ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 56 อัลวากิอะฮฺ)  (อ่าน 9564 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด


 salam

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ เป็นสูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มี 96 อายะฮฺ

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ -   (R4.)

    ชื่อ : ซูเราะฮฺนี้ได้ชื่อมาจากคำว่า(الواقعة  - อัลวากิอะฮฺ)ที่ปรากฏอยู่ในอายะฮฺแรก
    ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ : ตามการจัดเรียงลำดับเหตุการณ์ณืของซูเราะฮฺต่าง ๆ ที่ อับดุลลอฮฺ บิน อับบาส ได้ทำไว้นั้น ในตอนแรก ซูเราะฮฺ ฏอฮา ได้ถูกประทานลงมาก่อน หลังจากนั้นก็เป็นซูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ และหลังจากนั้นก็เป็นซูเราะฮฺ อัชชุอะรออ์ (สุยูตี: อัล-อิตกอน) การเรียงลำดับเช่นนี้ได้ถูกรายงานมาจากอิคริมะฮฺ เช่นกัน (บัยฮะกี : ดะลาลิล อัน-นุบูวะฮฺ)
   นอกจากนี้แล้ว การจัดเรียงลำดับดังกล่าวก็ยังได้รับการสนับสนุนจากเรื่องราวที่อิบนุฮิชามได้เล่ามาจากอิบนุอิสฮากเกี่ยวกับเรื่องการยืนยันศรัทธาของอุมัรฺ เรื่องราวดังกล่าวมีอยู่ว่าเมื่ออุมัรฺได้เข้าไปยังบ้านของน้องสาว ปรากฏว่า ขณะนั้นกำลังมีการอ่านซูเราะฮฺฏอฮาอยู่ เมื่อได้ยินเสียงของอุมัรฺ คนในบ้านก็เอาแผ่นบันทึกกุรฺอานไปซ่อนไว้ทันที ในตอนแรก อุมัรฺได้กระชากเสื้อน้องเขยของท่าน และเมื่อน้องสาวของท่านลุกขึ้นมาปกป้องสามี ท่านก็ตีเธอจนเธอได้รับบาดแผลที่ศีรษะ เมื่ออุมัรฺเห็นเลือดของน้องสาว ท่านก็รู้สึกเสียในใจที่ตัวเองทำไปและได้กล่าวแก่เธอว่า “ขอพี่ดูแผ่นบันทึกที่เธอซ่อนไว้หน่อยว่า มีอะไรอยู่ในนั้น” แต่น้องสาวของท่านได้กล่าวว่า : “พี่ไม่สะอาดเพราะการเคารพบูชาเทวรูปของพี่ และเฉพาะผู้ที่สะอาดเท่านั้นที่สามารถแตะต้องมันได้” ดังนั้นอุมัรฺจึงเดินไปชำระร่างกายและกลับมาเอาแผ่นบันทึกกุรฺอานไปอ่าน นี่แสดงให้เห็นว่า ซูเราะฮฺอัล-วากิอะฮฺ ได้ถูกประทานมาในเวลานั้นเพราะมันมีข้อความที่กล่าวว่า “เฉพาะผู้ที่สะอาดเท่านั้นที่สามารถแตะต้องมันได้” และเป็นที่รู้กันดีว่าอุมัรฺได้เข้ารับอิสลามหลังจากการอพยพครั้งแรกไปยัง อบิสสิเนียในปีที่ห้าแห่งการเป็นนบี
   เนื้อหาและสาระสำคัญ : สาระสำคัญของซูเราะฮฺนี้ก็คือเรื่องโลกหน้า หลักศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว(เตาฮีด) และการปฏิเสธข้อสงสัยในอัลกุรฺอานของผู้ปฏิเสธอัลลอฮฺในมักกะฮฺ คนพวกนี้เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่การฟื้นคืนชีพจะเกิดขึ้นเมื่อระบบของโลกและชั้นฟ้าเกิดความปั่นป่วน และคนที่ตายไปแล้วทั้งหมดจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อรอรับการตัดสิน และหลังจากนั้น คนดีก็จะได้เข้าสวรรค์ ส่วนคนชั่วก็จะถูกโยนลงไปในนรก คนเหล่านี้ถือว่าสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเรื่องเพ้อฝันซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นจริงได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบโต้ความคิดเช่นนี้ จึงได้มีการกล่าวว่า “เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงนี้เกิดขึ้นก็จะไม่มีใครปฏิเสธว่ามันเป็นจริง และไม่มีใครมีอำนาจที่จะหลีกเลี่ยงมันได้ ในตอนนั้น มนุษย์ทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม คือ (1) ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด (2) คนทำดีทั่วไป และ (3) คนที่ปฏิเสธโลกหน้าและนับถือบูชาเทวรูปและยังคงดึงดันทำบาปต่อไป” คนทั้งสามกลุ่มนี้จะได้รับการตอบแทนรางวัลและถูกลงโทษอย่างไรนั้น ได้ถูกกล่าวไว้ในอายะฮฺที่ 7 – 56
   หลังจากนั้น ในอายะฮฺที่ 57 – 74 ก็ได้มีการอธิบายเหตุผลครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อพิสูจน์ความจริงของหลักคำสอนทั้งสองของอิสลามซึ่งบรรดาผู้ไม่ศรัทธาได้ปฏิเสธ นั่นคือ หลักความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวและความเชื่อในการฟื้นคืนชีพ ในข้อโต้แย้งเหล่านี้ นอกจากทุกสิ่งที่มีอยู่ในแผ่นดินและชั้นฟ้าแล้ว มนุษย์ยังได้ถูกเรียกร้องเชิญชวนให้สังเกตร่างกายของเขาเองและอาหารที่เขากินและน้ำที่เขาดื่มและไฟที่เขาใช้ปรุงอาหาร มนุษย์ได้ถูกเชิญชวนให้พิจารณาถึงคำถามที่ว่า : สูเจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะตัวเป็นอิสระหรือเคารพสักการะผู้ใดอื่นนอกไปจากอัลลอฮฺผู้ทรงมีอำนาจทำให้สูเจ้าเกิดขึ้นมาและเป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพแก่สูเจ้า ? สูเจ้าคิดได้อย่างไรว่าหลังจากที่สูเจ้าได้ถูกทำให้บังเกิดขึ้นมาครั้งแรกได้แล้ว พระองค์จะไม่มีอำนาจทำให้สูเจ้าฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหากพระองค์ทรงประสงค์ ?
   หลังจากนั้น ในอายะฮฺที่ 75 – 82 ความสงสัยของพวกเขาเกี่ยวกับกุรฺอานก็ได้ถูกปฏิเสธและพวกเขาได้บอกให้รู้ว่าพวกเขาจะต้องประสบชะตากรรมอย่างไรถ้าพวกเขาปฏิเสธกุรฺอาน? ถ้าใครได้พิจารณาข้อโต้แย้งนี้ในประโยคสั้น ๆ เกี่ยวกับสัจธรรมของกุรฺอาน เขาก็จะพบระบบที่มั่นคงเช่นเดียวกับที่มีอยู่ในดวงดาวของจักรวาล หลังจากนั้นบรรดาผู้ไม่ศรัทธาก็ได้ถูกบอกว่าคัมภีร์นี้ได้ถูกจารึกไว้ในบันทึกชะตากรรมที่ไม่มีสิ่งถูกสร้างใด ๆ สามารถอาจเอื้อมได้ เหมือนกับจะกล่าวว่า “สูเจ้าคิดว่ากุรฺอานถูกพวกมารร้ายนำมาให้มุฮัมมัดในขณะที่ไม่มีผู้ใดนอกไปจากบรรดามลาอิกะฮฺผู้บริสุทธิ์เท่านั้นที่จะเป็นผู้นำมายังมุฮัมมัดจากแผ่นจารึกที่ได้ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี”
   โดยสรุปแล้ว มนุษย์ได้ถูกเตือนว่า สูเจ้าจะประชดประชันและโอ้อวดหรือปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับรู้สัจธรรมอย่างไรก็ได้ แต่ความตายก็เพียงพอแล้วที่จะเปิดตาของสูเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น สูเจ้าก็ไม่มีใครมาคอยช่วยเหลือ สูเจ้าไม่สามารถช่วยเลือพ่อแม่และลูก ๆ ของสูเจ้าเองให้ปลอดภัยได้ และสูเจ้าก็ไม่อาจที่จะช่วยผู้นำทางศาสนาและผู้นำที่สูเจ้ารักได้ พวกเขาทั้งหมดจะตายไปต่อหน้าต่อตาของสูเจ้าโดยที่สูเจ้าไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้ ถ้าหากไม่มีอำนาจสูงสุดใด ๆ ควบคุมอยู่เหนือสูเจ้า และการที่สูเจ้าคิดว่าในโลกนี้ไม่มีพระเจ้า เป็นสิ่งถูกต้องแล้ว ทำไมสูเจ้าไม่ทำให้คนที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเล่า ? ในเมื่อสูเจ้าไม่มีอำนาจที่จะทำสิ่งนี้ได้ฉันใด สูเจ้าก็ไม่มีอำนาจที่จะหยุดยั้งอัลลอฮฺมิให้เรียกมนุษย์ไปรับการสอบสวนและรับรางวัลตอบแทนหรือการลงโทษได้ สูเจ้าอาจจะเชื่อหรือไม่ก็ได้ แต่คนที่ตายไปแล้วทุกคนจะได้เห็นชะตากรรมของตัวเองอย่างแน่นอนหลังจากที่ตายไปแล้ว ถ้าหากเขาเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดพระเจ้าที่สุด เขาก็จะเห็นจุดหมายปลายทางที่ดีของพวกเขา ถ้าหากเขาอยู่ในหมู่ผู้ทำความดี เขาก็จะได้เห็นบั้นปลายที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับผู้ทำความดี และถ้าหากเขาอยู่ในหมู่ผู้ปฏิเสธสัจธรรม เขาก็จะเห็นชะตากรรมที่ได้ถูกกำหนดไว้สำหรับผู้ทำผิด


เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)


-----------------------------------------------------------------------


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 1 – 7



คำอ่าน
1. อิซาวะเกาะอะติลวากิอะฮฺ
2. ลัยสะลิวักติฮากาซิบะฮฺ
3. คอฟิเฎาะตุรฺรอฟิอะฮฺ
4. อิซารุจญะติลอัรฺฎุร็อจญา
5. วะบุสสะติลญิบาลุ บัสสา
6. ฟะกานัตฮะบา...อัม..มุม..บัสสา
7. วะกุน..ตุมอัซวาญัน..ษะลาษะฮฺ


คำแปล R1.
1. When the event (i.e. the Day of Resurrection) befalls.
2. And there can be no denying of its befalling.
3. It will bring low (some); (and others) it will exalt;
4. When the earth will be shaken with a terrible shake.
5. And the mountains will be powdered to dust.
6. So that they will become floating dust particles.
7. And you (all) will be in three kinds (i.e. separate groups).


คำแปล R2.
1. เมื่อวันชาติหน้าได้อุบัติขึ้น
2. การอุบัติของมันหาใช่เรื่องเท็จไม่
3. (เมื่อวันนั้นมาถึง มัน)เป็นเหตุทำให้ต่ำต้อย(แก่จำพวกที่ไร้ศรัทธา) เป็นเหตุทำให้สูงเด่น (แก่จำพวกที่มีศรัทธา)
4. เมื่อแผ่นดินได้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
5. และภูเขาได้ทะลายร่วงลงมาราบ
6. แล้วมันก็กลายเป็นฝุ่นที่ปลิวคุ้ง
7. และพวกเจ้าก็แตกออกเป็นสามพวก


คำแปล R3.
1. เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เกิดขึ้น
2. จะไม่มีใครปฏิเสธการเกิดขึ้นของมัน
3. มันจะเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความอัปยศให้คนกลุ่มหนึ่งและยกย่องคนอีกกลุ่มหนึ่ง
4. โลกจะเกิดความสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงฉับพลัน
5. และภูเขาทั้งหลายจะพังทลาย
6. และแตกสลายกลายเป็นฝุ่น
7. แล้วสูเจ้าทั้งหลายจะถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม


คำแปล R4.
1. เมื่อเหตุการณ์ (วันกิยามะฮ.) ได้เกิดขึ้น
2. ไม่มีผู้ปฏิเสธคนใดปฏิเสธต่อเหตุการณ์ของมัน
3. ต่อเหตุการณ์นั้นทำให้ชนกลุ่มหนึ่งต่ำต้อย ชนอีกกลุ่มหนึ่งสูงส่ง
4. เมื่อแผ่นดินถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
5. และบรรดาภูเขาได้แตกสลาย
6. และมันกลายเป็นผุยผงปลิวว่อน
7. และพวกเจ้าจะแยกออกเป็นสามกลุ่ม


คำแปล R5.
๑. เมื่อเหตุการณ์วันกิยามะห์ได้อุบัติขึ้นจากการเป่าสังข์ครั้งที่สองของอิสรอฟีล แล้วมวลมนุษย์ก็ฟื้นขึ้นจากสุสาน
๒. การอุบัติแห่งมันนั้น หามีผู้กล่าวเท็จคนใดทำการกล่าวเท็จแก่มันได้ไม่
๓. มีกลุ่มหนึ่งของมนุษย์ที่ตกต่ำต้องเข้านรกและอีกกลุ่มหนึ่งที่ขึ้นสูงด้วยการเข้าสวรรค์
๔. เมื่อแผ่นดินถูกสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนบ้านเรือนล้มพังทลายหมดสิ้น
๕. และภูเขาทั้งหลายละลายราบคาบ
๖. จนมันแปรมาเป็นฝุ่นที่ปลิวว่อน
๗. และในวันกิยามะห์นั้นมีกันสามพวก สองพวกเข้านรก พวกเดียวเท่านั้นที่เข้าสวรรค์



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 8 – 14

คำอ่าน
8. ฟะอัศหาบุลมัยมะนะติมา..อัศหาบุลมัยมะนะฮฺ
9. วะอัศหาบุลมัชอะมะติมา..อัชหาบุลมัชอะมะฮฺ
10. วัสสาบิกูนัสสาบิกูน
11. อุลา...อิกัลมุก็อรฺเราะบูน
12. ฟีญัน..นาติน..นะอีม
13. ษุลละตุม..มินัลเอาวะลีน
14. วะเกาะลีลุม..มินัลอาคิรีน


คำแปล R1.
8. So those on the right hand (i.e. those who will be given their records in their right hands), who will be those on the right hand? (As a respect for them, because they will enter Paradise).
9. And those on the left hand (i.e. those who will be given their record in their left hands), who will be those on the left hand? (As a disgrace for them, because they will enter Hell).
10. And those foremost [(in Islamic faith of Monotheism and in performing righteous deeds) in the life of this world on the very first call for to embrace Islam,] will be foremost (in Paradise).
11. These will be those nearest to Allah.
12. In the Gardens of delight (Paradise).
13. A multitude of those (foremost) will be from the first generations (who embraced Islam).
14. And a few of those (foremost) will be from the later time (generations).


คำแปล R2.
8. คือพวกชาวขวา อะไรคือพวกชาวขวา ?
9. และพวกชาวซ้าย อะไรคือพวกชาวซ้าย
10. และ(พวกที่สามคือ) บรรดาผู้ที่รีบทำความดีก่อน ซึ่งได้รับการตอบแทนก่อน
11. พวกเหล่านั้น ล้วนเป็นพวกที่เข้าใกล้ชิด(อัลเลาะฮฺ)
12. (พวกเขาได้อยู่)ในสวรรค์อันบรมสุข
13. พวกเขาเป็นชุมนุมชนใหญ่ก่อนบรรพชน (ก่อนยุคนบีมุฮำมัด)
14. และมีจำนวนน้อยจากบรรดาชนรุ่นหลัง(จากนบีมุฮำมัดจนถึงวันชาติหน้า)


คำแปล R3.
8. กลุ่มคนที่อยู่ทางขวา (ชะตากรรมของ) กลุ่มคนที่อยู่ทางขวาเป็นอย่างไร ?
9. และกลุ่มคนที่อยู่ทางซ้าย (ชะตากรรมของ) กลุ่มคนที่อยู่ทางซ้ายเป็ยอบ่างไร ?
10. และกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าก็จะอยู่ข้างหน้า
11. พวกเขาเหล่านั้นคือผู้ใกล้ชิด (อัลลอฮฺ)
12. พวกเขาได้อยู่สวรรค์อันบรมสุข
13. พวกเขาส่วนใหญ่มาจากคนรุ่นก่อน ๆ
14. และเป็นคนจำนวนน้อยจากในหมู่คนรุ่นหลัง ๆ


