ผู้เขียน หัวข้อ: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม  (อ่าน 18683 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด

เหมือนกับคล้าย  มันคนละอย่าง  ดังนั้นมีบางอะกีดะฮ์ที่เหมือนและมีบางอะกีดะฮ์ที่คล้าย  หากอยากรู้ว่าเพราะอะไร  ก็ลองศึกษาดูในเว็บนี้

พี่น้องท่านอื่นๆ ลองลิงค์มาให้เขาหน่อยครับ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
ยิวนั้นมีความเชื่อว่าพระองค์อัลลอห์ทรงประทับหรือนั่งอยู่บนเก้าอี้บัลลังก์

และในคัมภีร์ سِفْرَ الملوكِ الإصحاحِ  ส่วนที่ 20 โองการที่ 19-20  ของพวกยิวได้ระบุว่า

وقالَ فاسمع إذًا كلامَ الربِّ قد رأيت الربَّ جالسًا على كرسيهِ وكلُّ جندِ السماءِ وقوفٌ لديهِ عن يمينِهِ وعن يسارِهِ

“ โมเสสกล่าวว่า  ฉันได้ยินคำพูดของพระผู้อภิบาลอย่างแท้จริง  ฉันเห็นพระผู้อภิบาลนั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์  และไพร่พลแห่งฟากฟ้าทั้งหมดนั้นยืนอยู่เบื้องหน้าพระองค์ทั้งทางขวาและซ้าย”



whb

  • บุคคลทั่วไป
การเชื่อว่า อัลลอฮทรงประทับบนบัลลังค์ เป็นอะกิดะฮที่หลงผิดจริงหรือ
เนื่องจากมีคนรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่ง ที่อ้างตนว่าอยู่ในแนว อะชาอีเราะฮ ได้กล่าวหา ผู้ที่เชื่อว่า อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงสถิตหรือ ประทับบนบัลลังค์ ว่าเป็นพวกมุญัสสิมะฮ (พวกที่เชื่อว่าอัลลอฮทรงมีรูปร่าง ) และกล่าวหาว่า เป็นอะกีดะฮที่เป็นบิดอะฮลุ่มหลง นักวิชาการ(อุลามาอิ)คนสำคัญที่พวกเขากล่าวหาและโจมตี เช่น อิบนุตัยมียะอ ,มุหัมหมัด บิน อับดุลวะฮฮับ และคนอื่นๆ ที่เป็นนักวิชาการ(อุลามาอฺ)ที่มีทัศนะไม่ตรงกับกลุ่มอะชาอีเราะฮ และเชื่อตามตัวบทที่ปรากฏในอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ โดยไม่ตีความ(ตะอฺวี้ล)เตามทัศนะของคนกลุ่มนี้ มาดูตัวบทอัลกุรอ่านที่ระบุว่า “อัลลอฮทรงสถิตบนบัลลังค์” ได้แก่


هُوَ الَّذِي خَلَقَ لَكُم مَّا فِي الأَرْضِ جَمِيعاً ثُمَّ اسْتَوَى إِلَى السَّمَاء فَسَوَّاهُنَّ سَبْعَ سَمَاوَاتٍ وَهُوَ بِكُلِّ شَيْءٍ عَلِيمٌ

[2.29] พระองค์ คือผู้ทรงสร้าง ทุกสิ่งที่อยู่บนโลกเพื่อสูเจ้า แล้วพระองค์ ได้ทรงหันไปยังท้องฟ้า และทรงจัดลำดับมันเป็นเจ็ดชั้นฟ้า และพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ทุกสรรพสิ่ง

إِنَّ رَبَّكُمُ اللّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ يُغْشِي اللَّيْلَ النَّهَارَ يَطْلُبُهُ حَثِيثاً وَالشَّمْسَ وَالْقَمَرَ وَالنُّجُومَ مُسَخَّرَاتٍ بِأَمْرِهِ أَلاَ لَهُ الْخَلْقُ وَالأَمْرُ تَبَارَكَ اللّهُ رَبُّ الْعَالَمِينَ

[7.54] แท้จริงพระเจ้าของพวกเจ้านั้น คือ อัลลออฮืผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินภายในหกวัน แล้วประทับอยู่บนลังลังก์พระองค์ทรงให้กลางคืนครองคลุมกลางวันในสภาพที่กลางคืนไล่ตามกลางวันโดยรวดเร็ว และทรงสร้างดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ และบรรดาดวงดาวขึ้นโดยถูกกำหนดให้กำหนดทำหน้าที่บริการ ตามพระบัญชาของพระองค์ พึงรู้เถิดว่า การสร้างและกิจการทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของพระองค์เท่านั้น มหาบริสุทธิ์อัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก

إِنَّ رَبَّكُمُ اللّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ يُدَبِّرُ الأَمْرَ مَا مِن شَفِيعٍ إِلاَّ مِن بَعْدِ إِذْنِهِ ذَلِكُمُ اللّهُ رَبُّكُمْ فَاعْبُدُوهُ أَفَلاَ تَذَكَّرُونَ

[10.3] แท้จริงพระเจ้าของพวกท่านคือ อัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินในเวลา 6 วัน แล้วพระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ ทรงบริหารกิจการ ไม่มีผู้ให้ความช่วยเหลือคนใด เว้นแต่ต้องได้รับอนุมัติจากพระองค์ นั่นคืออัลลอฮ์ พระเจ้าของพวกท่าน พวกท่านจงเคารพภักดีต่อพระองค์เถิด พวกท่านมิได้ใคร่ครวญกันดอกหรือ ?



اللّهُ الَّذِي رَفَعَ السَّمَاوَاتِ بِغَيْرِ عَمَدٍ تَرَوْنَهَا ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ وَسَخَّرَ الشَّمْسَ وَالْقَمَرَ كُلٌّ يَجْرِي لأَجَلٍ مُّسَمًّى يُدَبِّرُ الأَمْرَ يُفَصِّلُ الآيَاتِ لَعَلَّكُم بِلِقَاء رَبِّكُمْ تُوقِنُونَ

[13.2] อัลลอฮ์คือผู้ทรงยกชั้นฟ้าทั้งหลายไว้โดยปราศจากเสาค้ำจุน ซึ่งพวกเจ้ามองเห็นมัน แล้วทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์และทรงให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์ (แก่มนุษย์) ทุกสิ่งโคจรไปตามวาระที่ได้กำหนดไว้ ทรงบริหารกิจการทรงจำแนกโองการทั้งหลายให้ชัดแจ้ง เพื่อพวกเจ้าจะได้เชื่อมั่นในการพบพระเจ้าของพวกเจ้า


الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى

[20.5] ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์

الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَمَا بَيْنَهُمَا فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ الرَّحْمَنُ فَاسْأَلْ بِهِ خَبِيراً

[25.59] พระผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและสิ่งที่มีอยู่ในระหว่างทั้งสองนั้น ในระยะ 6 วัน แล้วพระองค์ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ พระผู้ทรงกรุณาปรานี ดังนั้นจงถามผู้รู้เกี่ยวกับพระองค์

وَلَمَّا بَلَغَ أَشُدَّهُ وَاسْتَوَى آتَيْنَاهُ حُكْماً وَعِلْماً وَكَذَلِكَ نَجْزِي الْمُحْسِنِينَ

[28.14] และเมื่อเขาบรรลุความเป็นหนุ่มและเติบโตเต็มที่แล้วเราได้ให้ความเข้าใจและความรู้แก่เขา และเช่นนั้นแหละ เราจะตอบแทนแก่บรรดาผู้กระทำความดี

اللَّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَمَا بَيْنَهُمَا فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ مَا لَكُم مِّن دُونِهِ مِن وَلِيٍّ وَلَا شَفِيعٍ أَفَلَا تَتَذَكَّرُونَ

[32.4] อัลลอฮ์คือผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองในเวลา 6 วัน แล้วพระองค์ทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์ สำหรับพวกเจ้านั้นไม่มีผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลืออื่นจากพระองค์ แล้วพวกเจ้ามิได้ใคร่ครวญบ้างดอกหรือ ?

ثُمَّ اسْتَوَى إِلَى السَّمَاء وَهِيَ دُخَانٌ فَقَالَ لَهَا وَلِلْأَرْضِ اِئْتِيَا طَوْعاً أَوْ كَرْهاً قَالَتَا أَتَيْنَا طَائِعِينَ

[41.11] แล้วพระองค์ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้าขณะที่มันเป็นไอหมอก พระองค์จึงตรัสแก่ชั้นฟ้าและแผ่นดินว่า เจ้าทั้งสองจงมาจะโดยเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม มันทั้งสองกล่าวว่า ข้าพระองค์มาอย่างเต็มใจแล้ว
ความหมายของคำว่า “استوى “ (อิสตะวา)

قال إسحاق بن راهويه حدّثنا بشر بن عمر سمعت غير واحد من المفسّرين يقولون الرَّحْمَنُ عَلَى العَرْشِ اسْتَوَى 
أي ارتفع

อิสหาก บุตร รอฮะวียะฮ กล่าวว่า “บะชัร บุตร อุมัร ได้เล่าพวกเราว่า ข้าพเจ้าได้นักอรรถาธิบายอัลกุรอ่านหลายคน พวกเขา กล่าวว่า “
[20.5] ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์” หมายถึง ขึ้น (หมายถึง อยู่บนอะรัช)
รายงานโดย อัซซะฮะบีย์ ในหนังสือ อัลละลูวิ และ อัลบานีย์ กล่าวไว้ในมุคตะศอ็ร อัลอะลูวี หน้า 160 ว่า หะดิษนี้สายรายงานเศาะเฮียะ ต่อเนื่องกันมาตามลำดับ ด้วยผู้ที่มีความจำเที่เชื่อถือได้


