« เมื่อ: ส.ค. 10, 2010, 02:33 PM »
0
คำแนะนำในเดือนรอมฎอนอันจำเริญประการแรก การเอาชนะความรู้สึกกระหายน้ำ
ถ้าหากในวันต่างๆของเดือนนี้มีความร้อนสูง ก็จะทำให้กระหายน้ำมากขึ้น
ชนิดของอาหารที่ผู้ถือศีลอดรับประทานเข้าไป ก็มีส่วนอย่างยิ่งในการทำให้เกิดความรู้สึกกระหายน้ำในช่วงเวลาถือศีลอด เพื่อเอาชนะความรู้สึกกระหาย ผู้ถือศีลอดควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
๑-ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทที่ปรุงด้วยเครื่องเทศและเครื่องปรุงรส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อย่ำรุ่ง(ซูฮูร) เพราะว่ามันจะทำให้ต้องการดื่มน้ำในปริมาณที่มากหลังจากรับประทานอาหาร
๒-พยายามดื่มน้ำทีละน้อย ในช่วงเวลากลางคืน
๓-รับประทานผลไม้ ผักสดในยามกลางคืนและมื้อย่ำรุ่ง เพราะอาหารมื้อนี้รวมกับน้ำและใยอาหารในปริมาณที่สามารถอยู่ในกะเพาะได้เป็นเวลานาน จะทำให้รู้สึกลดความหิวและกระหาย
ให้หลีกเลี่ยงจากการเติมเกลือมากเกินไปลงในอาหาร แต่ถ้าหากใส่น้ำมะนาวจะเป็นการดีต่อร่างกาย และให้ใช้ของที่ทดแทนเกลือในปริมาณที่ทำให้รสอาหารใกล้เคียงกับใช้เกลือ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มเช่น ปลาเค็ม ของดอง อาหารเหล่านี้ จะทำให้ร่างกายเพิ่มความต้องการน้ำ
บางคนเชื่อว่าการดื่มน้ำในปริมาณมากหลังอาหารมื้อย่ำรุ่ง(ซูฮูร) จะช่วยป้องกันความรู้สึกกระหายน้ำในเวลาถือศีลอด นี่คือความเชื่อที่ผิดพลาด เพราะว่าส่วนมากน้ำเหล่านี้ จะเกินปริมาณที่ร่างกายมีความต้องการ ด้วยเหตุนี้ น้ำทั้งหมดนั้นจะถูกนำไปใช้และขับออกไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ในเดือนรอมฎอน จะมีคำถามกันมากเกี่ยวกับเรื่องน้ำผลไม้ น้ำอัดลม เพราะมันเป็นของที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อกะเพาะ และลดประสิทธิภาพของการย่อยอาหารและการเกิดโรคทางเดินอาหาร บางคนเชื่อว่า การดื่มน้ำเย็น น้ำแข็ง โดยเฉพาะในตอนละศีลอด และ สิ่งเหล่านี้ จะไม่ทำให้หมดความกระหายน้ำได้ ยิ่งกว่านั้น จะนำไปสู่การหดตัวของเส้นเลือด ถึงขั้นที่ทำให้ระบบการย่อยอ่อนแอ จึงจำเป็นจะต้องดื่มน้ำธรรมดาหรือมีความเย็นระดับปานกลาง และจะต้องดื่มอย่างรอบคอบ การดื่มน้ำเพื่อผลักดันอาหารในขณะรับประทานนั้น เป็นวิธีรับประทานที่ผิด เพราะว่าไม่ให้โอกาสแก่กะเพาะและทำให้กะเพาะใช้พลังงานมากในการย่อยอาหาร
เราขอแนะนำอีกอย่างว่า อย่าดื่มน้ำผลไม้คั้นที่บรรจุในผลิตภัณฑ์จากโรงงานและที่ผสมสีสังเคราะห์และที่ใส่น้ำตาล เพราะในวงการแพทย์ยืนยันว่า อาหาร คือสาเหตุของการทำลายสุขภาพและความรู้สึกของเด็ก และได้แนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นน้ำผลไม้สดและผลไม้ธรรมดา
อัลลอฮ์ทรงกำหนดให้เดิอนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งความเมตตา และอภัยโทษและปลดปล่อยให้พ้นจากนรก และทรงกำหนดให้เป็นเทศกาลหนึ่งของการทำอิบาดะฮ์ ทั้งการนมาซ การถือศีลอด การนมาซตะฮัจญุด และการอ่านอัลกุรอาน นอกเหนือจากนี้แล้ว คนมุสลิมยังจำเป็นต้องยึดมั่นในมารยาทของท่านนบีในการรับประทานอาหารและการดื่ม มิใช่เพื่อรักษาสุขภาพเท่านั้น หากแต่ระเบียบทุกประการเหล่านี้ของท่านนบี ที่เกี่ยวกับสุขภาพยังได้รับรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮ์ อีกด้วย
