ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 95 - 98)  (อ่าน 7361 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

1. ตอนที่ 95 สูเราะฮฺ อัตตีน

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัตตีน (التين  - มะเดื่อ – R4)
เป็นสูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มี 8 อายะฮฺ
เป็นซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ ที่กล่าวถึงเรื่องสำคัญสองเรื่อง คือ
1. การให้เกียรติของอัลลอฮฺแก่ มนุษย์
2. เรื่องการ ศรัทธา การชำระสอบสวน และการตอบแทน
    ซูเราะฮฺเริ่มต้นด้วยการสาบานต่อสถาน ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีเกียรติ ซึ่งอัลลอฮฺ ตะอาลาทรงกำหนดให้เป็นสถานที่เพื่อการประทานอัลวะฮียฺ แก่บรรดานะบี และร่อซูลของพระองค์ สถานที่เหล่านั้นคือ “บัยตุลมักดิส ภูเขาฏร และมักกะฮฺอัลมุกัรเราะมะฮฺ” โดยที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงยกย่องให้เกียรติแก่มนุษย์ทรงบังเกิดเขาในรูปแบบที่สวยงามยิ่ง และเมื่อไม่ขอบคุณความโปรดปรานของพระองค์แล้ว พระองค์ก็จะให้เขากลับสู่สภาพที่ตกต่ำยิ่ง “ขอสาบานด้วยต้นมะเดื่อ และต้นมะกอก และด้วยภูเขาฏรซีนาย และด้วยเมืองนี้ที่ปลอดภัย”
    ซูเราะฮฺได้ตำหนิคนกาฟิรที่ปฏิเสธวันแห่งการฟื้นคืนชีพและวันชุมนุม หลังจากที่หลักฐานอันชัดแจ้งได้บ่งชี้ถึงเดชานุภาพของพระเจ้าแห่งสากลโลก ในการสร้างมนุษย์ในรูปแบบที่สวยงามยิ่ง “โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์ในรูปแบบที่สวยงามยิ่ง”
        ซูเราะฮฺจบลงด้วยการชี้แจงถึงความ ยุติธรรมของอัลลอฮฺ ด้วยการตอบแทนความดีแก่บรรดาผู้ศรัทธา และลงโทษพวกปฏิเสธศรัทธา “ดังนั้นอะไรเล่าเขาจึงปฏิเสธเจ้าหลังจากนี้เกี่ยวกับการตอบแทน มิใช่อัลลอฮฺดอกหรือเป็นผู้ตัดสินใจที่ดีเยี่ยมในหมู่ผู้ตัดสินทั้งหลาย” ในการนี้เป็นการยืนยันถึงการตอบแทน และการฟื้นคืนชีพ


เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)


-----------------------------------------------------

สูเราะฮฺ อัตตีน อายะฮฺที่ 1 – 8


 

คำอ่าน
1. วัตตีนิ วัซซัยตูน
2. วะฎูริสีนีน
3. วะฮาซัลบะละดิลอะมีน
4. ละก็อดเคาะลักนัลอิน..สานะฟี..อะหฺสะนิตักวีม
5. ษุม..มะเราะดัดนาฮุ อัสฟะละสาฟิลีน
6. อิลลัลละซีนะอามะนู วะอะมิลุศศอลิหาติ ฟะละฮุมอัจญรุน ฆ็อยรุมัมนูน
7. ฟะมายุกัซซิบุกะบะอฺดุบิดดีน
8. อะลัยสัลลอฮุบิอะหฺกะมิลหากิมีน


คำแปล R1.
1. By the fig, and the olive,
2. By Mount Sinai,
3. And by this city of security (Makkah),
4. Verily, we created man of the best stature (mould),
5. Then we reduced him to the lowest of the low,
6. Save those who believe (in Islamic Monotheism) and do righteous deeds, Then they shall have a reward without end (Paradise).
7. Then what (or who) causes you (O disbelievers) to deny the recompense (i.e. Day of Resurrection)?
8. Is not Allah the best of judges?


คำแปล R2.
1. ขอยืนยันกับต้นมะเดื่อและต้นมะกอก
2. และภูเขาฎูรซีนีน (ซีนาย)
3. และเมือง(มักกะฮฺ)อันปลอดภัยนี้
4. แท้จริงเราได้สร้างมนุษย์มาในรูปทรงอันงดงามยิ่ง
5. หลังจากนั้นเราได้ส่งเขากลับสู่สภาพของผู้ที่ต่ำต้อยที่สุด (ในยามชรา ซึ่งมีแต่ความร่วงโรยและความสูญสิ้นในด้านต่าง ๆ )
6. นอกจากบรรดาผู้ศรัทธา และประพฤติแต่สิ่งดีงาม แน่นอนพวกเขาจะต้องได้รัยรางวัลอันไม่ขาดตอน
7. แล้วอะไรหรือที่ทำให้เขาใส่ไคล้ศาสนาว่าเป็นความมุสาในภายหลัง (จากที่หลักฐานต่าง ๆ ประจักษ์แล้ว)
8. อัลเลาะฮฺทรงเป็นผู้ตัดสินที่เที่ยงธรรมที่สุดมิใช่หรือ


คำแปล R3.
1. ขอสาบานด้วยมะเดื่อและมะกอก
2. และด้วยภูเขาซีนาย
3. และเมืองแห่งความสงบนี้
4. แท้จริงเราได้สร้างมนุษย์มาในรูปแบบที่ดีที่สุด
5. หลังจากนั้นเราได้ทำให้เขากลับไปสู่ความต่ำสุดของความต่ำ
6. ยกเว้นบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดี สำหรับพวกเขานั้นมีรางวัลตอบแทนอันไม่สิ้นสุด
7. ดังนั้น (โอ้ นบี) หลังจากนี้แล้วผู้ใดเล่าจะสามารถปฏิเสธเจ้าเกี่ยวกับเรื่องรางวัลตอบแทนและการลงโทษ ?
8. มิใช่อัลลอฮฺกระนั้นหรือที่ดีที่สุดในบรรดาผู้ตัดสินทั้งหลาย


คำแปล R4.
1. ขอสาบานด้วยต้นมะเดื่อและต้นมะกอก
2. และด้วยภูเขาฎูรซีนาย
3. และด้วยเมืองนี้ที่ปลอดภัย
4. โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มาในรูปแบบที่สวยงามยิ่ง
5. แล้วเราได้ให้เขากลับสู่สภาพที่ตกต่ำยิ่ง
6. นอกจากบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบสิ่งดีงามทั้งหลาย โดยที่สำหรับพวกเขาจะได้รับรางวัลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
7. ดังนั้น อะไรเล่าเขาจึงปฏิเสธเจ้า หลังจากนี้เกี่ยวกับการตอบแทน
8. มิใช่อัลลอฮฺดอกหรือ เป็นผู้ตัดสินที่ดีเยี่ยมในหมู่ผู้ตัดสินทั้งหลาย


