.. บรรดาอุลามาอ์เห็นว่า การจ่ายกัฟฟาเราะห์นั้นไม่จำเปนในบวชที่ไม่ได้อยู่ในเดือนร่อมะฎอน ส่วนท่าน กอตาดะห์นั้นบอกว่า จำเปนต้องจ่ายกัฟฟาเราะห์ในการชดใช้บวชด้วยถ้าทำในสิ่งที่ทำให้เสียกัฟฟาเราะห์
.. บรรดาอุลามาอ์เห็นว่า ใครที่กินหรือดื่มในเดือนร่อมะฎอนโดยที่เขามีสุขภาพดีและไม่ใช่เปนผู้เดินทางจำเปนต้องชดใช้ และงดในเวลาที่เหลืออยู่ด้วย
.. บรรดาอุลามาอ์เห็นว่า ใครที่ทำให้เสียบวชวันหนึ่งของเดือนร่อมะฎอนจำเปนต้องชดใช้ของวันนั้นๆ ส่วนท่าน รอบีอะห์บอกว่าต้องใช้ 12 วัน ส่วนท่าน มูซัยยิบ บอกว่าต้องใช้แต่ละวันนั้น 1 เดือนต่อ1วันที่เสียบวช ส่วนท่าน นัคอีย์ บอกว่าไม่ต้องใช้ นอกจาก 1000 วัน ส่วนท่าน อาลี และ อิบนุ มัสอูด บอกว่าการบวชตลอดชีวิตนั้นไม่ต้องชดใช้
.. บรรดาอุลามาอ์เห็นว่า การบวชของคนที่เปนลมตลอดทั้งวันนั้นไม่เซาะห์ แต่ถ้าหากนอนตลอดทั้งวันนั้นบวชเซาะห์ โดยแตกต่างกับ ท่านอิซฎอครีย์เปนผู้หนึ่งที่อยู่ในมัสฮับซาฟีอี
.. บรรดาอุลามาอ์เห็นว่า สุนัตให้บวชในวันที่ 13 14 15 ของเดือน
(ทั้งหมดนี้เปนมัสอะละห์ที่บรรดาอุลามาอ์เห็น الإجماع และ الإتفاق กัน)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
(ต่อไปเปนมัสอะละห์ที่บรรดาอุลามาอ์เห็นต่างกัน)
.. มัสฮับซาฟีอีตามโกลที่ รอเญี้ย และฮัมบาลี บอกว่า คนท้องและคนให้นมนั้นถ้านางนั้นแก้บวชเนื่องจากกลัวอันตรายเกิดกับลูกของนาง จำเปนต้องชดใช้ และจ่ายกัฟฟาเราะห์ทุกๆวัน วันละ 1 มุด ส่วนอีหม่าม ฮานาฟีนั้นไม่ต้องจ่ายกัฟฟาเราะห์ ส่วนท่าน อิบนุ อุมัร และ อิบนุ อับบาส ให้จ่ายกัฟฟาเราะ ไม่ต้องชดใช้
.. ทั้ง 3 มัสฮับ ฮานาฟี ซาฟีอี มาลีกี เห็นว่า ใครที่บวชแล้วต่อมาเขาได้เดินทางไม่อนุญาติให้แก้บวช ส่วน ฮัมบาลี อนุญาติ และท่าน มุซนีก็ได้เลือกไว้เช่นกัน
.. อีหม่าม ฮานาฟี และฮัมบาลี บอกว่า คนที่เดินทางถ้าเขานั้นแก้บวชมาแล้ว และเขาก็กลับมาที่บ้านของเขา หรือคนป่วยที่แก้บวชต่อมาเขาก็หายป่วย หรือเด็กที่บรรลุนิติภาวะในตอนกลางวัน หรือคนกาเฟรเข้ารับอิสลามตอนกลางวัน จำเปนที่พวกเขานั้นต้องงดในเวลาที่ยังเหลืออยู่ ส่วน มาลีกี และ ซาฟีอีในโกลที่ อาเซาะห์ ถือว่าเปนสุนัต
.. 3 มัสฮับ มาลีกี ซาฟีอี ฮัมบาลี เห็นว่า ผู้ที่ออกจากศานา (ตกศานา)จำเปนต้องชดใช้บวชในสภาพที่เขานั้นตกศานา ส่วน ฮานาฟี ไม่จำเปนต้องใช้
.. 3 มัสฮับ มาลีกี ซาฟีอี ฮัมบาลี เห็นว่า เด็กนั้นบวชใช้ได้ ส่วน ฮานาฟี ใช้ไม่ได้
.. ฮานาฟี และ ซาฟีอี บอกว่า คนบ้า เมื่อเขาหายจากการบ้า ไม่จำเปนต้องใช้ในสิ่งที่เขาได้ขาดไป ส่วน มาลีกี ถือว่าจำเปน และเปนหนึ่งในมัสฮับ ฮัมบาลี
.. ฮานาฟี และซาฟีอี ตามโกลที่ อาเซาะห์ เห็นว่า คนป่วยที่ไม่หวังว่าจะหาย และคนแก่ที่ไม่สามารถบวชได้ จำเปนต้องจ่าย ฟิดยะห์ วันละ 1 มุด ไม่ต้องบวชใช้ ส่วน มาลีกี ไม่ต้องชดใช้ และไม่ต้องเสีย ฟิดยะห์ และเปนโกลหนึ่งของ ซาฟีอี ส่วน ฟิดยะห์ที่ต้องจ่ายในมัสฮับ ฮานาฟี และ ฮัมบาลี นั้น ครึ่งซออ์ ส่วน ซาฟีอี 1 มุด ทุกๆวัน
