โรค - เกิร์ด - กรดไหลย้อน

[Bangmud]

Tweet

salam

โรค – เกิร์ด - กรดไหลย้อน

    โรคการไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมาหลอดอาหาร หรือที่นิยมเรียกว่า โรคกรดไหลย้อน (Gastro-Esophageal Reflux Disease; GERD) คือภาวะที่มีกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหาร ซึ่งโดยปกติ หลอดอาหารจะมีการบีบตัวไล่อาหารลงด้านล่างทางเดียว(Peristalsis) และหูรูด ทำหน้าที่ป้องกันการไหลย้อนของน้ำย่อย กรด หรืออาหาร ไม่ให้ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร แต่เมื่อป่วยเป็นโรคนี้ หูรูด  ทำงานได้น้อยลงในบางคน ทางเดินอาหารบีบตัวย้อนทาง (Anti-peristalsis) พบได้ประมาน 1 ใน 5 คนของคนทั่วไป ทุกกล่ม ทุกช่วงอายุ แต่จะพบได้มากในคนอ้วน หรือสูบบุหรี่ และการไหลย้อนของกรด ถ้ามีมาก อาจไหลออกนอกหลอดอาหาร อาจทำให้มีผลต่อกล่องเสียง ลำคอ ฟันหรือปอดได้ ซึ่งหากละเลยไม่ทำการรักษา อาจทำให้เรื้อรังกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
    ภาวะของโรคกรดไหลย้อน แบ่งออกเป็น 3 ระดับ
    ระดับแรก ผู้ป่วยมีภาวะกรดไหลย้อนบ้างในบางครั้ง เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง แล้วก็หายไป ไม่มีผลต่อสุขภาพมากมาย (Gastro-Esophageal Reflux: GER)
    ระดับสอง ผู้ป่วยจะมีอาการกรดไหลย้อนขึ้นมาเฉพาะที่บริเวณหลอดอาหาร (Gastro-Esophageal Reflux Disease: GERD)
    ระดับสาม ผู้ป่วยมีกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมาก จนไหลขึ้นไปถึงกล่องเสียง หรือหลอดลม (Laryngo-Pharyngeal Reflux: LPR)
   ระดับที่พบบ่อยที่สุดคือระดับ GERD
สาเหตุ
1. กล้ามเนื้อหูรูดบริเวณหลอดอาหารส่วนปลายทำงานผิดปกติ
2. กินอาหารเสร็จแล้วนอนเร็วเกินไป
3. ไส้เลื่อนของทางเดินอาหารผ่านกระบังลมเข้าสู่ช่องอก (Hiatus hernia)
4. สูบบุหรี่ ดื่มสุรา น้ำอัดลม มาก
5. รับประทานอาหารรสจัด
6. เครียด
7. อ้วน
อาการ
1. เจ็บแสบร้อนช่องอกบริเวณกลางอก คล้ายอาการโรคแผลในกระเพาะอาหารหรือหัวใจขาดเลือด
2. เสียงแหบโดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากกล่องเสียง
3. จุกแน่นบริเวณยอดอก และ/หรือ บริเวณลำคอ กลืนอาหารลำบาก เหมือนมีอะไรมาขวางอยู่บริเวณหลอดอาหาร
4.  คลื่นไส้ อยากอาเจียน
5. เรอเปรี้ยว มีรสของน้ำย่อยหรือน้ำดี
6. ถ้าอาการรุนแรงจะมีอาการของทางเดินหายใจ เช่น ไอ เสียงแหบ เจ็บอก อาจรุนแรงถึงปอดอักเสบ เพราะกรดท้นจากทางเดินอาหารเข้าสู่ทางเดินหายใจ
7. ฟันผุ ทั้งที่ได้แปรงฟันอย่างเพียงพอและเหมาะสม
การวินิจฉัย
1. จากประวัติและอาการที่เข้ากันได้กับโรค
2. ส่องกล้องพบการอักเสบของหลอดอาหาร
การรักษา
1. ลดความอ้วน
2. ลดอาหารแสลง (เหล้า บุหรี่ น้ำอัดลม ชา กาแฟ โดยเฉพาะมื้อเย็น พยายามรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ และพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยการทอด อาหารมัน พืชผักบางชนิด เช่น หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ อาหารจานด่วน(Fast food) ช็อกโกแลต ถั่ว ลูกอม สะระแหน่ เนย ไข่ นม หรืออาหารที่มีรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด )
3. ไม่รับประทานมากเกินไปในแต่ละมื้อ
4. หลังรับประทานอาหารแล้วไม่นอนทันที ควรทิ้งช่วงเวลาไว้ประมาณ 2 – 4 ชั่วโมง ควรนอนในท่าศีรษะสูง
5. รักษาด้วยยา
   5.1 ยาลดกรดแบบดั้งเดิม เช่น อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ เยล, GAVISCON ฯลฯ
   5.2 ยาลดกรดประเภท Proton Pump Inhibitors – PPI เช่น Omeprazole (Losecหรือเครื่องหมายการค้าอื่น) 20 – 80 มิลลิกรัม แบ่งให้วันละ 1 – 2 ครั้ง หรือ Esomeprazole (Nexiumหรือเครื่องหมายการค้าอื่น) วันละ 20 – 40 มิลลิกรัม ฯลฯ
   5.3 ยาเร่งการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร ได้แก่ Metoclopramide (Plasil), Domperidone (Motilium)
   สมัยก่อน ถ้าปวดท้องยอดอก มักนึกถึงโรคแผลในกระเพาะอาหารหรือในลำไส้เล็กส่วนต้น แต่ปัจจุบัน เมื่อสามารถส่องกล้องตรวจสอบได้ละเอียดขึ้น พบว่า โรค GERD นี้พบได้บ่อยประมาณ 1 ใน 5 ของคนทุกกลุ่ม ทุกวัยเพียงแต่บางคนอาการน้อยจนไม่ได้สังเกต คนที่มีความเสี่ยงทั้งหลายก็คือที่ได้กล่าวไปแล้ว อ้วน สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์(มุสลิมรอดตัวไป) รับประทานอาหารแล้วรีบนอน ฯลฯ เป็นต้น
   ไม่รู้ว่า การถูกเชิญไปกินบุญบ่อย จะเป็นสาเหตุร่วมสาเหตุหนึ่งหรือเปล่า
 

