ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 50 กอฟ)  (อ่าน 3124 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ กอฟ (R3.)
เป็นซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มี 45 อายะฮฺ
ชื่อ : ซูเราะฮฺนี้ได้ชื่อมาจากตัวอักษร ก๊อฟ (ق) ซึ่งเป็นตัวอักษรเริ่มต้นซูเราะฮฺ
ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ : ไม่มีฮะดีษที่เชื่อถือได้ใด ๆ แสดงให้รู้ว่าซูเราะฮฺนี้ได้ถูกประทานลงมาเมื่อใด อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาเนื้อหาของซูเราะฮฺทำให้เราทราบว่าระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺนี้อยู่ในช่วงที่สองของชีวิตการเป็นรอซูลุลลอฮฺในมักกะฮฺ ซึ่งเริ่มจากปีที่ 3 ไปจนถึงปีที่ 5 ของการเป็นนบี เราได้อธิบายถึงสภาพของระยะนี้ไว้แล้วในบทนำของซูเราะฮฺ อัลอันอาม เมื่อพิจารณาสภาพดังกล่าวก็สามารถสรุปได้ว่าซูเราะฮฺนี้ถูกประทานลงมาในราวปีที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงที่ความเป็นศัตรูของบรรดาผู้ปฏิเสธได้ทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นกดขี่ ทารุณ
เนื้อหาสาระ : ฮะดีษที่เชื่อถือได้หลายตอนแสดงให้เห็นว่าท่านรอซูลุลลอฮฺ เคยอ่านซูเราะฮฺนี้ในการนมาซอีด ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า อุมมุฮิชาม บิน ฮาริษะฮฺ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า นางสามารถจะท่องจำซูเราะฮฺก๊อฟได้ก็เพราะว่านางได้ยินจากท่านรอซูลุลลอฮฺในการนมาซวันศุกร์ ตามฮะดีษอื่น ๆ ระบุว่าท่านมักจะอ่านซูเราะฮฺนี้ในละหมาดฟะญัรฺ นี่เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าซูเราะฮฺนี้เป็นซูเราะฮฺที่สำคัญในทัศนะของท่านรอซูลุลลอฮฺ นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมท่านจึงได้พยายามจะให้แน่ใจครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เนื้อหาของซูเราะฮฺนี้จะต้องไปถึงผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เหตุผลที่ว่า ทำไมซูเราะฮฺนี้ถึงมีความสำคัญนั้น สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดายหากได้มีการศึกษาซูเราะฮฺนี้อย่างรอบคอบ หัวข้อสำคัญของซูเราะฮฺนี้ทั้งหมดก็คือเรื่องโลกหน้า เมื่อท่านรอซูลุลลอฮฺเริ่มประกาศสาส์น ของท่านในมักกะฮฺ สิ่งที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจมากที่สุดก็คือเรื่องที่ว่ามนุษย์จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากความตายและจะต้องไปรับการสอบสวนการกระทำของพวกเขา แต่ผู้คนกลับพากันกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ สติปัญญาของมนุษย์ไม่อาจคิดได้ว่ามันจะเกิดขึ้น ที่สำคัญก็คือ มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อร่างกายได้แยกสลายกลายเป็นธุลีดินไปแล้ว จะกลับมารวมกันแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง กลังจากที่เวลาผ่านไปนับเป็นพันปี ? ดังนั้น อัลลอฮฺได้ประทานซูเราะฮฺนี้ลงมาเพื่อตอบข้อสงสัยดังกล่าว ในซูเราะฮฺนี้ ด้านหนึ่งได้มีการอธิบายอย่างย่อ ๆ ถึงเหตุผลเรื่องความเป็นไปได้ของการฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และในอีกด้านหนึ่ง ได้มีการเตือนผู้คนเหมือนกับจะกล่าวว่า  ไม่ว่าสูเจ้าจะแปลกใจหรือสูเจ้าจะถือว่ามันเป็นอะไรที่เกินไปกว่าเหตุผล หรือจะปฏิเสธมันโดยสิ้นเชิงเลยก็ตาม แต่สูเจ้าก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ ความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลยก็คือ อัลลอฮฺทรงรู้ดีว่าทุกอณูของร่างกายของสูเจ้าที่แตกสลายกลายเป็นธุลีดินไปแล้วนั้นอยู่ที่ไหนและทรงรู้ว่ามันอยู่ในสภาพอย่างไร แค่สัญญาณหนึ่งของอัลลอฮฺก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ส่วนต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายไป กลับมารวมเข้าด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง และทำให้สูเจ้าฟื้นขึ้นเหมือนกับที่สูเจ้าได้ถูกทำให้เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ในทีแรก ในทำนองเดียวกัน ความคิดของสูเจ้าที่ว่า สูเจ้าได้ถูกสร้างมาแล้วและถูกปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นอิสระในโลกโดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ใดนั้นก็ไม่มีอะไรนอกไปจากความเข้าใจผิด ความจริงก็คือว่า ไม่เพียงแต่อัลลอฮฺจะทรงรู้ถึงการกระทำและคำพูดของเขาทุกอย่างได้โดยตรง และทรงรู้ถึงความคิดต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในจิตใจของสูเจ้าเท่านั้น แต่มลาอิกะฮฺของพระองค์ยังเฝ้าติดตามสูเจ้าเพื่อคอยบันทึกคำพูดและการกระทำทุกอย่างของสูเจ้าด้วย เมื่อเวลานั้นมาถึง สูเจ้าก็จะออกมาจากหลุมฝังศพของสูเจ้าโดยการเรียกเพียงครั้งเดียว เหมือนกับต้นอ่อนของผักที่โผล่ขึ้นมาจากผืนดินเมื่อได้รับน้ำฝนครั้งแรก หลังจากนั้น ความไม่เชื่อในเรื่องนี้ซึ่งเป็นอุปสรรคขัดขวางสูเจ้ามิให้มองเห็นความจริงก็จะถูกเปิดออก และสูเจ้าจะเห็นสิ่งที่สูเจ้าปฏิเสธด้วยตาของสูเจ้าเอง ในเวลานั้น สูเจ้าจะรู้ว่าสูเจ้ามิได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยปราศจากความรับผิดชอบในโลกนี้ แต่สูเจ้าจะต้องถูกสอบสวนการกระทำทุกอย่างที่ได้ทำไป สูเจ้าจะได้พบกับการตอบแทนรางวัลความดีและการลงโทษ จะได้พบนรกและสวรรค์ซึ่งสูเจ้าคิดว่า มันเป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพราะการปฏิเสธสัจธรรมนี้นี่เองที่สูเจ้าจะถูกโยนเข้าไปในนรกที่สูเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องไร้เหตุผลในขณะที่สูเจ้ายังมีชีวิตส่วนคนที่เกรงกลัวพระเจ้าและหันไปยังหนทางแห่งความดีจะได้รับเข้าสู่สวรรค์ที่สูเจ้าชอบประหลาดใจเมื่อเห็นใครเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา


เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 1 - 3





คำอ่าน
1. กอฟ วัลกุรฺอานิลมะญีด
2. บัลอะญิบู..อัน..ญา...อะฮุม..มุน..ซิรุม..มินฮุม ฟะกอลัลกาฟิรูนะ ฮาซาชัยอุนอะญีบ
3. อะอิซามิตนา วะกุน..นาตุรอบัน..ซาลิกะ ร็อจอุม..บะอีด


คำแปล R1.
1. Qaf. [These letters (Qaf, etc.) are one of the miracles of the Qur'an, and none but Allah (Alone) knows their meanings].
2. Nay, they wonder that there has come to them a Warner (Muhammad) from among themselves. So the disbelievers say: "This is a strange thing!
3. "When we are dead and have become dust (shall we be resurrected?) That is a far return."


