีอฺ
7. ลายุสมินุ วะลายุฆนีมิน..ญูอฺ


คำแปล R1.
1. Has there come to you the narration of the overwhelming (i.e. the Day of Resurrection);
2. Some faces, that day, will be humiliated (in the Hell-fire, i.e. the faces of all disbelievers, Jews and Christians, etc.).
3. Labouring (hard in the worldly life by worshiping others besides Allah), weary (in the Hereafter with humility and disgrace).
4. They will enter in the hot blazing Fire,
5. They will be given to drink from a boiling spring,
6. No food wills there be for them but a poisonous thorny plant,
7. Which will neither nourish nor avail against hunger.


คำแปล R2.
1. ข่าวคราวเกี่ยวกับ(วันกิยามะฮฺอันเป็นภาวะ)ที่ครอบคลุมไปทั่ว ได้มาถึงเจ้าแล้วมิใช่หรือ ?
2. ในวันนั้นมีหลายใบหน้าที่มีแต่ความอัปยศ
3. เป็นใบหน้าที่ทำงานหนัก(ลากโซ่ตรวนอยู่ในนรก)อีกทั้งประสบกับความเหน็ดเหนื่อย
4. พวกเขาเข้า(ไปรับโทษอันมหันต์อยู่)ในนรกอันร้อนแรง
5. พวกเขาถูกให้ดื่มน้ำจากตาน้ำอันร้อนจัด
6. พวกเขาไม่มีอาหารอื่นใดนอกจากอาหารอันแหลมคม
7. มันไม่ทำให้อ้วนและไม่ทำให้หายหิว


คำแปล R3.
1. ข่าวความหายนะ(แห่งการฟื้นคืนชีพ)ที่เป็นเงาปกคลุมอยู่ ได้มาถึงเจ้าแล้วมิใช่หรือ ?
2. หลายใบหน้าในวันนั้นจะก้มต่ำ
3. กรำงานหนัก รู้สึกหดหู่
4. ถูกเผาไหม้อยู่ในเปลวไฟอันร้อนแรง
5. พวกเขาจะได้ดื่มน้ำจากน้ำพุเดือด
6. ไม่มีอาหารใดสำหรับพวกเขานอกไปจากหนามหญ้าแห้ง
7. ที่ไม่ทำให้เขาอ้วนและทำให้หายหิว


คำแปล R4.
1. ข่าวคราวของการครอบงำ (แห่งความรุนแรง) ได้มายังเจ้าแล้วมิใช่หรือ
2. ในวันนั้นมีหลายใบหน้าที่ต่ำต้อย
3. ใบหน้าที่ทำงานหนัก ระกำใจ
4. เข้าไปเผาไหม้ในไฟอันร้อนแรง
5. จะถูกให้ดื่มจากน้ำพุที่ร้อนจัด
6. ไม่มีอาหารอื่นนอกจากต้นหนามแห้ง
7. มันจะไม่ทำให้อ้วน และไม่ทำให้หายหิว


คำแปล R5.
๑. เรื่องราวของวันปรภพที่ครอบคลุมอย่างทั่วไปได้รู้มาถึงเจ้าแล้วมิใช่หรือ โอ้มุฮำมัด
๒. ในวันนั้นมีหลายใบหน้าที่ประสบความอัปยศ
๓. เป็นใบหน้าที่ต้องทำงานหนัก เพราะต้องลากโซ่ตรวนที่ล่ามตัวเองไว้อย่างหนักแรงอีกทั้งมีความเหนื่อยยากเป็นที่สุด
๔. พวกเขาเข้าอยู่ในไฟนรกอันร้อนแรง
๕. พวกเขาถูกให้ดื่มจากน้ำที่ร้อนสุดขีด
๖. พวกเขาไม่มีอาหารอันใดเลยนอกจากพุ่มหนามอันแหลมคม
๗. ซึ่งไม่ให้ความอิ่ม และไม่ทำให้หมดความหิวได้




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิ.ย. 14, 2010, 03:51 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลฆอชิยะฮฺ อายะฮฺที่ 8 – 16
 
คำอ่าน
8. วุญูฮุย..เยามะอิซิน..นาอิมะฮฺ
9. ลิสะอฺยิฮารอฎิยะฮฺ
10. ฟีญัน..นะตินอาลิยะฮฺ
11. ลาตัสมะอุฟีฮาลาฆิยะฮฺ
12. ฟีฮาอัยนุน..ญาริยะฮฺ
13. ฟีฮาสุรุรุม..มัรฺฟูอะฮฺ
14. วะอักวาบุม..เมาฎูอะฮฺ
15. วะนะมาริกุมัสฟูฟะฮฺ
16. วะซะรอบียุ มับษูษะฮฺ


คำแปล R1.
8. (Other) faces, that day, will be joyful,
9. Glad with their endeavour (for their good deeds which they did in this world, along with the true Faith of Islamic Monotheism).
10. In  lofty Paradise.
11. Where they shall neither hear harmful speech nor falsehood,
12. Therein will be a running spring,
13. Therein will be thrones raised high,
14. And cups set at hand.
15. And cushions set in rows,
16. And rich carpets (all) spread out.



คำแปล R2.
8. ในวันนั้น มีอีกหลายใบหน้าที่มีความสง่างาม
9. พวกเขามีความพึงใจใน(ผลตอบแทนจาก)ความพากเพียร(ในอดีต)ของพวกเขา
10. ในสวรรค์อันสูงส่ง
11. ในนั้นพวกเขาจะไม่ได้ยินสิ่งไร้สาระใด ๆ ทั้งสิ้น
12. ในนั้นมีตาน้ำอันไหลริน
13. ในนั้นมีบรรดาเตียงที่ถูกยกขึ้นสูง
14. และมีถ้วย(สำหรับดื่มน้ำ)ที่ถูกวางไว้
15. และมีหมอนที่ถูกเรียงเป็นแถวไว้
16. และมีพรมที่ถูกแยกปูไว้ (ในที่ต่าง ๆ)


คำแปล R3.
8. หลายใบหน้าในวันนั้นจะเบิกบาน
9. ดีใจในสิ่งที่เขาได้ทำไว้
10. ในสวนสวรรค์อันสูงส่ง
11. ไม่ได้ยินเรื่องไร้สาระในนั้น
12. ในนั้นมีตาน้ำไหลรินตลอด
13. ในนั้นมีฟูกที่ยกสูง
14. และถ้วยแก้วที่ถูกจัดเรียงไว้
15. มีหมอนอิงเรียงไว้เป็นแถว
16. และมีพรมอย่างดีปูลาดไว้


คำแปล R4.
8. ในวันนั้นมีหลายใบหน้าที่เบิกบาน
9. พึงพอใจเพราะการกระทำของพวกเขา
10. อยู่ในสวนสวรรค์อันสูงตระหง่าน
11. จะไม่ได้ยินเรื่องไร้สาระในนั้น
12. ในนั้นมีตาน้ำไหลริน
13. ในนั้นมีเตียงที่ถูกยกไว้สูงเด่น
14. และมีแก้วน้ำถูกวางไว้
15. และมีหมอนอิงถูกเรียงไว้เป็นแถว
16. และมีพรมอย่างดีเลิศถูกปูไว้


คำแปล R5.
๘. ในวันนั้นมีอีกหลายใบหน้าที่ผ่องใสด้วยความสุข
๙. พวกเขามีความยินดีเพราะสิ่งที่ได้พากเพียรไว้จากความดีงามต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาได้รับการตอบแทนอย่างสมบูรณ์ยิ่ง
๑๐. ในสวรรค์อันสูงตระหง่าน
๑๑. พวกเขาไม่ได้ยินสิ่งไร้สาระในนั้นเลย
๑๒. ในนั้นมีตาน้ำอันไหลริน
๑๓. ในนั้นมีเตียงที่ถูกยกไว้
๑๔. และมีถ้วยที่ถูกวางไว้
๑๕. และมีหมอนที่ถูกเรียงรายไว้
๑๖. และมีพรมอันงามหรูที่ถูกปูแผ่ไว้




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิ.ย. 15, 2010, 04:00 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลฆอชิยะฮฺ อายะฮฺที่ 17 – 20
   
คำอ่าน
17. อะฟะลายัน..ซุรูนะอิลัลอิบิลิ กัยฟะคุลิก็อต
18. วะอิลัสสะมา...อิ กัยฟะรุฟิอัต
19. วะอิลัลญิบาลิ กัยฟะนุศิบัต
20. วะอิลัลอัรฺฎิ กัยฟะสุฏิหัต


คำแปล R1.
17. Do they not look at the camels, how they are created?
18. And at the heaven, how it is raised?
19. And at the mountains, how they are rooted (and fixed firm)?
20. And at the earth, how it is outspread?



คำแปล R2.
17. พวกเขาไม่พินิจพิเคราะห์อูฐดอกหรือว่า มันถูกสร้างมาอย่างไร ?
18. และ(ไม่พินิจพิเคราะห์)ฟ้าดอกหรือว่ามันถูกยกไว้สูงอย่างไร ?
19. และ(ไม่พินิจพิเคราะห์)ภูเขาต่าง ๆ ดอกหรือว่ามันถูกตั้งไว้อย่างไร ?
20. และ(ไม่พินิจพิเคราะห์)แผ่นดินดอกหรือว่ามันถูกแผ่ลาดไว้อย่างไร ?


คำแปล R3.
17. (พวกเขาไม่ศรัทธา)พวกเขาไม่พิจารณาอูฐหรือว่ามันถูกสร้างมาอย่างไร ?
18. และดูท้องฟ้าว่ามันได้ถูกยกสูงอย่างไร ?
19. และดูภูเขาว่ามันได้ถูกตั้งมั่นอย่างไร ?
20. และดูว่าแผ่นดินได้ถูกขยายอย่างไร ?


คำแปล R4.
17. พวกเขาไม่พิจารณาดูอูฐดอกหรือว่า มันถูกบังเกิดมาอย่างไร ?
18. และยังท้องฟ้าบ้างหรือว่ามันถูกยกให้สูงขึ้นอย่างไร ?
19. และยังภูเขาบ้างหรือว่า มันถูกปักตั้งไว้อย่างไร ?
20. และยังแผ่นดินบ้างหรือว่ามันถูกแผ่ลาดไว้อย่างไร ?


คำแปล R5.
๑๗. พวกเขาไม่พิจารณาหรือว่าอูฐถูกสร้างมาอย่างไร
๑๘. และพิจารณาดูฟ้าว่ามันถูกยกไว้อย่างไร
๑๙. และพิจารณาดูภูเขาว่ามันถูกตั้งไว้อย่างไร
๒๐. และพิจารณาดูแผ่นดินว่ามันถูกแผ่ลาดไว้อย่างไร



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิ.ย. 16, 2010, 03:37 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลฆอชิยะฮฺ อายะฮฺที่ 21 – 26

คำอ่าน
21. ฟะซักกิรฺ อิน..นะมา..อัน..ตะมุซักกิรฺ
22. ลัสตะอะลัยฮิม..บิมุศ็อยฏิร
23. อิลามัน..ตะวัลลา วะกะฟัรฺ
24. ฟะยุอัซซิบุฮุลลอฮุลอะซาบัลอักบัรฺ
25. อิน..นะอิลัยนา..อิยาบะฮุม
26. ษุม..มะอิน..นะอะลัยนา หิสาบะฮุม


คำแปล R1.
21. So remind them (O Muhammad), you are only a one who reminds.
22. You are not a dictator over them.
23. Except the one who turns away and disbelieves
24. Then Allah will punish him with the greatest punishment.
25. Verily, to Us will be their return;
26. Then verily, for Us will be their reckoning.



