ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 54 อัลเกาะมัรฺ)  (อ่าน 3200 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ เป็นสูเราะฮฺมักกียะฮฺ , มี 55  อายะฮฺ

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ (R3.)

ชื่อ : ซูเราะฮฺนี้ได้ชื่อมาจากคำว่า (وانشق القمر) ซึ่งหมายความว่า มันเป็นซูเราะฮฺที่มีคำว่า “อัล-เกาะมัรฺ” ปรากฏอยู่
ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ : เหตุการณ์ “ชักก์ อัล-เกาะมัรฺ” (การผ่าดวงจันทร์)ที่ถูกกล่าวถึงในซูเราะฮฺนี้เป็นตัวบอกถึงระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺนี้ได้อย่างถูกต้อง นักศึกษาฮะดีษและนักอรรถาธิบายกุรฺอานมีความเห็นพ้องต้องกันว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองมินาในมักกะฮฺ ประมาณห้าปีก่อนที่ท่านรอซูลุลลอฮฺจะอพยพไปยังมะดีนะฮฺ
เนื้อหาสาระ : ในซูเราะฮฺนี้บรรดาผู้ปฏิเสธแห่งมักกะฮฺได้ถูกเตือนถึงเรื่องความดื้อรั้นของพวกเขาที่มีต่อการเชิญชวนของท่านรอซูลุลลอฮฺ ปรากฏการอันประหลาดและมหัศจรรย์ของการที่ดวงจันทร์ถูกแยกออกจากกัน เป็นสัญญาณอันชัดแจ้งอย่างหนึ่งของสัจธรรมที่ว่าการฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้งหนึ่งของมนุษย์นั้นสามารถเกิดขึ้นได้และมันก็กำลังใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ภาพดวงจันทร์ที่แยกออกเป็นสองส่วนต่อหน้าต่อตาของพวกเขานั้นเป็นภาพที่ดวงจันทร์ซีกหนึ่งแยกออกไปปรากฏอยู่ที่ด้านหนึ่งของภูเขาและอีกซีกหนึ่งปรากฏอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของภูเขา หลังจากนั้นทั้งสองซีกก็กลับเข้ามารวมกันอีกครั้งหนึ่ง นี่เป็นข้อพิสูจน์อันชัดแจ้งถึงสัจธรรมที่ว่าระบบจักรวาลนั้นมิได้ยั่งยืนนิรันดรและมิได้เป็นสิ่งอมตะ มันอาจจะได้รับความพินาศได้ ดาวต่าง ๆ อีกมากมายที่มีขนาดมหึมาก็อาจแตกสลายหรือชนกันและทุกสิ่งที่กุรฺอานได้พูดไว้ล่วงหน้าเกี่ยยวกับเรื่องการฟื้นคืนชีพก็สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่เพียงแต่เท่านี้ มันยังเป็นสิ่งเตือนล่วงหน้าให้รู้ว่าการแตกสลายของจักรวาลได้เริ่มขึ้นแล้วและเวลาแห่งการฟื้นคืนชีพก็ใกล้เข้ามาแล้วเช่นกัน ท่านรอซูลุลลอฮฺได้เชิญชวนผู้คนให้สนใจต่อปรากฏการณ์และขอให้พวกเขาได้จดจำไว้และเป็นพยานด้วย แต่บรรดาผู้ไม่ศรัทธาได้กล่าวว่ามันเป็นภาพลวงตาที่นักมายากลสร้างขึ้นมาและยังคงยืนยันปฏิเสธ ดังนั้นในซูเราะฮฺนี้ กุรฺอานจึงได้ประณามความดื้อรั้นของพวกเขา
   นับตั้งแต่เริ่มแรกได้มีการกล่าวว่า : “คนพวกนี้ไม่เชื่อในการตักเตือน ไม่เรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์ ไม่ยอมศรัทธาหลังจากที่ได้เห็นสัญญาณต่าง ๆ อันชัดแจ้งด้วยตาของตัวเองแล้ว ตอนนี้พวกเขาจะเชื่อก็ต่อเมื่อการฟื้นคืนชีพได้เกิดขึ้นและพวกเขาจะออกจากหลุมศพของพวกเขาไปยังผู้ที่เรียกพวกเขาในวันนั้น”
   หลังจากนั้น เรื่องของคนในสมัยนบีนูฮฺ, ชาวอ๊าด, ชาวษะมูด, ผู้คนของนบีลูฏและของฟาโรห์ก็ได้ถูกนำมาเล่าอย่างย่อ ๆ เพื่อเตื่อนพวกเขาให้นึกถึงการลงโทษอันน่าสะพรึงกลัวที่คนเหล่านั้นได้รับ เมื่อพวกเขาปฏิเสธและไม่แยแสต่อการตักเตือนของบรรดานบี หลังจากเล่าเรื่องราวแล้ว สิ่งที่กุรอานต้องการจะบอกก็คือ : “กุรอานนี้เป็นวิธีการตักเตือนง่าย ๆ ซึ่งถ้าหากชาติใดใส่ใจและปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องก็สามารถหลีกเลี่ยงจากการถูกลงโทษอย่างที่ชาติก่อน ๆ ได้เคยพบมาแล้ว แต่ถ้าใครไม่ใส่ใจและยังดันทุรังปฏิเสธอยู่จนกระทั่งตัวเองถูกลงโทษ ก็ถือว่าเป็นความโง่เขลาของคนพวกนั้นเอง”
   ในทำนองเดียวกัน หลังจากที่หยิบยกประวัติศาสตร์ของชนชาติต่าง ๆ ในอดีตมาอ้างแล้ว บรรดาผู้ปฏิเสธแห่งมักกะฮฺได้ถูกเตือนว่า : “ถ้าหากพวกเจ้ายังมีความคิดและความประพฤติที่ทำให้ชาติต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ถูกลงโทษแล้ว ทำไมพวกเจ้าจะไม่ถูกลงโทษเพราะความผิดและความประพฤติเช่นเดียวกันนี้บ้าง ? พวกเจ้าเป็นคนสูงส่งแค่ไหนนักหรือที่จะต้องได้รับการปฏิบัติแตกต่างไปจากคนอื่น ? หรือพวกเจ้าได้รับการนิรโทษกรรมที่ทำให้ไม่ต้องถูกลงโทษสำหรับความผิดที่คนอื่น ๆ ต้องถูกลงโทษ ? และถ้าหากพวกเจ้าคิดว่าผู้คนของพวกเจ้ามีจำนวนมาก ไม่ช้าพวกเจ้าก็จะได้เห็นคนจำนวนมากนี้ถูกทำลายพ่ายแพ้(ในสนามรบ)และในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ พวกเจ้าจะเจอหนักยิ่งกว่านั้นอีก”
   ในตอนท้ายบรรดาผู้ปฏิเสธได้ถูกบอกว่า อัลลอฮฺไม่จำเป็นต้องเตรียมระยะยาวนานสำหรับการฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่งของมนุษย์ ทันทีที่พระองค์สั่งมันก็จะเกิดขึ้นในทันใด จักรวาลและมนุษยชาติก็เช่นเดียวกับทุกสิ่งที่มีชะตากรรมของมันเองตามชะตากรรมนี้ ทุกสิ่งเกิดขึ้นตามเวลาที่ได้ถูกกำหนดไว้ มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าหากใครมาท้าทายแล้ว การฟื้นคืนชีพจะเกิดขึ้นเพื่อยืนยันให้เขาเชื่อ ถ้าหากพวกเจ้าฝ่าฝืนเพราะพวกเจ้ายังไม่เห็นเวลานั้นมาถึง นั่นก็หมายความว่าพวกเจ้าเคราะห์ร้ายมากขึ้น เพราะบันทึกการกระทำของพวกเจ้าซึ่งตัวแทนของอัลลอฮฺได้จัดเตรียมไว้ จะไม่ปล่อยให้การทำผิดใด ๆ ของพวกเจ้าไม่ว่าเล็กหรือใหญ่รอดพ้นจากการถูกบันทึกไปได้เลยแม้แต่น้อย


เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)


----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 1 - 3


   

คำอ่าน
1. อิกตะเราะบะติสสาอะตุ วัน..ชักก็อลเกาะมัรฺ
2. วะอียะร็อวฺ อายะตัย..ยุอฺริฎูวะยะกูลูสิหฺรุม..มุสตะมิรฺ
3. วะกัซซะบู วัตตะบะอูอะฮฺวาอะฮุม วะกุลลุอัมริม..มสตะกิรฺ


คำแปล R1.
1. The Hour has drawn near, and the moon has been cleft asunder (the people of Makkah requested Prophet Muhammad to show them a miracle, so he showed them the splitting of the moon).
2. And if they see a sign, they turn away, and say: "This is continuous magic."
3. They belied (the Verses of Allah, This Qur'an), and followed their own lusts. And every matter will be settled [according to the kind of deeds (for the doer of good deeds, his deeds will take him to Paradise, and similarly evil deeds will take their doers to Hell)].


