ผู้เขียน หัวข้อ: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม  (อ่าน 18535 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

whb

  • บุคคลทั่วไป
การถึงแก่กรรม และความเห็นของนักวิชาการ

ต่อเชค มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ

การถึงแก่กรรม 

         สัจธรรมของสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลาย คือ เกิดและตาย เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ ก็เช่นเดียวกัน ท่านได้ถึงแก่กรรมในเมืองที่ท่านมีความรักมากที่สุด คือเมืองอัดดิรอียะฮ์ ในปี ฮ.ศ.1206 และถูกฝังในเมืองนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งท่านมีอายุได้ 91 ปี โดยที่ท่านได้ทิ้งทายาทไว้ 4 คน คือ หุเซน, อับดุลลอฮ์, อาลี และ อิบรอฮีม พวกเขาได้ทำหน้าที่สืบทอดการเผยแพร่ตามหลักคำสอนของอิสลามที่ถูกต้องต่อไป

          ก่อนที่ท่านจะถึงแก่กรรม ท่านได้เห็นการเผยแพร่ตามหลักการที่ถูกต้องได้สัมฤทธิ์ผล โดยที่ได้แพร่กระจายออกไปทั่วคาบสมุทรอาหรับ และขยายออกไปยังประเทศอิสลามต่างๆ

ผลงานทางด้านการเขียน

           เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ ได้เขียนหนังสือไว้มากมาย หุเซน อิบนุ ฆอนนาม ได้รวบรวมไว้ในหนังสือของเขาที่มีชื่อว่า "ตารีคนัจด์" (ประวัติของแคว้นนัจด์) โดยประมวลถึงวิชาการศาสนาสาขาต่างๆ ทางด้านอะกีดะฮ์ ฟิกฮ์ อุซูลุลฟิกฮ์ ตัฟซีร ชีวประวัติ ฯลฯ ตำราสำคัญที่ เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ เรียบเรียงนั้นคือ

1. หนังสือ "อัตเตาฮีด" ซึ่งเกี่ยวกับสิทธิของอัลลอฮ์ที่มีเหนือบรรดาบ่าว ถือว่าเป็นหนังสือเล่มแรกของท่าน

2. หนังสือ"กัชฟุซชุบฮาต" (เปิดเผยสิ่งคลุมเครือ) เป็นหนังสือตอบโต้ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่มียังท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการชะฟาอะฮ์

3. หนังสือเกี่ยวกับการอธิบายอัลกุรอาน โดยที่ท่านมีความละเอียดและพิถีพิถันในการอธิบายอัลกุรอานในทุกอายะฮ์ และยกประเด็นต่างๆ มากกว่า 100 ประเด็น จนถึงเรื่องราวของนะบีมูซา กับนะบีค่อฏีร ในซูเราะฮ์ อัลกะฮ์ฟี

4. หนังสืออัลกะกาเอ็ร (บาปใหญ่)

5. หนังสือ อัลอุซูลุซซาลาซะฮ์ (หลักมูลฐาน 3 ประการ)

6. สรุปชีวประวัติของ นะบีมุฮัมมัด

7. มารยาทของการเดินไปละหมาด ฯลฯ

ความเห็นของนักวิชาการและนักเขียน เกี่ยวกับการเผยแพร่ของ  เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ

     1. อะหมัด อามีน ได้เขียนไว้ในหนังสือของท่านชื่อ "ผู้นำการปฏิรูป" ว่า เป็นที่ชัดเจนว่า มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ รู้จัก อิบนุ ตัยมียะฮ์ โดยทางการศึกษาแนวอัสละฟียะฮ์ แล้วรู้สึกชอบ จึงได้ศึกษาตำราต่างๆที่ อิบนุ ตัยมียะฮ์ ได้เขียนไว้ ที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศอังกฤษ มีตำราบางเล่มของ อิบนุ ตัยมียะฮ์ คัดลอกโดย มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ

          มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ ได้เรียกร้องเช่นเดียวกับ อิบนุ ตัยมียะฮ์ คือให้ละทิ้งสิ่งที่เป็นอุตริกรรม และสิ่งไร้สาระ พร้อมกับหันมาปฏิบัติอิบาดะฮ์ และขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์  องค์เดียว ไม่ใช่วิงวินขอพรจากผู้ที่เป็นวะลีย์ หรือ กุบูร และไม่ต้องมีสื่อกลางขอต่ออัลลอฮ์ หรือในการขออภัยโทษจากพระองค์

