salam
8. อิรออดัต แปลว่า ต้องการ เจตนา ความหมายของคำว่า “ต้องการ” หรือ “เจตนา” ณ.ที่นี้ คือ ทุกสิ่งทุกประการเกิดขึ้นสอดคล้องกับความต้องการหรือเจตนาตามอำนาจของ พระองค์ คำว่าต้องการ เจตนานั้น มิได้หมายความว่า (ประสงค์) ดังที่เข้าใจ เมื่อได้ยินคำนี้ เพราะประสงค์นั้น เป็นเรื่องมุสต้าฮี้ล (คือปัญญาไม่ยอมรับว่าพระองค์จะมีคุณลักษณะเช่นนั้น)
คืออยากทราบว่า...
1. ที่บอกว่า เจตนา มิได้หมายความว่า ประสงค์ นั้น เป็นอย่างไรหรือครับ?
2. (จากข้อที่ 1.) 'เจตนา' ของอัลลอฮ์ทรงมีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว แล้ว 'ประสงค์' หล่ะครับ มีมาดั้งเดิมเหมือนกับ 'เจตนา' หรือเปล่าครับผม? (ปล. ไม่ทราบว่า 'ประสงค์' ในที่นี้มีความหมายเดียวกันกับที่เรามักจะกล่าวกันว่า "ถ้าหากเป็นความประสงค์ของอัลลอฮ์" หรือเปล่าครับ?)
รบกวนบังอัลอัซฮารีหรือผู้รู้ท่านอื่น ๆ ด้วยนะครับผม 
ญะซากุมุลลอฮ์ฮุค็อยร็อน
:salam:ครับ
1. ที่บอกว่า
เจตนา มิได้หมายความว่า
ประสงค์ นั้น เป็นอย่างไรหรือครับ?
ตอบ เจตนา
(كهندق)นั้น หมายถึง สิ่งที่ อัลเลาะห์(ซบ)นั้น มุ่งหมาย จงใจจะให้เป็นหรือเกิดขึ้น (ซึ่งเป็นซีฟัต คงเดิมกับซาติ)ในการที่จะก่อให้เกิดการกระทำใดๆ (มุมกิน) เช่น เจตนาในการที่จะ สร้างสิ่งใดๆ ให้เกิดขึ้น หรือ จากสิ่งที่มีให้ไม่มี (เจตนามีมาแต่เดิมด้วยกับซาติ)
ประสงค์
(بر حاجة)ในที่นี้ นั้น หมายถึง ความต้องการ หรือ อยากได้ (เป็นซีฟัตสิ่งถูกสร้าง)ซึ่ง มุสตาเฮล ในการที่ อัลเลาะห์(ซบ) นั้น ต้องการ หรือ อยากได้ เพราะทั้งหมดนั้น อยู่ในกรรมสิทธิ์(ก็อบดอฮฺ)ของ พระองค์อัลเลาะห์(ซบ)
2. (จากข้อที่ 1.) 'เจตนา' ของอัลลอฮ์ทรงมีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว แล้ว 'ประสงค์' หล่ะครับ มีมาดั้งเดิมเหมือนกับ 'เจตนา' หรือเปล่าครับผม? (ปล. ไม่ทราบว่า 'ประสงค์' ในที่นี้มีความหมายเดียวกันกับที่เรามักจะกล่าวกันว่า "ถ้าหากเป็นความประสงค์ของอัลลอฮ์" หรือเปล่าครับ?)