คำแปล R2.
1. กาลปวสานแห่งโลกได้ใกล้เข้ามาแล้ว และดวงเดือนได้แยกออก (เป็นสองซีกเพื่อเป็นอภินิหารของท่านนบีมุฮำมัด)
2. และแม้ว่าพวกเขา(ชาวอาหรับมุซริกีน)จะมองเห็นสัญลักษณ์(ที่แสดงถึงความสัจจริงของนบีมุฮำมัด) พวกเขาก็คงหันหลังให้(ไม่สนใจ)และกล่าวว่า “สิ่งนี้เป็นมายาการอันต่อเนื่อง”
3. และพวกเขาได้ว่ามุสา(ในสิ่งที่นบีมุฮำมัดประกาศ)และตามอารมณ์ของพวกเขาเองในขณะที่ทุก ๆ สิ่งนั้น ย่อมปรากฏอย่างมั่นคง(ตามบัญชาของอัลเลาะฮฺ)ไม่มีการเปลี่ยนแปลง


คำแปล R3.
1. วันแห่งการฟื้นคืนชีพได้ใกล้เข้ามาแล้ว และดวงจันทร์ได้แยกออกจากกัน
2. ถึงกระนั้น สัญญาณอะไรก็ตามที่คนเหล่านี้เห็น พวกเขาก็จะหันหลังให้และกล่าวว่า “นี่คือมายากลที่มีอยู่แล้ว”
3. พวกเขาปฏิเสธ(สิ่งนี้ด้วย)และปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขา แต่ในที่สุดแล้ว ทุกเรื่องก็จะต้องไปถึงจุดสุดท้ายที่ได้ถูกกำหนดไว้


คำแปล R4.
1. วันกิยามะฮฺ ได้ใกล้เข้ามาแล้ว และดวงจันทร์ได้แยกออก
2. และหากพวกเขาเห็นสัญญาณ (ปาฏิหาริย์) พวกเขาก็ผินหลังให้และกล่าวว่า นี่คือมายากลที่มีมาก่อนแล้ว
3. และพวกเขาได้ปฏิเสธและปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขา และกิจการทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกำหนด


คำแปล R5.
๑. กาลอวสานของโลกใกล้เข้ามาแล้ว และดวงเดือนได้แตกออกเป็นสองซีกเพื่อแสดงถึงปาฏิหาริย์แห่งนบีมุฮำมัด
๒. และหากพวกที่เนรคุณเหล่านั้นมองเห็นสัญลักษณ์ใดที่เป็นปาฏิหาริย์นั้นพวกเขาก็จะหันหลังและกล่าวว่า สิ่งนี้เป็นวิทยากลอันยืนยง
๓. และพวกเขาว่าเป็นความเท็จ และพวกเขายึดตามอารมณ์ของพวกเขาในการคัดค้านอัลกุรอานปฏิเสธนบีมุฮำมัดและคำสอนของเขา และทุกการงานจะดีหรือชั่วก็ตาม ย่อมสถิตมั่นคงอยู่กับผู้ปฏิบัตินั้นในสวรรค์หรือนรกก็ตาม




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 4 - 8

คำอ่าน
4. วะละก็อดญา...อะฮุม..มินัลอัม..บา...อิมาฟีฮิมุซดะญัรฺ
5. หิกมะตุม..บาลิเฆาะตุน..ฟะมาตุฆนิน..นุซุร
6. ฟะตะวัลละอันฮุม เยามะยัดอุดดาอิ อิลาชัยอิน..นุกุรฺ
7. คุชชะอัน อับศอรุฮุม ยัครุญูนะ มินัลอัจญดาษิ กะอัน..นะฮุมญะรอดุม..มุน..ตะชิรฺ
8. มุฮฺฏิอีนะ อิลัดดาอิ ยะกูลุลกาฟิรูนะฮาซาเยามุนอะสิรฺ


คำแปล R1.
4. And indeed there has come to them news (in This Qur'an) wherein there is (enough warning) to check (them from evil),
5. Perfect wisdom (this Qur’an), but (the preaching of) warners benefit them not,
6. So (O Muhammad) withdraw from them. The Day that the caller will call (them) to a terrible thing.
7. They will come forth, with humbled eyes from (their) graves as if they were locusts spread abroad,
8. Hastening towards the caller, the disbelievers will say: "This is a hard Day."


คำแปล R2.
4. ขอยืนยัน ! แท้จริงได้มีประวัติบางส่วน(ของประชาชาติในยุคก่อน)รู้มาถึงพวกเขา(โดยผ่านคำประกาศของอัลกุรอาน)ซึ่งประวัติเหล่านั้นมีคติยับยั้ง(มิให้พวกเขาเนรคุณ)
5. เป็นคำสอนอันลึกซึ้งซึ่งบรรดาคำเตือนอื่นใดไม่เพียงพอ (ที่จะเป็นคำสอนอันลึกซึ้งเทียบเทียมได้)
6. ดังนั้น เจ้าจงหันออกจากพวกเขาเถิด ในวันซึ่งผู้เรียก ทำการเรียก(พวกเขา)ไปยังสิ่งที่(พวกเขา)ไม่พึงปรารถนา
7. (ในวันนั้น) สายตาของพวกเขาละห้อย(ด้วยความหวาดกลัว)พวกเขาออกมาจากหลุมศพ ประหนึ่งพวกเขาเป็นตั๊กแตนที่บินกระจายเป็นฝูง
8. พวกเขาต่างรีบมุ่งหมายมายังผู้เรียกคนนั้น พร้อมกับบรรดาพวกไร้ศรัทธาจะพูดว่า “วันนี้เป็นวันแห่งความลำเค็ญแท้จริง”


คำแปล R3.
4. ได้มีการบอกเล่า (ถึงเรื่องราวของผู้คนในอดีต)ซึ่งในนั้นมีข้อเตือนใจพวกเขามิให้ฝ่าฝืน
5. และเป็นเหตุผลอันลึกซึ้งด้วย แต่การตักเตือนนั้นไม่ยังประโยชน์อันใดกับคนเหล่านี้
6. ดังนั้น (โอ้ นบี) จงหันห่างออกจากพวกเขา วันที่ผู้เรียกจะเรียกพวกเขาไปสู่เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนั้น
7. ผู้คนจะลุกขึ้นออกมาจากหลุมฝังศพของพวกเขาด้วยสายตาที่หวาดกลัว เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นฝูงตั๊กแตนที่บินว่อน
8. พวกเขาจึงรีบไปยังผู้เรียกและบรรดาผู้ปฏิเสธจะกล่าวว่า “นี่เป็นวันที่ลำบากเหลือเกิน”


คำแปล R4.
4. และโดยแน่นอน ได้มีข่าวคราว (ในอดีต) มายังพวกเขาแล้ว ซึ่งในนั้นมีข้อตักเตือน (แก่พวกเขา)
5. (อัลกุรอานนี้) เป็นฮิกมะฮฺอันลึกซึ้ง แต่การตักเตือนนั้นไม่บังเกิดผล (แก่พวกเขา)
6. ดังนั้นเจ้า (มุฮัมมัด) จงผินหลังให้แก่พวกเขา วันซึ่งผู้เรียกร้อง (อิสรอฟีล) จะร้องเรียกไปสู่สิ่งที่น่ากลัวสยองขวัญ
7. สายตาของพวกเขาจะลดต่ำลงขณะที่พวกเขาออกจากกุบูร เสมือนหนึ่งพวกเขาเป็นตั๊กแตนที่บินว่อน
8. รีบวิ่งไปยังผู้เรียกร้อง พวกปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ลำบากยิ่ง


คำแปล R5.
๔. โดยแท้จริง ได้มาสู่พวกเขาแล้ว ข่าวบางข่าวอันเกี่ยวเนื่องด้วยการทำลายล้างประชาชาติในอดีตเพราะความเนรคุณซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะยับยั้งพวกเขาชาวมักกะห์ให้งดการคัดค้านได้บ้าง แต่พวกเขาก็หาได้ยับยั้งการคัดค้านไม่
๕. เป็นวิทยญาณอันล้ำลึก ที่มีข้อคิดสำหรับทุกคนได้ตระหนักถึง แต่แล้วบรรดาศาสดาผู้ตักเตือนก็ไม่พอเพียงแก่พวกเขาได้ถอนตัวออกจากความหลงผิดและงมงาย
๖. ดังนั้น เจ้าจงปลีกออกจากพวกเขาเสียเถิด โอ้มุฮำมัด ในวันที่อิสรออีล1ผู้ประกาศทำการประกาศด้วยการเป่าสังข์ครั้งที่สอง สู่สิ่งหนึ่งที่ถูกคัดค้านโดยพวกกาฟิรทั้งหลาย นั่นคือความวุ่นวายและวิกฤตกาลของวันกิยามะห์
๗. ดวงตาของพวกเขาสำรวมด้วยความหวาดหวั่น พวกเขาจะฟื้นคืนชีพและออกมาจากสุสานต่าง ๆ ประหนึ่งฝูงตั๊กแตนที่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ไม่รู้จะไปทางไหน
๘. พวกเขาต่างก็รีบเดินเข้าหาผู้ประกาศ บรรดาพวกเนรคุณทั้งหลายกล่าวว่า นี้เป็นวันอันลำบากที่สุด


1.น่าจะเป็น อิสรอฟีล


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 9 - 12

คำอ่าน
9. กัซซะบัตก็อบละฮุม ก็อวมุนูหิน..ฟะกัซซะบูอับดะนา วะกอลูมัจญนูนู..วัซดุญิรฺ
10. ฟะดะอาร็อบบะฮู..อัน..นี มัฆลูบุน..ฟัน..ตะศิรฺ
11. ฟะฟะตะหฺนา..อับวาบัสสะมา...อิ บิมา...อิม..มุนฮะมิรฺ
12. วะฟัจญัรฺนัลอัรฺเฎาะ อุยูนัน..ฟัลตะก็อลมา...อุ อะลาอัมริน..ก็อดกุดิรฺ


คำแปล R1.
9. The people of Nuh (Noah) denied (their Messenger) before them, they rejected our slave, and said: "A madman!" and he was insolently rebuked and threatened.
10. Then he invoked his Lord (saying): "I have been overcome, so help (me)!"
11. So we opened the gates of heaven with water pouring forth.
12. And we caused the earth to gush forth with springs. So the waters (of the heaven and the earth) met for a matter predestined.


