ผู้เขียน หัวข้อ: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา  (อ่าน 3351 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
0

 salam

ไปค้นดูไฟล์เก่า ๆ พบสคริปต์บทความที่เคยนำเสนอทางรายการวิทยุเราะมะฎอนของมูลนิธิสันติชน เมื่อปีก่อน  เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้อง จึงนำเสนอไว้ ณ ที่นี้ โดยไม่ได้แก้ไขเนื้อหาเลย แก้แต่คำผิด


พี่น้องครับ วันนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอนที่เราจะได้คุยกันถึงเรื่องราวทางการแพทย์ ซึ่งผมอยากจะเสนอเรื่องโรคระบาดที่เกิดจากยุง ๒ โรค คือ ไข้เลือดออกและชิคุนกุนยา
   เมื่อเดือนที่แล้ว นักเรียนพยาบาลคนหนึ่งโทรศัพท์ถึงผมแจ้งว่า เพื่อนของเธอ ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรงถึงกับต้องนอนห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ICU พอถึงค่ำวันศุกร์ พวกเราคือผมกับนักเรียนพยาบาลมุสลิมทั้งหมดก็เลยร่วมละหมาดหาญะฮฺ ขอดุอาอุ์ให้แก่เธอผู้ป่วยนั้นว่า
وَلاَ مَرِيْضًا إِلاَّ شَفَيْتَهُ  และอย่าให้มีการเจ็บป่วยใด ๆ เว้นแต่พระองค์จะให้หาย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่ขอว่า وَلاَ مَيْتًا إِلاَّ رَحِمْتَهُ   และอย่าให้เธอได้เสียชีวิตนอกจากจะอยู่ในความเมตตาของพระองค์ วันรุ่งขึ้นผมก็ได้รับทราบข่าวจากเพื่อนของเธออีกคนหนึ่งว่า “เพื่อนไม่อยู่แล้ว” ก็คือ กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮฺแล้ว มัยยิตของเธอถูกส่งไปยังหาดใหญ่และส่งต่อไปยังอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาสที่เป็นภูมิลำเนาของเธอต่อไปเพื่อประกอบศาสนพิธี เย็นวันรุ่งขึ้น ผมและนักศึกษาอีกสถาบันหนึ่งได้ร่วมละหมาดฆออิบ ขอดุอาอุ์ให้แก่เธอ
   ไข้เลือดออกที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของนักเรียนพยาบาลผู้นี้เป็นโรคที่รู้จักในเมืองไทยมากว่า  ๓๐ ปี ระยะแรกเรียกว่า ไข้หวัดใหญ่ที่มีโรคแทรกซ้อน ต่อมาเมื่อแยกเชื้อได้แล้ว จึงรู้ว่าเป็นโรคติดต่อชนิดใหม่จากเชื้อชื่อ เดงกี่ไวรัส ที่ทำให้เกิดอาการได้ ๓ ระดับ
    ระดับแรก เรียกว่า ไข้เดงกี่(Dengue fever) มีเพียงไข้สูง เบื่ออาหาร อาการเหมือนไข้หวัดที่ไม่มีน้ำมูก เป็นอยู่ ๓-๔ วันก็หายไปได้เอง จะรู้ว่าเป็นไข้เดงกี่ก็ด้วยการตรวจเลือดเพื่อหาหลักฐานการติดเชื้อนี้
ระดับที่สอง เรียกว่า ไข้เลือดออกเดงกี่ (Dengue hemorrhagic fever) มีอาการไข้สูง หนาวสั่น ๒-๗ วัน เบื่ออาหาร หน้าแดง ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียนปวดท้องเนื่องจากตับโต ถ้าตรวจเลือดจะพบหลักฐานการติดเชื้อและพบเกร็ดเลือดต่ำกว่าปกติซึ่งเป็นสาเหตุให้มีเลือดออกตามส่วนของร่างกายได้ง่าย หรือตรวจพบจุดเลือดออกเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ถ้าไม่มีเลือดออกหรือน้ำในระบบหลอดเลือดไม่รั่วซึมออกไปสู่เนื้อเยื่อภายนอกจนช็อค ผู้ป่วยจะหายและฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ระดับที่สาม เรียกว่าช็อคจากไข้เลือดออกเดงกี่(Dengue Shock Syndrome) หลังจากไข้ ๔-๗ วัน ไข้ลด มีอาการแสดงของน้ำเหลืองรั่วซึมสู่เนื้อเยื่อภายนอก มีอาการแสดงของเลือดออก เช่น ออกตามไรฟัน ออกในทางเดินอาหาร ความดันตก และเสียชีวิตได้จากภาวะช็อค ไตวาย หรือ ระบบไหลเวียนล้มเหลว