คำแปล R2.
1. ก๊อฟ ! ขอยืนยันด้วยอัลกุรอานที่มีเกียรติยิ่ง
2. ทว่า! พวกเขามีความฉงน ในการที่มีศาสดาผู้ตักเตือนจากเชื้อชาติของพวกเขาเอง (ได้ถูกแต่งตั้งให้) มาเผยแพร่ต่อพวกเขา และบรรดาจำพวกไร้ศรัทธาก็พูดว่า “นี่เป็นสิ่งที่น่าฉงนยิ่งนัก !”
3. “(พวกเราจะกลับฟื้นขึ้นมาอีกกระนั้น)หรือ ? เมื่อเราได้ตายและกลายเป็นดินไปแล้ว นั่นเป็นการกลับอันห่างไกลยิ่งนัก(ที่จะเป็นไปได้)


คำแปล R3.
1. ก๊อฟ ขอสาบานด้วยกุรอานอันทรงเกียรติ
2. แต่ทว่าพวกเขาประหลาดใจที่มีผู้ตักเตือนคนหนึ่งจากในหมู่พวกเขาได้มายังพวกเขา ดังนั้นบรรดาผู้ปฏิเสธจึงได้กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องแปลกประหลาดจริง ๆ
3. เมื่อเราตายและกลายเป็นธุลีดินไปแล้ว (เราจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง?)นั่นเป็นการกลับที่ไกลจากเหตุผล”


คำแปล R4.
1. ก็อฟ  ขอสาบานด้วยอัลกุรอานอันทรงเกียรติ
2. แต่ว่าพวกเขาประหลาดใจที่มีผู้ตักเตือนคนหนึ่งจากหมู่พวกเขามายังพวกเขา ดังนั้นพวกปฏิเสธศรัทธาจึงกล่าวว่า นี่มันเป็นเรื่องประหลาดจริง ๆ 
3. เมื่อเราตายและกลายเป็นฝุ่นดินไปแล้ว จะกลับมีชีวิตอีกกระนั้นหรือ? นั่นเป็นการกลับที่ไกลเหลือเกิน


คำแปล R5.
๑. ก๊อฟ อัลเลาะห์ทรงรู้ความหมายเพียงพระองค์เดียว ขอสาบานด้วยอัลกุรอานอันทรงเกียรติ จำพวกเนรคุณหาได้เชื่อถือในนบีมุฮำมัดแต่ประการใดไม่
๒. ทว่า พวกเขามีความสนเท่ห์ต่อการที่มีผู้ตักเตือนซึ่งเป็นคนหนึ่งจากเชื้อชาติของพวกเขาเอง ในกรณีที่เขาได้ประกาศในเรื่องที่เกี่ยวกับการฟื้นขึ้นจากสุสานและขู่ว่าจะต้องเข้านรก หากผู้ใดไม่ยอมศรัทธา ครั้นแล้วพวกเนรคุณก็กล่าวว่า นี้เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนเท่ห์
๓. จะเป็นไปได้หรือ เมื่อเราได้ตายไปแล้ว โดยเรากลายเป็นดินแล้วจะฟื้นขึ้นมาอีก นั้นเป็นการคืนกลับสู่สภาพมีชีวิตอันห่างไกลต่อความเป็นไปได้เหลือเกิน




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 4 - 5




คำอ่าน
4. ก็อดอะลิมนา มาตัน..กุศุลอัรฎุ มินฮุม วะอิน..ดะนากิตาบุนหะฟีซ
5. บัลกัซซะบูบิลหักกิ ลัม..มาญา...อะฮุม ฟะฮุมฟี..อัมริม..มะรีจญฺ


คำแปล R1.
4. We already know how much of them the earth takes away: with us is a record guarding (the full account).
5. But they deny the truth when it comes to them: so they are in a confused state.


คำแปล R2.
4. แท้จริงเรารู้ถึงสิ่งที่แผ่นดินกัดกร่อนจาก(ร่างกายของ)พวกเขา(จนเน่าเปื่อยและผุยผงละลายไป)และเรานั้นมีบันทึกที่ถูกรักษาไว้
5. ทว่า! พวกเขาได้ว่าสัจธรรมเป็นความเท็จ เมื่อสัจธรรมได้มาสู่พวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงตกอยู่ในสภาพอันสับสน


คำแปล R3.
4. เรารู้ดีถึงสิ่งที่แผ่นดินกลืนกินพวกเขาไป และเรามีบันทึกที่เก็บรักษาทุกสิ่งไว้
5. แต่คนเหล่านี้ปฏิเสธสัจธรรม เมื่อมันมาถึงพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงเกิดความสับสน


คำแปล R4.
4. แน่นอนเรารู้ดีว่า กี่มากน้อยแล้วที่แผ่นดินทำให้พวกเขามีจำนวนลดน้อยลง และ ณ ที่เรานั้นมีบันทึกรักษาไว้
5. เปล่าเลย! พวกเขาปฏิเสธความจริงต่างหาก เมื่อมันได้มีมายังพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ในภาวะที่สับสน


คำแปล R5.
๔. อัลเลาะห์ทรงตรัสว่าแท้จริงเรารู้ถึงสิ่งที่แผ่นดินได้กร่อนร่างกายจากพวกเขาที่ตายไปนั้น จนไม่เหลืออะไรไว้เลย แต่เรามีบันทึกที่ถูกรักษาไว้ คือ เลาฮุลมะฮ์ฟูซ ซึ่งบันทึกปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่จะอุบัติขึ้นทั้งมวล รวมทั้งการฟื้นขึ้นของคนตายเหล่านั้นด้วย
๕. แต่พวกเขากล่าวหาอัลกุรอานที่เป็นจริงว่า เป็นเรื่องเท็จ เมื่อสิ่งนั้นได้มาสู่พวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ในการงานอันสับสนต่อการพิจารณาถึงอัลกุรอาน โดยพวกเขาคิดว่า เป็นกาพย์กลอนบ้าง เป็นโหราศาสตร์บ้าง



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 6 - 8
     



คำอ่าน
6. อะฟะลัมยัน..ซุรู..อิลัสสะมา...อิ เฟาเกาะฮุม กัยฟะบะนัยนาฮา วะมาละฮา มิน..ฟุรูจญฺ
7. วัลอัรฺเฎาะ มะดัดนาฮา วะอัลก็อยนาฟีฮา เราะวาสิยะ วะอัม..บัดนาฟีฮา มิน..กุลลิเซาญิม..บะฮีจญฺ
8. ตับศิเราะเตา..วะซิกรอ ลิกุลลิอับดิม..มุนีบ


คำแปล R1.
6. Have they not looked at the heaven above them, how we have made it and adorned it, and there are no rifts in it?
7. And the earth! We have spread it out, and set thereon mountains standing firm, and have produced therein every kind of lovely growth (plants).
8. An insight and a reminder for every slave turning to Allah (i.e. the one who believes in Allah and performs deeds of his obedience, and always begs his pardon).


คำแปล R2.
6. พวกเขามิได้พินิจถึงฟากฟ้าที่อยู่เหนือพวกเขาดอกหรือว่าเราได้ก่อสร้างมันและได้ประดับมันไว้อย่างไร โดยที่มันไม่มีรอบแตกเลย
7. และเราได้แผ่นดินออกให้แผ่กว้างและเราได้เรียงรายขุนเขาไว้ในนั้น และให้มีพืชอันงามสง่าทุกชนิดงอกอยู่บนมัน
8. เพื่อเป็นเครื่องสังเกตและเป็นข้อเตือนสติแก่บ่าวที่มีจิตน้อมกลับคืนสู่อัลเลาะฮฺทุก ๆ คน

 
คำแปล R3.
6. อะไรกัน พวกเขาไม่เคยมองขึ้นไปบนฟากฟ้าเหนือพวกเขาเลยหรือว่า เราได้สร้างมันขึ้นมาและได้ประดับประดามันไว้อย่างไร และมันไม่มีช่องโหว่ในนั้นเลย ?
7. และเราได้แผ่ขยายแผ่นดินออกไปและได้ตั้งภูเขาขึ้นในนั้น และได้ทำให้พืชผักที่สวยงามทุกชนิด งอกเงยออกมา
8. สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นที่เห็นได้ชัดและเป็นการเตือนสำหรับบ่าวทุกคนที่หันกลับ(ไปสู่สัจธรรม)


คำแปล R4.
6. พวกเขามิได้มองไปยังฟากฟ้าเหนือพวกเขาดอกหรือ ว่าเราได้สร้างมันและประดับมันไว้อย่างไร และมันไม่มีรอยร้าวหรือช่องโหว่เลย
7. และแผ่นดินนั้นเราได้แผ่ให้มันกว้างออกไปและในแผ่นดินเราได้ปักภูเขาไว้ อย่างมั่นคง  และในแผ่นดินนั้นเราให้พฤกษชาติทุกชนิดงอกเงยออกมาเป็นคู่ ๆ อย่างสวยงาม
8. เพื่อให้เป็นที่สังเกตและเป็นการเตือนให้รำลึกแก่บ่าวทุกคนผู้สำนึกผิด


คำแปล R5.
๖. แล้วพวกเขามิได้พิจารณาฟากฟ้าที่อยู่เหนือพวกเขาดอกหรือว่า เราได้สร้างมันอย่างไร และเราได้ประดับประดามันด้วยดวงตะวัน ดวงเดือนและดวงดาวอย่างไร โดยที่มันไม่มีรอยแตกที่น่าตำหนิเลย
๗. และเราได้ปูแผ่นดินไว้บนน้ำ และเราได้ปักขุนเขาไว้ในมัน และเราได้ให้งอกเงยในนั้น ซึ่งพืชพันธุ์อันงามสง่า
๘. เพื่อเป็นข้อสังเกตและข้อเตือนใจแก่บ่าวที่มีจิตกลับคืนสู่อัลเลาะห์ทุก ๆ คน



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 9 - 11




คำอ่าน
9. วะนัซซัลนามินัสสะมา...อิมา...อัม..มุบาเราะกัน..ฟะอัม..บัดนาบิฮีญัน..นาติว..วะหับบัลหะศีด
10. วัน..นัคละบาสิกอติลละฮาฏ็อลอุน..นะฎีด
11. ริซก็อลลิลอิบาดิ วะอะหฺยัยนาบิฮี บัลตะดัม..มัยตา กะซาลิกัลคุรูจญฺ


คำแปล R1.
9. And we send down blessed water (rain) from the sky, and then we produce therewith gardens and grain (every kind of harvests) that are reaped.
10. And tall date-palms, with ranged clusters;
11. A provision for (Allah's) slaves. And we give life therewith to a dead land. Thus will be the resurrection (of the dead).