คำแปล R2.
9. เมื่อก่อนหน้าพวกเขาได้มีกลุ่มชนของนูห์ว่า (นบีนูห์) มุสา กล่าวคือ พวกเขาว่า (นบีนูห์ซึ่งเป็น) บ่าวของเราเป็นผู้มุสา แล้วพวกเขายังกล่าวอีกว่า “เขาเป็นคนวิกลจริต” และเขาถูกขัดขวาง(มิให้เผยแพร่หลักธรรม)
10. ต่อมาเขาได้วอนขอต่อองค์อภิบาลของเขาว่า “แท้จริงข้าพเจ้าพ่ายแพ้เสียแล้ว ขอพระองค์ได้โปรดประทานชัยชนะ(แก่ข้าพเจ้าเถิด)
11. ดังนั้นเราจึงเปิดประตูฟ้า ให้มีน้ำฝนอันหนาแน่นตกลงมา
12. และเราได้บันดาลให้มีตาน้ำอันมากมายแตกกระจายอยู่ในแผ่นดิน แล้วน้ำ(จากฟากฟ้าและดิน)ก็มาพบกัน ตามบัญชาการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว (นั่นคือ ให้มีอุทกภัยล้างโลก ในครั้งนบีนูห์)


คำแปล R3.
9. ก่อนหน้าพวกเขา ผู้คนของนูฮฺก็เคยปฏิเสธมาแล้วเช่นกัน พวกเขาเรียกบ่าวของเราว่าผู้โกหกและได้กล่าวว่า “เขาเป็นคนบ้า” และเขาก็ถูกด่าว่าอย่างหนัก
10. ในที่สุด เขาก็วิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของเขาว่า “ฉันเป็นผู้แพ้แล้ว ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือด้วยเถิด”
11. ดังนั้นเราจึงได้เปิดประตูแห่งชั้นฟ้าให้ฝนเทลงมาอย่างหนัก
12. และเราได้ทำให้แผ่นดินแยกเป็นตาน้ำไหลพุ่งทะลักออกมาและน้ำได้มาบรรจบกันเพื่อเป็นไปตามจุดหมายที่ได้บัญชาไว้


คำแปล R4.
9. ก่อนหน้าพวกเขานั้น หมู่ชนของนูหฺได้ปฏิเสธ พวกเขาได้ปฏิเสธบ่าวของเราโดยกล่าวว่าเขา (นูหฺ) เป็นคนบ้า และถูกขู่บังคับ
10. เขาจึงวิงวอนขอต่อพระเจ้าของเขาว่า แท้จริงข้าพระองค์ถูกพิชิตเสียแล้ว ได้โปรดช่วยเหลือ(ข้าพระองค์)ด้วย
11. ดังนั้น เราจึงได้เปิดประตูแห่งชั้นฟ้าให้น้ำฝนเทลงมาอย่างหนัก
12. และเราได้ทำให้แผ่นดินแยกออกเป็นตาน้ำไหลพุ่ง ดังนั้น น้ำฝนและตาน้ำได้มาบรรจบกันตามกิจการที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว


คำแปล R5.
๙. เมื่อก่อนหน้าพวกเขาได้มีประชาชนของนูห์กล่าวหาศาสดานูห์ว่าพูดเท็จ แล้วพวกเขาก็ได้ว่าบ่าวของเรา นบีนูห์ เป็นผู้มุสาและยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาพูดอีกว่า นบีนูห์เป็นคนวิกลจริตและเขาได้ถูก คนพวกนั้นขับมิให้ทำการเผยแพร่
๑๐. ดังนั้นเขาจึงวอนขอต่อพระผู้ทรงอภิบาลของเขาว่า แท้จริงข้าพเจ้าพ่ายแพ้เสียแล้ว ขอพระองค์ได้โปรดช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้ทำหน้าที่ของข้าพเจ้าได้ตลอดรอดฝั่ง ซึ่งต่อมาอัลเลาะห์ก็ทรงตอบรับคำวอนขอของเขา
๑๑. ดังนั้น เราได้เปิดประตูแห่งฟากฟ้า โดยให้มีน้ำฝนอันมหาศาลตกลงมาท่วมโลก
๑๒. และเราได้บันดาลแผ่นดินให้มีตาน้ำ แตกพุ่งออกมาเป็นระยะเวลาถึง ๔๐ วัน แล้วน้ำจากฟากฟ้าและแผ่นดินก็มาพบกันโดยบัญชาการของอัลเลาะห์ ซึ่งได้ถูกกำหนดไว้แล้วแต่ดั้งเดิม




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 13 - 17


คำอ่าน
13. วะหะมัลนาฮุ อะลาซาติ อัลวาหิว..วะดุสุรฺ
14. ตัจญรี บิอะอฺยุนินา ญะซา...อัลลิมัน..กานะกุฟิรฺ
15. วะละก็อดตะร็อกนาฮา อายะตัน..ฟะฮัลมิม..มุดดะกิรฺ
16. ฟะกัยฟะกานะอะซาบีวะนุซุรฺ
17. วะละก็อดยัสสัรฺนัลกุรอานะลิซซิกริ ฟะฮัลมิม..มุดดะกิรฺ


คำแปล R1.
13. And we carried him on a (ship) made of planks and nails,
14. Floating under our eyes, a reward for him who had been rejected!
15. And indeed, we have left this as a sign, and then is there any that will remember (or receive admonition)?
16. Then how (terrible) was my torment and my Warnings?
17. And we have indeed made the Qur'an easy to understand and remember, and then is there any that will remember (or receive admonition)?


คำแปล R2.
13. และเราได้บรรทุกเขา(นูห์และผู้ติดตาม)ไว้บน(เรือที่)ประกอบด้วยกระดานหลายแผ่นและตอกอัดด้วยหมัน(ที่ทำจากเส้นใยของต้นปาล์ม)
14. มันวิ่งไปโดยการพิทักษ์ของเรา (และบันดาลให้มีอุทกภัยครั้งนั้นก็)เพื่อตอบแทนแก่ผู้ที่คัดค้าน
15. ขอยืนยัน ! แท้จริงเราได้ทิ้งเรือนั้นวให้เป็นสัญลักษณ์หนึ่ง(เตือนสติประชาชาติทั้งหลาย)แล้วมีบ้างไหมผู้ที่สำนึกในคำเตือน
16. แล้วการลงโทษของข้า และคำเตือนของข้านั้นเป็นอย่างไรบ้างเล่า ?
17. ขอยืนยัน ! แท้จริงเราได้สัมฤทธิผลแก่อัลกุรอานเพื่อตักเตือน (ประชาชาติทั้งปวง) แล้วมีบ้างไหม ผู้ที่สำนึกในคำเตือน ?


คำแปล R3.
13. และเราได้บรรทุกนูฮฺไว้บนสิ่งหนึ่งซึ่งทำด้วยแผ่นไม้ละตอกติดด้วยตะปู
14. ซึ่งลอยอยู่ภายใต้การดูแลของเขา นี่เป็นแก้แค้นให้แก่เขาที่ถูกดูถูก
15. และเราได้ทิ้งเรือนั้นไว้เป็นสัญญาณหนึ่ง แล้วมีใครบ้างไหมที่ได้รับการตักเตือนนี้ ?
16. ลองดูซิว่า การลงโทษของฉันน่าสะพรึงกลัวเพียงใด และคำตักเตือนของฉันนั้นเป็นจริงเช่นไร ?
17. เราได้ทำให้กุรอานนี้เป็นวิธีการตักเตือนที่ง่าย แล้วมีผู้ใดบ้างที่ได้รับการตักเตือน ?