ไข้เลือดออกเดงกี่นี้เกิดจากยุงลายบ้านหรือยุงลายสวนไปกัด ดูดเลือดจากคนที่ป่วยแล้วไปกัดผู้อื่น ถ่ายทอดเชื้อให้คนที่ถูกกัดต่อไป โรคนี้ยังไม่มีการรักษาเฉพาะและยังไม่มีวัคซีน[/size]


(ยังมีต่อ)

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ส.ค. 28, 2010, 08:24 AM »
0
มาต่อเรื่องไข้ ชิคุนกุนยา ครับ

ส่วนโรคชิคุนกุนยานั้น ขณะนี้ระบาดประปรายอยู่ที่จังหวัดภาคใต้ของไทย เมื่อก่อนเคยเรียกว่าไข้เลือดออกเหมือนกัน แต่ปัจจุบัน นิยมเรียกว่าไข้ปวดข้อ เชื้อสาเหตุไม่ใช่ไวรัสเดงกี่ แต่เป็นไวรัสชิคุนกุนยา ทำให้เกิดอาการ ไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการปวดข้อ ข้อบวมแดงอักเสบและเจ็บ เริ่มจากบริเวณข้อมือ ข้อเท้า และข้อต่อของแขนขา อาจพบอาการปวดกล้ามเนื้อด้วย หลังจากนั้นจะเกิดผื่นบริเวณลำตัวและแขนขา มักไม่คัน หรืออาจมีผื่นขึ้นที่กระพุ้งแก้มและเพดานปาก ไข้อาจจะหายในระยะนี้ (ระยะ 2-3 วันหลังเริ่มป่วย) ส่วนผื่นจะลอกเป็นขุยและหายได้เองภายใน 7-10 วัน พบต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอโตได้บ่อย บางคนชาหรือเจ็บบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า อาการปวดข้อจะหายภายใน 2-3 วัน หรืออาจนานหลายสัปดาห์ และบางรายอาจเป็นเรื้อรังอยู่หลายเดือนหรือเป็นปี
   การวินิจฉัยนอกจากจะสอบถามอาการแล้ว คือการตรวจเลือดเพื่อหาหลักฐานการติดเชื้อไวรัสชนิดชิคุนกุนยา
   ส่วนการรักษานั้นเป็นการรักษาแบบประคับประคองอาการ เพราะไม่มีการรักษาเฉพาะโรค
   ไข้ปวดข้อชิคุนกุนยานี้ เกิดจากยุงลายบ้านหรือยุงลายสวนไปกัดคนที่ป่วยด้วยโรคนี้ ไปกัดไปกัดผู้อื่น ถ่ายทอดเชื้อให้กับคนที่ถูกกัดต่อไป
   