อิหม่ามบุคอรี ได้กล่าวไว้ในเศาะเฮียะของท่านว่า

قال أبو العالية: (( استوى إلى السماء: ارتفع))، وقال مجاهد (( استوى علا على العرش

อบูอาลียะฮ กล่าวว่า คำว่า “อิสตะวา อิลัสสมาอฺ” หมายถึง ขึ้น (ไปยังฟากฟ้า) และ มุญาฮิด กล่าวว่า " อิสตะวา" คือ ขึ้น บน อะรัช

صحيح البخاري (13/403 ـ الفتح).


อิหม่ามอัลบัฆวิย์กล่าวว่า

( وقال ابن عباس وأكثر مفسري السلف: استوى إلى السماء: ارتفع إلى السماء، وكذلك قال الخليل بن أحمد

อิบนุอับบาส และนักอรรถาธิบายยุคสลัฟส่วนมาก กล่าวว่า คำว่า استوى إلى السماء หมายถึง ขึ้นไปยังฟากฟ้า และ อัลเคาะลี้ล บุตร อะหมัด ก็กล่าวอย่างนั้น - ตัฟสีร อัลบัฆวีย์ เล่ม 1 หน้า 59

อัลบัยฮะกีย์ ได้กล่าวว่า

قال الفرّاء (( ثم استوى، أي صعد، قاله ابن عباس، وهو كقولك للرجل كان قاعداً فاستوى قائماً

อัลฟุรรอฺ กล่าวว่า “ คำว่า ثم استوى หมายถึง ขึ้น อิบนุอับบาส ได้กล่าวมัน และมัน เหมือนกับท่านกล่าวแก่คน ที่นั่งอยู่ว่า “แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืน”

- อัลอัสมาอฺวัสสิฟาต เล่ม 2 หน้า 310

 

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
พี่น้องครับ ตัวบทอัลกุรอานที่วะฮาบียกมานั้น เราเชื่อ  แต่เราไม่ยอมรับการให้ความหมายของวะฮาบีที่มีต่ออายะฮ์อัลกุรอานเหล่านั้นครับ

แต่แค่วะฮาบี ให้ความหมายว่า ประทับสถิต  อะกีดะฮ์วะฮาบีก็หมดความน่าเชื่อถือแล้ว

ทว่ายังไม่พอ  เดี๋ยววะฮาบีบอกว่า อัลลอฮ์ประทับนั่งบนบัลลังก์บ้าง สถิตบนบัลลังก์บ้าง  ขึ้นบนบัลลังก์บ้าง  อืมๆ...วะฮาบีมันให้ความหมายเยอะจัง  นี่แหละอะกีดะฮ์ไม่ชอบมาพากลของวะฮาบี

ส่วนวะฮาีบีที่ยกภาษาอาหรับมา แล้วแปลนั้น  บิดเบือนเพียบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 09, 2010, 10:57 PM โดย As-Zaleek »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio

ไปก๊อปชาวบ้านเขามาก็ใส่ที่มาด้วยสิ

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด

ไปก๊อปชาวบ้านเขามาก็ใส่ที่มาด้วยสิ

นั่นซิครับ ไปก็อบมาจากเว็บวะฮาบี  เดิมทีกระทู้แรกๆ ของคุณ Hafiz-dm นั้น  เข้ามาจ๋าเลยครับ  มาบอกว่าเขื่ออิสติวาอฺ โดยไม่แปลความหมายเป็นไทยเพราะอ้างเรื่องวัฒธรรมอะไรของเขาก็ไม่รู้  แต่เวลาก็อบจากเว็บวะฮาบีมา  โอ้โห้...วะฮาบีให้ความหมายกันเมามัน  เดี๋ยว อัลลอฮ์ประทับนั่งบนบัลลังก์  เดียวก็บอกว่า อัลลอฮ์สถิตบนบัลลังก์  เดี๋ยวมาบอกอีกว่า อัลลอฮ์ทรงขึ้นสูงบนบัลลังก์

จริงๆ แล้วคุณ Hafiz-dm หมดสภาพ  เอาอะไรมายึดเป็นบรรทัดฐานไม่ได้เลย
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

whb

  • บุคคลทั่วไป

พระองค์สถิตอย่างไร ขึ้นอย่างไร   เราเพียงเข้าใจในอายะห์นั้นๆแต่ไม่อาจบอกได้ว่าพระองคฺสถิตในลักษณะใด

whb

  • บุคคลทั่วไป
แล้วพวกคุณแปลอย่างไร?

