salam
ขอบคุณค่ะแช

การกางมุ้งนอนหลบยุงได้ก็จริงค่ะ แต่คนนอนต้องนอนในมุ้งเท่านั้นนะคะ
หากเผลอไปนอนนอกมุ้งเมื่อไหร่ ก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อโดยละม่อมแหงมๆค่ะ
ปล.ตอนนี้แถวที่บ้านเริ่มแจกโลชั่นกันยุงกับทรายอะเบจรอบที่สองแล้วค่ะ...
รอบแรกกว่าจะทำเรื่องวิ่งเต้นขอมาได้ มีคนต้องอพยพไปนอนโรงพยาบาลกันหลายครัวเรือนเลยค่ะ
(คนไข้ล้นโรงพยาบาล น่าเห็นใจคุณหมมอและคุณพยาบาลค่ะ วิ่งวุ่นกันตลอดทั้งวันทั้งคืน
หมอก็มีน้อยด้วย สงสัยคงเหนื่อยมิใช่น้อย)
แถมยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกด้วยค่ะ...
ไข้หวัด 2009 ว่าน่ากลัวแล้ว หนูว่าไข้เลือดออกดูน่ากลัวไม่ต่างกันเลยค่ะ
ตอนหนูป่วยแรกๆ ไม่มีจุดแดงตามตัวเหมือนคนไข้รายอื่น หมอลองรัดสายยางก็ไม่ปรากฏจุดแดง
ก็เลยงสัย ใช่ไข้เลือดออกหรือเปล่า...กะจะให้หนูกลับบ้านไปดูอาการอีกรอบ
พี่สาวส่ายหน้า บอกว่า เอาไม่อยู่แล้ว รักษากันมาหลายวันก็ไม่มีวี่แววหาย
เลยเอามาให้หมอรักษา ก็เลยต้องนอนโรงพยาบาลค่ะ...
แต่พอผ่านไปหนึ่งวัน จุดแดงเริ่มโผล่มาให้เห็นทั้งตัว
หมอบอกว่า สงสัยหนูจะเป็นไข้เลือดออกซ้อนกัน
หมายถึง ไข้รอบแรกหายแล้ว(เป็นแล้วหายเองที่บ้าน เพราะหนูนอนป่วยอยู่ที่บ้านเกือบครึ่งเดือน)
แต่โดนอีกเชื้อหนึ่งซ้ำ เป็นรอบที่สองเลยหนักกว่ารอบแรก เลยนอนโรงพยาบาลหลายวัน
แต่อาจจะเพราะเชื้อมันเห็นหมอเลยทำท่าจะบินหนีไป ไม่แสดงอาการเท่าที่ควร
นอนไม่กี่วันหนูเองนึกว่าตัวเองหายแล้ว อยากกลับบ้าน แต่พอหมอตรวจดูเกร็ดเลือดและความดัน
ลงความเห็นว่า ให้นอนต่อ ตกดึกอาการออก ก็เลยแจ้งใจว่า
ตอนไข้เริ่มลด มันอันตรายอย่างไรน่ะค่ะ...มันประมาทไม่ได้เลย...

เล่าสู่กันฟังค่ะ...
วัสสลามค่ะ