;) ;) ;)
วันนี้เต็มใจนำเสนอประโยคนี้มาก ๆ ค่ะ
ที่เต็มใจนำเสนอก็เพราะว่า
ประโยคนี้หน่ะเป็นประโยคที่พ่อใช้สอนลูก ๆ และญาติพี่น้อง
ในวันตรุษอีฎิลฟิตรีปีที่ผ่านมา
พ่ออธิบายว่าที่สอนอย่างนั้นเพราะพ่อต้องการสื่อให้ลูก ๆ และญาติพี่น้องได้รู้ว่า
นิสัยของมือหน่ะ เมื่อไหร่ที่ประสาทสัมผัสรับทราบว่ามีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
กำลังต้องการความช่วยเหลือ
อย่างเช่นว่าถ้ารู้สึกคัน
มือก็จะช่วยเกา
ถ้ารู้สึกปวด
มือก็จะช่วยลูบ
ถ้ารู้สึกเมื่อย
มือก็จะช่วยบีบ นวด
ถ้ามีสิ่งสกปรกติดตามร่างกาย
มือก็จะช่วยปัด
ในขณะที่นิสัยของดวงตานั้น
เมื่อมีอะไรก็ตามเกิดขึ้นกับร่างกายแล้ว
มันก็ทำได้มากที่สุดเพียงแค่มองดูเท่านั้น
พ่อบอกว่าเป็นพี่น้องมีอะไรต้องช่วยเหลือกัน
ใครทุกข์ใครร้อนมา
คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงถ้าเราจะช่วยเท่าที่กำลังเราสามารถช่วยได้หรอก
อย่าทำเป็นนิ่งเฉยกับปัญหา
หรือความทุกข์ร้อนของพี่น้องของเรา
ตามที่พ่อสอนนั้น
คนเดินดินพอจะสรุปได้ว่า
พ่อคงไม่อยากให้ใครก็ตามมีนิสัย เห็นกว่าตัว
มีอะไรพ่อคงอยากให้พวกเราช่วยเหลือกันและกัน
มากกว่าการวางเฉยหรือซ้ำเติมในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ทำให้คนเดินดินประทับใจกับประโยคนี้มาก
ก็เลยเต็มใจนำเสนออย่างยิ่งค่ะพี่น้อง
;) ;) ;)
หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง