ผู้เขียน หัวข้อ: มนุษย์ทำชั่วไม่ใช่ด้วยกอดอและกอดัรและความดีมาจากอัลเลาะฮ์ส่วนความดีมาจากเรา?  (อ่าน 3477 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด

 salam
อยากรบกวนอาจารย์ช่วยอธิบายประโยคต่อไปนี้และยกตัวอย่างด้วยก็ดีคับ พอดีได้อ่านจากหนังสือที่เขียนด้วยภาษามลายูเลยไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไรคับ
-sifat yang jaiz bagi Allah,ialah menjadikan alam(ซีฟาตที่ฮารูสสำหรับอัลลอฺนั้นคือการสร้างอลัม อย่างไรหรือคับ)
- nafsiyah,salbiyah,makani?
-dan menetapkan serta menyakinkan bahawa manusia itu dapat berbuat kejahatan sendiri tidak dengan qada dan qadar Tuhan(และมนุษย์นั้นสามารกระทำสื่งที่ชั่วร้ายได้ด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช่ด้วยกับกอดอและกอดัรพระเจ้า อย่างไรหรือคับ)
-และประโยคนี้ด้วยคับที่เขาชอบพูดโดยเฉพาะในตอนท้ายของการเทศ"และสิ่งที่ดีงามนั้นมาจากพระเจ้าและสิ่งที่ไม่ดีนั้นมาจากฮาวานัฟซูของข้าพเจ้าเอง" จากประโยคนี้หากเราจะธิบายในเชิงอากีดะฮฺได้อย่างไรคับ

wa'lam

jazakaallah
wassalam
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 05, 2010, 05:00 PM โดย al-azhary »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: อยากรบกวนช่วยอธิบายให้ละเอียดหน่อยคับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.ค. 05, 2010, 05:13 PM »
0

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛

คำว่า กอฎออฺของอัลเลาะฮ์  (اَلْقَضَاءُ) คือ  การรู้ของพระองค์ที่มีมาแต่เดิมเกี่ยวกับทุกๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ส่วน ก่อดัรของอัลเลาะฮ์ (اَلْقَدْرُ)  คือ  การให้ดำเนินไปหรือการทำให้บังเกิดขึ้นซึ่งสรรพสิ่งต่างๆ โดยสอดคล้องกับการรู้ของพระองค์ที่มีมาตั้งแต่เดิม  ดังนั้น  การที่อัลเลาะฮ์ทรงรู้เหตุการณ์ต่างๆ ของจักรวาลก่อนที่มันจะเกิดขึ้นนั้น เรียกว่า กอฎออฺ  และเมื่อเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้น ตรงตามการรอบรู้ของอัลเลาะฮ์ตั้งแต่เดิมนั้น เรียกว่า กอดัร(ดู มุฮัมมัด สะอีด ระมะดอน อัลบูฏีย์, อัลอินซาน มุค็อยยัร อัม มุซัยยัร (ดิมัชก์: ดารุลฟิกร์, ฮ.ศ. 1429), หน้า 37.)

การก่อฎออฺหรือการรอบรู้ของพระองค์มาตั้งแต่เดิมนั้น  ทำหน้าที่โดยแบ่งประเภทได้ดังนี้

• อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงรู้ว่า  ต่อไปพระองค์จะบันดาลสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกเฟ้นของมนุษย์  คือ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ  เช่น  น้ำท่วม  แผ่นดินไหว  การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ  การเจริญเติบโตของต้นไม้  และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแก่มนุษย์แบบเลือกเฟ้นไม่ได้  เช่น  การเกิด  การตาย  ความแก่ชรา  การนอนหลับ  การตื่น  เป็นต้น

• อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงรู้ว่า  ต่อไปพระองค์จะสร้างให้เกิดขึ้นมาตามความปรารถนาและการเลือกเฟ้นที่มนุษย์ต้องการจะกระทำ  เช่น  ภารกิจหรือการประกอบธุรกิจต่างๆ ที่มนุษย์ชอบและเลือกเฟ้นที่จะกระทำ  ดังนั้นบทบาทของมนุษย์ก็คือการมุ่งเจตนาและตัดสินใจกระทำตามที่เขาได้เลือกเฟ้น  ส่วนบทบาทของอัลเลาะฮ์ตะอาลาก็คือสร้างหรือบันดาลให้บังเกิดขึ้นมาซึ่งสิ่งที่มนุษย์ได้เลือกเฟ้นและตัดสินใจกระทำ