เนื่องจากโรคนี้(ไข้เลือดออกและชิคุนกุนยา)ยังไม่มีวัคซีน ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ การให้สุขศึกษาและการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยดำเนินการดังนี้
    ๑. ทำทุกวิถีทางให้ทุกคนรู้จักป้องกันยุงลายกัด เช่น นอนในมุ้งหรือในห้องที่มีมุ้งลวด แม้จะเป็นเวลากลางวัน ใช้ยากันยุงชนิดจุดหรือชนิดทา สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เป็นต้น
   ๒. สำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายรอบบ้าน ยุงลายชอบเพาะพันธุ์ในน้ำใสสะอาดที่ขังนิ่งอยู่ในแหล่งต่าง ๆ รอบบ้าน เช่น จานรองโต๊ะ ขาตู้กับข้าว กระถางต้นไม้ โอ่งแตก กะลา กระป๋องหรือขวดที่ทิ้งให้นำขัง ยางรถยนต์เก่าที่วางทิ้งไว้ มีน้ำขัง
   ๓. ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้สารเคมี เช่น ทรายฆ่าลูกน้ำ ปล่อยปลาเล็ก ๆ ที่กินลูกน้ำในอ่างบัว ทำลายภาชนะที่ไม่จำเป็น คว่ำไม่ให้น้ำขัง นำยางรถยนต์เก่าไปใช้ประโยชน์อื่น ตัดต้นไม้ขนาดเล็กที่อาจเป็นแหล่งหลบซ่อนของยุง และต้องทำอย่างต่อเนื่องด้วยการสำรวจอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
   กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาตรการโดยให้มีการสำรวจและกำจัดหรือทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกวันศุกร์ ซึ่งสามารถที่จะตัดวงจรการแพร่พันธุ์ของยุงลายได้ แต่ไม่ได้รณรงค์อย่างจริงจังและไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากประชาชนเท่าที่ควร
   มุสลิมควรจะทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีด้วยการทำกิจกรรมนี้ ไหน ๆ วันศุกร์ก็เป็นวันที่เราจะต้องไปปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดอยู่แล้ว ลองกำหนดเป็นระเบียบปฏิบัติประจำของตัวเองว่า ก่อนหรือหลังจากไปมัสญิด ต้องทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายสัปดาห์ละครั้ง ทำสม่ำเสมอเหมือนกับเป็นวาญิบ ทำทุกบ้าน ทำทุกสถานที่
   ที่ต่างประเทศบางประเทศ ถ้าพบโรคไข้เลือดออกในหมู่บ้านใด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะเข้าสำรวจและตรวจสอบว่า บ้านหลังใดในหมู่บ้านนั้นที่ปล่อยให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และบ้านนั้นจะถูกลงโทษด้วยการปรับ หรือแม้แต่เพื่อนบ้านเห็นว่าบ้านใกล้เรือนเคียงปล่อยให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ก็สามารถแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้มาดำเนินการแก้ไขได้
   บ้านเราไม่มีมาตรการลงโทษ ต้องอาศัยความรับผิดชอบของแต่ละบุคคลที่มีต่อสังคมและต่อเพื่อนบ้าน ต้องคิดว่าถ้าจะแก้ปัญหาไข้เลือดออกและไข้ปวดข้อให้ได้ในระดับที่น่าพอใจ ทุกคนต้องช่วยกันดูแลตนเอง ป้องกันยุงกัด กำจัดยุงลาย ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้าน ยุงบ้านเราไม่ใช่กัดเฉพาะตัวเรา แต่กัดเพื่อนบ้านเราในรัศมี ๑-๒ กิโลเมตรด้วย
   มุสลิมให้ความสำคัญกับเพื่อนบ้านมากนะครับ จำได้ไหมครับว่าญิบรีลเคยมาบอกกับท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม บ่อย ๆ เกี่ยวกับความสำคัญของเพื่อนบ้าน จนท่านเกือบจะบอกว่า เพื่อนบ้านรับมรดกได้
   ใกล้จะสิ้นเดือนเราะมะฎอนแล้ว ทำความดีตามที่อัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค์ใช้อย่างสมบูรณ์แล้ว อย่าลืมทำความดีต่อเพื่อนบ้าน อย่าปล่อยแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายไว้ในบ้าน เดี๋ยวเพื่อนบ้านจะได้รับความเดือดร้อน
   ขอดุอาอุ์ต่ออัลลอฮฺตะอาลาให้พวกเราทุกคนมีสุขภาพดี ปฏิบัติอะมั้ลอิบาดะฮฺได้สมบูรณ์ และขอให้ได้รับการตอบแทนในอะมั้ลของตนตลอดจนเตรียมพร้อมที่จะรับความสุขในวันอีดที่จะถึงนี้โดยทั่วกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 29, 2010, 10:50 PM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ส.ค. 28, 2010, 11:15 AM »
0
กางมุ้ง หลบยุงรอ ^^
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ส.ค. 29, 2010, 10:52 PM »
0
 salam

เอาเรื่องชิคุนกุนยามาลงให้แล้วครับ

การกางมุ้งหลบยุง เป็นวิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออกและไข้ปวดข้อได้ดีวิธีหนึ่ง

วัสสลาม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ส.ค. 30, 2010, 10:59 AM »
0
 salam

ขอบคุณค่ะแช  myGreat:

การกางมุ้งนอนหลบยุงได้ก็จริงค่ะ แต่คนนอนต้องนอนในมุ้งเท่านั้นนะคะ
หากเผลอไปนอนนอกมุ้งเมื่อไหร่ ก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อโดยละม่อมแหงมๆค่ะ  hehe hehe