คำแปล R4.
8. คือกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางขวาคือใคร?
9. และกลุ่มทางซ้าย (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางซ้ายคือใคร ?
10. และกลุ่มแนวหน้า คือกลุ่มแนวหน้า
11.เขาเหล่านั้น คือบรรดาผู้ใกล้ชิด
12. ในสวนสวรรค์หลากหลายแห่งความสุขสำราญ
13. เป็นกลุ่มชนจำนวนมาก จากชนรุ่นก่อน ๆ
14. และเป็นกลุ่มชนจำนวนน้อย จากชนรุ่นหลัง ๆ


คำแปล R5.
๘. ที่จริงทั้งสามพวกนั้น พวกหนึ่งคือพวกชาวขวา คือผู้ที่ได้รับหนังสือบัญชีความประพฤติจากมลาอิกะห์ด้วยมือขวา อะไรเล่าคือชาวขวา
๙. และอีกพวกหนึ่งชาวซ้าย คือผู้ที่ได้รับบัญชีความประพฤติจากมลาอิกะห์ด้วยมือซ้าย อะไรเล่าคือชาวซ้ายอนิจจาพวกเขาต้องเข้านรก
๑๐. และบรรดาผู้ล่วงหน้าก่อนผู้อื่นในการมีศรัทธาก็จะเป็นผู้ล่วงหน้าก่อนผู้อื่นในการรับผลตอบแทนความดีงาม
๑๑. พวกเขาเหล่านั้นเป็นพวกทที่ถูกนำเข้าใกล้ชิดต่อความเมตตาของอัลเลาะห์
๑๒. ในสวรรค์อันนะอีม อันบรมสุขยิ่งนัก
๑๓. เป็นกลุ่มชนจำนวนมหาศาลจากพวกยุคแรกในสมัยนบีต่าง ๆ
๑๔. และเป็นจำนวนน้อยจากพวกยุคหลังนับแต่ยุคนบีมุฮำมัดเป็นต้นมา ซึ่งกลุ่มชนยุคหลังนี้มีพวกที่ศรัทธาอย่างรวดเร็วมีจำนวนน้อยลง



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 15 - 21

คำอ่าน
15. อะลาสุรุริม..เมาฎูนะฮฺ
16. มุตตะกิอีนะ อะลัยฮามุตะกอบิลีน
17. ยะฏูฟูนะอะลัยฮิมวิลดานุม..มุค็อลละดูน
18. บิอักวาบิว..วะอะบารีเกาะ วะกะสิม..มิม..มะอีน
19. ลายุศ็อดดะอูนะอันฮา วะลายุนซิฟูน
20. วะฟากิฮะติม..มิม..มายะตะค็อยยะรูน
21. วะละหฺมิฏ็อยริม..มิม..มายัชตะฮูน


คำแปล R1.
15. (They will be) on thrones woven with gold and precious stones,
16. Reclining thereon, face to face.
17. They will be served by immortal boys,
18. With cups, and jugs, and a glass from the flowing wine,
19. Wherefrom they will get neither any aching of the head, nor any intoxication.
20. And fruit; that they may choose.
21. And the flesh of fowls that they desire.


คำแปล R2.
15. (พวกเขา)อยู่บนเตียงที่ถูกประดับประดาด้วยอัญมณี
16. พวกเขาเอนกายบนนั้น โดยหันหน้าเข้าหากัน
17. มีเด็กรับใช้ชาวสวรรค์ผู้นิรันดร(ในความหนุ่ม)วนเวียน(เพื่อรับใช้)พวกเขา
18. โดยถือถ้วย, กา และแก้วเครื่องดื่มที่ (เอาน้ำมา)จากธารน้ำ(อันอมตะเพื่อนำมาให้ชาวสวรรค์ได้ดื่มกิน)
19. และพวกเขาไม่รู้สึกวิงเวียนและไม่เมามายเนื่องจากการเสพสิ่งเหล่านั้น
20. และ(เด็กรับใช้ได้นำ)ผลไม้ตามชนิดที่พวกเขาพึงเลือกเฟ้น(ตามใจชอบมาบริการอีกด้วย)
21. พร้อมกับเนื้อของนกชนิดที่เขาพึงปรารถนา


คำแปล R3.
15. บนที่นอนที่ประดับด้วยอัญมณี
16. พวกเขาจะนอนเอกเขนกหันหน้าเข้าหากัน
17. เด็กอายุเท่าเดิมจะวนเวียนรับใช้พวกเขาตลอดไป
18. ถ้วยจอกและถ้วยสุราจากตาน้ำที่ไหลรินมา
19. ซึ่งจะไม่ทำให้พวกเขามึนศีรษะและขาดสติสัมปชัญญะ
20. และพวกเขาจะนำเอาผลไม้รสอร่อยทุกชนิดมาให้พวกเขาเลือกกิน
21. และเนื้อนกที่พวกเขาอยากกิน


คำแปล R4.
15. โดยอยู่บนเตียงที่ประดับด้วยทองคำ
16. พวกเขานอนเอกเขนกอยู่บนนั้น โดยผินหน้าเข้าหากัน
17. มีเด็ก ๆ ที่มีอายุเช่นนั้น วนเวียนรับใช้พวกเขาตลอดไป
18. ถ้วยภาชนะใหญ่ และแก้วที่มีหู และจอกใส่สุราที่ไหลรินมา
19. พวกเขาจะไม่มึนศีรษะ และไม่หมดสติ เมื่อดื่มสุรานั้น
20. และผลไม้หลากชนิด ตามแต่พวกเขาจะเลือกกิน
21. และเนื้อนกที่พวกเขาอยากรับประทาน


คำแปล R5.
๑๕. พวกเขาอยู่บนเตียงที่ถูกร้อยด้วยทองคำ
๑๖. พวกเขาเอนกายอยู่บนนั้น โดยต่างหันหน้าเข้าหากัน
๑๗. บรรดาเทพบุตรซึ่งมีชีวิตอมตะวนเวียนอยู่กับพวกเขาเพื่อบริการ
๑๘. ด้วยถ้วยและกาและแก้วสุราที่ตักมาจากสายน้ำ
๑๙. พวกเขาไม่ปวดหัวเนื่องจากการริดื่มสุรานั้นและไม่เมามาย ซึ่งผิดกับสุราที่มีอยู่ในโลกดุนยา ซึ่งเมื่อเสพแล้วจะต้องเมามาย
๒๐. และมีผลไม้ต่าง ๆ จากพวกเขาคัดเลือกชอบรับประทาน
๒๑. และเนื้อของนกจากสิ่งที่พวกเขาอยากใคร่




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 22 – 26

คำอ่าน
22. วะหูรุนอีน
23. กะอัมษาลิลลุอ์ลุอิลมักนูน
24. ญะซา...อัม..บิมากานูยะอฺมะลูน
25. ลายัสมะอูนะฟีฮาลัฆเวา..วะลาตะอ์ษีมา
26. อิลลากีลัน..ษะลามัน..ษะลามา


คำแปล R1.
22. And (there will be) Houris (fair females) with wide, lovely eyes (as wives for the pious),
23. Like unto preserved pearls.
24. A reward for what they used to do.
25. No Laghw (dirty, false, evil vain talk) will they hear therein, nor any sinful speech (like backbiting, etc.).
26. But only the saying of: Salam!, Salam! (Greetings with peace)!


คำแปล R2.
22. และมีนางฟ้า(คอยปรนนิบัติพวกเขาตลอดเวลา)
23. ประดุจดังไข่มุกที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างทนุถนอม
24. เพื่อตอบแทนตามสิ่งที่เขาได้เคยประพฤติไว้
25. ในนั้นพวกเขาจะไม่ได้ยินสิ่งไร้สาระและสิ่งที่ทำให้เกิดโทษเลย
26. นอกจากมีแต่เสียงจำนรรค์ว่า “สันติสุข! สันติสุข!”