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด

พระองค์สถิตอย่างไร ขึ้นอย่างไร   เราเพียงเข้าใจในอายะห์นั้นๆแต่ไม่อาจบอกได้ว่าพระองคฺสถิตในลักษณะใด


แล้วพวกคุณแปลอย่างไร?

ฮาโหลย เรื่องเดิมๆอีกแล้ว mycry

อัลเลาะฮ์ทรง"อิสติวาอฺ"เหนือบัลลังก์(วิเคราะห์ทัศนะอะกีดะฮ์เชิงเปรียบเทียบ)

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด

พระองค์สถิตอย่างไร ขึ้นอย่างไร   เราเพียงเข้าใจในอายะห์นั้นๆแต่ไม่อาจบอกได้ว่าพระองคฺสถิตในลักษณะใด

จะเอาอะไรกันแน่  สถิต หรือ ว่าประทับนั่ง หรือขึ้นสูงบนบัลลังก์  จะเอาอะไรกันแน่?! วะฮาบีอย่ามามักง่ายเล่นคำในเรื่องซีฟัตของอัลลอฮ์!
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
อัลบัยฮะกีย์ ได้กล่าวว่า

قال الفرّاء (( ثم استوى، أي صعد، قاله ابن عباس، وهو كقولك للرجل كان قاعداً فاستوى قائماً

อัลฟุรรอฺ กล่าวว่า “ คำว่า ثم استوى หมายถึง ขึ้น อิบนุอับบาส ได้กล่าวมัน และมัน เหมือนกับท่านกล่าวแก่คน ที่นั่งอยู่ว่า “แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืน”

- อัลอัสมาอฺวัสสิฟาต เล่ม 2 หน้า 310


อ้างท่านบัยฮะกีย์อย่างดี  แต่คุณไม่เคยเปิดหนังสืออัลอัสมาอฺวัสศิฟาตมาอ่าน

ท่านอิหม่ามอัลบัยฮะะกีย์กล่าวต่อไปจากนั้นในบรรทัดต่อไปว่า

وأما ما حكي عن ابن عباس رضي الله عنهما فإنما أخذه عن تفسيره الكلبي ، والكلبي ضعيف

"สำหรับสิ่งที่ถูกรายงานจากท่านอิบนุอับบาส นั้น  ได้เอามาจากตัฟซีรของอัลกัลบีย์  และอัลกัลบีย์นั้นฏออีฟ"อัลอัสมาอฺวัสสิฟาต เล่ม 2 หน้า 310

นี่คือสิ่งที่วะฮาบีพยายามปกปิดและบิดเบือน  ผู้ที่คุณก็อบมาและคุณเอง หมดสภาพครับ  หมดความชอบธรรมในเชิงวิชาการ
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ Andalus

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1131
  • เพศ: ชาย
  • บ่าวผู้ต่ำต้อย
  • Respect: +27
    • ดูรายละเอียด
เข้ามาปล่อยไก่เสียแล้ว
"โอ้ อัลลอฮฺ ผู้ทรงทำให้จิตใจเปลี่ยนแปลงได้ ขอพระองค์ทรงให้หัวใจของฉันแน่นแฟ้นอยู่บนศาสนา(อิสลาม)ของพระองค์ด้วยเถิด "

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
ก็ผมเคยพูดไว้ในกระทู้ก่อนหน้านี้แล้วว่า

เรื่องภาคปฏิบัติวะฮาบีไม่ทำนั่น เพราะอุตริกรรม ไม่ทำนี่เพราะอุตริกรรม ไม่ทำโน้นเพราะอุตริกรรม  ฟังแล้วทำท่าจะดูดี  แต่พอพูดถึงอะกีดะฮ์  วะฮาบีหมดท่า หมดความน่าเชื่อถือ

พระองค์สถิตอย่างไร ขึ้นอย่างไร   เราเพียงเข้าใจในอายะห์นั้นๆแต่ไม่อาจบอกได้ว่าพระองคฺสถิตในลักษณะใด

จะเอาอะไรกันแน่  สถิต หรือว่า ประทับนั่ง หรือว่า ขึ้นสูงบนบัลลังก์  จะเอาอะไรกันแน่?! วะฮาบีอย่ามามักง่ายเล่นคำในเรื่องซีฟัตของอัลลอฮ์!
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
เข้ามาปล่อยไก่เสียแล้ว

จับมาเชือดเลย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ฮาฟิซ ครับ  ไปแปลว่า อัลลอฮฺ

ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์

นี้แหละครับที่บิดอะฮฺ โดยที่ฮาฟิซไม่รู้ตัว

เพราะฉะนั้นศึกษาต่อไปนะครับ ว่าทำไมการกล่าวเช่นนี้ถึงเป็นบิดอะฮฺ

เรื่องราวเยอะแยะมากมาย

นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

 

GoogleTagged