ปล.ตอนนี้แถวที่บ้านเริ่มแจกโลชั่นกันยุงกับทรายอะเบจรอบที่สองแล้วค่ะ...
รอบแรกกว่าจะทำเรื่องวิ่งเต้นขอมาได้ มีคนต้องอพยพไปนอนโรงพยาบาลกันหลายครัวเรือนเลยค่ะ
(คนไข้ล้นโรงพยาบาล น่าเห็นใจคุณหมมอและคุณพยาบาลค่ะ วิ่งวุ่นกันตลอดทั้งวันทั้งคืน
หมอก็มีน้อยด้วย สงสัยคงเหนื่อยมิใช่น้อย)
แถมยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกด้วยค่ะ...
ไข้หวัด 2009 ว่าน่ากลัวแล้ว หนูว่าไข้เลือดออกดูน่ากลัวไม่ต่างกันเลยค่ะ
ตอนหนูป่วยแรกๆ ไม่มีจุดแดงตามตัวเหมือนคนไข้รายอื่น หมอลองรัดสายยางก็ไม่ปรากฏจุดแดง
ก็เลยงสัย ใช่ไข้เลือดออกหรือเปล่า...กะจะให้หนูกลับบ้านไปดูอาการอีกรอบ
พี่สาวส่ายหน้า บอกว่า เอาไม่อยู่แล้ว รักษากันมาหลายวันก็ไม่มีวี่แววหาย
เลยเอามาให้หมอรักษา ก็เลยต้องนอนโรงพยาบาลค่ะ...
แต่พอผ่านไปหนึ่งวัน จุดแดงเริ่มโผล่มาให้เห็นทั้งตัว
หมอบอกว่า สงสัยหนูจะเป็นไข้เลือดออกซ้อนกัน
หมายถึง ไข้รอบแรกหายแล้ว(เป็นแล้วหายเองที่บ้าน เพราะหนูนอนป่วยอยู่ที่บ้านเกือบครึ่งเดือน)
แต่โดนอีกเชื้อหนึ่งซ้ำ เป็นรอบที่สองเลยหนักกว่ารอบแรก เลยนอนโรงพยาบาลหลายวัน
แต่อาจจะเพราะเชื้อมันเห็นหมอเลยทำท่าจะบินหนีไป ไม่แสดงอาการเท่าที่ควร
นอนไม่กี่วันหนูเองนึกว่าตัวเองหายแล้ว อยากกลับบ้าน แต่พอหมอตรวจดูเกร็ดเลือดและความดัน
ลงความเห็นว่า ให้นอนต่อ ตกดึกอาการออก ก็เลยแจ้งใจว่า
ตอนไข้เริ่มลด มันอันตรายอย่างไรน่ะค่ะ...มันประมาทไม่ได้เลย... no: no: no:

เล่าสู่กันฟังค่ะ...

วัสสลามค่ะ





"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ กอ-กล้วย

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 353
  • kuru cook
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ส.ค. 30, 2010, 11:19 AM »
0
อัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะุตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ

  บังหมัดคะ แล้วกรณีของน้องชายที่ขณะนี้เป็นไข้เลือดออกระดับที่สาม ซึ่งมีอาการเลือดออกตามไรฟัน ท้องแข็ง เบื่ออาหาร เกร็ดเลือดต่ำมาก
ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้รับการผ่าตัดตับออกเนื่องจากอุบัติเหตุนั้น จะต้องเฝ้าดูอาการเป็นพิเศษอย่างไรบ้างคะ
ตอนนี้หมอจะให้เลือดแต่ทางธนาคารเลือดขาดแคลนเลือดอยู่คะ  :-[

ดังนั้นขอประชาสัมพันธ์ รับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอ ผ่านทางรพ.นราธิวาสราชนคิรนทร์ อย่างด่วนคะ ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนทุกท่าน

วัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะุตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ส.ค. 30, 2010, 11:38 AM »
0
อัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะุตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ

  บังหมัดคะ แล้วกรณีของน้องชายที่ขณะนี้เป็นไข้เลือดออกระดับที่สาม ซึ่งมีอาการเลือดออกตามไรฟัน ท้องแข็ง เบื่ออาหาร เกร็ดเลือดต่ำมาก
ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้รับการผ่าตัดตับออกเนื่องจากอุบัติเหตุนั้น จะต้องเฝ้าดูอาการเป็นพิเศษอย่างไรบ้างคะ
ตอนนี้หมอจะให้เลือดแต่ทางธนาคารเลือดขาดแคลนเลือดอยู่คะ  :-[

ดังนั้นขอประชาสัมพันธ์ รับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอ ผ่านทางรพ.นราธิวาสราชนคิรนทร์ อย่างด่วนคะ ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนทุกท่าน วัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะุตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...