คำแปล R3.
22. และสำหรับพวกเขาจะมีหญิงสาวสวยนัยน์ตาคมน่ารัก
23. ดังไข่มุกที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี
24. ทั้งหมดนี้พวกเขาจะได้รับเป็นการตอบแทนสำหรับสิ่งที่พวกเขาได้ทำไว้ในโลกนี้
25. ที่นั่น พวกเขาจะไม่ได้ยินคำพูดที่ไร้สาระและเป็นตาม
26. นอกจากคำพูดที่ถูกต้องและบริสุทธิ์


คำแปล R4.
22. และหญิงสาวที่มีนัยน์ตาคมสวยงาม
23. ประหนึ่งไข่มุกที่ถูกพิทักษ์รักษาไว้อย่างดี
24. ทั้งนี้เป็นการตอบแทนเนื่องจากความดีที่พวกเขากระทำไว้
25. ในสวนสวรรค์นั้นพวกเขาจะไม่ได้ยินคำพูดที่ไร้สาระ และเป็นบาป
26. เว้นแต่คำกล่าวที่ว่า ศานติ ศานติ


คำแปล R5.
๒๒. และเทพธิดาสวรรค์ดวงตาดำขลับและผิวขาวผ่อง
๒๓. ความสวยของพวกนางประดุจดังไข่มุกที่ถูกเก็บรักษาไว้ในเปลือกอย่างปลอดภัยและสะอาดหมดจด
๒๔. สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดพวกเขาได้รับไว้เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนเนื่องเพราะความประพฤติของพวกเขา
๒๕. ในสวรรค์นั้นพวกเขาไม่ได้ยินสิ่งไร้สาระและการบาป
๒๖. นอกจากมีแต่คำพูดว่า สันติสุข สันติสุข เท่านั้นที่พวกเขาจะได้ยิน




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 27 - 34

คำอ่าน
27. วะอัศหาบุลยะมีนิ มา..อัศหาบุลยะมีน
28. ฟีสิดริม..มัคฎูด
29. วะฏ็อลหิม..มัน..ฎูด
30. วะซิลลิม..มัมดูด
31. วะมา...อิม..มัสกูบ
32. วะฟากิฮะคิน..กะษีเราะฮฺ
33. ลามักฏูอะติว..วะลามัมนูอะฮฺ
34. วะฟุรุชิม..มัรฺฟูอะฮฺ


คำแปล R1.
27. And those on the right hand, who will be those on the right hand?
28. (They will be) Among thornless lote-trees,
29. Among Talh (banana-trees) with fruits piled one above another,
30. In shade long-extended,
31. By water flowing constantly,
32. And fruit in plenty,
33. Whose season is not limited, and their supply will not be cut off,
34. And on couches or thrones, raised high.


คำแปล R2.
27. และชาวขวา อะไรคือชาวขวา ?
28. (พวกเขามีความสุขอยู่)ภายใน(สวน)ต้นพุทราที่ไร้หนาม
29. และต้นกล้วยที่มีผลดกเต็มเครือ
30. และร่มเงาอันยาวนาน
31. และน้ำที่ไหลเสมอ
32. และผลไม้อันมากมาย
33. ซึ่งไม่ถูกตัดทอนและไม่ถูกห้าม
34. และที่นอนอันสูง


คำแปล R3.
27. และกลุ่มคนที่อยู่ทางขวา ช่างโชคดีเสียนี่กระไรกลุ่มที่อยู่ทางขวา
28. พวกเขาจะอยู่ใต้ต้นพุทราที่ไม่มีหนาม
29. และต้นกล้วยที่ออกผลซ้อนกันแน่นในเครือ
30. และร่มเงาที่แผ่กระจาย
31. และน้ำที่ไหลรินอยู่ตลอดเวลา
32. และผลไม้อันมากมาย
33. โดยไม่หมดสิ้น และไม่เป็นที่ต้องห้าม
34. และในเบาะที่ถูกยกสูงขึ้น


คำแปล R4.
27. และกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา) เจ้ารู้หรือไม่ว่ากลุ่มทางขวาเป็นอย่างไร?
28. (พวกเขา) อยู่ภายใต้ต้นพุทราที่ไร้หนาม
29. และต้นกล้วยที่ออกผลเป็นเครือตั้งแต่ยอดจรดโคนต้น(ไม่เห็นลำต้น)
30. และร่มเงาที่แผ่กระจาย
31. และน้ำที่ไหลรินตลอดเวลา
32. และผลไม้อันมากหลาย
33. โดยไม่หมดสิ้นตามฤดูและไม่เป็นที่ต้องห้าม
34. และเตียงนอนที่ถูกยกให้สูงขึ้น

 
คำแปล R5.
๒๗. และบรรดาชาวขวา อะไรเล่าชาวขวา
๒๘. พวกเขาได้อยู่ในพุ่มพุทราอันปราศจากหนาม
๒๙. และต้นกล้วยที่ดกไปด้วยผลที่มีเต็มลำต้น
๓๐. และร่มเงาอันยืนยงถาวร
๓๑. และสายน้ำที่ไหลเป็นอาจิณ
๓๒. และผลไม้อันมากมาย
๓๓. ซึ่งไม่เคยขาดและไม่เคยถูกห้ามมิให้รับประทาน เมื่ออยากรับประทานเวลาใด ก็จะมีให้รับประทานเสมอ
๓๔. และที่นอนที่ถูกยกไว้วางบนเตียง




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 35 - 40


คำอ่าน
35. อิน..นา..อัน..ชะอฺนาฮุน..นะอิน..ชา...อา
36. ฟะญะอัลฮุน..นะอับการอ
37. อุรุบันอัตรอบา
38. ลิอัศหาบิลยะมีน
39. ษุลละตุม..มินัลเอาวะลีน
40. วะษุลละตุม..มินัลอาคิรีน


คำแปล R1.
35. Verily, we have created them (maidens) of special creation.
36. And made them virgins.
37. Loving (their husbands only), equal in age.
38. For those on the right hand.
39. A multitude of those (on the right hand) will be from the first generation (who embraced Islam).
40. And a multitude of those (on the right hand) will be from the later times (generations).


คำแปล R2.
35. แท้จริงเราได้บันดาลพวกนางมาเป็นพิเศษ(เพื่อเป็นภรรยาของชาวสวรรค์)
36. โดยเราบันดาลพวกนางให้คงสภาพพรหมจรรย์(ตลอดไป)
37. พวกนางมีความรักในสามี และมีอายุเท่ากันทั้งหมด
38. (ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นได้เตรียมไว้) สำหรับพวกชาวขวา
39. ซึ่งมีชุมชนใหญ่จากบรรพชน
40. และอีกชุมชนใหญ่จากชนรุ่นหลัง


คำแปล R3.
35. เราจะสร้างคู่ครองของพวกเขาขึ้นใหม่
36. และทำให้นางเหล่านั้นเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์
37. เป็นคนรักของสามีพวกนางและมีอายุอยู่ในคราวเดียวกัน
38. ทั้งหมดนี้สำหรับคนที่อยู่ทางขวามือ
39. กลุ่มหนึ่งจากคนรุ่นก่อน
40. และกลุ่มหนึ่งจากคนรุ่นหลัง ๆ


คำแปล R4.
35. แท้จริงเราได้บังเกิดพวกนาง เป็นกรณีพิเศษจริง ๆ
36. แล้วเราได้ทำให้พวกนางเป็นสาวพรหมจรรย์
37. เป็นที่น่ารักชื่มชมแก่คู่ครอง อยู่ในวัยสาวคราวเดียวกัน
38. สำหรับกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา)
39. (คือ) กลุ่มชนจากรุ่นก่อน ๆ
40. และกลุ่มชนจากรุ่นหลัง ๆ


คำแปล R5.
๓๕. แท้จริงเราได้บันดาลพวกนางฟ้าเหล่านั้นขึ้นมาเป็นอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนแบบทั่วไป กล่าวคือไม่ได้กำหนดแบบการสร้างที่มีการคลอดลูกโดยมีพ่อแม่เป็นสื่อ แต่บันดาลขึ้นมาโดยตรง
๓๖. แล้วเราก็บันดาลพวกนางให้เป็นสาวพรหมจรรย์ตลอดไป แม้เมื่อนางได้ร่วมสัมพันธ์ทางเพศกับสามีชาวสวรรค์แล้วความสาวก็จะกลับคืนมาดังเดิม
๓๗. พวกนางมีความรักเดียวต่อสามี พวกนางมีวัยเดียวกันคือประมาณอายุ ๓๗ ปี
๓๘. พวกนางถูกสำรองไว้สำหรับบรรดาชาวขวา
๓๙. ซึ่งพวกเขาเป็นกลุ่มมหาศาลจากชนยุคแรก
๔๐. และเป็นกลุ่มชนมหาศาลจากชนยุคหลัง



