بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَالصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلَى أَشْرَفِ الأَنْبِيَاءِ وَالْمُرْسَلِيْنَ وَعَلَى آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ...وَبَعْدُ
การทานยาเพื่อระงับประจำเดือนนั้น อนุญาตให้กระทำในสภาวะจำเป็นเท่านั้น
อนึ่ง เรื่องการทานยาระงับหรือเลื่อนประจำเดือนนี้ มีแต่นักปราชญ์มัซอับมาลิกีย์เท่านั้นที่ได้นำเสนอเรื่องนี้ไว้โดยตรง นี่ก็คือส่วนหนึ่งจากความดีงามในการมีมัซฮับต่าง ๆ ในอิสลาม
ท่านอิมามอัศศอวีย์กล่าวว่า "ท่านอิบนุลกอซิม ได้ยินจากท่านมาลิกว่า สตรีใดที่ใช้ยาเพื่อให้เลือดประจำเดือนหยุดในช่วงเวลาที่ประจำเดือนมาปกติ ถือว่าเลือดนั้นเกลี้ยง และนางก็ถูกตัดสินว่าสะอาด" และจากท่านอิบนุกินานะฮ์กล่าวว่า "จากปกติแล้วนางจะมาประจำเดือนแปดวัน เป็นต้น แล้วหลังจากมาประจำเดือนได้สามวัน นางได้ใช้ยาเพื่อให้ประจำเดือนหยุดในวันที่เหลือ ดังนั้นนางถูกตัดสินว่าเป็นผู้ที่สะอาด ซึ่งขัดแย้งกับท่านอิบนุฟัรฮูน(ซึ่งเขาตัดสินว่ายังไม่สะอาด)" แต่บรรดาอุลามาอฺได้กล่าวว่า "การเยียวยาเช่นนี้ถือว่ามักโระฮ์(ไม่ควรกระทำ) เพราะอาจจะทำให้เกิดโทษ" หนังสือบุลเฆาะตุสซาลิก, เล่ม1 หน้า 163. และหนังสืออัลฟะวากิฮ์ อัดดะวานีย์, เล่ม 1 หน้า 137.
จากหลักการนี้ ได้ตัดสินว่าสตรีที่ทานยาระงับประจำเดือนนั้นสะอาดจากเลือดประจำเดือนและอยู่ในฮุกุ่มของสตรีที่สะอาด ดังนั้นนางก็สามารถถือศีลอดได้ จำเป็นต้องละหมาด ร่วมหลับนอนกับสามีได้ กล่าวคือ อนุญาตให้นางกระทำสิ่งที่ถูกห้ามสำหรับผู้มีประจำเดือนได้นั่นเอง นี้ก็คือทัศนะอันชัดเจนของนักปราชญ์มัซฮับมาลิกีย์ส่วนมาก
แต่การทานยาเพื่อระงับประจำเดือนนั้น อยู่ในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้น เช่น สตรีที่ไปทำฮัจญ์และอุมเราะฮ์ ซึ่งนางต้องทำการตอวาฟอัลอิฟาเฎาะฮ์ที่เป็นรุกุ่นของฮัจญ์ แต่การที่นางมีประจำเดือนจำต้องรอคอยช่วงระยะเวลาให้หมดประจำเดือน ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการเดินทางแบบกระทันหันขณะที่ประจำเดือนยังไม่เกลี้ยง ก็อนุญาตให้รับประทานยาระงับประจำเดือนได้เพื่อทำการตอวาฟ, อ้างอิงจากหนังสือ : ก่อฏอยา ฟิกฮียะห์ มุอาศิเราะฮ์ (ประเด็นฟิกห์ร่วมสมัย) ของมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรคณะนิติศาสตร์อิสลาม ปีที่ 1,หน้า 174-178.
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