คำแปล R2.
9. และเราได้หลั่งน้ำฝนอันมีแต่ความจำเริญจากฟากฟ้า และเราก็ทำให้งอกงามขึ้นมาเพราะมัน ซึ่งเรือกสวนต่าง ๆ และเมล็ดของพืชที่ถูกเก็บเกี่ยวไปแล้ว
10. และบรรดาค้นอินทผลัมอันสูงชะลูดซึ่งมีผลอยู่ในเปลือกห่อหุ้มของมัน
11. เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่มวลข้าทาส และเราได้ชุบชีวิตด้วยน้ำฝนนั้นแก่บ้านเมืองที่แห้งแล้ง (ให้สดชื่นอุดมสมบูรณ์ขึ้น)ก็เช่นนั้นแหละ การ(ที่คนตายจะ)ออก(มาจากสุสานเมื่อถึงวันปรภพ)


คำแปล R3.
9. และเราได้ประทานน้ำอันจำเริญลงมาจากฟากฟ้า ซึ่งโดยน้ำนั้น เราได้ทำให้สวนมากมายและเมล็ดพืชสำหรับการเก็บเกี่ยวเกิดขึ้น
10. และต้นอินทผลัมสูงตระหง่านที่ออกผลซ้อนกันเป็นพวงย้อยลงมา
11. เป็นการจัดเตรียมปัจจัยสำหรับบ่าวทั้งหลาย และด้วยน้ำนี้ เราได้ทำให้แผ่นดินที่แห้งแล้งกลับมีชีวิตขึ้นมา เช่นนั้นแหละคือการฟื้นคืนชีพ(ของคนตาย)


คำแปล R4.
9. และเราได้ให้น้ำฝนหลั่งลงมาจากฟากฟ้าเป็นที่จำเริญแล้วด้วยน้ำนั้น เราได้ให้งอกเงยออกมาเป็นสวนอันหลากหลาย และเมล็ดพืชสำหรับเก็บเกี่ยว
10. และต้นอินทผลัม อย่างสูงตระหง่าน ลำต้นของมันมีพวงย้อยลงมามีผลซ้อนกันเป็นตับ
11. เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่ปวงบ่าว และด้วยน้ำนั้นเราทำให้ดินแดนที่แห้งแล้งมีชีวิตชีวาขึ้นใหม่ เช่นนั้นแหละการฟื้นคืนชีพ


คำแปล R5.
๙. และเราได้หลั่งจากฟ้าซึ่งน้ำฝนที่มีแต่ความมงคล และเราก็ทำให้งอกเงยเพราะมันซึ่งบรรดาเรือกสวนและเมล็ดพันธุ์ที่ถูกเก็บเกี่ยว เช่น ข้าวสาลี ข้าวฟ่าง เป็นต้น
๑๐. และทำให้งอกเงยซึ่งต้นองุ่นที่ยืนต้น อีกทั้งมันมีผลซับซ้อนเป็นพวง
๑๑. เพื่อเป็นโชคผลแก่มวลบ่าว และเราได้ชุบชีวิตเพราะฝนนั้นแก่บ้านเมืองที่ตายไปแล้วเพราะความแห้งแล้ง ประดุจเดียวกันนั้นแหละคือการที่มนุษย์ฟื้นออกมาจากสุสาน แม้จะตายไปแล้วก็ตาม




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 12 - 15




 

คำอ่าน
12. กัซซะบัตก็อบละฮุม ก็อวฺมุนูหิว..วะอัศหาบุรฺร็อสสิ วะษะมูด
13. วะอาดู..วะฟิรฺเอานุ วะอิควานุลูฏ
14. วะอัศหาบุลอัยกะติ วะก็อวมุตุบบะอฺ กุลลุน..กัซซะบัรฺรุสุละ ฟะหักเกาะวะอีด
15. ฟะอะยีนาบิลค็อลกิลเอาวัล, บัลฮุมฟีลับสิม..มินค็อลกิน..ญะดีด


คำแปล R1.
12. Denied before them (i.e. these pagans of Makkah who denied you, O Muhammad) the people of Nuh (Noah), and the dwellers of Rass, and the Thamud,
13. And 'Ad, and Fir'aun (Pharaoh), and the brethren of Lout (Lot),
14. And the dwellers of the wood, and the people of Tubba'; Everyone of them denied (their) Messengers, so My threat took effect.
15. Were we then tired with the first creation? Nay, they are in confused doubt about a new creation (i.e. resurrection)?


คำแปล R2.
12. ก่อนหน้าพวกเขา (ที่คัดค้านนบีของพวกเขา) ก็มีกลุ่มชนของนูหฺและชาวร็อส(ที่จับศาสดาของตนเองฝังในบ่อ)และพวกสะมู๊ด(ก็ได้ว่าศาสดาของตนเป็นผู้มุสาเหมือนกัน)
13. และพวกอ๊าด(ซึ่งเป็นกลุ่มชนของนบีฮู๊ด) ฟิรเอาน์และพวกพ้องของลู๊ฏ
14. และชาวป่าทึบ และกลุ่มชนของตุ๊บบะอฺทั้งหมด ล้วนว่าศาสนทูตทั้งหลายมุสา ดังนั้นสัญญาลงโทษของข้า จึงได้ปรากฏขึ้นจริง(แก่พวกเหล่านั้น)
15. แล้วเราไร้สมรรถภาพในการบันดาลครั้งแรกเริ่มกระนั้นหรือ? ทว่า! พวกเขาล้วนมีความสงสัย เกี่ยวกับการบันดาลครั้งใหม่(หลังจากตายไปแล้ว)


คำแปล R3.
12. ก่อนหน้าพวกเขา ผู้คนของนูฮฺและชาวร็อส และชาวษะมูดก็ได้เคยปฏิเสธมาแล้ว
13. และชาวอ๊าด และฟิรฺเอาน์และพี่น้องของลูฏ
14. และชาวอัยกะฮฺและชาวตุบบะอฺก็เช่นกัน ทุกคนได้ปฏิเสธรอซูล ดังนั้นการลงโทษของฉันต่อพวกเขาจึงเป็นจริง
15. เราเหน็ดเหนื่อยกระนั้นหรือในการสร้างครั้งแรก ? เปล่าเลย แต่คนเหล่านี้ก็ยังคงสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการสร้างครั้งใหม่อีก


คำแปล R4.
12. หมู่ชนของนูห.ได้ปฏิเสธมาก่อนหน้าพวกเขาแล้ว และชาวร็อส (บ่อน้ำ) และษะมูด
13. และอ๊าด และฟิรเอาน. และพี่น้องของลู๊ฎ
14. และชาวป่าทึบ และหมู่ชนของตุ๊บบะอ. พวกเหล่านั้นทั้งหมดได้ปฏิเสธบรรดาร่อซูล ดังนั้นสัญญาของเราจึงเหมาะสมคู่ควรแก่พวกเขา
15. เราได้เหน็ดเหนื่อยต่อการสร้างครั้งแรกกระนั้นหรือ? เปล่าเลย! แต่ว่าพวกเขาอยู่ในการสงสัยต่อการสร้างครั้งใหม่ต่างหาก


