การรวบรวมอัล-กุรอ่านนั้นได้มีมาแล้ว
ในสมัยของท่ารรซูลุลลอฮฯ ท่านอุษมานเพียงแต่นำต้นฉบับมาคัดลอก
ออกเป็นหลายๆสำเนาแล้วแจกจ่ายไปยังที่ต่างๆเท่านั้น และการกระทำเช่นนี้
เป็นเรื่องของสังคม ไม่ใช่เป็นเรื่องของศาสนกิจ
และนักปราชญ์นั้นได้แบ่งบิดอะห์ออกเป็น5ประการ คือ
1. บิดอะห์วายิบ -การอุตริที่จำเป็น
2. บิดอะห์สุนนะห์ -การอุตริตามแนวทางรซูลุลลอฮฯ
3. บิดอะห์มุบาห์ -การอุตริที่อนุญาตให้เลือกทำได้
4. บิดอะห์มักรูห์ -การอุตริที่น่ารังเกียจ
5. บิดอะห์หะรอม -การอุตริที่ต้องห้าม
การตกเป็นเฎาะลาละห์นั้นคือบิดอะห์ข้อที่5เท่านั้น
ถ้าหากบิดอะห์เป็นเฎาะลาละห์ทั้งหมดแล้ว
ท่านอุมัร ท่านอุษมาน ท่านอิมามมาลิก ท่านอิมามซาฟีอี ฯลฯ
ก็จะตกเป็นพวกบิดอะห์ด้วย.
มีหะดีษว่า " การปฏิบัติตามสุนนะห์แต่เพียงเล็กน้อยนั้น
..ดีกว่าการอิจญ์ติฮาดในเรื่องบิดอะห์ " (ลุฆอตุลหะดีษ)
ยกตัวอย่างเช่น การที่เราศึกษาหาสุนนะห์ที่แท้จริงมาเป็นแนวทางของชีวิต
แม้จะรู้เพียงเล็กน้อย ก็ยังดีกว่าพากเพียรคิดในเรื่องอุตริทางศาสนา
ซึ่งศาสนาไม่ได้บัญญัติไว้เลย เช่นกล่าวว่า ถ้าอ่านประโยคเช่นนี้ เช่นนั้น
สัก100ครั้ง 1000ครั้งแล้วจะได้เข้าสวนสวรรค์ เป็นต้น
วัสลามูอาลัยกม