คำแปล R4.
13. และเราได้บรรทุกเขาไว้บนเรือที่ทำด้วยแผ่นไม้กระดาน และตอกติดด้วยตะปู
14. มัน (เรือ) ได้แล่นไปต่อหน้าเรา (ภายใต้การคุ้มครองของเรา) เป็นการตอบแทนแก่ผู้ที่ถูกปฏิเสธ
15. และโดยแน่นอนเราได้ทิ้งมันไว้เป็นสัญญาณหนึ่ง แต่มีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น
16. ดังนั้น การลงโทษของเราและการตักเตือนของเราเป็นเช่นใดบ้าง?
17. และโดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่เข้าใจง่ายแก่การรำลึก แล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น


คำแปล R5.
๑๓. และเราได้บรรทุกเขาไว้บนเรือที่ประกอบด้วยบรรดากระดานและบรรดาตาปูที่ถูกตอกตรึงไว้
๑๔. มันวิ่งไปในน้ำที่ท่วมนั้น โดยการช่วยเหลือของเรา เพื่อเป็นการตอบสนองแก่ผู้ที่เนรคุณต่ออัลเลาะห์ และศาสนทูตของพระองค์
๑๕. ขอสาบาน แท้จริงเราได้ทิ้งเรือนั้นไว้เป็นสัญลักษณ์หนึ่งสำหรับการใคร่ครวญของคนในยุคหลัง แล้วมีผู้ใดระลึกถึงบ้างหรือ
๑๖. และการลงโทษของข้าและคำเตือนของข้าเป็นอย่างไรบ้างเล่า พวกเจ้าก็ได้เห็นเป็นที่ประจกษ์แล้วว่า การลงโทษนั้นร้ายแรงยิ่งนัก และคำเตือนที่ผ่านมามาจากคำประกาศของนบีก็เป็นจริงที่สุด
๑๗. ขอสาบาน แท้จริงเราได้ประสิทธิผลแก่อัลกุรอานเพื่อการจดจำของผู้สนใจทั้งหลาย แล้วมีผู้ใดบ้างเล่าที่ระลึกถึงคำเตือนของอัลกุรอาน




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 18 - 22

คำอ่าน
18. กัซซะบัตอาดุน..ฟะกัยฟะกานะอะซาบีวะนุซุรฺ
19. อิน..นา..อัรฺสัลนาอะลัยฮิม รีหัน..ศ็อรฺเศาะร็อน..ฟีเยามินะหฺสิม..มุสตะมิรฺ
20. ตัน..ซิอุน..นาสะ กะอัน..นะฮุม อะอฺญาซุนัคลิม..มุน..เกาะอิรฺ
21. ฟะกัยฟะกานะอะซาบีวะนุซุรฺ
22. วะละก็อดยัสสัรฺนัลกุรฺอานะลิซซิกริ ฟะฮัลมิม..มุดดะกิรฺ


คำแปล R1.
18. 'Ad (people) belied (their Prophet, Hud), then how (terrible) was my Torment and my Warnings?
19. Verily, we sent against them a furious wind of harsh voice on a Day of evil omen and continuous calamity.
20. Plucking out men as if they were uprooted stems of date-palms.
21. Then, how (terrible) was My torment and My Warnings?
22. And we have indeed made the Qur'an easy to understand and remember, then is there any that will remember (or receive admonition)?


คำแปล R2.
18. พวกอ๊าดได้ว่าศาสดาของพวกเขาเองมุสา แล้วการลงโทษของข้าและคำเตือนของข้าเป็นอย่างไรบ้างเล่า ?
19. แท้จริงเราได้ส่งลมมหาวินาศมายังพวกเขา ในวันแห่งความอับโชคอันยาวนาน
20. มันทำให้มนุษย์ล้มระเนระนาด ประดุจเดียวกับโคนต้นอินทผลัมที่โค่นล้มกระนั้น
21. แล้วการลงโทษของข้า และคำเตือนของข้า เป็นอย่างไรบ้างเล่า ?
22. ขอยืนยัน ! แท้จริงเราได้สัมฤทธิ์ผลแก่อัลกุรอานเพื่อการตักเตือน แล้วมีใครบ้างเล่าที่สำนึกในคำเตือน ?


คำแปล R3.
18. ชาวอ๊าดเช่นกันที่ปฏิเสธ โงนั้นจงดูซิว่าการลงโทษของฉันรุนแรงเพียงใด และการตักเตือนของฉันเป็นจริงเช่นไร ?
19. เราได้ส่งลมพายุร้ายพัดกระหน่ำพวกเขาในวันแห่งความหายนะที่ต่อเนื่องกัน
20. ลมพายุนั้นได้พัดกวาดพวกเขาเป็นต้นอินทผลัมที่ถูกถอนราก
21. ดังนั้นจงดูซิว่าการลงโทษของเรารุนแรงเพียงใด และการตักเตือนของฉันเป็นจริงเช่นไร ?
22. เราได้ทำให้กุรอานนี้เป็นวิธีการตักเตือนที่ง่าย แล้วมีผู้ใดบ้างที่ได้รับการตักเตือน ?


คำแปล R4.
18. พวกอ๊าดได้ปฏิเสธ ดังนั้นการลงโทษของเราและการตักเตือนของเราเป็นเช่นใดบ้าง?
19. แท้จริงเราได้ส่งลมพายุที่หนาวเหน็บไปยังพวกเขา ในวันแห่งความหายนะที่ติดต่อกัน
20. ลมได้พัดกระชากผู้คนคล้ายกับว่าพวกเขาเป็นต้นอินทผลัมที่ถูกถอนออกจากราก
21. ดังนั้นการลงโทษของเรา และการตักเตือนของเราเป็นเช่นใดบ้าง?
22. และโดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่เข้าใจง่ายแก่การรำลึก แล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น


คำแปล R5.
๑๘. พวกอ๊าดได้ว่าศาสนทูต นบีฮูดมุสา แล้วการลงโทษและคำเตือนของข้าเป็นอย่างไรบ้างเล่า เมื่อพวกนั้นไม่ยอมรับศรัทธาในคำประกาศของนบีฮูด
๑๙. การลงโทษของพวกอ๊าดนั้นคือ แท้จริงเราได้ส่งลมอันมีพิษสงร้ายกาจที่สุดลงมาทำลายพวกเขา ในวันแห่งความอัปยศอันยืดยาว ติดต่อกันถึงเจ็ดวัน
๒๐. พิษสงของลมดังกล่าวคือ มันสามารถถอดถอนมวลมนุษย์ให้ลอยม้วนขึ้นไปสู่อากาศแล้วถูกกระแทกตกลงมายังพื้นดินประหนึ่งพวกเขานั้นเป็นเพียงโคนต้นอินทผลัม ที่ถูกถอนออกจากพื้นดิน ในเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ว่าผู้ใดจะอยู่แห่งหนไหน ลมก็จะตามไปตามกระหน่ำพวกเขาลอยม้วนขึ้นไปในอากาศแล้วฟาดลงมากับพื้นดินตายจนหมดสิ้น
๒๑. แล้วการลงโทษของข้าและคำเตือนของข้าเป็นอย่างไรบ้างเล่า
๒๒. ขอสาบาน แท้จริงเราได้ประสิทธิผลแก่อัลกุรอานเพื่อความทรงจำของผู้ที่สนใจการท่อง แล้วมีผู้ใดบ้างเล่าที่ระลึกถึงคำเตือนในอัลกุรอาน





ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 23 - 26

คำอ่าน
23. กัซซะบัตษะมูดุ บิน..นุซุรฺ
24. ฟะกอลู..อะบะชะร็อม..มิน..นาวาหิดะตัน..นัตตะบิอุฮู..อิน..นา..อิซัลละฟีเฎาะลาลิว..วะสุอุรฺ
25. อะอุลกิยัซซิกรุอะลัยฮิ มิม..บัยนินา บัลฮุวะกัซซาบุนอะชิรฺ
26. สะยะอฺละมูนะเฆาะดัม..มินัลกัซซาบุลอะชิรฺ


คำแปล R1.
23. Thamud (people also) belied the warnings.
24. For they said: "A man! alone from among us, that we are to follow? Truly, then we should be in error and distress or madness!"
25. "Is it that the reminder is sent to him [Prophet Salih (Saleh)] alone from among us? Nay, He is an insolent liar!"
26. Tomorrow they will come to know, who is the liar, the insolent one !


คำแปล R2.
23. ขอยืนยัน ! แท้จริงเราได้สัมฤทธิผลแก่อัลกุรอานเพื่อการตักเตือน แล้วมีใครบ้างเล่าที่สำนึกในคำเตือน ?
24. แล้วพวกนั้นก็พูดว่า “จะให้พวกเราตามปุถุชนธรรมดาเพียงคนเดียวจากหมู่พวกเรากระนั้นหรือ ? ถ้าเป็นเช่นนั้น แน่นอนพวกเราก็ต้องตกอยู่ในความหลงผิด และการลงโทษ”
25. “เป็นไปได้หรือที่คำเตือนจะถูกมอบแก่เขา(ในขณะที่ผู้มีเกียรติที่เหมาะสมกว่าเขาก็ยังมีอยู่) ในระหว่างพวกเรา ทว่า ! เขาเป็นจอมมุสา อีกทั้งหยิ่งผยองยิ่งนัก”
26. ต่อไปพวกเจ้าจะรู้ในวันพรุ่งว่า ใครเป็นจอมมุสาที่มีแต่ความหยิ่งผยอง !