หากมีบางคนกล่าวว่า  “เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงรู้มาตั้งแต่เดิมแล้วว่า  ฉันจะทำการฝ่าฝืนพระองค์...แน่นอนว่าพระองค์ได้ทรงบังคับให้ฉันกระทำการฝ่าฝืน...!!”  แต่ความจริงแล้วมิใช่เป็นเช่นนั้น  เนื่องจากเขาไม่เข้าใจว่า ซีฟัตอัลอิลมุ (صِفَةُ الْعِلْمِ) “คุณลักษณะทรงรู้” ของอัลเลาะฮ์นั้น  เป็นคุณลักษณะที่มีหน้าที่เปิดให้แจ้งประจักษ์ถึงสิ่งที่ถูกรู้ได้  มิใช่เป็นคุณลักษณะที่มีหน้าที่ทำให้บังเกิดผลขึ้นมา  หมายถึงคุณลักษณะการรู้ของพระองค์ก็เสมือนกับแสงไฟส่องหน้ารถที่ทำให้ท่านเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าและส่องให้เห็นเส้นทางตามหน้าที่ของมัน  โดยไม่สามารถทำให้บังเกิดผลสิ่งใดขึ้นมาเลย  นอกจากว่าพระองค์จะอิรอดะฮ์(เจตนา)และกุดเราะฮ์(ความสามารถ)ในการบันดาลสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้เกิดขึ้นหรือบันดาลให้สิ่งนั้นดับสูญ

ถ้าหากท่านมีบุตรอยู่คนหนึ่งซึ่งกำลังเรียนระดับมัธยม  ท่านพยายามกำชับและส่งเสริมให้เขาตั้งใจเรียน  อย่าเกียจคร้าน  เมื่อเขาทำการสอบ  ปรากฏว่าเขาไม่ประสบความสำเร็จ  แล้วท่านก็กล่าวแก่เขาว่า  พ่อรู้แล้วว่าลูกจะสอบไม่ผ่าน (เพราะเกียจคร้าน)  ดังนั้นจะอนุญาตให้บุตรพูดกับพ่อตามที่พ่อได้รู้มาแล้วได้หรือไม่ว่า  “เพราะเหตุที่พ่อรู้มาแล้วนั่นแหละ ทำให้ฉันสอบตก?!”

ดังนั้นการที่พ่อรู้ว่าบุตรมีความเหมาะสมที่จะได้รับความสำเร็จ  ก็มิใช่เป็นสาเหตุให้บุตรมีความสำเร็จ  และการที่พ่อรู้ว่าบุตรน่าจะไม่มีความสำเร็จ  ก็มิใช่เป็นสาเหตุให้บุตรสอบตกเช่นเดียวกัน  แต่การสอบผ่านหรือสอบตกนั้น  อยู่ที่บุตรจะให้ทุ่มเทและให้ความสนใจกับการเล่าเรียนมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

เช่นเดียวกับสภาวะของบ่าวที่มีต่ออัลเลาะฮ์ตะอา  ซึ่งพระองค์ได้ให้เขามีสติปัญญาและมีความคิดในการเลือกเฟ้นตัดสินใจได้  ดังนั้นมิใช่การรู้ของพระองค์ที่ว่าเขาดำรงมั่นอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง  จะเป็นสาเหตุให้เขาได้รับความสำเร็จ  และมิใช่การรู้ของพระองค์ที่ว่าเขาไม่ได้ดำรงมั่นอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง  จะเป็นสาเหตุให้เขาเป็นผู้ล้มเหลว  แต่สาเหตุทั้งหมดนั้น  อยู่ในสิ่งที่บ่าวได้เลือกเฟ้นให้แก่ตัวเขาเอง  แล้วเขาก็ทุ่มเทกระทำตามแนวทางที่เขาได้เลือก