.. 3 มัสฮับ ฮานาฟี มาลีกี ซาฟีอี และรายงานหนึ่งของฮัมบาลี บอกว่า บวชนั้นไม่จำเปน เมื่อว่าไม่เห็นจันทร์เสี้ยวขณะที่ท้องฟ้านั้นมีเมฆปกคลุม หรือจันทร์เสี้ยวนั้นซ้อนตัวในค่ำคืนที่ 30 ของเดือนซะห์บาน ส่วนอีกรายงานหนึ่งของ ฮัมบาลี บอกว่า จำเปนต้องบวช
.. ฮานาฟี บอกว่า ไม่เปนการยืนยันว่าเห็นจันทร์เสี้ยวของเดือนร่อมะฎอนในขณะที่ท้องฟ้านั้นโปร่งใส นอกจากต้องมีพยานส่วนใหญ่ของผู้ที่รู้ข่าว อันนึง เมื่อท้องฟ้านั้นมีเมฆ ก็เปนสิ่งที่ยืนยันได้ด้วยการมีพยายคนเดียวไม่ว่าจะเปนชายหรือหญิงจะเปนทาศหรือเสรีชนก็ตาม ส่วน มาลีกี ต้องมีพยาน 2 คน ส่วน ซาฟีอี และหนึ่งจากรายงานของฮัมบาลี เห็นว่า มีพยานคนเดียวก็พอแล้ว
.. ทั้ง 4 มัสฮับ เห็นว่าใครที่เห็นจันทร์เสี้ยวคนเดียวก็ให้เขาบวช และถ้าเขาเห็นจันทร์เสี้ยวของเดือน ซาววาล ก็ให้เขาแก้โดยลับๆ ส่วน ท่าน ฮาซัน และอินุ ซีรีน เห็นว่าไม่จำเปนที่เขานั้นต้องบวชเมื่อเขาเห็นคนเดียว
.. 3 มัสฮับ ฮานาฟี มาลีกี ซาฟีอี เห็นว่า การบวชในวันที่สงสัยนั้นใช้ไม่ได้ ส่วน ฮัมบาลี ถือว่ามักโร๊ะหากท้งอฟ้านั้นโปร่งใส ส่วนถ้าท้องฟ้านั้นมีเมฆวายิบ
.. 3 มัสฮับ ฮานาฟี มาลีกี ซาฟีอี เห็นว่า ถ้าจันทร์เสี้ยวถูกเห็นตอนกลางวันถือว่าเข้าบวชในคืนต่อไป ส่วน ฮัมบาลี บอกว่า ถ้าเห็นก่อนตะวันคล้อยถือว่าเข้าบวชเมื่อที่ผ่านมา แต่ถ้าเห็นหลังจากตะวันคล้อยมี 2 รายงาน ดังนั้น 3 มัสฮับ ถือว่าไม่ต้องชดใช้คืนที่ผ่านมา
.. 3 มัสฮับ มาลีกี ซาฟีอี ฮัมบาลี เห็นว่า จำเปนต้องเจาะจงบวช ส่วน ฮานาฟี ไม่มีเงื่อนไขต้องเจาะจง ถ้าเนียตบวชเฉยๆหรือเนียตเปนสุนัตในเดือนร่อมะฎอนใช้ได้
.. 3 มัสฮับ มาลีกี ซาฟีอี ฮัมบาลี เห็นว่า เวลาเนียตบวชนั้นนับตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกจนถึงดวงอาทิตย์ที่2ขึ้นคือ(ฟายัร กาซิบ) ส่วน ฮานาฟี ไม่จำเปนต้องเจาะจงเนียตในตอนกลางคืน แต่อนุญาติให้เนียตตอนกลางคืนได้ จนถึงก่อนตะวันคล้อย
.. 3 มัสฮับ ฮานาฟี ซาฟีอี ฮัมบาลี เห็นว่า การเนียตในเดือนร่อมะฎอนนั้นต้องเนียตทุกคืน ส่วน มาลีกี เนียตแค่ครั้งเดียวพอเพียงแล้ว
.. 3 มัสฮับ ฮานาฟี ซาฟีอี ฮัมบาลี เห็นว่า บวชสุนัตนั้นถ้าเนียตก่อนตะวันคล้อยใช้ได้ ส่วน มาลีกี เนียตตอนกลางวันนั้นใช้ไม่ได้
.. 4 มัสฮับ นั้นเห็นว่า การบวชของผู้ที่มียูนุบนั้นใช้ได้ ส่วน อาบี ฮุรอยเราะห์ และ ซาเล็ม บิน อับดิลลอฮ์ เห็นว่า ใช้ไม่ได้ ส่วนท่าน อุรวะห์ และ ฮะซัน หากเขาล่าช้าจากการอาบน้ำโดยไม่มีอุปสรรคใดๆบวชนั้นเสีย ส่วนท่าน อัคอีย์ เห็นว่า หากเปนบวชที่วายิบนั้นต้องชดใช้ และการนินทา โกหก นั้นทำให้เสียบวชด้วยเช่นกัน
(เดี๋ยวมาต่อใหม่ครับ) วัสลาม..