คำแปล R2.
21. ดังนั้น เจ้าจงตักเตือนเถิด อันที่จริงเจ้านั้น เป็นเพียงผู้มีหน้าที่ตักเตือนเท่านั้น
22. แต่เจ้ามิใช่ผู้ที่จะบังคับเหนือพวกเขา(ให้รับศรัทธา)
23.ยกเว้นผู้ที่หันหลังให้และเนรคุณเท่านั้น (ที่ไม่ยอมรับศรัทธาในคำเตือนของเจ้า)
24. แล้วอัลเลาะฮฺจะทรงลงโทษอันมหันต์แก่เขา
25. แท้จริงยังเราเท่านั้น การกลับคืนของพวกเขา
26. หลังจากนั้น ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะทำการสอบสวนพวกเขา


คำแปล R3.
21. (โอ้ นบี)จงตักเตือนพวกเขาต่อไปเถิด เพราะเจ้าเป็นเพียงผู้ตักเตือนเท่านั้น
22. เจ้าไม่มีอำนาจอันใดเหนือพวกเขา
23. แต่ผู้ที่หันหลังให้และบรรดาผู้ปฏิเสธนั้น
24. อัลลอฮฺจะลงโทษพวกเขาอย่างหนัก
25. แท้จริง ยังเราต่างหากที่พวกเขาจะกลับมา
26. หลังจากนั้นเราเองมีหน้าที่จะเรียกพวกเขามาชำระบัญชี


คำแปล R4.
21. ดังนั้นจงตักเตือนเถิด เพราะแท้จริงเจ้าเป็นเพียงผู้ตักเตือนเท่านั้น
22. เจ้ามิใช่ผู้มีอำนาจเหนือพวกเขา
23. นอกจากผู้ที่ผินหลังให้และปฏิเสธศรัทธาเท่านั้น
24. อัลลอฮฺจะทรงลงโทษเขาซึ่งการลงโทษอันมหันต์
25. แท้จริง ยังเราเท่านั้นคือการกลับมาของพวกเขา
26. แล้วก็แท้จริง หน้าที่ของเรานั้นคือ การชำระพวกเขา


คำแปล R5.
๒๑. ดังนั้น เจ้าจงเตือนเถิด โอ้มุฮำมัด เพราะที่จริงเจ้านั้นมีหน้าที่ตักเตือน มวลชนทั้งหลายให้กลับมาสู่ทางของอัลลอฮฺ
๒๒. เจ้ามิใช่มีอำนาจบังคับพวกเขา ที่ไม่ยอมเชื่อให้ต้องเชื่อเจ้าโดยทั่วทุกคนหรอก
๒๓. แต่ทว่าผู้ใดหันหลังให้และปฏิเสธ ที่จะศรัทธา
๒๔. แน่นอนอัลเลาะห์จะทรงลงโทษเขาด้วยการลงโทษอันใหญ่หลวงยิ่งนัก
๒๕. แท้จริง ยังเราเท่านั้น การกลับคืนของพวกเขา
๒๖. หลังจากนั้น แท้จริงเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำการสอบสวนพวกเขา




صدق الله العظيم   (ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่สัจจริงเสมอ)
จบสูเราะฮฺที่ 88 อัลฆอชิยะฮฺ


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิ.ย. 17, 2010, 03:33 AM »
0
 salam

3. อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 89 สูเราะฮฺ อัลฟัจญรฺ)

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลฟัจญรฺ (الفجر   - รุ่งอรุณ – R4.)

เป็นซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มี 30 อายะฮฺ


ความหมายโดยสรุปของสูเราะฮฺ อัลฟัจญรฺ

   ซูเราะฮฺ อัลฟัจญรฺ เป็นซูเราะฮฺซึ่งกล่าวถึงเรื่องสำคัญ ๆ 3 เรื่องด้วยกันคือ
   1. กล่าวถึงเรื่องต่าง ๆ ของบางประชาชาติที่ปฏิเสธต่อบรรดารอซูลของอัลลอฮฺ เช่น หมู่ชนอ๊าด ซะมูด และหมู่ชนฟิรฺเอานฺ พร้อมทั้งได้ชี้แจงถึงสิ่งที่พวกเขาได้รับการลงโทษและความวิบัติเนื่องจากการละเมิดขอบเขตของพวกเขา “เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่า พระเจ้าของเจ้ากระทำต่อพวกอ๊าดอย่างไร”
   2. ชี้แจงถึงแนวทางของอัลลอฮฺตะอาลา ในการทดสอบปวงบ่าวเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่นี้ด้วยความดีและความชั่ว ความมั่งมีและความยากจนและธรรมชาติของมนุษย์ในการรักและหวงแหนอย่างมากต่อทรัพย์สมบัติของเขา “ส่วนมนุษย์นั้น เมื่อพระเจ้าของเขาทรงทดสอบเขา”ฯลฯ
   3. วันอาคิเราะฮฺ ความน่ากลัวและความรุนแรงของวันนั้น การแบ่งแยกมนุษย์ในวันกิยามะฮฺเป็นสองพวกคือพวกที่มีความสุขสำราญเบิกบานใจ และพวกที่มีความระทมทุกข์หนักใจ และชี้แจงถึงทางกลับของชีวิตที่ชั่วช้า และชีวิตที่ดีมีความสงบสุข “หามิได้เมื่อแผ่นดินถูกทำให้สั่นสะเทือนเป็นผุยผง และพระเจ้าของเจ้าเสด็จมาพร้อมทั้งมะลาอิกะฮฺด้วยเป็นแถว ๆ และนรกญะฮันนัม จะถูกนำมาให้ปรากฏ ในวันนั้นมนุษย์จะรำลึกขึ้นมาได้ แต่การรำลึกนั้นจะมีผลแก่เขาได้อย่างไร” ฯลฯ




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิ.ย. 17, 2010, 03:40 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลฟัจญรฺ อายะฮฺที่ 1 – 5


 
คำอ่าน
1. วัลฟัจญรฺ
2. วะละยาลินอัชรฺ
3. วัชชัฟอิวัลวัตรฺ
4. วัลลัยลิอิซายัสรฺ
5. ฮัลฟีซาลิกะเกาะสะมุลลิซีหิจญรฺ


คำแปล R1.
1. By the dawn;
2. By the ten nights (i.e. the first ten days of the month of Dhul-Hijjah),
3. And by the even and the odd (of all the creations of Allah).
4. And by the night when it departs.
5. There is indeed in them (the above oaths) a sufficient proof for men of understanding (and that, they should avoid all kinds of sins and disbeliefs, etc.)!