ส่วนประโยคคำพูดที่ว่า “และสิ่งที่ดีงามนั้นมาจากพระเจ้าและสิ่งที่ไม่ดีนั้นมาจากฮาวานัฟซูของข้าพเจ้าเอง”  คืออย่างนี้น่ะครับ  ตามหลักอะกีดะฮ์ของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์นั้น  การกระทำอันใดที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีล้วนแต่เป็นการสร้างหรือบันดาลขึ้นมาโดยอัลเลาะฮ์ตะอาลาทั้งสิ้น  แต่เจตนาหรือความตั้งใจที่เราจะกระทำนั้นพระองค์ทรงเปิดโอกาสให้เพื่อทรงทดสอบ  เช่น  เรากำลังพูดปราศัย   เรามีเจตนาหรือมีความตั้งใจที่จะพูดสิ่งใดออกไป  ส่วนการที่ลิ้นเรากระดิกและพูดเปล่งเสียงออกไปให้คนอื่นได้ยินนั้นอัลเลาะฮ์ทรงบันดาลให้เกิดขึ้น  และในทำนองเดียวกัน  เราตั้งใจหรือมีเจตนาที่พูดไม่ดี  ส่วนอัลเลาะฮ์เป็นผู้บันดาลให้ลิ้นเรากระดิกและพูดเปล่งเสียงออกมา

เมื่อพูดปราศัยจบ  ก็จะพูดลงท้ายว่า “สิ่งที่ดีงามนั้นมาจากพระเจ้าและสิ่งที่ไม่ดีนั้นมาจากฮาวานัฟซูของข้าพเจ้าเอง” นั้น  จึงเป็นการพูดในเชิงมารยาท  สิ่งที่ดีเราก็จะพูดพาดพิงไปยังอัลเลาะฮ์  ส่วนสิ่งที่ไม่ดีก็พาดพิงมายังตัวของเราเพื่อเป็นมารยาทเท่านั้นเอง  

อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงตรัส  เล่าคำพูดของนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม  ในอัลกุรอานความว่า

 الَّذِي خَلَقَنِي فَهُوَ يَهْدِينِ  وَالَّذِي هُوَ يُطْعِمُنِي وَيَسْقِينِ  وَإِذَا مَرِضْتُ فَهُوَ يَشْفِينِ

“พระองค์ทรงสร้างฉัน  แล้วพระองค์ทรงชี้แนะทางแก่ฉัน  และพระองค์ทรงประทานอาหารให้ฉันและทรงให้น้ำดื่มแก่ฉัน  และเมื่อฉันป่วย  ดั้งนั้นพระองค์ทรงให้ฉันหายป่วย” [อัชชุอะรออฺ: 78-80]

ท่านอิมามอัลกุรฏุบีย์อธิบายว่า

قَالَ : مَرِضْتُ رِعَايَةً لِلأَدَبِ وَإِلاَّ فَالْمَرَضُ وَالشِّفَاءُ مِنَ اللهِ عَزَّ وَجَلَّ جَمِيْعاً . وَنَظِيْرُهُ قَوْلُ فَتَى مُوْسَى : وَمَآ أَنْسَانِيهُ إِلاَّ الشَّيْطَانُ  

“นบีอิบรอฮีมกล่าวว่า “ฉันป่วย” [อัชชุอะรออฺ: 80]เพื่อรักษามารยาทต่ออัลเลาะฮ์  เพราะความเจ็บป่วยและการหายป่วยนั้นมาจากอัลเลาะฮ์ตะอาลาทั้งสิ้น  และเช่นเดียวกับคำพูดของนบีอิบรอฮีม  คือคำพูดของหนุ่มผู้รับใช้นบีมูซาที่ว่า “และไม่ทำให้ฉันลืมกล่าวถึงมันนอกจากชัยฏอน” [อัลกะฮ์ฟิ: 63]” (อัลกุรฏุบีย์, หนังสืออัลญาเมี๊ยะอฺ ลิอะห์กามิลกุรอาน, เล่ม 7 หน้า 110.)  

ดังนั้นผู้ที่ทำให้จำและทำให้ลืมคืออัลเลาะฮ์ตะอาลา  คำว่าสิ่งดีหรือไม่ดีนั้นอัลเลาะฮ์ทรงสร้างมันขึ้นมา  แต่เราเป็นบ่าวผู้ต่ำต้อย  ก็ต้องมีมารยาทต่อพระองค์  เราไม่สมควรที่จะพูดออกมาว่าความไม่ดีที่เกิดขึ้นเพราะอัลเลาะฮ์ทรงบันดาล  เช่น  พูดว่าพระองค์ทรงสร้างสุนัข  สุกร และสิ่งปฏิกูลทั้งหลาย  เพราะเรื่องแบบนี้ศาสนาให้เราเชื่อ(อีหม่าน)ไม่ใช่ให้เรามาพูดเพื่อรักษามารยาทต่อพระองค์นั่นเอง  

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ


أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged