ตอบคำถามโดย ชัยคฺ มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัล มุนัจญิด
อบู ฮุมัยรฺ แปลและเรียบเรียง
คำถาม: ทำไมจึงมีบุคคลจำนวนมากกล่าวถึงชัยคุล อิสลาม มุฮัมมัด บิน อับดุล วะฮฺฮาบในลักษณะที่เป็นศัตรู และทำไมผู้ที่ดำเนินตามเขาจึงถูกเรียกว่า “วาฮาบียฺ” ?
คำตอบ: คุณจะต้องจดจำไว้ว่าแนวทาง หนึ่งที่อัลลอฮฺทรงดำเนินการกับบ่าวที่พระองค์ทรงเลือกนั้น คือ การทดสอบพวกเขาตามระดับความศรัทธา เพื่อที่พวกเขาจะได้แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ที่มีความบริสุทธิ์ใจหรือไม่ อัลลอฮฺทรงตรัสว่า
“อะ ลีฟ ลาม มีม ,มนุษย์คิดหรือว่า พวกเขาจะถูกทอดทิ้งเพียงแต่พวกเขากล่าวว่าเราศรัทธา และพวกเขาจะไม่ถูกทดสอบกระนั้นหรือ ? ,และโดยแน่นอน เราได้ทดสอบบรรดาก่อนหน้าพวกเขาแล้ว ดังนั้นอัลลอฮ์จะทรงจำแนกให้รู้แจ้งถึงบรรดาผู้สัตว์จริงและจะทรงจำแนกให้ รู้แจ้งถึงบรรดาผู้กล่าวเท็จ” ซูเราะฮฺ อังกาบูต 1-3
บรรดาผู้ที่ถูกทดสอบมากที่สุด คือบรรดานบีถัด จากนั้นชนที่ดีที่สุดในรุ่นถัดมาและจากนั้นในรุ่นถัดมา ดังที่กล่าวไว้ในหะดีษศอฮี้ยฺของท่านนะบี ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม
ถ้าคุณได้ศึกษาซีเราะฮฺ(ชีวประวัติ)ของท่านเราะซูลุลลอฮฺ คุณจะเห็นว่าท่านประสบกับการทดสอบที่หนักหน่วง ท่านถูกกล่าวหาว่าเป็นคนโกหก นักไสยศาสตร์ และคนเสียสติ ขยะและสิ่งปฏิกูลถูกขว้างใส่หลังของท่านนบี ท่านถูกไล่ออกจากมักกะฮฺ และเท้าของท่านต้องนองเลือดในเมืองฏออีฟ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนบีทุกคนซึ่งถูกปฏิเสธก่อนหน้าท่านนบีมุฮัม มัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม
ชัยคฺ อิสลาม มุฮัมมัด บินอับดุลวะฮฺฮาบ รอฮิมาฮุลลอฮฺ ได้ประสบเช่นเดียวกับที่อุลามาอฺและคนทำงานอิสลามคนอื่นๆที่มีความบริสุทธิ์ ใจต้องประสบ แต่ท้ายที่สุดสาส์นแห่งสัจธรรมที่เขานำมาย่อมได้รับชัยชนะ จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร? แสงสว่างแห่งสัจธรรม จะถูกทำลายได้อย่างไร? จงพิจารณาชายผู้นี้และอัลลอฮฺทรงช่วยเหลือเขาอย่างไรในการหว่านเมล็ดแห่งเตา ฮีด ตลอดคาบสมุทรอาหรับและนำมาซึ่งจุดสิ้นสุดของชิรกฺทุกประเภท ถ้าสิ่งนี้จะบ่งชี้ถึงเรื่องใด ย่อมจะชี้ให้เห็นว่าเขามีความบริสุทธิ์ใจในการเรียกร้องและทำการเสียสละ สำหรับการเรียกร้องนั้นดังที่เรากล่าวไว้ และแน่นอนความพยายาม ของเขาได้รับการสนับสนุนและการช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ ตะอาลา
แต่ศัตรูแห่งการเรียกร้อง ครั้งนี้ไม่ละความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสี พวกเขาอ้างอย่างเท็จๆว่าชัยคฺได้อ้างตนว่าเป็นนบีและเขาไม่ได้ให้ความเคารพ ต่อท่านเราะซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม)อย่างแท้จริง และเขาประณามอุมมะฮฺทั้งหมดว่าเป็นกาฟิร...