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 41 - 44

คำอ่าน
41. วะอัศหาบุชชิมาลิมา..อัศหาบุชชิมาล
42. ฟีสะมูมิว..วะหะมีม
43. วะซิลลิม..มี..ยะหฺมูม
44. ลาบาริดิว..วะลากะรีม


คำแปล R1.
41. And those on the left hand who will be those on the left hand?
42. In fierce hot wind and boiling water,
43. And shadow of black smoke,
44. (That shadow) neither cool, nor (even) good,


คำแปล R2.
41. และพวกชาวซ้าย อะไรคือพวกชาวซ้าย
42. (พวกนั้นถูกทรมาน)ในลมพิษและน้ำเดือด
43. และร่มเงาจากควันดำ
44. ไม่มีความเย็น และไม่ให้ความสบายเลย


คำแปล R3.
41. และกลุ่มที่อยู่ทางซ้าย ช่างเคราะห์ร้ายเสียนี่กระไร กลุ่มที่อยู่ทางซ้าย
42. พวกเขาจะอยู่ในลมร้อนและน้ำที่กำลังเดือด
43. และร่มเงาของควันดำ
44. ซึ่งไม่ร่มเย็นและไม่เป็นที่สดชื่น


คำแปล R4.
41. และกลุ่มทางซ้าย (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย) เจ้ารู้หรือไม่ว่ากลุ่มทางซ้ายเป็นอย่างไร?
42. อยู่ในลมร้อน และน้ำกำลังเดือด
43. อยู่ใต้ร่มเงาของควันที่ดำทึบ
44. ไม่ร่มเย็น และไม่เป็นที่น่าชื่นชม


คำแปล R5.
๔๑. และชาวซ้าย อะไรคือชาวซ้าย
๔๒. พวกเขาอยู่ในลมที่ร้อนแรงที่สุดและน้ำเดือดพล่าน
๔๓. อีกทั้งร่มเงาที่มาจากควันดำทมึน
๔๔. ซึ่งไม่มีความเย็นเหมือนกับร่มเงาอื่น ๆ และไม่มีเกียรติใด ๆ




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 45 - 48
 

คำอ่าน
45. อิน..นะฮุมกานูก็อบละซาลิกะมุตเราะฟีน
46. วะกานูยุศิรฺรูนะอะลัลหิน..ษิลอะซีม
47. วะกานูยะกูลูนะ อะอิซามิตนาวะกุน..นาตุรอเบา..วะอิซอมัน อะอิน..นาละมับอูษูน
48. อะวะอาบา...อุนัลเอาวะลูน


คำแปล R1.
45. Verily, before that, they indulged in luxury,
46. And were persisting in great sin (joining partners in worship along with Allah, committing murders and other crimes, etc.)
47. And they used to say: "When we die and become dust and bones, shall we then indeed be resurrected?
48. "And also our forefathers?"


คำแปล R2.
45. แท้จริง พวกเขาเมื่อก่อนนั้น(ขณะอยู่ในโลก)ล้วนเป็นพวกที่เสพสุขตามอารมณ์ทั้งสิ้น
46. และพวกเขาเคยทำบาปใหญ่ ๆ เป็นนิจศีล
47. และพวกเขาเคยพูดว่า “พวกเราจะฟื้นขึ้นอีกหรือ เมื่อเราได้ตายไปแล้ว และพวกเราก็กลายเป็นดิน และเหลือแต่กระดูก พวกเราจะถูกฟื้นขึ้นมาได้หรือ?”
48. หรือว่าบรรพบุรุษของพวกเราในยุคก่อน ๆ (จะถูกฟื้นขึ้นมาเพื่อแจ้งให้เราทราบถึงเหตุการณ์หลังจากตายไปแล้ว)


คำแปล R3.
45. คนเหล่านี้คือผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญก่อนที่จะพบชะตากรรมนี้
46. พวกเขาดึงดันทำบาปใหญ่มาโดยตลอด
47. และพวกเขาเคยกล่าวว่า “อะไรนะ เมื่อเราตายกลายเป็นดินและกระดูกแล้ว เราจะถูกทำให้ฟื้นชีพอีกกระนั้นหรือ ?
48. รวมทั้งบรรพบุรุษของเราที่ล่วงลับไปก่อนหน้านี้ด้วยหรือ ?


คำแปล R4.
45. แท้จริงพวกเขาแต่กาลก่อนนั้นเป็นพวกเจ้าสำราญ
46. และพวกเขาเคยดื้อรั้นในการทำบาปใหญ่ ๆ อยู่เป็นเนือง
47. และพวกเขาเคยกล่าวว่า เมื่อเราตายไปแล้วและเราได้กลายเป็นดินผงและกระดูกป่น แล้วเราจะถูกให้ฟื้นคืนชีพอีกกระนั้นหรือ ?
48. และรวมทั้งบรรพบุรุษของเราแต่กาลก่อนนั้นด้วยหรือ?


คำแปล R5.
๔๕. แท้จริงพวกเขาก่อนหน้านั้นเป็นผู้ที่เสพแต่ความสุขขณะอยู่ในโลกดุนยาโดยไม่ยอมทำความดีใด ๆ ทั้งสิ้น
๔๖. และพวกเขาเป็นผู้ที่ดำรงตนอยู่ในการบาปอันยิ่งใหญ่ คือการคัดค้านสัจธรรมและการตั้งภาคีขึ้นเทียบเทียมอัลเลาะห์
๔๗. และเพราะพวกเขาเคยพูดคัดค้านคำประกาศของศาสนทูตว่า เมื่อพวกเราได้เตายไปแล้วและก็กลายเป็นดินและเหลือแต่เพียงกระดูก พวกเรายังจะถูกให้ฟื้นขึ้นมาอีกกระนั้นหรือ
๔๘. หรือว่าบรรพบุรุษในยุคดั้งเดิมของพวกเราที่ตายไปนานแล้วจะถูกฟื้นขึ้นมาอีกซึ่งเรามองไม่กินในปัญญาเลยว่าจะเป็นไปได้



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 49 - 56
 

คำอ่าน
49. กุลอิน..นัลเอาวะลีนะวัลอาคิรีน
50. ละมัจญมูอูนะ อิลามีกอติ เยามิม..มะอฺลูม
51. ษุม..มะอิน..นะกุมอัยยุฮัฎฎอ...ลลูนัลมุกัซซิบูน
52. ละอากิลูนะมิน,,ชะญะเราะติม..มิน..ซักกูม
53. ฟะมาลิอูนะมินฮัลบุฏูน
54. ฟะชาริบูนะอะลัยฮิมินัลหะมีม
55. ฟะชาริบูนะชุรฺบัลฮีม
56. ฮาซานุซุลุฮุม เยามัดดีน


คำแปล R1.
49. Say (O Muhammad): "(Yes) Verily, those of old, and those of later times.
50. "All will surely be gathered together for appointed meeting of a known Day.
51. "Then moreover, verily, you the erring-ones, the deniers (of Resurrection)!
52. "You verily will eat of the trees of Zaqqum.
53. "Then you will fill your bellies therewith,
54. "And drink boiling water on top of it,
55. "So you will drink (that) like thirsty camels!"
56. That will be their entertainment on the Day of Recompense!