คำแปล R5.
๑. ขอสาบานกับต้นมะเดื่อและต้นมะกอก
๒. และภูเขาตูริซีนีน
๓. และเมืองอันปลอดภัยนี้ คือ เมืองมักกะห์
๔. แท้ที่จริงเราได้บันดาลมนุษย์มาในรูปทรงที่งดงามยิ่ง โดยให้มีการทรงตัวยืนสองขาบนพื้นโลกอย่างสง่าผ่าเผยผิดกับสัตว์ทั่วไป แม้บางลักษณะและบางสัญชาตญาณจะมีเหมือนกับสัตว์ แต่ก็แตกต่างในแง่ของความสวยงามและความสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น มนุษย์ยังมีสติสัมปชัญญะ มีปัญญาสามารถสื่อความหมายด้วยภาษาพูด และที่อัลกุรอานได้นำต้นมะเดื่อและมะกอกมากล่าวถึงก็เพราะว่าทั้งสองนั้นเป็นต้นไม้ที่อำนวยประโยชน์กว้างขวาง ส่วนพูดถึงสถานที่ก็คือภูเขาตูริซีนา เพื่อการระลึกถึงนบีมูซาซึ่งรับโองการจากพระเจ้า ณ ภูเขานั้น และมักกะห์เป็นที่ของนบีอิบรอฮีมและนบีมุฮำมัดเคยพำนักอยู่
๕. หลังจากนั้น เราได้กลับคืนเขา(มนุษย์)สู่สภาพที่ด้อยที่สุดจากบรรดาผู้ที่ด้อยทั้งปวง เพราะเมื่อมนุษย์มีอายุในวัยชรา ความเลอะเลือน ความอ่อนแอ ความร่วงโรยและความเสื่อมต่าง ๆ ก็จะคุกคามตามติดมาอย่างที่สุด
๖. ยกเว้นบรรดาผู้มีศรัทธาและปฏิบัติแต่บรรดาความดีงาม แน่นอนพวกเขาย่อมได้รับแต่กุศลอันไม่ขาดตอน และไม่มีบกพร่องด้วยประการทั้งปวง มีปรากฏในฮะดิสว่าศรัทธาชนที่อยู่ในวัยชราที่มีแต่ความร่วงโรยและอ่อนเพลีย ไม่สามารถปฏิบัติความดีได้อย่างเต็มที่เหมือนในวัยแข็งแรงนั้น อัลเลาะห์จะบันทึกกุศลแก่เขาเหมือนกับเขาปฏิบัติสิ่งนั้นโดยต่อเนื่อง
๗. แล้วอะไรเล่าที่เป็นเหตุให้เจ้ากล่าวหาความเท็จในเรื่องการตอบแทนภายหลังจากนั้น กล่าวคือหลังจากมีหลักฐานยืนยันอย่างชัดแจ้งแล้วในสัจธรรมแห่งคำประกาศของศาสดาที่เกี่ยวกับการฟื้นคืนชีพ  การตอบแทนภาคผลในปรภพแล้ว ทำไมจึงไม่ยอมศรัทธาและคงปฏิเสธสิ่งเหล่านั้น ความจริงไม่มีสาเหตุอื่นใดทั้งสิ้น นอกจากความดื้อรั้นของพวกเขาเท่านั้น
๘. ก็อัลเลาะห์มิใช่ผู้ทรงเป็นเยี่ยมที่สุดในการตัดสินจากบรรดาผู้ตัดสินดอกหรือ พระองค์ทรงตัดสินได้ยุติธรรมและถูกต้องสาสมกับการกระทำทุกประการ ซึ่งผิดกับมวลมนุษย์เมื่อทำการตัดสิน บางครั้งก็ผิดพลาด บางครั้งก็ลำเอียงไม่เป็นธรรม


จบสูเราะฮฺที่ 95 อัตตีน


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 95 - 98)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.ค. 12, 2010, 03:21 AM »
0

 salam

2. ตอนที่ 96 สูเราะฮฺ อัลอะลัก

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลอะลัก – เนื้อก้อน - R4.
เป็นซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มี 19 อายะฮฺ
    ซูเราะฮฺ อัลอะลัก หรือซูเราะฮฺ “อิกเราะฮฺ” เป็นซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ กล่าวถึงเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
    การเริ่มลงของอัลวะฮียฺ ให้แก่นะบีคนสุดท้ายคือมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
    การละเมิดขอบ เขตของมนุษย์ และการไม่เชื่อฟังต่อพระบัญชาของอัลลอฮฺ
    เรื่องของ มนุษย์ชั่วช้า “อะบีญะฮฺลฺ” ในการขัดขวางท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มิให้กระทำละหมาด
    ซูเราะฮฺได้เริ่มด้วยการสาธยายความ โปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อร่อซูลของพระองค์ด้วยการประทานอัลกุรอาน “ปาฏิหาริย์ที่จีรัง” และกล่าวถึง...ความโปรดปรานครั้งแรกขณะที่ท่านนะบี กำลังเคารพภักดีพระเจ้าของเขา ณ ถ้ำฮิรออ์ โดยที่วะฮียฺถูกประทานลงมาด้วยอายาตฺดังนี้ “จงอ่านด้วยพระนามแห่งพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงบังเกิดจนกระทั่ง ผู้ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้”
    แล้วซูเราะฮฺได้กล่าวถึงการละเมิดขอบ เขตของมนุษย์ ในการดำรงชีวิตนี้ด้วยพลังและความมั่งคั่งและการขัดขืนคำสั่งของเขาต่อข้อใช้ข้อห้ามของอัลลอฮฺ อันเนื่องมาจากความมั่งมีของเขา ความจริงแล้วจำเป็นที่เขาจะต้องขอบคุณพระเจ้าของเขาต่อความโปรดปรานที่เขา ได้รับ มิใช่ด้วยการเนรคุณ และได้กล่าวเตือนเขาให้กลับไปหาพระเจ้าของเขาเพื่อหวังการตอบแทน “มิใช่เช่นนั้น แท้จริงมนุษย์นั้นย่อมจะละเมิดขอบเขต เนื่องเพราะเขาคิดว่าเขาพอเพียงแล้ว แท้จริงยังพระเจ้าของเจ้านั้นคือการกลับไป”
    ต่อมาซูเราะฮฺได้กล่าวถึงเรื่องเขา “อะบีญะฮฺลฺ” ซึ่งเป็นฟิรเอานฺของประชาชาตินี้ เขาขู่เข็ญและคุกคามท่านรอซูล และห้ามปรามท่านมิให้ทำละหมาด เพื่อแสดงความมีชัยแด่รูปปั้นและเจว็ดทั้งหลาย “เจ้าเห็นแล้วมิใช่หรือผู้ที่ขัดขวาง บ่าวคนหนึ่งเมื่อเขากำลังละหมาด”