ตอบ ส่วนประสงค์
(كهندق)ในความหมายที่กล่าวกันว่า "ถ้าหากเป็นความประสงค์ของอัลลอฮ์" นั้น เป็นความหมายที่ให้กับความหมายตรงกับคำว่า
มุ่งหมาย (เป็นความหมายเดียวกันเจตนา)
ส่วนประสงค์ในข้อ 1. นั้น เป็นมุสตาเฮลก็คือ ไม่มีอยู่เลย(สติปัญญาไม่ยอมรับว่ามี)
salam
พึงรู้ว่า อิรอดัต ตามความเข้ามจของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์นั้น มิใช่หมายถึงใช้ ยินดีและรู้พร้อม ๆ กันเสมอ กล่าวคือ บางครั้งพระองค์ต้องการพร้อมทั้งใช้และยินดีไปพร้อม ๆ กัน เช่นอีหม่านของอะบูบักร ร.ด. และบางครั้งไม่ต้องการ และไม่ยินดี เช่น การเป็นกุฟรของอบูบุกร และในบางครั้งมีความต้องการ แต่มิได้ใช้ มิได้ยินดี เช่นการเป็นกุฟรของฟิรอูน และในบางครั้งใช้และยินดี แต่มิได้ต้องการ เช่น การเป็นผู้มีอีหม่านของฟิรอูน ดังกล่าวนี้ มีวิทยปัญญา แฝงอยู่ لايسأل عما يفعل وهم يسأ لون “พระองค์จะไม่ถูกถามในสิ่งที่พระองค์กระทำ และพวกเขาคือผู้ที่จะถูกถาม”
จึงสรุปได้ว่า อิรอดัตนี้มีอยู่ 4 ประการ โดยมีความยินดีอยู่กับใช้เสมอ
รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายขยายความ 'อิรอดัต' นี้ที่มีอยู่ 4 ประการ โดยมี 'ความยินดีอยู่กับใช้เสมอ' ให้กระผมหน่อยนะครับ ?
ญะซากุมุลลอฮ์ฮุค็อยร็อน
ส่วน อิรอดัต แบ่งเป็น 4 ประการ ดังนี้
1.
เจตนา(อิรอดัต) และ มีคำสั่งใช้ และ พึงพอพระทัย เช่น สถานภาพอีหม่านของ ท่านอบูบากัร อัดซิกดิก(รด)
เจตนา(อิรอดัต)ที่จะให้ ท่านอบูบากัร อัดซิกดิก(รด) มีอีหม่าน
มีคำสั่งใช้ให้ ท่านอบูบากัร อัดซิกดิก(รด) มีอีหม่าน
พึงพอพระทัย(ยินดี) ในสถานภาพอีหม่านของ ท่านอบูบากัร อัดซิกดิก(รด)
2.
เจตนา(อิรอดัต) และ ไม่มีคำสั่งใช้ และไม่พึงพอพระทัย เช่น สถานภาพ การเป็น กาเฟรของ ฟิรอูน
เจตนา(อิรอดัต)ที่จะให้ ฟิรอูน สถานภาพเป็น กาเฟร
ไม่มีคำสั่งใช้ให้ ให้ ฟิรอูน เป็นกาเฟร
ไม่พึงพอพระทัย(ยินดี) สถานภาพ การเป็น กาเฟรของ ฟิรอูน
3.
ไม่มีเจตนา(อิรอดัต) และ ไม่มีคำสั่งใช้ และไม่พึงพอพระทัย เช่น สถานภาพ การเป็น อีหม่านของอบูลาฮับ
ไม่เจตนา(อิรอดัต)ที่จะให้อบูลาฮับ มีอีหม่าน
ไม่มีคำสั่งใช้ให้ ให้อบูลาฮับ เป็นกาเฟร
ไม่พึงพอพระทัย(ยินดี) สถานภาพ การเป็น กาเฟรของอบูลาฮับ
4.
ไม่มีเจตนา(อิรอดัต) และ มีคำสั่งใช้ และพึงพอพระทัย เช่น สถานภาพมีอีหม่าน ของ ฟิรอูน
ไม่เจตนา(อิรอดัต)ที่จะให้ ฟิรอูน มีอีหม่าน
มีคำสั่งใช้ให้ ให้ ฟิรอูน มีอีหม่าน
พึงพอพระทัย(ยินดี) เมื่อ ฟิรอูน มีอีหม่าน
wallahu ahlam
วัสลาม