     2. ดร.ฏอฮา หุเซ็น  ได้เขียนบทวิจัยในปี ฮ.ศ.1345 เกี่ยวกับวรรณกรรมในคาบสมุทรอาหรับ ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ ว่า

          ขบวนการของเชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ มีทั้งเก่าและใหม่ร่วมกัน ที่ว่าใหม่นั้นคือ เป็นขบวนการที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน และที่ว่าเก่านั้น เนื่องจากว่าเป็นขบวนการที่เรียกร้องไปสู่อิสลามที่บริสุทธิ์ ปราศจากร่องรอยแห่งการตั้งภาคี และการเคารพบูชาเจว็ด เป็นการเชิญชวนไปสู่อิสลามตามที่นะบีมุฮัมมัด นำมา โดยมีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์ องค์เดียว ยกเลิกผู้เป็นสื่อกลางระหว่างอัลลอฮ์ กับมนุษย์ เป็นการฟื้นฟูอิสลามที่แท้จริง ซึ่งบริสุทธิ์จากความอวิชา และการปลอมปนกับแนวทางนอกเหนืออิสลาม

     3. เชคมุฮัมมัด อบูซะฮ์เราะฮ์ ได้เขียนไว้ในหนังสือชื่อ "แนวความคิดของอิสลาม" ว่า

          แนววะฮาบียะฮ์ เกิดขึ้นในทะเลทรายอาหรับ เป็นผลเนื่องมาจากความลุ่มหลงในการเทิดทูนบุคคล การขอบารอกัตจากพวกเขาและขอให้เขาเป็นสื่อกลางในการใกล้ชิดกับอัลลอฮ์ ด้วยการไปเยี่ยมกุบูรของพวกเขา และเนื่องจากอุตริกรรมได้แพร่หลายอยู่ในสังคม เป็นไปในรูปของพิธีกรรมทางศาสนา และการงานในโลกดุนยา ขบวนการวะฮาบียะฮ์ เกิดมาเพื่อต่อต้านการกระทำที่ไม่ถูกต้องดังกล่าว และฟื้นฟูแนวความคิดของ อิบนุ ตัยมียะฮ์ ซึ่งนำเสนอจากรูปทฤษฏีไปสู่การปฏิบัติ

     4. นักเขียนชาวตะวันตก ชื่อ โลทรอบ สติวเวอรท ได้กล่าวไว้ในหนังสือของเขาชื่อ "โลกอิสลามปัจจุบัน" ว่า

          ในศตวรรษที่ 18 โลกอิสลามตกอยู่ในความตกต่ำอย่างมาก ในศาสนามีจุดดำมืด เนื่องจากเอกภาพที่นะบีมุฮัมมัด ผู้สื่อศาสนาอิสลามได้สั่งสอนกับมนุษย์ไม่ให้เชื่อมั่นในสิ่งไร้สาระ และเปลือกของการขัดเกลาจิตใจ ในขณะที่โลกอิสลามกำลังตกอยู่ในความเสื่อมโทรม ก็มีเสียงเรียกร้องจากใจกลางทะเลทรายคาบสมุทรอาระเบีย ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของศาสนาอิสลาม ได้ปลุกบรรดาศรัทธาชนให้ตื่นขึ้น และเรียกร้องให้พวกเขาทำการปฏิรูปและกลับไปสู่หนทางที่เที่ยงตรง ผู้เป็นเจ้าของเสียงนี้คือ นักปฏิรูปผู้มีชื่อเสียง เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ ท่านได้เรียกร้องให้บรรดามุสลิมปรับปรุงจิตใจ และกอบกู้ความรุ่งโรจน์ของอิสลามกลับคืนมา

     5. นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส มังตัน ได้บันทึกไว้ในหนังสือชื่อ "ประวัติศาสตร์อียิปต์" บทเฉพาะเกี่ยวกับประวัติของเชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ และขบวนการวะฮาบียะฮ์ว่า