-----------------------------------------------------

สูเราะฮฺ อัลอะลัก อายะฮฺที่ 1 – 5




คำอ่าน
1. อิกเราะอ์ บิสมิร็อบบิกัลละซีเคาะลัก
2. เคาะละก็อลอิน..สานะ มินอะลัก
3. อิกเราะอ์วะร็อบบุกัลอักร็อม
4. อัลละซีอัลละมะบิลเกาะลัม
5. อัลละมัลอินสานะ มาลัมยะอฺลัม


คำแปล R1.
1. Read! In the name of your Lord, who has created (all that exists),
2. Has created man from a clot (a piece of thick coagulated blood).
3. Read! And your Lord is the Most Generous,
4. Who has taught (the writing) by the pen [the first person to write was Prophet Idrees (Enoch)],
5. Has taught man that which he knew not.


คำแปล R2.
1. จงอ่านเถิด ในพระนามแห่งองค์อภิบาลของเจ้าผู้ทรงบันดาล
2. พระองค์ทรงบันดาลมนุษย์มาจากก้อนเนื้อ (ที่วิวัฒน์จากก้อนเลือด อสุจิ ตามลำดับ)
3. จงอ่านเถิด และองค์อภิบาลของเจ้าทรงเอื้อเฟื้อยิ่งนัก
4. ซึ่งทรงสอนความรู้ด้วยกับปากกา
5. พระองค์ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้


คำแปล R3.
1. จงอ่านด้วยพระนามของอัลลอฮฺพระผู้อภิบาลของเจ้าผู้ทรงสร้าง
2. ทรงสร้างมนุษย์จากก้อนเลือดที่เกาะติดอยู่
3. จงอ่าน และพระผู้อภิบาลของเจ้าเป็นผู้ทรงเกียรติสูงสุด
4. ผู้ทรงสอนมนุษย์ด้วยปากกา
5. ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้


คำแปล R4.
1. จงอ่านด้วยพระนามแห่ง พระเจ้าของเจ้าผู้ทรงบังเกิด
2. ทรงบังเกิดมนุษย์จากก้อนเลือด
3. จงอ่านเถิด และพระเจ้าของเจ้านั้นผู้ทรงใจบุญยิ่ง
4. ผู้ทรงสอนการใช้ปากกา
5. ผู้ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้


คำแปล R5.
๑. โอ้ มุฮำมัด จงอ่านเถิด ด้วยพระนามแห่งพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้า ผู้ทรงบันดาลสรรพสิ่งทั้งสอง
๒. ทรงบันดาลมนุษย์ ให้วิวัฒนาการมาจากก้อนเลือด ซึ่งแปรสภาพมาจากอสุจิ
๓. เจ้าจงอ่านเถิด พระผู้ทรงอภิบาลของเจ้าผู้ทรงเกียรติยิ่ง
๔. พระองค์ผู้ทรงสอนด้วยปากกา กล่าวกันว่า ผู้ประดิษฐ์ปากกาขึ้นเขียนเป็นคนแรกคือนบีอิดรีส และอัลเลาะห์ทรงมีปากกาคอยรับบัญชาของพระองค์ในการเขียนทุกสิ่งทุกอย่างลงในแผ่นจารึก(เลาฮุ้ลมะห์ฟูซ)
๕. ทรงสอนมนุษย์ให้รู้สิ่งที่เขาไม่รู้



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 95 - 98)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.ค. 13, 2010, 04:10 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลอะลัก อายะฮฺที่ 6 – 12

คำอ่าน
6. กัลลา..อิน..นัลอิน..สานะละยัฏฆอ
7. อัรฺเราะอาฮุสตัฆนา
8. อิน..นะอิลาร็อบบิกัรฺรุจญอา
9. อะเราะอัยตัลละซีย้นฮา
10. อับดันอิซาศ็อลลา
11. อะเราะอัยตะอิน..กานะอะลัลฮุดา
12. เอาอะมะเราะ บิตตักวา


คำแปล R1.
6. Nay! Verily, man does transgress all bounds (in disbelief and evil deed, etc.).
7. Because he considers himself self-sufficient.
8. Surely! Unto Your Lord is the return.
9. Have you (O Muhammad) seen him (i.e. Abu-Jahl) who prevents,
10. A slave (Muhammad) when he prays?
11. Tell Me, if he (Muhammad) is on the guidance (of Allah)?
12. Or enjoins piety?


คำแปล R2.
6. หามิได้ แท้จริงมนุษย์นั้นทำการล่วงละเมิด (ในบทบัญญัติแห่งอัลเลาะฮฺ)
7. เพราะเขามองเห็นว่าตัวเองมีความพอเพียงแล้ว (ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร)
8. แท้จริงยังองค์อภิบาลของเจ้าเท่านั้นเป็นที่กลับคืน (เพื่อรับการตัดสิน)
9. เจ้าเห็นไหม ผู้ที่คอยกีดกัน
10. บ่าวคนหนึ่งของอัลเลาะฮฺ (คือนบีมุฮำมัด)เมื่อเขาทำการละหมาด
11. เจ้าเห็นแล้วใช่ไหม (ว่าเขาจะได้รับความดีอย่างไร) พวกเขาตั้งมั่นอยู่บนทางชี้นำ
12. หรือเขาได้ใช้ (ให้ผู้คน)มีความยำเกรง (ต่ออัลเลาะฮฺ)


คำแปล R3.
6. ไม่เลย มนุษย์นั้นฝ่าฝืนเสมอ
7. เพราะเขาเห็นว่าตัวเขาเองเพียงพอ
8. (ถึงแม้ว่า) ยังพระผู้อภิบาลของเขาคือการกลับคืน
9. เจ้าไม่เห็นผู้ห้าม
10. บ่าวคนหนึ่งเมื่อเขานมาซกระนั้นหรือ
11. เจ้าคิดอย่างไร ถ้าหาก(บ่าวผู้นั้น)อยู่บนหนทางที่ถูกต้อง
12. หรือกำชับให้มีความยำเกรงพระเจ้า


คำแปล R4.
6. มิใช่เช่นนั้นแท้จริงมนุษย์นั้น ย่อมจะละเมิดขอบเขต
7. เนื่องเพราะเขาคิดว่าเขาพอเพียงแล้ว
8. แท้จริงยังพระเจ้าของเจ้าเท่านั้นคือ การกลับไป
9. เจ้าเห็นแล้วมิใช่หรือ ผู้ที่ขัดขวาง
10. บ่าวคนหนึ่ง เมื่อเขากำลังละหมาด
11. เจ้าคิดบ้างไหมว่า หากบ่าวผู้นั้นอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง
12. หรือใช้ให้ผู้คนมีความยำเกรง