ประการที่สอง คำแนะนำต่างๆสำหรับการละศีลอดและการรับประทานในมื้อย่ำรุ่ง(ซุฮูร)
๑-ให้รีบละศีลอด
แน่นอน ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ ได้สั่งเสียไว้ว่า ให้รีบเร่งในการละศีลอด ท่านได้กล่าวว่า คนทั้งหลายจะได้รับความดีงามตลอดไป ตราบเท่าที่เขารีบละศีลอด(บุคอรี มุสลิม)
เบื้องหลังของคำสอนเหล่านี้ มีประโยชน์และเป็นความประเสริฐ และส่งผลต่อสุขภาพอย่างดียิ่งสำหรับผู้ถือศีลอด กล่าวคือ ผู้ถือศีลอดในตอนเย็นจำเป็นต่อสิ่งที่จะขจัดความรู้สึกกระหายและความหิว ความล่าช้าจะยิ่งทำให้น้ำตาลในเม็ดเลือดลดลงและจะนำไปสู่ความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง และนั่นคือ การทำลายตัวเอง ด้วยการกระทำขัดต่อหลักการแห่งความผ่อนปรน
๒-ให้ละศีลอดด้วยอินทผลัมและตามด้วยน้ำ
แน่นอน ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ ได้เลือกอาหารชนิดนี้ เพื่อรักษาสุขภาพ มิใช่เพียงแต่เป็นเหตุลเพราะว่า เป็นพืชทะเลทรายเท่านั้น
เพราะว่า ผู้ถือศีลอดมีความจำเป็นต่อสิ่งที่ให้น้ำตาลซึมซับในกระเพาะอย่างรวดเร็ว เพื่อขจัดความหิว เช่นเดียวกับความจำเป็นต่อน้ำและรีบเร่งในการรับประทานอาหาร ท่านจะไม่พบว่ามีวิธีการอื่นใดอีกแล้ว ที่จะดีไปกว่าแบบอย่างอันบริสุทธิ์ ในยามเมื่อผู้ถือศีลอดเริ่มรับประทนอาหารด้วยอินผลัมและน้ำ
๓-ให้ละศีลอดในสองรูปแบบ
มีแบบอย่างจากท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ ว่าให้เร่งรีบละศีลอด และให้เร่งรีบทำนมาซมักริบ โดยให้รับประทานอาหารเพื่อทำให้การละศีลอดสมบูรณ์เสียก่อนจะนมาซ ในข้อนี้ มีวิทยปัญญาอันสูงส่ง กล่าวคือปริมาณอาหารเล็กๆน้อยๆที่ได้เข้าไปสู่กะเพาะ แล้วหลังจากนั้นก็ให้ทิ้งช่วงอาหารอย่างอื่น เพื่อเวลากระเพาะและลำไส้ทำงานง่ายๆก่อน ในขณะเดียวกัน จะทำให้ไม่มีความรู้สึกอยากและไม่ต้องการจะกินมากๆ
๔-ให้เลี่ยงการละศีลอดด้วยอาหารในทันที
การรับประทนอาหารในปริมาณที่มากในทันที จะทำให้กระเพาะอักเสบได้ และจะทำให้ท้องเสียและทำลายระบบทางเดินอาหาร – ลำไส้ จะเกิดภาวการณ์ย่อยยาก จะเกิดการอักเสบและปวดซี่โครงด้านล่างและจะมีกรดในท้อง จะอ่อนเพลียในการเคลื่อนไหว อาการเหล่านี้จะทำให้เฉื่อยชา และเกียจคร้าน ในเมื่อเลือดในปริมาณมากไปทำงานที่กะเพาะเพื่อเสริมพลังในการทำงานย่อยอาหารของกะเพาะ ทำให้ปริมาณเลือดที่ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายลดลง และที่สำคัญคือสมอง
๕ ให้หลีกเลี่ยงการนอน หลังจากการละศีลอด
การละศีลอดด้วยอาหาร จะก่อให้เกิดความเกียจคร้าน เฉื่อยชา และทำให้ผู้ถือศีลอดง่วงนอน เป็นสิ่งหนึ่งที่มักจะทำให้คนป่วยขาดนมาซอิชาอ์
๕-อย่าสูบบุหรี่ทั้งในเดือนรอมฎอนและเดือนอื่น
การสูบบุหรี่จะก่อให้เกิดอันตรายแก่ตัวผู้สูบ ท่านศาสนทูต ศ กล่าวว่า อย่าทำในสิ่งที่เป็นอันตรายเพื่อจะได้ไม่อันตราย
(ยังมีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 26, 2010, 07:11 PM โดย al-azhary »