         คำสอนนักปฏิรูป เป็นการเสริมสร้างหลักจริยธรรมที่ถูกต้อง เรียกร้องประชาชนให้ปฏิบัติอิบาดะฮ์ ต่ออัลลอฮ์ องค์เดียว พร้อมกับมุ่งสู่พระองค์ด้วยการวิงวอนขอพร(ดุอา) ละหมาด 5 ครั้งในหนึ่งวัน ถือศีลอดในเดือนรอมาฏอน เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ เมืองมักกะฮ์ และจ่ายซากาต ท่านห้ามมิให้กระทำความชั่ว และกระทำบาปใหญ่ พร้อมกับห้ามสร้างโดมหรือหลังคาคลุมหลุมศพ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นหนทางนำไปสู่การทำชิริก

          สิ่งที่เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ เรียกร้องมีรากฐานมาจากศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง แต่หากว่าบรรดามุสลิมได้ลืม หรือแกล้งลืม และละเลยคำสอนของศาสนา ท่านเชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ จึงได้ลุกขึ้นมาเตือนสติของพวกเขาให้กลับมาสู่แนวทางอิสลามที่บริสุทธิ์

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
วะฮาบีนาม Hafiz-dm เขาไม่ต้องการเสวนา  แต่ต้องการจะมาโพสต์บทความของชาวะฮาบีย์ลงในเว็บอะฮ์ลิสซุนนะฮ์   เพราะเว็บนี้  กำหนดให้วะฮาบีทำการเสวนาเท่านั้น  รู้ไว้ด้วยน่ะครับ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

whb

  • บุคคลทั่วไป
คุณก็เชื่อในแนวทางของคุณว่า เปนอะห์ลุลซุนนะห์

และผมก็เชื่อว่าทางของผมเป็นอะหลุลซุนนะห์

แต่ไม่ใช่พวกคุณหรอกหรือ ที่ นิยามคำฉายาแก่พวกเรา ว่า วะฮาบีย์ 

ทั้งๆที่ชื่อนั้น มันเปน พระนามของอัลลอฮ!


ในเมื่อบอร์ดมันบอกว่า SUNNAH  และผมก็คือ สุนนะห์วัลญามาอะห์..!

อีกอย่าง คุณเอาอะไรมาตัดสิน ว่า คุณคือ สุนนะห์วัลญามาอะห์ที่แท้จริง
และคุณคือทางเดียวทางนั้น....? 
แล้วกล่าวหาว่า ทางของผมเป็นทางที่ไม่ต่างจากชนชาติที่ถูกลงโทษ พวกยิว



ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
อีกอย่าง คุณเอาอะไรมาตัดสิน ว่า คุณคือ สุนนะห์วัลญามาอะห์ที่แท้จริง
และคุณคือทางเดียวทางนั้น....? 
แล้วกล่าวหาว่า ทางของผมเป็นทางที่ไม่ต่างจากชนชาติที่ถูกลงโทษ พวกยิว

คุณคือวะฮาบีที่โกหก!  เพราะพวกเราไม่เคยบอกว่า  "แนวทางเราเท่านั้นคืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์"

الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

whb

  • บุคคลทั่วไป
โอเค คุณอาจไม่ได้พูดอย่างนั้น..?

แล้วที่คุณ ในทำนองที่

แยกแยะว่าตัวเองเปนอะหฺลุลซุนนะห์ส่วนผมน่ะไม่..!

คุณเอาอะไรล่ะมาตัดสินว่า วะฮาบีย์ที่คุณขนานนามให้   ไม่ใช่ อะหฺลุลซุนนะห์?

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
ก็การที่คุณมาเรียกร้องอยากเป็นอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ตามทัศนะของผมด้วยไงล่ะครับ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

whb

  • บุคคลทั่วไป
ผมไม่เคยเรียกร้อง ในสิ่งที่ผมมีอยู่แล้ว..
อะห์ลุลซุนนะหฺไม่จำเป็นต้องเรียกร้อง 
อะหลุลซุนนะห์วัลญามาอะห์ เป็นสิ่งที่ตายตัว ปราศจากการอุตริกรรมในศาสนาที่ไม่เคยมีในสมัยท่านนบี

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด

อะหลุลซุนนะห์วัลญามาอะห์ เป็นสิ่งที่ตายตัว ปราศจากการอุตริกรรมในศาสนาที่ไม่เคยมีในสมัยท่านนบี