คำแปล R5.
๖. เป็นที่เที่ยงแท้ที่สุด อันมนุษย์นั้นย่อมล่วงละเมิด ต่อบทบัญญัติของอัลเลาะห์เป็นประจำ
๗. โดยเหตุที่เขาเห็นว่าตัวเองนั้นร่ำรวยแล้ว ทั้งทรัพย์สิน อำนาจ วาสนา บารมีและบริวาร
๘. แท้จริงสู่พระผู้อภิบาลของเจ้าเท่านั้นที่มีการคืนกลับไป เพื่อรับคำพิพากษาในผลการกระทำต่าง ๆ ที่ล่วงไว้แต่ภพก่อน
๙. เจ้าได้เห็นแล้วมิใช่หรือซึ่งผู้ที่ห้าม
๑๐. บ่าวคนหนึ่งเมื่อเขาทำละหมาด เพื่อมิให้ทำละหมาดนั้นได้ บุคคลที่ถูกระบุพฤติการณ์ไว้นี้ ได้แก่อะบูยะฮั้ล เมื่อเห็นท่านนบีทำการละหมาด ก็พยายามขัดขวางทุกวิถีทาง ที่สุดเขาบอกกับเพื่อนว่า เขาจะต้องยุติการกระทำของท่านนบีให้ได้ ดังนั้นเขาจึงได้ลอบเข้าไปหานบีขณะท่านกำลังทำละหมาด เพื่อทำร้าย แต่เขาก็ผงะออกมาอย่างตกใจสุดขีด และได้บอกแก่เพื่อนว่า เขาเข้าไปไม่ถึงตัวนบีเพราะมีลำรางที่มีไฟลุกโชนขวางกั้นไว้ ซึ่งหากเขาขืนเข้าไป แน่นอนเขาก็ต้องถูกไฟเผาไหม้อย่างแน่นอน
๑๑. เจ้าได้เห็นแล้วมิใช่หรือ หากเขาได้ตั้งมั่นอยู่บนทางนำ เขาก็จะได้รับแต่ความดีอย่างแน่นอน
๑๒. หรือหากเขาใช้ให้มีการยำเกรงต่ออัลเลาะห์ด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ เขาก็จะได้รับความดีนั้นเหมือนกัน



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 95 - 98)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.ค. 14, 2010, 05:24 AM »
0
สูเราะฮฺ อัลอะลัก อายะฮฺที่ 13 – 19


คำอ่าน

13. อะเราะอัยตะอิน..กัซซะบะวะตะวัลลา
14. อะลัมยะอฺลัม..บิอัน..นัลลอฮะยะรอ
15. กัลลาละอิลลัมยัน..ตะฮิละนัสฟะอัม..บินนาศิยะฮฺ
16. นาศิยะติน..กาซิบะติน คอฏิอะฮฺ
17. ฟัลยัดอุนาดิยะฮฺ
18. สะนัดอุซซะบานิยะฮฺ
19. กัลลา ลาตุฏิอฺฮุ ฟัสญุด วักตะริบ.


คำแปล R1.
13. Tell Me if he (the disbeliever, Abu-Jahl) denies (the truth, i.e. This Qur'an), and turns away?
14. Knows he not that Allah does see (What he does)?
15. Nay! If he (Abu-Jahl) ceases not, we will catch him by the forelock,
16. A lying, sinful forelock!
17. Then, let him call upon his council (of helpers),
18. We will call the guards of Hell (to deal with him)!
19. Nay! (O Muhammad)! Do not obey him (Abu-Jahl). Fall prostrate and draw near to Allah!


คำแปล R2.
13. เจ้าเห็นแล้วใช่ไหม (ว่าเขาจะมีสภาพเป็นอย่างไร) หากเขากล่าวหาความเท็จและผินหลังให้
14. เขาไม่รู้หรือว่า แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงมองเห็น
15. หามิได้ ขอยืนยัน หากเขาไม่ยุติ แน่นอนเราจักต้องกระชากกระจุกผมริมหน้าผาก(ของเขา)
16. กระจุกผมริมหน้าที่ทั้งโกหกอีกทั้งกระทำความผิด
17. แล้วเขาก็จงเรียกสมาชิกของเขาเถิด (เพื่อมาช่วยเหลือเขา)
18. เราก็จะเรียกมลาอิกะฮฺ ซะบานียะฮฺ (ผู้เป็นเจ้าหน้าที่คุมนรก)
19. หามิได้ เจ้าจงอย่าเชื่อฟังเขา และเจ้าจงกราบกราน(ต่ออัลเลาะฮฺ)และจงเข้าใกล้(พระองค์)เถิด


คำแปล R3.
13. เจ้าคิดอย่างไร ถ้าหาก (คนที่ห้าม) กำลังปฏิเสธและหันหลังให้ ?
14. เขาไม่รู้หรือว่า อัลลอฮฺทรงเห็น ?
15. ไม่มีวันเสียละ ! หากเขาไม่หยุดยั้ง เราจะจิกหัวขม่อมเขา
16. หัวขม่อมที่โกหกและทำบาป
17. ดังนั้น จงให้เขาเรียกพวกที่สนับสนุนพวกเขามา
18. เราก็จะเรียกมลาอิกะฮฺผู้ลงโทษมาเช่นกัน
19. อย่าทีเดียว จงอย่าเชื่อฟังเขา และจงก้มกราบและจงเข้าใกล้ (พระผู้อภิบาลของเจ้า)


คำแปล R4.
13. เจ้าคิดบ้างไหมว่า หากเขาปฏิเสธ และผินหลังให้
14. เขาไม่รู้ดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮฺ นั้นทรงเห็น
15. มิใช่เช่นนั้น ถ้าเขายังไม่หยุดยั้ง เราจะจิกเขาที่ขม่อมอย่างแน่นอน
16. ขม่อมที่โกหกที่ประพฤติชั่ว
17. แล้วให้เขาเรียกที่ประชุมของเขา
18. เราก็จะเรียกผู้คุมนรก
19. มิใช่เช่นนั้น เจ้าอย่าได้เชื่อฟังมัน แต่จงสุญูด และเข้าใกล้