คำแปล R2.
1. ขอยืนยันกับรุ่งอรุณ
2. รัตติกาลทั้งสิบ (ของต้นเดือนซิลฮิจยะฮฺ)
3. และสิ่งคู่และสิ่งคี่
4. และกลางคืนเมื่อมันผ่านไป
5. ใน(การยืนยันถึง)สิ่งนั้น ๆ เป็นการยืนยันเพื่อผู้มีปัญญา(ได้สนใจและไตร่ตรอง)มิใช่หรือ ?


คำแปล R3.
1. ขอสาบานด้วยยามรุ่งอรุณ
2. และด้วยคืนทั้งสิบ
3. และด้วยสิ่งที่เป็นจำนวนคู่และคี่
4. และด้วยกลางคืนเมื่อมันจากไป
5. ในนั้นมีการสาบานสำหรับผู้มีสติมิใช่หรือ


คำแปล R4.
1. ขอสาบานด้วยยามรุ่งอรุณ
2. และด้วยค่ำคืนทั้งสิบ
3. และด้วยสิ่งที่เป็น คู่ และที่เป็นคี่
4. และด้วยเวลากลางคืนเมื่อมันโคจรไป
5. ในดังกล่าวนั้นเป็นการสาบาน สำหรับผู้ที่มีปัญญามิใช่หรือ?


คำแปล R5.
๑. ขอสาบานต่อยามรุ่งอรุโณทัย
๒. ขอสาบานต่อสิบคืนแรก ของเดือนซิลฮิจยะห์
๓. ขอสาบานต่อสิ่งที่เป็นจำนวนคู่และสิ่งที่เป็นจำนวนคี่
๔. ขอสาบานต่อกลางคืนเมื่อมันผ่านพ้นไป แล้วกลางวันก็เข้ามาแทน
๕. คำสาบานเหล่านั้นมิใช่คำสาบานของผู้มีปัญญาดอกหรือ





ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิ.ย. 18, 2010, 03:45 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลฟัจญรฺ อายะฮฺที่ 6 – 14


คำอ่าน
6. อะลัมตะเราะกัยฟะฟะอะละร็อบบุกะบิอาด
7. อิเราะมะซาติลอิมาด
8. อัลละตีลัมยุคลักมิษลุฮาฟิลบิลาด
9. วะษะมูดัลละซีนะญาบุศศ็อคเราะบิลวาด
10. วะฟิรฺเอานะซิลเอาตาด
11. อัลละซีนะเฏาะฆ็อวฟิลบิลาด
12. ฟะอักษะรูฟีฮัลฟะสาด
13. ฟะศ็อบบะอะลัยฮิมร็อบบุกะเสาเฏาะอะซาบ
14. อิน..นะร็อบบะกะละบิลมิรฺศอด


คำแปล R1.
6. Did you (O Muhammad) not see (thought) how your Lord dealt with 'Ad (people)?
7. Who were very tall like lofty pillars?
8. The like of which were not created in the land?
9. And (with) Thamud (people), who cut (hewed) out rocks in the valley (to make dwellings)?
10. And (with) Fir'aun (Pharaoh), who had pegs (who used to torture men by binding them to pegs)?
11. Who did transgress beyond bounds in the lands (in the disobedience of Allah).
12. And made therein much mischief.
13. So your Lord poured on them different kinds of severe torment.
14. Verily, your Lord is ever watchful (over them).


คำแปล R2.
6. เจ้ามิได้พิจารณาดอกหรือ อัลเลาะฮฺทรงกระทำกับพวกอ๊าด(ในอดีต)อย่างไร ?
7. เขาคืออิรอม ผู้อาศัยกระโจมเป็นที่อยู่
8. ซึ่งยังไม่มีการสร้างเยี่ยงกระโจมนั้นในเมืองอื่น ๆ
9. และ(อัลเลาะฮฺทำอย่างไรกับ)พวกสะมู๊ดซึ่งสกัดหินที่หุบเขา
10. และ(อัลเลาะฮฺทำอย่างไรกับ)ฟิรเอาน์ผู้มีอำนาจ(ประกอบด้วยอาณาจักรและกองทัพอันมหึมา)
11. บรรดาผู้ทำการล่วงละเมิดในเมืองต่าง ๆ
12. โดยพวกเขาบ่อนทำลายอย่างมากมายในเมืองนั้น ๆ
13. ดังนั้น องค์อภิบาลของเจ้าจึงทรงกระหน่ำแซ่แห่งการลงโทษลงบนพวกเขา
14. แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้านั้น ย่อมทรงเฝ้าสอดส่อง(ความประพฤติของทุก ๆ คนเพื่อทำการตอบแทน)


คำแปล R3.
6. เจ้าไม่เห็นหรือว่า พระผู้อภิบาลของเจ้าจัดการอย่างไรกับพวกอ๊าด
7. อิร็อมแห่งเสาสูงตระหง่าน
8. ที่ไม่มีชาติใดเยี่ยงนั้นถูกสร้างมาก่อนในแผ่นดินต่าง ๆ ของโลก
9. และพวกษะมูดที่ขุดหินออกมาในหุบเขา
10. และฟิรฺเอาน์แห่งเสาหลัก
11. เหล่านี้คือผู้ที่ล่วงละเมิดในแผ่นดินต่าง ๆ ของโลก
12. และแพร่ความเสียหายอย่างมากมายในนั้น
13. ด้วยเหตุนี้พระผู้อภิบาลของเจ้าจึงได้กระหน่ำการลงโทษลงมาบนพวกเขา
14. แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นทรงเฝ้าดูอยู่เสมอ