คำแปล R5.
๑๒. ก่อนหน้าพวกเขา ได้มีการกล่าวหาศาสนทูตโดยกลุ่มชนของนบีนูห์ และชาวบ่อน้ำ ซึ่งนบีของเขาคือ ฮันซอละฮ์อิบนิซอฟวาน หรือชุอัยบ์และพวกสะมูด
๑๓. และพวกอ๊าด และฟิรเอาน์และพี่น้องของนบีลูฏ
๑๔. และชาวป่าซึ่งเป็นกลุ่มชนของนบีซุไอบ์และกลุ่มตุ๊บบะอ เจ้าเมืองยะมัน ทุกกลุ่มตามที่กล่าวมา ได้กล่าวหาว่าบรรดาศาสนทูตพูดเท็จ เหมือนกับที่พวกอาหรับกุรอยซ์กล่าวหานบีมุฮำมัดในขณะนี้ แล้วสัญญาการลงโทษของข้าก็ได้เป็นจริงแก่พวกเขาไปแล้ว โดยทุกพวกต่างก็ถูกลงโทษต่างกรรมต่างวาระกันไป ส่วนพวกอาหรับมักกะห์ที่กล่าวหาเจ้าว่าพูดเท็จ ก็ต้องประสบการลงโทษเช่นเดียวกัน ดังนั้นเจ้าอย่าท้อใจในการกล่าวหาดังกล่าว
๑๕. แล้วเราอ่อนแอในการบันดาลครั้งแรกเริ่มหรือ เปล่าเลย เรามีอานุภาพในการบันดาลอย่างครบถ้วน ดังนั้น การที่เราจะให้ฟื้นขึ้นหลังจากตายไปแล้วจึงเป็นเรื่องง่ายยิ่งนัก แต่ทว่าพวกเขาตกอยู่ในความสงสัยเกี่ยวเนื่องด้วยการบันดาลครั้งใหม่ในวันปรภพ ภายหลังจากร่างกายเน่าเปื่อยเป็นดินไปแล้ว



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0
 salam

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 16 - 18
 


 

คำอ่าน
16. วะละก็อดเคาะลักนัลอิน..สานะ วะนะอฺละมุมาตุวัสวิสุ บิฮีนัฟสุฮฺ วะนะหฺนุอักเราะบุอิลัยฮิมินหับลิลวะรีด
17. อิซยะตะลักก็อลมุตะลักกิยานิ อะนิลยะมีนิ วะอะนิชชิมาลิเกาะอีด
18. มายัลฟิซุ มิน..ก็อวลิน อิลลาลดัยฮิ เราะกีบุนอะตีด


คำแปล R1.
16. And indeed we have created man, and we know what his own self whispers to him. And We are nearer to him than his jugular vein (by Our Knowledge).
17. (Remember!) that the two receivers (recording angels) receive (each human being after he or she has attained the age of puberty), one sitting on the right and one on the left (to note his or her actions) .
18. Not a word does he (or she) utter, but there is a watcher by him ready (to record it).


คำแปล R2.
16. ขอยืนยัน ! แท้จริงเราได้บันดาลมนุษย์มา และเรารู้ในสิ่งที่จิตใจของเขากังวลยิ่งและเรานั้นอยู่ใกล้ชิดกับเขายิ่งกว่าเส้นคอ (ของเขาเองเสียอีก)
17. ในขณะที่สอง (มลาอิกะฮฺ)ผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอด ทั้งจากด้านขวาและจากด้านซ้าย มีมลาอิกะฮฺประจำอยู่
18. ไม่ว่าเขาจะเอื้อนเอ่ยวาจาใดออกมาก็ตาม นอกจากต้องมีมลาอิกะฮฺผู้คอยสอดส่องซึ่งปรากฏอยู่กับเขาตลอดไป


คำแปล R3.
16. เราได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาและเราได้รู้ถึงการกระซิบอันชั่วร้ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาในจิตใจของเขา เราอยู่ใกล้ชิดกับเขายิ่งกว่าเส้นเลือดคอของเขาเสียอีก
17. (และนอกจากความรู้โดยตรงของเราแล้ว) ยังมีผู้บันทึกทั้งสองที่นั่งอยู่บนด้านขวาและด้านซ้ายของเขากำลังบันทึกทุกสิ่ง
18. ไม่ว่าเขาจะกล่าวถ้อยคำใดออกมา ก็ไม่เว้นที่จะมีผู้เฝ้าติดตามพร้อมที่จะบันทึกมันลงไป


คำแปล R4.
16. และโดยแน่นอน เราได้บังเกิดมนุษย์มา และเรารู้ดียิ่งที่จิตใจของเขากระซิบกระซาบแก่เขา (*1*) และเรานั้นใกล้ชิดเขายิ่งกว่าเส้นเลือดชีวิตของเขาเสียอีก
17. จงรำลึกขณะที่มาะลาอิกะฮ.ผู้บันทึกสองท่านบันทึก ท่านหนึ่งนั่งทางข้างขวา และอีกท่านหนึ่งนั่งทางข้างซ้าย
18. ไม่มีคำพูดคำใดที่เขากล่าวออกมา เว้นแต่ใกล้ ๆ เขานั้นมี (มะลัก) ผู้เฝ้าติดตาม ผู้เตรียมพร้อม (ที่จะบันทึก)


คำแปล R5.
๑๖. ขอสาบาน แท้จริงเราได้บันดาลมนุษย์และเราก็รู้ถึงสิ่งที่จิตใจของเขากระซิบอยู่กับเขาในเรื่องราวต่าง ๆ รวมทั้งความสงสัยที่เขามีอยู่ในเรื่องนี้ด้วยและเรานั้นใกล้ชิดต่อเขายิ่งกว่าเส้นคอของเขาเสียอีก
๑๗. โอ้มุฮำมัด จงระลึกเถิด เมื่อมลาอิกะห์สองคนซึ่งเป็นผู้จดบันทึกทั้งสองทำการถ่ายทอดสิ่งมนุษย์ประพฤติลงมาไว้ในบันทึกของทั้งสองจากเบื้องขวาและเบื้องซ้าย โดยทั้งสองนั้นอยู่ร่วมกับมนุษย์ตลอดเวลาไม่คลาดคลา
๑๘. เขาจะไม่เอ่ยถ้อยคำใดออกมาเลยนอกจากที่เขาจะมีสองมลาอิกะห์ผู้คอยสังเกตอีกทั้งปรากฏอยู่กับเขาตลอดไป มลาอิกะห์ทั้งสองแยกทำหน้าที่บันทึกความดีหนึ่งและบันทึกความชั่วหนึ่ง




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 19 - 22




 

คำอ่าน
19. วะญา...อัตสักเราะตุลเมาติบิลหักกฺ ซาลิกะมากุน..ตะมินฮุตะหีด
20. วะนุฟิเคาะฟิศศูริ ซาลิกะเยามุลวะอีด
21. วะญา...อัตกุลลุนัฟสิม..มะอะฮา สา..อิกู..วะชะฮีด
22. ละก็อดกุน..ตะฟีฆ็อฟละติม..มินฮาซา ฟะกะชัฟนาอัน..กะฆิฏอ..อะกะ ฟะบะเศาะรุกัลเยามะหะดีด


คำแปล R1.
19. And the stupor of death will come in truth: "This is what you have been avoiding!"
20. And the trumpet will be blown, that will be the day whereof warning (had been given) (i.e. the Day of Resurrection).
21. And every person will come forth along with an (angel) to drive (him), and an (angel) to bear witness.
22. (It will be said to the sinners): "Indeed you were heedless of this, now we have removed your covering, and sharp is your sight this Day!"


คำแปล R2.
19. และอาการทุรนของความตายได้นำมาซึ่งความจริง (ตามที่ถูกสัญญาไว้) (พร้อมกับมีผู้พูดแก่บุคคลที่ไม่ยอมรับในความจริงนั้นว่า) “นั้นเป็นภาวะที่ท่านเคยหลบหลีก!”
20. และมีการเป่าลงไปในสังข์ นั้นเป็นวันแห่งการดำเนินตามสัญญา
21. และ(หลังจากนั้น) ทุก ๆ ชีวิตจะมา (สู่จุดชุมนุม พร้อมกับ (มลาอิกะฮฺสองท่านคือ) ผู้ทำหน้าที่รวมคนและผู้เป็นพยาน
22. (พร้อมมีโองการแก่เขาว่า) แท้จริงเจ้าเคยตกอยู่ในความหลงลืมต่อวันนี้ (โดยคิดว่ามันจะไม่อุบัติขึ้น) แล้วเราก็เปิดฝากั้นของเจ้าออกไป ดังนั้นการมองเห็นของเจ้าในวันนี้จึงแหลมคม (ชัดเจน)


