بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛
อนุญาตให้รับประทานได้น่ะครับ จนกว่าจะมีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนผสมที่ฮะรอมและเป็นนะยิสครับ
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา ได้กล่าวรายงานว่า :
أَنَّ قَوْمًا قَالُوا لِلنَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنَّ قَوْمًا يَأْتُونَا بِاللَّحْمِ لَا نَدْرِي أَذُكِرَ اسْمُ اللَّهِ عَلَيْهِ أَمْ لَا فَقَالَ سَمُّوا عَلَيْهِ أَنْتُمْ وَكُلُوهُ
“มีชนกลุ่มหนึ่งได้กล่าวแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า แท้จริงมีคนกลุ่มหนึ่งได้นำเนื้อมาให้พวกเรา โดยที่เราไม่รู้ว่า เนื้อ(ที่พวกเขาเชือด)นั้นถูกเอ่ยนามของอัลเลาะฮ์หรือไม่? ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า พวกท่านจงกล่าวบิสมิลลาฮ์และจงรับประทานมัน” รายงานโดยอัลบุคอรีย์ (ชัยคุลอิสลาม อัลฮาฟิซ อิบนุฮะญัร อัลอัสก่อลานีย์, หนังสือฟัตฮุลบารีย์, 4/296)
ฮะดีษบทนี้ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่บังคับให้ถามถึงวิธีการเชือดของพวกฮายูดีและนะซอรอ แต่เมื่อการเชือของพวกเขาเป็นที่ฮะล้าล ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เฉกเช่นเดียวกัน หากต่างศาสนิกได้ปรุงอาหารโดยไม่มีวัตถุดับที่ต้องห้ามหรือไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่ามีสิ่งฮะรอมเจือปนหรือไม่มีกรรมวิธีที่ไม่ถูกต้องตามหลักความสะอาดของศาสนาอิสลาม ก็อนุญาตให้บริโภคได้ ดังนั้นมาตรฐานที่จะวัดว่าเป็นสิ่งที่ฮะล้าลรับประทานหรือไม่นั้น ให้ดูที่กรรมวิธีการผลิตและวัตถุดิบ มิใช่ตัวของผู้ผลิต
ดังหลักนิติศาสตร์อิสลามได้ระบุไว้ว่า :
اَلأَصْلُ فِي الأَشْيَاءِ اَلإِبَاحَةُ حَتَّى يَدُلَّ الدَّلِيْلُ عَلَي التَّحْرِيْمِ
“หลักเดิมในสรรพสิ่งทั้งหลายนั้นเป็นที่อนุมัติ จนกว่ามีหลักฐานมายืนยันว่าต้องห้าม”
ดังนั้นน้ำหวานเฮลบลูบอย หากได้รับการยืนยันที่ชัดเจนว่ามีส่วนผสมที่ฮะรอม ก็ไม่อนุญาตให้รับประทาน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สถาบันมาตราฐานฮาลาลแห่งประเทศไทยเพื่อให้ตรวจสอบครับ
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