คำแปล R4.
6. เจ้าไม่เห็นดอกหรือ ว่า พระเจ้าของเจ้ากระทำต่อพวกอ๊าดอย่างไร ?
7. (แห่ง) อิร็อม พวกมีเสาหินสูงตะหง่าน
8. ซึ่งเยี่ยงนั้นมิได้ถูกสร้างตามหัวเมืองต่าง ๆ
9. และพวกซะมูดผู้สกัดหิน ณ หุบเขา
10. และฟิรเอานฺ เจ้าแห่งตรึงเสาเต็นท์
11. บรรดาผู้ละเมิดเหล่านั้นตามหัวเมืองต่าง ๆ
12. แล้วก่อความเสียหายอย่างมากมายในหัวเมืองเหล่านั้น
13. ดังนั้นพระเจ้าของเจ้าจึงกระหน่ำการลงโทษนานาชนิดบนพวกเขา
14. แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้นทรงเฝ้าดูอย่างแน่นอน


คำแปล R5.
๖. เจ้าไม่สังเกตหรือ พระผู้อภิบาลของเจ้าได้กระทำกับพวกอ๊าดอย่างไรบ้าง
๗. เขาคืออิรอม พวกอ๊าดนั้นเป็นผู้มีร่างกายสูงใหญ่ กล่าวกันว่าความสูงวัดได้ถึง ๑๒ ศอก พวกอ๊าดตามระบุในโองการนี้ เป็นพวกอ๊าดดั้งเดิม เชื้อชาติอาหรับและมีความดุร้ายมาก แต่ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยการลงโทษของอัลเลาะห์ให้มีลมพัดต่อเนื่องรุนแรงเป็นเวลา ๗ คืน ๘ วัน เพราะพวกเขาไม่ยอมศรัทธาตามประกาศของนบีฮู๊ด อ๊าดเป็นชื่อต้นตระกูลซึ่งนำมาใช้เป็นชื่อของตระกูลอ๊าด เป็นลูกของอิรอม อิรอมเป็นลูกของเอาส์ เอาส์เป็นลูกของซาม ซามเป็นลูกของนบีนูห์ ต้นตระกูลอ๊าด จึงเรียกได้อีกว่า อิรอม และตระกูล “อ๊าดอิรอม” เป็นตระกูลเก่าแก่ หรือเรียกว่า (อ๊าดเดิม – อ๊าดอัลอูลา) และคนพวกนี้อยู่ในพื้นที่ทะเลทรายอันคดเคี้ยวมีชื่อ “อัลอะฮ์ทอป” ยาวถึง “หะดารอเมาต์” (จังหวัดหนึ่งในประเทศเยเมนปัจจุบัน)
๘. ซึ่งมิได้ถูกบันดาลที่เหมือนกับพวกนั้นในเมืองต่าง ๆ เลย
๙. และพวกสะมู๊ดซึ่งสกัดหิน ณ หุบเขาเพื่อทำเป็นบ้านอยู่อาศัย ซึ่งคนพวกนี้ก็สูญพันธุ์เช่นเดียวกัน เพราะทรยศต่อคำประกาศของนบีซอลิฮ์ สะมู๊ดที่จริงนั้นเป็นคนเชื้อสายที่สืบถึงอิรอม ต้นตระกูลเดียวกับพวกอ๊าดที่กล่าวไว้แล้ว พวกสะมู๊ดอาศัยที่ “อัลฮัจร์” ตั้งอยู่ระหว่าง “ซาม” กับ “หิญาซ” พวกสะมู๊ดมีความสามารถเด่นเหนือคนยุคเดียวกันคือสามารถสกัดหินไปสร้างบ้านเรือนเป็นที่อยู่อาศัยได้
๑๐. และฟิรเอาน์ผู้มีอำนาจอาณาจักรแข็งแกร่ง พร้อมกับกองทัพของเขาซึ่งถูกทำลายล้างเพราะทรยศต่อคำประกาศของนบีมูซา
๑๑. ซึ่งพวกเหล่านั้นล้วนกระทำการละเมิดในเมืองต่าง ๆ ด้วยการกดขี่ผู้อ่อนแอกว่า และฝ่าฝืนทรยศคำประกาศของศาสนทูตในยุคของตนเองอย่างก้าวร้าวและรุกราน
๑๒. แล้วพวกเขาก็บ่อนทำลายอย่างมากมายในเมืองเหล่านั้น
๑๓. ดังนั้นพระผู้อภิบาลของเจ้าจึงกระหน่ำแซ่แห่งการลงโทษมาเหนือพวกเขาจนพวกเขาพินาศสิ้น
๑๔. แท้จริงผู้ทรงอภิบาลของเจ้านั้น ทรงเฝ้าสังเกต ณ ที่สอดส่อง การงานทุกอย่างของพวกเจ้านั้น พระองค์ทรงสังเกตและทรงสอดส่องดูแลอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรรอดพ้นไปจากพระองค์เลย


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิ.ย. 19, 2010, 04:26 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลฟัจญรฺ อายะฮฺที่ 15 – 20


คำอ่าน
15. ฟะอัม..มัลอิน..สานุอิซามับตะลาฮุ ร็อบบุฮู ฟะอักเราะมะฮู วะนะอฺอะมะฮู ฟะยะกูลุร็อบบีอักเราะมัน
16. วะอัม..มา..อิซามับตะลาฮุ ฟะเกาะดะเราะอะลัยฮิริซเกาะฮู ฟะยะกูลุร็อบบี..อะฮานัน
17. กัลลาบัลลาตุกริมูนัลยะตีม
18. วะลาตะหา...ฎฎูนะอะลาเฎาะอามิลมิสกีน
19. วะตะอ์กุลูนัตตุรอษะ อักลัลลัม..มา
20. วะตุหิบบูนัลมาละ หุบบัน..ญัม..มา


คำแปล R1.
15. As for man, when his Lord tries him by giving him honour and gifts, Then he says (puffed up): "My Lord has honoured me."
16. But when He tries him, by straitening his means of life, he says: "My Lord has humiliated me!"
17. Nay! But you treat not the orphans with kindness and generosity (i.e. you neither treat them well, nor give them their exact right of inheritance)!
18. And urge not on the feeding of Al-Miskin (the needy)!
19. And you devour inheritance all with greed,
20. And you love wealth with much love!