อะไรบ้างหรอ ที่เรียกว่า  อุตริกรรมในศาสนา
แล้วเราตีความคำว่า  อุตริกรรมทางศาสนาแบบไหนหรอ  ลุ่มหลงด้วยมั้ย?

whb

  • บุคคลทั่วไป
รายงานจากญาบิร  กล่าวว่า :

ท่านรอซูล นั้น เมื่อท่านกล่าวคำปราศรัย ดวงตาทั้งสองข้างจะแดงก่ำ เสียงดัง และมีท่าทางคล้ายโกรธจัด ดูคล้ายกับว่าท่านกำลังเตือนภัยแก่กองทหาร (ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแล้ว) ท่านกล่าวว่า :

พวกท่านทั้งหลายพึงระวังทั้งเช้าและเย็น

และกล่าวต่อไปว่า :

ในขณะที่ฉันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ประกาศศาสนั้น ปรากฏว่า วันกิยามะห์ใกล้เข้ามาเหมือนกับความใกล้กันระหว่างนิ้วสองนิ้วนี้ และท่านก็เอานิ้วชี้กับนิ้วกลางชิดกัน

และกล่าวต่อไปว่า :

คำพูดที่ดีที่สุดก็คือคัมภีร์ของอัลเลาะห์ แนวทางที่ดีที่สุดก็คือแนวทางของมุฮัมหมัด  กิจการต่างๆที่เลวที่สุดก็คือกิจการที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ทุกๆสิ่งที่อุตรินั้นเป็นสิ่งที่หลงทาง
ท่านกล่าวต่อไปว่า :

ฉันรักษาไว้ซึ่งสิทธิ์ของผู้ศรัทธาทั้งหลายยิ่งกว่าตัวเอง ผู้ใดทิ้งทรัพย์สินไว้ มันก็ตกเป็นของครอบครัวของเขา ผู้ใดทิ้งหนี้สินหรือลูกหลานไว้  ฉันจำเป็นต้องรับผิดชอบ  

( บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 867 )



    สิ่งที่อุตริคือสิ่งที่ไม่มีมาในแบบฉบับของท่านรอซูล แต่ผู้ปฏิบัติพยายามจะแอบอ้างพาดพิงสิ่งนั้นว่าเป็นคำสอนที่มาจากศาสนา ด้วยการอ้างหลักฐานเท็จ หรือหลักฐานที่คลุมเครือ เป็นต้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 09, 2010, 08:35 PM โดย Hafiz-dm »

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด

อุตริกรรมในเรื่องของอะกีดะฮ์ เป็นเรื่องอันตรายเป็นอันดับแรก  พวกค่อวาริจญ์และพวกมั๊วะตะซิละฮ์เป็นพวกที่เคร่งในการปฏิบัติศาสนามากๆ แต่พวกเขามีอะกีดะฮ์ที่บิดอะฮ์อุตริกรรม  เลยถูกจัดอยู่ในกลุ่มบิดอะฮ์
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

whb

  • บุคคลทั่วไป
อะกีดะห์อะไรบ้าง ที่คุณพูดถึง?

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
เรื่องภาคปฏิบัติวะฮาบีไม่ทำนั่น เพราะอุตริกรรม ไม่ทำนี่เพราะอุตริกรรม ไม่ทำโน้นเพราะอุตริกรรม  ฟังแล้วทำท่าจะดูดี  แต่พอพูดถึงอะกีดะฮ์  วะฮาบีหมดท่า หมดความน่าเชื่อถือ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

whb

  • บุคคลทั่วไป
ก็บอกมาดิ่ ว่า อะกีดะห์อะไร?

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
อะกีดะฮ์ที่วะฮาบีเชื่อว่า ในมหาชนมุสลิมยุคสมัยมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ญาฮีลียะฮ์หมด จากพวกตนเอง
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

whb

  • บุคคลทั่วไป
อย่างนั้นหรอ

ในยุคของท่าน มุสลิมงมงายและมีการทำบิดอะห์กันมากมาย ไปขอพรจากกูบุรบ้างอะไรบ้าง

แล้วท่านก็มาฟื้นฟูให้กลับสู่อะกีดะห์ที่ถูกต้องไง?     

 

GoogleTagged