คำแปล R3.
19. ดังนั้น จงคอยดูอาการแห่งความตายได้มาถึงแล้วพร้อมกับความจริง นี่เป็นสิ่งเดียวกับที่สูเจ้าพยายามจะหลบหนี
20. และหลังจากนั้นแตรก็จะถูกเป่า นี่คือวันที่สูเจ้าได้ถูกสัญญาไว้
21. ทุกคนจะมาในสภาพที่มีผู้นำเขามาพร้อมกับพยาน
22. สูเจ้าไม่สนใจเรื่องนี้ เราจึงได้ดึงสิ่งปิดบังสูเจ้าออกไปจากสูเจ้า ดังนั้น วันนี้ สูเจ้าจึงมองเห็นได้ชัดเจน

 
คำแปล R4.
19. และอาการมึนงงแห่งความตายได้ปรากฏขึ้นอย่างประจักษ์แจ้ง และนั่นคือสิ่งที่เจ้าจะหลีกเลี่ยงจากมันไปไม่ได้
20. และสังข์จะถูกเป่าขึ้น นั่นคือวันแห่งการสัญญา
21. และทุก ๆ ชีวิตจะมาพร้อมกับเขาคือมะลักผู้นำทาง และมะลักผู้เป็นพยาน
22. โดยแน่นอนเจ้าไม่สนใจต่อเรื่องนี้ นั้นเราจึงเปิดสิ่งที่ปกคลุมเจ้าอยู่ให้ออกไปจากเจ้า วันนี้สายตาของเจ้าจึงเฉียบขาด


คำแปล R5.
๑๙. และอาการทุรนแห่งความตายได้มาถึงมนุษย์ทุกคน เป็นไปโดยสัจธรรมอันปฏิเสธไม่ได้ สิ่งนั้นเจ้าผวาหนีจากมันมาก่อน แต่เมื่อมาถึงจริง ๆ ก็ไม่มีใครสามารถหนีมันพ้น ความตายเป็นเหตุการณ์แรกที่สืบต่อกับวันปรภพ แม้ผู้ปฏิเสธวันปรภพก็ต้องยอมรับในสัจธรรมแห่งความได้ และได้ประจักษ์ชัดทั้งจากผู้อื่นและจากตัวเอง
๒๐. และมีการเป่าลงในสังข์เพื่อปลุกทุกคนที่ตายไปแล้วให้ฟื้นขึ้นมาจากที่อยู่ของแต่ละคน ไม่ว่าจะบนพื้นดินหรือท้องทะเลก็ตาม นั่นคือวันสัญญาที่อัลเลาะห์ได้ทรงประกาศไว้ว่าจะลงโทษพวกเนรคุณทั้งหลาย
๒๑. และทุก ๆ ชีวิตจะฟื้นขึ้นและออกมาโดยมีมลาอิกะห์ผู้ไล่ต้อนเขาและผู้เป็นสักขีพยานในความประพฤติต่าง ๆ ของพวกเขา
๒๒. ขอสาบานแท้จริงเจ้านั้น ขณะเมื่อใช้ชีวิตในสากลเจ้าได้หลงลืมต่อสิ่งนี้ที่กำลังประสบแก่เจ้า ครั้นแล้วเราก็เปิดม่านตาของเจ้าออกจากเจ้า ให้เจ้าได้มองเห็นเป็นที่ประจักษ์แจ้งถึงสิ่งที่เจ้าเคยหลงลืมและละเลยไม่สนใจมาก่อนว่าจะต้องประสบ ดังนั้นในวันนี้ดวงตาของเจ้าคมนัก สามารถมองเห็นทุก ๆ สิ่งที่เจ้าเคยปฏิเสธอย่างชัดเจน


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 23 - 26





คำอ่าน
23. วะกอละเกาะรีนุฮู ฮาซามาละดัยยะอะตีด
24. อัลกิยาฟีญะฮัน..นะมะ กุลละกัฟฟารินอะนีด
25. มัน..นาอิลลิลค็อยริ มุอฺตะดิม..มุรีบ
26. อัลละซี ญะอะละ มะอัลลอฮฺอิลาฮันอาเคาะเราะ ฟะอัลกิยาฮุ ฟิลอะซาบิชชะดีด


คำแปล R1.
23. And his companion (angel) will say: "Here is (this record) ready with me!"
24. (And it will be said): "Both of you throw (Order from Allah to the two angels) into Hell, Every stubborn disbeliever (in the Oneness of Allah, in his Messengers, etc.).
25. "Hinderer of good, transgressor, doubter,
26. "Who set up another Ilah (God) with Allah, then (both of you) cast him in the severe torment."


คำแปล R2.
23. และ(มลาอิกะฮฺ)ผู้อยู่เป็นคู่เคียงของเขาได้กล่าวว่า “(บัญชีความประพฤติฉบับ)นี้ได้ถูกเตรียมไว้ที่ฉันแล้ว (เพื่อแฉให้ชัดเจนสำหรับการพิจารณาต่อไป)”
24. (อัลเลาะฮฺทรงโองการแก่มลาอิกะฮฺทั้งสองว่า) “เจ้าทั้งสองจงทิ้งลงไปในนรกเถิด ผู้ที่ไร้ศรัทธาที่มีความดื้อรั้นทั้งหมด”
25. “(ทุกคนที่กล่าวแล้วนั้น) ซึ่งเป็นผู้ที่ชอบห้ามความดี เป็นผู้ที่ล่วงละเมิด อีกทั้งเป็นผู้ที่มีความสงสัย
26. ซึ่งเป็นผู้อุปโลกน์พระเจ้าอื่น ๆ ขึ้นเทียมเทียบอัลเลาะฮฺ ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงขว้างเขาลงไปในการลงโทษอันรุนแรงที่สุด(คือนรก)”


คำแปล R3.
23. และผู้ติดตามเขาได้กล่าวว่า “นี่คือผู้ที่อยู่ในความรับผิดชอบของฉัน”
24. (ดังนั้นจึงมีคำบัญชาว่า) “จงโยนลงนรกเสีย สำหรับผู้ปฏิเสธศรัทธาทุกคนที่ดื้อรั้น
25. ผู้ขัดขวางการทำดี ผู้ฝ่าฝืน ผู้สงสัย
26. ที่ตั้งพระเจ้าอื่น ๆ ควบคู่กับอัลลอฮฺ จงโยนเขาไปสู่การลงโทษอันสาหัส”


คำแปล R4.
23. มะลักผู้ถูกมอบหมายกล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เตรียมไว้อยู่ที่ข้าพระองค์
24. เจ้าทั้งสองจงโยนทุกคนที่ปฏิเสธศรัทธา และดื้อรั้น
25. ผู้ขัดขวางการทำดี ผู้ฝ่าฝืน ผู้สงสัย
26. ซึ่งตั้งพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ. ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงโยนเขาสู่การลงโทษอันสาหัส


คำแปล R5.
๒๓. และมลาอิกะห์ที่ถูกมอบหมายให้เป็นเพื่อนเคียงของเขาได้กล่าวว่า นี้คือบัญชีความประพฤติของเจ้าที่ปรากฏอยู่ที่ข้า
๒๔. จากนั้นก็มีคำสั่งแก่มลาอิกะห์ซะบานียะห์ผู้เฝ้านรกว่า เจ้าจงโยนลงในนรกเถิดจอมเนรคุณผู้ดื้อรั้นทุก ๆ คน อย่าเว้นไว้เลยแม้สักคนเดียวก็ตาม
๒๕. จอมขัดขวางคุณงามความดีมิให้ผู้อื่นประพฤติ เช่น การบริจาคซะกาตเป็นต้นเป็นผู้ล่วงละเมิดบทบัญญัติของอัลเลาะห์อีกทั้งเป็นผู้สงสัยในศาสนาของพระองค์
๒๖. ผู้ซึ่งอุปโลกน์พระเจ้าอื่นขึ้นเทียบเทียมพร้อมกับอัลเลาะฮฺ ดังนั้น โอ้ซะบานียะห์ เจ้าจงโยนเขาลงในนรกเพื่อการลงโทษอันรุนแรง




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0
สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 27 - 32







คำอ่าน
27. กอละเกาะรีนุฮู ร็อบบะนา มา..อัฏฆ็อยตุฮู วะลากิน..กานะฟีเฎาะลาลิม..บะอีด
28. กอละลาตัคตะศิมูละดัยยะ วะก็อด ก็อดดัมตุอิลัยกุม..บิลวะอีด
29. มายุบัดดะลุลก็อวลุละดัยยะ วะมาอะนะบิซ็อลลามิลลิลอะบีด
30. เยามะยะกูลุ ลิญะฮัน..นะมะ ฮะลิมตะละอ์ติ วะตะกูลุ ฮัลมิม..มะซีด
31. วะอุซลิฟะติลญัน..นะตุ ลิลมุตตะกีนะ ฆ็อยเราะบะอีด
32. ฮาซามาตูอะดูนะ ลิกุลลิเอาวาบินหะฟีซ


คำแปล R1.
27. His companion (Satan devil)] will say: "Our Lord! I did not push him to transgress, (in disbelief, oppression, and evil deeds) but he was himself in error far astray."
28. Allah will say: "Dispute not in front of Me, I had already, in advance, sent you the threat.
29. The sentence that comes from Me cannot be changed, and I am not unjust (to the least) to the slaves."
30. On the day when we will Say to Hell: "Are you filled?" it will say: "Are there any more (to come)?"
31. And Paradise will be brought near to the Muttaqun (pious - see V.2:2) not far off.
32. (It will be said): "This is what you were promised, - (it is) for those oft-returning (to Allah) in sincere repentance, and those who preserve their covenant with Allah (by obeying him in all what He has ordered, and worship none but Allah alone, i.e. follow Allah's religion, Islamic Monotheism).