คำแปล R2.
49. จงประกาศเถิด ! แท้จริงบรรดาบรรพชนรุ่นก่อนและชนรุ่นหลัง
50. ย่อมถูกรวบรวม(ให้ชุมนุมกันที่เดียวกัน)ตามกำหนดวันที่แน่นอนแล้ว
51. หลังจากนั้น แท้จริงพวกเจ้าทั้งหลาย โอ้บรรดาผู้หลงผิดที่ว่า(การอุบัติของวันชาติหน้าเป็นสิ่ง)มุสา
52. “พวกเจ้าจะต้องกินต้นไม้ซะกูม(ในนรก)อย่างแน่นอน”
53. “แล้วพวกเจ้าก็จะมีต้นไม้นั้นเต็มท้องของพวกเจ้า”
54. “จากนั้นพวกเจ้าก็จะดื่มน้ำเดือดตามเข้าไปอีก”
55. “ซึ่งพวกเจ้าจะดื่มมันราวกับอูฐกระหายจัด (ซึ่งดื่มไม่รู้จักอิ่ม)
56. นี้แหละ เป็นสิ่งต้อนรับพวกเขาในวันแห่งการตอบแทน


คำแปล R3.
49. จงบอกพวกเขาเถิดว่า “แน่นอนทั้งรุ่นก่อนและรุ่นหลัง”
50. ทั้งหมดจะถูกรวมเข้าด้วยกันวันหนึ่งในเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
51. หลังจากนั้น สูเจ้าผู้หลงผิดและผู้ปฏิเสธทั้งหลาย
52. สูเจ้าจะได้กินต้นซักกูม
53. จนเต็มท้องของสูเจ้า
54. และดื่มน้ำที่กำลังเดือดตามลงไป
55. พวกเขาจะดื่มมันเหมือนกับอูฐที่กำลังกระหายน้ำ
56. นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาจะได้รับในวันแห่งการตอบแทน


คำแปล R4.
49. จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริงชนรุ่นก่อน ๆ และรุ่นหลัง ๆ นั้น
50. จะถูกรวบรวมไว้จนกระทั่งถึงวันอันเป็นที่รู้กัน (วันกิยามะฮ.)
51. แล้วรวมทั้งพวกเจ้าอีกด้วย โอ้บรรดาผู้หลงผิด บรรดาผู้ปฏิเสธทั้งหลาย
52. แน่นอนพวกเจ้าจะเป็นผู้กินต้นซักกูม
53. และพวกเขาจะใส่มันเข้าไปเต็มท้อง
54. และพวกเขาจะดื่มน้ำกำลังเดือดตามลงไป
55. พวกเขาจะดื่ม (น้ำ) เช่นกับการดื่มของอูฐ ที่กระหายน้ำจัด
56. นี่คือที่พำนักของพวกเขาในวันแห่งการตอบแทน


คำแปล R5.
๔๙. โอ้ มุฮำมัด เจ้าจงประกาศแก่พวกนั้นเถิดว่า แท้จริงทั้งคนในยุคก่อนและคนในยุคหลังทั้งปวงเหล่านั้น
๕๐. จะต้องถูกรวมตัวมาสู่กำหนดเวลาของวันที่แน่นอนที่สุด คือ วันกิยามะห์ ซึ่งทุกชีวิตจะต้องฟื้นขึ้นมาใหม่ มีร่างและวิญญาณมาพร้อมเช่นเดียวกับสภาพในโลกดุนยา (โลกปัจจุบันนี้)
๕๑. หลังจากนั้นแล้ว แท้จริงพวกเจ้านั้น โอ้บรรดาผู้หลงผิดซึ่งกล่าวว่าศาสนทูตพูดเท็จทั้งหลาย
๕๒. พวกเขาจะต้องรับประทานต้นไม้ซะกูม (ต้นไม้ชนิดหนึ่ง) อย่างแน่นอนในนรก ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีรสขมที่สุดและมีหนามแหลมคม
๕๓. และพวกเขาก็รับประทานมันจนเต็มท้อง
๕๔. แล้วพวกเขาก็ดื่มน้ำที่กำลังเดือดพล่านตามเข้าไปอีก ซึ่งเมื่อน้ำได้ตกถึงท้องพวกเขา มันก็กัดกร่อนลำไส้ และอวัยวะหายใจของพวกเขาขาดละลาย
๕๕. ที่จริงพวกเขาดื่มเหมือนกับอูฐที่กระหายจัด
๕๖. นี้แหละ สิ่งต้อนรับพวกเขาในวันแห่งการตอบแทน



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 57 - 61

คำอ่าน
57. นะหฺนุเคาะลักนากุม ฟะเลาลาตุศ็อดดิกูน
58. อะฟะเราะอัยตุม..มาตุมนูน
59. อะอัน..ตุมตัคลุกูนะฮู..อัมนะหฺนุลคอลิกูน
60. นะหฺนุก็อดดัรฺนาบัยนะกุมุลเมาตะวะมานะหฺนุบิมัสบูกีน
61. อะลา..อัน..นุบัดดิละ อัมษาละกุม วะนุน..ชิอะกุม ฟีมาลาตะอฺละมูน


คำแปล R1.
57. We created you, then why do you believe not?
58. Then tell Me (about) the human semen that you emit.
59. Is it you who create it (i.e. make this semen into a perfect human being), or are We the Creator?
60. We have decreed death to you all, and we are not unable,
61. To transfigure you and create you in (forms) that you know not.


คำแปล R2.
57. เราบันดาลเจ้าขึ้นมา แล้วไฉนเล่าเจ้าจึงไม่เลื่อมใส?
58. แล้วพวกเจ้าสังเกตบ้างไหม ? ในอสุจิที่พวกเจ้าหลั่ง
59. พวกเจ้าสร้างมันขึ้นมาเองกระนั้นหรือ หรือว่าเราเป็นผู้บันดาลมันขึ้นมา
60. เราได้กำหนดความตายไว้แล้วระหว่างพวกเจ้า และเราย่อมไม่ถูก(ผู้ใด)ล่วงหน้า(ในกำหนดการใด ๆ)
61. ยิ่งไปกว่านั้น เรามีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงบรรดาชุมชนที่เหมือนพวกเจ้าและเรามีอำนาจที่จะบังเกิดพวกเจ้าใน(รูปลักษณ์อย่างอื่น)ที่พวกเจ้าไม่รู้


คำแปล R3.
57. เราได้สร้างสูเจ้าขึ้นมาแล้วทำไมสูเจ้าจึงไม่เชื่อ ?
58. สูเจ้าไม่พิจารณาอสุจิที่สูเจ้าหลั่งออกมากระนั้นหรือ ?
59. สูเจ้าเป็นผู้สร้างเด็กออกมาจากมันหรือเราเป็นผู้สร้าง ?
60. เราได้เป็นผู้กำหนดความตายในหมู่สูเจ้า และไม่มีใครมาขัดขวางเรา
61. ในการที่เราจะเปลี่ยนรูปแบบของสูเจ้าขึ้นมาในอีกรูปแบบหนึ่งที่สูเจ้าไม่รู้


คำแปล R4.
57. เรานั้นได้สร้างพวกเจ้าขึ้นมา ไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่เชื่อ (ในวันฟื้นคืนชีพ)
58. พวกเจ้าเห็นสิ่งที่พวกเจ้าหลั่งออกมา (อสุจิ) แล้วมิใช่หรือ?
59. พวกเจ้าสร้างมันขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้สร้าง
60. เรานั้นเป็นผู้กำหนดความตายขึ้นในระหว่างพวกเจ้า และเราก็จะไม่ถูกขัดขวาง
61. ในการที่เราจะเปลี่ยนบุคคลเยี่ยงพวกเจ้า และเราจะให้พวกเจ้าเกิดขึ้นมาอีกในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้


คำแปล R5.
๕๗. เราได้บันดาลพวกเจ้ามาแล้ว ไฉนพวกเจ้าจึงไม่เลื่อมใสในเรื่องของการฟื้นขึ้นจากสุสาน เพราะผู้สร้างครั้งแรกย่อมมีอำนาจสร้างครั้งต่อไปได้และง่ายกว่า
๕๘. แล้วพวกเจ้าเห็นเป็นอย่างไรจงบอกมาเถด ถึงอสุจิที่พวกเจ้าหลั่งออกมานั้นยังมดลูกของสตรี
๕๙. พวกเจ้าเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาเอง หรือว่าเรา (อัลเลาะห์) เป็นผู้สร้าง
๖๐. เราได้กำหนดความตายไว้อย่างตายตัวแล้วระหว่างพวกเจ้า และเราไม่ถูกล้ำหน้าโดยผู้ใดทั้งสิ้นที่จะทำให้เราไร้สมรรถภาพ
๖๑. ต่อการเปลี่ยนแปลงบรรดาอุปมาพวกเจ้าให้เป็นอย่างอื่น รวมทั้งการฟื้นขึ้นใหม่จากสุสาน และเราบังเกิดพวกเจ้าในรูปแบบที่พวกเจ้าไม่รู้ ซึ่งเราสามารถที่จะทำอย่างนั้นได้เสมอ เช่น เปลี่ยนรูปพวกเจ้าให้เป็นลิง เป็นสุกร เป็นต้น




