ท้องร่วงรุนแรงจากเชื้อ อี.โคลาย

[Bangmud]

Tweet

        ใครที่สนใจข่าวด้านสุขภาพคงจะได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการระบาดของโรคอุจจาระร่วงรุนแรงถึงขั้นที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในประเทศเยอรมัน เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ต่อเนื่องมาถึงเดือนมิถุนายน 54 เท่าที่ติดตามขณะนี้ (5 มิถุนายน) มีผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้แล้วประมาณ 1,500 ราย เสียชีวิตแล้ว 18 ราย โดยเริ่มระบาดที่เยอรมัน และกระจายไปประเทศใกล้เคียง ในยุโรป คือ สวีเดน อังกฤษ และเชค
   บทความนี้ขอนำเสนอเรื่องดังกล่าวเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง
   1. เชื้อ อี.โคลาย คืออะไร

         เชื้อ อี.โคลาย มีชื่อเต็มว่า Escherichia coli เป็นเชื้อที่พบเป็นปกติอยู่ในทางเดินอาหารหรือลำไส้ของคนและสัตว์ พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นเชื้อที่อยู่ในอุจจาระ เป็นเชื้อที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้ว่า อาหารหรือน้ำนั้นมีการปนเปื้อนอุจจาระหรือไม่
   สมมติว่าเราต้องการตรวจว่าน้ำสะอาดหรือไม่ ห้องแลบก็จะตรวจว่าน้ำนั้น มีเชื้อ อี.โคลาย หรือไม่ ถ้ามี ก็แสดงว่ามีการปนเปื้อนของอุจจาระในน้ำนั้น มากหรือน้อยอีกเรื่องหนึ่ง
   ในสภาวะปกติ เชื้ออาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้แต่ไม่รุนแรง เพราะร่างกายคนทั่วไปเคยชินกับเชื้อตัวนี้อยู่แล้ว ส่วนใหญ่จึงมีภูมิต้านทาน ต้องได้รับเชื้อนี้มาก ๆ จึงจะมีอาการ ยิ่งคนไทยไม่ต้องพูดถึง ผักส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้ปลูกเอง มักจะได้มาจากสวนผักที่รดด้วยน้ำอุจจาระ (จริง ๆ ไม่ได้โม้) ก่อนจะกินจึงต้องล้างให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดา หรืออาจต้องแช่ในน้ำละลายด่างทับทิมสัก 5-10 นาที
   2. เมื่อเคยชินกับเชื้อนี้ ทำไมจึงเกิดการระบาด
   ที่เกิดการระบาดเพราะเชื้อ อี.โคลาย สาเหตุเป็นเชื้อพันธุ์ใหม่ ทำให้เกิดอาการรุนแรง อาการที่เกิดขึ้น คือ ถ่ายเหลวรุนแรง อุจจาระมีเลือดปน ขาดน้ำมาก ช็อก และมีผลทำให้ไตวาย เรียกว่าสายพันธุ์ Enterohemorrhagic E.coli (EHEC) ขณะนี้ทางการเยอรมันกำลังสืบหาว่าเชื้อมาจากไหน และสันนิษฐานขั้นต้นว่า น่าจะเป็นเชื้อที่ปนมากับพืชผักที่นำเข้ามาจากประเทศสเปน และเนื่องจากยังไม่แน่ใจในข้อสรุปนี้ จึงแนะนำให้ประชาชนคนเยอรมันงดบริโภคผักสด ผลก็คือ ตลาดผักสดแทบวาย เสียหายเป็นร้อยล้านหรืออาจถึงพันล้าน
   3. คนไทยมีโอกาสเป็นโรคนี้หรือไม่
   คำตอบคือ มีโอกาส แต่น้อย  เพราะ
    (1) คนไทยไม่ได้บริโภคผักหรือผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อนี้ที่นำเข้าจากยุโรป เราผลิตผักเกือบทั้งหมดได้เอง หรือนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่มีการระบาดของโรคนี้
   (2) อาจมีโอกาสจากปัจจุบันนี้ หลายจังหวัด นิยมมีเขยฝรั่ง บางครั้งถ้าญาติเขยฝรั่งเหล่านั้นมาเยี่ยมจากประเทศที่มีการระบาด ก็อาจอิมพอร์ตเชื้อเข้ามาได้
   (3) ประเทศไทยเป็นประเทศท่องเที่ยว อาจมีชาวต่างชาติที่ติดเชื้อแต่ยังไม่มีอาการเดินทางเข้ามาแล้วมาแพร่เชื้อได้เมื่อมีอาการ