คำแปล R3.
23. พวกษะมูดก็ปฏิเสธการตักเตือน
24. และพวกเขากล่าวว่า “เขาก็เป็นคนธรรมดาในหมู่พวกเรานี่แหละ จะให้เราปฏิบัติตามเขากระนั้นหรือ ? ถ้าเราทำเช่นนั้น เราก็จะหลงผิดและทำสิ่งโง่ ๆ
25. เขาเป็นคนเดียวในหมู่พวกเรากระนั้นหรือที่ได้
26. (เราได้กล่าวแก่รอซูลของเราว่า): พรุ่งนี้ พวกเขาจะได้รู้ว่าใครเป็นผู้โกหกและใครเป็นผู้หลอกลวง ?


คำแปล R4.
23. พวกซะมูดได้ปฏิเสธผู้ตักเตือน (ร่อซูลของพวกเขา)
24. พวกเขากล่าวว่า คนธรรมดา ๆ จากพวกเรานี้นะหรือจะให้เราปฏิบัติตามเขา แน่นอนดังนั้นเราจะอยู่ในการหลงทางและเป็นคนบ้า
25. สาสน์นั้นถูกส่งมาให้แก่เขาแต่ผู้เดียวอื่นจากพวกเรากระนั้นหรือ? เปล่าเลย เขาเป็นคนพูดเท็จ อวดดี ไร้มารยาท
26. พรุ่งนี้พวกเขาจะได้รู้ว่าใครเป็นคนพูดเท็จ อวดดี ไร้มารยาท


คำแปล R5.
๒๓. พวกสะมูดได้ว่าบรรดาศาสนทูตผู้ทำการตักเตือนเป็นผู้มุสา ศาสนทูตในสมัยของพวกเขาคือนบีซอลิห์ แต่พวกเขาไม่ยอมศรัทธา และใส่ใคล้ว่านบีซอลิห์เป็นผู้กล่าวเท็จ
๒๔. แล้วพวกเขาก็กล่าวว่าจะให้พวกเขาตามสามัญชนเพียงคนเดียวกระนั้นหรือ แท้จริงพวกเราหากตามเขาตามคำประกาศของเขา แน่นอนพวกเราก็จะตกอยู่ในความหลงผิดและความบ้าคลั่งโดยพลัน
๒๕. จะเป็นไปได้หรือที่โองการจะถูกประทานลงมาแก่เขาในระหว่างพวกเรา โดยแน่ชัดว่าเขาได้เป็นศาสดาของอัลเลาะห์ทั้ง ๆ ที่คนในระหว่างหมู่ชนของเราที่ยังมีเกียรติเหนือกว่าเขาอีกมากมาย สิ่งที่เขาพูดนั้น เป็นไปไม่ได้เลย ที่จริงแล้วเขาเป็นจอมมุสา อีกทั้งทระนงตน
๒๖. ต่อไปพวกเขาจะได้รู้ในวันพรุ่งว่าใครกันแน่ที่เป็นจอมมุสาทระนงตน ซึ่งย่อมไม่ใช่นบีซอลิห์อย่างแน่นอน ความจริงพวกเขานั้นแหละเป็นจอมมุสาดังกล่าวนั้น




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 27 - 32

คำอ่าน
27. อิน..นามุรฺสิลุน..นาเกาะติ ฟิตนะตัลละฮุม ฟัรฺตะกิบฮุม วัศเฏาะบิรฺ
28. วะนับบิอ์ฮุม อัน..นัลมา...อะ กิสมะตุม..บัยนะฮุม กุลลุชิรฺบิม..มุหฺตะฎ็อรฺ
29. ฟะนาเดาศอหิบะฮุม ฟะตะอาฏอฟะอะก็อรฺ
30. ฟะกัยฟะกานะอะซาบีวะนุซุรฺ
31. อิน..นา..อัรฺสัลนาอะลัยฮิม ศ็อยหะเตา..วาหิดะตัน..ฟะกานูกะฮะชีมิลมุหฺตะซิรฺ
32. วะละก็อดยัสสัรฺนัลกุรฺอานะ ลิซซิกริ ฟะฮัลมิม..มุดดะกิรฺ


คำแปล R1.
27. Verily, we are sending the she-camel as a test for them. So watch them [O Salih (Saleh)], and be patient!
28. And inform them that the water is to be shared between (her and) them. Each one's right to drink being established (by turns).
29. But they called their comrade and he took (a sword) and killed (her).
30. Then, how (terrible) was My torment and My Warnings?
31. Verily, we sent against them a single Sahah (torment - awful cry, etc.), and they became like the dry stubble of a fold-builder.
32. And indeed, we have made the Qur’an easy to understand and remember, then is there any that will remember (or receive admonition)?


คำแปล R2.
27. แท้จริงเราได้ส่งอูฐตัวเมียมาทดสอบพวกเขา ดังนั้นเจ้าจงเฝ้าสังเกตพวกเขาเถิดและเจ้าจงอดทน
28. และเจ้าจงแจ้งให้พวกเขาทราบว่า แท้จริงน้ำ(บ่อของพวกนั้น)ถูกแบ่งปันระหว่างพวกเขา(กับอูฐตัวนั้น) ทุก ๆ ส่วนของน้ำดื่ม(ที่ถูกแบ่งตามกำหนดเวลานั้น)มีผู้เข้ามาดื่มกิน(อย่างทั่วถึง)
29. ครั้นต่อมาพวกเขาก็เรียกเพื่อน(ที่รับเป็นผู้ฆ่าอูฐ)ของพวกเขามา จากนั้นเขาก็จัดการตัดขาฆ่าอูฐตัวนั้นเสีย
30. แล้วการลงโทษของข้าและคำเตือนของข้า เป็นอย่างไรบ้างเล่า ?
31. แท้จริงเราได้ส่งเสียงแผดกัมปนาทเพียงครั้งหนึ่งเหนือพวกเขา พลันพวกเขาก็มีสภาพประหนึ่ง หญ้าแห้งของผู้ทำคอกสัตว์
32. ขอยืนยัน ! แท้จริงเราได้สัมฤทธิ์ผลอแก่อัลกุรอานเพื่อคำเตือนแล้ว มีผู้ใดบ้างเล่าที่สำนึกถึงคำเตือน ?


คำแปล R3.
27. เราจะส่งอูฐตัวเมียลงมาเป็นสิ่งทดสอบสำหรับพวกเขาตอนนี้จงอดทนเฝ้าดูบั้นปลายที่พวกเขาจะได้พบ
28. จงบอกพวกเขาว่า น้ำจะถูกแบ่งระหว่างพวกเขาและอูฐตัวเมีย และแต่ละฝ่ายจะผลัดกันมาใช้น้ำ
29. ในที่สุดพวกเขาก็เรียกพวกพ่องของพวกเขามาร่วมกันฆ่าอูฐตัวนั้น
30. ดังนั้นจงดูซิว่าการลงโทษของฉันรุนแรงเพียงใด และการตักเตือนของฉันเป็นจริงเช่นไร
31. เราได้ทำให้มีเสียงกัมปนาทเกิดขึ้นบนพวกเขาเพียงครั้งเดียวและพวกเขาก็กลายเป็นเศษไม้แห้งของรั้วผู้สร้างคอกแกะ
32. เราได้ทำให้กุรอานนี้เป็นวิธีการตักเตือนที่ง่าย แล้วมีใครบ้างที่ได้รับการตักเตือน ?


คำแปล R4.
27. แท้จริงเราจะส่งอูฐตัวเมียตัวหนึ่งมาเพื่อเป็นการทดสอบแก่พวกเขา ดังนั้น (ซอและฮ) จงคอยดูพวกเขาและจงอดทน
28. และจงบอกพวกเขาว่า น้ำนั้นถูกแบ่งส่วนระหว่างพวกเขา ทุก ๆ ส่วนของน้ำดื่มถูกจัดไว้แล้ว
29. แต่พวกเขาได้ร้องเรียกเพื่อนของพวกเขา เขาได้จับมันฆ่าด้วยดาบอย่างทารุณ
30. ดังนั้น การลงโทษของเรา และการตักเตือนของเราเป็นเช่นใดบ้าง
31. แท้จริง เราได้ส่งเสียงกัมปนาทเพียงครั้งเดียวลงบนพวกเขา แล้วพวกเขากลายเป็นเช่นเศษไม้แห้ง
32. และโดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่เข้าใจง่ายแก่การรำลึก แล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น