คำแปล R5.
๑๓. เจ้าได้เห็นแล้วมิใช่หรือ ว่าเขาต้องประสบผลอย่างไร หากว่าเขากล่าวหาว่าเป็นเท็จแก่นบีมูฮำมัด และเขาได้ผินหลังให้ ไม่ยอมศรัทธาแต่ประการใด ๆ
๑๔. เขาไม่รู้ดอกหรือว่า แท้จริงอัลเลาะห์ทรงมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจน
๑๕. หาเป็นเช่นนั้นไม่ ขอกล่าวยืนยันว่าแท้จริงหากเขาไม่ยุติการกระทำความชั่วของเขาที่ตั้งใจจะขัดขวางนบีมูฮำมัดมิให้ทำละหมาด แน่นอนเราก็จักจิกผมเหนือหน้าผากของเขาสู่ไฟนรก
๑๖. เป็นผมเหนือหน้าผากที่โกหกมดเท็จอีกทั้งกระทำความผิด การระบุในโองการนี้ถึงผมเหนือหน้าผาก เป็นสำนวนหมายถึงตัวเขาเอง เพราะผมอย่างเดียวย่อมโกหกใครไม่ได้ และอะบูยะฮั้ลได้ทำการโต้ตอบท่านนบีมูฮำมัดในเรื่องเดิม คือเขามิให้ท่านนบีทำละหมาด แต่ท่านนบีไม่ยอมรับฟังเขา จึงคงท้าทายที่จะทำการต่อสู้และรบรากับท่านนบี โดยอ้างว่า ตัวเองมีสมาชิกทางสังคมและมีอำนาจเหนือกว่าท่านศาสดามุฮำมัด
๑๗. ดังนั้นเจ้าจงเรียกผู้ร่วมสโมสรของเขาเถิด เพื่อมาช่วยเขาทำการต่อสู้กับเจ้า โอ้นบีมุฮำมัด
๑๘. แล้วต่อไปเราก็จะเรียกมลาอิกะฮ์ ซะบานียะฮ์ เจ้าหน้าที่ประจำนรกให้มาช่วยเจ้าเพื่อต่อสู้กับพวกเขา
๑๙. หาเป็นเช่นนั้นไม่ เจ้าจงอย่าเชื่อฟังเขาในคำขู่เข็ญของเขา ที่จะให้เจ้าละเว้นการทำละหมาด และดังนั้นเจ้าจงก้มกราบทำละหมาดโดยมิต้องสนใจคำห้ามใด ๆ และเจ้าจงใกล้ชิดโดยการนมัสการต่ออัลเลาะห์ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก


จบสูเราะฮฺที่ 96 อัลอะลัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 15, 2010, 06:38 PM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 95 - 98)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.ค. 16, 2010, 02:23 AM »
0
 salam

3. ตอนที่ 97 สูเราะฮฺ อัลก็อดริ

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัล-ก็อดรฺ – เกียรติยศ (R4.)
เป็นสูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มี 5 อายะฮฺ
    ซูเราะฮฺ อัลก็อดรฺ เป็นซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ ซึ่งกล่าวถึงการเริ่มประทานอัลกุรอานอัลอะซีมลงมา และได้กล่าวถึงความประเสริฐของคืนอัลก็อดรฺที่มีเหนือกว่าวันอื่น ๆ และเดือนอื่น ๆ โดยที่ในคืนนั้นมีรัศมีแสงสว่าง และความกระจ่างแจ้งอันศักดิ์สิทธิ์ และกลิ่นไอแห่งความเมตตาของพระเจ้าได้แผ่คลุมไปยังปวงบ่าวของพระองค์ผู้ ศรัทธา เป็นการให้เกียรติในคืนแห่งการพระราชทานอัลกุรอานอันชัดแจ้ง นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงการลงมาของมะลาอิกะฮฺผู้ทรงคุณธรรมจนกระทั่งรุ่งอรุณ โอ้มันช่างเป็นคืนที่ยิ่งใหญ่เสียจริง ๆ เป็นคืนที่ดียิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺกว่าหนึ่งพันเดือน


-------------------------------------------------------

สูเราะฮฺ อัลก็อดรฺ อายะฮฺที่ 1 – 5


 

คำอ่าน
1. อิน..นา..อัน..ซัลนาฮุ ฟีลัยละติลก็อดรฺ
2. วะมา..อัดรอกะ มาลัยละตุลก็อดรฺ
3. ลัยละตุลก็อดริ ค็อยรุม..มินอัลฟิชะฮฺรฺ
4. ตะนัซซะลุลมะลาอิกะตุ วัจญรูฮุฟีฮา บิอิซนิร็อบบิฮิม มิน..กุลลิอัมรฺ
5. สะลามุนฮิยะหัตตามัฏละอิลฟัญรฺ


คำแปล R1.
1. Verily! We have sent it (this Qur'an) down in the night of Al-Qadr (Decree)
2. And what will make you know what the night of Al-Qadr (Decree) is?
3. The night of Al-Qadr (Decree) is better than a thousand months (i.e. worshipping Allah in that night is better than worshipping Him a thousand months, i.e. 83 years and 4 months).
4. Therein descend the angels and the Ruh [Jibrael (Gabriel)] by Allah's permission with All Decrees,
5. Peace! (All that night, there is peace and goodness from Allah to his believing slaves) until the appearance of dawn.


คำแปล R2.
1. แท้จริงเราได้ลงกุรฺอานมาให้ในคืนแห่งเกียรติยศ
2. และอันใดหรือที่ทำให้เจ้ารู้ว่า อะไรคือ คืนแห่งเกียรติยศ ?
3. คืนเกียรติยศประเสริฐกว่า (คืนธรรมดา) ถึงหนึ่งพันเดือน
4. มลาอิกะฮฺและวิญญาณบริสุทธิ์(ยิบรีล)จะลงกันมาในคืนนั้น โดยพระอนุมัติแห่งองค์อภิบาลของพวกเขา เพื่อ(นำมาซึ่ง)ทุก ๆ กิจการ
5. มันเป็นคืนแห่งศานติ (ที่มีความมงคลยิ่ง) ตราบแสงอรุณขึ้น


คำแปล R3.
1. เราได้ประทานกุรอานลงมาในคืนอันประเสริฐ
2. และอะไรที่ทำให้เจ้ารู้ว่า คืนอันประเสริฐนั้นคืออะไร ?
3. คืนอันประเสริฐนั้นดีกว่าพันเดือน
4. บรรดามลาอิกะฮฺและวิญญาณลงมาในคืนนั้นพร้อมกับประกาศิตทุกอย่างโดยอนุมัติของพระผู้อภิบาลของพวกเขา
5. คืนนั้นเป็นคืนที่สงบจนกระทั่งรุ่งอรุณ


คำแปล R4.
1. แท้จริงเราได้ประทานอัลกุรอานลงมาในคืนอัลก็อดรฺ
2. และอะไรเล่าจะทำให้เจ้ารู้ได้ว่าคืนอัลก็อดรฺนั้นคืออะไร
3. คืนอัลก็อดรฺนั้นดียิ่งกว่าหนึ่งพันเดือน
4. บรรดามะลาอิกะฮฺและอัลรูฮฺ (ญิบริล) จะลงมาในคืนนั้น โดยอนุมัติแห่งพระเจ้าของพวกเขาเนื่องจากกิจการ-ทุกสิ่ง
5. คืนนั้นมีความศานติจนกระทั่งรุ่งอรุณ