และการกุเรื่องและคำโกหกต่างๆ แล้วพูดว่าเขาเป็นคนกล่าว ใครก็ตามที่ตรวจสอบคำอ้างเหล่านี้จะรู้ได้ว่าพวกเขาโกหกและกุเรื่องขึ้นมา ทั้งหมด ตำรับตำราของชัยคฺซึ่งได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางเป็นหลักฐานที่สำคัญ ที่สุดที่มีต่อเรื่องนี้ รวมทั้งผู้ที่ดำเนินตามเขาซึ่งตอบรับคำเรียกร้องของเขาไม่เคยอ้างถึงสิ่งใด ในเรื่องนี้ ถ้าเรื่องนี้เป็นดังที่พวกเขากล่าวอ้าง คนที่ดำเนินตามเขาย่อมต้องถ่ายทอดแนวคิดที่เหมือนๆกันหรืออีกนัยหนึ่ง พวกเขาจะต้องเป็นคนที่ทรยศต่อชัยค์ของพวกเขา ถ้าคุณต้องการที่จะรู้รายละเอียดมากกว่านี้และตรวจสอบในเรื่องนี้ คุณควรอ่านหนังสือ ดะอาวา อัล มะอฺนาวิยีน ลิ้ด ดะอฺวะฮฺ โดย อับดุล อะซีซ อับดุล ลาตีฟ ซึ่งจะตอบคำถามของคุณทั้งหมด อินชาอัลลอฮฺ
ส่วนเรื่องการเรียกผู้ที่ ดำเนินตามเขาว่า“วะฮาบียฺ”เป็น อีกเรื่องหนึ่งในเรื่องที่กุเรื่องราวมาอย่างยาวนานโดยศัตรูของเขา เพื่อที่จะสกัดกั้นผู้คนให้ออกห่างจากการเรียกร้องแห่งสัจธรรมและเพื่อที่ ขวางกั้นระหว่างการเรียกร้องของเขากับผู้คนเพื่อว่าการร้องเชิญชวนนั้นจะได้ ไม่ไปถึงพวกเขา ถ้าคุณศึกษาประวัติการเข้ารับอิสลามของ ฎุฟัยลฺ บิน อัมรฺ อัฎ เฏาวซียฺ รอดิยัลลอฮุอันฮุ คุณจะเห็นการเปรียบเทียบกับสิ่งเดียวกันนี้ซึ่งเกิดขึ้นกับอิมาม มุฮัมมัด บิน อับดุลวะหฺหาบ
อิบนุ หิชามรายานในซีเราะฮฺของเขา (1/394) ว่าฎุฟัยลฺ เดินทางเข้าสู่มักกะฮฺแต่ชาวกุเรชสะกัดกั้นเขาที่ทางเข้าเมืองและเตือนเขาไม ให้รับฟังท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม พวกเขาทำให้ท่านคิดว่านบีเป็นนักไสยศาสตร์ที่สร้างความแตกแยกระหว่างสามี ภรรยา พวกเขายังคงดำเนินการเรื่อยไปจนกระทั่งฏุฟัยลฺต้องดึงผ้าออกมาและอุดหูของ เขา จากนั้นเมื่อเขาเห็นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม เขาก็คิดแล้วว่าเขาจะต้องเอาผ้าออกและฟังท่าน และถ้าสิ่งที่นบีพูดเป็นความจริงฉะนั้นเขาก็จะตอบรับความจริงนั้นจากท่านนบี และถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความเท็จและน่าเกลียดชัง เขาก็จะปฏิเสธ เมื่อเขาฟังท่านนบี เขาได้กลายมาเป็นมุสลิม ณ จุดนั้น
ใช่ เขาเป็นมุสลิมหลังจากเอาผ้าอุดไว้ในหูของเขา บรรดาผู้ที่คัดค้านการเรียกร้องของชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดุล วะฮฺฮาบ ได้กุเรื่องโกหกขึ้นอันเป็นวิธีการเดียวกับที่ชาวกุเรชเคยกระทำ ชาว กุเรชเข้าใจดีว่าการเรียกร้องของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัมมีพลังที่จะเข้าไปถึงหัวใจและจิตใจของผู้คน ดังนั้น พวกเขาเพิ่มการโกหกต่อท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัมในการพยายามที่จะหยุดยั้งสัจธรรมที่จะไปถึงผู้คน เช่น เดียวกันพวกเราเห็นว่าบรรดาผู้ที่พูดถึงชัยคฺ มุฮัมมัดิ บิน อับดุล วะฮฺฮาบและลูกศิษย์ของท่านโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวต่อ ต้านการเรียกร้องของท่านนบี
ถ้าคุณดำเนินตามสัจธรรม คุณจะต้องไม่ใส่ใจกับคำโกหกและเรื่องที่กุขึ้นเหล่านี้ คุณจะต้องค้นหาความจริงในเรื่องนี้โดยการอ่านหนังสือของ ชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮฺฮาบ เนื่องจากหนังสือของท่านจะเป็นหลักฐานสำคัญที่สุดในการหักล้างว่าผู้คนเหล่า นี้กำลังโกหกมดเท็จ อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺ
ยังมีอีกประเด็นละเอียดอ่อน ที่ต้องจดจำ นั่นคือชื่อของชัยคฺคือ มุฮัมมัด ซึ่งเป็นคุณลักษณะของมุฮัมมาดียฺ คำว่าวาฮาบียฺเป็นคุณลักษณะที่ได้รับมาจาก “อัล วะฮฺฮาบ” (ผู้ทรง ประทานให้อย่างมากมาย) นั่นคือ อัลลอฮฺ ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่า “โอ้พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา ! โปรดอย่าให้หัวใจของพวกเราเอนเอียงออกจากความจริงเลย หลังจากที่พระองค์ได้ทรงแนะนำแก่พวกเราแล้ว และโปรดได้ประทานความเอ็นดูเมตตา จากที่ที่พระองค์ให้แก่พวกเราด้วยเถิด แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงประทานให้อย่างมากมาย” ซูเราะฮฺ อาลิ อิมรอน 8
อัซซัจญาล กล่าวไว้ใน อิชติกออฺ อัสมาอิลลาฮฺ หน้า 126 “อัลวะฮฺฮาบ”คือ ผู้ทรงให้อย่างล้นหลาม รูปแบบของ “ฟะอฺอาล” ใน ภาษาอาหรับนี้เป็นการชี้ให้ถึงบางสิ่งที่ก่อให้เกิดในขอบเขตที่กว้างขวาง อัลลอฮฺคืออัลวะฮฺฮาบ(ผู้ทรงประทานให้อย่างล้นหลาม)ผู้ประทานให้กับ ปวงบ่าวของพระองค์คนแล้วคนเล่า
ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าแนวทาง ของอัลวะฮฺฮาบนั้นคือแนวทางแห่งสัจธรรมที่ไม่มีการหลอกหลวงหรือการปลอมแปลง และพรรคของพระองค์คือหนึ่งเดียวที่จะได้รับชัยชนะ อัลลอฮฺทรงตรัสว่า “และ ผู้ใดให้อัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ และบรรดาผู้ที่ศรัทธาเป็นมิตรแล้วไซร้ แท้จริงพรรคของอัลลอฮฺนั้น คือพวกที่ชนะ” ซูเราะฮฺ อัล มาอิดะฮฺ 56
“ชน เหล่านั้นคือพรรคของอัลลอฮฺ พึงรู้เถิดว่า แท้จริงพรรคของอัลลอฮฺนั้น พวกเขาเป็นผู้ประสบความสำเร็จ” อัล มุญาดาละฮฺ 22
เมื่อครั้งกระโน้นพวกเขากล่าว หาว่า อิมามอัช ชาฟีอียฺว่าเป็นพวกรอฟิเฎาะฮฺ(ชีอะฮฺ) แต่ท่านปฏิเสธพวกเขาด้วยคำพูดที่ว่า “ถ้า เป็นพวกรอฟิเฎาะฮฺนั่นหมายถึงการรักครอบครัวของท่านนะบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ฉะนั้นขอให้ทั้งสองเผ่าพันธุ์(จากมนุษย์และญิน)เป็นพยานด้วยว่าฉันเป็นพวกรอ ฟิเฎาะฮฺ”
พวกเราปฏิเสธการกล่าวอ้างของ พวกที่กล่าวหาพวกเราว่าเป็น “วะฮาบียฺ” โดยขออ้างคำพูดของชัยคฺ มุลลอฮฺ อิมรอน ผู้ที่เคยเป็นชีอะฮฺมาก่อนแต่อัลลอฮฺทรงนำทางให้กับเขามาสู่การเป็นอะหฺลุ ซซุนนะฮฺ ซึ่งกล่าว่า “ถ้า คนที่ดำเนินตามอะหฺมัด(หมายถึงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) คือวะฮาบียฺ ฉะนั้นฉันขอยืนยันว่าฉันเป็นวะฮาบียฺ ฉันขอปฏิเสธการตั้งภาคีใดๆกับอัลลอฮฺ เนื่องจากว่าฉันไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ผู้ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ผู้ทรงประทานอย่างเหลือหลาย(อัลวะฮฺฮาบ) กลุ่มผู้ที่ได้รับการเชิญชวนจากท่านนบีได้กล่าวหาว่าท่านว่าเป็นนักไสย ศาสตร์และคนโกหก”
(ดู มันฮาจญ์ อัลฟิรเกาะฮฺ อันนาญียะฮฺ โดย ชัยคฺ มุฮัมมัด ญะมีล ซัยนู หน้า 142-143)
http://www.fityah.com/index.php?option=com_content&task=view&id=734&Itemid=1