วัสสลาม

[กอ-กล้วย]

วะอะลัยกุมุสสลามวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ

เพื่อนรักมีเค้าว่าจะเป็นโรคนี้คะ เท่าที่คุยกันอาการอยู่ในระดับแรก

ถามว่า ถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สามารถก่อให้เกิดโรคได้ เช่น ทานอาหารเสร็จแล้วนอนเลย, ทานอาหารรสจัด และเครียด

พอจะมีโอกาสหายเป็นปกติมั้ยคะ 

ญาซากัลลอฮุค็อยรอนกาษีรอน

[Bangmud]

 salam

โรคนี้รักษาง่ายกว่าแผลในกระเพาะอาหารหรือกระเพาะอาหารอักเสบ แต่เป็นกลับคืนได้บ่อย เพราะ
   1. เรื่องความเครียด ซึ่งพบมากในทุกวัย แก้ยาก
   2. การกินอาหารเสร็จแล้วนอนก่อนที่อาหารจะเคลื่อนตัวพ้นไปจากกระเพาะ ดังนั้นในเดือนเราะมะฎอน กินอาหารสะหูรฺเสร็จแล้วอย่าเพิ่งนอนทันที
       นั่งพักสักครู่ อ่านกุรอาน รอเวลาละหมาดศุบหิ ละหมาดแล้วนอนก็จะเป็นการดีต่อโรค แต่ถ้าจำเป็นต้องนอน เพราะสาเหตุใดก็ตาม ให้นอนหัวสูงกว่าธรรมดา
       โดยหนุนหมอนที่ค่อนข้างแข็ง และอาหารมื้อนั้นไม่ควรมีไขมันมาก

วัสสลาม

[ILHAM]

เครียดแล้วทำเป็นไม่เครียด มันจะมีผลเสียมั๊ย

[Bangmud]

 salam

^ ^ ^

ถ้าเครียด ต้องระบายความเครียดด้วยการหาทางผ่อนคลาย ไม่งั้นจะเป็นการเก็บกด ส่งผลให้กรดในกระเพาะเพิ่ม

ถ้าโมโหใคร อยากจะทำร้ายใคร ก็อย่าไปทำ ผ่อนคลายด้วยทางอื่น เช่น ผ่าฟืน ชกกระสอบทราย ฯลฯ