คำแปล R5.
๑. แท้จริงเราได้ประทานอัลกุรอานลงมาในคืนแห่งเกียรติยศ โดยเริ่มต้นได้บันทึกไว้ในเลาฮุ้ลมะห์ฟูซ จากนั้นคัดลอกโดยยิบรีลมาสู่ชั้นโลกดุนยา(โลกนี้) เพื่อเหล่ามลาอิกะฮ์ได้บันทึกเก็บไว้ ณ บัยติลอิซซะฮ์ แล้วยิบรีลก็นำทยอยลงมายังนบีมูฮำมัดต่างวาระต่างเหตุการณ์ จนครบถ้วน โดยใช้เวลาประมาณ ๒๓ ปี
๒. และอะไรหรือที่ทำให้เจ้ารู้ว่า อะไรคือคืนแห่งเกียรติยศ ซึ่งเป็นคืนที่มีการกำหนดเหตุการณ์ต่าง ๆ สำหรับโลกทั้งปวง รวมทั้งโลกมนุษย์ เพื่อมอบหมายแก่มลาอิกะฮฺต่าง ๆ รับผิดชอบงานในหน้าที่ของแต่ละท่าน และมลาอิกะห์ที่รับงานต่าง ๆ ดำเนินการตามพระประสงค์ของอัลเลาะห์ ก็มี ๔ ท่าน คือ อิสรอฟีล มีกาอีล อิสรออีล และยิบรีล เช่น เรื่องความตาย ก็กำหนดสิ้นอายุ กำหนดคลอดลูก กำหนดปัจจัยยังชีพ และอื่น ๆ อีกมากมาย
๓. อันคืนแห่งเกียรติยศนั้น ประเสริฐกว่าหนึ่งพันเดือน การกระทำความดีต่าง ๆ ในคืนนั้น มีภาคผลเหนือกว่าการกระทำในวาระอื่น ๆ ถึงหนึ่งพันเดือนดังกล่าวแล้ว
๔. มวลมลาอิกะห์และยิบรีล ต่างก็ลงมาในคืนนั้น โดยพระอนุมัติแห่งผู้ทรงอภิบาลของพวกเขา พร้อมกับการงานทั้งหมด ที่ถูกมอบหมายและรับผิดชอบและดำเนินการ
๕. ความสันติสุข คือคืนนั้น ซึ่งมวลมลาอิกะห์จะประสาทสันติสุขแก่บรรดาผู้ประพฤติดีทั้งมวล ส่วนผู้ไม่ประพฤติดี ในคืนนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ได้รับสันติสุขแห่งคืนนั้นแต่ประการใด ๆ จนกระทั่งแสงอรุณขึ้นในยามเช้าของคืนนั้น ซึ่งมลาอิกะห์ผ่านผู้ใด ๆ ที่กระทำดีดังกล่าวแล้วก็จะประสาทพรแก่ผู้นั้น



จบสูเราะฮฺที่ 97 อัลก็อดรฺ



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 95 - 98)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ก.ค. 17, 2010, 02:31 AM »
0
 salam

4. ตอนที่ 98 สูเราะฮฺ อัลบัยยินะฮฺ

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลบัยยินะฮฺ - หลักฐานที่ชัดแจ้ง
เป็นสูเราะฮฺ มะดะนียะฮฺ มี 8 อายะฮฺ กล่าวถึงเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
    ท่าทีของอะฮฺลุลกิตาบที่มี ต่อสาส์นของมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
    เรื่องของ ความบริสุทธิ์ใจแห่งการอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ญัลละวาอะลา
    ชะตากรรมของ ทุกผู้ที่มีความสุข และผู้ที่มีความทุกข์ในโลกอาคิเราะฮ์
    ซูเราะฮฺได้เริ่มกล่าวถึง พวกยะฮูด และพวกนะศอรอ และท่าทีของพวกเขาที่มีต่อการเรียกร้องเชิญชวน ของท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หลังจากที่พวกเขาได้รู้ถึงคุณลักษณะของท่านนะบี ผู้ถูกส่งมาในยุคสุดท้ายนี้ พวกเขาได้เฝ้าคอยการมาปรากฏตัวของท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ครั้นเมื่อท่านร่อซูลคนสุดท้ายได้ถูกส่งมาแล้ว พวกเขาก็ปฏิเสธการเป็นการเป็นร่อซูลของท่าน พวกเขาได้ปฏิเสธศรัทธาและต่อต้าน
    ซูเราะฮฺได้กล่าวถึงรากฐานสำคัญของ การศรัทธา คือการบริสุทธิ์ใจแห่งการทำอิบาดะฮ์ แด่อัลลอฮฺผู้สูงส่งผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งทุก ๆ ศาสนาถูกใช้ให้ปฏิบัติเช่นกัน โดยให้การรำลึกถึงพระองค์ ความมุ่งหมาย การมุ่งหน้าที่เข้าหาพระองค์ในทุกคำพูด การกระทำและการปฏิบัติ มีความบริสุทธิ์ใจเพื่อพระพักตร์อันทรงเกียรติของพระองค์
    นอกจากนี้ซูเราะฮฺยังได้กล่าวถึงชะตา กรรมของผู้กระทำความผิด คือมนุษย์ที่ชั่วช้ายิ่งจากพวกปฏิเสธศรัทธาที่เป็นชาวอะฮฺลุลกิตาบ และพวกมุชริกีน และการอยู่ในนรกอัลญะฮีมอย่างตลอดกาลของพวกเขา และชะตากรรมของบรรดามุอฺมิน เจ้าของตำแหน่งอันสูงส่งคือมนุษย์ที่ดียิ่ง และการพำนักอยู่ในสวนสวรรค์อันบรมสุขพร้อมกับบรรดานะบี บรรดาผู้ยึดมั่นในความสัตย์ บรรดาผู้ตายชะฮีด และบรรดาคนศอและฮฺ ทั้งนี้เป็นการตอบแทนในความจงรักภักดีและความบริสุทธิ์ในของพวกเขาแด่พระเจ้าแห่งสากลโลก


-----------------------------------------------------------

สูเราะฮฺ อัลบัยยินะฮฺ อายะฮฺที่ 1 – 5



คำอ่าน
1. ลัมยะกุนิลละซีนะกะฟะรู มินอะฮฺลิลกิตาบิ วัลมุชริกีนะ มุน..ฟักกีนะ หัตตาตะอ์ติยะฮุมุลบัยยินะฮฺ
2. เราะสูลุม..มินัลลอฮิ ยัตลูศุหุฟัม..มุเฏาะฮฺฮะเราะฮฺ
3. ฟีฮากุตุบุน..ก็อยยิมะฮฺ
4. วะมาตะฟัรฺเราะก็อลละซีนะอูตุลกิตาบะ อิลลามิม..บะอฺดิมาญา...อัตฮุมุลบัยยินะฮฺ
5. วะมา...อุมิรู..อิลลาลิยะอฺบุดุลลอฮะ มุคลิศีนะละฮุดดีนะ หุนะฟา...อะ วะยุกีมุศเศาะลาตะ วะยุอ์ตุซซะกาตะ วะซาลิกะดีนุลก็อยยิมะฮฺ


คำแปล R1.
1. Those who disbelieve from among the people of the Scripture (Jews and Christians) and among Al-Mushrikun, were not going to leave (their disbelief) until there came to them clear evidence.
2. A Messenger (Muhammad) from Allah, reciting (the Qur'an) purified pages [purified from Al-Batil (falsehood, etc.)].
3. Containing correct and straight laws from Allah.
4. And the people of the Scripture (Jews and Christians) differed not until after there came to them clear evidence. (i.e. Prophet Muhammad) and whatever was revealed to him).
5. And they were commanded not, but that they should Worship Allah, and Worship none but Him alone (abstaining from ascribing partners to him), and perform As-Salat (Iqamat-as-Salat) and give Zakat: and that is the right religion.


คำแปล R2.
1. ไม่ปรากฏว่าบรรดาพวกไร้ศรัทธาจากชาวคัมภีร์และบรรดาจำพวกตั้งภาคีจะหลุดพ้น (จากความเชื่ออันงมงายในพระเจ้าหลายองค์)จนกว่าหลักฐานอันชัดแจ้งจะมาถึงพวกเขา
2. นั่นคือศาสนทูตผู้หนึ่งจากอัลเลาะห์ที่อ่านคัมภีร์อันบริสุทธิ์ให้พวกนั้นฟัง
3. ในนั้นมีบทบัญญัติต่าง ๆ อันเที่ยงตรง
4. และบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์(คือพวกยิว-คริสต์)มิได้มีความเห็นแตกแยกกันเลยนอกจากภายหลังจากหลักฐานอันแจ้งชัดได้มายังพวกเขาแล้ว
5. และพวกเขามิได้ถูกบัญชามา(เพื่ออื่นใด)นอกจากเพื่อพวกเขาทำการนมัสการ โดยพวกเขามีความบริสุทธิ์ใจแท้จริงต่อพระองค์ในการนมัสการ อีกทั้งพวกเขาเป็นผู้ทรงภูมิธรรม(ไม่เอนเอียงไปจากหลักอิสลาม)และเพื่อพวกเขาทำการละหมาดและบริจาคทานซะกาต และนั้นแหละ คือศาสนาแห่งความเที่ยงตรง


คำแปล R3.
1. บรรดาผู้ปฏิเสธจากในหมู่ชาวคัมภีร์และพวกบูชาเทวรูปจะไม่ละเว้น (จากการปฏิเสธความศรัทธาของเขา)จนกระทั่งหลักฐานอันชัดแจ้งได้มายังพวกเขา
2. (นั่นคือ) รอซูลคนหนึ่งจากอัลลอฮฺ ซึ่งจะมาอ่านคัมภีร์บริสุทธิ์ให้พวกเขา
3. ซึ่งในนั้นมีสิ่งที่เขียนไว้อย่างถูกต้องและชัดเจน
4. ผู้ที่ได้รับคัมภีร์ก่อนหน้านี้มิได้มีการแตกแยกออกเป็นนิกายจนกระทั่งหลังจากมีหลักฐานอันชัดแจ้ง(แห่งแนวทางอันเที่ยงตรง)ได้มายังพวกเขาแล้ว
5. และพวกเขาก็มิได้ถูกบัญชาใช้สิ่งใดนอกไปจากการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ทำให้ศาสนาของพวกเขาเป็นของพระองค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตั้งมั่นต่อพระองค์และดำรงนมาซและจ่ายซะกาต เพราะนี่เท่านั้นคือศาสนาที่แท้จริงและถูกต้องที่สุด


คำแปล R4.
1. บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในหมู่อะฮฺลุลกิตาบและพวกบูชาเจว็ดนั้นจะไม่พ้นจาก (หลักศรัทธาของพวกเขา) จนกว่าจะได้มีหลักฐานอันชัดแจ้งมายังพวกเขา
2. คือร่อซูลคนหนึ่งจากอัลลอฮฺเพื่ออ่านคัมภีร์อันบริสุทธิ์
3. ในคัมภีร์นั้นมีบัญญัติอันเที่ยงตรง
4. และบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ (อะฮฺลุลกิตาบ) นั้น มิได้แตกแยกกัน เว้นแต่หลังจากที่ได้มีหลักฐานอันชัดแจ้งมายังพวกเขาแล้ว
5. และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์ เป็นผู้อยู่ในแนวทางที่เที่ยงตรงและดำรงการละหมาด และจ่ายซะกาต และนั่นแหละคือศาสนาอันเที่ยงธรรม


คำแปล R5.
๑. มิใช่ว่าบรรดาจำพวกขาดศรัทธาจากชาวคัมภีร์และพวกตั้งภาคีจักเป็นผู้หลุดพ้นจากสภาพขาดศรัทธาของพวกเขาและสภาพงมงายที่พวกเขาได้รับทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกเขาโดยลำพังด้วยความดิ้นรนของตนเอง จนกระทั่งหลักฐานอันแจ้งชัดจะมาประสบแก่พวกเขาโดยการนำของนบีมุฮำมัด
๒. เขาเป็นศาสนทูตผู้หนึ่ง ที่ถูกส่งมาจากอัลเลาะห์ซึ่งเขาอ่านคัมภีร์ที่บริสุทธิ์สะอาด คืออัลกุรอาน แก่ประชาชาติของเขาได้รับไปเป็นธรรมนูญแห่งชีวิต
๓. ในนั้นมีบทบัญญัติที่เที่ยงตรงยิ่งเพราะมีปรากฏอย่างชัดแจ้งถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับระบบดำเนินชีวิตทั้งส่วนเอกชนและสังคม มีหลักการปกครอง หลักวิทยาการสาขาต่าง ๆ อย่างครบถ้วน
๔. และบรรดาผู้ได้รับคัมภีร์อันได้แก่พวกยิวและคริสต์ ไม่ได้แตกแยกความคิดเห็นออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ในกรณีที่เกี่ยวกับการมาของศาสนทูตคนสุดท้าย คือ นบีมุฮำมัด นอกจากภายหลังที่ได้มีหลักฐานอันแจ้งชัดมาสู่พวกเขาแล้ว นั้นคือ ปรากฏนบีมุฮำมัด และอัลกุรอานที่มีความมหัศจรรย์ ซึ่งพวกนั้นก็เกิดข้อขัดแย้งขึ้นมา ต่อความรู้เดิมจากคัมภีร์ที่ระบุว่าจะมีนบีอีกคนหนึ่งมาประกาศสัจธรรม
๕. และพวกเขาไม่ได้ถูกใช้ให้ประพฤติสิ่งใดเลย นอกจากเมื่อพวกเขาทำการนมัสการต่ออัลเลาะห์โดยบริสุทธิ์แห่งนมัสการต่อพระองค์โดยพวกเขาเป็นผู้ยึดสัจธรรมแห่งอิสลามอย่างแน่นเหนียวไม่คลอนแคลน และพวกเขาทำละหมาดและบริจาคซะกาต และนั้นเป็นศาสนาแห่งความเที่ยงตรง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 17, 2010, 05:33 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 95 - 98)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ก.ค. 18, 2010, 01:58 AM »
0