        4. โรคนี้มีอาการอย่างไรและติดต่ออย่างไร
   อาการก็เหมือนกับท้องเสียจากสาเหตุอื่นแต่รุนแรงกว่า คือ ท้องเสียอย่างรุนแรง ถ่ายเป็นเลือดและการทำงานของไตล้มเหลว โรคนี้ติดต่อโดย Fecal-Oral Route คือจากอุจจาระสู่ปาก หมายความว่า มีการปนเปื้อนของอุจจาระในสิ่งที่นำเข้าปากด้วยการรับประทานหรือดื่ม อาจมีแมลงพาหะ เช่น แมลงวันเป็นตัวกลาง หรือพ่อครัว/แม่ครัว ผู้ปรุงอาหารเป็นตัวกลาง
     5. แล้วจะป้องกันอย่างไร
   คาถาวิเศษป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 นำมาใช้ในกรณีนี้ได้ คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เพราะเชื้อตัวนี้ตายง่ายด้วยความร้อน อาหารปรุงสุกใหม่ช่วยได้แน่ ช่วงนี้ถ้าอยากจะกินผักสด ก็ระวังไว้ก่อนแล้วกัน ล้างให้สะอาด แช่สารละลายด่างทับทิม หรือปอกเปลือก หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ยิ่งถ้าเพิ่งออกจากการใช้บริการห้องน้ำ
   ลองกินข้าวหมกโดยไม่กินผักกาดหรือแตงกวาสักพัก ส่วนสลัดก็ต้องเอาผักมาล้างและปรุงเอง ดีกว่าไปซื้อหาที่เขาทำสำเร็จรูป
   ขอให้ปลอดภัยทุกคนครับ

วัสสลาม

[chocolatesunday]

   ถ้าพิจารณาถึงหลักการป้องกันโรคข้างต้นจะเห็นว่าสอดคล้องกับซุนนะห์ ของท่านนบี ทั้งการรักษาความสะอาด ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร ไม่กินของดิบๆสุกๆ

  ซึ่งพบว่าแบบอย่างทุกอย่างมันจะมีฮิกมะห์ในตัวของมันถ้าเราปฏิบัติตาม ^^"

[Bangmud]

 

ล่าสุด วันวาน (9/6/54) กระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าวพบเชื้อ อี.โคลายสายพันธ์ุใหม่แล้วที่ลูกอะโวคาโด นำเข้าจากสเปน

แต่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยในประเทศไทย ดีที่เราไม่กินอะโวคาโด ลูกมันเป็นยังไงก็ไม่รู้ เดี๋ยวไปเสิร์ชหาในบังกูเกิ้ลก็ได้ จะได้รู้จัก

[Bangmud]

 

อัพเดท ข่าวล่าสุดว่า อี โคลาย พันธ์ที่เป็นสาเหตุนี้ เป็นพันธ์ใหม่จริง ๆ เรียกว่า O104 ไม่ใช่ EHEC อย่างที่บอกไปตอนแรก

แหล่งที่นำเชื้อมาจากถั่วงอกจากแปลงปลอดสารพิษในเยอรมันเอง และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 36 คน จาก 11 ประเทศ คือ

เยอรมัน ออสเตรีย เช็ค เดนมาร์ก นอรเวย์ สเปน สวีเดน สวิส อังกฤษ เนเธอร์แลนด์และโปแลนด์

ผลการตรวจพืชผักในประเทศไทย ยังไม่พบเชื้อนี้ (พบ อี โคลาย สายพันธุ์เก่าในพืชบางชนิด)

ข้อสำคัญ เชื้อนี้ตายง่าย ความร้อนแค่ 70 องศาเซลเซียส (น้ำยังไม่ทันเดือด) ก็ตายแล้ว

กินของสุกใหม่ไว้ก่อน ปลอดภัยดี อินชาอัลลอฮฺ

[nada-yoru]

อัสลามุอะลัยกุม

เป็นสาระความรู้ที่ดีมากๆเลยค่ะ
เพราะข้าน้อยเป็นคนนึงที่ไวต่อเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
กินอะไรผิด เป็นอันได้เรื่อง...

อาจเป็นเพราะการเป็นเด็กบ้านนอก
ตั้งแต่เด็กจนโต กินผักที่ปลูกจากมือพ่อกับแม่
เป็นส่วนใหญ่เลย...พ่อกับแม่บอกว่า ผักที่ขายอยู่
ตามท้องตลาดไม่น่าไว้ใจ เพราะมันผ่านด่านมาหลายด่าน
ตั้งแต่ตอนหว่านเมล็ดก็มีสารพิษปนเปื้อน
ไหนตอนที่มันเป็นต้นกล้า กว่าจะโตก็เคลือบสารเคมี
ยาฆ่าแมลงไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่...จนไม่อาจไว้ใจได้
ก็เลยถือว่าโชคดีที่มีพ่อกับแม่ขยันปลูกผักให้ลูกๆกินกัน...
ก็เลยปลอดภัยหายห่วง...แต่ก็ยังไม่วายเข้าโรงพยาบาล
เพราะท้องร่วงรุนแรง เนื่องจากลำไยเป็นสาเหตุ
ชอบกินของจากต่างแดน เลยโดนดี...เกือบตายค่ะตอนนั้น
ที่บอกว่าเกือบตายนั้น เกือบตายของจริงเลยค่ะ
เพราะว่าร่างกายขาดน้ำ...หมอเกือบเอาไม่อยู่...
แต่เพราะอัลลอฮฺยังไม่ได้ประสงค์จะนำกลับไปยังพระองค์
จึงยังอยู่พิมพ์บทความนี้ได้...