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 62 -67

คำอ่าน
62. วะละก็อดอะลิมตุมุน..นัชอะตัลอูลา ฟะเลาลาตะซักกะรูน
63. อะฟะเราะอัยตุม..มาตะหฺรุษูน
64. อะอัน..ตุมตัซเราะอูนะฮู..อัมนะหฺนุซซาริอูน
65. เลานะชา...อุละญะอัลนาฮุ หุฏอมัน..ฟะซ็อลตุมตะฟักกะฮูน
66. อิน..นาละมุฆเราะมูน
67. บัลนะหฺนุมะหฺรูมูน


คำแปล R1.
62. And indeed, you have already known the first form of creation (i.e. the creation of Adam), why then do you not remember or take heed?
63. Tell Me! The seed that you sow in the ground.
64. Is it you that make it grow, or are We the Grower?
65. Were it Our will, we could crumble it to dry pieces, and you would be regretful (or left In wonderment).
66. (Saying): "We are indeed Mughramun (i.e. Ruined or lost the money without any profit, or punished by the loss of all that we spend for cultivation, etc.)! [See Tafsir Al- Qurtubi, Vol. 17, Page 219]
67. "Nay, but we are deprived!"


คำแปล R2.
62. ขอยืนยัน ! แท้จริงพวกเจ้ารู้ถึงการบังเกิดครั้งแรก (ว่าเป็นอย่างไร) แล้วไฉนพวกเจ้าจึงไม่สำนึก (ว่าอัลเลาะฮฺทรงอำนาจที่จะให้บังเกิด ครั้งที่สองได้อีก)?”
63. พวกเจ้าสังเกตบ้างไหม ถึงสิ่งที่พวกเจ้าเพาะปลูก ?
64. พวกเจ้าทำการงอกเงยแก่สิ่งนั้น (ด้วยตัวเอง)กระนั้นหรือ? หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้งอกเงย?
65. หากเราปรารถนา แน่นอนเราก็ทรงอำนาจที่จะบันดาลให้มันเป็นฟาง (ไม่สามารถจะผลิตผลใด ๆ ได้)และพวกเจ้าก็จะต้องมีแต่ความฉงนตลอดไป
66. (พร้อมกับกล่าวว่า) “แท้จริงพวกเราประสบความล่มจมเป็นแน่แท้”
67. “ยิ่งไปกว่านั้น ! พวกเราเป็นผู้ถูกห้าม (มิให้ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ)”


คำแปล R3.
62. สูเจ้ารู้ดีอยู่แล้วถึงการสร้างสูเจ้าในครั้งแรก แล้วทำไมสูเจ้าจึงไม่ใส่ใจ ?
63. สูเจ้าเคยพิจารณาถึงเมล็ดพืชที่สูเจ้าหว่านลงไปบ้างหรือเปล่า
64. สูเจ้ากระนั้นหรือที่ทำให้มันงอกออกมาเป็นต้น หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอกเงยออกมา
65. ถ้าหากเราประสงค์ เราก็สามารถทำให้มันกลายเป็นเศษแห้งได้ แล้วเมื่อนั้นสูเจ้าก็จะเสียใจ
66. (ร้องว่า) “โอย เราได้รับการลงโทษแล้ว”
67. เราไม่เหลืออะไรแล้ว”


คำแปล R4.
62. และโดยแน่นอน พวกเจ้าได้รู้มาแล้วถึงการเกิดครั้งแรก แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่ใคร่ครวญ
63. พวกเจ้าเห็นสิ่งที่พวกเจ้าหว่านมาแล้วมิใช่หรือ?
64. พวกเจ้าทำให้มันงอกเงยขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอกเงยขึ้นมา?
65. หากเราประสงค์ทำให้มันหักเป็นชิ้น ๆ แล้ว แน่นอนเราก็ย่อมทำมันได้ แล้วพวกเจ้าคงประหลาดใจ
66. (พวกเจ้าจะกล่าวขึ้นว่า) แท้จริงเราได้รับความหายนะแล้ว
67. ไม่เพียงแต่เท่านั้น เรายังขาดแคลนปัจจัยเพาะปลูกอีกด้วย


คำแปล R5.
๖๒. และขอยืนยันว่าแท้จริงพวกเจ้าก็รู้ในการบังเกิดครั้งแรก แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่รำลึกว่า อัลเลาะห์ทรงเดชานุภาพการบังเกิดครั้งแรก ก็ย่อมทรงบันดาลครั้งต่อไปได้
๖๓. แล้วพวกเจ้าเห็นเป็นอย่างไรจงบอกมาเถิด สิ่งที่พวกเจ้าทำการเพาะพันธุ์ในไร่สวนต่าง ๆ
๖๔. พวกเจ้าทำความงอกเงยแก่มัน หรือว่าเราเป็นผู้ทำความงอกเงย แน่นอน อัลเลาะห์เป็นผู้ทรงบันดาลพืชเหล่านั้นให้งอกเงย
๖๕. หากเราประสงค์ แน่นอนเราก็ทรงจำพอที่จะบันดาลมันให้เพียงเป็นเศษไม้ซึ่งไม่สามารถผลิดอกออกผลได้ แล้วพวกเจ้าก็รู้สึกฉงนอยู่ตลอดเวลาถึงความเป็นไปอันเลวเช่นนั้น
๖๖. พวกนั้นรำพึงว่า แท้จริงพวกเราประสบความล้มเหลวสิ้นเชิง ในการลงทุนเพาะปลูก เพราะสิ่งเพาะปลูกเสียหายหรือไม่ผลิผลแต่ประการใด ๆ
๖๗. ยิ่งไปกว่านั้น เราถูกหวงห้ามในโชคผลที่อัลเลาะห์จะทรงประทานให้



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 68 - 70

คำอ่าน
68. อะฟะเราะอัยตุมุลมา...อัลละซีตัชเราะบูน
69. อะอัน..ตุมอัน..ซัลตุมูฮุมุนัลมุซนิ อัมนะหฺนุลมุน..ซิลูน
70. เลานะชา...อุญะอัลนาฮุ อุญาญัน..ฟะเลาลาตัชกุรูน


คำแปล R1.
68. Tell Me! The water that you drink.
69. Is it you who cause it from the rain clouds to come down, or are We the Causer of it to come down?
70. If We willed, We verily could make it salt (and undrinkable), why then do you not give thanks (to Allah)?

 
คำแปล R2.
68. แล้วพวกเจ้าสังเกตน้ำที่พวกเจ้าดื่มบ้างไหม ?
69. พวกเจ้าได้ทำให้มันตกลงมาจากเมฆเองกระนั้นหรือ หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันตกลงมา ?
70. มาตรแม้นเราประสงค์ เราก็ทรงอำนาจที่จะบันดาลให้มัน (ฝน) เค็มจัด (จนดื่มไม่ได้) แล้วไฉนพวกเจ้าจึงไม่กตัญญู ?


คำแปล R3.
68. สูเจ้าเคยเห็นน้ำที่สูเจ้าดื่มหรือไม่ ?
69. สูเจ้ากระนั้นหรือที่ทำให้มันหลั่งลงมาจากก้อนเมฆ หรือเราที่เป็นผู้ทำให้มันหลั่งลงมา ?
70. ถ้าหากเราประสงค์ เราก็สามารถทำให้มันเค็มได้ ดังนั้นแล้วไฉนเล่า สูเจ้าจึงไม่กตัญญู ?


คำแปล R4.
68. พวกเจ้าเห็นน้ำที่พวกเจ้าดื่มแล้วมิใช่หรือ?
69. พวกเจ้าเป็นผู้หลั่งมันลงมาจากก้อนเมฆ หรือว่าเราเป็นผู้หลั่งมันลงมา
70. หากเราประสงค์ เราจะทำให้มันเค็มจัด แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่กตัญญู?