สูเราะฮฺ อัลบัยยินะฮฺ อายะฮฺที่ 6 – 8


คำอ่าน
6. อิน..นัลละซีนะกะฟะรูมินอะฮฺลิลกิตาบิ วัลมุชริกีนะ ฟีนาริญะฮัน..นะมะ คอลิดีนะฟีฮา อุลา..อิกะฮุมชัรรุลบะรียะฮฺ
7. อิน..นัลละซีนะอามะนูวะอะมิลุศศอลิหาติ อุลา..อิกะฮุม ค็อยรุลบะรียะฮฺ
8. ญะซา..อุฮุม อิน..ดะร็อบบิฮิม ญัน..นาตุอัดนิน..ตัจญรีมิน..ตะหฺติฮัลอันฮารุ คอลิดีนะฟีฮา..อะบะดา เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม วะเราะฎูอันฮุ ซาลิกะลิมัน เคาะชิยะร็อบบะฮฺ


คำแปล R1.
6. Verily, those who disbelieve (in the Religion of Islam, the Qur'an and Prophet Muhammad) from among the people of the Scripture (Jews and Christians) and Al-Mushrikun will abide in the Fire of Hell. They are the worst of creatures.
7. Verily, those who believe [in the Oneness of Allah, and in his Messenger Muhammad) including all obligations ordered by Islam] and do righteous good deeds, they are the best of creatures.
8. Their reward with their Lord is 'Adn (Eden) Paradise (Gardens of Eternity), underneath which rivers flow, they will abide therein forever, Allah well-pleased with them, and they with Him. That is for him who fears his Lord.


คำแปล R2.
6. แท้จริงบรรดาผู้ไร้ศรัทธาจากชาวคัมภีร์และพวกตั้งภาคีย่อมอยู่ในนรกยะฮันนัมโดยเข้าประจำในนั้น(เป็นนิรันดร)พวกเหล่านั้นเป็นมนุษย์ที่เลวร้ายยิ่ง
7. แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาและประพฤติสิ่งดีงามต่าง ๆ พวกเหล่านั้นเป็นมนุษย์ที่ประเสริฐที่สุด
8. สิ่งตอบแทนของพวกเขา ณ องค์อภิบาลแห่งพวกเขาคือสวรรค์อันอมตะ ซึ่งมีหลายธารน้ำไหลอยู่ ณ เบื้องใต้ของมัน พวกเขาอยู่ในนั้นโดยนิรันดร อัลเลาะห์ทรงยินดีต่อพวกเขา และพวกเขาก็ยินดีในอัลเลาะห์ นั่นแหละ(สิ่งตอบแทน)สำหรับผู้ที่เกรงกลัวองค์อภิบาลของเขา


คำแปล R3.
6. แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธจากในหมู่ชาวคัมภีร์และผู้บูชาเทวรูปนั้นจะได้อยู่ในนรกตลอดกาล พวกเขาเหล่านั้นเป็นมนุษย์ที่ชั่วช้าที่สุด
7. สำหรับบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีนั้น พวกเขาคือมนุษย์ที่ดีที่สุด
8. การตอบแทนของพวกเขาที่พระผู้อภิบาล ของพวกเขาคือสวนสวรรค์อันนิรันดร ที่ใต้นั้นมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน พวกเขาจะได้อยู่ในนั้นตลอดกาล อัลลอฮฺจะทรงยินดีกับพวกเขาและพวกเขาจะยินดีในพระองค์ ทั้งหมดนี้สำหรับผู้เกรงกลัวพระผู้อภิบาลของพวกเขา


คำแปล R4.
6. แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในหมู่อะฮฺลุลกิตาบและบูชาเจว็ดนั้นจะอยู่ในนรก ญะฮันนัม พวกเขาเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล ชนเหล่านั้นพวกเขาเป็นมนุษย์ที่ชั่วช้ายิ่ง
7. แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลาย ชนเหล่านั้น พวกเขาเป็นมนุษย์ที่ดียิ่ง
8. การตอบแทนของพวกเขา ณ ที่พระเจ้าของพวกเขาคือสวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพร ณ เบื้องล่างของมันมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน พวกเขาเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล อัลลอฮฺทรงปิติต่อพวกเขา และพวกเขาก็ยินดีในพระองค์ นั่นคือสำหรับผู้ที่กลัวเกรงพระเจ้าของพวกเขา


คำแปล R5.
๖. แท้จริงบรรดาจำพวกไร้ศรัทธาจากชาวคัมภีร์และชาวตั้งภาคี ต้องอยู่ในนรกยะฮันนัม โดยพวกเขาประจำในนั้นตลอดไป พวกเหล่านั้นเป็นมนุษย์ที่ชั่วช้ายิ่ง
๗. แท้จริงบรรดาผู้มีศรัทธา และประพฤติบรรดาความดี พวกเหล่านั้นเป็นมนุษย์ที่ประเสริฐสุด
๘. การตอบแทนพวกเขา ณ ผู้ทรงอภิบาลแห่งพวกเขาคือสรวงสวรรค์อันอมตะซึ่งมีแม่น้ำไหลจากเบื้องใต้ของมัน พวกเขาประจำอยู่ในนั้นตลอดกาลนาน อัลเลาะห์ทรงยินดีต่อพวกเขาและพวกเขาก็มีความยินดีในพระองค์ นั้นเป็นสิ่งที่ถูกเตรียมไว้ สำหรับผู้ที่เกรงกลัวผู้ทรงอภิบาลของเขา



จบสูเราะฮฺที่ 98 อัลบัยยินะฮฺ

 

GoogleTagged