คำแปล R2.
15. ฝ่ายมนุษย์ เมื่อองค์อภิบาลของเขาได้ทดสอบเขา โดยทรงยกย่องแก่เขา(ให้มีเกียรติยศในสังคม)และประทานความสุขแก่เขา เขาก็จะกล่าวว่า “องค์อภิบาลของฉันได้ยกย่องฉันแล้ว)
16. และส่วนเมื่อพระองค์ได้ทรงทดสอบเขา โดยจำกัดโชคผลแก่เขา เขาก็จะกล่าวว่า องค์อภิบาลของฉันได้หยามฉันแล้ว
17. หามิได้ หากทว่า พวกเจ้าไม่ยกย่องเด็กกำพร้า
18. และพวกเจ้าไม่กำชับกันในการให้อาหารแก่คนอนาถา
19. และพวกเจ้ากินมรดกของผู้หญิงและเด็กอย่างน่าประณาม
20. และพวกเจ้ารักทรัพย์สินกันอย่างมากมาย


คำแปล R3.
15. สำหรับมนุษย์นั้นเมื่อใดก็ตามที่พระผู้อภิบาลของเขาทดสอบเขาแล้วให้เกียรติเขา แล้วประทานความโปรดปรานแก่เขา เขาก็จะกล่าวว่า “พระผู้อภิบาลของฉันทรงให้เกียรติฉัน”
16. แต่เมื่อพระองค์ทรงทดสอบเขาและจำกัดปัจจัยยังชีพของเขา เขาก็กล่าวว่า “พระผู้อภิบาลของฉันได้สร้างความอัปยศให้แก่ฉัน”
17. ไม่ใช่เช่นนั้นเลย แต่สูเจ้าไม่ปฏิบัติต่อเด็กกำพร้าด้วยความเคารพ
18. และสูเจ้าไม่ส่งเสริมกันในการเลี้ยงอาหารคนยากจน
19. และสูเจ้ากินมรดกกันด้วยความโลภ
20. และสูเจ้ารักทรัพย์สินกันอย่างหมดหัวใจ


คำแปล R4.
15. ส่วนมนุษย์นั้น เมื่อพระเจ้าของเขาทรงทดสอบเขา โดยทรงให้เกียรติเขาและทรงโปรดปรานเขา เขาก็จะกล่าวว่า พระเจ้าของฉันทรงยกย่องฉัน
16. แต่ครั้งเมื่อพระองค์ทรงทดสอบเขาทรงให้การครองชีพของเขาเป็นที่คับแคบแก่เขา เขาก็จะกล่าวว่า พระเจ้าของฉันทรงเหยียดหยามฉัน
17. มิใช่เช่นนั้นดอก แต่ว่าพวกเจ้ามิได้ให้เกียรติแก่เด็กกำพร้าต่างหาก
18. และพวกเจ้ามิได้ส่งเสริมกันในการให้อาหารแก่คนยากจนขัดสน
19. และพวกเจ้ากินมรดกกันอย่างหมดเกลี้ยง
20. และพวกเจ้ารักสมบัติกันอย่างมากมาย


คำแปล R5.
๑๕. อันที่จริงมนุษย์นั้นเมื่อพระผู้อภิบาลของเขาได้ทดสอบเขาโดยพระองค์ได้ยกย่องเขาและประทานความสุขแก่เขา เขาก็จะกล่าวว่า พระผู้อภิบาลของฉันได้ยกย่องฉันแล้ว โดยมิได้คำนึงถึงความต่ำต้อยของตัวเอง และไม่สำนึกในพระคุณของพระองค์ เขากลับยึดเอาสิ่งที่พระองค์ทรงประทานมาเป็นเครื่องแบ่งแยกตัวเองให้เหนือกว่าคนอื่น และถือว่าตัวเองมีเกียรติ มีทรัพย์เหนือกว่า
๑๖. และอนึ่งเมื่อพระองค์ได้ทรงทดสอบเขาโดยจำกัดซึ่งปัจจัยแก่เขา เขาก็จะกล่าวว่า พระผู้อภิบาลของฉันได้เหยียดหยามฉันแล้ว ซึ่งที่จริงแล้วการมีหรือการจนนั้นไม่เกี่ยวกับเกียรติหรือความต่ำต่อยเลย แต่เพราะคนพวกนี้ไม่มีจิตยำเกรงต่ออัลเลาะห์ จึงยึดสิ่งสมมติเหล่านั้นมาเป็นแกนนำชีวิตแทน
๑๗. หาเป็นเช่นนั้นไม่ หากทว่าความเป็นจริงเป็นเพราะพวกเจ้าไม่ยกย่องลูกกำพร้า
๑๘. และพวกเจ้าไม่กำชับกันให้ให้อาหารแก่คนอนาถา
๑๙. และพวกเจ้ากินมรดกกันอย่างกีดกันไม่คำนึงถึงสิทธิของผู้มีสิทธิ์ นอกจากใช้อำนาจบารมีถือประโยชน์เข้าตน ส่วนทายาทที่อ่อนแอกว่าก็ถูกโกงสิทธิไป
๒๐. และพวกเจ้าคลั่งไคล้ทรัพย์สมบัติอย่างสุดสวาท พร้อมทั้งละโมภและตระหนี่เป็นที่สุด




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิ.ย. 20, 2010, 04:26 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลฟัจญรฺ อายะฮฺที่ 21 – 26
 

คำอ่าน
21. กัลลาอิซาดุกกะติลอัรฺฎุ ดักกัน..ดักกา
22. วะญา...อะร็อบบุกะ วัลมะละกุ ศ็อฟฟัน..ศ็อฟฟา
23. วะญี...อะเยามะอิซิม..บิญะฮัน..นะมะ เยามะอิซียะตะซักกะรุลอิน..สานุ วะอัน..นาละฮุซซิกรอ
24. ยะกูลุยาลัยตะนี ก็อดดัมตุลิหะยาตี
25. ฟะเยามะอิซิลลายุอัซซิบุ อะซาบะฮู..อะหัด
26. วะลายูษิกุ วะษาเกาะฮู...อะหัด


คำแปล R1.
21. Nay! When the earth is ground to powder,
22. And your Lord comes with the angels in rows,
23. And Hell will be brought near that Day. On that Day will man remember, but how will that remembrance (then) avail him?
24. He will say: "Alas! Would that I had sent forth (good deeds) for (this) my life!"
25. So on that Day, none will punish as He will punish.
26. And none will bind as He will bind.


