ขอโทษด้วยน่ะครับ
อุลามะอฺวะฮาบีย์ผมแทบยังไม่รู้จักสักคน!
ผมก็ไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรจึงถูกเรียกว่า วะฮาบีย์ เพียงแค่ผมทำบางสิ่งบางอย่างที่ต่างจากบางคน
ทั้งๆที่ผม ก็ยัง งง กับฉายาที่ถูกแต่งให้..แล้วมองย้อนกลับไปมองพวกเขาที่ตั้ง ฉายา นี้ให้ผม!
มันจะต่างอะไรกับการที่ วะฮาบีย์ไปตัดสินพวกเขา ในเมื่อพวกเขาก็ยังคงตัดสินอะกีดะห์ของวะฮาบีย์!
ถ้าจะหาคนที่ถูกต้องจากปัญหานี้คงไม่มี..
ผมแทบไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ของวะฮาบีย์และไม่เคยรู้หลักการของพวกเขา..แต่ผมได้รับอะกีดะห์จากการศึกษาของผมเอง ไม่เคยไปสืบสานเจตนารมณ์ของใคร...ผมไม่เคยสังกัดตัวเองว่าอยู่ในมัซฮับใดเป็นที่แน่ชัด สำหรับผมแล้ว มีอัลฮะดิษกับอัลกุรอานก็เพียงพอ..ไม่น้อมรับสิ่งอื่นๆใหม่ๆจาก บรรพบุรุษทำ
ผมปฎิเสธการเข้าร่วมเมาลิด ไม่ร่วมงานบุญคนตาย ไมได้ลูบหน้าหลังละหมาด ไม่อ่านกูนูตในซุบฮฺ
สิ่งเหล่านี้มันมาจากการศึกษาไขว่คว้าของผม...และผมก็มั่นใจในหนทางของผม
แม้จะต้องถูกเรียกว่า วะฮาบีย์ก็ตาม!
การถูกเรียกว่าชื่อว่า "วะฮาบีย์" นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไรหรอกครับ และไมไ่ด้มีความหมายที่น่าเกลียดด้วย มิหนำซ้ำนี่ยังเป็นหนึ่งในนามชื่อ ของอัลลอฮฺอีก ต่างหากคือ الوهاب ดังนั้น การที่ใครปราาชญ์เรียกชื่อว่า "วะฮาบีย์" นั้น เป้นเรื่องของศัพท์ทางเทคนิค ที่ชาวอาหรับจะเรียกกัน ซึ่งบางคนเรียกตามชื่อเมือง ,บางคนเรียกตามชื่อพ่อ ,บางคนเรียกตามชื่อปู๋ เป็นต้น ซึ่งไม่ได้ให้ความหมายที่น่าเกลียดอะไรเลย....
ท่าน ชัยค์ หะซัน ฟัรฮาน อัลมาลิกีย์ กล่าวเกี่ยวกับการใช้ศัพท์คำว่า "วะฮาบียะฮ์" ว่า
ประการที่หนึ่ง คือต่อไปผู้อ่านจะพบระหว่างการค้นคว้าวิเคราะห์ว่า บางครั้งฉันจะใช้คำว่า "วะฮาบียะฮ์" ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องของการน่าตำหนิอย่างที่ฝ่ายคัดค้านได้เรียกขึ้นมา หรือว่าทำให้ "วะฮาบียะฮ์" เป็นมัซฮับใหม่ แต่ทว่ามันเป็นเรื่องการเรียกศัพท์ทางเทคนิคหรือฉายาที่บรรดามุสลิมิมีนส่วน มากทำการเรียกที่มีต่อ กระแส กระบวนการ แนวคิด การเรียกร้อง ที่มีประวัติศาสตร์ มีลักษณะพิเศษ มีตำรา และอุลามาอ์เฉพาะของพวกตน