ขออัลลอฮฺทรงคุ้มครองน้องของก๊ะกอ-กล้วยให้ปลอดภัยด้วยเถิด อามีนๆๆ...


อยากช่วยบริจาคเลือดด้วยคน แต่กรุ๊ปเลือดต่างกัน พี่ๆน้องๆที่บ้านก็ บี กันหมดทั้งบ้านเลยค่ะ...
(หากใครต้องการกรุ๊ปเลือด บี บอกกันมาได้นะคะ...บ้านข้าน้อยมีเลือดกรุ๊ป บี หลายคนค่ะ)

ยังไงจะขอส่งกำลังใจและดุอาฮฺค่ะ...

 loveit:

ขอให้หายในเร็ววันนะคะ...

วัสสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ส.ค. 30, 2010, 02:06 PM »
0
 salam

คงจะต้องให้เกร็ดเลือด เชื่อว่าที่ รพ.นราธิวาสน่าจะมีศูนย์บริการโลหิตที่สามารถปั่นแยกเกร็ดเลือดหรือแยกพลาสมาได้

ธรรมดา ถ้าไม่มีอาการช็อคหรือเสียเลือดจากเกร็ดเลือดต่ำ เมื่อพ้นวันที่ 7 ของโรคไปแล้วจะหายวันหายคืน

ถ้าไม่เชื่อลองถามหนูน้ำค้างดูว่า หายไข้แล้วน้ำหนักขึ้นอีกกี่กิโล

ช่วงวิกฤตจะอยู่ประมาณวันที่ 4-6 (วันที่ไข้ลด)

อยู่ไกลได้แต่ขอดุอาอุ์ให้ครับ

วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 30, 2010, 05:28 PM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ก.ย. 01, 2010, 11:13 AM »
0
^

วะอะลัยกุมมุสลามค่ะแช  ;D

ตอนป่วยน้ำหนักลดหลายกิโล เพราะเบื่ออาหาร แต่พอหายปุ๊บ กินได้อย่างกับพายุ
ใครๆก็ต้องยอมยกธงให้ แฮ่ๆ

สงสัยคงบวมน้ำเกลือมั้งคะ รับมาหลายขวด ดีหน่อยตรงที่ตรงกับเดือนถือศีลอด
เลยลดกิเลสแห่งความอยากลงได้เยอะ ก็เลยไม่บวมน้ำเกลือเท่าที่กลัวไว้ก่อนหน้านี้ค่ะแช 5555

ปล.หลานอายุ 1ปีกว่าๆก็เป็นไข้เลือดออกด้วยค่ะ พอไข้ขึ้นสูงก็จะมีอาการชัก
เนื้อตัวเขียวคล้ำ ดูซีดเหมือนไม่มีเลือด ความดันต่ำ หมอเลยต้องให้ออกซิเจนพร้อมๆกับเช็ดตัวให้ไข้ลดไปด้วย
และหาเส้นฉีดน้ำเกลืออยู่นานกว่าจะเจอ หลานหนูโดนเข็มทิ่มไปไม่รู้ที่ที่ค่ะแช
หมอและพยาบาลเข้ามารุมล้อมทำทุกอย่างพร้อมกันทีเดียว เห็นสภาพหลานแล้วน่าสงสารสุดๆค่ะ(คนเป็นแม่แทบลมจับ)
เดี๋ยวนี้พอเริ่มมีไข้นิดหน่อยก็ต้องรีบเช็ดตัวให้ไข้ลดลง เพราะเสี่ยงกับภาวะชัก และอาจจะช็อกได้...
หมอสั่งนักสั่งหนาว่า เด็กที่เคยมีอาการชัก จะมีโอกาสชักได้อีก...
เราไม่ควรปล่อยให้เด็กชักบ่อยๆ เพราะอาจจะมีปัญหากับพัฒนาการทางสมอง
เลยต้องระวังไม่ให้มีไข้ แค่ 38 องศาหลานสาวก็ยังชักมาแล้วเลยค่ะ(แต่ยังซนเหมือนเดิม  ;D )...
ดีหน่อยตรงที่คุณพยาบาลบอกวิธีเช็ดตัวให้ไข้ลดได้เร็วและการดูแลผู้ป่วยด้วยตัวเองให้
พี่สาวและข้าน้อยก็เลยได้ความรู้ในการพยาบาลคนไข้เพิ่มค่ะ...
ห่วงแต่คนแก่และเด็กค่ะ เพราะร่างกายอ่อนแอป่วยทีก็นานค่ะ กว่าจะหายและทรงตัวได้