คำแปล R2.
21. หามิได้ เมื่อแผ่นดินถูกบดให้ราบครั้งแล้วครั้งเล่า(จนแปรสภาพเป็นฝุ่น)
22. และองค์อภิบาลของเจ้าก็มาพร้อยมลาอิกะฮฺเป็นแถวแถว
23. และในวันนั้น นรกยะฮันนัมจะถูกนำมา ในวันนั้นแหละที่มนุษย์จะได้มีจิตสำนึก แต่ทว่าการสำนึกนั้นจะเกิดผลแก่เขาได้อย่างไร ?
24. เขา(ผู้เนรคุณ)จะกล่าวว่า “โอ ฉันน่าจะได้ประกอบ(คุณความดี)ล่วงหน้าไว้เพื่อชีวิตของฉัน
25. ดังนั้นในวันนั้นไม่มีผู้ใดที่จะลงโทษ(ผู้กระทำผิด)เทียบเทียมพระองค์ได้
26. และไม่มีผู้ใดทำการผูกมัด(และล่ามโซ่ตรวนแก่ผู้ทำผิด)เทียมทานพระองค์ได้


คำแปล R3.
21. ไม่ใช่เลย เมื่อแผ่นดินถูกทำให้สั่นสะเทือนจนเป็นผุยผง
22. และพระผู้อภิบาลของเจ้าเสด็จมาพร้อมกับมลาอิกะฮฺที่เรียงรายกันเป็นแถว
23. และนรกในวันนั้นได้ถูกนำมาให้เห็น ในวันนั้นมนุษย์ก็จะเข้าใจ แต่ความเข้าใจนั้นจะมีประโยชน์อะไรแก่เขาในตอนนั้น ?
24. เขาจะกล่าวว่า “ฉันน่าจะเตรียมอะไรไว้ล่วงหน้าสำหรับชีวิตนี้ของฉันบ้าง”
25. แล้วในวันนั้นไม่มีใครจะสามารถลงโทษดังเช่นอัลลอฮฺลงโทษได้
26. และไม่มีใครสามารถผูกมัดดังเช่นอัลลอฮฺจะผูกมัดได้


คำแปล R4.
21. หามิได้ เมื่อแผ่นดินถูกทำให้สั่นสะเทือนเป็นผุยผง
22. และพระเจ้าของเจ้าเสด็จมาพร้อมทั้งมะลาอิกะฮฺด้วยเป็นแถว ๆ
23. และวันนั้นนรกญะฮันนัมจะถูกนำมาให้ปรากฏ ในวันนั้นมนุษย์จะรำลึกขึ้นมาได้ แต่การรำลึกนั้นจะมีผลแก่เขาได้อย่างไร ?
24. เขาจะกล่าวว่า โอ้ถ้าฉันได้ทำความดีไว้ล่วงหน้าสำหรับชีวิตของฉัน
25. แล้วในวันนั้นไม่มีผู้ใดลงโทษเช่น การลงโทษของพระองค์
26. และไม่มีผู้ใดผูกมัด เช่นการผูกมัดของพระองค์


คำแปล R5.
๒๑. หาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อแผ่นดินได้ถูกทำลาย ด้วยการไหวและถล่มของมันครั้งแล้วครั้งเล่า จนแปรสภาพเป็นผุยผงปลิวว่อนอยู่ในอากาศ
๒๒. และการงานของพระผู้อภิบาลของเจ้าก็โดยมลาอิกะห์มาเป็นแถว ๆ นับเป็นจำนวนมหาศาลห้อมล้อมมนุษย์ไว้ ณ ทุ่งรวมมนุษย์ ซึ่งทุกคนจะอยู่ ณ ที่นั้น อย่างเบียดเสียดและร้อนอ้าว
๒๓. และในวันนั้นนรกยะฮันนัมก็ถูกนำมาในวันนั้น มนุษย์เพิ่งจะได้สำนึกในความผิดที่ตนเคยกระทำผ่านมาแล้วในโลกดุนยาและความสำนึกนั้นจะให้ประโยชน์แก่เขาได้อย่างไรเมื่อเนิ่นนานมาจนถึงบัดนี้
๒๔. เขารำพึงว่า โอ้ความหวังของฉัน ฉันน่าจะได้กระทำ คุณงามความดีไว้สำหรับชีวิตของฉันมาแต่ภพที่ผ่านมา
๒๕. แน่นอนในวันปรภพนั้น ไม่มีผู้ใดทั้งสิ้นที่จะลงโทษให้เหมือนการลงโทษของพระองค์ได้
๒๖. และไม่มีผู้ใดผูกมัด ชาวนรกด้วยกับโซ่ตรวน เหมือนเช่นการผูกมัดของพระองค์




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 87- 90)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิ.ย. 21, 2010, 02:46 AM »
0
 salam

4. อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย สูเราะฮฺที่ 90 อัลบะลัด