ประการที่สอง พวกวะฮาบีย์บางส่วนได้พึงพอใจกับฉายานี้ และพวกเขานำฉายาดังกล่าวมาเรียกแทนตัวพวกเขาเอง ดังนั้น คำว่า "วะฮาบีย์" จึงไม่ใช่เป็นลักษณะของการตำหนิและการสรรเสริญ และไม่ใช่เป็นการตำหนิ จนกระทั่งหากยอมรับในหลักการวะฮาบีย์ จะกลายเป็นมัซฮับหนึ่งขึ้นมา เพราะฉะนั้น มัซฮับที่ยึดอยู่บนหลักฐานที่ถูกต้องนั้น นามชื่อของมัซฮับที่เกิดขึ้นใหม่จะไม่ทำให้มัซฮับเกิดความเสียหาย การเรียกของผู้คนก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากว่า เงื่อนไขของการมีมัซฮับนั้น ไม่จำเป็นต้องอยู่ในยุคแรกของศตวรรษที่สาม เฉกเช่นเดียวกันกับ กระแสความคิดหรือมัซฮับที่ทฤษฏีหรือแนวปฏิบัติอยู่บนบรรดาหลักฐานที่อ่อน ก็ย่อมไม่มีประโยชน์อันใดจากการตั้งชื่อมัซฮับซ่ะสวยงาม หากแม้ว่ามัซฮับดังกล่าวจะอยู่ยุคศตวรรษแรกก็ตาม เพราะการพิจารณานั้น ด้วยกับความรู้ที่ถูกต้อง อีม่านที่บริสุทธิ์ และการปฏิบัติที่ดีงาม ไม่ใช่ด้วยการตั้งชื่อหรือมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ
ฉันรู้สึกแปลกใจที่ มีบรรดาพวกมุก๊อลลิดต่างกล่าวกันว่า ถ้อยคำ "อัลวะฮาบียะฮ์" นั้น ผู้เป็นปฏิปักษ์จะนำมาใช้เรียก พวกเขามักนำมาพูดกับฉายานี้ ทั้งที่การ เรียกชื่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะมาถกเถียงกัน
มีอุลามาอ์ที่เรียกร้องแนวทางดังกล่าว อนุญาตให้ใช้คำว่า "วะฮาบียะฮ์" พวกเขาต่างนำมาใช้ในตำราต่าง ๆ ของพวกเขา โดยไม่หวั่นเกรงต่อการกล่าวหาว่า สร้างมัซฮับขึ้นมา ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังทำการประพันธ์ตำราต่าง ๆ เกี่ยวกับอะกีดะฮ์และการเรียกร้องของวะฮาบีย์ โดยมิได้มีความเสื่อมเสียแต่ประการใด
ส่วนหนึ่งจากบรรดาอุลามาอ์ที่ เรียกร้องแนวทางวะฮาบีย์ ยังนำคำว่า "วะฮาบีย์" มาให้เรียก เช่น ชัยค์ สุไลมาน บิน ซะห์มาน , ชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลล่าฏีฟ ( ดู หนังสือ อัดดุร๊อร อัซซะนียะฮ์ เล่ม 8 หน้า 433) และบรรดาอุลามาอ์ที่ปกป้องวะฮาบีย์ เช่นชัยค์ หามิด อัลกิฟฟีย์ , ชัยค์อับดุลเลาะฮ์ อัลกอซีมีย์ , ชัยค์ สุลัยมาน อัดะดะคีล , ชัยค์ อะห์มัด บิน หุจญร์ อบู ฏอมีย์ , ชัยค์มัสอูด อัลนัดวีย์ , ชัยค์ อิบรอฮีม บิน อุบัยด์ เจ้าของหนังสือ อัตตัซกิเราะฮ์ , และท่านอื่น ๆ ต่างก็ใช้คำว่า "อัล วะฮาบียะฮ์" แต่กระนั้น ท่านชัยค์ ฮามิด อัลกิ๊ฟฟีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) ยังคงพยายามที่จะสร้างความสงสัยต่อเจตนาของทุก ๆ คนที่ใช้คำนี้ และเขาได้ยื่นข้อเสนอจากการเรียกว่า "วะฮาบียะฮ์" ไปเป็น "อัด ดะอ์วะฮ์ อับมุฮัมมะดียะฮ์" เพื่อพาดพิงไปยังชื่อของท่าน ชัยค์ มุ ฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ แต่ไม่พาดพิงไปยังชื่อของบิดา คือ อับดุลวะ ฮาบ (วะฮาบีย์) ดังนั้น อุลามาอ์ยุคหลังอย่างท่านชัยค์ ซอและห์ อัลเฟาซาน ได้ตักลีดตามท่านชัยค์ ฮามิดอัลกิ๊ฟฟีย์ ในการตำหนิต่อท่านชัยค์ อบู ซะฮ์เราะฮ์ และคนอื่น ๆ (ก็เพราะพวกเขาใช้คำว่าวะฮาบีย์)