ปล.อีกที อยากถามแชว่า ทำไมส่วนใหญ่แล้วพยาบาลถึงมีแต่ผู้หญิงคะ   ::)  ;D
แล้วพยาบาลที่เป็นมุสลิมะฮฺจะสามารถเช็ดตัวหรือคอยดูแลพยาบาลให้คนป่วยต่างเพศได้มั้ยคะ
สงสัยสุดๆค่ะ  ::)


วัสสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ก.ย. 01, 2010, 04:24 PM »
0

อ้างถึง
ปล.อีกที อยากถามแชว่า ทำไมส่วนใหญ่แล้วพยาบาลถึงมีแต่ผู้หญิงคะ 
แล้วพยาบาลที่เป็นมุสลิมะฮฺจะสามารถเช็ดตัวหรือคอยดูแลพยาบาลให้คนป่วยต่างเพศได้มั้ยคะ

ก็เพราะวิชาชีพพยาบาลนั้นเริ่มมาจากผู้หญิง คือ คุณ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล และมีชื่อเรียกว่า นางพยาบาล

ต่อมาเมื่อมีความจำเป็นเพราะต้องมีพยาบาลในสนามรบมากขึ้น จึงได้มีบุรุษพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายสิบพยาบาล

ปัจจุบันเป็นอาชีพเปิด เรียนได้ทั้งชายและหญิง แต่ก็มีเพศหญิงสมัครเข้าเรียนมากกว่า(หรือสมัครเท่ากันแต่ผู้หญิงสอบได้มากกว่า)

คนไข้คงจะชอบพยาบาลหญิงมากกว่าบุรุษพยาบาลด้วย กำลังป่วยเห็นหน้าหนุ่มหนวดเคราครึ้มมาดูแล โรคอาจหายช้า

เมื่อมีความจำเป็น อนุญาตให้พยาบาลหญิงดูแลผู้ป่วยชายและพยาบาลชายดูแลผู้ป่วยหญิงได้

ที่ห้องตรวจโรคในประเทศอาหรับมักจะเขียนป้ายติดหน้าห้องว่า للرجال فقط เฉพาะชายเท่านั้น หรือ للنساء فقط เฉพาะหญิงเท่านั้น

แต่ในทางปฏิบัติ คนไข้หญิงก็เข้าห้องตรวจหญิง คนไข้ชายก็ชอบเข้าห้องตรวจหญิง บอกว่าหมอผู้หญิงใจดี พยาบาลผู้หญิงมือเบา

วัสสลาม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ก.ย. 04, 2010, 12:58 PM »
0
 salam

ขอบคุณค่ะแช  loveit:

วัสสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ก.ย. 04, 2010, 09:58 PM »
0
ถ้าจำไม่ผิด นบีเคยอนุญาตให้หมอชายกรอกเลือดที่หัวเมียเขา
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ กอ-กล้วย

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 353
  • kuru cook
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: ไข้เลือดออกและไข้ชิคุนกุนยา
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ก.ย. 05, 2010, 11:47 AM »
0
ญาซากุมุลลอฮุค็อยรอนกาษีรอน บังหมัด น้องนาดา และอีกหลาย ๆ คนที่ช่วยกัีนขอดุอาอ์นะคะ
อัลฮัมดุลิลลาฮฺตอนนี้น้องออกจากโรงพยาบาลแล้ว และได้รับเกร็ดเลือดแล้วคะ (เกร็ดเลือด 1 ถุง ได้จากการสกัดเลือด 10 ถุงแนะ)


 

GoogleTagged