คำแปล R2.
27. มารร้ายผู้เคียงคู่กับเขาได้กล่าวขึ้นบ้างว่า “โอ้องค์อภิบาลของเรา ความจริงข้าพเจ้ามิได้ทำให้เขาหลงผิดหรอก แต่ตัวเขาเองต่างหากที่ตกอยู่ในความหลงผิดอันห่างไกล
28. อัลเลาะฮฺทรงโองการว่า“พวกเจ้าอย่าทะเลาะกันต่อหน้าข้า เพราะว่าแท้จริงข้าได้ให้สัญญาล่วงหน้าไว้แก่พวกเจ้าแล้ว (ว่าจะลงโทษผู้กระทำผิดทุกคน)”
29. อันประกาศิตของข้านั้นย่อมไม่มีการเปลี่ยนแปลง และข้าเองก็มิใช่ผู้อธรรมต่อข้าทาส (ทั้งมวล)
30. (จงระลึกเถิดโอ้มุฮำหมัดถึง) วันซึ่งเราตรัส (แก่นรก)ว่า “เจ้าเต็มแล้วหรือ?” และมันตอบว่า “ยังจะมีเพิ่มอีกหรือ?” (คำตอบเช่นนี้แสดงว่า ยังไม่เต็ม มีที่ว่างบรรจุได้อีก)
31. แล้วสวรรค์ได้ถูกนำมาเสนอต่อมวลผู้ยำเกรงอัลเลาะฮฺโดยใกล้ชิด มิได้ห่างไกลเลย
32. (พร้อมกับมีผู้ประกาศว่า) “นี้เป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายถูกสัญญาไว้ สำหรับผู้กลับคืน (สู่อัลเลาะฮฺ) อีกทั้งพิทักษ์ (ไว้ซึ่งบทบัญญัติของพระองค์) ทุก ๆ คน


คำแปล R3.
27. ผู้ติดตามเขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา ข้าพระองค์มิได้ทำให้เขาหลงผิดแต่ประการใด แต่เขาเองต่างหากที่หลงผิดไปไกลมาก่อนแล้ว”
28. พระองค์จึงได้กล่าวว่า “อย่ามาถกเถียงกันต่อหน้าฉันเลย ฉันได้เตือนสูเจ้ามาแล้ว”
29. การตัดสินของฉันไม่อาจที่จะเปลี่ยนแปลงได้ และฉันก็จะไม่อธรรมต่อปวงบ่าวของฉัน”
30. วันที่เราจะถามนรกว่า “เจ้าเต็มแล้วหรือยัง ?” มันจะกล่าวว่า “ยัง มีมากกว่านี้อีกไหม?”
31. และสวรรค์จะถูกนำมาใกล้ผู้ยำเกรง ซึ่งไม่ไกลเลย
32. (จะมีคำกล่าวว่า) “นี่คือสิ่งที่ได้ถูกสัญญาไว้แก่ทุกคนที่หันกลับ(ยังอัลลอฮฺ)อย่างต่อเนื่อง และที่เฝ้าระวัง


คำแปล R4.
27. (ชัยฏอน) สหายของเขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของเรา ข้าพระองค์มิได้ทำให้เขาหลงผิดดอกแต่ทว่าเขาได้อยู่ในการหลงผิดมาก่อนแล้ว
28. พระองค์ตรัสว่า พวกเจ้าอย่ามาโต้เถียงต่อหน้าข้าเลย และแน่นอนข้าได้เตือนพวกเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว
29. พระดำรัสของข้า จะไม่ถูกเปลี่ยนแปลง ณ บัดนี้ และข้าก็มิได้เป็นผู้ยุติธรรมต่อปวงบ่าวของข้าเลย
30. วันซึ่งเราจะกล่าวแก่นรกกญะฮันนัมว่า เจ้าเต็มแล้วหรือ? และมันจะกล่าวว่า ยังมีเพิ่มอีกไหม?
31. และสวนสวรรค์ก็ถูกนำให้มาใกล้แก่บรรดาผู้ยำเกรงมันมิได้อยู่ไกลเลย
32. นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าได้ถูกสัญญาไว้สำหรับทุกคนที่สำนึกผิด (หันหน้าเข้าหาอัลลอฮ.) ผู้รักษาบัญญัติ (ของอัลลอฮ.)


คำแปล R5.
๒๗. มารร้าย ผู้เป็นเพื่อนเคียงของเขาได้กล่าวว่า โอ้องค์อภิบาลของเรา ข้าพเจ้ามิได้ทำให้เขาหลงผิดแต่ประการใด ๆ แต่ตัวเขาอยู่ในความหลงผิดอันห่างไกลเอง เมื่อข้าพเจ้าเพียงแต่ชักชวนเขามาทำผิด เขาก็มาตามคำชวนอย่างง่ายดาย และฝ่ายมนุษย์ที่ถูกประกาศิตให้รับโทษนั้นก็วัดทอดมารร้ายว่า ความจริงเจ้านั้นแหละที่ทำให้ข้าหลงผิด
๒๘. อัลเลาะห์ พระองค์ทรงตรัสว่าพวกเจ้าอย่าได้โต้เถียงกันต่อหน้าข้า ไม่มีประโยชน์อันใดอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง ข้าได้ให้สัญญาแก่พวกเจ้าไว้เป็นการล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะลงโทษเช่นที่พวกเจ้ากำลังประสบขณะนี้ แต่พวกเจ้าไม่รับฟังและไม่ศรัทธาเอง
๒๙. อันประกาศิตของข้านั้นย่อมไม่ถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่น เมื่อสั่งการให้ลงโทษก็ต้องลงโทษ และข้ามิใช่ผู้อธรรมแก่บ่าว แต่ประการใด ๆ ทั้งสิ้น ที่ลงโทษก็เป็นการสาสมแล้ว และอัตราการลงโทษก็เหมาะสมกับความผิดที่เขาได้กระทำไว้ไม่เกินเลย
๓๐. โอ้มุฮำมัด เจ้าจงระลึกถึงวันที่เราดำรัสแก่นรกว่า เจ้าเต็มแล้วหรือ บรรดาผู้ต้องโทษที่ถูกบรรจุลงมานั้นและมันทูลตอบว่า ยังจะมีเพิ่มมาอีกหรือข้าพเจ้าบรรจุพวกเนรคุณไว้จนเต็มแล้วไม่สามารถจะรับเกินไปจากนี้ได้อีกแล้ว
๓๑. และสวรรค์ได้ถูกนำมาอยู่ใกล้สำหรับบรรดาผู้ยำเกรงทั้งหลาย มิได้ห่างไกลเลย พวกเขาสามารถมองเห็นมันอย่างชัดเจนที่สุด
๓๒. จากนั้นมีผู้ประกาศแก่พวกเขาว่า นี้คือสิ่งที่ท่านทั้งหลายถูกสัญญาไว้ แต่ครั้งที่พวกเจ้ายังมีชิตอยู่ในสากลโลก สำหรับผู้มีจิตกลับคืนสู่อัลเลาะห์ อีกทั้งพิทักษ์ไว้ซึ่งบทบัญญัติของพระองค์โดยไม่ละเลย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 18, 2010, 01:40 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 33 - 35




คำอ่าน
33. มันเคาะชิยัรฺเราะหฺมานะ บิลฆ็อยบิ วะญา..อะบิก็อลบิม..มุนีบ
34. อุดคุลูฮาบิสะลาม, ซาลิกะเยามุลคุลูด
35. ละฮุม..มายะชา...อูนะฟีฮาวะละดัยนามะซีด


คำแปล R1.
33. "Who feared the most beneficent (Allah) in the Ghaib (unseen): (i.e. In this worldly life before  seeing and meeting him), and brought a heart turned in repentance (to Him - and absolutely free from each and every kind of polytheism),
34. "Enter you therein in peace and security; this is a day of eternal life!"
35. There they will have all that they desire, and we have more (for them, i.e. a glance at the All-Mighty, All-Majestic).