คำแปล R5.
๒๗. แท้จริงเราได้ส่งอูฐตัวเมียมายังพวกเขาเพื่อทดสอบแก่พวกเขา ดังนั้น โอ้นบีซอลิห์ เจ้าจงเฝ้ารอเถิดและจงอดทนเถิด แล้วเจ้าจะได้เห็นเหตุการณ์อันสำคัญที่จะประสบแก่เจ้าและพวกเขา
๒๘. และเจ้าจงแจ้งแก่พวกเขาเถิดว่า แท้จริงน้ำในบ่อ จะต้องแบ่งปันระหว่างพวกเขา ให้พวกเขาใช้น้ำจากบ่อนั้นหนึ่งวัน และให้อูฐดังกล่าวหนึ่งวันสลับกันไป ทุกครั้งที่มีการดื่มน้ำจากบ่อใบนั้นจะต้องมารับรู้ร่วมกันทั้งพวกเขาและอูฐตัวนั้น กล่าวคือพวกสะมูดมีบ่อในหมู่บ้านเพียงใบเดียว เมื่อถึงวันที่พวกเขาใช้บ่อใบนั้นต่างคนก็จะเอาภาชนะมาตักไปเก็บไว้ที่บ้าน และวันต่อไปเป็นวันของอูฐ อูฐก็ก้มลงไปดื่มน้ำจากบ่อจนกระทั่งแห้ง และในวันนั้นพวกเขาก็ไม่มีน้ำใช้ พวกเขาจึงต้องดื่มนมอูฐแทน ครั้นต่อมาพวกเขาก็คบกันที่จะฆ่าอูฐตัวนั้นเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป
๒๙. ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกร้องหัวหน้าของพวกเขาให้จัดการฆ่าอูฐ หัวหน้าของพวกเขาชื่อกอดดารบินซาลิฟ เขาจึงรับจัดการให้โดยถืออาวุธไปหลบอยู่ข้างทางรอจังหวะให้อูฐเดินผ่านมา ครั้นเมื่อมันผ่านมา เขาก็ฟันดาบ แล้วจัดการเชือดคออูฐจนอูฐล้มลง และร้องไห้ครวญครางอย่างน่าเวทนา แล้วมันก็สิ้นใจไป กอดดารจัดการเชือดอูฐในวันอังคาร เมื่อถึงวันเสาร์ก็ปรากฏการลงโทษแก่พวกเขา
๓๐. แล้วการลงโทษของข้าและคำเตือนของข้าเป็นอย่างไรบ้างเล่า
๓๑. การลงโทษดังกล่าวก็คือ แท้จริงเราได้ส่งมาเหนือพวกเขาซึ่งเสียงแผดกัมปนาทเพียงครั้งเดียว แล้วพวกเขาก็ล้มตายอย่างเหี่ยวแห้งมีสภาพประดุจดังไม้แห้งของคอกสัตว์
๓๒. ขอสาบาน แท้จริงเราได้ประสิทธิผลแก่อัลกุรอานเพื่อความทรงจำของผู้ท่องทั้งหลาย แล้วผู้ใดบ้างเล่าที่ระลึกถึง




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 33 - 36

คำอ่าน
33. กัซซะบัตก็อวฺมุลูฏิม..บิน..นุซุรฺ
34. อิน..นา..อัรฺสัลนาอะลัยฮิมหาศิบัน อิลลาอาละลูฏิน..นัจญัยนาฮุม..บิสะหัรฺ
35. นิอฺมะตัม..มินอิน..ดินา กะซาลิกะนัจญซีมัน..ชะกัรฺ
36. วะละก็อดอัน..ซะเราะฮุม..บัฏชะตะนา ฟะตะมาร็อวบิน..นุซุรฺ


คำแปล R1.
33. The people of Lout (Lot) belied the warnings.
34. Verily, we sent against them a violent storm of stones (which destroyed them all), except the family of Lout (Lot), whom we saved In Last Hour of the night,
35. As a favour from us, thus do we reward him who gives thanks (by obeying us).
36. And he [Lout (Lot)] indeed had warned them of Our Grasp, but they did doubt the warnings!


คำแปล R2.
33. กลุ่มชนของลู้ฏ ได้ว่าคำเตือน(ที่ศาสนทูตนำมา)เป็นสิ่งมุสา
34. แท้จริงเราได้ส่งพายุหอบเม็ดหิน ให้ตกลงมาเหนือพวกเขา ยกเว้นเพียงวงศ์ญาติของลู๊ฏเท่านั้น เราได้บันดาลความปลอดภัยแก่พวกเขาในยามดึก
35. เป็นความโปรดปรานจากเรา เช่นนั้น! เราตอบแทนผู้ที่กตัญญู
36. ขอยืนยัน ! แท้จริงนบีลู้ฏ ได้เตือนพวกเขาถึงการลงโทษของเรา แต่แล้วพวกเขากลับโต้แย้งต่อคำเตือนนั้น ๆ (ว่าเป็นความเท็จ)


คำแปล R3.
33. หมู่ชนของลูฏก็ปฏิเสธคำตักเตือน
34. เราจึงได้ส่งพายุหินมายังพวกเขาซึ่งไม่เหลือใครไว้เลย นอกจากคนในครอบครัวของลูฏซึ่งเราได้ช่วยให้ปลอดภัยในยามกลางคืน
35. เป็นความโปรดปรานของเรา นั้นแหละคือสิ่งที่เราตอบแทนผู้กตัญญู
36. ลูฏได้เตือนคนของเขาให้รู้ถึงการลงโทษของเราแล้ว แต่พวกเขาสงสัยคำเตือนนั้นและไม่ใส่ใจ


คำแปล R4.
33. หมู่ชนของลูฏได้ปฏิเสธต่อการตักเตือน
34. แท้จริง เราได้ส่งพายุหินจากท้องฟ้าลงบนพวกเขา นอกจากวงศ์วานของลูฏ เราได้ช่วยพวกเขาให้รอดพ้นในยามรุ่งสาง
35. เป็นความโปรดปรานจากเรา เช่นนั้นแหละเราตอบแทนผู้กตัญญู
36. และโดยแน่นอนเขา (ลูฏ) ได้ตักเตือนพวกเขาถึงการลงโทษของเรา แต่พวกเขาได้โต้แย้งข้อตักเตือน (ของเรา)


คำแปล R5.
๓๓. ประชาชนของนบีลูฏได้กล่าวหาว่า คำเตือนของนบีลูฏเป็นสิ่งเท็จ
๓๔. แท้จริงเราได้ส่งลูกหินจากนรกลงมาเหนือพวกเขาทุกคนที่ปฏิเสธคำเตือนนั้น ยกเว้นเพียงเครือญาติของลูฏเท่านั้น เราได้ประทานความปลอดภัยแก่พวกเขาในเวลาดึก
๓๕. เป็นความโปรดปรานจากเราที่ให้เขา เช่นนั้นแหละที่เราตอบแทนแก่ผู้ขอบคุณในความโปรดปรานของเรา พวกเขาได้แก่ผู้ที่ศรัทธาในเรา ศรัทธาในศาสนทูตของเรา และคัมภีร์ของเรา
๓๖. ขอสาบาน แท้จริงนบีลูฏได้เตือนพวกเขาให้สำนึกถึงการลงโทษของเราที่จะอุบัติแก่พวกเขา แต่พวกเขาก็โต้ถียงคำเตือนนั้น




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 37 - 40

คำอ่าน
37. วะละก็อดรอวะดูฮุ อัน..ฎ็อยฟิฮี ฟะเฏาะมัสนา อะอฺยุนะฮุม ฟะซูกู อะซาบีวะนุซุรฺ
38. วะละก็อดศ็อบบะหะฮุม..บุกเราะตัน อะซาบุม..มุสตะกิรฺ
39. ฟะซูกูอะซาบีวะนุซุรฺ
40. วะละก็อดยัสสัรฺนัลกุรฺอานะลิซซิกริฟะฮัลมิม..มุดดะกิรฺ


คำแปล R1.
37. And they indeed sought to shame his guest (by asking to commit sodomy with them). So we blinded their eyes, "Then taste you My torment and My Warnings."
38. And verily, an abiding torment seized them early in the morning.
39. "Then taste you My torment and My Warnings."
40. And indeed, we have made the Qur'an easy to understand and remember, Then is there any that will remember (or receive admonition)?


คำแปล R2.
37. ขอยืนยัน ! แท้จริงพวกเขาได้เสนอต่อนบีลู้ฏเหนือการกระทำบัดสีต่อแขกของเขา ดังนั้นเราจึงลบดวงตาของพวกเขา(พร้อมกับตรัสว่า) “พวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษของข้า และคำเตือนของข้าเถิด”
38. ขอยืนยัน แท้จริงการลงโทษอันยืดเยื้อได้ประสบกับพวกเขาในตอนเช้าตรู่
39. “ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษของข้าและคำเตือนของข้าเถิด !”
40. ขอยืนยัน ! แท้จริงเราได้สัมฤทธิผลแก่อัลกุรอาน เพื่อการตักเตือน แล้วมีผู้ใดบ้างเล่า ที่สำนึกในคำเตือน


คำแปล R3.
37. และพวกเขาได้หาทางขัดขวางเขามิให้ปกป้องคุ้มครองแขกของเขา ดังนั้น เราจึงได้ทำให้ตาของพวกเขาบอด (และได้กล่าวว่า) “ดังนั้นจงลิ้มรสการลงโทษของเราและการตักเตือนของเรา”
38. ในตอนรุ่งสาง พวกเขาก็ได้รับการลงโทษอย่างยาวนาน
39. ดังนั้น ตอนนี้จงลิ้มรสการลงโทษของฉันและการตักเตือนของฉัน
40. เราได้ทำให้กุรอานนี้เป็นวิธีการที่ง่ายสำหรับการตักเตือน แล้วมีใครบ้างที่ได้รับการตักเตือนนี้ ?