การ เรียกร้องของ อัลกิ๊ฟฟีย์และอัลเฟาซานให้เรียกวะฮาบีย์ว่า "อัดดะวะฮ์ อัลมุฮัมมะดียะฮ์" ไม่ใช่ "อัดดะวะฮ์ อัลวะฮาบียะฮ" นั้น เนื่องจาก ท่านชัยค์ มีชื่อว่า "มุฮัมมัด" ซึ่งดังกล่าวนี้ถึงเป็นการนำเสนอที่น่าแปลก อันเนื่องจากมีเหตุผลเล็กน้อยดังนี้ คือ ส่วนมากจากบรรดามัซฮับที่โด่งดังนั้น จะไม่ตั้งชื่อ ด้วยกับนามชื่อเจ้าของแนวทาง แต่จะตั้งชื่อด้วยนามของบิดาหรือปู่ ดังนั้น มัซฮับ ฮัมบาลีย์ حنبلى เป็นต้น จะใช้พาดพิงไปยังคำว่า حنبل (ฮัมบัล) ซึ่งเป็นปู่ของท่านอิมามอะห์มัด (เนื่อจากท่านอิมามอะห์มัดมีชื่อว่า อะห์มัด บุตร มุฮัมมัด บุตร หัมบัล) แต่ท่านชัยค์อัลเฟาซานหรือชัยค์อัลกิ๊ฟฟีย์ และผู้ที่เจริญรอยตามทั้งสอง ต่างไม่คัดค้านการเรียกชื่อนี้(คือฮัมบาลีย์) และพวกเขาก็ไม่เรียกมัซฮับฮัมบาลีย์ว่า "มัซฮับอะห์มะดีย์" (ที่มาจากชื่อของอิมาม อะห์มัด เอง)
เฉกเช่นเดียวกันกับมัซ ฮับชาฟิอีย์ ซึ่งพาดพิงไปยังท่าน ชาฟิอ์ ซึ่งเป็นปู่ลำดับที่ 4 ของท่านอิมามชาฟิอีย์ ทั้งที่อิมามชาฟิอีย์มีชื่อว่า "มุฮัมมัด บุตร อิดรีส บุตร อัลอับบาส บุตร อุษมาน บุตร ชาฟิอ์" แต่เหตุใดพวกเขาถึงไม่เรียกมัซฮับชาฟิอีย์ว่า "มัซฮับมุฮัมมะดีย์" (เพราะอิมามชาฟิอีย์ชื่อว่า มุฮัมมัด)
ยิ่งกว่านั้น ท่านชัยค์ซอลิห์ อัลเฟาซาน ยังเรียกผู้ที่ตาม มุฮัมมัด บิน สุรูร บิน นายิฟ ซัยนุลอาบิดีน ด้วยถ้อยคำว่า "อัซซุรูรียะฮ์" ทำไมถึงไม่เรียกว่า "อัล มุฮัมมะดียะฮ์" เช่นเดียวกัน ! ทั้งที่เขาชื่อ "มุฮัมมัด บิน สุรูร" และในปัจจุบันเราเองก็ได้ยินในกลุ่มสะละฟียะฮ์ ได้มีหลายฉายาที่พวกเขาใช้เรียกซึ่งกันและกัน เช่น อัลญามียีน , อัลมัดค่อลียีน , อัลบาซียีน (ผู้ที่ตามบินบาซฺ) , และอัลบานียีน(ผู้ตามอัลบานีย์) เป็นต้น ( สรุปจาก หน้าที่ 12 และหน้าที่ 144 - 146)
ดังนั้น การเรียกว่า "วะฮาบีย์" จึงมิใช่เป็นการตำหนิ เพราะอุลามาอ์วะฮาบีย์เองที่พอใจและเห็นชอบในการเรียกชื่อเช่นนี้ แต่บางคนปัจจุบันชอบยึดติดที่ชื่อ ยึดติดยี่ห้อ ขอให้เรียกชื่อกลุ่มตนเองให้ดีไว้ก่อน ถือว่าเป็นการเข้าใจที่ผิด เพราะสัจธรรมจะไม่พิจารณาที่ชื่อของแนวทางหรอกครับ แต่ทว่าจะเน้นพิจารณาที่เนื้อหา หลักอะกีดะฮ์ และหลักปฏิบัติครับ