คำแปล R2.
33. ผู้ใดเกรงกลัวพระผู้ทรงเมตตา ในยามลี้ลับ (ไม่มีใครมองเห็น) และเขามา (หาพระองค์) ด้วยหัวใจที่น้อมกลับ (ภักดี)
34. (พวกเขาถูกเชิญว่า) “พวกท่านทั้งหลายจงเข้าสู่สวรรค์โดยสันติสุขเถิด นั้นเป็นวันแห่งนิรันดรภาพ (อันหาจุดยุติไม่ได้)”
35. พวกเขาจะได้สิ่งที่ปรารถนาในนั้น (ทุกประการ) และเรายังมีของแถม (แก่พวกเขาอีกด้วย)


คำแปล R3.
33. ผู้เกรงกลัวพระผู้ทรงกรุณาปรานีซึ่งมองไม่เห็น และผู้มาด้วยหัวใจที่อุทิศให้
34. จงเข้าไปในสวรรค์ด้วยความสันติเถิด นั่นคือวันแห่งชีวิตอันนิรันดร์
35. ที่นั่น พวกเขาจะได้รับทุกสิ่งที่พวกเขาปรารถนา และเรายังมีอีกมากมายที่เราสำหรับพวกเขาเหล่านั้น


คำแปล R4.
33. ผู้ที่เกรงกลัวพระผู้ทรงกรุณาปรานีโดยทางลับ และมาหา (พระองค์) ด้วยจิตใจที่สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว
34. พวกเจ้าจงเข้าไปในสวนสวรรค์ด้วยความศานติ นั่นคือวันแห่งการพำนักอยู่ตลอดกาล
35. สำหรับพวกเขาจะได้รับสิ่งที่พวกเขาพึงประสงค์ในสวนสวรรค์ และ ณ ที่เรานั้นยังมีอีกมากมาย


คำแปล R5.
๓๓. นั่นคือผู้ที่ยำกลัวอัลเลาะห์ผู้ทรงเมตตาทั้ง ๆ ที่เร้นลับ ไม่สามารถเห็นพระองค์ได้ และเขามาสู่อัลเลาะห์ด้วยหัวใจที่กลับคืน
๓๔. พวกเจ้าจงเข้ามันโดยสันติภาพเถิด นั้นเป็นวันแห่งนิรันดรภาพ ไม่มีวันสุดสิ้น
๓๕. พวกเขามีสิ่งที่ต้องการอยู่ในนั้นครบทุกอย่าง และที่เรามีสิ่งเพิ่มเติมแก่เขาเกินกว่าที่เขาประพฤติและขอไว้ด้วยซ้ำ





ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่  36 - 37



คำอ่าน
36. วะกัมอะฮฺลักนาก็อบละฮุม..มิน..ก็อรฺนินฮุม อะชัดดุ มินฮุม..บัฏชัน..ฟะนักเกาะบูฟิลบิลาดิ ฮัลมิม..มะหีศ
37. อิน..นะฟีซาลิกะ ละซิกรอ ลิมัน..กานะละฮู ก็อลบุน เอาอัลก็อสสัมอะ วะฮุวะชะฮีด


คำแปล R1.
36. And how many a generation we have destroyed before them, who were stronger in power than them, and (when our torment came) they ran for a refuge in the land! Could they find any place of refuge (for them to save themselves from destruction)?
37. Verily, therein is indeed a Reminder for Him who has a heart or gives ear while He is heedful.


คำแปล R2.
36. และมีประชาชาติในศตวรรษต่าง ๆ ก่อนหน้าพวกเขาเป็นจำนวนตั้งมากมายเท่าใดแล้ว ที่เราได้ทำลายล้างทั้ง ๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นมีพลังอันร้ายกาจยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก แล้วพวกเหล่านั้นก็ค้นหาที่หลบภัยในเมืองต่าง ๆ พวกเขามีที่หลบหนีกระนั้นหรือ ?
37. แท้จริงในนั้น ย่อมเป็นข้อเตือนสติสำหรับผู้มีจิตสำนึกหรือตั้งใจฟัง (คำตักเตือนนั้น) โดยเขามีความเอาใจใส่อย่างแท้จริง


คำแปล R3.
36. เราได้ทำลายชนชาติต่าง ๆ ไปกี่ชนชาติแล้วก่อนหน้าพวกเขา ซึ่งมีอำนาจเข้มแข็งกว่าพวกเขาและเที่ยวออกปล้นไปตามเมืองต่าง ๆ หลังจากนั้นแล้วพวกเขาหนีรอดได้หรือไม่ ?
37. แท้จริงแล้วในนั้นมีบทเรียนสำหรับคนที่มีหัวใจหรือผู้มีหูและฟังด้วยความตั้งใจ


คำแปล R4.
36. เราได้ทำลายผู้คนไปกี่มากน้อยแล้วก่อนหน้าพวกเขาทั้ง ๆ ที่เขาทั้งหลายมีความเข้มแข็งทางสมรรถภาพกว่าพวกเจ้า แล้วพวกเขาได้ออกเดินทางไปตามเมืองต่าง ๆ (พวกเขาเหล่านั้น) มีทางหนีรอดหรือ?
37. แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นข้อตักเตือนแก่ผู้มีหัวใจ หรือรับฟังโดยที่เขามีความตั้งใจจริง


คำแปล R5.
๓๖. และตั้งเท่าไรแล้ว ที่เราได้ทำลายไปก่อนหน้าพวกเขาจากบรรดาประชาชาติในศตวรรษต่าง ๆ ทั้งที่พวกเหล่านั้นมีพละกำลังร้ายกาจเหนือพวกเขาชาวมักกะห์เสียอีก แต่แล้วพวกนั้นก็หนีกระเซอะกระเซิงในเมืองต่าง ๆ เพื่อหลบให้พ้นความตาย แล้วมีที่ให้หลบหนีให้พ้นจากความตายกระนั้นหรือ
๓๗. แท้จริงในสิ่งนั้น ย่อมเป็นข้อเตือนใจแก่ผู้ที่มีจิตใจ สติปัญญาพิจารณาหรือเขาสนใจฟังคำสอนโดยเขามีความตั้งใจอย่างแท้จริง



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 38 - 39



คำอ่าน
38. วะละก็อดเคาะลักนัสสะมาวาติวัลอัรฺเฎาะ วะมาบัยนะฮุมา ฟีสิตตะติอัยยามิว..วะมามัสสะนามิลลุฆูบ
39. ฟัศบิรฺอะลามายะกูลูนะ วะสับบิหฺบิหัมดิร็อบบิกะ ก็อบละฏุลูอิชชัมสิ วะก็อบลัลฆุรูบ


คำแปล R1.
38. And indeed we created the heavens and the earth and all between them in six days and nothing of fatigue touched us.
39. So bear with patience (O Muhammad) all that they say, and glorify the praises of our Lord, before the rising of the sun and before (its) setting (i.e. the Fajr, Zuhr, and 'Asr prayers) .


คำแปล R2.
38. ขอยืนยัน! แท้จริงเราได้บันดาลฟากฟ้าและแผ่นดินรวมทั้งสรรพสิ่งระหว่างมันทั้งสองในหกวันเท่านั้น และความเหนื่อยหน่ายมิได้สัมผัสแก่เราเลย
39. ดังนั้นเจ้าจงอดทนเถิดต่อสิ่งที่พวกเขาพูด (ใส่ไคล้และให้ร้ายเกี่ยวกับตัวเจ้า) และจงกล่าวถวายสดุดีพระบริสุทธิคุณพร้อมทั้งสรรเสริญในองค์อภิบาลของเจ้า ก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันตก


คำแปล R3.
38. เราได้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างนั้นในหกวัน และเราไม่เคยได้รับความเหน็ดเหนื่อย
39. ดังนั้น (โอ้ นบี) เจ้าจงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขาพูด และจงสดุดีพระผู้อภิบาลของเจ้าด้วยการสรรเสริญพระองค์ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นและก่อนดวงอาทิตย์ตก


คำแปล R4.
38. และโดนแน่นอน เราได้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ระหว่างมันทั้งสองในเวลา 6 วัน และไม่มีความเหน็ดเหนื่อยใด ๆ มาสัมผัสเรา
39. ดังนั้น เจ้าจงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวถึง และจงแซ่ซ้องด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้าก่อนการขึ้นของดวงอาทิตย์และก่อน การตก (ของมัน)