คำแปล R4.
37. และโดยแน่นอน พวกเขาได้ขอร้อง (แกมบังคับ) เขาให้ส่งมอบแขกของเขา (แก่พวกเขา) ดังนั้นเราจึงทำให้นัยน์ตาของพวกเขาบอดลง ฉะนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษของเรา และการตักเตือนของเรา
38. และโดยแน่นอน การลงโทษอันต่อเนื่องก็ได้เกิดขึ้นแก่พวกเขาในเวลาเช้า
39. ฉะนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษของเรา และการตักเตือนของเรา
40. และโดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่เข้าใจง่าย แก่การรำลึก และมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น


คำแปล R5.
๓๗. และขอสาบาน แท้จริงพวกเขาเป็นผู้เข้ามาขอนบีลูฏ เพื่อทำการสมสู่ต่อแขกของเขา เนื่องเพราะพวกเขาเข้าใจแขกที่มาพบนบีลูฏนั้นเป็นมนุษย์ แต่ความจริงเป็นมลาอิกะห์ ดังนั้นเราจึงลบตาของพวกเขาจนหายไปและไม่มีดวงตาที่จะใช้มองสิ่งใดได้ ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษของข้าและคำเตือนของข้าเถิด
๓๘. และขอสาบาน แท้จริงได้มีการลงโทษอันยืนนานมาประสบแก่พวกเขาในเวลาเช้าโดยยิบรีลจัดการยกเมืองนั้นทั้งเมืองขึ้น แล้วถล่มลงมาพังทลายจนหมดสิ้น
๓๙. ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษและคำเตือนของข้าเถิด
๔๐. และขอสาบาน แท้จริงเราได้ประสิทธิผลแก่อัลกุรอานเพื่อความทรงจำ แล้วมีผู้ใดบ้างหรือที่ระลึกถึง




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 41 - 45
   

คำอ่าน
41. วะละก็อดญา...อะอาละฟิรฺเอานัน..นุซุรฺ
42. กัซซะบูบิอายาตินา กุลลิฮา ฟะอะค็อซนาฮุม อัคซะอะซีซิม..มุกตะดิรฺ
43. อะกุฟฟารุกุม ค็อยรุม..มินอุลา...อิกุม อัมละกุม..บะรอ...อะตุน..ฟิซซุบุรฺ
44. อัมยะกูลูนะนะหฺนุญะมีอุม..มุน..ตะศิรฺ
45. สะยุฮฺซะมุลญัมอุ วะยุวัลลูนัดดุบุรฺ


คำแปล R1.
41. And indeed, warnings came to the people of Fir'aun (Pharaoh) [through Msa (Moses) and Harun (Aaron)].
42. (They) belied all our signs, so we seized them with a seizure of the All-Mighty, All-Capable to carry out what he will (omnipotent).
43. Are your disbelievers (O Quraish!) better than these [nations of Nuh (Noah), Lout (Lot), Salih (Saleh), and the people of Fir'aun (Pharaoh), etc., who were destroyed)? or have you an immunity (against our torment) In the divine scriptures?
44. Or do they say: "We are a great multitude, and we shall be victorious?"
45. Their multitude will be put to flight, and they will show their backs.


คำแปล R2.
41. ขอยืนยัน ! ศาสดาผู้ตักเตือนได้มาสู่วงศ์วานของฟิรเอาน์
42. พวกเขาได้ว่าสัญลักษณ์ทั้งหมดของเรามุสา ดังนั้นเราจึงลงโทษพวกเขาอย่างเฉียบขาด อีกทั้งมีอำนาจ
43. อันพวกไร้ศรัทธา ในหมู่พวกเจ้าจะดีกว่าบรรดาพวกเหล่านั้น(ที่กล่าวมาแล้ว)หรือ? หรือว่าพวกเจ้ามีสิทธิ์พ้นมลทินตามระบุอยู่ในคัมภีร์ (ว่าจะไม่ต้องพบกับการลงโทษ) ?
44. ทว่าพวกเขาพูดว่า “พวกเราเป็นมวลชนหนึ่ง ที่สามารถช่วยตัวเองได้!”
45. กลุ่มชนนั้น ต่อไปต้องประสบกับความพ่ายแพ้เป็นแน่ และพวกเขาจะหันหลังหนีอย่างแน่นอน


คำแปล R3.
41. และการตักเตือนได้มายังผู้คนของฟาโรห์ด้วยเช่นกัน
42. แต่พวกเขาปฏิเสธสัญญาณของเราทั้งหมด ดังนั้นเราจึงได้ลงโทษพวกเขาเหมือนกับการลงโทษของพระผู้ทรงอำนาจผู้ทรงอานุภาพ
43. บรรดาผู้ปฏิเสธของสูเจ้ามีอะไรดีกว่าพวกเขาเหล่านั้นหรือ ? หรือมีการยกเว้นใด ๆ สำหรับสูเจ้าไว้ในคัมภีร์ ?
44. หรือพวกเขากล่าวว่า “เราเป็นพวกที่แข็งแรง เราจะป้องกันตัวเอง ?”
45. ในไม่ช้า คนพวกนั้นจะถูกทำลายและพวกเขาทั้งหมดจะหันหลังหนี


คำแปล R4.
41. และโดยแน่นอน ได้มีการตักเตือนมายังวงศ์วานของฟิรเอาน.
42. พวกเขาได้ปฏิเสธสัญญาณต่าง ๆ ของเราทั้งหมด ดังนั้นเราจึงได้ลงโทษพวกเขาซึ่งการลงโทษแห่งผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงอานุภาพ
43. พวกปฏิเสธศรัทธาของพวกเจ้าจะดียิ่งกว่าพวกเหล่านั้นกระนั้นหรือ? หรือว่ามีการยกเว้นโทษสำหรับพวกเจ้าระบุไว้ในคัมภีร์
44. หรือพวกเขากล่าวว่า พวกเราทั้งหมดนั้นเป็นผู้ชนะ
45. พลพรรคพวกนี้จะพ่ายแพ้ และพวกเขาจะผินหลังวิ่งหนี


คำแปล R5.
๔๑. และขอสาบาน แท้จริงศาสดาผู้ตักเตือนได้มาสู่เครือญาติของฟิรเอาน์ คือ นบีมูซา และนบีฮารูน
๔๒. พวกเขาว่า บรรดาสัญลักษณ์ของเราที่นบีมูซานำมาแสดงเป็นสิ่งเท็จทั้งหมด ดังนั้นเราจึงจัดการกับพวกเขาอย่างรุนแรงอีกทั้งเข้มแข็ง ไม่มีสิ่งใดทัดทานได้ นั่นคือให้พวกเขาทั้งหมดจมน้ำทะเลตาย
๔๓. โอ้ชาวกุเรช บรรดาพวกเนรคุณของพวกเจ้าจะดีกว่าพวกเหล่านั้นที่ปฏิเสธนบีต่าง ๆ ในยุคก่อน ๆ ตามที่กล่าวมาแล้วกระนั้นหรือ พวกเจ้าจึงจะได้ถูกลงโทษแบบเดียวกับที่พวกเขาเคยถูกลงโทษมาก่อน หรือว่าพวกเจ้านั้นพ้นผิด ไม่ต้องรับการลงโทษโดยมีระบุอยู่ในบรรดาคัมภีร์ต่าง ๆ เล่มใดเล่มหนึ่งก็ตาม ความเป็นจริง ไม่ว่ายุคใดสมัยใดก็ตาม ผู้เนรคุณจะต้องรับโทษเหมือนกัน โดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น
๔๔. หรือว่าพวกเขา ชาวมักกะห์ จะพูดว่า พวกเราทั้งหมดได้รับชัยชนะในการทำศึกกับนบีมุฮำมัด
๔๕. อันกลุ่มชนชาวมักกะห์ ต่อไปจะต้องพ่ายแพ้ และต้องหันหลังหนีอย่างแน่นอน ความพ่ายแพ้ครั้งนี้พวกเขาประสบ ณ ทุ่งบะดัร โดยพวกกุเรชระดับผู้นำเสียชีวิตประมาณ ๗๐ คน และถูกจับเป็นเชลย ๗๐ คน




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 46 - 50
 


คำอ่าน
46. บะลิสสาอะตุเมาอิดุฮุม วัสสาอะตูวะอัดฮาวะอะมัรฺ
47. อิน..นัลมุจญริมีนะ ฟัเฎาะลาลิว..วะสุอุร
48. เยามะยุสหะบูนะ ฟิน..นาริ อะลาวุญูฮิฮิม ซูกูมัสสะสะก็อรฺ
49. อิน..นากุลละชัยอิน เคาะลักนาฮุบิเกาะดัรฺ
50. วะมา..อัมรุนา..อิลลาวาหิดะตุน..กะลัมหิม..บิลบะศ็อรฺ


คำแปล R1.
46. Nay, but the hour is their appointed time (for their full recompense), and the hour will be more grievous and more bitter.
47. Verily, the Mujrimun (polytheists, disbelievers, sinners, criminals, etc.) are in error (in this world) and will burn (in the Hell-fire in the Hereafter).
48. The Day they will be dragged in the Fire on their faces (it will be said to them): "Taste You the touch of Hell!"
49. Verily, we have created all things with Qadar (Divine Preordainments of All things before their creation, as written in the Book of decrees Al-Lauh Al-Mahfuz).
50. And Our Commandment is but one, as the twinkling of an eye.