คำแปล R5.
๖๘. อัลเลาะห์ทรงตรัสว่า แล้วพวกเจ้าสังเกตเห็นน้ำซึ่งพวกเจ้าดื่มไหม
๖๙. พวกเจ้าทำให้มันหลั่งลงมาจากเมฆเองหรือ หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันหลั่งลงมา
๗๐. มาดแม้นเราประสงค์ แน่นอนเราย่อมทำให้น้ำฝนนั้นเค็ม จนไม่อาจจะนำมาใช้และดื่มได้ แล้วไฉนพวกเจ้าจึงไม่กตัญญูต่อเรา ที่เราทำให้มันจืดสนิท ดื่มได้สบาย



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 71 - 74

คำอ่าน
71. อะฟะเราะอัยตุมุน..นาร็อลละตีตูรูน
72. อะอัน..ตุมอัน..ชะอฺตุมชะญะเราะตะฮา อัมนะหฺนุลมุน..ชิอูน
73. นะหฺนุญะอัลนาฮา ตัซกิเราะเตา..วะมะตาอัลลิลมุกวีน
74. ฟะสับบิหฺบิสมิร็อบบิกัลอะซีม


คำแปล R1.
71. Tell Me! The Fire which you kindle,
72. Is it you who made the tree thereof to grow, or are We the Grower?
73. We have made it a reminder (for the Hell-fire, in the hereafter); and an article of use for the travelers (and all the others, in this world).
74. Then glorify with praises the Name of Your Lord, the Most Great.


คำแปล R2.
71. แล้วพวกเจ้าสังเกตไฟที่พวกเจ้าจุดบ้างไหม ?
72. พวกเจ้าได้สร้างต้นไม้ (ที่เป็นเชื้อ) ของมันขึ้นมาเองกระนั้นหรือ หรือว่าเราเป็นผู้สร้าง ?
73. เราได้บันดาลมันขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ และเป็นสิ่งอำนวยประโยชน์แก่บรรดาคนเดินทาง
74. ดังนั้น เจ้าจงกล่าวสดุดีความบริสุทธิ์ในพระนามแห่งองค์อภิบาลของเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เถิด


คำแปล R3.
71. สูเจ้าเคยพิจารณาถึงไฟที่สูเจ้าจุดขึ้นมาบ้างไหม ?
72. สูเจ้ากระนั้นหรือที่สร้างต้นไม้ของมันขึ้นมา หรือเราที่สร้างมันขึ้นมา ?
73. เราได้สร้างมันขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติและเป็นปัจจัยแห่งชีวิตสำหรับผู้ที่มีความจำเป็น
74. ดังนั้น (โอ้ นบี) จงสดุดีพระนามของพระผู้อภิบาลของเจ้าผู้ทรงอำนาจสูงสุด


คำแปล R4.
71. พวกเจ้าเห็นไฟที่พวกเจ้าจุดขึ้นมาแล้วมิใช่หรือ?
72. พวกเจ้าเป็นผู้ทำให้ต้นไม้ของมันงอกเงยขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอกขึ้นมา
73. เราได้ทำให้มันมีขึ้นเพื่อเป็นการเตือนสติ และอำนวยประโยชน์แก่ผู้เดินทางรอนแรม
74. ดังนั้น เจ้าจงสดุดีด้วยพระนามแห่งพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เถิด


คำแปล R5.
๗๑. แล้วพวกเจ้าสังเกตเห็นไฟซึ่งพวกเจ้าจุดขึ้นจากการใช้ไม้สดสองอันมาเสียดสีกันไหม
๗๒. พวกเจ้าหรือที่บังเกิดต้นไม้นั้น หรือว่าเราเป็นผู้ให้บังเกิด
๗๓. เราได้บันดาลมันเพื่อเป็นข้อเตือนใจและเป็นคุณประโยชน์สำหรับบรรดาผู้เดินทาง เมื่อต้องการใช้ก็นำไม้สดสองอันมาเสียดสีกัน ก็จะเกิดเป็นไฟลุกขึ้น ได้ใช้สมใจหวัง
๗๔. ดังนั้นเจ้าจงสดุดีความบริสุทธิ์ด้วยพระนามแห่งพระผู้ทรงอภิบาลอันยิ่งใหญ่ของเจ้าเถิด ด้วยพระองค์นั้นทรงบริสุทธิ์เกินกว่าที่พวกไร้ศรัทธากล่าวไว้สิ้นเชิง



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 75 - 79

คำอ่าน
75. ฟะลา..อุกสิมุบิมะวากิอิน..นุญูม
76. วะอิน..นะฮูละเกาะสะมุลเลาตะอฺละมูนะอะซีม
77. อิน..นะฮุละกุรอานุน..กะรีม
78. ฟีกิตาบิม..มักนูน
79. ลายะมัสสุฮู..อิลลัลมุเฏาะฮฺฮะรูน


คำแปล R1.
75. So I swear by Mawaqi (setting or the mansions, etc.) of the stars (they traverse).
76. And verily, that is indeed a great oath, if you but know.
77. That (this) is indeed an honourable recital (the Noble Qur'an).
78. In a Book well-guarded (with Allah in the heaven i.e. Al-Lauh Al-Mahfuz).
79. Which (that Book with Allah) none can touch but the purified (i.e. the angels).


คำแปล R2.
75.  ที่จริงข้าขอยืนยันกับที่ตกของดวงดาว
76. และแท้จริงคำยืนยันนั้น เป็นคำยืนยันอันยิ่งใหญ่นัก หากพวกเจ้ารู้
77. แท้จริงสิ่ง (ที่มุฮำมัดนำมาอ่าน)นั้นเป็นกุรอานที่มีเกียรติที่สุด
78. (ซึ่งถูกบันทึก) ในคัมภีร์ที่ถูกเก็บรักษาไว้ (นั่นคือ เลาฮุลมะฮ์ฟูซ)
79. ไม่ (มีผู้ใด)สัมผัสกุรอานได้ นอกจากบรรดาผู้ที่มีความสะอาดแล้ว


คำแปล R3.
75. แต่ไม่ ฉันขอสาบานด้วยตำแหน่งดวงดาวทั้งหลาย
76. และมันเป็นคำสาบานอันยิ่งใหญ่ ถ้าหากสูเจ้ารู้
77. ว่าแท้จริง นี่คือกุรอานอันทรงเกียรติ
78. ซึ่งถูกจารึกไว้ในคัมภีร์ที่ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี
79. ไม่มีใครสามารถแตะต้องมันได้นอกจากผู้สะอาด


คำแปล R4.
75. ข้า (อัลลอฮ.) ขอสาบานด้วยตำแหน่งต่าง ๆ ของดวงดาว
76. และแท้จริงมันเป็นการสาบานอันยิ่งใหญ่ หากพวกเจ้ารู้
77. นั่นคือ กุรอานอันทรงเกียรติ
78. ซึ่งอยู่ในบันทึกที่ถูกพิทักษ์รักษาไว้
79. ไม่มีผู้ใดจะแตะต้องอัลกุรอาน นอกจากบรรดาผู้บริสุทธิ์เท่านั้น


คำแปล R5.
๗๕. แท้จริงข้าขอสาบานกับบรรดาที่ตกของดวงดาว ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันในความมีอยู่จริงของข้า
๗๖. และแท้จริงการสาบานเช่นนั้นย่อมเป็นการสาบานอันยิ่งใหญ่นัก หากพวกเจ้ารู้ เพราะการตกของดวงดาวเป็นเครื่องสังเกตถึงระบบการควบคุมของอัลเลาะห์ที่มีอย่างเป็นระเบียบ
๗๗. แท้จริงคัมภีร์ที่ลงมายังนบีมุฮำมัดนั้นคือกุรอานอันทรงเกียรติยิ่ง
๗๘. ซึ่งถูกบันทึกอยู่ในคัมภีร์ที่ถูกรักษาไว้อย่างดี นั่นคือถูกรวมเป็นเล่ม หรือหมายถึงมีบันทึกอยู่ในเลาฮุลมะห์ฟูซ ที่ว่ากุรอานทรงเกียรติในที่นี้ นั้นหมายถึงใคร ๆ ก็อยากอ่าน และอ่านไม่รู้จักเบื่อ ยิ่งศึกษายิ่งตระหนักในความลึกซึ้งและการรวมสรรพศาสตร์ต่าง ๆ
๗๙. มิให้สัมผัสกุรอานได้ นอกจากบรรดาผู้ที่มีความสะอาดเท่านั้น ซึ่งใครก็ตามจะสัมผัสต้องมีน้ำละหมาด และไม่อยู่ในภาวะฮะดัสใหญ่



 

GoogleTagged