salam
หะดีษอีกสักบท
ท่านอบูดาวูด อันนะซาอีย์และอัตติรมีซีย์ ได้รายงานว่า :
มีชายจากชาวอันศ๊อร (ชาวนครมะดีนะฮ) คนหนึ่งได้มาหาท่านร่อซูล (ซ.ล.) เพื่อขอทานจากท่าน
ท่านร่อซูลจึงได้กล่าวกับชายชาวอันศ๊อรว่า : ในบ้านของท่านไม่มีสิ่งใดเลยหรือ ?
ชายชาวอันศ๊อรตอบว่า : หามิได้ โอ้ท่านท่านร่อซูลฯ ในบ้านของฉันมีผ้าปูพื้นอย่างหนาที่พวกเราเอาบางส่วนมาสวมใส่เป็นเสื้อผ้าและอีกบางส่วนเราใช้ปูพื้น และยังมีหม้อใบใหญ่เอาไว้ใส่น้ำดื่ม
ท่านร่อซูล (ซ.ล.) จึงใช้ให้ชายผู้นั้นไปนำของทั้งสองสิ่งนั่นมาให้ท่าน
ครั้นเมื่อชายผู้นั้นได้นำสิ่งของทั้งสองอย่างมามอบแก่ท่านร่อซูล ท่านก็เอาสิ่งของสิ่งนั้นมาพร้อมประกาศว่า :
ผู้ใดจะซื้อหาสิ่งของสองชิ้นนี้ จากฉันบ้าง ? ก็มีชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า : “ฉันจะเอาสิ่งของสองชิ้นนั้นด้วยราคา 1 ดิรฮัม !”
ท่านร่อซูล (ซ.ล.) กล่าวว่า : มีผู้ใดจะให้ราคามากกว่า 1 ดิรฮัมบ้าง?
ชายอีกคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นว่า : ฉันจะเอาสิ่งของสองชิ้นนี้เอาไว้ด้วยราคา 2 ดิรฮัม”
ท่านร่อซูล (ซ.ล.) จึงมอบสิ่งของทั้งสองชิ้นนั้นแก่ชายผู้ให้ราคา 2 ดิรฮัมและรับเงินจำนวน 2 ดิรฮัมเอามาและได้มอบเงินจำนวนนั้นแก่ชายชาวอันศ๊อรผู้นั้นพร้อมสั่งว่า :
ท่านจงนำเงิน 1 ดิรฮัมเอาไปซื้อหาอาหารและจงนำเอาอาหารที่ซื้อได้ไปทิ้งไว้ให้กับครอบครัวของท่าน
และจงนำเงินอีก 1 ดิรฮัมที่เหลือซื้อขวานมาหนึ่งอัน และจงนำขวานมาให้ฉัน”
ชายชาวอันศ๊อรก็ทำตามคำสั่งของท่านร่อซูล (ซ.ล.) และนำขวานมาให้แก่ท่าน
ท่านร่อซูลก็ผูกขวานกับด้ามไม้ด้วยมือของท่านเอง
ครั้นต่อมาท่านจึงกล่าวขึ้นว่า : เจ้าจงไปเถิด ไปหาไม้ฟืนแล้วจงนำไปขาย และอย่าให้ฉันเห็นท่านหลังจากนี้ ในช่วงเวลา 15 วัน”
ชายชาวอันศ๊อรก็ปฏิบัติตามนั้น เมื่อ 15 วันผ่านไปชายผู้นี้ได้มาหาท่านศาสนทูต (ซ.ล.) โดยที่เขามีเงินถึง 10 ดิรฮัม ซึ่งเขาได้นำเงินบางส่วนไปซื้ออาหารไว้แล้ว
ท่านศาสนทูต (ซ.ล.) กล่าวว่า : สิ่งนี้ย่อมดีกว่าการที่ท่านจะมาหาในสภาพขอทาน และการขอทานนั้นจะเป็นรอยด่างดำในใบหน้าของท่านในวันกิยามะห์”