 
คำแปล R2.
46. ยิ่งไปกว่านั้น! กาลปวสานโลก เป็นกำหนดสัญญาของพวกเขา (ที่จะต้องอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน) และกาลปาวสานโลกนั้นมีความวิกฤติ และความขมขื่นเป็นที่สุด
47. แท้จริงบรรดาคนบาปทั้งหลาย ล้วนตกอยู่ในความหลงผิด(ในโลกนี้)และอยู่ในเปลวไฟนรก(ในโลกหน้า)
48. เป็นวันซึ่งพวกเขาจะต้องคว่ำหน้าลงไปในนรก (พร้อมกับมีคำสั่งว่า) “พวกเจ้าจงลิ้มรสสัมผัสการเผาไหม้ของไฟนรกเถิด!”
49. แท้จริง ทุกสิ่งทุกอย่างเราได้บันดาลมันขึ้นมา โดยกำหนดการที่แน่นอน (ไม่มีการเปลี่ยนแปลง)
50. และการงานของเราไม่มีสิ่งใดยุ่งยากเลย นอกจากเพียงครั้งเดียวอันเปรียบดังการะพริบตาเท่านั้น


คำแปล R3.
46. แต่เวลาที่ได้ถูกสัญญาไว้สำหรับจัดการพวกเขาก็คือยามอวสานซึ่งเป็นยามที่เศร้าโศกเสียใจและขมขื่นที่สุด
47. ความจริงแล้ว คนชั่วเหล่านี้หลงอยู่ในความหลงผิดและความโง่
48. วันที่เขาถูกลากเข้าไปสู่ไฟนั้นบนใบหน้าของพวกเขา(จะมีเสียงกล่าวว่า) “ตอนนี้จงลิ้มรสเปลวไฟของนรก”
49. เราได้สร้างทุกสิ่งขึ้นมาด้วยการกำหนดไว้ล่วงหน้า
50. และคำบัญชาของเราแค่เพียงคำเดียวก็มีผลในชั่วพริบตา


คำแปล R4.
46. แต่ว่ายามอวสาน (วันกิยามะฮ.) นั้นเป็นกำหนดเวลา (การลงโทษ) ของพวกเขาและยามอวสานนั้นทุกข์ทรมานยิ่ง และขมขื่นยิ่ง
47. แท้จริงบรรดาผู้มีความผิดนั้น อยู่ในการหลงทาง และการเผาไหม้
48. วันที่พวกเขาจะถูกลากบนใบหน้าของพวกเขาลงสู่ไฟนรก (จะมีเสียงกล่าวขึ้นว่า) พวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษที่มีการเผาไหม้
49. แท้จริงทุก ๆ สิ่งนั้นเราสร้างมันตามสัดส่วน
50. และกิจการของเรา (ในการสร้าง) นั้นเพียง (บัญชา) ครั้งเดียว คล้ายกับชั่วพริบตาเดียว


คำแปล R5.
๔๖. แต่ทว่าวันกิยามะห์คือสัญญานัดหมายของพวกเขาที่จะต้องประสบกับภัยพิบัติและการลงโทษต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ส่วนที่พวกเขาประสบ ณ ทุ่งบะดัรนั้นเป็นเพียงการเริ่มต้นเล็กน้อยเท่านั้นเอง และวันกิยามะห์ย่อมเป็นภัยที่ยิ่งใหญ่และเป็นสิ่งขมขื่นยิ่งนัก
๔๗. แท้จริงบรรดาทรชนทั้งหลายย่อมตกอยู่ในความหลงผิดในโลกดุนยานี้ และในเปลวไฟของนรกในโลกอาคิเราะห์
๔๘. เป็นวันซึ่งพวกเขาถูกลากลงในนรกโดยพวกเขาคว่ำหน้าของพวกเขา พร้อมทั้งมีผู้ประกาศว่า พวกเจ้าจงลิ้มรสแห่งสัมผัสของเปลวเพลิงเถิด
๔๙. แท้จริงทุกสิ่งทุกอย่างนั้น เราได้บันดาลมันขึ้นมาโดยกำหนดการที่แน่ชัด
๕๐. และไม่มีการงานของเราที่จะยุ่งยากและเยิ่นเย้อ นอกจากเพียงครั้งเดียวประดุจการกะพริบตาเท่านั้น




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัลเกาะมัรฺ อายะฮฺที่ 51 - 55

คำอ่าน
51. วะละก็อดอะฮฺลักนา..อัชยาอะกุม ฟะฮัลมิม..มุดดะกิร
52. วะกุลลุชัยอิน ฟะอะลูฮุฟิซซุบุร
53. วะกุลลุเศาะฆีริว..วะกะบีริม..มุสตะฏ็อรฺ
54. อิน..นัลมุตตะกีนะ ฟีญัน..นาติว..วะนะฮัร
55. ฟีมักอะดิศิดกิว..อินดะมะลีกิม..มุกตะดิรฺ


คำแปล R1.
51. And indeed, we have destroyed your likes, and then is there any that will remember (or receive admonition)?
52. And each and everything they have done is noted in (their) records (of deeds).
53. And everything, small and big is written (in Al-Lauh Al-Mahfuz already beforehand i.e. before it befalls, or is done by its doer) (See the Qur'an V.57:22).
54. Verily, the Muttaqun (pious), will be in the midst of Gardens and rivers (Paradise).
55. In a seat of Truth (i.e. Paradise), near the Omnipotent king (Allโh, the All-Blessed, the Most High, the Owner of Majesty and honour).


คำแปล R2.
51. ขอยืนยัน ! แท้จริงเราได้ทำลายล้างบรรดาที่เหมือนกับพวกเจ้า (มาเป็นจำนวนมากมายแล้ว) แล้วผู้ใดบ้างเล่า ที่สำนึกในคำเตือน ?
52. และทุก ๆ สิ่งที่พวกเขากระทำไว้นั้น(ล้วนถูกบันทึก)อยู่ในบัญชีความประพฤติ(ทั้งสิ้น)
53. และทุกสิ่ง จะเล็กหรือใหญ่ก็ตามถูกบันทึกไว้ทั้งสิ้น
54. แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงอัลเลาะฮฺ จะได้อยู่ในสวรรค์และ(มี)ธารน้ำ(ไหลอยู่เบื้องใต้)
55. ในสถานที่อันมีความพึงพอใจแท้จริง ณ องค์พระเจ้าผู้ปกครอง ผู้ทรงอำนาจ


คำแปล R3.
51. เราได้ทำลายหมู่ชนเช่นเดียวกับสูเจ้าไปมากแล้ว แล้วมีใครในหมู่สูเจ้าที่ได้รับคำตักเตือน ?
52. อะไรก็ตามที่พวกเขาได้ทำไปจะถูกเก็บไว้ในบันทึก
53. และทุกสิ่งไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ได้ถูกบันทึกไว้ในนั้น
54. บรรดาผู้ยำเกรงอัลลอฮฺนั้นจะอยู่ท่ามกลางสวนสวรรค์และลำน้ำหลายสาย
55. ในสถานที่อันทรงเกียรติที่แท้จริงแห่งหนึ่งต่อหน้ากษัตริย์ที่ทรงอำนาจที่สุด


คำแปล R4.
51. และโดยแน่นอน เราได้ทำลายกลุ่มชนเช่นพวกเจ้าแล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น
52. และทุก ๆ สิ่งที่พวกเขากระทำมันนั้นมีอยู่ในบันทึก
53. และทุก ๆ สิ่งทั้งเล็กและใหญ่ก็ได้ถูกบันทึกไว้แล้ว
54. แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงนั้นอยู่ในสวนสวรรค์หลากหลาย และแม่น้ำหลายสาย
55. ในสถานที่อันทรงเกียรติ ณ ที่พระเจ้าผู้ทรงอานุภาพ


คำแปล R5.
๕๑. และขอสาบาน แท้จริงเราได้ทำลายล้างบรรดาพวกที่เหมือนกับพวกเจ้าในด้านความเนรคุณและความดื้อดึง แล้วมีผู้ใดบ้างหรือที่รำลึกถึง
๕๒. และทุก ๆ สิ่งที่พวกเขาได้กระทำขึ้นมีปรากฏอยู่แล้วในบันทึกของบรรดามลาอิกะห์ทั้งมวล
๕๓. และทุกสิ่งไม่ว่าจะเล็กและใหญ่ก็ตามถูกเขียนไว้ในบันทึกนั้นอย่างครบถ้วน
๕๔. แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงอัลเลาะห์ย่อมอยู่ในสวรรค์และมีธารน้ำไหลอยู่ ณ เบื้องใต้ของมัน
๕๕. ในสถานแห่งความเป็นจริง ไม่มีความเท็จและสิ่งไร้สาระอยู่เลย อยู่ ณ ผู้ปกครองที่ทรงความสามารถแท้จริง


 
ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ (صدق الله العظيم)
จบสูเราะฮฺที่ 54 อัลเกาะมัรฺ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 23, 2012, 12:40 PM โดย webmaster »

 

GoogleTagged