ตอนนั้นยังเด็กอยู่...และเป็นอุทธาหรณ์ว่า
เราต้องระวังเรื่องอาหารการกิน...เพราะมันอาจทำให้เรา
ตายได้...

และโชคดีอีกที่เมื่อต้องเดินทางไกลไปอยู่ไกลบ้าน
ญี่ปุ่นเป็นที่พักพิงต่อจากนั้น...ประเทศญี่ปุ่น
ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องสารปนเปื้อนในอาหาร...

ทุกวันนี้ อยู่กทม.ท้องเสียเดือนละไม่รู้กี่หนค่ะ...
พยายามแล้วพยายามอีกก็ไม่สำเร็จ
ไม่ว่าจะกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือก็เอาไม่อยู่

พ่อเลยบอกว่า เลิกกินผักที่กทม.ไปเลย...

ถ้าเป็นตอนเด็กๆพ่อบอกว่าให้เลิกกินผักคงดีใจ วิ่งเต้น
แต่ตอนนี้ ดีใจไม่ออก เพราะว่าชอบกินผักไปแล้ว...
ตัดอาลัยไม่ขาด เห็นผักทีไรก็อยากกิน...
แต่ก็ต้องฝืนใจค่ะ...พยายามมองหาผักปลอดสารพิษ
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใจได้แค่ไหน...ซึ่งต้องลองกินดู
หากไม่มีอาการฟ้องอย่างทีี่เคยเป็น ก็ถือได้ว่าโอเค

ซึ่งพอจะค้นพบผักปลอดสารพิษดังกล่าวบ้างแล้ว
เพียงแต่...ราคามันแพงเหลือเกิน...

ซึ่งก็พ่ออีกนั่นแหล่ะค่ะที่บอกว่า...ราคาผักกับราคาชีวิต
ราคาลมหายใจ อย่างไหนแพงกว่ากัน...

ก็เลยเป็นอันว่า...ชีวิตสำคัญกว่า...
เราจึงต้องดูแลสุขภาพให้ดี เพื่อจะได้ทำอิบาดะฮฺได้สมบูรณ์
ไม่บกพร่อง...

จึงไม่รู้ว่าวันนั้น(เมื่อไม่นานมานี้) เป็นเพราะเชื้ออะไรนะคะ
ที่ทำให้ท้องเสียขั้นรุนแรง อีกทัั้งยังอาเจียนไม่หยุดจนหมดไส้
หมดพุง...บอกได้คำเดียวค่ะว่า คืนนั้นทรมานที่สุดในชีวิต
นึกว่าต้องตายเพียงลำพังแล้ว...จึงยกหูโทรศัพท์หาพ่อกับแม่
แต่ก็อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...อัลลอฮฺยังให้อยู่ทำบททดสอบต่อไป...
พระองค์ยังไม่ได้เอาข้าน้อยกลับไป...

เลยอยากเตือนพีี่ๆน้องที่เข้ามาอ่านว่า...
เรื่องอาหารการกินนั้นสำคัญมากค่ะ...
ทั้งวิธีการคัดสรร วิธีการปรุงและวิธีการกิน...
หากทุกอย่างสะอาดและปรุงสดๆร้อนๆ...
ก็หายกังวลไปได้มาก...

ถ้าเป็นไปได้...เราควรหาสมุนไพรพวกล้างตับล้างสารพิษ
ในร่างกายมากินบ่อยๆ...ซึ่งข้าน้อยเลือกกิน
"บีทรูท"ทีี่ผสมกับ"น้ำผึึ้ง"หรือจะผสมกับ"น้ำมะนาว"
ด้วยก็ได้ค่ะ...รับรองว่าอร่อยและดีต่อสุขภาพ...
และที่สำคัญ ที่หาได้ง่ายและกินได้ง่ายกว่าบีทรูทคือ
"น้ำมะพร้าว"ค่ะ...หรือถ้ารู้จัก"ต้นรางจืด"
บ้านข้าน้อยเรียก"รางจืด" ก็ลองหามาปลูกไว้นะคะ...
เพราะทั้งน้ำมะพร้าว และใบของต้นรางจืดนั้น
สามารถล้างสารพิษในร่างกายให้เราได้...

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...อัลลอฮฺให้ได้รู้จักโรคและยารักษา...
ได้รู้จักความเมตตาจากพระองค์...
พระองค์ผู้ทรงให้ทรมาน และผู้ทรงปลดปล่อยเรา
จากความทรมานนั้น...

และกับความทรมานนั้น คือการปลดบาปให้กับเรา...

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...


 หากว่าท่านมีชีวิตอยู่
ท่านก็จะได้เห็นในสิ่งที่ท่านไม่เคยเห็นมาก่อน           

คราใดที่เรื่องไม่พึงปรารถนามาเป็นอาคันตุกะของท่าน
ก็จงต้อนรับขับสู้มันด้วยความอดทน


วัสลามค่ะ