คำแปล R5.
๓๘. ขอสาบาน แท้จริงเราได้สร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินรวมทั้งสรรพสิ่งระหว่างมันทั้งสองในหกวันเท่านั้นโดยไม่มีความเหน็ดเหนื่อยใด ๆ มาสัมผัสเราเลย
๓๙. ดังนั้น โอ้มุฮำมัด เจ้าจงอดทนเถิดบนสิ่งที่พวกเขาพูดไว้ เช่น พวกเขากล่าวหาว่าเจ้าพูดเท็จ เรื่องวันชาติหน้าเป็นเรื่องโกหก เป็นต้น และเจ้าจงสรรเสริญพระบพิตรธิคุณ พร้อมด้วยการสรรเสริญในองค์อภิบาลของเจ้า ก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันตก



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0
สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 40 -42




คำอ่าน
40. วะมินัลลัยลิ ฟะสับบิหฺฮุ วะอัดบาร็อสสุญูด
41. วัสตะมิอฺ เยามะยุนาดิลมุนาดิ มิม..มะกานิน..เกาะรีบ
42. เยามะยัสมะอูนัศศ็อยหะตะบิลหักกฺ, ซาลิกะเยามุลคุรูจญฺ


คำแปล R1.
40. And during a part of the night (also), glorify his praises (i.e. Maghrib and 'Isha prayers), and (so likewise) after the prayers [As-Sunnah, Nawafil optional and additional prayers, and also glorify, praise and magnify Allah - SubhanAllah, Alhamdulillah, Allahu-Akbar].
41. And listen on the day when the caller will call from a near place,
42. The Day when they will hear As-Saihah (shout, etc.) in truth, that will be the day of coming out (from the graves i.e. the Day of Resurrection).


คำแปล R2.
40. และในบางส่วนของกลางคืน เจ้าก็จงถวายสดุดีพระบริสุทธิคุณแด่พระองค์เช่นเดียวกัน รวมทั้งเวลาหลังจากการกราบ(ละหมาด)อีกด้วย
41. และเจ้าจงรับฟังเถิด วันซึ่งมี (มลาอิกะฮฺ) ผู้ประกาศจะทำการประกาศ จากสถานที่อันใกล้เคียงที่สุด (ซึ่งทุกคนสามารถได้ยินอย่างทั่วถึง)
42. เป็นวันซึ่งพวกเขาจะได้รับฟังเสียงกัมปนาทโดยสัจจริง นั่นแหละคือวันแห่งการออก(มาจากสุสานของทุก ๆ คน)


คำแปล R3.
40. และจงสดุดีพระองค์อีกในตอนกลางคืนและเมื่อเจ้าว่างเว้นจากการก้มกราบ
41. และจงฟัง วันที่ผู้เรียกจะร้องเรียกจากที่ใกล้ ๆ (ทุกคน)
42. วันที่ผู้คนทั้งหลายจะได้ยินเสียงร้องเรียกจริง ๆ นั้นเป็นวันแห่งการที่คนตายออกมาจากแผ่นดิน


คำแปล R4.
40. และระหว่างเวลากลางคืน ก็จงสดุดีพระองค์ด้วย และหลังเวลาสุญูด
41. และเจ้าจงฟังวันที่ผู้เรียกร้องจะร้องเรียกจากสถานที่ใกล้ ๆ
42. วันที่พวกเขาจะได้ยินเสียงเป่าสังข์อย่างแท้จริง นั่นคือวันแห่งการฟื้นคืนชีพ


คำแปล R5.
๔๐. และเจ้าจงสรรเสริญพระบพิตรธิคุณของพระองค์ในบางช่วงของกลางคืนและหลังจากทำการกราบละหมาดแล้ว
๔๑. และเจ้าจงฟังเถิด เราจะอธิบายให้ทราบเกี่ยวกับวันปรภพ ซึ่งผู้ประกาศทำการประกาศมาจากสถานที่อันใกล้เคียงจนได้ยินอย่างถนัดชัดเจนโดยทั่วไป
๔๒. เป็นวันที่เขาจะได้ยินเสียงคำรณของอิสรอฟีล จากการเป่าสังข์ครั้งที่สอง โดยความจริงเพื่อให้ทุกคนฟื้นขึ้นจากสุสานของตนเอง นั่นเป็นวันแห่งการออกมาจากสุสาน เพื่อรวมกันรับคำพิพากษาของอัลเลาะห์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 21, 2010, 05:54 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

สูเราะฮฺ กอฟ อายะฮฺที่ 43 - 45



 

คำอ่าน
43. อิน..นานะหฺนุ นุหฺยีวะนุมีตุ วะอิลัยนัลมะศีรฺ
44. เยามะตะชักเกาะกุลอัรฺฎุ อันฮุมสิรออา, ซาลิกะหัชรุน อะลัยนายะสีรฺ
45. นะหฺนุ อะอฺละมุ บิมายะกูลูนะ วะมาอัน..ตะ อะลัยฮิม..บิญับบาร ฟะซักกิรฺบิลกุรฺอานิ มัย..ยะคอฟุวะอีด


คำแปล R1.
43. Verily, we it is who give life and cause death; and to us is the final return,
44. On the day when the earth shall be cleft, from off them, (They will come out) hastening forth. That will be a gathering, quite easy for us.
45. We know of best what they say; and you (O Muhammad) are not a tyrant over them (to force them to Belief). But warn by the Qur'an, him who fears My threat.


คำแปล R2.
43. แท้จริงเราทำให้มีชีวิต และทำให้สิ้นชีวิตและเราเป็นจุดมุ่งหมาย (ของทุก ๆ สิ่ง)
44. ในวันซึ่งแผ่นดินแยกตัวออกเพื่อให้พวกเขาได้ออกไปโดยเร็ว นั้นเป็นการชุมนุม (ของทุก ๆ คน) ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่สุดสำหรับเรา (ที่จักบันดาลให้อุบัติขึ้น)
45. เรารอบรู้ยิ่งนัก ในสิ่งที่พวกเขาพูดกัน และเจ้านั้นมิใช่ผู้บังคับพวกเขา (ให้มาศรัทธากันได้ทุกคน) ดังนั้นเจ้าจงนำอัลกุรอานมาตักเตือนผู้ที่เกรงกลัวสัญญาลงโทษของข้าเถิด


คำแปล R3.
43. แท้จริง เราคือผู้ให้ชีวิตและความตายและยังเรารที่ทุกคนจะต้องกลับมา
44. ในวันนั้น แผ่นดินจะปริแยกออกและพวกเขาจะรีบเร่งออกมาจากมัน นี่คือการรวมที่ง่ายมากสำหรับเรา
45. (โอ้ นบี) เรารู้ดียิ่งถึงสิ่งที่พวกเขาพูด และเจ้าไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จะไปบังคับให้พวกเขาเชื่อ ดังนั้น จงตักเตือนด้วยกุรอานแก่ทุกคนที่เกรงกลัวการเตือนของฉัน


คำแปล R4.
43. แท้จริงเรานั้นเป็นผู้ให้มีชีวิตขึ้น และเราเป็นผู้ให้(เขา)ตายและยังเราคือการกลับไป
44. วันที่แผ่นดินจะแยกออกจากพวกเขา (และพวกเขาจะ)ออกมาอย่างรีบเร่งนั่นคือการชุมนุมที่ง่ายดายแก่เรา
45. เรารู้ดียิ่งถึงสิ่งที่พวกเขากล่าวและเจ้ามิได้เป็นผู้มีอำนาจเหนือพวกเขา ดังนั้นเจ้าจงตักเตือนด้วยอัลกุรอ่านนี้แก่ผู้กลัวต่อสัญญาร้ายของข้า


คำแปล R5.
๔๓. แท้จริงเราให้ชีวิตและเราให้ความตายแก่ผู้ที่เราประสงค์ และที่กลับคืนของทุก ๆ สิ่ง คือกลับมายังเรา
๔๔. เป็นวันที่แผ่นดินจะแตกแยกออกเป็นช่องทางให้แก่พวกเขาโดยฉับพลัน เพื่อได้ลุกออกมาจากสุสานของแต่ละคน นั้นเป็นการรวมผู้คนทั้งหลายสู่สถานที่ชุมนุมเพื่อรอคำพิพากษา ซึ่งง่ายดายสำหรับเรายิ่งนัก
๔๕. เรารอบรู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเขาพูด และตัวเจ้าเองก็หาได้บังคับพวกเขาไม่ในการรับนับถือศาสนา ดังนั้นเจ้าจงนำกุรอานไปตักเตือนเถิดแก่ผู้ที่กลัวสัญญาลงโทษของข้า



(صدق الله العظيم) ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ
จบสูเราะฮฺที่ 50 กอฟ

 

GoogleTagged