คำอธิบายประกอบซูเราะฮฺอัลบะลัด (البلد  - เมือง – R3.)
เป็นสูเราะฮฺมักกียะฮฺ มี 20 อายะฮฺ
    ชื่อ : ซูเราะฮฺนี้ได้ชื่อมาจากคำว่า  البلد  ในอายะฮฺแรก
    ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ : เนื้อหาและลีลาของซูเราะฮฺนี้เหมือนกับซูเราะฮฺแรก ๆ ที่ถูกประทานลงมาที่มักกะฮฺ และยังมีสิ่งที่ชี้ว่ามันได้ถูกประทานลงมาในช่วงเวลาที่บรรดาผู้ปฏิเสธแห่งมักกะฮฺได้ตัดสินใจที่จะต่อต้านท่านรอซูลุลลอฮิแล้ว และถือว่าการทำทารุณกรรมต่อท่านเป็นสิ่งถูกต้อง
   เนื้อหาสาระ : ในซูเราะฮฺนี้ได้ขมวดปมเนื้อหาอันกว้างขวางไว้ในประโยคสั้น ๆ เพียงสองสามประโยคและมันเป็นความมหัศจรรย์ของคัมภีร์กุรฺอานที่สามารถพูดถึงอุดมการณ์อันสมบูรณ์ของชีวิตที่ยากจะอธิบายในหนังสือเล่มหนา ๆ ได้อย่างรวบรัด เนื้อหาของซูเราะฮฺนี้ก็คือการอธิบายถึงสถานะที่แท้จริงของมนุษย์ในโลกและสถานะของโลกต่อมนุษย์และเพื่อที่จะบอกว่าอัลลอฮฺไม่เพียงแต่แสดงให้มนุษย์ได้เห็นทั้งหนทางแห่งความดีและความชั่วเท่านั้น แต่ยังได้จัดเตรียมหนทางในการตัดสินและคอยติดตามเฝ้าดูเขาด้วย ตอนนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับเขาเองว่าจะตัดสินใจเลือกหนทางแห่งสัจธรรมที่นำไปสู่ความสงบ หรือจะเลือกปฏิบัติตามหนทางแห่งความชั่วที่จะนำไปสู่ภัยพิบัติ
   ในตอนแรกเลยได้มีการเอ่ยถึงเมืองมักกะฮฺและความทุกข์ยากลำบากที่ท่านรอซูลุลลอฮฺเผชิญอยู่ หลังจากนั้นก็ได้พูดถึงสภาพของลูกหลานอาดัม ทั้งนี้เพื่อยืนยันความจริงว่าโลกนี้มิใช่สถานที่พักผ่อนและสถานที่สะดวกสบายสำหรับมนุษย์ เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน แต่เขาได้ถูกสร้างขึ้นมาในโลกนี้เพื่อที่จะต้องทำงานหนักและต่อสู้ ถ้าหากเนื้อหาของสูเราะฮฺนี้ได้ถูกอ่านกับอายะฮฺที่ 39 ของซูเราะฮฺ อัน-นัจญมุ ตรงที่แปลว่า “ไม่มีสิ่งใดสำหรับมนุษย์นอกจากสิ่งที่เขาได้ขวนขวายไว้” มันก็จะเป็นการง่ายที่จะเข้าใจว่าในโลกนี้ อนาคตของมนุษย์ขึ้นอยู่กับการทำงาน ความพยายามและการดิ้นรนต่อสู้ของเขา
   หลังจากนี้ก็ได้มีการปฏิเสธความเข้าใจผิดของมนุษย์ที่ว่าเขาเท่านั้นที่อยู่ในโลกนี้โดยไม่มีอำนาจใด ๆ คอยเฝ้าดูการกระทำของเขาและเรียกเขาไปรับผิดชอบในสิ่งที่เขาได้ทำไว้
   หลังจากนั้นก็ได้มีการหยิบยกเอาแนวความคิดโง่เขลาที่มนุษย์ยึดมาเป็นตัวอย่างว่าเขามีเกณฑ์ตัดสินผิด ๆ อย่างไรและมีผลอย่างใหญ่หลวงเช่นไรสำหรับเขาในโลกนี้ คนที่สะสมความมั่งคั่งไว้โอ้อวดไม่เพียงแต่ภาคภูมิใจในความหรูหราฟุ่มเฟือยของเขาเท่านั้น แต่ผู้คนยังยกย่องชมเชยเขาด้วย แต่ขณะเดียวกัน พระผู้เป็นเจ้าผู้เฝ้ามองพฤติกรรมของเขาก็จะดูว่าเขาได้ความมั่งคั่งนั้นมาด้วยวิธีการเช่นใดและเขาใช้จ่ายมันไปทางไหนและด้วยเจตนาอันใด
   หลังจากนั้น อัลลอฮฺก็ทรงกล่าวว่า เราได้ประทานหนทางแห่งความรู้และความสามารถในการคิด การเข้าใจและได้เปิดทางแห่งความดีและความชั่วไว้ให้เขา ทางหนึ่งจะนำไปสู่ความตกต่ำทางศีลธรรมซึ่งเป็นทางที่ง่ายและเป็นที่พึงพอใจสำหรับตัวเอง ส่วนอีกทางหนึ่งเป็นทางที่นำไปสู่ความสูงส่งทางศีลธรรม ซึ่งชันเหมือนกับทางขึ้นเขา แต่ความอ่อนแอของมนุษย์เองต่างหากที่ทำให้เขาชอบไถลลงจากหน้าผา
   หลังจากนั้น อัลลอฮฺก็ได้ทรงอธิบายว่าทางชันนั้นก็คือการตามสิ่งที่มนุษย์สามารถขึ้นไปที่สูงได้ นั่นก็คือ เขาจะต้องเลิกการใช้จ่ายเพื่อการโอ้อวดและจะต้องใช้จ่ายทรัพย์สินไปเพื่อช่วยเด็กกำพร้าและคนยากจน จะต้องศรัทธาในอัลลอฮฺและศาสนาของพระองค์ จะต้องร่วมกับบรรดาผู้ศรัทธาและต้องมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ตอบสนองการเรียกร้องของคุณธรรมความดีอย่างอดทน ผลสุดท้ายของบรรดาผู้ปฏิบัติตามทางนี้ก็คือ พวกเขาจะได้รับความเมตตาจากอัลลอฮฺ ในทางตรงข้าม จุดหมายปลายทางของบรรดาผู้ปฏิบัติตามทางที่ผิดก็คือไฟนรกที่เขาไม่สามารถหลบหนีได้



 

GoogleTagged